Story of a Boy
แจ็คกับผมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นเราก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง แต่หลังจากนั้น4 ปี ผมได้กลับไปเยี่ยมเพื่อนสนิทของผมคนนี้... เรื่องมันก็ได้เริ่มขึ้น
ผู้เข้าชมรวม
217
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แจ็คเป็นเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่ผมยังเด็กๆ เราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน บ้านเราไม่ห่างกันมาก เดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง นอกจากนี้เรายังเรียนที่โรงเรียนเดียวกันตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย ฉะนั้นคงไม่ต้องพูดถึงความสนิทของพวกเราสองคนว่า สนิทกันขนาดไหน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในที่สุดเราก็ต้องแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง ผมต้องไปที่
ชีวิตมหาวิทยาลัยมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ผมคิดไว้ตอนแรกเลย ต้องเรียนตั้งแต่เช้าถึงเย็นแล้ว ผมยังต้องทำงานตอนดึก อีกทั้งต้องกลับไปเจอเพื่อนร่วมห้องเฮงซวยอีก แม้ว่าทั้งหมดนี้จะดูแย่มาก แต่ผมก็ทนมาได้จนวันนี้ วันที่ผมเรียนจบ และจะเป็นวันแรกที่ผมจะกลับบ้าน หลังจากที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมที่บ้านเลยเป็นเวลาสี่ปี
เมืองที่ผมเคยอาศัยเจริญขึ้นมาก แต่ยังคงสภาพความงามของธรรมชาติไว้ได้ ผมยังจำทุ่งหญ้าที่ผมชอบเข้าไปเล่นได้ มันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สายลมที่พัดใส่หน้าผมก็เช่นกัน กลิ่นชื้นๆที่คุ้นเคย
ผมลงรถที่หน้าหมู่บ้าน จากนั้นเดินเข้าไป ทุกอย่างดูคล้ายจะเหมือนเดิม มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่ดูแปลกไป และเพิ่มมาใหม่ ผมหยุดแวะที่บ้านของแจ็คก่อน บ้านของเขาก็ยังเหมือนเดิมๆ ผมกดกริ่งหน้าบ้าน รอไม่นานกก็มีหญิงอายุประมาณสี่สิบสามสี่สิบสี่ ร่างท้วม ผมยาวสีดำปนเทา แก้มตอบนิดหน่อยออกมายังประตู เธอคือแม่ของแจ็ค
“มาแล้วคะ” แม่ของแจ็คตะโกนออกมาขณะเปิดประตู เมื่อเธอเห็นผม เธอก็ยิ้มให้ แล้วโผลเข้ากอด
“ลมอะไรหอบมาเนี่ย บอย ไม่ได้เจอกันนานเท่าไรแล้วนะ”
“สี่ปี ครับ สบายดีไหมครับ”
“สบายดี เข้ามานั่งในบ้านก่อนสิ แจ็คก็อยู่นะ”
ผมเดินเข้าบ้านของแจ็คอย่างไม่เกรงใจ เพราะผมกับคนที่บ้านหลังนี้รู้จักกันเป็นอย่างดี เหมือนเป็นญาติพี่น้องกัน ผมเล่าเรื่องต่างๆให้แม่ของแจ็คฟัง พวกเราคุยกันสนุกมาก จนเวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง
“แจ็คหละครับ”ผมถามเนื่องจาก ตั้งแต่เข้ามายังไม่เหงเงาหัวเลย
“อยู่ในไร่แหนะ ไปหาสิ”
ผมเดินไปหลังบ้าน หลังบ้านของแจ็คเป็นไร่ข้าวโพดกว้างใหญ่สุดลูกหูลุกตา ผมมองไม่พบแจ็คจึงตะโกนเรียก
“อยู่ทางนี้” เสียงตะโกนแว่วมาแต่ไกล ผมเดินตามเสียงไปโดยที่ไม่แน่ใจว่าต้นเสียงมาจากที่ใดกันแน่
นานเหมือนกันกว่าจะหาตัวแจ็คเจอ แจ็คกำลังเก็บข้าวโพดอยู่ คนที่ช่วยเขาอีกคนคือพ่อของเขา ทั้งสองดูเหนื่อยมาก เนื่องจากอากาศร้อน สังเกตได้จากเม็ดเหงื่อบนใบหน้าและตามตัว แจ็คดูเปลี่ยนไปมาก ทั้งคล้ำขึ้น ล่ำขึ้น สูงขึ้น ดูแข็งแรง ต่างจากพ่อของเขาที่ดูเหมือนคนขี้โรค
เรากลับมานั่งคุยกันในบ้าน เล่าเรื่องที่ผ่านๆมาตลอดสี่ปีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แจ็คเล่าว่าเขาไม่ได้เรียนอะไรเลย นอกจากช่วยพ่อแม่ขายของ และทำไร่ เราทั้งสองตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะ เข้าเมืองไปหาอะไรสนุกทำกัน
ผมกลับไปพักที่บ้าน ทักทายพ่อและแม่ของผม คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกท่านต้องดีใจมากที่ผมกลับมาเยี่ยม เพราะผมได้แต่คุยกันทางโทรศัพท์
สิบโมงตรงผมไปกดกริ่งที่หน้าบ้านแจ็ค ไม่ทันไรเขาก็วิ่งออกมา พวกเรานั่งรถเข้าไปในเมืองไปทำอะไรมากมาย เช่น ดูภาพยนตร์ กินข้าว ซื้อหนังสือ ระหว่างที่ผมกำลังเลือกซื้อหนังสืออยู่นั้น ผมก็สังเกตข่าวพาดหัวที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับว่า “หายอีกราย เหยื่อเคราะห์ร้ายรายที่แปด ”
“อย่าไปสนใจเลย” แจ็คพูด
“มันเกิดอะไรขึ้นหรอ”
“เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาที่เมืองของพวกเรามีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นน่ะ คือมีคนหายตัวไปอย่างปริศนา ถ้าตามข่าวคนล่าสุดนี้ก็คนที่แปดแล้ว”
“ตำรวจจำตัวคนร้ายไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้อะ ผู้ร้ายยังลอยนวลอยู่เลย เอาเป็นว่าอย่าไปสนใจเลย ”
สุดท้ายพวกเราแวะมินิมาร์ทซื้อเบียร์มาลังหนึ่ง คืนนี้เราจะฉลองกัน ตอนเย็นผมกินข้าวที่บ้านแจ็ค แม่ของเขาเป็นคนทำ มันอร่อยมากๆ ตอนดึก แจ็คหยิบกีตาร์มาเล่น แล้วผมร้อง พวกเราเล่นไป ร้องไป ดื่มเบียร์ไป
“นานแล้วสินะ ที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้” แจ็คพูด
“ใช่ นานแล้ว นานแล้วจริง”
กว่าจะเลิกก็ตีสองแล้วผมจึงตัดสินใจค้างที่บ้านของแจ็ค แจ็คเปิดห้องนอนให้ผมห้องหนึ่งชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องสำรองเวลามีแขกมา ส่วนห้องของแจ็คอยู่ชั้นบน
“เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน” ผมพูด หลังจากนั้นปิดไฟ หัวถึงหมอนไม่ทันไร ผมก็หมอยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
เช้าวันใหม่ผมตื่นประมาณเก้าโมง เพราะแสงอาทิตย์แยงตา ผมถอดชุดแล้วอาบน้ำเพื่อหวังให้อาการเมาค้างจะได้หายไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล หลังจากแต่งตัว ผมเดินไปหาแจ็คที่ห้องชั้นสอง
แจ็คนั้นตื่นอยู่แล้ว กำลังแต่ตัวอยู่
“วันนี้เราจะทำอะไรดี” ผมถามแจ็ค
“เดี๋ยวก็รู้ มันสนุกมากเลย” เขาตอบแล้วยิ้มอย่างมีเจ้าเล่ห์ ผมแปลกใจแต่ไม่ได้คิดอะไร
“พ่อแม่ไม่อยู่หรอ ไม่เห็นเลย”
“ไม่อยู่ ออกไปส่งของน่ะ”
หลังจากแจ็คแต่งตัวเสร็จเราก็ลงบันได ขณะนั้นเองแจ็คก็มายืนข้างหลังแล้วดึงเสื้อผม
“อยากรู้ไหมว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน มันสนุกมากนะ”
“มันคืออะไรล่ะ ว่ามา”
“นี่ไง”หลังจากพูดจบ ผมรู้สึกว่ามีแรงผลักหลังของผมอย่างแรง ผมเสียการทรงตัวแล้วกลิ้งตกลงมาตามบันใด เลือดข้นๆสีแดงไหลออกมาจากปากของผม ลงบนพื้นกระเบื้องสีขาว ผมกลายเป็นร้างไร้สติตั้งแต่ตอนนั้น
แจ็คเดินลงมายืนข้างๆผม ใบหน้าของเขาดูนิ่งไร้อารมณ์ใดๆ เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขารวบขาทั้งสองข้างของผมและลากตัวผมเพื่อขึ้นไปยังห้องเขา ระหว่างทางตรงบันได ตึง ตึง ตึง หัวของผมกระแทกกับขอบบันได ยิ่งทำให้เลือดของผมเปื้อนไปทั่วบริเวณนั้นมากขึ้น เขานำตัวผมยัดไว้ในตู้เสื้อผ้า
“เดี๋ยวมานะ ไปทำความสะอาดสิ่งที่นายทำไว้ก่อน”แจ็คพูดเสร็จก็ออกจากห้องไป
ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไป แจ็คก็กลับมา
“เหนื่อยจริงๆ นายทำเปื้อนไว้เยอะ”เขาบ่น “พ่อกับแม่กลับมาแล้วนะ ทำตัวดีๆด้วย” ทันใดนั้นเอง แม่ของแจ็คเปิดประตูห้องเข้ามา แจ็คตกใจรีบปิดตู้เสื้อผ้า
“แม่เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูล่ะ” แจ็คหันไปพูดกับแม่ที่หน้าประตู แม้ว่าแจ็คจะตกใจ แต่ก็เก็บอารมณ์กับทำสีหน้านิ่งได้ดี
“แม่จะมาทำความสะอาดห้องลูกไง ไม่ได้ทำมานานแล้ว”
“ไม่ต้องผมทำเองได้”
“แล้วบอยล่ะ กลับไปแล้วหรอ”
“ฮ่ะไปแล้ว ตั้งแต่เช้า”
“งั้นถ้าหิวลงไปกินขนมได้นะ แม่ทำเตรียมไว้ข้างล่าง” หลังจากพูดจบ แม่ของแจ็คก็ปิดประตูกลับออกไป แจ็คเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วจ้องมองผม
“เกือบไปแล้ว ถ้าแม่เห็นเข้า เป็นเรื่องแน่ๆ” สีหน้าของเขาดูเครียด ผมว่าน่าจะป็นเพราะเขากลัวแม่ของจะรู้เรื่องของผม อย่างหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจในตัวแจ็คคือ ทำไมเขาต้องทำเช่นนี้กับผมด้วย ผมอยากจะเหนี่ยหมัดเข้าหน้าเขาให้ยุบคามือผมไปเลย แต่ผมคงทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้
ประมาณเที่ยงคืนเป็นเวลาที่ทุกคนในบ้านนอนหมดแล้วยกเว้นแจ็ค เขาอุ้มตัวผมแล้วพาลุยเข้าไปในไร่ข้าวโพด พาไปยังส่วนที่ลึกที่สุด จนไปเจอบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง ความจริงมันไม่ใช่บ้านแต่น่าจะเป็นที่เก็บของมากกว่า เขาวางผมลงหน้าสถานที่แห่งนั้น บริเวณนั้นมืดมาก สิ่งที่ทำให้มองเห็นได้มีเพียงแสงอันน้อยนิดจากดวงจันทร์และดวงดาว กับโคมไฟที่แจ็คถือมา
ตอนนี้เขาดูบ้ามาก ยิ้มตลอดเวลา ดวงตาเบิกโพลง เขาใช้ปากกัดกระชากเสื้อผ้าของผมขาดจนหมด ไม่เว้นแต่ชุดชั้นในของผม ต่อจากนั้นเขาเดินหายไปยังบ้านหลังนั้น ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับมีดโกนและมีดยาวประมาณสิบสองนิ้วด้วย
“ผมนายนี่มันยาวน่ารำคาญจริงๆเลยนะ เดี๋ยวเราจะจัดการมันออกไปให้นะ” หลังจากพูดจบเขาก็กระชากผมของผมแล้ว กร่อนมันออกเผยให้เห็นบาดแผลที่ผมตกบันใดเมื่อตอนเช้า ต่อจากนั้นเขาใช้มีดอันคมกริบตัดแขนและขาของผมอย่างชำนิชำนาญ ขณะที่เขากำลังลงมือเขาก็หัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมๆกัน
เขาใช้มีดผ่าท้องของผมเพื่อจะกินเครื่องในผม ทันใดนั้นเองพ่อและแม่ของแจ็คก็มาพบว่าแจ็คกำลังกินผมอยู่
“แม่ดูลูกของเราสิว่าเขาทำอะไรลงไป”
“นั้นสิพ่อ”
พ่อและแม่ของแจ็คทึ้งแขน และขาผมไปกัดกินอย่างอร่อย
“นึกว่าจะได้กินคนเดียวแล้วเสียอีก” แจ็คบ่นขึ้น ทำสีหน้าไม่พอใจ
ตอนนี้ตัวผมถูกกินหมดแล้ว เหลือแต่หัวของผมเท่านั้น แจ็คนำหัวผมไปวางไว้ในบ้านหลังนั้น “ล่าก่อนเพื่อน วันนี้พวกเราสนุกกันมากเลยนะ” หลังจากพูดจบ เขาเดินออกไปแล้วปิดประตูทิ้งผมไว้ในบ้านเล็กๆหลังนี้กับหัวของคนที่ไม่รู้จักอีกแปดหัว
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า แปดคนที่หายไปนั้นหายไปไหน แล้วตัวผู้ร้ายคือใคร แต่ผมก็บอกใครไม่ได้เพราะผมได้ตายไปแล้ว
ผลงานอื่นๆ ของ boysd ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ boysd
ความคิดเห็น