คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : My Sassy boy ☆ 05 [X'mas 1/2]
My Sassy boy ☆ 05
X'mas 1/2
กว่าลมหนาวปีนี้จะมาถึงกรุงเทพมหานครก็เกือบปลายเดือนธันวา
ร่างเล็กหยิบเอาเสื้อคลุมสีเทาลายจุดสีขาวขึ้นมาสวมทับ เป็นวันแรกในฤดูหนาวปีนี้ที่มันถูกหยิบออกมาใช้จากในตู้ หลังจากถูกแขวนทิ้งไว้นานหลายเดือน
ตาเรียวยืนมองปฏิทินในห้องนอน... อีกเพียงแค่อาทิตย์เดียวก็จะปีใหม่แล้ว
ปีใหม่... เทศกาลแห่งความสุขของใครต่อใคร แต่กับคนตัวเล็กแล้ว มันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
คชาจะมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อวันที่ 30 ธันวา เป็นวันคล้ายวันที่พ่อของคชาเสียชีวิต และเหมือนผู้เป็นแม่จะรู้ใจเด็กน้อยคนนี้ดี เธอจึงมักพาลูกชายไปเที่ยวในช่วงปีใหม่เสมอๆ
“ปีใหม่นี้จะไปเที่ยวไหนดีจ๊ะลูก?” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามบุตรชายที่กำลังทานข้าวเช้าอยู่ตรงหน้า “เชียงใหม่ หัวหิน ภูเก็ต หรือจะไปฮ่องกงดี?”
“ไม่รู้สิครับ...” ตอบเสร็จก็จับช้อนเข้าปากอีกคำ “แต่ชา.. อยากอยู่บ้านมากกว่า”
“เอางั้นหรอลูก?”
“ครับแม่” คนตัวเล็กเงยหน้าตอบ “เปิดปีใหม่มามีส่งงานน่ะครับ แถมยังมีสอบด้วย”
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะจ๊ะ?”
“ครับแม่... ชาลองคิดดูแล้ว แต่ปีนี้มันเหนื่อยจริงๆ ขี้เกียจไปไหนไกลๆ ด้วย”
“ถ้าอย่างนั้น... ถ้าชาจะอยู่บ้านคนเดียว จะไหวไหม?” เห็นลูกชายมองหน้างงจึงรีบขยายความต่อ “บริษัทแม่มีทริปไปเที่ยวพอดีน่ะสิ.. เป็นโบนัสให้พนักงาน ตอนแรกแม่บอกไม่ไปแล้วเพราะว่าจะไปเที่ยวกับลูก แต่ว่า...”
“แม่ไปเถอะครับ ชาอยู่ได้” เสียงเล็กรีบเอ่ย ยิ้มให้ผู้เป็นแม่สบายใจ
“ชาอยู่ได้จริงๆ ครับแม่... ชาโตแล้วนะ”
หรืออย่างน้อย... ก็กำลังจะโตแล้วล่ะมั้ง
- - - - - - - - - - - - - - - -
เย็นวันนี้ไม่มีสารถีขับวีออสสีขาวมารับคชาอย่างเคย... เป็นเพราะคชาเองนั่นแหละที่เพิ่งส่งข้อความไปบอกพี่ชายคนเดิมว่าวันนี้จะกลับบ้านเอง ก็วันนี้คนตัวเล็กเพียงแค่อยากมาหาซื้อของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไว้สำหรับปีใหม่ก็เท่านั้น
เดินดูของชิลๆ กับสาวฮาอย่างดิว เข้าออกร้านนู่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย
สุดท้าย... เด็กน้อยก็ได้ถุงมือนุ่มๆ อุ่นๆ สีขาวมาหนึ่งคู่
สำหรับคุณแม่... ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชีวิตของเขา
ก็ปีใหม่นี้คุณแม่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกับที่บริษัทนี่นา
“เฮ้ย... ชา ไปดูนู่นกัน”
ดิวว่าพลางจ้ำเดินนำไปที่ร้านกิ๊ฟท์ช้อปที่เต็มไปด้วยสิ่งของน่ารักๆ คชาหันซ้ายหันขวา แล้วก็ไปสะดุดตากับเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่มองดูน่าจะเป็นเพื่อนกับเจ้ากาแฟที่บ้านได้เลยเพราะตัวขนาดพอๆ กัน หากแต่เป็นสีขาวมองดูสะอาดตา
มือเล็กยื่นไปสัมผัสความนุ่มของมัน... ใช้นิ้วเล็กกดลงที่แก้มใหญ่ๆ ตัวมันนุ่ม... นุ่มยิ่งกว่าเจ้ากาแฟเสียอีก ทว่าแตกต่างตรงที่ความรู้สึกบางอย่าง
เพราะตัวนี้ไม่ใช่ของคชา ไม่ได้มีพี่ชายคนนั้นให้มาล่ะมั้ง มันถึงไม่เหมือน
ยืนมองมันอยู่ไม่นาน คนตัวเล็กก็ถูกดิวลากให้ไปอีกมุมหนึ่งของร้าน ดิวให้เขาช่วยดูที่คาดผมแฟนซีที่มีหูแปลกๆ ออกมา คชาหยิบออกมาลองใส่ดูอันสองอันก็วาง จนสายตากลับไปสะดุดที่มุมหนึ่งที่เต็มไปด้วยข้าวของที่เป็นรูปเป็ด
คชาจำได้ดี... ว่าตอนประถมคชาชอบถูกเพื่อนเรียกว่า 'เป็ด' อยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นฉายา คงจะมาจากการชอบทำปากเหมือนเป็ดของเขาล่ะ
ตาเรียวเล็กไล่กวาดไปที่ชั้นวาง มีตั้งแต่กระเป๋า รองเท้าใส่ในบ้าน ที่ใส่ทิชชู่ พวงกุญแจ ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ดินสอ ปากกา และยังสิ่งของอื่นๆ อีกมากมาย มันละลานตาเสียจนทำเอาตาคู่เรียวเล็กนั่นกลอกวนไปมาอยู่หลายรอบ โดยไม่รู้ตัว ข้อศอกน้อยๆ ก็ไปสะกิดโดนของอย่างหนึ่งตกลงบนพื้น
คนตัวเล็กรีบก้มลงเก็บ มันเป็นของเล่นเด็กง่ายๆ รูปเป็ดสีเหลืองทำจากยาง ที่บีบแล้วมีไฟสีแดงออกมาจากภายใน มือเล็กถือมันจ้องมองในระดับสายตา... ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ก็คิดว่ามันดูน่ารักดี จนสุดท้ายจึงหยิบมันไปชำระเงินเสียได้
- - - - - - - - - - - - - - - -
คริสต์มาสมาถึงแล้ว...
ถึงแม้ปกติในทุกๆ ปี คนตัวเล็กจะไม่ได้สนใจอะไรกับเทศกาลนี้เป็นพิเศษ หากแต่ไม่ใช่ในปีนี้ เพราะปีนี้คุณแม่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปีใหม่พอดีนี่สิ... คชาเลยคิดอยากจะฉลองคริสต์มาสกับแม่ส่งท้ายปีไปในตัวก่อนจะไม่ได้อยู่กับแม่ตั้งเจ็ดวัน
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม... ตรงกับคริสต์มาสอีฟพอดี จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทานมื้อเย็นกับคุณแม่ตามธรรมเนียมฝรั่งเป๊ะๆ
และเพราะความบังเอิญบางอย่างที่ทำให้วันนี้คุณแม่ของคชามีธุระข้างนอกพอดี กว่าจะกลับมาก็ช่วงเย็น คชาเลยแอบคิดแผนจะเซอร์ไพรส์คุณแม่ด้วยอาหารอร่อยๆ ที่วางรออยู่ที่โต๊ะน่ะสิ!
คนตัวเล็กวางแผนไว้เสร็จสรรพ... นึกภาพอาหารมากมายที่วางรออยู่บนโต๊ะ
ทุกอย่างเตรียมพร้อม ขาดแค่อย่างเดียว...
คชาทำอาหารไม่เป็น!
และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้พี่ชายหน้าหล่อคนเดิมต้องมาหาคนตัวเล็กในวันเสาร์ตอนบ่ายโมงแบบนี้
“ตัวเล็กอยากกินอะไรดีครับเย็นนี้?”
เสียงทุ้มเอ่ยพลางเข็นรถเข็นในซุปเปอร์ด้วยท่าทางราวกับนายแบบ ถึงแม้ร่างสูงจะแต่งตัวง่ายๆ ด้วยเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ ก็เถอะ แต่มองดูแล้วคิดว่านายแบบ LEVI’S มาเองก็ไม่ปาน
“อยากกิน...” เสียงเล็กเอ่ยไม่ครบประโยคก็ถามขึ้นใหม่ “พี่เต๋าทำอะไรเป็นบ้างดีกว่า?” ตาเรียวหรี่มองด้วยท่าทางไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ ก็อาหารฝีมือพี่เต๋าที่คชาเคยกินน่ะ มีแค่ไข่ตุ๋นมื้อเดียวเองนี่!
“เพื่อตัวเล็ก... พี่ทำได้ทุกอย่างแหละครับ” เต๋าหยอดคำหวานเลี่ยนซะจนคนฟังต้องเบะปากออกมา ก่อนจะแกล้งพูดท้าทายกลับไปบ้าง
“ถ้าชาอยากกินหูฉลามล่ะ?”
“พี่ก็จะขับรถออกไป... ซื้อที่เยาวราชไงครับ ฮ่าๆๆ” คนพูดหัวเราะร่า ส่วนคนฟังที่เบะปากน้อยๆ ก็พลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบางๆ แทน
“เลิกพูดเล่นได้แล้วน่า... เสียเวลาเหอะ นี่บ่ายโมงครึ่งแล้ว” พูดทำหน้าดุแต่ดูยังไงเสียก็ต้องบอกว่าน่ารัก “ชาอยากกินสปาเกตตี้ครีมซอส ไก่อบ มันอบ สลัด แล้วก็...เค้ก ไอศกรีมด้วย... ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ น้ำพั้นช์... ชาอยากกินพั้นช์”
“โอเคครับ เดี๋ยวพี่เต๋าจัดการเอง สบายหายห่วง” ว่าแล้วก็เข็นรถเข็นไปยังสิ่งของที่ต้องการ มือยาวคว้าผงทำครีมซอสเป็นอย่างแรก ก่อนจะหันไปผายมือให้คนตัวเล็กเลือกแบบเส้นสปาเกตตี้เป็นอย่างที่สอง ใบหน้าขาวยกยิ้มให้เด็กน้อยขี้กังวลได้อุ่นใจ
หายห่วงแน่ๆ เพราะที่เต๋าต้องทำมีแค่สปาเกตตี้ครีมซอสที่อร่อยง่ายๆ ด้วยเครื่องปรุงสำเร็จ แล้วก็ไก่อบที่พอจะมีสูตรอยู่แล้ว มันอบง่ายๆ... ส่วนสลัด เค้ก ขนม ไอติมล่ะก็.. ซื้อเอาโลด
กว่าจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาจะบ่ายสองโมงกว่า... ร่างสูงรีบเดินเข้าครัว ล้างภาชนะที่ไม่ค่อยได้ใช้ เตรียมอุปกรณ์เครื่องครัวไปพลางๆ
เสร็จแล้วก็หยิบไก่ออกมาหั่นเป็นชิ้นเป็นอันดับแรก ก่อนจะเอานำมันใส่ภาชนะเพื่อเตรียมล้างให้สะอาด และใส่เครื่องปรุงเพื่อหมักให้เข้าเนื้อ
หันไปคว้ากระเทียมมาสับๆ เข้าอีกที... เสียงฝีเท้าใครอีกคนก็ดังขึ้น
ตาคู่คมหันไปมอง ก็พบคนตัวเล็กคนเดิมที่ยื่นของในมือมาให้
“ใส่นี่ก่อนสิ”
เอ่ยเสร็จก็คลี่ของในมือออก ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายสก็อตยับย่น... อย่าบอกนะว่าเมื่อกี๊เจ้าตัวเล็กไปหาผ้านี่ออกมาให้
คนตัวสูงยกยิ้มดีใจ หากแต่กางมือชูขึ้นให้อีกคนเห็นว่ากำลังเปื้อนอยู่
“มือพี่เลอะอยู่... ชาใส่ให้พี่หน่อยสิ” เอ่ยเสียงนุ่ม หยอดสายตาหวานซะจนอีกคนต้องหลบสายตา
คนตัวเล็กเห็นดังนั้นก็เบะปากออกอีกครั้ง หากแต่ทำตามโดยดี เพราะเห็นแก่แม่หรอกนะ!
เต๋ายืนนิ่งให้อีกคนเข้ามายืนประจันหน้าโดยง่าย สองมือเล็กจับปลายเชือกเอาไว้ อ้อมไปผูกที่ด้านหลังลำคอขาว
ลูกเสือสามัญก็เรียนผ่านมาแล้ว... หากแต่คชากลับไม่เคยรู้สึกว่าการผูกเชือกมันยากขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะนาทีที่เผลอสบดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นเข้า
ถึงได้รู้ ว่าพี่เต๋ากำลังมองเขาราวกับหมาป่าจ้องจะกินหนูน้อยหมวกแดง
มือเล็กรีบผูกเชือกในมือที่ด้านหลังคออีกฝ่ายให้เสร็จไวๆ แต่เหมือนยิ่งรีบ ใจมันยิ่งลนลานพาลเอาช้าไปหมด จนต้องพยายามผูกใหม่อีกครั้งอย่างงกๆ เงิ่นๆ พอเสร็จก็รีบชักมือออกทันที
“ผูกข้างหลังด้วยสิครับ” เสียงเดิมอ้อนขออีกครั้ง หากแต่แววตานั้นกลับดูระริกระรี้ซะจนคชาทำปากยื่นด้วยความหมั่นไส้
น่าจะเอาผ้ากันเปื้อนนี่รัดคอให้ตายไปเลย... ว่าไหม?
สุดท้าย อาหารในวันนี้กว่า 80% ก็เป็นฝีมือของพนักงานออฟฟิศหนุ่มที่ผันตัวกลายมาเป็นเชฟชั่วคราว ส่วนที่เหลือเป็นของลูกมือตัวเล็กที่มาช่วยทำนู่นนิดนี่หน่อยแบบงงๆ
กว่าอาหารทั้งหมดจะถูกเตรียมพร้อม ก็ห้าโมงเย็นพอดี...
คชานั่งมองอาหารทั้งหมดบนโต๊ะพลางยิ้มหน้าบาน ดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นมันออกมาเสร็จสมบูรณ์ แถมยังดูดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก
คนตัวเล็กหันไปมองพี่ชายคนสำคัญที่กำลังหั่นเลมอนเป็นชิ้นบางๆ เพื่อนำมาใส่ในพั้นช์ ขาวเรียวเดินไปดุ่มๆ เข้าไปหา หากแต่อ้อมไปยืนด้านหลัง
คนตัวโตกำลังจะหันกลับไปมองดูอีกคน แต่ก็ต้องชะงักเสียก่อน เมื่อมีสัมผัสจากมือคู่น้อยมาบีบๆ นวดๆ ที่ไหล่ทั้งสองข้างของเขา ราวกับรู้ใจว่ากำลังรู้สึกเมื่อยอยู่พอดี
“เมื่อยตรงนี้ใช่ไหม?” ริมฝีปากบางเอ่ยถาม พลางค่อยๆ ลงน้ำหนักมือนวดไปตามแนวไหล่กว้าง
ก็คนตัวเล็กแอบเห็นพี่เต๋าของเขาบีบไหล่ตัวเองมาตั้งหลายครั้งแล้วนี่นา...
“ครับ” เต๋าตอบสั้นๆ ก่อนที่มือจะเริ่มหั่นเลมอนชิ้นบางต่อ ริมฝีปากหนาผุดรอยยิ้มเปี่ยมสุขขึ้นมา...
ยังไม่หายเมื่อยในทันทีหรอก แต่การที่มีคนตัวเล็กมานวดไหล่ให้แบบนี้ มันรู้สึกดียิ่งกว่าการหายเมื่อยจริงๆ อีก
“ขอบคุณนะพี่เต๋า” เสียงเล็กเอ่ยขณะที่มือคู่เดิมยังคงทำหน้าที่นวดแผ่นหลังกว้างตรงหน้าต่อไป “คริสต์มาสปีนี้พิเศษที่สุดเลย” เสียงเดิมเอ่ยต่อ
คริสต์มาสปีนี้ของพี่ก็พิเศษที่สุดเหมือนกัน... เต๋านึกตอบในใจ ไม่ได้เอ่ยมันออกไป หากแต่กลับเอ่ยทะเล้นๆ ออกไปแทน
“พิเศษเพราะมีพี่หรอ?”
หันมาหยอดยิ้มหวานให้คนที่ยืนอยู่ด้านหลัง มือเล็กคู่เดิมจึงแกล้งทุบแผ่นหลังนั่นแรงๆ ซะจนอีกคนต้องร้อง “โอ๊ย” ออกมา...ถึงจะโอเว่อร์เกินจริงไปหน่อยก็เถอะ
“พิเศษเพราะจะได้กินของอร่อยๆ กับคุณแม่ต่างหาก” คชาพูดพลางปล่อยมือจากแผ่นหลังกว้างเมื่อเห็นพี่เต๋าหั่นเลมอนชิ้นสุดท้ายเสร็จ
“ทำเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปเลย ชิ่วๆ” แกล้งทำท่าเป็นไล่ หากแต่ริมฝีปากบางยังอมยิ้มบางอย่างเอาไว้
“อะไรกัน... เหนื่อยทำกับข้าวแทบตาย ไอ้เราก็หวังจะมีคนใจดีมาป้อนเสียหน่อย” เต๋าวางมีดลงกับเขียงไม้ หันมาพูดเสียงออดอ้อนกับคนตัวเล็กตรงหน้า “อั้มๆ... ป้อนหน่อยสิครับ” อ้าปากกว้างหวังจะเย้าแหย่อีกคนเล่น
คชาเห็นอย่างนั้นจึงเล่นด้วยโดยการหยิบเลมอนชิ้นบางนั้นยัดใส่เข้าไปในปากอีกคน หัวเราะคิกคักอย่างสะใจ “อร่อยไหมพี่ต๋าวววว?” ลากเสียงยาวถามอย่างยียวนบ้าง
เต๋ามองเด็กน้อยยืนหัวเราะสนุกแล้วก็นึกอยากเอาคืน...
“อร่อยมากเลยครับ อยากให้ตัวเล็กมาชิมด้วยจัง”
ว่าแล้วสองมือที่ยังมีกลิ่นเลมอนติดก็โอบหลังอีกคนไว้ไม่ให้หนีไปไหน พลางยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้ ปากหนายิ้มเจ้าเล่ห์ ค่อยๆ เคลื่อนมันเข้าไปใกล้ริมฝีปากของอีกฝ่ายราวกับจะส่งชิ้นผลไม้ในปากให้อีกคนชิมด้วยกัน
คนตัวเล็กเริ่มหน้าขึ้นสี... จากที่เล่นสนุกกลายเป็นต้องมาเขินเสียเอง พี่เต๋าจะให้เขาชิมเลมอนแบบนี้หรอ??? ไม่น้า..... เสียงหัวใจเต้นรัวแรงจนแทบจะระเบิดออกจากอก เบนหน้าหนีแต่อีกคนก็ยังตามมา
ก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ด้านพี่ชายตัวโต จากตอนแรกที่แค่คิดจะหยอกร่างเล็กเล่นๆ เริ่มกลายเป็นความหวั่นไหวในใจเสียเอง ตาคมมองดูริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อตรงหน้าที่เม้มเข้าหากันราวกับจะปิดกั้นการรุกราน แต่หากยิ่งดูเชิญชวนในความคิด
ถ้าได้ลองชิมดูสักครั้งจะหวานดับรสเปรี้ยวฝาดของเลมอนนี่ได้ไหมนะ?
ไม่ต้องใช้สมองตรึกตรองอะไร หัวใจก็นำพาให้ปากหนาเคลื่อนเข้าใกล้ยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะแนบสัมผัสนุ่มนวลบางเบาแก่เด็กน้อยที่หลับตาปี๋ตรงหน้า
มาถึงขนาดนี้ คงไม่มีอะไรมาหยุดนายเต๋าได้อีกต่อไป...
“คชา... อยู่ไหนน่ะลูก?”
เว้นซะแต่เสียงเรียกของหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็น แม่ ของคนตัวเล็กนี่น่ะสิ!!! ที่ทำให้เต๋าต้องรีบผละออกในทันที
คนตัวเล็กที่เบิกตาโพลงกับเหตุการณ์ทั้งหมด พยายามตั้งสติก่อนจะส่งเสียงตอบกลับไป
“อยู่ในครัวครับแม่”
ว่าพลางยกมือขึ้นขยี้ศีรษะหวังจะให้บรรเทาอาการคุ้มคลั่งที่คั่งค้างในจิตใจ
ไม่อยากจะนึกเลยว่า... ถ้าคุณแม่ยังไม่กลับมา... ถ้าไม่มีเสียงคุณแม่ที่เรียกเอาไว้
ป่านนี้...
เรากับพี่เต๋า...
คงจะ....
.........................
....................................
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แล้วทำไมเราต้องไปนึกขึ้นมาด้วยเล่า!
-///-
TBC
มันเร็วไปไหม คริสต์มาสแล้ว รู้สึกไม่ค่อยอิน (ก็ที่บ้านยังนั่งร้อนอยู่เลย ฮ่าๆๆ)
ตอนแรกจะข้ามตอนนี้ไปแล้ว แต่มันก็ดูโดดๆ อยู่ เลยใส่มาให้เวลาดูต่อเนื่องกัน
ฉากนี้เรียกจูบกันได้ไหมอะ? แค่แตะๆ กันเอง ยังไม่เรียกจูบเนอะ อิอิ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากๆ นะค้า จุ๊บจุ๊บ <3
อ่านแล้วคิดเห็นยังไงก็เม้นกันหน่อยนะ ฟิคเราอืดไปไหมอะ กลัวคนไม่ชอบจังง่า เหอๆ
ความคิดเห็น