คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : markbam baby - 13 100%
Adorable baby Mark x Bambam
By bpuppyy_
Markbam
Baby 13
นอนไม่หลับ
แบมแบมนอนไม่หลับมาตั้งแต่คืนวันก่อนหน้า...
“แบม”
ตั้งแต่คืนที่อยู่ ๆ ก็ถูกพี่มาร์คจูบแบบยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“แบมแบม”
“ห..ฮะ ครับพี่มาร์ค”
กันต์พิมุกต์ที่ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองถูกดึงขึ้นจากเสียงเรียกของมาร์ค แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มที่เพิ่งจะเดินเข้ามาถึงก็ยังไม่เข้าใจ เขาเรียกแบมแบมไปมากกว่าสามครั้ง สิ่งที่ได้รับคือการนั่งเหม่อลอยและขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนคนกำลังคิดหนัก...
ตลกดี
น่ารักด้วย
“มานั่งเหม่ออะไรตรงนี้ ไม่เข้าไปอยู่ในบ้านล่ะ”
“ม่าย~ ในสวนลมเย็นกว่า มีต้นไม้ให้ดูเพลิน ๆ ...” แบมแบมว่า เขาเลือกที่จะมานั่งคิดเรื่อยเปื่อยที่สวนด้านนอกบ้านเพราะปลอดโปร่งมากกว่า
ที่จริงแบมแบมก็ไม่ได้มีอะไรให้คิดมากขนาดนั้น... ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหลงจากเรื่องคืนก่อน พี่มาร์คก็ยังเหมือนเดิม แบมแบมเองก็ทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป...
พี่มาร์คยังใจดีแล้วก็คอยดูแลแบมอย่างดีเหมือนทุกครั้ง...
แบมก็ยังชอบเวลาที่ได้อยู่กับพี่มาร์ค...
แต่ถ้าหากไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือมีช่วงว่างให้สมองพาลกลับไปคิดเรื่องที่เกิดขึ้นมา... แบมก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้อยู่ดีว่าพี่มาร์คจูบแบมเพราะอะไร มันเลยอดจะคิดวนไปวนมาไม่ได้ ในเมื่อพี่มาร์คไม่เห็นจะพูดถึง ไม่เห็นจะบอกอะไรแบมเลยนี่นา!
นิสัยไม่ดี... ทั้งที่ทำให้หัวใจแบมเต้นจนจะหลุดออกมาข้างนอก... เต้นแรงจนน่ากลัวตลอดเวลาที่คิดถึงเรื่องนั้น
แบมไม่รู้ว่าควรจะเรียกความรู้สึกพวกนี้ว่ายังไง... ชอบ? รัก? หรือว่าเป็นเพราะยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้... ก็เลยเอาออกจากสมองไปไม่ได้สักที...
กันต์พิมุกต์สับสนง่ะ
“เหม่ออีกแล้วนะ...” มาร์คพูดขึ้นมาอีกครั้ง เขาทิ้งตัวนั่งอยู่ข้าง ๆ แบมแบม ก่อนจะหันไปมองหน้าของเด็กน้อยในปกครอง “มีเรื่องอะไรให้คิดมาก...”
เรื่องพี่มาร์คนั่นแหละ!
“ป...เปล่าครับผม แบมก็แค่อยากนั่งเล่น แล้วก็...”
“ไหนบอกไม่มีเรื่องให้คิด”
พี่มาร์คทำไมกวน...
“นิดนึงไงครับ คิดนิดเดียว... แบมก็แค่นึกถึงพี่แจ๊คสัน” โกหกนิดเดียวไม่เป็นไรใช่ไหมครับ แบมเอานิ้วไขว้กันไว้แล้วนะ “ตอนนี้พี่แจ๊คกลับมาแล้ว เดี๋ยวแบมก็คงจะย้ายออกจากคอนโดพี่มาร์ค...”
มาร์คยังคงนั่งเงียบ ๆ และฟังเด็กแก้มกลมพูดต่อไป เขาไม่แสดงความเห็น แต่ก็ใช่ว่าในใจของเขาจะไม่คิดเรื่องเดียวกันอยู่ มาร์คไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอะไรต่อ แจ๊คสัน หวังก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องการรับน้องมันกลับ (แน่ล่ะ แจ๊คสันเอาแต่ด่าเขาว่ายึดน้องของมันไป แต่มันกลับไม่พูดเรื่องจะพาน้องไปอยู่กับมันเท่าไหร่)
ถ้าถามว่ามาร์คอยากให้แบมแบมย้ายที่อยู่ไปเร็ว ๆ นี้ไหม...
คำตอบคือไม่ เขาไม่ปฏิเสธความคิดที่ดังอยู่ในหัวของตัวเองหรอก เขารู้ดี... เขาอาจจะเคยชินกับชีวิตที่มีเด็กอ้วน ๆ คนนึงอยู่ด้วยตลอดเวลาไปแล้ว
สองเดือน... อาจจะแสนสั้น... แต่มันมีความหมาย
“แน่ใจเหรอว่าคิดเรื่องนี้เรื่องเดียว” มาร์คถาม หลังจากที่ได้ฟังกันต์พิมุกต์พูดถึงพี่ชายตัววุ่นวาย
มั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าแบมแบมจะต้องคิดเรื่องอื่นอยู่ และแน่นอนว่ามาร์คก็มั่นใจอีกว่าเรื่องพวกนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขา ไม่ได้หลงตัวเอง ไม่ได้อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันจะเป็นเช่นนั้น...
แต่เพราะเขารู้ว่าเขาสร้างเรื่องให้แบมแบมคิดมากเอาไว้ต่างหาก
เด็กน้อยที่ทำให้เขาห้ามใจเอาไว้ไม่ได้...
ค่ำคืนที่เขาให้คำพูดสุดท้ายเอาไว้ว่า ‘ฝันดีนะ...แบม’ เขาควรจะเรียกเหตุการณ์นั้นว่ายังไงดีนะ
Goodnight kiss? เข้าท่าดีใช่ไหม...
“เรื่องอื่น... ก็เรื่องเรียนไงครับ! อีกไม่นานแบมก็จะสอบไฟนอลแล้ว ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลย เกาหลีก็ยังไม่คล่อง เลขก็ยังไม่เก่ง ไหนจะวิชาอื่นที่เก็งข้อสอบไม่ได้อีก โอยยย พี่มาร์ค แบมมีเรื่องเต็มไปหมดเล้ย~”
เด็กหนอเด็ก มาร์คยิ้มขำ ส่ายหน้าเบา ๆ กับท่าทางแก้ตัวเกินจริงของกันต์พิมุกต์ที่ทำหน้ายุ่งเกินกว่าเหตุ ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งไปมือลูบกลุ่มผมของคนเด็กกว่าด้วยความเอ็นดู...
สัมผัสแบบนี้ที่ทำให้หัวใจของเด็กน้อย... เต้นแรงจนจับจังหวะไม่ได้อยู่เสมอ...
“ทำไม่ได้ก็บอกพี่ เดี๋ยวสอนให้ ไม่คิดค่าสอนด้วย”
“บู้ว เดี๋ยวแบมตอบแทนน่า อยากได้อะไรพี่มาร์คบอกแบมเลย ถ้าสอบผ่านหมดทุกวิชานะ แบมให้ทู้กอย่าง” แบมแบมว่า ยักคิ้วให้กับพี่ชายจำเป็นสองสามครั้ง ก่อนจะถูกเรียวนิ้วของพี่มาร์คดีดลงระหว่างหัวคิ้วเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้
หมั่นไส้เพราะเด็กคนนี้น่ารักเกินไป ... มาร์คคิดว่าอีกไม่นานเขาคงได้เป็นบ้า... เพราะเอาแต่มองว่าน้องของไอ้แจ๊คสันน่ารักแบบนี้
“เจ็บน้า”
“ดีดนิดเดียว ไม่เจ็บจริง ๆ หรอกใช่ไหม...”
“รู้ทันอีก ชิ ไม่เจ็บก็ได้ แต่ว่าพี่มาร์คจะสอนแบมจริง ๆ ใช่ม้า” เด็กชายเอ่ยปากถาม ดวงตากลม ๆ สบประสานกับนัยน์ตาของชายหนุ่มเพื่อของคำยืนยันอีกครั้ง...
“สอนสิ ทุกวิชา”
“ต่อให้แบมจะไปอยู่กับพี่แจ๊คสันแล้ว พี่มาร์คก็จะยังสอนการบ้านแบบใช่หรือเปล่า”
เสียงของเด็กชายที่มักจะพูดเจื้อยแจ้วของ ๆ เบาลงทุกที ด้วยเพราะไม่มั่นใจว่าถ้าหากพวกเขาอยู่ห่างกันออกไป ความสัมพันธ์ที่ดี ๆ อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันจะจางหายไปหรือว่ายังคงอยู่เหมือนเดิม...
ความสัมพันธ์ที่มาร์คก็ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอะไร
“เหมือนเดิมทุกอย่าง”
“สัญญา” นิ้วก้อยข้างขวาของเด็กชายกันต์พิมุกต์ยกขึ้นมาตรงหน้ามาร์ค ชายหนุ่มยิ้มบาง ยื่นมือไปขยี้กลุ่มผมของเด็กน้อยจนแบมแบมยู่หน้า ก่อนที่จะเกี่ยวนิ้วให้สัญญากับคนเด็กกว่าเพื่อให้ความมั่นใจ
ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่เลยใช่ไหม อยู่ ๆ ก็ได้เลี้ยงเด็กที่เป็นน้องของแจ๊คสันแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วสุดท้ายยังต้องมาเสียหลักตกหลุมความรู้สึกให้กับเด็กคนนี้อีกต่างหาก...
ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักอย่าง พอมาร์ครู้สึกตัวอีกครั้ง ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไปไกลมากกว่าที่คิดเอาไว้แล้ว...
“พี่มาร์ค... แบมขอถามอะไรพี่มาร์คหน่อยได้ไหมครับ...” เมื่อจบคำถาม มาร์คตอบรับในลำคอ ชายหนุ่มเอียงหน้าหันมาหาน้องชายจำเป็นด้วยความสงสัย ก่อนที่แบมแบมจะเสหลบตาและค่อย ๆ กลั่นกรองคำพูดที่ดูจะทำให้เด็กชายคิดหนักอยู่ไม่น้อย...
นั่นทำให้มาร์คพอจะเดาได้ว่ามันคือเรื่องอะไร
แบมแบมเด็กมาก... เด็กมากจนเขาไม่แปลกใจถ้าหากจะมีพี่ชายที่หวงน้องคนนี้มาก ๆ ถึงสองคน
“คือว่า...”
“ทุกเรื่องที่พี่ทำให้แบม... แบมคิดแบบไหนพี่ก็คิดแบบนั้น”
ถ้าหากว่าแบมชอบพี่มาร์ค... ก็หมายความว่าพี่มาร์คชอบแบมด้วยเหรอครับ...
แต่แบมมั่นใจในความรู้สึกที่ไหนกัน...
“พี่ชอบเวลาที่มีแบมอยู่ด้วยนะ...”
มาร์คไม่รู้ว่าเด็กน้อยที่นั่งอยู่กับเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ต้องการบอกหรือไม่ ดวงตากลม ๆ ที่ใสแป๋วกำลังทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่ว่าอยากดูแลแล้วก็คอยอยู่ด้วยตลอดเวลาอีกแล้ว...
อีกแล้วที่มาร์ครู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะไปจากเดิม...
อีกแล้ว... ที่แบมแบมทำให้เขาไม่สามารถควบคุมการกระทำและหลาย ๆ อย่างของร่างกาย...
และหัวใจ
ใบหน้าของชายหนุ่มที่แย้มยิ้มอบอุ่นให้กับแบมแบมค่อย ๆ โน้มเข้ามาใกล้ ก่อนที่กันต์พิมุกต์จะต้องหลับตาปี๋... กลั้นหายใจเพราะสัมผัสแผ่วเบาที่ปัดผ่านหน้าผากไปอย่างเชื่องช้า...
ริมฝีปากที่ประทับเบา ๆ ลงมาและทำให้หัวใจของเด็กน้อยสั่นไหวอย่างน่ากลัว
สัมผัส... ที่มาจากหัวใจอบอุ่นของผู้ชายที่เคยด้านชา
น้ำแข็งที่ใครต่อใครไม่เคยได้เห็นว่ามีความรู้สึกหรือไม่... เวลานี้หลอมละลายจนกลายเป็นความอบอุ่นให้กับเด็กคนหนึ่งได้พักพิง
ยิ่งนานวัน... นายช่างตัวน้อยยิ่งแปรเปลี่ยนประติมากรรมน้ำแข็งให้ค่อย ๆ หลอมลงกลายเป็นเพียงสายน้ำ...
“ให้เวลานั่งเล่นอีกไม่เกินสามนาที แล้วรีบขึ้นไปนอนนะแบม...”
“ค...ครับ”
“พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านเรากัน”
บ้านเรา
ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือความคุ้นชินของมาร์ค... แต่นั่นคือสาเหตุของการที่เด็กชายกันต์พิมุกต์รู้สึกว่าเขาจะไม่ต้องเกิดความรู้สึกเหงาอีกต่อไป
เคยคิดว่าการอยู่ห่างไกลบ้านจะทำให้คิดถึงครอบครัวจนต้องร้องไห้ เคยคิดว่าถ้าหากไม่ได้อยู่กับคุณหม่ามี๊จะทำอะไรได้ไม่ดีสักอย่าง หรือการไม่มีพี่คุณคอยเอาใจ แบมแบมอาจจะต้องกลายเป็นคนที่ถูกขัดใจตลอดเวลา... หรือถ้าหากไม่ได้อยู่กับพี่แจ๊คสัน แบมก็คิดว่าตัวเองจะต้องไม่มีความสุขเหมือนกัน...
แต่มันตรงข้ามทุกอย่าง...
เพราะแบมแบมมีพี่มาร์ค...
ทุกอย่างที่เคยคิดว่าจะไม่ดี... กลับกลายเป็นว่ามีพี่มาร์คทำให้เปลี่ยนความคิดจากเดิม...
“ขอบคุณมากนะครับพี่มาร์ค”
“ไม่เป็นไร... เด็กอ้วน”
ก็แล้วทำไมต้องลงท้ายด้วยการว่าแบมอ้วนด้วยเล่า!
แบมเป็นแค่เด็กที่กำลังเจริญเติบโตและมีร่างกายอุดมสมบูรณ์เท่านั้นเองนะ!
*
50%
*
“มึง... ไม่มีเรียนเหรอวะแจ๊คสัน” อิมแจบอมถามขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัย เช้าวันจันทร์ของพวกเขาทุกคนเริ่มต้นขึ้นเหมือนกับทุกสัปดาห์ มีแตกต่างไปจากเดิมก็ตรงที่หวัง แจ๊คสันมานั่งกระดิกขาอยู่ใต้คณะวิศวกรรมมหา’ลัย Y
ได้ข่าวว่ากะเหรี่ยงเรียนคณะวิทยาศาสตร์ และอยู่มหา’ลัย S นะครับ
“ไม่อ่ะ กูว่าง”
“ทำไมมึงว่าง?” รอบนี้เป็นคำถามจากเซฮุนโอ ชายหนุ่มหล่อเสียเปล่าเข้าใจว่าเพื่อนของเขาไปทำธุระมานาน แต่ที่จริงก็ควรจะกลับไปเข้าคลาสเรียนได้เลยใช่ไหม
มันมานั่งทำมะเขือเทศอะไรที่คณะของเขา หรือเอาจริง ๆ ถ้ามันมีเวลามากนัก ทำไมมันไม่ไปช่วยน้องสุดที่รักย้ายของออกจากคอนโดพี่มาร์ค ต้วนล่ะครับ แหม่...
“กูรู้นะว่ามึงกำลังแอบแซะว่าทำไมไม่ไปรับน้อง คิดครับคิดไอ้โอเซ มาร์คมันกลับวันนี้ตอนเช้า แล้วกูจะเอาเวลาที่ไหนไปรับน้องแบม ถ่อออออ แค่นี้ก็คิดไม่ได้นะมึง”
เออ มึงมันฉลาดที่สุดแล้วครับแจ๊คสัน เซฮุนคนนี้มันไม่ยอมคิดให้ถี่ถ้วนเองอ้ะ
“แล้วตกลงมึงจะให้น้องย้ายมาอยู่กับมึงเมื่อไหร่ มึงเตรียมตัวหรือคิดไว้ยังเนี่ย” แจบอมถาม มนุษย์กลางคืนผู้เปลี่ยนโฉมเป็นชายหนุ่มผู้คงแก่เรียนนั่งอ่านชีทประกอบวิชาอะไรสักอย่างด้วยความคร่ำเคร่งจนแจ๊คสันไม่อยากเชื่อสายตา
ปากมันถาม แต่ตามันอ่านนะครับ โหย ไม่อยากจะบอกว่าภูมิใจมากที่มีเพื่อนขยันแบบนี้
“คิดไว้แล้วดิวะ ก็จริง ๆ น้องต้องมาอยู่กับกูตั้งแต่แรก ห้องคอนโดกูอีกห้องก็ของน้อง แล้วเรื่องรถเรื่องเรียนทุกอย่างกูก็พร้อมหมดละ” แจ๊คสันว่า แกล้งทำเป็นชะเง้อมองอิมแจบอมที่กำลังตั้งใจอ่านกระดาษบาง ๆ แล้วเอ่ยปากแซว “ไอ้วิชานี้มันมีดีอะไรวะ ทำไมมึงถึงสนใจอ่านจัง ดูดิ๊ ไอ้เซฮุนมันยังไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลย”
เสียงตามสายลมจากโอเซฮุนดังผ่านหูของแจ๊คสันเพื่อเป็นการแถลงไข... ‘กูฉลาดไง ไม่ต้องอ่านหรอกชีทอ่ะ กูจำได้หมดละ’
เชื่อไหมว่าเซฮุนจำได้จริง ๆ
อนุญาตให้คิดและพิจารณากันเองได้เลยครับ แจ๊คสัน หวังไม่อยากจะพูดเรื่องเซฮุนอีกต่อไป
“เหอะน่า กูต้องตั้งใจ วิชานี้กูต้องได้คะแนนระดับท๊อป ส่วนไอ้เซฮุนช่างแม่ง สนใจอะไรมัน ชอบเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวอยู่ละเพื่อนมึงอ่ะแจ๊คสัน”
“เลี้ยงในปากมึงดิแจบอม ไอ้กระทิงป่า! เห็นหน้าตาดีไปวัน ๆ แบบนี้ที่จริงกูเรียนเก่งนะเว้ย”
แจ๊คสัน หวังเบ้หน้า ขมุบขมิบปากตามเซฮุนที่พยายามพรีเซนท์ความเก่งกาจในหลาย ๆ ด้านให้ทุกคนฟังด้วยความภาคภูมิใจ แต่สุดท้ายดูเหมือนว่าอิมแจบอมจะทนไม่ไหว เพลย์บอยในคราบหนุ่มแว่นละสายตาจากหนังสือ ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย ก่อนจะยิงคำถามให้เพื่อนรักอย่างโอเซฮุนได้ตอบเพื่อแสดงความฉลาด(?)อย่างแท้จริงออกมา
“เมื่อวันก่อนใครขอโพยแคลกู”
“กู”
“เมื่ออาทิตย์ก่อนใครขอลอกรายงานภาษาอังกฤษกู”
“กูไง!”
แจ๊คสันได้แต่บ่นดัง ๆ ออกมาอย่างไม่เกรงใจ ‘มึงไม่คิดจะทำเองเลยบ้างไง๊ แม่มึงรู้นี่คงเสียใจ ลาออกไปเปิดร้านขนมหวานกับว่าที่แฟนมึงเหอะไอ้โอ’
“แล้ววิชาภาค ตอนควิซนี่ใครเป็นใครส่งคำตอบให้มึง!”
“มึง!”
“เออ! งั้นมึงเลิกพรีเซนท์ตัวเองได้ละ!” อิมแจบอมจบประเด็นแค่นั้น ชายหนุ่มผู้คงแก่เรียน(?)จับจ้องไปยังตัวหนังสือหยุบหยับบนกระดาษตรงหน้าอีกครั้ง
แล้วเสียงของเซฮุนที่ดังขึ้นมาก็ทำให้แจบอมต้องเงยหน้าอีกรอบอย่างขัดใจ...
“เดี๋ยวนะ ไอ้แจบอม”
“อะไรของมึงอีกวะ นี่พวกมึงใช้ชีวิตอยู่ยังไงกัน ไร้สาระ” กล้าด่ามากเลยนะครับแจ๊คสัน หวัง เซฮุนเหล่ตามองเพื่อนต่างชาติด้วยความหมั่นไส้ เอาจริงนะ ถ้าพวกเขาไร้สาระ คูณสองเข้าไปคงจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นผู้ชายนามสกุลหวังที่นั่งทำหน้ายุ่งอยู่นี่แหละ
กล้าด่าพวกผมมากครับแหม่
“มึงจะพูดอะไรอีกครับเซฮุนโอ โต ๆ กันแล้วนะ ไม่เอาดิ ไม่ขี้โม้ มันไม่ดี”
“พอ ๆ มึงอ้ะพอ แหม กูเคลิ้มเล่นตามมุกมึงเข้าหน่อยทำโอ้อวดนะคนฉลาด ไอ้ผักกาดดอง! ที่มึงบอกมึงส่งโพยทุกวิชาบ้าบออะไรนั่นมาให้กูอ่ะ ถามหน่อยดิ๊”
“ไอ้แจ๊ค มึงไปตามหน่อยมาให้ไอ้เซฮุนดิ๊”
มีแต่เครื่องหมายจุดนับตัวไม่ได้ปรากฏขึ้นในสถานการณ์นี้อีกครั้ง...
แล้วก็ยังประกอบด้วยเสียงของสายลมและใบไม้ที่พัดพลิ้วปลิวผ่านไป...
“กูกราบสามที มึงห้ามเล่นมุกนี้อีกนะแจบอม แจ๊คขอร้อง นี่เป็นคำขอร้องจากคนหล่อ ๆ คนนี้เลย” แจ๊คสันว่า ใจจริงอยากจะโน้มตัวแล้วเอามือไปฟาดลงบนแว่นกรอบหนา ๆ ของมันสักทีสองที
เล่นมาได้มุกนี้ แปดปีที่แล้วเขายังไม่เล่นกันเลยโว้ย!
“เชี่ย ถามมึงอ่ะแจบอม เอาใหม่ มึงตั้งสติแล้วตอบกูนะจอบอ ไอ้ต้นโพยทั้งหมดที่มึงส่งให้กูเนี่ย พูดให้เคลียร์ ๆ สิครับพี่ว่าพี่จอบอรับต่อมาจากใคร”
ใบหน้าคร่ำเคร่งของอิมแจบอมดูเหมือนจะใช้ความคิดอย่างหนัก...
รู้จักอิมแจบอมที่เก่งกาจอย่างหาตัวจับได้ยากในคลาสไหม...
“ต้นโพย... ก็ไอ้มาร์คไงวะ! แค่นี้ทำไมมึงไม่รู้ววววววววววว”
ถ้าคุณตอบว่ารู้จักแสดงว่าคุณเข้าใจผิดแล้วครับ เพราะอิมแจบอมคนฉลาดมันไม่ได้มีอยู่จริง กร๊ากกกกกกกกกก
*
ในที่สุดแบมแบมก็ไม่ได้ไปโรงเรียนจนได้
ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาให้ถึงโซลในวันจันทร์ตอนเช้า แล้วก็เข้าไปโรงเรียนในช่วงสาย ๆ (แบมแบมแอบขออนุญาตคุณครูพี่เฟยเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ดันกลับมาถึงคอนโดตอนบ่ายไปซะได้) เลยกลายเป็นว่าแบมกับพี่มาร์คต้องมานั่งช่วยกันเก็บของกินของใช้ที่ขนกลับมาจากพูซานเพื่อต่อชีวิตในคอนโด
เน้นหนักไปทางของกินซะมากกว่า... แบมไม่ได้เป็นคนขอเอามานะ แต่คุณแม่กับคุณป๊าของพี่มาร์คบอกให้เอากลับมาด้วยต่างหาก เผื่อว่าตอนเรียนกันหนัก ๆ จะไม่มีเวลาไปหาซื้อของกินงาย~
คุณป๊ากับคุณแม่ของพี่มาร์คน่ารักมาก ๆ เลยน้า
“แบม เดี๋ยวพี่จะเข้าไปมหา’ลัยตอนเย็น จะไปด้วยกันหรือว่าจะให้พาไปไหนหรือเปล่า” มาร์คเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เด็กแกม้กลม แบมแบมนั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น ดวงตากลมโตกระพริบสองสามทีอย่างใช้ความคิด ก่อนที่จะหันไปให้คำตอบว่าจะไปมหา’ลัยด้วยกันกับพี่มาร์ค...
ไม่รู้จะไปไหน อิลฮุนกับมินฮยอกก็เรียนพิเศษด้วยกันแทบจะทุกวัน แบมไม่อยากอยู่คนเดียว~
“อืม... ไปก็ดี ที่จริงแบมน่าจะไปอยู่แล้ว... เพราะจะได้เจอไอ้แจ๊คสัน มันอยู่ที่คณะกับพวกแจบอม”
ห...ห๊ะ?
แบมจะได้เจอพี่แจ๊คสันแล้วจริงอ้ะ?!
“พี่แจ๊คไม่ได้ไปมหา’ลัยวันนี้เหรอครับ โหยยย ดีจัง! แบมคิดว่าที่พี่แจ๊คยังไม่ติดต่อมาเพราะต้องไปจัดการปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเรียนต่อซะอีก ไปครับ ไปกันเลยน้าพี่มาร์ค”
กันต์พิมุกต์เขย่าแขนของพี่ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มาร์คหันมองใบหน้าของคนอายุน้อยกว่าแล้วได้แต่อมยิ้ม พอจะเข้าใจอยู่ว่าแบมอยากเจอเพื่อนของเขามากแค่ไหน
แต่... ให้พูดตามตรง... ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากให้แบมเจอแจ๊คสันเท่าไหร่...
“อืม รีบเอากระเป๋าใบนี้ไปวางในห้อง เดี๋ยวจะออกไปแล้ว...”
เขาคงหลีกเลี่ยงความจริงที่ว่าจะอยู่กับแบมได้อีกไม่นานไม่ได้แล้ว...
แจ๊คสัน หวังคงไม่มีทางปล่อยให้น้องชายอยู่ไกลหูไกลตา...
ถ้าหากว่ามาร์คจะอยากให้มีเรื่องที่ทำให้แจ๊คสันเกิดปัญหาวุ่นวายขึ้นมา... มันจะเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเกินไปไหมนะ หรือบางทีเขาควรหาทางทำให้แจ๊คสันยังต้องยุ่ง ๆ กับเรื่องเรียนต่อไป… ให้ตายสิ เป็นความคิดที่งี่เง่า แล้วเขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าจะอยากทำเรื่องพวกนี้ขึ้นมา
หลาย ๆ ครั้งมาร์ค ต้วนก็ไม่อาจเข้าใจความคิดของตัวเอง
บางที... ทุกครั้งที่เขาไม่เข้าใจ มันก็มักจะเป็นเรื่องของเด็กผู้ชายที่ชื่อแบมแบม
*
“น้องแบมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”
พอจะนึกสถานการณ์ออกใช่ไหม...
แจ๊คสัน หวังที่นั่ง(หรือนอน)ไถลตัวไปกับโต๊ะใต้คณะวิศวะแทบจะถลาตัวเข้ามาหาน้องแบมอย่างไม่สนใจใคร แถมยังทำท่าร่าเริงเกินพิกัดจนอิมแจบอมและโอเซฮุนถึงกับสายหน้าในความโอเวอร์ของเพื่อนชาวฮ่องกง
นี่ขนาดมันอยู่มหา’ลัยพวกผมนะ มันยังกล้าทำตัวโวยวายไม่อายชาวบ้านแบบนี้
ไม่ใช่แจ๊คสันพวกผมว่าทำไม่ได้อ่ะ
“พี่แจ๊คสันนนนนน โย่ว! คิดถึงโคตรเลยครับผม ละนี่ทำไมพี่แจ๊คไม่ไปเรียนอ่ะ หรือว่าเอกสารยังไม่เรียบร้อย วันนั้นแบมเข้าไปกับพี่มาร์คมาแล้วก็โอเคดีนี่นา” แบมแบมถามขึ้นทันทีที่กระโดดลงจากหลังของหวัง แจ๊คสัน (มาร์คแทบจะประคองเด็กม.ปลายเอาไว้ไม่ทัน มีอย่างที่ไหนไปกระโดดขี่หลังเพื่อนเขาอย่างกับลิงไม่มีผิดเพี้ยน) ส่วนคนถูกถามที่โดนแกล้งกระโจนใส่และถูกรัวฟัดจากน้องชายไปยกใหญ่ก็ได้แต่หัวเราะเบา ๆ แล้วตอบออกมา
“ช่วงนี้ยังว่างอยู่ เดี๋ยวค่อยไปเรียน อยากมาหาแบมมากกว่า อิอิ” ถ้าไม่คิดว่าสนิทกันและเกรงใจน้องแบมนะครับ โอเซฮุนพูดเลยว่าคงจะยื่นเท้าไปยันไอ้แจ๊คสันเพราะเสียงหัวเราะ ‘อิอิ’ ของมันแน่ ๆ
กวนประสาทเป็นที่สุด น้องโอเซขอบอกว่ารับมิได้
“มาร์ค! ไงวะมึง ทำเงียบใส่ ๆ เดี๋ยว เดี๋ยวรู้เรื่อง พาน้องกูไปเที่ยวไม่มีบอกกูสักคำ แถมยังเซอร์ไพรส์ให้กูเคว้งคว้างกลางสนามบินอินชอนที่กว้างใหญ่อีกนะ มึงไม่รู้หรอกว่ากูเจ็บปวดมากแค่ไหน” พร่ำพรรณนาตามประสาของหวัง แจ๊คสัน แล้วก็ได้คำตอบสั้น ๆ จากมาร์ค ต้วนผู้ประหยัดคำพูดไปตามระเบียบ
แน่นอน... คำตอบที่ทำให้น้องหวังได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
“กูขอพี่ชายตัวจริงของแบมละ”
เออ ใช่ซี๊ กูนี่มันแค่พี่ชายปลอม ๆ ที่ยอมเอาน้องสุดแสนน่ารักไปไว้กับไอ้เสือยิ้มยากซึนเดเระระดับสิบอย่างมึง!
“ช่าย พี่มาร์คไปเจอพี่คุณมาแล้วล่ะ เมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่อยากจะบอกว่าพี่คุณบ่นพี่แจ๊คด้วยนะ” แบมแบมแกล้งพูด พี่คุณบ่นพี่แจ๊คที่ไหน มีพูดถึงบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เท่านั้นแหละครับ “พี่คุณบอกว่าถ้าเจอหน้าพี่แจ๊ค จะเตะให้หายซ่าเลย”
นั่นปะไร นี่ผมควรเชื่อน้องแบมหรือว่ายังไงดีครับ แหม่ ครั้งล่าสุดที่คุยกับพี่คุณที่ยังคุ้น ๆ ว่าถูกคาดโทษเรื่องไอ้มาร์ค ไม่สิ ต้องบอกว่าถูกพูดจาเหมือนให้ไปสอบสวนเพื่อนตัวเองมายังไงยังงั้น
พี่ครับ น้องหวังก็ยังคิดไม่ตกเหมือนกัน งานเข้าละมั้งเนี่ย สงสัยได้พาเพื่อนเข้าตาราง
“โอเค ๆ เรื่องทั้งหมดพี่หวังผิดเอง ยอมรับทุกประการ แต่นี่กลับมาละไง โหย กลับมาหล่อกว่าเดิมด้วยเห็นปะ” ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถหาความเชื่อมโยงจากประโยคของแจ๊คสัน หวังได้ แต่ชายหนุ่มรูปงาม(?)ก็ยังคงพูดต่อไป “พร้อมจะไปอยู่กับพี่ยังแบมแบม จะได้ไปช่วยกันย้ายของออกจากคอนโดไอ้มาร์คเลย...”
ยัง...
คำตอบของแบมแบมดังขึ้นในใจอย่างชัดเจน
ไม่อยากให้ไป...
มาร์ครู้ดีว่าเสียงที่เกิดขึ้นในสมองของเขากำลังต่อต้านกับคำพูดแจ๊คสัน หวังอย่างแท้จริง
อิมแจบอมวางชีทที่ตั้งใจอ่านมาค่อนวันลงเพราะสถานการณ์ตรงหน้าดูจะน่าสนใจมากกว่า ส่วนโอเซฮุนผู้หล่อเสียเปล่ายังคงนั่งท้าวคางแล้วหันหน้าไปทางแจ๊คสันที มาร์คทีด้วยลุ้นว่าทุกอย่างจะจบลงตรงไหน
จนถึงเวลานี้ โอเซฮุนกล้าเอาเงินพนันวางล้านวอนเลยว่าไอ้มาร์คยกหัวใจให้เด็กม.ปลายไปละครับ ไว้ว่าง ๆ จะไปเยี่ยมที่ตารางข้อหาพรากผู้เยาว์นะครับเพื่อนรัก
“เอ่อ...” อิมแจบอมเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงอึกอัก นักท่องราตรีคิดว่าเขา(ควร)จะต้องทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไปให้ได้ก่อน
คือผมหมายถึงทุกคนดูมีรังสีแปลก ๆ ออกมาจากตัว ยกเว้นโอเซฮุนที่ยังนั่งกระดิกขาได้อย่างสบายใจ ใครก็ได้ตอบทีครับว่ามันไปเอาความอารมณ์ดีมาจากไหนกัน
“เอางี้นะ กูว่าอย่าเพิ่งย้ายเลยว่ะไอ้แจ๊ค” แจบอมว่า พอถูกแจ๊คสันตวัดสายตา(?)มาค้อนใส่ หนุ่มแว่นจึงจำเป็นต้องอธิบายต่อไป “ข้อความต่อไปนี้กูไม่ได้จะแถหรือจะมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรนะเว้ย แต่แบบ มึงก็คงยังเหนื่อย ๆ กับการเดินทางแล้วก็เรื่องเรียนไง ละน้องแบมก็ชินตอนอยู่กะไอ้มาร์คละ เดี่ยวอีกพักนึงค่อยย้าย สบาย ๆ ไม่รีบร้อน” การร้องขอของแจบอมไม่ได้มีเพียงเจ้าตัวคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีเซฮุนนั่งพยักหน้าหงึกหงักให้ความร่วมมืออยู่ตลอดเวลา
โห... จ้างแสนวอนมาอ้างว่าไม่ได้อยากช่วยไอ้มาร์ค แจ๊คสันยังไม่เชื่อเลยครับ ชิ น้องแจ๊คใสใสแต่ไม่โง่นะ
“เอ้อ แต่ถ้าพี่แจ๊คจะให้แบมค่อย ๆ ย้ายของหรือว่าไปอยู่กับพี่แจ๊คก่อน แบบนั้นก็ได้นะ แบมก็มีเรื่องอยากคุยกับพี่แจ๊คเยอะเหมือนกัน...” กันต์พิมุกต์พูดแทรก และเสียงของเด็กน้อยก็เปรยขึ้นเบา ๆ ต่อท้ายด้วยคิดว่าจะไม่มีใครได้ยินมัน “แบมเกรงใจพี่มาร์ค...”
ทว่ามาร์ค ต้วนที่รับรู้และสนใจทุกอย่างเกี่ยวกับแบมแบมได้ยินอย่างชัดเจน...
เขาบอกแล้วว่าไม่ได้รำคาญหรือคิดว่าแบมแบมเป็นภาระ... ต่อให้อยู่นานกว่านี้ ต่อให้แจ๊คสันจะไม่มีวันพาแบมแบมกลับไป เขาก็ไม่เดือดร้อนอยู่ดี
เด็กอ้วนที่ชอบกินขนมจุกว่าคนอื่นไม่เท่าไหร่... ทำไมมาร์คจะเลี้ยงไม่ไหว
จริงไหมล่ะ
“มึงจัดการชีวิตมึงเรียบร้อยแล้วแน่เหรอแจ๊คสัน” มาร์คถาม ในที่สุดชายหนุ่มผู้นั่งตีหน้านิ่งขรึมมานานก็เปิดศึก(?)ชิงน้องชายกับนายหวังจนได้
งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไปครับ โอเซฮุนขอรายงานแบบชิดติดขอบสนาม นำเสนอภาพโดยอิมแจบอมนะครับ ต้องพูดถึงมันด้วย เกรงใจ เดี๋ยวเพื่อนไม่มีบท
“ไม่เรียบร้อยละกูจะกลับมาเกาหลีได้ไง แน่ะ มึงบอกกูมาตรง ๆ นะต้วน” แจ๊คสันว่า ชายหนุ่มผู้(คิดว่า)ตัวเองหล่อเหลาย่นคอและหรี่ตามองเพื่อนรักด้วยท่าทางจับผิดที่แสนจะ... กวนอวัยวะเบื้องล่างอย่างแท้จริง
ใครสั่งใครสอนให้มันทำท่าแบบนี้ อย่าให้เห็นอีกนะ ถ้าไม่เกรงใจว่างแบมแบมนั่งอยู่ข้าง ๆ มาร์คเชื่อว่าขาของเขาคงได้กระตุกไปยันแจ๊คสันให้หายบ้าดูสักที
“บอกอะไร ก็แล้วแต่มึง แบมอยากไปนอนค้างกับแจ๊คสันใช่ไหมล่ะคืนนี้... เดี๋ยวพี่ไปส่งเอาของที่คอนโด แล้วค่อยไปหาแจ๊คสัน โอเคไหม?” ประโยคแรก(ที่โคตรจะสั้น) มาร์คพูดกับแจ๊คสัน หวัง ส่วนประโยคหลังที่มีทั้งประโยคบอกเล่า คำถาม และคำสั่งกลาย ๆ อยู่ในประโยคเดียวกันนั่นคือสิ่งที่มาร์คพูดกับแบมแบม
ความแตกต่างอย่างชัดเจนใช่ไหมครับ เออ พวกผมสามคนก็ว่างั้น
มาร์ค ต้วนแม่ง...
“แบบนั้นก็ได้ครับ พี่แจ๊คคคคคคคค งั้นคืนนี้แบมไปนอนกับพี่แจ๊คนะ เย้ มีเรื่องล้านแปดอยากเล่าให้พี่แจ๊คฟัง เอ้ย อันที่จริงทำไมพี่มาร์คไม่ไปด้วยกันอ่ะครับ จะได้เลี้ยงต้อนรับพี่แจ๊คกลับมาอีกรอบไง พี่แจบอมกับพี่เซฮุนด้วย”
เอาล่ะ... ตกลงคือน้องแบมอยากชวนพวกพี่ปาร์ตี้ใช่ไหมครับ...
ได้ครับ... จัดไป!
แต่ยังไม่ทันที่แจบอมและเซฮุนจะตั้งหู(?)และกระดิกหาง(?)ได้อย่างใจนึก ชายหนุ่มผู้หลงใหลในงานเลี้ยงฉลองก็ต้องหูลู่ลงอย่างถาวร
เพราะไอ้คนนามสกุลต้วนมันบอกว่ามันจะไม่ไป
ไอ้มาร์คแม่งขาหักหลังพวกผมเลย ความหวังถูกทลายพังลงเพราะมันคนเดียว!
เชอะ!
“เดี๋ยวพี่ไปส่งแบมแล้วกลับมาคอนโดดีกว่า ถ้าตอนเช้าจะให้ไปรับก็โทรมานะ” แล้วทำไมไม่คิดว่าน้องจะอยากอยู่กับกูบ้างงี้ เอะอะชวนน้องกูกลับ ไอ้มาร์คแม่ง แจ๊คสันได้แต่ค่อนขอดในใจ เอาเหอะ เริ่มจะเชื่อขึ้นมาละว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันค่อนข้างจะไม่ธรรมดา
ขอเวลาน้องหวังอีกแป๊บนะคะพี่มาร์ค เดี๋ยวน้องหวังยกน้องแบมแบมให้แน่นอนค่ะ
แต่ขอปรึกษากับพี่คุณก่อนนะ รายนั้นไม่รู้สุดท้ายแล้วเขาจะว่ายังไง เขาคงต้องสอบสวนประวัติของมาร์ค ต้วนอย่างถี่ถ้วนให้สมกับเป็นว่าที่น้องเขยแน่เลยค่ะ น้องหวังรับประกัน
“เอ้า ๆ ถ้าพวกมึงตกลงกันได้แล้วก็คงจะต้องแยกย้าย ไม่ต้องเรียนไม่ต้องทำอะไรละ หิวข้าวจัง แวะหา’ไรกินก่อนดีไหมวะ ค่อยกลับ เอาไง?” เซฮุนว่า
“เห็นด้วย หิวเหมือนกัน อยากกินร้านตรงข้ามมหา’ลัยมึงอ้ะ ป้ะแบม พี่แจ๊คไม่ได้กินร้านนั้นนานละ” แจ๊คสันหวังกอดคอน้องชายแก้มกลมให้เดินมาด้วยกัน โดยไม่ได้สนใจว่ามาร์คจะทำหน้าตาถมึงทึงคิ้วผูกแน่นด้วยความเคร่งขรึมเพียงใด
นี่ขนาดมันดูจะเก็บอาการแล้วนะ แหม่ พี่ชายมาร์คเขาหวงน้องแบมไม่เบาครับ ไอ้แจ๊คนี่เล่นเอาเจ้าชายน้ำแข็ง(ที่ละลายเป็นเพียงน้ำเย็นธรรมดา ๆ) เกือบจะกลายเป็นน้ำร้อนปุด ๆ เลยนะครับ
จัดว่าน่าชื่นชม
ชายหนุ่มทั้งสี่เดินแยกย้ายขึ้นรถส่วนตัวด้วยความเคยชิน แจ๊คสัน หวังที่วันนี้ควบบิ๊กไบค์คันโปรดมาได้แต่จิปากอย่างนึกเสียดาย เพราะเขาคงต้องให้แบมแบมนั่งตากแอร์เย็น ๆ ของมินิคูเปอร์แทนที่จะนั่งท้าลมยามสนทยาแบบนี้
อีกอย่างไม่มั่นใจในความปลอดภัยเท่าไหร่ หวังค่อนข้างจะขี่รถแบบเฟี้ยวฟ้าวครับ เดี๋ยวน้องเป็นอะไรไปพี่คุณเอาผมตาย ไม่ได้เลยครับ
“เดี๋ยวเจอกันที่ร้านแล้วกันนะแบม” แจ๊คสันว่า ชายหนุ่มขยี้ผมของน้องชายเบา ๆ ก่อนที่จะเหวี่ยงขาขึ้นคร่อมรถด้วยความชำนาญ
เพราะแบมแบมยังยืนรอให้แจ๊คสันสตาร์ทรถและขี่นำไป มาร์คก็เลยทำได้แค่ยืนรอไปด้วยเท่านั้น...
ส่วนคนท่ามากที่กว่าจะหยิบกุญแจออกมาสตาร์ทรถได้ก็ดูเหมือนจะถูกขัดอีกครั้ง เพราะโทรศัพท์เจ้ากรรม(ที่ถูกมาร์คตัดสายมานับครั้งไม่ถ้วน) ดันดังขึ้นมาแบบพอดิบพอดี
เบอร์ไม่คุ้นเลยครับ น้องหวังไม่ค่อยรับเบอร์มั่วนะ
แต่ครั้งนี้จะรับแล้วกัน
“สวัสดีครับ”
แบมแบมและมาร์คได้แต่เลิกคิ้วกับสุ้มเสียงที่ดูเคร่งขรึมและเป็นจริงเป็นจัง ไม่เข้าใจว่าแจ๊คสัน หวังจะเก๊กเสียงทำไมให้มันวุ่นวาย
ยังไง... เห็นหน้าจริงจังแบบนั้นก็ยังตลกอยู่ดี อย่าบอกพี่แจ๊คนะว่าแบมคิดแบบนี้ จุ๊ ๆ
“ครับ แจ๊คสันพูดอยู่ ว่าแต่... นั่นใครครับ”
หลังจากส่งคำถามไป... แจ๊คสันก็เงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่จะค่อย ๆ มีปฏิกิริยาโอเวอร์แอคติ้งในแบบของผู้ชายนามสกุลหวังให้ทุกคนได้เชยชมกัน
ถามว่าคนปลายสายเป็นใครทำไมต้องทำท่าตื่นเต้นตกใจมากขนาดนั้น
มันมีเรื่องอะไรน่าตกใจกว่าการที่แจ๊คสันเคยติดทีมชาติของฮ่องกงอีกอย่างนั้นหรือ...
“จะมาอยู่กับพี่จริงอ้ะ! นี่ล้อเล่นป่ะครับยองแจ ฮัลโหล ของพี่แจ๊คฟังอีกครั้ง สัญญาณปลายทางยังโอเคอยู่นะ ขอถามซ้ำอีกที ตกลงว่าน้องจะมาเป็นรูมเมทพี่จริงเหรอ เฮ้ย!” นี่กูชวนหวังฟลุ๊คนะ!
“ว่างสิครับว่าง ห้องพี่ว่างอยู่ละ...”
ยินดีต้อนรับเลยครับน้องยองแจ...
“อ่าฮะ เดี๋ยวเอาไว้คุยรายละเอียดกันอีกทีนะ นี่เบอร์ยองแจใช่ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่โทรไปครับ ครับโอเค”
เออ... ตอบโอเคนี่ได้มองหน้าน้องแบมแบมกับมาร์ค ต้วนที่ยืนงงอยู่นั่นไหม...
แจ๊คสัน หวังยิ้มร่าอยู่ได้ไม่นาน พอหันมาปะทะกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของแบมแบม รวมทั้งใบหน้าที่ดูเหมือนจะอมยิ้มนิด ๆ ของมาร์ค หนุ่มสายเลือดฮ่องกงถึงได้รู้ว่าเขามัวแต่ดีใจ... จนพลาดท่าไปเสียแล้ว
แย่ละ ดูเหมือนว่าน้องหวังจะลืมไปนะครับว่าต้องให้น้องแบมมาอยู่ด้วยน่ะ...
แย่แล้วครับพี่คุณ!
หวังขอโทษษษษษษษษษษ
*
TALK: เย้! ในที่สุดก็เอามาลงก่อนจะปลดแบนจนได้ orz
เฉลยแล้วนะคะว่าใครมาเป็นรักแท้ของพี่หวัง ฮา~ ส่วนของพี่อิมแจบอมเร็ว ๆ นี้แหละค่ะ เดี๋ยวตอนพิเศษกำลังจะตามมา เหตุผลที่ทำให้อิมแจบอมตั้งใจเรียนอะไรแบบนั้น 555555555
แจ้งล่วงหน้าน้า สามตอนต่อไปหลังจากนี้จะเป็นตอนพิเศษของหวังอิมโอนะคะ แน่นอนว่าจะต้องเริ่มที่หวัง ตามด้วยพี่อิม และคนหล่อเสียสติอย่างโอเซ หวังว่าทุกคนจะติดตามกันน้า~
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และแท๊ก #ฟิคเด็กพี่มาร์ค รวมทั้งทุกการติดตามด้วยนะคะ ส่วนเรื่องการปลดแบนและส่งเมล์ เราอาจจะข้ามหรือส่งซ้ำไปบ้าง ต้องขอโทษด้วยนะคะ แล้วก็หวังใจว่าจะได้รับการปลดแบนในเร็ววันนี้ สมัครบล็อคเราก็ยังไม่ได้สมัครสักที ฮือ เสียใจ แต่อย่าเพิ่งทิ้งเราไปนะ(โหมดไหน5555)
ไว้เจอกันในตอนพิเศษของพี่ชายหวังค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น