Lost Hero ตัวละครที่ถูกลืม - Lost Hero ตัวละครที่ถูกลืม นิยาย Lost Hero ตัวละครที่ถูกลืม : Dek-D.com - Writer

    Lost Hero ตัวละครที่ถูกลืม

    เรื่องสั้นเรื่องนี้ ผู้เขียนเคยได้การตีพิมพ์จากนิตยสาร Lets comic เมื่อราวๆ3ปีก่อนและได้รับรางวัลLets Write08 ผู้เขียนจึงขอนำมารวมไว้ให้ชาวเด็กดีได้อ่านครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    201

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    201

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 พ.ย. 56 / 13:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    คุณเคยรู้จักเขาคนนี้ เมื่อนานมาแล้ว คุณเคยรักในบทบาทของเขา คุณเคยช่วยลุ้นในเหตุการณ์ช่วยกอบกู้โลกพร้อมๆกับเขาและเพื่อน.  แต่บัดนี้คุณลืมเขาไปแล้ว ไร้แล้วซึ่งผู้จดจำ. สนทนาระหว่างชายคนหนึ่ง กับเด็กน้อยคนหนึ่งจะช่วยให้คุณ. .......................จำเขาได้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      lost hero

      บทสนทนากับตัวละครที่ถูกลืม

      ผมนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ในสวนสาธารณะ กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนฉบับโปรดอยู่ แสงแดดยามบ่ายไม่ร้อนอย่างที่คิด   ลมเย็นอ่อนๆพัดลู่มาต้องใบหน้า วันนี้ช่างเป็นวันที่อากาศ สดชื่นแจ่มใส เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจในสวนสาธารณะอันเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง   อีกทั้งหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดที่ติดตามมาตั้งแต่สมัยเด็กๆที่อ่านหลายรอบแต่ก็ยังเข้มข้น จนวางไม่ลง ผมนั่งรากงอกอยู่บนม้านั่งยาวนั้นมานานพอสมควรแล้ว

       


       


       


                     “ขอนั่งด้วยคนได้ไหม” เสียงชายร่างใหญ่คนหนึ่งกล่าวขึ้นเรียบๆ   ผมไม่ตอบอะไร พลางหยิบหนังสือติวเคมีอาจารย์อุ๊ที่ตั้งเกะกะตรงม้านั่งด้านหนึ่งออกเพื่อให้คุณลุงคนดังกล่าวนั่ง 


                     เราสองคนนั่งอยู่บนม้านั่งตัวเดียวกันด้วยความเงียบ ผมไม่ได้สนใจอะไร ได้แต่จับจ้องเรื่องราวที่เร้าใจของหนังสือการ์ตูนในมือ ผมได้กลิ่นแอลกอฮอล และกลิ่นเหม็นอับโชยมาจากชายคนนั้น เขาคงเป็นพวกเร่ร่อนที่อาศัยแถวๆนี้   ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆด้วยความเศร้าสร้อย จากคุณลุงคนนั้น

                     “เป็นอะไรเหรอครับลุง” ผมถามด้วยความเป็นเด็กดี     แต่ไม่ได้สนใจหันมอง สายตากำลังจ้องอยู่ที่หนังสือ 

                     “ฉันเสียใจ ฉันสมเพชและสงสารในชะตาชีวิตของตัวเอง” เขาตอบ เสียงกล้ำกลืนอาลัย

                     “ชะตาชีวิตลุงเป็นยังไงมายังไงเหรอครับ” ผมถามแบบขอไปที แซร้งแสดงอาการห่วงใย

                     “ฮือ ฮือ” เขาเริ่มสะอื้น “ ในตอนแรกชีวิตของฉันเด่นดัง มีแต่คนรู้จัก เรื่องราวการต่อสู้และผจญภัยของฉันไม่แพ้ลิงตัวไหนเลย แทนที่ฉันได้เป็นตัวเอกของมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วแท้ๆ แต่ทำไม แต่ทำไม” เขาเริ่มสะอื้นหนัก ร่างสูงใหญ่ของเขาสั่นเทิ้ม ทำให้ผมเสียสมาธิต้องกลับมาอ่านการ์ตูนหน้าที่แล้วอีกรอบ

                     “ ชีวิตของฉันผ่านศึกและการต่อสู้ชนิดล้างโลกมาแล้วมากมาย   บางครั้งก็มีส่วนในการกู้โลกได้อีกด้วย” เขาเพ้อต่อ “เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความสำคัญของฉันเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆเช่นกัน จากมือวางพระเอก มาเป็นรองพระเอก ผู้ช่วยพระเอก ตัวประกอบ ตัวโจ๊ก   จนกระทั่งไม่มีบทให้ฉันออกโรง นานๆทีถึงจะได้โผล่มา ได้แค่พาคนเจ็บไปรักษา ช่วยปฐมพยาบาล หรือไม่ก็จมปลักอยู่กับตาเฒ่าลามกกลางเกาะ ฮือฮือ” เขาสะอื้นใหญ่   “ในขณะที่คนอื่นดังกันเป็นพลุแตก ขนาดพวกที่มาทีหลังบางคนได้เป็นตำนาน บางคนตายแล้วฟื้น ฟื้นแล้วสู้ต่อ พอตายอีกก็ฟื้นใหม่ มีแต่คนยกย่องสรรเสริฐ ดำเนินรอยตาม ส่วนฉันไม่เคยได้อะไรกับเขาเลย ฮือๆๆ ใช่สิฉันไม่มีพลังวิเศษ ไม่มีหาง เบ่งพลังทำผมสีทองไม่ได้   ขี่เมฆก็ไม่ได้ ฮือๆๆๆๆๆ”

                     ผมชักรู้สึกทะแม่งๆ เหมือนเคยรู้เรื่องราวพวกนี้มาก่อน ผมละสายตาจากหนังสือ หันไปมองชายระทมทุกข์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาแต่งตัวด้วยเสื้อสีส้มมอซอๆแปลกๆ กล้ามเป็นมัดบ่งบอกถึงการฝึกซ้อมหนักมาทั้งชีวิต ใบหน้าคมสันมีแผลเป็นขนาดใหญ่สองแผล แผลนึงพาดยาวที่ตา อีกแผลกากบาดที่แก้ม ผมรู้สึกคุ้นหน้าลุงคนนี้จัง

                     “เหมือนผมจะเคยรู้จักลุง นะครับ” ผมถาม   พลางวางหนังสือการ์ตูนพิมพ์สี่สีลงบนตัก

                     “หึหึหึ   เด็กๆอย่างเธอคงเกิดไม่ทันตอนฉันดังหรอก ถ้าเป็นพ่อเธอไม่แน่”   ตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำใสๆ “เธอจะรู้จักได้ไง ในเมื่อการประลองจ้าวยุทธภพ ฉันตกรอบแปดคนทุกครั้ง สู้กับใครก็แพ้ซะอนาถจิต ท่าดีทีเหลวตลอด ขนาดฉันฝึกหนักกว่าคนอื่นตั้งหลายเท่า หนักๆเข้าพอเจออะไรที่สู้ไม่ได้ก็วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ในขณะที่คนอื่นๆเขาหันหน้าสู้กัน”

      “มันก็ไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกมั้งครับ คุณลุงก็น่าจะมีคนรักมั้ง” ผมปลอบในขณะที่ลุงคนนั้นเริ่มมีอาการแย่ลง

      “ฮือๆๆๆๆๆๆ” เขาสะอื้นหนักขึ้นอีก “เรื่องคนรักนี่แหละที่ฉันรับไม่ได้   ทั้งๆที่ฉันเป็นคนแรกที่จีบแม่สาวผมสีฟ้านั่นเป็นคนแรกแท้ๆ   คบกันมาตั้งสิบปี   ดันถูกเจ้าชายต่างดาวโรคจิตแย่งไปหน้าด้านๆ ทั้งที่ได้อยู่แคปซูลคอร์ปอเรชั่นด้วยกันแล้วแท้ๆ ฮือๆๆๆๆๆ ป่านนี้พวกนั้นคงมีลูกกันเป็นขโยงแล้วฮือๆๆๆๆๆ”

                 ตรูดดดดดดดดดดดดดด    เสียงมือถือผมดังขึ้น เป็นข้อความของย่าบอกให้กลับบ้านได้แล้ว

      “ขอโทษนะครับ คุณลุงผมต้องกลับบ้านก่อน   เดี๋ยวคุณย่าจะอารมณ์เสีย”   ผมบอกกับชายผู้ลันทด เพราะเวลาย่าอารมณ์เสียน่ากลัวมากๆ แม้แต่ปู่ที่แข็งแรงก็ยังกลัวขี้ขึ้นสมอง

      “อืมมม ตามสบายเจ้าหนู   ขอบใจเธอจริงๆที่ยอมฟังเรื่องของฉัน” ลุงคนนั้นพูด   ผมเก็บของสะพายเป้ “แล้วเธอกลับยังไงละ”

      สิ้นคำพูดลุง ผมเบ่งพลังสีทองที่คุณพ่อเคยสอน จนผมฟูเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม รอบกายของผมถูกปกคลุมด้วยพลังงานมากมาย ดูคุณลุงตกใจสุดขีด “แม้แต่เธอก็เป็นชาวไซย่าด้วยเหรอเนี่ย” ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจ แผลเป็นที่หน้าของเขาเต้นตุบๆด้วยความเดือดดาน


       


       


       


                     “ไม่รู้เหมือนกันฮะ   พ่อบอกว่าได้มาจากคุณปู่” ผมตอบ “หวังว่าสักวันคุณลุงคงสบายใจขึ้น ผมไปก่อนนะฮะ” 

      ฟ้าววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

      เกิดเสียงระเบิดขนาดใหญ่ ลมกรรโชกแรง ตามมาด้วยเสียงผ่านอากาศด้วยความเร็วสูงขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ


       


       


       


                     เหลือเพียงแต่ชายผู้ระทมทุกข์นั่งโดดเดี่ยวอยู่บนม้านั่ง    เขายังตกตะลึงค้างจังงังกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชายที่นั่งฟังความทุกข์ของเขาอยู่จะเป็นชาวเซย่า

                     มีกระดาษแผ่นชิ้นเล็กๆลอยตกลงจากฟ้า   สู่ตักของชายคนนั้น เขาเปิดมันออก มันเป็นกระดาษพิมพ์เก่าๆสีเหลืองพองาม ที่ฉีกออกมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่องหนึ่ง มีรูปเขาเมื่อวัยหนุ่มยื่นคู่กับเด็กร่างเล็กคนหนึ่งที่มีทรงผมแปลกๆแหลมๆชี้ๆมีหางด้วย และมีบทความที่เขียนไว้ว่า


       


       


                   “ถึงเวลาหยำฉาออกโรง”   


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×