ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha AF8] ☆ My Sassy Boy|รักนะ...เจ้าตัวร้าย ☆

    ลำดับตอนที่ #5 : My Sassy boy ☆ 04

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 54


     My Sassy boy ☆ 04






    “พี่เต๋า... ทำงานเป็นไงบ้างหรอ?” 

    เสียงเล็กเริ่มเอ่ยขึ้นเมื่อรถยนต์คันสีขาวค่อยๆ แล่นออกจากริมถนนที่เต๋ามาจอดรถรับตามปกติ  ไม่น่าเชื่อนะว่าแค่ประโยคคำถามประโยคเดียวกลับทำเอาเต๋ารู้สึกดีได้ขนาดนี้


    “ถ้าช่วงนี้ก็เรื่อยๆ แหละครับ เพิ่งพ้นมรสุมไป วันนี้ก็มีเริ่มโปรเจคใหม่อยู่น่ะ เพิ่งไปรับบรีฟงานมา”  เสียงทุ้มเอ่ยตอบ ก่อนจะถามกลับ  “ทำไมหรอครับ?”


    “เปล่า...ก็แค่อยากรู้  เดี๋ยวชาเรียนจบแล้ว ก็ต้องไปทำงานเหมือนกันนี่”


    “โธ่ คิดว่าชาจะสนใจอยากรู้เรื่องพี่บ้างซะอีก”  เสียงทุ้มพูดหงอยๆ ทำตาละห้อยเหมือนสุนัขที่เจ้าของไม่ให้อาหาร ...ไม่ได้เข้ากับขนาดตัวแม้แต่นิดเดียว


    ก็ไม่ได้ไม่อยากรู้สักหน่อย.. แต่ปกติชาไม่ต้องถามพี่ก็ชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆ อยู่แล้วนี่

    ร่างเล็กได้แต่คิดในใจ ก่อนจะถามต่อ


    “แล้วที่บริษัทพี่เต๋าเป็นยังไงบ้าง?”


    “ก็ดีนะ ไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่มาก บรรยากาศการทำงานอบอุ่นดี เหมือนพี่เหมือนน้อง  แต่ถึงอย่างนั้นงานต้องเนี้ยบนะ เจ้านายใหญ่เขาเฮี๊ยบมาก”  เว้นวรรคไปชั่วครูก็เอ่ยต่อ  “เรื่องสวัสดิการก็โอเค เพื่อนร่วมงานก็ดี”

    คนตัวเล็กนั่งฟังนิ่ง ได้ยินคำว่าเพื่อนร่วมงานแล้วก็เริ่มลำบากใจนิดๆ  ก็คชาน่ะไม่ใช่คนที่เข้ากับคนอื่นง่ายนักหรอกยิ่งต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ คิดแล้วก็เริ่มหวั่นใจ


    “แล้วคนอื่นๆ ในบริษัทเขาเป็นยังไงกันหรอพี่เต๋า?”  คชาซักไซ้ต่อ


    “ส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างอัธยาศัยดี... เพราะมันเป็นบริษัทโฆษณาด้วยล่ะมั้ง  ผู้ชายถ้าเป็นฝ่ายครีเอทีฟก็ออกเซอร์ๆ บ้าง  แต่ผู้หญิงก็แต่งตัวเก่งกันทุกคนอย่างกับออกมาจากแม็กกาซีน แต่งหน้ากันสวยเป๊ะเชียว”


    คนตัวเล็กนึกภาพตามคำบอกของร่างสูง... อันที่จริงก็ผนวกกับบริษัทอีกแห่งที่คชาเคยไปฝึกงานมา... แล้วก็เริ่มนึกต่อในใจเอง

    หมายความว่าผู้หญิงทุกคนสวยหมดเลยใช่ไหม?


    ตาคู่เรียวเหล่ไปมองพี่ชายคนสนิท  ใบหน้าที่ถึงแม้จะเป็นแค่ด้านข้างแต่ก็ดูหล่อเหลา  สันจมูกโด่ง ดวงตาคมคู่โต แถมยังผิวขาวจัดอย่างกับแวมไพร์  การแต่งเนื้อแต่งตัวก็ดูดี... ยอมรับตรงๆ (ในใจ)เลยก็ได้ว่าพี่เต๋านั้นหล่อและดูดีมาก

    แล้วอย่างนี้ คนหล่อแบบพี่เต๋า กับสาวออฟฟิศสวยชิคเหมือนออกมาจาก VOGUE Magazine?


    “มองพี่ทำไมครับตัวเล็ก.. หืม?”  พอเต๋าหันมามอง ใบหน้าหวานก็รีบหันกลับไปอีกทางทันที


    “เปล่า... ชามองออกไปนอกรถนู่นต่างหาก”  ฝ่ายคนตัวเล็กก็ปฏิเสธตามเคย ปากก็ว่าไปหากแต่ในใจยังไม่หยุดคิดเรื่องเดิมๆ


    พี่เต๋ากับสาวออฟฟิศ
    พี่เต๋ากับสาวออฟฟิศ
    พี่เต๋ากับสาวออฟฟิศ


    “เป็นอะไรครับตัวเล็ก หน้ายุ่งเชียว?”  แววตาคู่นั้นหันมามองอย่างอบอุ่นอีกตามเคย หากแค่เพียงครู่เดียวเพราะติดภาระการขับรถอยู่น่ะสิ


    “เปล่า... นี่พี่เต๋า ถามจริงเถอะ ทำไมเรียกชาว่าตัวเล็ก?”  เสียงเล็กเอ่ยถาม ถึงอันที่จริงในใจอยากจะถามออกไปเหลือเกินว่า  แล้วได้เรียกคนอื่นว่าตัวเล็กหรืออะไรแบบนี้บ้างไหม?  ผู้หญิงสมัยนี้ยิ่งตัวเล็กๆ กันอยู่เสียด้วย


    “ก็ชาตัวเล็กไง... พี่ต้องมีเหตุผลอื่นด้วยหรอ?”

    “ก็มันมีคนตัวเล็กอีกตั้งเยอะนี่ ชาก็ไม่ได้ตัวเล็กที่สุดในโลกสักหน่อย”  เสียงคชาเริ่มลดเบาลงในตอนท้าย คิ้วขมวดเข้าหากัน แถมแก้มขาวนั่นก็ออกจะพองลมนิดๆ


    เต๋าเหลือบไปมองตุ๊กตาหน้ารถที่หน้าเริ่มยุ่งอีกครั้ง รอยยิ้มบางอย่างก็ผุดขึ้นมา
    พอจะเข้าใจแล้ว อาการแบบนี้น่ะ

    เขาเรียกว่า
    คิดมาก แล้วก็ยังเริ่ม น้อยใจด้วย


    เป็นจังหวะเดียวกับที่รถติดไฟแดงพอดี  ตาคู่คมจึงหันมามองคนตัวเล็กได้เต็มสายตา  มือเรียววางแหมะบนศีรษะอีกคน ไม่ได้ขยี้อย่างหมั่นเขี้ยวหากแต่ลูบเบาๆ จนเจ้าของศีรษะกลมๆ ต้องหันมาช้อนตามอง


    “ตัวเล็กของพี่... พี่เรียกเราว่าตัวเล็กไม่ใช่เพราะว่าเราตัวเล็กที่สุด  อันที่จริงออกจะตัวหนักด้วยซ้ำ”  เต๋าว่าแล้วก็นึกถึงวันที่คนตรงหน้าหลับสนิทแล้วต้องอุ้มเข้าไปในบ้าน  หนักใช่ย่อยเลยล่ะ


    หากแต่คชากลับเบะปากเมื่อได้ยิน 
    ใช่สิ ชามันตัวหนักจะตาย... ไม่ได้หุ่นดีเหมือนสาวออฟฟิศพวกนั้นหรอก
    !


    “อย่าเพิ่งทำหน้ายุ่งสิ ฟังก่อน.. พี่จะบอกว่า แต่เพราะชาเป็นชาไง พี่ถึงมีชื่อพิเศษเอาไว้เรียกเรา”  ใบหน้าหล่อเหลาเขยิบเข้าไปใกล้ ประสานสายตากับอีกคนอย่างจริงใจ

     

    “กับคนอื่นน่ะ พี่ไม่มีหรอกครับ...เข้าใจไหมตัวเล็กของพี่?”

    มือหนาลูบหัวเล็กอย่างทะนุถนอมอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับไปเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี

    ไม่เหมือนกับเด็กน้อยหน้ารถที่ใบหน้ากำลังขึ้นสีแดงจัดเพราะความขวยเขิน


    ตัวเล็กของพี่

    ตัวเล็กของพี่

    ตัวเล็กของพี่

    พี่เต๋านะพี่เต๋า... เอาอีกแล้วนะ ชอบมาพูดให้เราอะไรแบบนี้อีกแล้ว!  -///-

    ให้มันจริงเถอะ อย่าให้เห็นว่ามีตัวเล็ก ตัวบาง ตัวสั้น ตัวยาว ตัวขาว ตัวดำ ที่ไหนก็แล้วกัน!!!!

     

     



     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     


     

     

    เสียงกลองตีรัว ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดเฮฮาดังก้องอึทึก คงจะเป็นที่ชวนสงสัยแก่คนอื่นๆ แน่ว่าในวันเสาร์แบบนี้มีกิจกรรมอะไรกัน  ร่างเล็กที่เพิ่งลงจากรถเมล์ค่อยๆ เดินก้าวไปตามเสียงดังครึกครื้นนั่น  ไม่ช้าก็มาถึงลานภายในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  เขาถูกรุ่นน้องที่คณะเรียกให้ไปลงทะเบียนก็ได้สติ๊กเกอร์สีน้ำเงินที่เขียนว่า  คชา #4  มาแปะโชว์หราที่เสื้อ  รู้สึกอายอยู่หน่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าใครๆ ในงานก็ติดกัน... แต่ต่างกันตรงที่ของคณะสถาปัตย์เป็นสติ๊กเกอร์สีแดง ส่วนคณะบริหารเป็นสีเขียว 

    ขาเรียวก้าวเดินไปอีกหน่อย ตาเล็กก็เบิกกว้างขึ้น ตกใจนิดๆ ที่เห็นผู้คนมารวมตัวกันมากขนาดนี้... คชานับคนคุ้นหน้าได้ไม่ถึงสิบ  แล้วคนที่ตามหาล่ะอยู่ไหน?

    ต้นนะต้น... ทำไมต้องนัดมางานอะไรก็ไม่รู้ก่อนด้วย!

    งานอะไรก็ไม่รู้ในความคิดของคชา... อันที่จริงคืองานกระชับสัมพันธ์ของสามคณะที่ตั้งอยู่ติดกันแต่แทบไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลย  ประกอบด้วยคณะบริหารหรือบัญชี(ตามแต่จะเรียก), คณะนิเทศที่คชาเรียนอยู่ และคณะสถาปัตย์ที่ใช้เป็นที่จัดงานนี่แหละ

    นิ้วเล็กกำลังจะจิ้มปุ่มโทรออกซ้ำอีกครั้งก็ถูกคนคุ้นหน้าเรียกไว้ก่อน

    “คชา.. ทางนี้” 
    ขาเรียวรีบก้าวเท้าไปหาโดยฉับพลัน  ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหนุ่มแว่นอย่าง โปเต้เพื่อนซี้ หนึ่งในผู้ร่วมทริปกินบุฟเฟต์เย็นนี้... อันที่จริง การออกจากบ้านมาหาเพื่อนในวันเสาร์ที่โคตรจะผิดวิสัยของคชาก็เป็นเพราะเหตุนี้เอง

    ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ไหน  พอคชาถามก็ได้ความว่าไปนั่งกันตรงแสตนด์ที่อยู่ตรงข้ามกับตรงที่คชานั่งอยู่น่ะสิ... ตรงนั้นน่ะเป็นแสตนด์ อยู่ในที่ร่มๆ มีพัดลมตัวใหญ่ แถมพิธีกรก็หันหน้าเข้าฝั่งนั้นเป็นส่วนใหญ่ด้วย  ส่วนที่คชากับโปเต้นั่งน่ะ เป็นพื้นธรรมดา คนก็ไม่ค่อยมี  คชาจึงได้นั่งแถวหน้าสุดแบบไม่ต้องไปแก่งแย่งกับใครๆ

    คชานั่งลงข้างๆ โปเต้ที่พื้นว่างๆ ตรงขอบสนาม มองไปไม่ไกลก็เห็นผู้ชายผมยาว (แน่นอนว่าคงเป็นเด็กสถาปัตย์) ยืนอยู่กับเพื่อนร่วมคณะของเขา กำลังซักซ้อมเตรียมการบางอย่างอยู่  สงสัยจะเป็นพิธีกรคู่ต่อไปในงานแน่ๆ


    และก็เป็นเรื่องจริง  เมื่อหมดจากกิจกรรมปัจจุบัน  พิธีกรทั้งสองที่ตอนแรกคชาเห็นอยู่ใกล้ๆ ก็เดินไปนำเข้าสู่ช่วง แจว ที่มักจะเรียกให้คนเด่นๆ ดังๆ ของแต่ละคณะลุกขึ้นมาแจวท่ามกลางประชาชีนี่เอง

    ร่างเล็กนั่งมองคนสวยๆ หล่อๆ ไม่ก็คนฮาๆ ที่ลุกขึ้นมาเต้นแจวแล้วก็อดยิ้มไม่ได้  อันที่จริงก็เพลินดีเหมือนกัน... หนุ่มสถาปัตย์หล่อเซอร์อย่างที่ดิวว่า สาวบัญชีก็ขาวสวยหมวยอย่างที่เคยได้ยิน  ส่วนประชากรคณะนิเทศน่ะหรอ... เน้นเอาฮากับบ้าไว้ก่อนล่ะมั้ง

     

    แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
    แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว

    แจวเรือไปซื้อปืนอาก้า...

    เพลงแจวถูกพิธีกรนำร้องขึ้นตามเดิมเป็นหนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้... แต่เดี๋ยวนะ ช่วยบอกคชาทีว่าครั้งนี้เขาหูฝาดไปรึเปล่า???

    แจวเรือไปซื้อปืนอาก้า... ขอน้องคชาลุกขึ้นมาแจว

    อยู่ดีๆ พิธีกรก็เรียกคนชื่อ คชา ให้ลุกขึ้นมาแจวซะอย่างนั้น  ที่สำคัญมาจากปากพิธีกรคณะสถาปัตย์ไม่ใช่นิเทศเสียด้วย  โปเต้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับหันมาสะกิดให้ร่างเล็กลุกขึ้นมาแจว  สายตาหลายคู่ (ของเด็กนิเทศ) ก็มองตรงมาที่เขาอย่างคาดหวัง

    เฮ้ย... สรุป คชา ที่ว่านั่นมันเขาหรอ? (ยังคงถามตัวเองแม้ในใจจะรู้ดีกว่า คชา ไม่ใช่ชื่อโหลๆ ที่จะมีใครซ้ำง่ายๆ แน่)

     

    กว่าคนตัวเล็กจะทำใจให้ลุกขึ้นยืนได้... ก็ปาเข้าไปท่อนสุดท้ายซะแล้ว

    จนพิธีกรสาวนิเทศต้องบอกขอให้ร้องแจวใหม่อีกเที่ยว เพราะของดีต้องรอกันหน่อย  อ้าว..เป็นงั้นไป นี่คชากลายเป็นของดีประจำคณะไปแล้วหรอ???

     

    แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
    แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว

    แจวเรือไปซื้อปืนอาก้า แจวเรือไปซื้อปืนอาก้า... ขอน้องคชาลุกขึ้นมาแจว

    คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนอีกครั้งแม้จะอายแสนอาย แต่ถ้าไม่ยอมลุกขึ้นมาก็กลัวจะเป็นที่เพ่งเล็งไปใหญ่  คชายิ้มเจื่อน  มือเล็กกำน้อยๆ ทำท่าแจวไปกับอากาศ  พยายามทำท่าธรรมดาๆ แต่เอาให้ตรงจังหวะเป็นพอ

    แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
    แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว

    อาจจะแค่ไม่ถึงสิบวินาทีเสียด้วยซ้ำ แต่มันกลับยาวนานเหลือเกินในความคิด... พอจบปุ๊บคนตัวเล็กจึงรีบนั่งลงทันที  มือสองข้างยกขึ้นขยี้หัวแก้เขินตามความเคยชิน พลางหันไปกระซิบบอกเพื่อนซี้ว่าอับอายแค่ไหน  ไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาของคนนับร้อยที่มองมาที่เขาประหนึ่งกำลังพูดว่า น่ารักอ้ะ’  แถมบางคนถึงกับยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมากดชัตเตอร์ใส่เสียด้วยสิ

    “คชา... จบงานนี้มีคนมาจีบแกแน่”  โปเต้หันไปบอกเพื่อนหน้าหวานข้างๆ

    “จะบ้าหรอ... ไม่มีโว้ย”  เสียงใสพูด ติดจะโวยวายนิดๆ 


    คนมาจีบเนี่ยนะ... ไม่มีทาง
    !


     

    เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงห้าโมงเย็น งานกระชับสัมพันธ์นี้ก็พักให้ทุกๆ คนไปกินข้าวเย็นก่อนจะมาต่อภาคกลางคืน  หากแต่กลุ่มของคชาซึ่งนัดแนะจะไปกินบุฟเฟ่ต์กันต่อจึงแยกตัวออกมา

    อันที่จริง คชาก็เพิ่งจะได้เจอเพื่อนๆ ที่เหลือนอกจากโปเต้ก็ตอนนี้นี่แหละ ก็เลยโดนแซวยกใหญ่เลยสิ

    “คชา... ฉันเห็นนะตอนแกโดนเรียกแจวอะ”  ต้นพูดขึ้นเป็นอย่างแรก

    “ฉันแอบได้ยินคนชมว่าแกน่ารักด้วย”  ดิวเสริมต่อ


    ทว่าคชากลับส่ายหน้ายกใหญ่ กำลังจะบอกให้ทุกคนจบๆ เรื่องนี้ไปซะ ก็ดันมีผู้ชายไม่คุ้นหน้าเดินฝ่าเข้ามากลางวงเสียก่อน...  เขาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยขึ้น


    “น้องคชาใช่ไหม เพื่อนฝากให้เอามาให้ครับ”  ว่าแล้วก็ยื่นเศษกระดาษเล็กๆ ใส่มือน้อยของคชาก่อนจะเดินจากไป

    ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้เปิดมันดู  กระดาษในมือก็ถูกเพื่อนซี้ผิวสีอย่างต้นแย่งไปอ่านเสียก่อน

     

    “อยากรู้จักครับ – พี่อ้น สถาปัตย์ปี 5 ภาค ID”

     

    ข้อความในกระดาษถูกอ่านเสียงดังซะจนคชาต้องเอามือมาปิดหน้าด้วยความอาย แถมแต่ละคนก็ทำเสียงโห่ฮิ้วกันยกใหญ่ 


    บ้าแล้ววววววววววววว


    “มีเบอร์ด้วยนะเว่ย 
    085 233 2…”


    ไม่รอให้เพื่อนอ่านจนจบ มือเล็กก็รีบฉกมันคืนมาเสียก่อน  ขาเรียวรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กเอาไปทิ้งที่ถังขยะด้วยความอับอาย

     

    “โหย คชา... ฉันรู้ว่าแกมีพี่เต๋าอยู่แล้ว.. แต่คือจะทิ้งเพื่อ? ทำไมไม่เอามาให้พวกเราวะ?” (หลิน)

    “ใช่ๆ... ว่าแต่อ้นนี่ใช่คนที่เป็นพิธีกรรึเปล่าวะ... เห็นชื่ออ้นอยู่ปีห้าเหมือนกัน  ถ้าใช่นี่เสียดายอ้ะ” (จอย)

    “โห คนนั้นอย่างหล่อเทพเลยนะ” (ดิว)

    “ต้องใช่แน่ๆ ไม่งั้นเขาจะเรียกคชาขึ้นมาแจวทำไม... โอ๊ย คิดแล้วเขินแทน” (ต้น)

     

    ดูเหมือนเหล่าสาวๆ (?) จะนึกอิจฉาเจ้าตัวเล็กเหลือเกิน  คชาจึงได้แต่โวยกลับไปตามประสา

     

    “อยากได้นักก็ไปเก็บในถังขยะดิ มันยังไม่หายไปไหนหรอก” 

    ปากเรียวเบะออกด้วยความไม่พอใจ  รู้หรอกว่าที่ทุกคนพูดน่ะไม่ได้อยากจะได้เบอร์ของพี่อ้นพี่เอิ้นอะไรนั่นจริงๆ หรอก  แต่แค่อยากจะล้อเขาเล่นน่ะสิ
    !!!!


     

    “โอ๋เอ๋ๆ ชาก็...ทำเป็นงอนไปได้  เพื่อนสัญญานะว่าจะไม่บอกพี่เต๋าอ้ะ เชื่อเพื่อนสิ เนอะๆ” (ต้น)

    “ใช่... สัญญาด้วยเกียรติของหัวหน้าเนตรนารีกอง 3 หมู่ 1 เลยจ้า... โปเต้ แกด้วยสิ” (ดิว)

    “เออๆ ใช่ๆ”  (โปเต้)

    “รักคชาน้อยนะ... ไม่ฟ้องพี่เต๋าหรอก” (จอย)

    “รักดอกจึงหยอกเล่นน้า... อย่าทำหน้าบู้บี้สิเดี๋ยวพี่เต๋าไม่ชอบหรอก” (หลิน)

     

    โอ๊ย เจ้าพวกนี้  พอเลิกล้อเรื่องเด็กสถาปัตย์ก็เปลี่ยนมาเป็นพี่เต๋าแทน
    ชาอยากจะบ้า นี่ขนาดไม่ค่อยให้พี่เต๋ามาเจอเจ้าพวกนี้นะ
    !


    ถึงคนตัวเล็กจะไม่ชอบใจอย่างไรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะรู้ดีถ้ายิ่งไปต่อความยาวสาวความยืดมีหวังได้โดนล้อไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ


    “พอๆๆๆ ทุกคนหยุด... ไปกันได้แล้ว หิว”  คนตัวเล็กทำโมโหหิวเปลี่ยนเรื่องก่อนจะก้าวขานำออกไป



    ดูเหมือนวันนี้คชาจะแพ้ทางเหล่าเพื่อนๆ อีกตามเคย...

     

     

     


    TBC

    ขอเสียงกรี๊ดให้พี่อ้นหนุ่มสถาปัตย์ปีห้าหน่อยค่า อิอิ (จะมีไหม?)
    ตอนนี้ไม่สวีทวิ้ดวิ้วเลย ฮ่าๆๆ แต่ก็ได้รู้จักเพื่อนสุดแสบของคชากันมากขึ้นขอบคุณทุกคนจ้า  อย่าลืมคอมเม้นกันน้า  อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×