คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : markbam baby - 6 100%
GOT7 fiction
Adorable baby Mark x Bambam
By bpuppyy_
Markbam
Baby 6
“ไอ้มาร์ค ไปไหนอ่ะ งานยังไม่เสร็จนะเว้ย มีเรียนตอนบ่ายต่ออีก”
อิมแจบอมตะโกนถามทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังจะเดินออกนอกห้อง พร้อมด้วยโอเซฮุนที่เงยหน้าขึ้นมองมาร์ค แต่ทั้งสองกลับได้รับคำตอบเพียงแค่การยกมือขึ้นโบกสองสามทีจากด้านหลังเท่านั้น
หันกลับมาตอบพวกกูก่อนดอกพิกุลจะร่วงไหม อยากจะถามคุณชายต้วนจริง ๆ เลยครับ
“มึงว่ามันไปไหนไอ้เซฮุน”
“กูว่ามันไปทำอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ...” คำตอบของเซฮุนเกือบจะทำเอาแจบอมเท้ากระตุก แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมา จากที่หมั่นไส้เพื่อนตัวขาวจัด ก็กลายเป็นว่ายกยิ้มให้กันอย่างรู้ทันขึ้นมาแทน “เรื่องที่ว่าต้องเกี่ยวกับน้องแบมแน่ ๆ กูขอวางเดิมพันหมื่นวอน! แถมด้วยการยอมชมว่าไอ้แจ๊คสันเป็นคนมีสติดีพร้อมเลยเอ้าถ้าเกิดว่าไม่เกี่ยวกับน้องแบม!”
หมายความว่าโอเซฮุนมั่นใจมาก... ไม่มีทางที่เขาจะได้ชมแจ๊คสัน หวังว่าเป็นคนมีสติครบถ้วนแน่นอน
เพราะร้อยทั้งร้อยเรื่องที่รบกวนมาร์ค ต้วนได้ ในเวลานี้มีแค่เรื่องของเด็กผู้ชายที่ชื่อว่าแบมแบม
“กูเห็นด้วยทุกประการ”
*
มาร์คคิดว่าพักหลังมาเขาเข้าโรงเรียนสาธิตฝ่ายมัธยมปลายบ่อยพอ ๆ กับเข้าไปที่ตึกภาควิชาวิศวกรรมโยธา
ยกตัวอย่างเช่นวันนี้ ที่จริงตอนเที่ยงมาร์คควรจะได้ไปนั่งกินข้าว หรือนั่งเคลียร์งานให้เรียบร้อย แล้วเรียนวิชาในช่วงบ่ายด้วยความสบายใจ แต่เขากลับทำไม่ได้ เพราะข้อความที่ถูกส่งมาจากเด็กน้อยในปกครอง ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบออกจากห้องเลคเชอร์แล้วขับรถไปคอนโด ทั้งที่คลาสเรียนของเขายังไม่สิ้นสุดลง
ข้อความที่ไม่ต้องได้ยินเสียงก็รู้ว่าแบมกำลังใจเสียและงอแงอยู่ไม่น้อย แล้วก็คงจะไม่ได้อยากรบกวนเขามากนัก แต่สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
ขี้ลืมแต่เด็ก
‘พี่มาร์ค แบมลืมรายงานวิชาประวัติศาตร์ของอาจารย์ปาร์คไว้ที่คอนโด ส่งได้ไม่เกินบ่ายโมงของวันนี้ พี่มาร์ค แบมจะทำยังไงดี ฮือ พี่มาร์คมีเรียนใช่ไหมครับ... แต่ว่าแบมต้องส่งงาน...’
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มาร์คต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในตึกเรียนของเด็กมัธยมปลายปี 1 แบบนี้...
“’โทษที แบมอยู่ในห้องไหม”
มาร์คหยุดลงที่ประตูหลังห้องของเด็กชั้นมัธยมปลายปี 1 ห้อง A ก่อนที่จะถามนักเรียนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เด็กหนุ่มที่ถูกวานให้ตามหาตัวกันต์พิมุกต์ดูจะแอบตกใจนิดหน่อยที่ได้เห็นรุ่นพี่คนดังมาหา แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีด้วยการตะโกนถามเพื่อนในห้องว่าแบมแบมหายไปไหน
ส่วนประโยคที่ทำให้คนทั้งห้องสนใจ ไม่ใช่แบมแบมไปไหน แต่เป็นคำที่ว่า ‘รุ่นพี่ต้วนมาถามหา’
แน่นอนว่าทั้งนักเรียนชายและหญิงต่างหันมาทางด้านที่รุ่นพี่คนดังยืนอยู่ทันที มาร์คยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยอยู่ในระดับเดิมไม่มีเปลี่ยน ถึงจะมีเสียงทักทายและให้ความเคารพรุ่นพี่จากหลาย ๆ คนแต่ชายหนุ่มก็ทำเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น
“ตกลงว่าแบมไปไหน พี่เอาของมาให้”
“เหมือนว่าจะ...” ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้ตอบ เสียงสดใสของเด็กชายกันต์พิมุกต์ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
มาร์ครู้คำตอบที่ว่าแบมแบมหายไปไหนแล้วล่ะ เขาคิดว่าเด็กคนนี้คงมีเรียนวิชาพละในตอนบ่าย ถึงได้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่ยังพักกลางวันแบบนี้
“พี่มาร์ค!”
“อืม มารอตั้งนาน ตอนบ่ายมีเรียนพละเหรอ” มาร์คถาม พร้อมกับที่ยื่นรายงานเล่มสำคัญให้กับกันต์พิมุกต์ แน่นอนว่าแบมแบมรับมาและยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก่อนที่จะตอบคำถามให้กับพี่ชาย
“ใช่ครับผม ตอนบ่ายมีเรียนพละ แบมเลือกเรียนบาสแหละพี่มาร์ค อยากเล่นบาส จะได้ตัวสูง ๆ ไง” ไม่พูดเปล่า เด็กชายแบมแบมเขย่งเท้าขึ้นแล้วทำมือแสดงท่าทางว่าเขาจะต้องสูงมากขึ้นไปกว่านี้อีก
มองยังไงก็เด็กน้อยจริง ๆ เลยนะ น้องไอ้แจ๊คสันคนนี้...
“เล่นระวัง ๆ ยิ่งซุ่มซ่าม เดี๋ยวก็ได้แผล”
“ไม่เป็นไร ได้แผลก็ไปห้องพยาบาล” กันต์พิมุกต์แกล้งยอกย้อนไปทันที
“แบม” แล้วก็ถูกเสียงเข้ม ๆ ของพี่มาร์คย้อนกลับมา ทำเอาเด็กน้อยตีหน้ายู่ทันทีที่รู้ว่าถูกดุเข้าจริง ๆ เสียแล้ว แบมแบมตัวน้อยพยักหน้า เป็นการรับปากว่าเขาจะระมัดระวังในการเล่นทุกอย่างให้ดีที่สุด
ไม่ไปห้องพยาบาลก็ได้ แต่แบมคิดว่าแบมต้องล้มในสนามแน่ ๆ เลยอ้ะ
“ถ้างั้นพี่ไปแล้วนะ”
“เดี๋ยวแบมไปส่ง!”
ให้ทายว่ามาร์ค ต้วนจะปฏิเสธเสียงกระตือรือร้นและความสดใสของกันต์พิมุกต์ได้หรือไม่...
คำตอบในใจของมาร์คมีอยู่ว่า... ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้... ที่เขาไม่สามารถปฏิเสธทุกอย่างที่มาจากคำร้องขอหรือคำพูดของแบมได้เลย...
ไม่เคยทำได้เลย
เด็กชายกันต์พิมุกต์เดินลงมาส่งผู้ปกครองจำเป็นจนถึงชั้นหนึ่งของตึกเรียนในที่สุด แน่นอนว่าระหว่างทางเดินตั้งแต่ชั้นสี่ลงมาถึงชั้นหนึ่ง แบมแบมไม่ได้หยุดชวนคุยเลยสักนิด ในอ้อมแขนก็ยังกอดรายงานเจ้าปัญหาเอาไว้ ปากอิ่มเจื้อยแจ้วชวนเจรจาไม่รู้จักเบื่อหน่าย ส่วนคุณชายน้ำแข็งก็ยังคงรักษามาดถามคำตอบคำได้เป็นอย่างดี
ที่จริง... มันก็มีบ้างบางทีที่แบมถามแค่หนึ่งคำ... มาร์คกลับตอบเป็นประโยคยาว ๆ
“พี่มาร์ค วันนี้แบมกลับบ้านเองได้ใช่ไหม”
“ทำไมจะกลับเองล่ะ จะไปเที่ยวไหนหรือว่ามีงานอะไร แล้ว... อยู่กับใคร” มาร์คถามกลับ ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาพับแขนยิ่งดูสะดุดตาเมื่ออยู่ท่ามกลางเด็กม.ปลาย ไหนจะหน้าตาและท่าทางชวนละลายใจที่เด็กนักเรียนหญิงทุกคนเดินผ่านแล้วต้องพากันสะกิดเพื่อนข้าง ๆ ให้หันมาดู...
‘รุ่นพี่ต้วนนี่นา มาที่นี่อีกแล้ว’
‘รุ่นพี่ต้วนมาหาน้องแบมสินะ อิจฉาจัง’
หรืออะหลายอย่าง... ที่แบมได้ยินจนเริ่มจะเคยชินไปแล้วล่ะ
“ไม่ได้ไปไหน~ แต่พี่มาร์คงานยุ่งไม่ใช่เหรอครับช่วงนี้ เห็นพี่เซฮุนกับพี่แจบอมบ่นอยู่บ่อย ๆ ว่างานเยอะจนหัวฟู ผมพอจะรู้มาบ้าง...”
“รู้ได้ยังไง คุยกับสองคนนั้นบ่อยเหรอ”
“เปล่าครับ... พี่แจ๊คสันบอกมา”
ตัวอยู่ไกล แต่นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะไอ้หวัง นอกจากขี้ตื้อแล้วยังเป็นจอมพูดมากเหมือนเดิม
“ไม่ได้เยอะขนาดนั้น แต่ถ้าแบมอยากกลับเองก็ได้ โทรบอกพี่ด้วยแล้วกันตอนถึงคอนโด” มาร์คสรุป ชายหนุ่มยิ้มบางให้กับน้องชายจำเป็น ก่อนที่จะทำในสิ่งที่ใคร ๆ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็น...
รุ่นพี่ต้วนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายเย็นชา... กำลังยืนลูบผมของนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยความเอ็นดู
“ตั้งใจเรียนนะ อย่าลืมเอารายงานไปส่งด้วย”
“โอเคเลยครับผม แบมตั้งใจเรียนอยู่แล้วน้า~ พี่มาร์คก็ด้วยนะครับ ตั้งใจทำงาน ขอให้งานเสร็จเร็ว ๆ จะได้ไม่เครียดนะ! สู้ ๆ!” แบมแบมยกมือขึ้นชูกำปั้นส่งกำลังใจให้กับมาร์ค ก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่ออีกฝ่ายส่ายหน้าไปมาแต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับคำ...
“งั้นแบมขึ้นไปห้องเรียนแล้วนะพี่มาร์ค ไว้เจอกันตอนเย็นครับ บ๊ายบาย”
เด็กชายกันต์พิมุกต์พลิกตัวตั้งใจจะเดินกลับขึ้นอาคารเรียน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของพี่มาร์คเรียกรั้งเอาไว้ หันหน้ามาหาต้นเสียง พร้อมกับเอียงคอมองพี่ชายด้วยความสงสัย แบมแบมเลิกคิ้วขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าพี่มาร์คที่ควรจะเดินไปอีกทางกลับเดินเข้ามาหาเขาเสียอย่างนั้น
พี่มาร์คไม่กลับไปเรียนหรือยังไงอ้ะ! จะย้อนวัยมานั่งเรียนม.ปลายกับแบมงั้นเหรอ
โรงเรียนแตกกันพอดี มีมาร์ค ต้วนมานั่งเรียนด้วยกัน
“ทำไมไม่ผูกเชือกรองเท้าให้ดี ๆ...”
คำตอบของความสงสัยถูกไขกระจ่างอย่างชัดเจน เด็กชายกันต์พิมุกต์เบิกตากว้างเมื่อผู้ปกครองจำเป็นทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า เชือกรองเท้าที่ยังหลุดลุ่ยไม่เข้าที่เข้าทางถูกมาร์คจับผูกและจัดการให้อย่างดี...
ก้มลงผูกเชือกรองเท้าพละให้กับเด็กผู้ชายที่อยู่ในความดูแล...
มาร์คคิดแค่นั้น... จริง ๆ นะ
“เดี๋ยวก็เดินสะดุดตกบันได”
พูดขึ้นเมื่อยืดตัวยืนตรงหน้าแบมแบมอีกครั้ง การกระทำไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยที่แสดงถึงความใส่ใจของมาร์คทำเอาเด็กชายได้แต่ยืนกระพริบตาปริบ ๆ และกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงติดขัดเพราะยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ...
ขอเวลาแบมนึกย้อนก่อนนะ... นอกจากคุณพ่อกับคุณมี๊แล้วก็พี่ชายที่คอยทำเรื่องแบบนี้ให้... มีใครเคยดูแลแบมขนาดนี้ไหมนะ กันต์พิมุกต์นึกสินึก!
อ่า... พี่แจ๊คสันมันเคยทำอะไรแบบนี้ให้แบมบ้างไหมหว่า... ขอคิดว่าเคยทำให้ไปก่อนก็แล้วกัน แบมขอสรุปตรงนี้เลยว่าเป็นแค่การกระทำระหว่างพี่กับน้องเท่านั้น!
พี่มาร์คแค่เป็นห่วง... ในฐานะที่เป็นพี่ชาย
แบมแบมจะไม่คิดมากเกินไปกว่านั้น... จริง ๆ นะ
*
-50%-
*
ที่สุดแล้วกันต์พิมุกก็ต้องเข้ามาในห้องพยาบาลจนได้...
ห้ามบอกพี่มาร์คนะ เป็นประโยคแรกที่แบมแบมรีบกำชับกับเพื่อนสนิทอย่างอิลฮุนและมินฮยอกทันที สองคนนี้ชอบแอบบอกพี่มาร์คอยู่เรื่อยเลย ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่แบมก็ต้องโดนพี่มาร์คดุไง เพราะฉะนั้นเดี๋ยวค่อยหาทางแก้ตัวดีกว่า
“แล้วแบมจะทำยังไงไม่ให้พี่มาร์คเห็นล่ะ แผลทั้งที่เข่าที่ศอกแบบนี้ ยังไงตอนกลับไปคอนโด แบมก็ต้องมีผ้าก๊อซปิดเอาไว้อยู่ดี” มินฮยอกถาม โดยมีอิลฮุนยืนพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ใกล้ ๆ กัน
เด็กชายกันต์พิมุกต์ที่นั่งหย่อนขาอยู่บนเตียงห้องพยาบาลยิ้มเผล่
“ก็ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวไง แค่นี้พี่มาร์คก็ไม่เห็นแล้ว” แบมแบมว่า ไม่ได้แค่คิดนะ แต่แบมแบมตัวน้อยผู้รอบคอบ(?)อยู่เสมอยังอุตส่าห์เปลี่ยนจากกางเกงเรียนบาสขาสั้น เป็นกางเกงวอร์มพละขายาวแล้วเรียบร้อย (ถึงแม้จะลำบากมากเพราะกลัวเจ็บแผลก็ตาม แบมยอม!)
ส่วนเพื่อนสนิททั้งสองคนได้แต่มองหน้ากันแล้วถอนหายใจ ความคิดแบบเด็ก ๆ ของแบมไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าจะปิดบังพี่มาร์คได้เลยสักนิด และเพื่อเป็นการเตือนแบม อิลฮุนที่ยืนคิดคำถามอยู่พักใหญ่ก็พูดออกมา...
“แล้วใครจะทำแผลให้แบมล่ะ แบมทำแผลเองได้เหรอ... ที่ข้อศอกจะทำถนัดได้ยังไง”
“เอ่อ... แหะ ๆ นั่นสิเนาะ”
“แบมแบมเอ๊ย...” มินฮยอกและอิลฮุนได้แต่เปรยเบา ๆ พร้อมกัน
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวค่อยคิด แต่ยังไงก็ยังไม่ต้องบอกพี่มาร์คนะ! วันนี้แบมจะกลับบ้านเองอีกต่างหาก ถ้าเกิดพี่มาร์ครู้เดี๋ยวก็กลายเป็นว่าเหมือนรบกวนให้มารับอีก ไม่ได้ ๆ”
แบมแบมสรุปทุกอย่างเองอย่างเอาแต่ใจ มินฮยอกยักไหล่ ส่วนอิลฮุนก็ได้แต่เออออไปตามเรื่องเพราะไม่คิดว่าแบมจะเปลี่ยนใจอยู่แล้ว
“ถ้างั้นแบมจะกลับหรือยัง เดี๋ยวฉันกับมินฮยอกต้องไปเรียนพิเศษ วันนี้มีเรียนน่ะ ก่อนไปจะได้ไปส่งแบมขึ้นรถก่อน” อิลฮุนถาม แล้วก็ต้องหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นเพื่อนชาวไทยยู่หน้า
แบมมักจะเป็นแบบนี้เสมอเมื่อถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ หมายถึงในกรณีที่มีคนอื่นมองแบมเป็นเด็ก แล้วคน ๆ นั้นไม่ใช่พี่มาร์ค...
อิลฮุนไม่ได้คิดไปเองนะครับ
“ก็แบมไม่ค่อยได้ขึ้นบัส ซับเวย์ก็ด้วย แล้วมินฮยอกกับเราก็ไปทางนั้นพอดี ไปส่งแบมก็ไม่แปลก ไม่ได้บอกว่าแบมเป็นเด็กน้อยที่จะหลงทางสักหน่อยนะ” อิลฮุนแกล้งว่า
“ไม่หลงทางหรอกน่า! อิลฮุนกับมินฮยอกกลับก่อนได้เลยน้า แบมขอนั่งเล่นอีกแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวค่อยเดินออกไป เหมือนพี่แจ๊คสันบอกว่าจะโทรหาด้วยล่ะ นั่งรอคุยก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับ”
กันต์พิมุกต์อธิบายให้เพื่อนทั้งสองฟัง ก่อนที่จะแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บโบกไหว ๆ เป็นการล่ำลาเพื่อนร่วมห้อง ตอนนี้เหลือเพียงเด็กชายแก้มป่องที่ยังคงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอเวลาเท่านั้น ห้องพยาบาลในเวลาเกือบเย็นย่ำไม่ค่อยจะถูกใช้บริการเท่าไหร่นัก
แบมแบมไม่น่าสะดุดขาตัวเองล้มในสนามบาสเลย...
ซุ่มซ่ามเนาะ
“ก็คนอื่นอยากวิ่งเร็วทำไม ถ้าวิ่งกันช้า ๆ แบมก็ไม่รีบวิ่งจนล้มแล้ว แบมไม่ผิดนะ!” บ่นเบา ๆ กับความคิดระหว่างที่ย้อนนึกถึงเรื่องน่าอายปนกับชวนขบขัน การเรียนบาสเกตบอลของแบมเกือบจะผ่านไปได้ด้วยดีอยู่แล้ว ถ้าหากควอเตอร์สุดท้ายที่เด็กชายกันต์พิมุกต์ถูกส่งตัวลงไปไม่เล่นกันอย่างจริงจัง
แบมแบมตัวน้อยก็เลยอยากเอาชนะตามไปด้วย... เล่นเป็นจริงเป็นจังจนสะดุดขาแล้วได้แผลกลับมา
นั่งแกว่งขาเล่นอยู่ได้พักใหญ่ ในที่สุดบุคคลที่รอให้ติดต่อเข้ามาอย่างพี่แจ๊คสันก็ปรากฏชื่อขึ้นบนหน้าจอ แบมแบมยิ้มกว้าง หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้คุยกับพี่แจ๊คสันเท่าไหร่ เป็นเพราะอีกฝ่ายบอกว่าช่วงนี้ยุ่ง ๆ อยู่กับการทำเรื่องขอย้ายมหา’ลัยอย่างถาวร
‘โย่ว แบมแบมของพี่แจ๊คสัน! เป็นไงบ้างเรา เลิกเรียนแล้วใช่ไหม ตอนนี้ทำอะไรอยู่’ ไม่ทันจะให้คนเป็นน้องได้เริ่มทักทาย ปลายสายส่งเสียงตะโกนมาทันทีเมื่อรู้ถึงการตอบรับของแบมแบม...
“นั่งอยู่ในห้องพยาบาล~”
‘เฮ้ย ทำไมไปอยู่ในห้องพยาบาล! ใครทำอะไรน้องพี่วะ เกิดอะไรขึ้นกับเราเนี่ยแบม!’
“แค่ล้มนิดหน่อยเอง พี่แจ๊คอย่าเว่อร์เลยน่า ห้ามบอกพี่มาร์คด้วยนะ! ไม่งั้นแบมจะงอนพี่แจ๊คสันจริง ๆ ด้วย” แบมแบมรีบดักทาง ทำไมจะไม่รู้ว่าพี่แจ๊คสันชอบเป็นห่วงจนเกินจริงมากขนาดไหน
ต่อให้พูดไปแล้วว่าห้ามบอก... แบมยังกลัวใจเลยว่าพี่มาร์คจะต้องรู้เรื่องก่อนที่แบมจะได้บอกด้วยตัวเองแน่ ๆ
‘เอ้อ... ไม่บอกก็ไม่บอก’ แจ๊คสันรับปาก ‘แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้ล้ม พี่เป็นห่วงนะ แบมไม่ได้โกหกพี่ว่าไม่เป็นไรใช่ไหม ห้ามโกหกนะ เข้าใจใช่หรือเปล่าแบม’
แจ๊คสัน หวังที่ใครต่อใครก็บอกว่าเป็นคนเต็มที่กับชีวิตจนเกินไป... เป็นห่วงน้องชายอย่างแบมแบมยิ่งกว่าอะไรบนโลกนี้เสียอีก
“ไม่ได้โกหกกกกก แบมสบายมาก แค่ขาตึง ๆ นิดหน่อย แต่คุยกับพี่แจ๊คเสร็จจะกลับบ้านแล้วเนี่ย ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผม แบมดูแลตัวเองได้แน่นอน รับรองว่าจะไม่ล้มบ่อย ๆ แล้วก็ไม่เป็นแผลบ่อย ๆ ด้วย”
มั้งนะครับ แบมแบมคิดต่อในใจ
‘ดีมาก ดูแลตัวเองดี ๆ ช่วงนี้ไอ้มาร์คมันคงงานเยอะ มันโอเคใช่ไหม มันคุยกับแบมบ้างป่ะ หรือมันบ่นให้แบมพูดเป็นต่อยหอยอยู่คนเดียว เฮ้อ ว่าแล้วก็คิดถึงพวกมันจัง คิดถึงแบมด้วย พี่อยากไปเกาหลีละเนี้ย!’
“พี่แจ๊คก็รีบกลับมา~ แบมเกรงใจพี่มาร์คจะแย่อยู่แล้วววววว” กันต์พิมุกต์ลากเสียงยาวเพื่อยืนยันว่าเขารู้สึกเกรงใจพี่ชายรูมเมทมากแค่ไหน คุณชายหวังหัวเราะ ก่อนที่จะชวนน้องชายคุยต่อไปเพื่อเป็นการแก้ความคิดถึงไปในคราวเดียว
ไม่มีครั้งไหนที่สองพี่น้องต่างท้องมารดาจะคุยกันต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ... ครั้งนี้ก็เช่นกัน
“เอ้ย พี่แจ๊ค แบมว่าต้องวางแล้วล่ะ เย็นละ เดี๋ยวไปถึงคอนโดช้า”
‘อ้าว เอางั้นเหรอ โอเค วางก็ได้ พี่ต้องไปทำธุระต่อพอดี งั้นดูแลตัวเองดี ๆ นะแบม ไว้คุยกันใหม่!’
แจ๊คสัน หวังวางสายไปแล้ว ปล่อยให้แบมแบมแอบขำกับพี่ชายจอมกระตือรือร้นที่มักจะพูดรวบรัดตัดตอนไปเองอยู่เสมอ เด็กชายแก้มกลมค่อย ๆ พาตัวเองลงจากเตียงพยาบาล อดไม่ได้ที่จะแอบร้องโอดโอยเมื่อรู้สึกถึงความตึงที่เกิดขึ้นเมื่อขยับร่างกาย
เจ็บแผลง่ะ
กันต์พิมุกต์เดินเอื่อยเฉื่อยไปตามอาคารเรียนอย่างไม่เร่งร้อน ห้องพยาบาลอยู่ริมสุดของชั้นสอง นั่นทำให้เขาต้องค่อย ๆ เดินไปบันไดเพื่อลงไปยังชั้นหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แบมแบมก้มมองรองเท้า แล้วอยู่ ๆ เรื่องเมื่อกลางวันก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวทันที...
‘ทำไมไม่ผูกเชือกรองเท้าให้ดี ๆ’
“ม่ายเอา ไม่คิดแล้ว!” แบมแบมไม่รู้ว่าอาการเห่อร้อนที่ใบหน้าเกิดขึ้นมาจากไหน ไม่อยากนึกด้วยว่าต้นเหตุที่ทำให้เขินอายอยู่ตอนนี้เป็นเพราะอะไร ในสมองของเด็กหนุ่มมีแต่ข้ออ้างและพยายามคิดว่านั่นคือเรื่องปกติทั่วไปที่พี่น้องคู่อื่น ๆ ก็ทำให้กัน
พี่มาร์คแค่กลัวแบมจะหัวทิ่มเพราะรู้ว่าซุ่มซ่ามแค่ไหน พี่มาร์คแค่ไม่อยากให้แบมเจ็บตัวเพราะจะทำให้พี่มาร์คต้องเหนื่อยตามไปด้วย พี่มาร์คคิดแค่นั้นแหละ จริง ๆ นะ...
“แบม”
เสียงพี่มาร์ค... แบมคิดเรื่องพี่มาร์คมากเกินไปจนหูฝาดเลยงั้นเหรอ...
“แบมแบม”
อ่า... ทำไมถึงยังได้ยินซ้ำ ๆ นะ ... หูจะต้องไม่ดีไปแล้วแน่ ๆ เพราะแบมตกลงกับพี่มาร์คเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะกลับบ้านเอง...
“กันต์พิมุกต์ ภูวกุล”
โห... ใช่เลย มีคนเดียวที่พูดชื่อจริงนามสกุลจริงของแบมได้ชัดแจ๋วขนาดนี้...
แบมแบมตัวน้อยที่ลอยละล่อง(?)ลงบันไดชั้นสองมารีบมองหาต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว แล้วก็ได้เห็นว่าพี่ชายที่รับหน้าที่เป็นผู้ปกครองจำเป็นยืนกอดอกรอเขาอยู่หน้าอาคารเรียน
แบมบอกพี่แจ๊คแล้วว่าอย่าเพิ่งบอกพี่มาร์คอ้ะ
“พี่มาร์ค! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้อ้ะ แบมบอกว่าวันนี้แบมจะกลับคอนโดเองนี่ครับ... แล้วทำไมพี่มาร์คมายืนรอ...” แบมแบมถาม ทิ้งปลายเสียงให้เบาลงนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเลิกคิ้วมองที่แผลบนข้อศอกของเขา “หรือพี่แจ๊คสันบอกพี่มาร์คว่าแบมหกล้มได้แผล...”
“ไอ้แจ๊คไม่ได้บอก แต่แบมนั่นแหละที่บอกพี่” มาร์คพูด พร้อมกับที่เดินไปหาเด็กแก้มกลมที่ยืนทำหน้ามึนงงอยู่ตรงหน้า มือของพี่ชายหน้านิ่งจับแขนข้างที่มีผ้าก๊อซปิดไว้ตรงข้อศอกขึ้นมา นัยน์ตาที่ใครต่อใครก็บอกว่ามีแต่ความเยียบเย็นแฝงเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
จนได้นะแบมแบม
“คือ... แบมไม่ได้ตั้งใจจะล้มนะพี่มาร์ค แต่พอเล่น ๆ อยู่ดี ๆ ก็เป็นแบบนี้อ้ะ รู้สึกตัวอีกทีแบมก็ลงไปอยู่ที่พื้นแล้ว แบมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะพี่มาร์คคคคคค” แบมแบมแก้ตัว
เป็นข้อแก้ตัวที่น่ารักมากใช่ไหม... ใครที่ไหนจะไปคิดว่าตั้งใจอยากเจ็บตัวได้แผลกันล่ะ มาร์คก็ไม่ได้คิดว่าแบมอยากหกล้ม แล้วก็ไม่ได้คิดจะดุเด็กคนนี้ด้วย
แค่เป็นห่วง...
“ยังไม่ได้ว่าเลยสักคำ แล้วนี่... ที่ข้อศอกอย่างเดียวหรือว่า...” มาร์คถาม แล้วก็มั่นใจว่าจะต้องมีแผลที่อื่นด้วยเมื่อแบมแบมหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา “ตรงไหนอีก”
“เข่าครับ...” พูดพร้อมกับชี้ตำแหน่งให้พี่ชายได้เห็นว่าเข่าข้างซ้ายภายใต้กางเกงวอร์มมีแผลสดที่ถูกผ้าก๊อซแปะทับเอาไว้
โหย... แบมต้องสารภาพทุกอย่างด้วยตัวเองหมดเลยนะ ยังไม่มีใครบอกพี่มาร์คจริง ๆ ใช่ไหม
แล้วทำไมพี่มาร์คถึงได้มาหาแบมที่นี่ได้...
“ซนจริง ๆ” มาร์คแกล้งบ่น ก่อนที่จะทำในสิ่งที่เด็กม.ปลายปีหนึ่งคาดไม่ถึงอีกครั้ง
สองครั้งสองหนในรอบวันที่มาร์ค ต้วนทำให้เด็กสาธิตฝ่ายมัธยมปลายแปลกใจ... ถ้าหากใครได้เห็นกับตาทั้งสองรอบคงได้แต่งงงันไปตาม ๆ กัน...
รุ่นพี่ต้วน... กำลังย่อเขาลงแล้วค่อย ๆ พับขากางเกงของเด็กชายกันต์พิมุกต์ให้อยู่เหนือบาดแผล...
“กางเกงขายาวเดี๋ยวก็เสียดสีแผล ถึงจะปิดผ้าก๊อซเอาไว้ก็เถอะ... กลัวพี่จะรู้ว่าล้มมาใช่ไหมล่ะ เด็กคนนี้” มาร์คพูด พร้อม ๆ กับที่ยืดตัวขึ้นมาตรงหน้าแบมแบมอีกครั้ง “วันนี้กลับพร้อมพี่นี่แหละ ไม่ต้องกลับบ้านเองแล้ว”
“ล... แล้วทำไมพี่มาร์คถึงมารอรับแบมได้...”
ในเมื่อยังไม่มีใครบอกพี่มาร์คจริงไหม...
“วันนี้งานเสร็จเร็ว” มาร์คอธิบาย แต่ดูเหมือนจะห้วนจนเกินไป เด็กชายกันต์พิมุกต์เลยได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยไม่จางหาย
ก็งานเสร็จเร็ว... เราไปเจอกันที่ห้องเลยก็ได้นี่นา...
แบมสงสัยอ้ะ ไม่ผิดใช่ไหมเล่า~
“แบมก็ยังสงสัยอยู่ดี จริง ๆ พี่มาร์คกลับก่อนแบมก็ได้นี่ครับ เนี่ย แบมเพิ่งคุยกับพี่แจ๊คสันเสร็จ กำลังจะเดินไปขึ้นรถอยู่แล้วน้า แต่ว่าลงมาเจอพี่มาร์คก่อน...” กันต์พิมุกต์ไม่ทันที่จะได้เล่าจนจบ ประโยคบอกเล่ายาว ๆ ของมาร์คก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
เจ้าชายน้ำแข็ง... ที่สามารถปั้นแต่งประโยคยาวยืดให้กับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ได้ฟังอย่างไม่ยากเย็น
ผิดวิสัย
“บังเอิญเจอเพื่อนแบมตอนก่อนเข้ามา พอรู้ว่าแบมยังไม่กลับ พี่ก็เลยแวะเข้ามารับดีกว่า... แล้วก็คิดถูกจริงไหม ไม่อย่างนั้นคงมีเด็กดื้อไม่ยอมบอกพี่แน่ ๆ ว่าได้แผลกลับบ้านแบบนี้”
“แหะ ๆ”
“ทีหลังมีอะไรต้องบอกพี่... เข้าใจไหมแบม”
“ครับ...”
แบมแบมไม่เคยรู้เลยว่าตั้งแต่อยู่ด้วยกันพี่มาร์คเปลี่ยนไปมากแค่ไหน... เด็กน้อยแก้มป่องที่ค่อย ๆ เข้ามาทำให้ประติมากรรมน้ำแข็งรูปงามผู้ไม่เคยสนใจใครเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยสนใจใคร จากที่คิดว่าเด็กคนหนึ่งน่ารำคาญก็กลายเป็นว่ารับเข้ามาในชีวิตอย่างเต็มใจ...
บางที... น้องชายของแจ๊คสัน หวังอาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่... แบบไม่ทันได้ตั้งตัว
TBC
ปฏิบัติการละลายน้ำแข็งจะผ่านไปได้ด้วยดี... หรือไม่กันนะ!
เจอกันตอนหน้านะคะ!
TALK! : มาเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วววววววว ><
ยังคงปลาบปลื้มกับคอมเม้นท์อยู่เสมอนะคะ ดีใจมากที่ทุกคนชอบ ดีใจฝุด ๆ ไปเลย พี่มาร์คกำลังจะถูกละลายอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะคะ แต่... (ยังมีแต่ 555) ต้องรอติดตามกันต่อไป~ เป็นกำลังใจให้น้องแบมแบมผู้น่ารักด้วยนะคะนะ!
อ่า... พี่แจ๊คสันก็ยังไม่กลับมาใช่ไหมคะ ไหนจะยังเรื่องของซอกจิน เรื่องความรักของพี่มาร์ค... แหะ ๆ ทำไมดูเหมือนมีอีกเยอะ แหะ หวังว่าทุกคนจะยังติดตามกันน้า ~~
เรื่องต่อไป! ในที่สุดเราก็ได้แท๊กสำหรับเรื่องนี้แล้วค่ะ! ฮื่อออออออ ต่อไปนี้เราจะสามารถแอบส่อง(?)ผ่านทวิตเตอร์ได้แล้วนะ ขอเชิญทุกคนสกรีมพี่มาร์คและน้องแบมแบมได้ที #ฟิคเด็กพี่มาร์ค นะคะ เราจะแอบตามไปอ่านน้า หลายคนอาจจะไม่ถนัดเม้นท์ในเด็กดี หรืออย่างไรก็ตาม แท๊กทวิตเตอร์รออยู่นะคะ ฮา~
อย่าลืมมาจอยกันนะ! #ฟิคเด็กพี่มาร์ค
เจอกันตอนหน้าค่ะ!
ความคิดเห็น