ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตะนาวศรี

    ลำดับตอนที่ #23 : สับประยุทธ ประลองเชิง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 310
      10
      7 ก.ย. 62

                      

    " ปิเยหิรินมาด้วยเหรอ   ไอ้พวกนี้มันร้ายกาจนัก มัจเจ  มีทหารพวกนี้ นับล้านร่าง มันถูกฝึก

    และให้แอบแดดอาบยาง จนผิวกร้านแข็ง ประดุจเกราะ   หิรินเหล่าเหล่านี้ มีเรคา ควบคุมหมด

    ทุกร่าง เห็นทีจักต้องใช้ เรคินของท่าน เข้าร่วมด้วยงานนี้ ปิเยหิรินเพียงร่างเดียว พลพรรค ข้า

    ทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถล้มมันได้เลย แต่นี่กลับมาเป็นพัน โอ... ข้าไม่อยากจะคิด "


     
    ปิเยอิสลาทิส โอด


    " เหมือนเจ้าจะรู้ได้แทบทุกเรื่องเลยนะปิเยอิสลาทิส  ทั้งเรื่อง มัจเจ และเรื่องของข้า  แผนการณ์

    ของ ปิเยพิษเซลล่า เปลี่ยนแปลงไปกระทันหันเช่นนี้  แสดงว่ามันสามารถล่วงรู้แผนการณ์ของ

    เราได้จริงๆ ข้าละเจ็บใจยิ่งนัก เจ็บใจยิ่งกว่าได้ต้องพิษ ของปิเยพิษเซลล่า เสียอีก หนอนบ่อน

    ไส้ที่คอยกัดกิน ปิเยเรา  แต่เรากลับไม่รู้ว่ามันเป็นไคร บอกตรงๆนะ ปิเยอิสลาทิส ถึงเรคา ของ  

    มัจเจ จะสิ้นจากร่างของเจ้าแล้ว แต่ข้าชักไม่แน่ใจเจ้า เท่าไร เจ้าอาจจะมีวิธีส่งข่าวให้ มัจเจ รู้

    ทางอื่นก็ได้ เพราะเจ้ากับ มัจเจอยู่กันมานาน ข้าอาจจะไม่รู้ทุกวิธีที่เจ้าติดต่อสื่อสารกันก็ได้ "  


    ติอากอกล่าวอย่างหวาดระแวง กับเรื่องที่เกิดขึ้น และเขาก็มั่นใจ ว่าปิเยของทาร์และมนุษย์ ไม่

    น่าจะอยู่ในข้อสงส้ยนี้    
                                                                                       


    " ปิเยข้าก็ไม่รู้จะว่ายังไงพี่ท่าน สถานการณ์นี้พี่ท่าน ก็สามารถคิดระแวงปิเยข้าได้ เพราะเราต่างก็เห็น

    ว่ามีการส่งข่าวให้ มัจเจ มันรุ้การเคลื่อนไหวอยุ่ตลอดเวลา  แต่ยังไงข้าก็ยืนยัน ทั้งชีวิตข้าอยู่กับ

    มัจเจ มาทั้งชีวิต ข้ารู้ดี ว่าข้าคงไม่กลับไปลงนรกอีกแล้ว และเมื่อจักต้องเป็นเครื่องมือหรืออะไร

    รับใช้ของมัจเจมันแล้ว ข้าขอสิ้นชีตะ เสียดีกว่า ท่านพี่จงฟังคำข้าไว้ "                              



    ปิเยอิสลาทิส ตอบ                                                                                              


    "เห็น เจ้ารับปากรับคำ ข้าหลายครั้งแบบนี้ ข้าก็ถือว่าเจ้าคงน่าเชื่อใจขึ้นมาบ้าง ต่อไปนี้  ถึงปิเย

    เราดับสูญสิ้น จากคำโกหกของเจ้า เจ้าก็คงรู้สึกสมเพศตัวเองไปตลอดชีวิตแน่  ต่อไปนี้ข้าจะ

    พยายามไม่ระแวงเจ้าอีก  มาช่วยกันคิดอีกที บางทีความที่เจ้ารู้อาจเป็นประโยชน์ กับการ


    สงครามนี้อีกมาก  "                                                                                        


    ติอากอกล่าว   และหันไปทาง ปิเยทาร์                                                                


    "  ข้ามีเรื่องที่จะคุยกับเจ้าหน่อย    อย่าว่าข้าไม่ไว้ใจเจ้านะ สถานการณ์ แบบนี้ ตราบใดที่ยังหา

    เกลือที่เป็นหนอนอยู่ยังไม่พบ  ความสบายใจคงยังไม่เกิดกับข้าแน่ ไว้ออกจากวงปรึกษาหารือ

    กันนี้ เราไปคุยกันหน่อย    "                                                              
             


    แล้วติอากอก็หันกลับเข้ามาในวงสนทนาอีก                                                              


    "  เราจักต้องยอมรับว่าศึกครั้งนี้ เราเป็นรองมากนัก   ปลายคม ของคันยิง ปิเยหิริน ที่อาบด้วย

    พิษ ปิเยพิษเซลล่า นั้น สามารถ ปลิดชีตะของปิเยเรา ทีละหลายร่างได้ เราจักต้องคิดกันให้มาก

    เราไม่เคยได้ฝึกให้ปิเยเรา พร้อมรับสงคราม       การนี้ ข้าขอคิดและบอกกล่าวกลศึกกับพวก

    ท่านทุกคน แต่ไม่ใช่ในวงใหญ่แบบนี้ เพราะรูู้ดีว่ามีไครคนหนึ่งคอยส่งข่าวให้ มัจเจ ตลอด   ไว้

    ข้าจะค่อยๆบอกเป็นทีละคนไป     ตอนนี้ ปิเยทาร์ ส่งข่าวบอกให้ปิเยาเราเปิดทางให้   ทัพปิเย

    พิษเซลล่า เข้ามาก่อน  อย่าได้ต้านจะเสียไพร่พลเสียเปล่าๆ  เป็นอันว่ารู้กัน  แยกย้ายกันได้ "  


    สถานการณ์เช่นนี้ ติอากอรู้ดี   ว่าลำบากยิ่งนัก มัจเจ มันร้ายกาจจริงๆ วางแผนได้แยบยลนักทั้ง

    บู๊ทั้งบุ๋น สลับกันไปมาจน ติอากอเองตั้งรับแทบไม่ทัน   แต่อย่างไรเขาก็ต้องทำให้ดีถึงที่สุด  

    ให้เหมาะที่ทุกสิ่งที่นี่ไว้วางใจ   และฝากชีวิตไว้กับเขา                                                

    หลายคนแปลกใจที่ ติอากอไม่พูดอะไรอีกหลังจากนั้น เลยจนบ่ายมากแล้วและ ไพร่พล ปิเยพิษ

    เซลล่า ก็เคลื่อนเข้ามาเริ่มมองเห็นรำไรแล้ว ต้นไม้ที่เคลื่อนที่ได้ต่างหลบให้ไพร่พลกองกำลัง

    นั้น  เป็นบริเวรกว้าง แต่ต้นไม้ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ที่ขวางทาง นั้น คมลูกยิง ได้ปลิว จากคัน

    ยิงของ ปิเยหิริน  เข้าปักที่ลำต้น ทำให้ล้มพับไปในทันที  ปิเยพิษเซลล่า ต้องการทำอย่างนี้

    เพื่อให้ ติอากอ และพวกได้เห็นพิษสงค์ ของพิษมัน  และเป็นการข่มขวัญ ไม่ให้มีการต่อต้าน

     มันอีกด้วย และ    ในที่สุด ขบวนทัพทั้งหมดก็ได้มาประจันหน้า ซึ่งเป็นสถานที่ ติอากอ และ

    ทั้งหมดอยู่  พลัน ปิเยพิษเซลล่าก็ได้ออกมาที่ด้านหน้าขบวน                                        


    " ใหนข้อขอดูหน้า ผู้ที่สร้างอุบัติความฉิบหายแก่ มวลหมู่บรรพชนข้าหน่อยสิ  ติอากอและ ปิเย

    ทาร์ สองเจ้าคือร่างใหนกัน   "                                                                              


    ปิเยพิษเซลล่า  ประกาศก้องทันทีที่โผล่พ้นขบวนนั้นออกมา คำพูดบ่งบอกจุดประสงค์ของการ

    มาในครั้งนี้อย่างชัดเจน  ทันได้นั้นเสียงตอบก็ด้งขึ้น                                
                       


    " พี่ท่าน ปิเยพิเซลล่า  อัน ท่าน ติยากอ  นั้น มิได้เป็นอย่างที่ นาย มัจเจ ของเราได้บอกท่าน

    ไม่  เขาไม่เคยย้อนกลับขึ้นไป ที่พำนัก มัจเจเลย ตั้งแต่ตัดสินใจลงมาที่นี่ บิดาท่านซึ่งล่วงไปรู้ดี

    เพราะเขาเป็นสหายรักกัน การที่ท่านโกรธแค้นนั้น ไม่สุ้ถูกนัก ข้าอยากจะบอกว่าเรื่องทั้งหมด

    เกิดจาก มัจเจ นายเรา สร้างสถานการณ์ แล้วโยนความผิดให้ ปิเยเขา ทั้งสอง  "                


    ปิเยอิสลาทิส โต้ตอบไป                                                                                      


    "   เจ้าคิดว่าเราโง่เขลาเบาปัญญาที่จะไม่รู้อะไรเลยหรือ ปิเยอาทิส   ความแค้นที่ข้าน้ำมาด้วย

    จะต้องได้รับการแก้ไข ในครานี้อย่าคิดว่าข้าจะเป็นอย่างเจ้า พอแพ้ก็สวามิภักดิ์ ดังนกสองหัว

     ใหน ติอากอ และปิเยทาร์ ร่างใหน จงแสดงตัวมา หรือว่าขึ้ขลาดไม่กล้าจะสู้หน้ากับข้า เจ้าทั้ง

    สอง จงออกมารับผิดชอบสิ่งที่เจ้าทำไว้สิ "                                                            



    "  ข้าอยู่นี่ไง ปิเยพิษเซลล่า "


    แล้ว ติอากอ ก็เคลื่อนออกไปข้างหน้า                                                                    


    "   ปิเยพิษเซลล่า  เรามิได้หนีความรับผิดชอบ หรือขึ้ขลาดอย่างที่เจ้าคิด  และก็มิได้ทำไร

    สกปรกโสมมทั้งต่อหน้าและรับหลัง เหมือน มัจเจ นายเจ้า  แม้เราอาจถูกเจ้าสังหารได้ แต่ข้า

    อยากให้บุตร ของสหายข้า ได้เข้าใจในตัวข้า ข้าและ ปิเยทาร์ ไม่เคยกระทำการใดๆที่เป็นการ

    ร่วมมือหรือมีความคิดที่จะประหัตประหารปิเยแห่งเจ้าเลย  เรื่องทั้งหมดถูกใส่ความโดย มัจเจ

    ไม่เชื่อถาม ปิเยอาทิสได้  "                                                                                



    ปิเยพิษเซลล่า ได้ยินอย่างนั้นมันก็หัวเราะขึ้น                                                          


    " ฮ่า..ๆ............ ข้านึกแล้วว่าต้องได้ยินคำแก้ตัวจากปากของเจ้าแบบนี้   มัจเจนาย ท่านเดาไม่

    ผิดจริงๆ   อย่างไรเสียข้าก็จักต้องทำอย่างที่ข้าประสงค์ให้จงได้ แล้วร่างใหนล่ะปิเยทาร์  มัจเจ

    ว่ามันร้ายนัก  ออกมาสิ อย่าหลบหน้าอยู่เลย แล้วชาวโลกที่ มัจเจนาย ให้เป็นรางวัลกับข้าล่ะ

    ขอชมเป็นขวัญตาหน่อยสิ  "                                                                              


    " ปิเยทาร์ติดธุระอยุ่ ไม่สามารถ ออกมาได้ ส่วนชาวโลกเหล่านั้น เขาบอกว่าถ้าจะเป็นจะให้เจ้า

    เห็นก็คงเป็นร่างอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนร่างที่ยังมีลมหายใจ เจ้าอย่าได้หวังเห็นเลย "        


    ติอากอ ตอบ                                                                                  


    " สมแล้วที่เป้นผู้นำ ติอากอ ถ้อยคำเจ้านั้น ยิ่งใหญ่ และสามหาวยิ่งนัก  ปิเยทาร์ คงหลบลี้ข้า

    แน่ มันคงจะรุ้ว่าจะถึงกาลชีตะของมันแน่ ถ้าเจอกับข้า ถึงอย่างไรเมื่อข้าข้ามชีตะพวกเจ้าที่นี้

    แล้ว ข้าก็จะตามมัน ปิเยทาร์ ให้ถึงที่สุด แต่ก่อนอื่น ข้าขอนำข่าว มัจเจนาย ให้ทราบก่อน ท่าน

    บอกว่าถ้า ติอากอร์ ยอมสวามิภักดิ์ แก่ มัจเจนาย จะให้ข้าละชีตะไว้ ข้าขอถามเป็นครั้งสุดท้าย

    คำ มัจเจนาย ท่านจะว่าอย่างไร ส่วนเรื่อง ชาวโลกและปิเยทาร์ ถ้าท่านยอมแล้ว เราค่อยว่ากัน

    อีกที  "                                                                                                
           


    ปิเยพิษเซลล่ายื่นข้อเสนอ                                                                                  


    " อันเรานั้น หากยอมจำนนเป็นเบี้ยรับใช้แก่ มัจเจ คงยอมไปแล้วแต่เมื่อหลายพันปีก่อนนั้น

    แล้ว คงไม่ต้องหอบพลพรรคปิเย ลงมานี่ทางไต้หรอก ปิเยพิษเซลล่า ถ้าเจ้ารู้ดังพ่อเจ้า คงไม่ถาม

    คำถามนี้กับข้าหรอก มัจเจนาย เจ้ารู้นิสัยข้าดี ถ้าคิดว่าข้าจะยอมจำนน เขาคงไม่ให้ไพร่พลมา

    ร่วมกับเจ้าเป็นพันๆร่างนี้หรอก  มัจเจนายเจ้ารู้คำตอบอยู่แล้ว ส่วนเจ้าถ้าหากเจ้าไม่เชื่อคำข้า

    และปิเยอาทิส ก็ตามใจ  เมื่อกาลนี้ ลูกสหายข้าจะหมายปองชีตะข้า เพราะหูเบา ข้าก็จะคิดว่า

    มันคงมิใช่เลือดเนื้อของสหายข้าอีกต่อไป เพราะถ้าเป็นเลือดเนื้อของสหายข้าจริง  ต้องไม่ใช่

    เช่นนี้  แต่ก่อนที่เราจะสับประยุทธกัน เราขอบอกเจ้า ที่จริงแล้ว เผ่าพันธุ์เจ้ายังมีอีกหนึ่ง เขาผู้

    นั้นตามข้ามาและลงไปอยู่ทางไต้ไปกว่านี้อีก อีกไม่ถึงเพลาเขาจักเดินทางถึง มาช่วยปิเยเรา เจ้าจะ

    เชื่อหรือไม่ เจ้ามิได้มี ผู้เดียวในเผ่าพันธุ์นี้  "                                                            


    ติอากอ  ได้พูดโต้ตอบกลับไป                                                                            


    " ถึงจะมีหรือไม่ก็ไม่สำคัญหรอก  ถึงอย่างไรข้าก็ต้องล้างชีตะ ท่านอยู่ดี  ส่วนเรื่องญาติของ

    ข้าที่เจ้าว่ามีนั้น  ถ้าเป็นจริงอย่างเจ้าพูด เดี๋ยวปิเย ข้าก็คงได้พบเขาเอง ไว้ข้าจะอธิบายกับเขา

    เรื่องความจำเป็นที่ข้าได้ฆ่าเจ้า ให้เขาฟังด้วย เจ้าไม่ต้องนำเรื่องนี้มาเพื่อประวิงเวลาหรอก ครา

    นี้แล้ว  ข้าทำตาม มัจเจนาย มอบหมายแล้ว ตอนนี้ ข้าจักต้องทำตามความตั้งใจของข้าบ้าง "


    และตอนนี้เอง ปิเยพิษเซลล่าก็ ได้กล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง                                        


    "  ปิเยหิรินทั้งหลายจงฟังเรา บัดนี้ถึงคราวที่ท่าน จักได้น้ำพิษเเห่งข้า ไปปลิดชึตะ แห่งปิเยทั้ง

    หลายที่นี้แล้ว จงนำซึ่งชัยชนะมาสู่ มัจเจนาย และ สลายแรงพิษแค้นแห่งข้าด้วย  อย่าได้ให้

    มีปิเยใดรอดไปจากที่นี่  ส่วน ปิเยอาทิส และผองเผ่าพันธุ์เจ้า เห็นแก่ว่าเคยอยู่ร่วมกันมาข้าให้

    เวลาเจ้า สิบห้านาที ให้เจ้าก้าวออกมา  มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นพวกของศัตรูข้า จะได้รับการล้าง

    ไปในที่นี่เช่นเดียวกัน "                  



    สิ้นเสียงสั่ง ของปิเยพิษเซลล่า  คันธนูที่มีขนาดใหญ่ ก็ถูกง้างขึ้น ส่งผลให้ลูกธนูที่มีขนาดใหญ่

    เท่าแขนคน เล็งไปสู่เป้าหมายจุดต่างๆตามร่างของต้นไม้ในที่นั้น เพียงแต่ว่ารอการตัดสินใจ

    ของปิเยอิสลาทิสเพียงแค่กำหนดเวลาที่ ปิเยพิษเซลล่า ให้ไว้แค่นั้น   มันก็คงจะถูกส่งออกจากคัน

    ในทันที                                

    อัครชัยที่แอบดูอยู่ได้กระซิบบอกทุกคน          


    "  ท่านติอากอ คิดอะไร แล้วปิเยทาร์หายไปใหนสถานการณ์อย่างนี้ ดูคำพูดเขาไม่สะทกสท้านอะไร

    เลย เขาบอกว่าจะบอกแผนการณ์กับทุกคน ทำไมจนป่านนี้แล้วยังไม่มีท่าทีใดเลย "  


    "  จาเห็น ปิเยทาร์ ตอนที่เข้าไปหาติอากอ อาการตอนนั้นไม่สู้ดีนัก หรือว่าเขาอาจน้อยใจ ที่ถูก

    สงส้ย จนไม่อยู่ร่วม กับติอากอแล้ว เพราะตั้งแต่ตอนนั้นยังไม่เห็นเขากลับมาอีกเลย  แล้วอย่าง

    ที่หมอบอก ทำไม ติอากอ ถึงมิได้แพร่งพรายแผนใดให้รู้เลย ที่เห็นอยู่ตอนนี้ เหมือนลูกไก่ใน

    กำมือ ของปิเยพิษเซลล่าด้วยซ้ำ คันธนูยักนั่นเป็นร้อยคันเล็งไปที่ร่างของเขา หรือว่าเขาจะยอม

    พลีร่าง แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะไม่เห็นว่าน่าจะได้ประโยชน์อะไร สู้ประจันบานไป ยังได้แลกเลือด

    เนื้อกันบ้างน่าจะดีกว่า "    


    จามิกร กล่าว                                                                                              


    " ผู้นำที่ดีต้องไม่ สะทกสะท้านต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนะถูกต้องที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่รู้เหตุผลที่ ติอากอ

    ทำเหมือนกัน แล้วพวกเราคิดว่า ปิเยอาทิส จะตัดสินใจยังไง เออ ....."              


    ปู่อินพูดยังไม่ทันจบ พวกเขาก็ได้ยินเสียง ปิเยอิสลาทิสดังขึ้น                                        


      " พี่ท่าน ปิเยพิษเซลล่า อันมวลผองข้าเห็นพ้องต้องกันแล้ว ว่าจักยืนเคียงบ่าเคียงใหล่ ติอากอ  

    อันชีตะของข้าและผองทั้งหลาย ถือว่าเคยได้เคยตายไปแล้ว ถ้าหาก ปิเยแห่งทาร์ไม่ยั้งไว้ และ

    คำพูดที่ให้สัจจะวาจา แก่ พี่ท่านติอากอ ข้าคงลบมันมิได้ จะเป็นครั้งหนึ่งที่ข้าจะกู้เกียรติยศ

    ความเป็นผู้นำของข้าต่อผองเผ่าแห่งปิเยข้าให้สืบไปได้  ท่านพี่ปิเยพิษเซลล่า จักทำไรก็ทำ

    เถิด"    


    " ได้ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น ปิเยหิริน ปล่อย ลูกคมยิงได้   "                                          


    และทันทีที่สิ้นเสียงปิเยพิษเซลล่า  ลูกธนูจากคัน นับพันก็ทยานเข้าสู่เป้าหมาย ต้นไม้ที่เป็นเป้าถูกปักฉึกเข้า

    อย่างจัง บางต้นถึงกับลืมทั้งยืน ติอากอ หลบลงหน้าหินที่กั้นเป็นบังเก้อแต่แรก และหลังบังเก้อต้นไม้ที่

    ซ่อนอยู่ก็ระดมป่าหินเข้าใส่ เหล่า ปิเยหิริน อย่างที่วางแผนไว้แต่แรก   และทันทีทีหินเหล่านั้น

    กระทบร่าง ของพลธนู                                                                            
             


    "  ฮ่าๆๆ.. เหมือนของเล่นเลย  ติอากอ ศิลากระจิดริดของเจ้าหาได้ระคายร่างของ ปิเยหิรินนี้ไม่ ปิเยเรา

    แจ้งทราบแล้วว่า จะมีการสับประยุทธเช่นนี้ ก็บอกแล้วว่ามีผู้รายงานให้ มัจเจนายทราบอยู่ตลอด  เห็น

    หรือไม่พวกเขายืนให้พวกเจ้าปาเล่น อีกไม่นาน ศิลาก่อนเล็กๆ ล้อมตัวปิเยท่านก็คงหมด  "                  


    เสียง ปิเยพิษเซลล่าหัวเราะเยาะขึ้นเมื่อเห็นว่า ก้อนหินที่ถูกขว้างปาน้้นไม่สามารถทำอะไร ปิเย

    หิริน ทหารเกราะของ มัจเจได้  

    แต่ทันใดน้้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น  



    "แล้วถ้าขนาดนี้ ล่ะปิเยพิษเซลล่า "                                                                    


    สิ้นเสียงก้อนหินขนาดมหึมา ขนาดไม่ต่ำกว่าหนึ่งตัน ปลิวหวือมาในอากาศ ปิเยหิริน มิทันได้

    ระวังตัว และเมื่อเป็นก้อนหินที่มีขนาดใหญ่ แม้มีร่างที่เเข็งแรงก็ไม่อาจต้านทานได้ สิบกว่าร่าง

    ของ ปิเยหิรินประทะเข้ากับหินก้อนใหญ่นั้น หักกระเด็นไปคนละทิศละทาง และต้นทางที่โยน

    ก้อนหินมานั้น คือต้นไม้ยักษ์ ที่เมื่อครู่ ปิเยพิษเซลล่ามองว่าไร้พิษสงและไม่สามารถเคลื่อนย้าย

    หนีพวกมันนั่นเอง                                                                                          


    " อยากเจอข้านักไม่ใช่เหรอ ปิเยพิษเซลล่า ข้าปิเยทาร์ไง คนที่เจ้าหมายมั่นปั่นมือให้ได้รับ

    เกียรติ สังหารเผ่าพันธุ์เจ้าตามคำของ มัจเจไง ขนาดนี้ยังจะว่าเล็กไปใหม ศิลาน่ะ แล้วถ้ายังไม่

    พอ ปิเยใหญ่ทั้งหลายที่ล้อมกลุ่มของท่านไว้นี้ จะสมนาคุณให้อีก "    


    ปิเยทาร์ พูดจบหิน  อีกก้อนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าก้อนแรกก็ปลิวหวือเข้ามาอีก ที่นี้สามารถ

    กวาดปิเยหิริน ได้ไปอีก ยี่สิบกว่าร่าง    แต่ปิเยพิษเซลล่า กลับหัวเราะเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น                                                              

     "  ฮ่า...    ได้เห็นเจ้าปิเยทาร์ก็ได้เห็นเรื่องตื่นเต้นเลยนะ    ดีจะได้ล้างเจ้าเสียพร้อมกันเลย

    ข้าจะดูซิว่าระหว่างความใหญ่ของปิเยเจ้า กับ  ความคล่องแคล่วของ ทหารเกราะของมัจเจที่

    ฝึกฝนมาอย่างดีไครจะแน่กว่ากัน     ผองปิเยหิรินทั้งหลาย จงปล่อยปลายคม ไปที่ ปิเยใหญ่

    รอบที่นี่ ลองดูสิพิษของข้าที่ชุบที่ปรายคมของพวกเจ้าจะ ทำให้ปิเยยักษ์เหล่านี ้มีแรงพอจะยก

    ศิลาใหญ่ได้ไม๊ "  


    สิ้นเสียง ปิเยพิษเซลล่า   ลูกธนุนับพันต่างพุ่งเข้าต้นไม้ใหญ่ยักษ์รอบกองกำลังของ ปิเย พิษ

    เซลล่า และปิเยหิริน  แต่ ปิเยพิษเซลล่ากลับตกใจ เมื่อธนุเข้าปักแน่นต้นไม้เหล่านั้น แทนที่จะ

    สงบนิ่ง กลับไม่เป็นเช่นนั้น  ต้นไม้เหล่านั้นกับเคลื่อนไหวได้อยู่และตอนนี้ หินก่อนใหญ่ๆนับพันนับ

    หมื่น ปลิวว่อนเข้ามา ปิเยหิริน แตกหักกระจัดกระจายไปหมด  แม้แต่ปิเยพิษเซลล่าเองก็ได้

    กระทบกับหินเหล่านั้นด้วย และมันก็ถูกหินก้อนหนึ่งทับไว้    



    " เป็นไปได้ยังไงกันทำไม พิษข้าไม่สามารถหยุด ปิเยยักษ์แห่งเจ้าเหล่านี้ได้  "


    ทันทีที่ ติอากอและปิเยทาร์เข้าไปสำรวจ และได้พบร่าง ปิเยพิษเซลล่า อยู่ไต้หินก้อนหนึ่ง ปิเย

    พิษเซลล่าได้ถาม ทั้งสองขึ้น ด้วยน้ำเสียงขัด เพราะบาดเจ็บหนัก          

    ติอากอ ตอบขึ้น  



    " ลืมไปแล้วหรือ ปิเยพิษเซลล่า ที่ข้าบอกเจ้า ว่ามีเผ่าพันธุ์เจ้าอยู่ที่นี่กับพวกของข้าร่างหนึ่ง

    ต้องขอบใจเจ้า ที่ปล่อยพิษลงน้ำ และทำให้เขาสามารถล่วงรู้การแก้พิษของเจ้าได้ และนำมา

    ให้กับ ปิเยใหญ่ที่นี่  เจ้ามี ปิเยที่สามารถทนพิษของเจ้าได้ เราก็มีเหมือนกัน แต่โชคร้ายที่เจ้า

    ลำพองและมั่นใจในตนเองเกินไป จึงพลาดในสงครามนี้   แต่ถ้าเจ้าจะยอมรับความจริง ที่เรา

    เคยบอก ข้าก็จะไม่ซ้ำเติม ร่างที่บาดเจ็บของเจ้านี้  "                                      



    " โอ.. นี่ข้าแพ้หรือนี่ ข้าพลาดให้กับศัตรูผู้ทำลาย ผองเผ่าข้า ข้าทำไม่สำเร็จ ข้าจะมีหน้าไป

    บอกบรรพชน   ผองข้าได้อย่างไรกัน ยังไงเสียข้าคงไม่ยอมสิ้นชีตะ   ด้วยน้ำมือของศัตรูแน่    

    ไม่มีทาง    อั๊ก ๆ..."                                          


    และคำพูดของปิเยพิษเซลล่าก็สะดุด เพราะบาดเจ็บจนเก็บอาการเจ็บไม่อยู่   และตอนนั้นเอง ปิ

    เยอาทิส ก็เข้ามาสมทบ  



    "   ท่านพี่  อย่างที่ข้าบอกแล้ว ชีตะของท่านพี่ตอนนี้ เหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือ ท่านติอากอ  

    แต่ข้าแน่ใจว่าท่าน คงละชีตะท่านอีกร่างได้ ซึ่งที่จริงแล้วก็หาจำเป็นไม่ แต่อย่างที่รู้  ท่าน ติอา

    กอมิได้มีเจตนาแต่แรกจักหั้มหั่นกับท่าน กาลต่างๆ ท่านพี่มีความแค้นที่มิยอมลดละให้กับเขา ที่

    นี่ท่านพี่จักเชื่อได้หรือยัง ว่า สิ่งที่ข้าเล่ามา และที่ท่านติอากอ บอกมันเป็นเรื่องจริง  คงไม่มี

    เหตุใดที่ ข้าและท่านติอากอ จักต้องกรุเรื่อง ต่างๆมาหลอกท่านอย่างที่ท่านคิด หรอกนะตอนนี้    

    เรื่องมัจเจทำลายเผ่าพง ท่านแล้วป้ายความผิดมาให้กับ ติอากอ และปิเยทาร์   ปิเย ทั้งหมด ที่

    มัจเตติส รู้ดีมานานแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าบอกท่าน  และถ้าหากเรื่อง นี้เป็นเรื่องที่ข้า กับ ท่าน      

    ติอากอ กรุขึ้นจริง ครา ที่ท่านพี่ปราชัยเช่นนี้ ติอากอ ก็คงมิจำเป็นต้องยืนยันคำเดิมอีกต่อไป

    ท่านพี่ จงคิดให้ให้ดี "        



    คำพูดของ ปิเยอิสลาทิส ทำให้ ปิเยพิษเซลล่า คิด จริงอย่าง ปิเยอิสลาทิสบอก ว่าถ้าหากการกรุเรื่อง

    นี้เพื่อเอาตัวรอด และเพื่อเลี่ยงการต่อสู้ก่อนหน้านี้  ผลที่เขาพ่ายแพ้ ก็คงไม่น่าจักตัองยืนคำพูด

    นั้นอีก และไม่มีความจำเป็นจักต้องไว้ชีตะเขาอีกได้ ดังที่ ติอากอ พูด  


    " จริงหรือนี่ ปิเยอาทิส มัจเจนาย มันทำการ เช่นนั้นจริงเหรอ นี่เพราะเราโง่เขลาเบาปัญญา ไม่

    รับรู้ด้านใด เลยหรือ  ข้าอัปยศยิ่งนัก ถวายชีตะรับใช้มัน ผู้ซึ่งได้ล้างพง เผ่าพันธุ์ข้า แล้วมันยัง

    หลอกใช้อีก ข้าไม่สู้จักเอาหน้าไปไว้ที่ใหนแล้ว ทำไมข้าถึงโง่ได้ถึงเพียงนี้  "


    ปิเยพิษเซลล่า โอดครวญ      แต่เสียง ติอากอ ก็พูดขึ้น


    " ยังไม่สายหรอก ปิเยพิษเซลล่า  ร่างเจ้าตอนนี้ บาดเจ็บ แต่ไม่ถืงว่าสิ้นชีตะ ไว้ข้า จะให้

    ปิเยเรา ช่วยกันเคลื่อนศิลาที่ทับร่างเจ้านี้ออกไป  เจ้าคงได้มีโอกาสแก้แค้น มัจเจ ได้  "  


    "  ข้าขอบใจท่านมาก ติอากอ แต่ความโง่เขลาที่มีในตัวข้ามันคงไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้ เมื่อ

    สักครู่ ที่ข้าบอกว่า จักมิยอมสลายชีตะ เพราะมือท่าน    ตอนนั้น ข้าสลักพิษเคยะ เข้าร่างข้าไป

    ข้ามันโง่ยิ่งนัก อีกไม่ถึงชั่วโมง พิษคงแล่นทั่วร่าง สมใจข้าแล้ว ข้าจะได้ตายเพราะความโง่

    เขลาของข้าเอง ด้วยน้ำมือของตนเอง อั๊ก..ๆ .  ท่านติอากอ ท่านช่วยบอกกับญาติของข้าด้วย

    ที่ถ้ำ เหนือมัสเตติสไปราวร้อยกิโล ข้าได้เก็บรางพิษไว้ รางพิษที่จะล้าง เรคารียะ ได้ ถ้าเขามี

    โอกาสได้ไปที่นั่น ให้สานต่องานข้าด้วย และกระดานปิเยส่งข่าวนี้ให้กับเขาด้วย ส่วนข้า มัน

    อัปยศเกินกว่าที่จะอยู่ทำการใดแล้ว ก่อน ข้าจะสิ้นชีตะนี้  ข้าขอบอกทุกเรื่องต่อไปนี้ ที่พอรู้  

    มนุษย์ โลกคนหนึ่ง เป็นผู้ส่งข่าวให้ มัจเจ รู้โดยตลอด  เรื่องแผนการณ์ของท่าน  ข้าบอกไว้เท่า

    นี้  ข้าคงไม่ไหวแล้ว เจ็บปวดเหลือเกิน   ปิเยอาทิส เจ้าโชคดีแล้ว ที่ได้สวามิภักดิ์ กับปิเยดีๆ

    เช่น ติอากอ นี้ ขอให้เจ้าได้ถวายชีวิตแก่เขา  อย่าได้ถวายชีวิตให้กับความโง่เขลาอย่างที่ข้าทำ


    เลย ข้า อัํกๆๆ ลาก่อนทุกคน "








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×