คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : markbam baby - 11
GOT 7 Fiction
Adorable baby Mark x Bambam
By bpuppyy_
Markbam
Baby 11
กันต์พิมุกต์ไม่ได้อุดอู้ใช้ชีวิตอยู่ในแต่โซลอย่างเดียวอีกต่อไป!
“พูซานรออีกไม่นานน้า~ แบมแบมกำลังจะไปหาพูซาน~” เสียงเพลงที่มีเนื้อร้องและทำนองโดยเด็กชายกันต์พิมุกต์ ภูวกุลถูกร้องขึ้นมาอีกครั้ง เช้าวันนี้น่าจะเป็นรอบที่ห้าที่มาร์คสามารถนับได้...
เข้าใจว่าอารมณ์ดี แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมต้องมีเพลงประจำตัว...
“แบม ถ้ายังไม่หยุดร้องเพลงนี้พี่ไม่ให้ไปด้วยแล้วนะ...”
“บู้ว เพลงออกจะเพราะ งั้นแบมไม่ร้องก็ได้ เอาเพลงอื่นเนาะ เพลงไหนดี...” เด็กชายแบมแบมยังคงพยายามจะสรรหาเพลงที่คิดว่าเพราะที่สุดมาร้องต่อไป แต่ก็ต้องหยุดและเดินตามมาร์คเงียบ ๆ เมื่อพี่ชายจำเป็นบอกว่าตอนนี้ต้องการความเงียบมากกว่าเรื่องบันเทิงใจ
เห็นว่าเป็นคนจ่ายตลอดทั้งทริปหรอกน้า~ แบมเป็นเด็กดีใช่ไหมล่ะครับ เชื่อฟังพี่มาร์คทู้กอย่างเลย
“พี่มาร์ค แบมว่าแบมง่วงอ่ะ ถ้าเกิดว่าขึ้นเครื่องแล้วแบมต้องหลับแน่ ๆ แต่ไม่เป็นไรใช่ไหม พี่มาร์คอย่าลืมปลุกแบมให้ไปด้วยกันนะ เดี๋ยวแบมโดนทิ้ง...”
ทิ้งไว้บนเครื่องบินโดยสาร... แบมแบมกำลังคิดว่าดูหนังอยู่หรือยังไงกัน
“รู้แล้ว... อยากนอนก็นอนสิ ยังไงแบมก็ต้องรู้สึกตัวตอนใกล้ ๆ ถึงอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหรอกน่า” กันต์พิมุกต์เถียงกับมาร์คอยู่อีกพักใหญ่ เป็นเรื่องไร้สาระแต่ก็สามารถทำให้มาร์คยิ้มและส่ายหน้ากับท่าทางเด็ก ๆ ของน้องชายแจ๊คสัน หวังได่ง่าย ๆ
แบมแบมเป็นเด็กที่ชอบทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่อง... กลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้อย่างน่าแปลกใจ
*
“ถึงแล้วครับ ป๊าให้คนมารับหรือว่าจะให้ผมไปที่บ้านเอง...”
แบมแบมได้ยินพี่มาร์คคุยโทรศัพท์กับคนที่เรียกว่า ‘ป๊า’ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินออกจากประตูของผู้โดยสารขาเข้า ยังคงเป็นเหมือนทุกครั้งที่เดินข้าง ๆ พี่ชายคนนี้ แบมรู้ดีเลยว่าทุกสายตาที่มองมาทางเขาทั้งสองคน จะต้องจับจ้องและสนใจในตัวคนที่ชื่อมาร์ค ต้วนอย่างไม่ต้องสงสัย
แค่ใส่แว่นกันแดดสีชา แค่หน้าตาหล่อโดดเด่นเกินคนอื่นไปนิดหน่อย... แค่ใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนสีซีดนี่ทำให้คนมองได้ขนาดนี้เลยงั้นเหรอครับ...
แบมก็แต่งตัวคล้าย ๆ กันอ้ะ ทำไมถึงได้ไม่เท่เหมือนพี่มาร์คบ้างเล่า แบมไม่เข้าใจ~
ครั้งหน้าจะใส่แว่นกันแดดมาด้วยแล้วกัน แบมจะต้องเท่เหมือนพี่มาร์คให้ได้!
“งั้นเจอกันที่บ้านครับ”
“พี่มาร์คคุยกับคุณพ่อของพี่มาร์คเหรอครับ” เด็กชายกันต์พิมุกต์ถาม ค่อนข้างจะมั่นใจอยู่แล้วว่าคำตอบคือใช่ แต่ถามไปเพื่ออะไรแบมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากได้รับการตอบรับจากพี่มาร์ค หนุ่มน้อยก็ยังถามต่อไป “แล้วคุณพ่อพี่มาร์คว่ายังไงบ้าง~ เราจะไปบ้านพี่มาร์คกันใช่ม้า แล้วคุณพ่อพี่มาร์คดุไหม แล้ว... ถ้าแบมไปด้วยนี่จะไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า...”
“ถ้ามาไม่ได้พี่จะชวนแบมมาทำไม... ไม่ต้องคิดมากหรอก ไปกันได้แล้ว ลากกระเป๋ามาด้วยอ้วน”
“ว่าแบมอ้วนอีกแล้วนะพี่มาร์คคคคคคค”
ครอบครัวของมาร์คทำกิจการด้านการขนส่งทางน้ำและมีบริษัทแม่อยู่ที่พูซาน เป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกชายคนเดียวของสกุลต้วนจำเป็นต้องเรียนและใช้ชีวิตอยู่ที่เกาหลีมานานกว่าครึ่งชีวิต ...
ส่วนมาก... มาร์คไม่ได้อยู่กับครอบครัวสักเท่าไหร่ เขาใช้ชีวิตด้วยตัวเองที่โซล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและครอบครัวจะห่างเหินหรือไม่สนิทสนมกันนัก ตรงกันข้าม เขากับพ่อแม่ค่อนข้างจะสนิทและสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องอย่างไม่ต้องปิดบัง
แน่นอนว่าเรื่องของกันต์พิมุกต์น้องชายแจ๊คสัน หวัง ป๊าและแม่ของเขาก็รับรู้เป็นอย่างดี
“มาร์ค!”
เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นเรียกความสนใจจากมาร์คและแบมแบมทันทีที่ลงจากรถ ชายวัยกลางคนเจ้าของใบหน้าและท่าทางใจดีกำลังเดินมาหาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม โดยที่แบมแบมตัวน้อยยังไม่ทันได้ตั้งตัว พี่มาร์คที่เด็กชายกันต์พิมุกต์มักจะเห็นว่ามีหน้าตาเรียบเฉยอยู่เสมอกำลังยิ้มกว้างและแท๊กมือกับคุณลุง(?)ใจดีอย่างคุ้นเคย
เดี๋ยวนะครับ... ถ้าแบมเดาไม่ผิดน่าจะเป็นพ่อลูกกัน... ก็แล้วทำไมถึงได้แท๊กมือดูสนิทยังกับเป็นเพื่อนซี้แบบนั้นล่ะครับ
ทิ้งให้เด็กชายยืนขมวดคิ้วอยู่กับตัวเองได้ไม่นาน ชายวัยกลางคนก็หันมาทักทายกันต์พิมุกต์ด้วยรอยยิ้มใจดีโดยมีมาร์คส่ายหน้าขำ ๆ กับท่าทางมึนงงของเด็กในปกครอง
“แบมแบมใช่ไหมเรา ป๊าเคยได้ยินมาร์คเล่าให้ฟัง แต่มาร์คคงไม่ได้บอกเราสินะ ว่าคุยกับป๊าว่ายังไงบ้าง”
เด็กชายกันต์พิมุกต์ส่ายหน้า...
พี่มาร์คเนี่ยนะคุยเรื่องเกี่ยวกับแบม... หูฝาดหรือได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ ขอเช็คอีกทีนะคุณพ่อของพี่มาร์ค
“คุยเรื่องแบมเหรอครับ เรื่องอะไรอ้ะ พี่มาร์คบอกคุณลุงว่าแบมเป็นเด็กดื้อหรือว่ารบกวนพี่มาร์คใช่ไหม ต้องเป็นเรื่องนั้นแน่ ๆ คุณลุงอย่าดุแบบนะครับ” เด็กชายกันต์พิมุกต์แก้ตัวพร้อมด้วยทำสายตาที่มาร์คพูดได้คำเดียวว่าน่าหมั่นเขี้ยวยิ่งกว่าอะไร ไหนจะท่าทางห่อไหล่จนกลายเป็นเด็กน้อยตัวนิดเดียวแบบนั้น...
ไม่คิดว่าเขาจะคุยเรื่องดี ๆ กับป๊าบ้างหรือยังไงกัน
“เปล่า ฮ่า ๆ มาร์คไม่ได้คุยกับป๊าเรื่องนั้น มาร์คแค่บอกว่าน้องของเจ้าแจ๊คมาอยู่ด้วย คุยเก่งมาก แล้วก็อีกหลาย ๆ อย่าง แต่ไม่เคยว่าเราเป็นเด็กดื้อหรอกแบมแบม...”
“จริงอ้ะ... เอ้ย จริงเหรอครับคุณลุง...”
แทนที่คุณลุง(?)จะตอบคำถาม กลับกลายเป็นว่ามาร์ค ต้วนให้คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความกับแบมแบมมาว่า ‘แล้วป๊าจะโกหกทำไม’
นั่นสิกันต์พิมุกต์ คุณลุงป๊าของพี่มาร์คจะโกหกทำไม...
“เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้แล้ว รีบเก็บของเข้าไปในบ้านสิ แม่รออยู่ด้านในนะมาร์ค ส่วนแบมแบม ไม่ต้องเรียกลุงก็ได้ ไหน ๆ ก็มาเป็นน้องของมาร์คแล้ว ก็เหมือนลูกป๊าอีกคน เรียกป๊าเหมือนมาร์คนั่นแหละ”
อย่างน้อย... แบมแบมก็มีผู้ปกครองในเกาหลีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนแล้วนะ!
ป๊าต้วน!
*
“น้องแบมนี่พูดเก่งจริง ๆ เลยนะ ฮ่า ๆ” คุณแม่ยังสาวของมาร์คหัวเราะด้วยความชอบใจ ตั้งแต่ที่เธอได้ต้อนรับเด็กหนุ่มแก้มป่องจากประเทศไทย จนถึงเวลานี้ยังไม่มีช่วงที่บ้านของเธอปราศจากเสียงพูดคุยเลยแม้แต่นาที
ไม่แปลกใจที่พักหลังลูกชายของเธอจะเริ่มพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่าแปลกใจ มันก็จริงอยู่ที่ว่ากับคนในครอบครัว มาร์คไม่ใช่คนพูดน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดเยอะมากเหมือนพักหลัง ๆ ที่ได้คุยกัน
มีแบมแบมอยู่ด้วยคงทำให้ลูกชายของเธอหายเหงาไปได้มาก...
(ถึงแม้เธอจะคิดว่าเพื่อน ๆ ของมาร์คก็ไม่ได้พูดน้อย... แน่นอนว่าครอบครัวของพวกเรารู้จักเพื่อนของมาร์คทุกคนเป็นอย่างดี)
“อ่า แบมพูดมากไปหรือเปล่าครับ แบมติดนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่อยู่ไทย แหะ ๆ ตอนอยู่กับคุณมี๊กับพี่คุณ บางทีแบมก็ห้ามตัวเองไม่ค่อยได้...”
“ไม่เป็นไร ฮะ ๆ ป๊าชอบ ป๊ามีลูกชายกับคนอื่นเค้าอยู่คน ก็ดันไม่ค่อยจะยอมพูดมากสักเท่าไหร่ กว่าจะชวนคุยได้แต่ละเรื่อง ป๊าคุยนำกับแม่ไปหลายขุมแล้ว”
แม้แต่ป๊าต้วนก็ยังยืนยัน... ขนาดอยู่กับคนในครอบครัวมาร์คพูดเยอะกว่าปกติแล้ว... ยังไงก็ถือว่าอยู่ในระดับน้อยมากอยู่ดี
“ผมพูดนะป๊า แต่ป๊ากับแม่แย่งผมพูดมากกว่า” มาร์คว่า แกล้งทำหน้าไม่พอใจเล็ก ๆ ที่ถูกทั้งบิดาและมารดาแฉ(?)ความลับส่วนตัว “กลับกัน แบมคงแย่งพี่คุณกับแม่ของแบมพูดหมดเลยจริงไหม”
“พี่มาร์คอย่ามากล่าวหาแบม~”
“หรือไม่จริง”
แบมสามารถโต้ตอบกลับได้ภายในห้าวินาที...
“จริงครับ”
และตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างถูกใจของบุพการรตระกูลต้วน มาร์คเองก็ส่ายหน้าพร้อมยิ้มขำออกมาเช่นกัน ดูเหมือนว่าการพาเด็กอ้วน ๆ คนหนึ่งมาที่บ้านของเขา... จะสร้างความประทับใจให้กับป๊าและแม่มากกว่าที่มาร์คเคยคิดเอาไว้
รู้อยู่แล้ว... ไม่ว่ายังไงแบมแบมก็ต้องทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูได้อย่างแน่นอน
“มาร์ค พาน้องไปเที่ยวก่อนสิลูก แล้วเดี๋ยวเข้ามาทานข้าวเย็นด้วยกัน...”
“แบมอยากไปเที่ยว!”
“ครับ... งั้นเจอกันตอนเย็นนะแม่ ป๊าด้วย”
พูซานสำหรับมาร์ค... จากที่เคยคิดว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองที่น่าไปเที่ยวไหนสักเท่าไหร่...
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมวันนี้ความรู้สึกพวกนั้นมันถึงได้เปลี่ยนไป
อาจจะเป็นเพราะ... ผู้ร่วมเดินทางก็ได้... เขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน
“พี่มาร์ค!”
“ว่า?”
“หมวกใบนี้สวยไหมมมม แบมอยากได้ ลองเอาใส่แบบนี้ เข้ากับแบมใช่ม้า” กันต์พิมุกต์หยิบหมวกสานใบสวยที่ถูกวางไว้อยู่หน้าร้านค้ามาสวมบนศีรษะด้วยความมั่นใจ พร้อมกับยิ้มกว้างจนแก้มทั้งสองข้างยกขึ้นดันดวงตากลม ๆ จนหยีลงอย่างน่ารัก
ไอ้แจ๊คสันมันเคยรู้ไหม... ว่าน้องมันเวลายิ้มแล้วน่าบิดให้แก้มช้ำมากแค่ไหน
“ชอบหมวกแบบนี้ ทำไมถึงชอบล่ะ?”
“เหมือนตอนอยู่ไทย แบมไปเที่ยวหัวหิน แล้วพี่คุณก็หยิบหมวกแบบนี้มาใส่ให้ โอ๊ะ ตอนนั้นพี่แจ๊คก็ไปเที่ยวด้วยกันนะครับ ใส่หมวกเหมือนกันนี่แหละ... แต่ว่าพี่แจ๊คใส่สองใบ”
ถามว่าแจ๊คสันทำไปเพื่ออะไร...
“ใส่ซ้อนกันด้วยนะ แบมก็งงว่าทำไมต้องซ้อนกันแบบนั้น...”
“อืม อย่าไปคิดหาคำตอบเรื่องพี่ชายแบมเลย อยากได้ใบนี้ใช่ไหม” มาร์คเลิกให้ความสนใจกับความเป็นแจ๊คสันที่ยากจะหาคำตอบได้ ลงท้ายด้วยการถามเด็กชายในปกครองว่าอยากจะซื้อหมวกสานที่ยังคงวางอยู่บนศีรษะหรือไม่...
แน่นอนว่าคำตอบคือการพยักหน้าเร็ว ๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มที่ทำให้มาร์ค... ปฏิเสธไม่ได้ทุกที
แพ้รอยยิ้มแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“เย้ พี่มาร์คใจดีมากที่สุดในโลก ไปเดินเล่นต่อกันเล้ย!”
หนุ่มน้อยที่อยู่ในชุดสบาย ๆ เดินนำหน้าพี่ชายหน้านิ่งไปด้วยความตื่นเต้น ชี้ชวนให้พี่มาร์คคอยดูตามร้านค้าที่มีของน่าสนใจด้วยท่าทางเหมือนเด็ก ๆ ไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนเขาก็ทำเพียงแค่เดินตามหลังของแบมแบมไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
ก็เพลินดีเหมือนกัน...
มาร์คเพิ่งจะเข้าใจคำว่าเลี้ยงเด็กจริง ๆ จัง ๆ ก็วันนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าเคยพาไปเที่ยวมาก็ตั้งหลายครั้ง แต่เขาไม่ค่อยจะเห็นแบมออกอาการตื่นเต้นแล้วก็ยิ้มกว้างมากขนาดนี้มาก่อน แถมยังหัวเราะชอบใจกับเรื่องตลกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เห็นระหว่างการเดินเล่นในตลาดดังของพูซาน...
คงเป็นเพราะเพิ่งจะได้มาเที่ยวอย่างจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรก
“แบม”
“ครับพี่มาร์ค~”
“เดินไม่มองทาง มัวแต่กินแบบนั้น แถมยังกินเลอะอีกต่างหาก... เดินมานี่เร็ว หันหน้ามาดี ๆ ด้วย”
เด็กชายกันต์พิมุกต์เดินเข้ามาหาพี่มาร์คพร้อมกับไอศกรีมในมือ (ที่เพิ่งจะร้องว่าอยากซื้อเมื่อได้เห็นกลวิธีการทำ... อันที่จริงแบมก็แค่อยากกินไอศกรีมนั่นแหละ) ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร ไอศกรีมที่ควรจะเลอะได้แค่ข้างมุมปากหรือไม่ไกลไปกว่านั้น มันถึงได้แต้มอยู่ข้าง ๆ แก้มป่อง ๆ ของเด็กคนนี้จนมาร์คอดไม่ได้ที่จะดีดลงไปบนหน้าผากของเด็กอ้วนเบา ๆ
“เอาแต่กินไม่ได้ระวังอะไรเลยนะแบม”
ง่ะ พี่มาร์คแกล้งดีดหน้าผากแบมอีกละ เจ็บนะ!
“พี่มาร์ค! เจ็บน้า...”
“งั้นรักษาให้...”
“หยะ... หยุดเลย ไม่ต้องครับ แบมไม่ได้เจ็บขนาดนั้นเหอะ”
นิสัยขี้แกล้งนี่มีอยู่ในตัวของพี่ชายที่ชื่อมาร์ค ต้วนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...
“กินยังไงให้เลอะแก้ม นี่เดินไปเรื่อย ๆ จะไม่อายเด็กหรือไง” มาร์คพูดไปพร้อม ๆ กับที่หยิบผ้าเช็ดหน้าซับลงข้างแก้มของเด็กน้อย ใบหน้าของชายหนุ่มอมยิ้มขบขันกับความไม่รู้จักโตของคนตรงหน้า
อายุ 17 แล้วยังกินไอศกรีมจนเลอะแบบนี้ มีที่ไหนกัน...
“ม... เมื่อกี้มีคนมาชนแบมต่างหาก แล้วแบมก็ไม่ได้ระวัง เลยไม่รู้ว่ามันไปโดนข้างแก้มไง... ไม่ได้กินแล้วเลอะเองซะหน่อย”
ไม่ได้แก้ตัวนะ...
“อืม เข้าใจแล้ว แต่ยังไงอ้วนก็ซุ่มซ่ามอยู่ดี”
“กลับจากพูซานแล้วแบมจะลดความอ้วนเลยคอยดู!”
“จริงอ่ะ?”
ไม่จริงครับ แหะ ๆ
แต่แบมจะไม่พูดให้พี่มาร์คได้ยินหรอก... เดี๋ยวเสียหน้า!
หลังจากที่เที่ยวชมพูซานโดยมีไกด์นำทาง (ที่แทบจะไม่เคยได้อยู่พูซาน) นำเที่ยว เด็กชายกันต์พิมุกต์วิ่งตรงเข้าไปหาเก้าอี้นั่งตัวยาวเพราะความเมื่อยล้า ตามด้วยชายหนุ่มเจ้าของใบหน้านิ่งเฉยที่ทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ให้นั่งพักสักครึ่งชั่วโมงค่อยพากลับบ้านก็แล้วกัน
“พี่มาร์ค พูซานนี่ก็ดูมีอะไรให้ทำเยอะดีเนาะ”
“อืม แต่พี่ไม่ค่อยได้มาหรอก”
“แล้วทำไมพี่มาร์คถึงเลือกอยู่โซลล่ะครับ ที่จริงอยู่ที่นี่น่าจะสะดวกกว่า มหา’ลัยดัง ๆ ในเมืองนี้ก็มีตั้งหลายที่...” แบมแบมถามด้วยความสงสัย ทั้ง ๆ ที่คุณป๊ากับคุณแม่ของพี่มาร์คก็มีบ้านและบริษัทอยู่ในพูซานแท้ ๆ
แล้วทำไมถึงไปอยู่คนเดียวที่โซล
“พี่มาร์คไม่เหงาเหรอครับ... อยู่คนเดียวนาน ๆ”
มาร์คไม่ได้ตอบอะไร ชายหนุ่มนั่งกอดอกและมองน้องของแจ๊คสันที่จ้องตรงมาที่เขาอย่างคาดหวังในคำตอบ
“ทำไมอยากรู้?”
“อ้าว แบมถามไม่ได้เหรอครับ แบมก็แค่อยากรู้อ้ะว่าไม่เหงาแย่เลยเหรอครับที่ต้องอยู่คนเดียว...”
เหงาไหมเหรอ... อาจจะต้องบอกว่าเคยเหงาอยู่บ้างล่ะมั้ง
ก่อนหน้านั้นชีวิตของเขาก็มีทั้งเพื่อน ทั้งคนที่รัก แล้วก็อีกหลาย ๆ อย่าง... มันก็มีช่วงที่เหงาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้มาร์คไม่ได้คิดถึงคำว่าเหงาหรืออะไรพวกนั้นมานานแล้ว...
“เคยเหงา แต่ตอนนี้ไม่...”
“ทำไม...”
ยังไม่ทันที่แบมแบมจะได้กลายร่างเป็นเจ้าหนูจำไม โทรศัพท์ที่ของมาร์คก็เรียกร้องความสนใจด้วยการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องจนชายหนุ่มต้องหยิบขึ้นจากกระเป๋ากางเกงอย่างเสียไม่ได้
ไม่รู้จะอธิบายยังไงกับการได้เห็นสายเรียกเข้าเป็นชื่อของ…
‘แจ๊คสัน’
“พี่แบมโทรมา อยากคุยกับมันไหมล่ะ” มาร์คถาม ยื่นโทรศัพท์ที่กำลังกระพริบเป็นชื่อของคนนามสกุลหวังที่รออยู่ปลายสาย
“ไม่เป็นไรครับ พี่แจ๊คสันโทรหาพี่มาร์ค คงมีเรื่องอยากคุยกับพี่มาร์คมากกว่า”
มาร์คยักไหล่ กดรับสายของเพื่อนรักที่คงจะต่อสายตรงจากฮ่องกงมาเช็คความเรียบร้อยของน้องชายเหมือนทุก ๆ ครั้ง...
‘เฮลโหล๊วไอ้เหี้ยพี่มาร์คคคคคคคคคค อยู่ไหนจ๊ะเบบี้!”
ถามว่าแจ๊คสัน หวังไปอารมณ์ดีมาจากไหน
“มึงมีอะไร”
‘มึงตอบไม่ตรงคำถาม! น้องแจ๊คถามพี่มาร์คว่าพี่มาร์คอยู่ไหนคะ น้องแจ๊คต้องการคำตอบค่ะ มีเรื่องใหญ่เรื่องเซอร์ไพรรรรร้ส์ที่จะบอกให้พี่มาร์คและน้องแบมแบมของพี่หวังได้รับทราบ ณ เวลานี้!”
“กูอยู่ข้างนอก น้องมึงก็นั่งอยู่ด้วยเนี่ย จะบอกกูหรือจะบอกน้อง หรือจะไม่รีบบอกกูจะได้วาง”
‘ไม่ยอม! มึงห้ามตัดสายกูนะ ไม่งั้นกูจะตามไปยันมึงให้ถึงคอนโด เรียกไอ้เหี้ยโอเซกับไอ้แจบอมไปด้วย ฮี่ ๆ พี่หวังกลับมาแล้วจ้า’
กลับ?
“มึงอยู่ไหน”
‘ท่าอากาศยานแห่งชาติประเทศเกาหลีใต้ อินชอนไง รู้จักใช่ไหมจ๊ะพี่มาร์คคคคคคคคค เป็นไงล่ะ บิ๊กเซอร์ไพรส์! พี่หวังกลับมาแล้วจ้า มึง! มารับกูหน่อยดิวะ เพิ่งจะแลนดิ้งลงมาเลยเนี่ย ต้องการคนขับรถหนึ่งอัตรา’
แจ๊คสัน หวังจะรู้หรือไม่... ใครกันแน่นะที่จะถูกเซอร์ไพรส์จริง ๆ
“กูไม่ว่าง มึงโทรหาไอ้เซฮุนหรือแจบอมให้ไปรับมึงแทนก็แล้วกัน”
‘ไม่ว่างได้ไงไอ้สัสสส ไอ้หน้าหล่อมึงอย่ามาทำให้พี่หวังใจหาย มึงไม่ว่างจะมาคุยโทรศัพท์กับกูได้ไง น้องแบมอยู่กับมึงใช่ไหม งั้นกูโทรไปขอคำยืนยันจากแบมแทนแล้วกัน’
“ไม่ต้อง น้องมึงนั่งอยู่ข้าง ๆ กูเนี่ยแหละแจ๊คสัน ส่วนที่กูบอกว่าไม่ว่าง กูไปรับมึงไม่ได้กูพูดจริง ๆ”
‘กูเสียใจ ของกูเยอะแยะมึงจะให้กูแบกเป้สะพายหลังเดินกลับไปโซลเหรอวะ จิตใจของพี่มาร์คทำด้วยอะไรคะ ทำไมถึงได้ทำกับหวัง แจ๊คสันแบบนี้ ไอ้ซั๊ซซซซ’
คนนามสกุลหวังควรจะคิดถึงคำว่าขนส่งสาธารณะหรือเพื่อนรักคนอื่น ๆ (ยกตัวอย่างเช่นคนนามสกุลโอและนามสกุลอิม...) บ้าง
“กูอยู่พูซาน กลับมาหาป๊ากับแม่ แล้วก็พาน้องมึงมาเที่ยว โอเคนะ...”
‘พูซาน?!!!!! ร้อยวันพันปีมึงไม่เคยกลับ ทำไมมึงกลับวันนี้วะ! ไม่! กูไม่โอเค ไอ้มาร์คคค ไอ้เพื่อนนิสัยเลว ไอ้เหี้ยยยย เอาน้องกูคืนมาเลยนะ แล้วนี่กูจะเอาชีวิตรอดกลับคอนโดกูได้อย่างไรไอ้ซั๊ซ’
“โทรหาโอเซฮุน มันว่าง”
และแจ๊คสัน หวังก็ถูกตัดสายจากมาร์ค ต้วนไปโดยสมบูรณ์ไปอีกหนึ่งครั้ง...
“พี่มาร์ค... พี่แจ๊คสันกลับมาแล้วเหรอครับ”
เด็กชายกันต์พิมุกต์ที่นั่งฟังเงียบ ๆ มาได้พักใหญ่ถามขึ้น (ที่จริงเกือบจะตะโกนใส่โทรศัพท์พี่มาร์คไปแล้ว แต่คิดขึ้นได้ว่าไม่ควรทำ เลยเป็นเด็กดีที่นั่งฟังเงียบ ๆ ไปดีกว่า) เหมือนจะได้ยินเสียงโวยวายของพี่แจ๊คสันด้วย แต่แบมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าสรุปแล้วเรื่องมันเป็นยังไง...
กลับมาได้... เซอร์ไพรส์มากเลยนะครับ
“อืม มันเพิ่งถึงเกาหลี บอกว่าจะให้พี่ไปรับ...”
“อ้าว แล้วทีนี้...”
“ช่างเถอะ พี่ชายแบมมันหาทางกลับได้ ไอ้เซฮุนก็คงว่าง แจบอมก็ด้วย ไม่ต้องห่วงหรอก...”
พี่มาร์คครับ... นั่นพี่ชายของแบมทั้งคนนะครับ
ถึง... จะไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ก็ตามเถอะครับ
“งั้นเราเลื่อนวันกลับกันไหมพี่มาร์ค จะได้ไปหาพี่แจ๊คสันกันไง...”
“ไม่ล่ะ ภารกิจพาเด็กอ้วนเที่ยวพูซานกำหนดไว้กี่วัน ก็ตามนั้น ไม่ต้องเปลี่ยนแผนหรอก”
“ภารกิจพาเด็กดีที่ชื่อแบมแบมเที่ยวต่างหาก ไม่อ้วน ๆ ให้โอกาสพี่มาร์คแก้ไขอีกรอบนะ!”
มาร์ค ต้วนทำเพียงแค่ส่ายหน้าและแกล้งทำท่าทางอมยิ้มกวน ๆ ใส่แบมแบมเท่านั้น แถมยังยักคิ้วให้กับน้องชายตัวกลมด้วยความเหนือกว่าอีกต่างหาก
“ลุกเร็วอ้วน จะได้กลับไปกินข้าวเย็นกัน”
เสียใจด้วยนะแจ๊คสัน หวัง...
ความคิดที่ว่าจะกลับมาเซอร์ไพรส์ทั้งน้องชายและเพื่อนรักพังทลายลงอย่างสมบูรณ์
แถมยังได้รับเซอร์ไพรส์ด้วยการถูกทิ้งเอาไว้กับสัมภาระล้านแปดอีกต่างหาก...
สนามบินอินชอน
“ทำไมถึงทำแบบนี้กับกูได้ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย”
แจ๊คสัน หวังอยู่ในชุดนักกีฬาบาสเต็มยศเพิ่งจะลงขนย้ายสัมภาระของเขาออกมาด้านนอกของเกทได้ มือของชายหนุ่มกดรัว ๆ ไปบนหน้าจอโทรศัพท์พร้อมด้วยใบหน้าอันยุ่งเหยิง(?)
กะจะกลับมาแบบหล่อ ๆ ให้เพื่อนขับรถมารับ ไหงกลายเป็นว่ากลับแบบคนไร้ญาติสนิทมิตรสหายแบบนี้วะครับท่านผู้ชม
“โอเซฮุน เออ ให้แม่งมารับเนี่ยแหละ กูไม่สนหรอกว่ามึงจะว่างไหม ไอ้มาร์ค ไอ้เพื่อนทรยศ พาน้องกูไปเที่ยวตั้งไกลไม่บอกกูเลยสักคำนะมึง!”
ก็ได้ข่าวว่าเป็นคนให้มาร์คดูแลน้องแบมเองใช่ไหม...
“เซฮุน! มึงว่าอยู่ป้ะเนี่ย มารับกูที่อินชอนหน่อยดิ๊ อย่า อย่าได้คิดจะพูดคำว่าไม่ออกมา ไม่งั้นกูจะบอกคุณหญิงแม่ของมึงว่ามึงสร้างเรื่องอะไรไว้บ้าง!”
เรื่องบ้าบออะไรแจ๊คสันก็เอามาอ้างหมดอ่ะครับ แล้วไอ้เรื่องเลว ๆ ที่ว่าเซฮุนทำไว้ ส่วนมากก็มีชื่อผมเข้าไปเอี่ยวด้วยอยู่แล้วครับไม่ต้องห่วง
แต่นาทีนี้อยากกลับบ้านครับ ทุกอย่างต้องขู่ไว้ก่อน
‘ไอ้เหี้ยหวังงงงง มึงกลับมาแล้วเหรอครับ ดีใจจัง เดี๋ยวกูไปรับนะ ใครบอกว่าจะปฏิเสธ ไอ้แจบอม มึง ๆ ๆ ไอ้กะเหรี่ยงกลับเกาหลีละโว้ย ไปรับแม่งกัน ไม่ต้องเที่ยวไหนละคืนนี้ ถล่มคอนโดไอ้หวังกันครับ ลุย!’
เหนือกว่าแจ๊คสัน หวัง... แท้จริงแล้วอาจจะยังต้องบอกว่ามีโอเซฮุน
“มึงรีบมารับกูให้ไว ไม่อย่างนั้นกูจะกรี๊ดใส่หูพวกมึงตอนนี้เลย!!!!”
‘แค่หลงรักไอ้มาร์คนี่มึงต้องใช้วิธีกรี๊ดใส่หูพวกกูเหรอ สาวใหญ่แล้วนะหวัง พี่โอเซรับไม่ค่อยจะไหว แต่ไม่เป็นไร กูเข้าใจมึงนะแจ๊ค กูจะพยายาม’
“พูดมากโว้ย รีบมา! กูต้องการคำให้การเรื่องไอ้มาร์คกับน้องแบมแบบละเอียดยิบถี่ถ้วนทุกกระบวนท่า(?)ด้วยครับ รวมตัวหน่อยครับไอ้สัสสสสสส”
นี่ผมชักจะสงสัยอย่างจริงจังแล้วนะครับ...
ตกลงที่ผมฝากน้องแบมไว้กับไอ้มาร์คแล้วคิดว่าปลอดภัย... สุดท้ายนี่มันอันตรายกับความใสซื่อบริสุทธิ์ของน้องชายผมใช่หรือเปล่า...
นี่มีแววว่าจะได้รับเพื่อนสนิทเป็นน้องเขยจริง ๆ ใช่ไหม...
แจ๊คสัน หวังควรจะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบต่อไปนะครับ!
ไอ้มาร์ค เดี๋ยวรู้เรื่องแน่ ๆ มึง!
“แม่ง ที่ผ่านมามึงแกล้งทำตัวซึนใช่ไหมไอ้ต้วน! ขโมยน้องกูไปเฉยเลยนะ!”
งานนี้หวังจะไม่ยอม!
TBC… chapter 12
TALK!: หลบหน่อยพระเอกมา...
จริง ๆ แล้วจะต้องมีอะไรอย่างอื่นมากกว่านี้... แต่ขอตัดจบที่การต้อนรับพระเอกตัวจริงของเรื่องกันดีกว่านะคะนะ พี่หวังกลับมาแล้ว! *ปรบมือต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ว่าแต่ทำไมพี่หวังต้องใส่เสื้อบาส ได้ข่าวว่าไม่ได้มาสายบาสเกตบอลนะคะเรื่องนี้ 55555* ไว้ว่ากันเรื่องประวัติพี่หวังอีกที อีกครั้งที่ต้องบอกว่า... หลบหน่อยพระเอกมา ฮา~
อย่างที่บอกค่ะ ... อันที่จริงฉากของพี่มาร์คกับน้องแบมยังไม่สมบูรณ์เลย ~ น้ำแข็งยังไม่ได้ละลายเป็นของเหลวกับเขาสักที เพราะฉะนั้นได้โปรดจับตามองคนซึนในตอนต่อ ๆ ไปนะคะว่าจะเป็นเช่นไร ~
เจอกันตอนหน้าค่ะ!
ปล.มีใครอยากทิ้งใบสมัครเป็นรักแท้ของพี่หวังและพี่แจบอมบ้างไหมคะ 55555 (พี่โอเซหัวใจไม่ว่างซะแล้ว...) ลองทิ้งใบสมัครหรือทายรักแท้ของทั้งสองคนนี้เอาไว้เล่น ๆ ก็ได้นะ แต่ที่จริง... เรามีอยู่ในใจแล้วค่ะ จะเดาถูกกันไหมน้า~~~
ความคิดเห็น