ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยมฑูตที่รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ยมฑูตที่รัก ตอนที่2

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 54


    เช้าวันต่อมา ผมตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำกับข้าวให้ยัยนั้นกิน ขืนไม่ทำสิมีหวังได้ ตื่นมาโวยวายหิวข้าวแหงๆ

    อ่อ แล้วก็ต้องทำน้ำซุปไปไหว้ หลุมศพย่าผมด้วย

    ''ฮะ..ฮ้าววว หือ? ตื่นแต่เช้าจังเลย จินโฮ ทำอะไรอยู่เหรอ ''เธอพูดแบบเมาขี้ตาเพราะเพิ่งตื่นนอน

    ''อ่อ ก็ทำกับข้าวให้เธอกินน่ะสิ กลัวจะตื่นมาแล้วหิวนะ รอแป๊บนะใกล้จะเสร็จแล้วเหลืออีกอย่างเดียว''

    ''เธอไปล้างหน้าล้างตารอก่อนเลย ''มายะเดินไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ผมก็ทำอาหารเสร็จพอดี

    ''โห!! นี้นายทำเองแน่เหรอเนี้ย น่าทานจังเลยแต่ทำไมทำเยอะจังล่ะ อยู่กันแค่สองคนเอง''

    ''ก็ ฉันเห็นเธอกินเยอะ ก็เลยทำไว้เยอะน่ะกลัวเธอจะไม่อิ่ม -0-''

    ''นี้!นายว่าฉัน ตะกละงั้นเหรอถึงฉันจะกินเยอะแค่ไหน แต่ที่นายทำมาเนี้ย ฉันกินไม่หมดหรอกน่า เชอะ!! ''เธอค้อนใส่ผม

    แบบนี้ก็น่ารักแหะ *-*

    ''เอาล่ะ รีบทานกันดีกว่า เดี๋ยวฉันต้องรีบออกไปไหว้หลุมศพย่าฉัน เดี๋ยวจะสายซะก่อน''

    ''คร๊าๆๆ ไหนๆ ชิมสิ ว๊าว!! อร่อยแหะๆ นายนี้เก่งชะมัดเลย แบบนี้ฉันต้องอ้วนแน่ๆ เลย อิอิ^^''

    และแล้ว เธอก็กินจนไม่เหลือจริงด้วย(ไหนบอกกินไม่หมด)-*-

    ผมมาถึงสุสาน เดินตรงไปที่หลุมศพของย่าผมทันที่ ใบไม้ที่ร่วงทับถมจนรกไปหมด คงเป็นเพราะว่าผมไม่ได้มาที่นี้นานแล้ว

    มันเลยรกแบบนี้ ผมรีบทำความสะอาดสถานที่ แล้วเอาน้ำซุปที่เตรียมมาพร้อมดอกไม้ วางไว้ที่หลุมศพ

    ''ย่าครับผม จินโฮเองนะครับ ผมมาเยี่ยมย่าครับ ขอโทษนะครับย่าที่ผมไม่ได้มาหาย่าตั้งนาน ผมละเลยหน้าที่ของหลานไปนานเลย''

    ''หวังว่าย่าคงไม่โกรธนะครับ .....5ปีแล้วสินะครับที่ย่าจากพวกเราไปน่ะ ผมคิดถึงย่ามากเลยนะครับ แล้วก็คิดว่า พ่อกับแม่ ก็คิดเหมือนผม ตอนนี้ย่าไม่อยู่เนี้ยผมเจอกับอะไรมาเยอะแยะเลยล่ะครับ ทำให้ผมคิดถึงคำที่ย่าสอนไว้เสมอๆ แต่ผมก็ยังดื้อชอบทำผิดอยู่ซ้ำๆบ่อยๆ ย่าเคยสอนให้ผมเป็นคนที่ดี มีน้ำใจช่วยเหลือคน ไม่โกหกหลอกลวง แต่ส่งสัยผมคงจะเป็นคนซื่อเกินไปน่ะครับ''

    ''ผมคิดถึงฝีมือทำอาหารของย่าจัง ตั้งแต่ย่าไม่อยู่ผมต้องทำอาหารทานเองตลอดเลย อยากทานอาหารฝีมือย่าอีกนะครับ''

    ''คุณย่าครับ อีกไม่นานหรอกครับไม่แน่ ผมอาจจะได้ไปอยู่กับย่าก็ได้ครับ (เสียงของผมเริ่มสั่นน้ำตาคลอ) เอาล่ะครับย่าไว้ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ผมจะแวะมาหาอีกนะครับ ถ้าผมยังไม่ตายนะครับ ผมรักย่านะครับ''

    มายะมองหน้าผมด้วยสายตาที่ดูเศร้า

    เป็นอะไรไปมายะ ทำหน้าเศร้าทำไม (เธอคงจะสมเพชผมล่ะมั้ง)

    ''อ๊ะ!! เปล่าหรอก ฝุ่นเข้าตาน่ะ แถวนี้ลมแรงนะ แล้วนี้นายจะไปไหนต่อล่ะ ?''

    ''อืม ไปไหนต่อเหรอวันนี้ฉันตั้งใจไว้ว่า จะไปเที่ยว เอเวอร์แลนด์ล่ะ ''( เอเวอร์แลนด์ ตั้งอยู่หุบเขาในเมืองยงอิน(Yongin) ทางตอนใต้ของกรุงโซล)

    ''ห๊า!! สวนสนุกน่ะเหรอ''

    ''อืมใช่ ฉันน่ะอยากไปมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้มีโอกาศไปสักทีน่ะ''

    ''ห๊า!!นายเนี้ยนะไม่เคยไปสวนสนุกน่ะ ไม่น่าเชื่อแหะ''

    ''เอาน่าไม่เชื่อก็เชื่อซะ เอ้าจะไปไม่ไปล่ะ ?''

    ''ไปสิๆ ไม่ไปได้ยังไงล่ะ ฉันเองก็อยากไปเที่ยวสวนสนุกน๊า >''

    แล้วผมกับมายะก็เดินทางมาถึง สวนสนุก เอเวอร์แลนด์  เอเวอร์แลนด์แบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ ให้เลือกเล่นได้ตามความใจชอบทั้งเครื่องเล่นที่หวาดเสียว สวนน้ำ สวนดอกไม้ ที่จัดตกแต่งสวนด้วยไม้ดอกนานาชาติ สลับกันตลอดทั้งปีและสวนสัตว์ซาฟารี

    เป็นสถานที่ ที่น่ามาเที่ยวที่สุดเลย ในเวลานี้ล่ะนะ

     ผมซื้อตั๋วผ่านประตู สองใบ ราคาตกคนล่ะ 33000วอน ก็โอเคล่ะนะ สมราคาเค้าจริงๆ ในนั้นมีตั้งหลายอย่างนิ

    จะเล่นหมดมั้ยน่ะ  แต่ก็เอาเถอะไหนๆก็มาแล้ว ใช้เวลาให้คุ้มไปเลย

    ''ว๊าวๆๆๆ อะไรจะกว้างใหญ่ขนาดนี้เนี้ย'' มายะ ทำท่าทางตื่นเต้นดีใจแบบสุดๆ

    ''อืมนั้นสินะ ''ขนาดผมยังตื่นเต้นเลย ก็ไม่เคยมานี้นา มันใหญ่โตจริงๆแหะ แค่เดินเข้ามาก็เจอปราสาทหลังบะเริ้มเลย

    *0* อะไรจะใหญ่โตปานนี้

    ''ไม่เสียเที่ยวที่มานะเนี้ย จินโฮ''

    ''นั้นสินะ ว่าแต่เราจะไปไหนก่อนดีนะ ชมดอกไม้ เล่นของเล่น หรือนั่งรถบัสดูสัตว์ดีล่ะ ?''

    ''อืม...มายะคิดอยู่ครู๋นึง มาสวนสนุกทั้งที ถ้ามัวไปดูดอกไม้ นั่งรถบัสชมสัตว์ จะไปสนุกเหรอ

    มาสวนสนุกต้องเล่นของเล่นที่เสียวๆ จิ''

    มายะ พูดพร้อมกับ ชี้ไปที่รถไฟเหาะ ''นี้ๆไงๆ ฉันอยากเล่นไอ้นี้พาฉันเล่นหน่อยสิ''

    ''อ๊า!! นั้นล่ะฉันอยากเล่นมานานแล้ว วันนี้ล่ะเอาให้เต็มที่ไปเลย''

    ผมกับมานะ ขึ้นมานั่งบนรถไฟ มายะเลือกแถวหน้าเลย ไม่คิดมั้งเหรอไงว่าผมก็ชักเสียวๆแล้ว

    เห็นในทีวี เค้ากรี๊ดๆๆๆ แล้วผมจะรอดมะเนี้ย รถไฟเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตอนนี้ใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มแล้ว

    รถไฟเริ่มเลื่อนขึ้นไปสูงขึ้น ขึ้น ขึ้น แล้วก็ปล่อยตัวลงมาตามรางของมัน '' ว๊ากกกกกกก!!! ''ผมร้องลั่นด้วยความเสียวบวกกลัว

    มายะ ร้องเสริม แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้กลัวแบบผมน่ะสิ เธอร้องเพราะชอบใจ แถมยังมีคนหลังๆ กรี๊ด กันระงมไปหมด

    ทำให้ผมตอนนี้ กลัวขี้แตกแล้ว เมื่อไหร่จะหมดรอบกันล่ะเนี้ย โอ๊ย ช่วงเวลาแค่ไม่กี่นาทีดูเหมือนว่ามันจะนานกับผมเหลือเกิน

    หมดรอบสักที เฮ้อ....กลัวแทบตาย

    ''วู้วๆๆ สนุกจังเลยแหะ คิดเหมือนกันมะจินโฮ เอ๊ะ!!ทำไมหน้าตาเป็นแบบนั้นล่ะเนี้ย เป็นไรไปจินโฮ''

    ''ก็นิดหน่อยอะนะ ฉันเพิ่งเคยขึ้นเป็นครั้งแรกน่ะ เลยเกิดอาการป๊อดนิดๆ น่ะ''

    ''ฮ่าๆๆ อย่าบอกนะว่านายกลัวน่ะ นี้แค่อย่างแรกเองนะเนี้ย ถ้าเล่นอีกนายไม่ช๊อคตายไปเลยเหรอไง เธอหัวเราะลั่น''

    ''เชอะ!! มันก็แค่ครั้งแรกล่ะน่าที่ฉันกลัวน่ะ มาสิจะอีกกี่อย่างฉันก็ไม่กลัวหรอกน่า เธอนั้นแหละพร้อมยัง''(ผมกัดฟันพูดทั้งที่ในใจไม่ไหวแล้ว)-0-

    ''โอ้ แน่ใจเหรอว่าจะกี่อย่างก็ได้นะ ช๊อคขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะย่ะ''

    ''หึ!ถึงฉันจะช๊อค ฉันก็ยังไม่ตายวันนี้อยู่ดี เพราะกว่าฉันจะตายก็อีกตั้ง6วัน'' ผมพูดประชด มายะบวกงอลนิดๆ

    แล้วมายะ ก็พาผมเล่นอะไรอีก ตั้งหลายอย่างที่ผมไม่อยากเล่น เลยแต่ทำไงได้ก็ดันไปท้าเธอซะแล้วนิ เลยต้องจำใจเล่น

    ''ว๊าว สนุกๆๆ ฉันไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้วแหะ เอ๊ะ ดูนั้นสิ จินโฮ มีถ่ายรูปด้วยล่ะ เราไปถ่ายรูปกันเถอะ นะนะนะ

    ฉันอยากถ่ายรูป''

    มายะลากแขนผมไป ถ่ายรูปยันนี้มีความสุขจังแหะ ดูๆแล้วไม่ได้แตกต่างจากวัยรุ่นทั่วไปเลยด้วยซ้ำ เธอดูเหมือนเด็กไร้เดียงสา

    เวลาได้เล่น หรือกิน หรืออยากได้อะไร ผิดกับครั้งแรกที่เจอกันเธอไม่ใช่แบบนี้เลยตอนนั้นแววตาเธอดูน่ากลัว ไม่ว่าจะคำพูดหรือคำจา ออกแนวโหดๆ ด้วยซ้ำ ผมชักจะชอบยัยนี้ซะแล้วสินะ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก ก็ผมเป็น มนุษย์ แต่เธอ เป็นยมทูตนิ

    ''โอ้โห ได้หลายรูปเลยแหะ วิวสวยๆ ทั้งนั้นเลยดูสิ จินโฮ มายะดูรูปด้วยความตื่นเต้น''

    ผมยกนาฬิกาขึ้นดู บ่ายโมงกว่าแล้วเหรอเนี้ย'' นี้มายะ เธอหิวมั้ย?''

    ''อ๊า พอนายทักปุ๊บ ฉันก็หิวเลยทีเดียว อิอิ ^^ นายนี้รู้ใจฉันจัง''

    ''อ๋อเหรอ-*- งั้นฉันอยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวฉันจะไปหาซื้ออะไรมาให้ อย่าไปไหนล่ะ มันกว้างเดี๋ยวจะหลงกันฉันไม่อยากตามหา''

    ''คร๊าๆๆ จะรอตรงนี้ไม่ไปไหนเลยคร๊า''

    ผมเดิน ออกไปหาอะไรทาน ที่นี้มันกว้างจริงๆแหะ จะเดินไปทางไหนทีเหนื่อยเลย ผมเดินไปเจอร้านค้า แวะซื้อฮอทดอก(ขนมปังฮอทดอก) ไป2ชุด เครื่องดื่มอีก2กระป๋อง แล้วเดินกลับไปหา มายะ อยู่ไหนน่าพอเดินมาไกลแล้วหาทางกลับยากเลยแหะ

    ''อ๊ะ !!นั้นไง มายะ กำลังสนใจดูรูปใหญ่เลย ผมค่อยๆย่องไปข้างหลังเธอ เอากระป๋องเครื่องดื่มแนบไปที่หน้าของเธอ''

    ''ว๊าย!! อะไรเนี้ย''

    ''เครื่องดื่มกับ ฮอทดอก มาแล้วครับ''ผมรีบพูดเพราะกลัวเธอจะโกรธ แต่แปลกแหะเธอไม่โกรธ กลับรับของไปกินหน้าตาเฉย

    ''นี้ๆ จินโฮดูรูปนี้สิ ทำไมนายทำหน้าแบบนั้นล่ะ ปวดท้องเหรอดูตลกจัง ฮ่ะๆๆ''

    ''นั้นสินะ คงจะปวดท้องจริงๆ มั้งพอดีฉันไม่ค่อยชอบถ่ายรูปเท่าไหร่หรอกนะ  ''ระหว่างที่ดูรูปกันอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น

    ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด.. ยองกีโทรมา ติ๊ด ผมกดรับ

    ''ว่าไงยองกี มีไรเหรอ''

    ''อ๊า!! จินโฮวันนี้ว่างไหมเพื่อนพอดีฉันจะชวนนาย มาเที่ยวหน่อยนะ พอดีเป็นวันเกิดรุ่นพี่เก่าเราน่ะ พี่ชิน นายจำได้ไหม''

    ''อ่อเหรอ อืมก็จำได้อะนะ แล้วยังไงเหรอ'' 

    '' ก็ไม่ยังไงหรอก นายสนใจจะมามะล่ะ พี่เค้าเลี้ยงน่ะ กินฟรี ผับที่ฉันทำงานอยู่เนี้ย''

    ''อะ..เหรอ ก็ยังไม่แน่ใจหรอกนะ ต้องปรึกษาญาติก่อนว่าจะไปไหม''

    ''ญาติงั้นเหรอ ใครวะ''

    ''อ่อ พอดีมีญาติจากต่างจังหวัด เค้าจะมาเรียนที่นี้น่ะ เลยมาขออาศัยห้องฉันชั่วคราวจะทิ้งก็ไม่ได้น่ะ เป็นผู้หญิง

    จะพาไปด้วยได้ไหมล่ะถ้าพาไปได้ ก็คงได้ไปล่ะมั้ง''

    ''อ๊า...เอามาเลยๆ ผู้หญิงก็ดีเลย จะได้สนุกๆ เพราะวันนี้ผู้หญิงน้อยวะ''

    ''เออ..ได้ๆ เดี๋ยวจะลองคุยดูก่อนแล้วกันนะ แล้วจะโทรบอกว่า จะไปหรือไม่ไปแค่นี้นะ''

    ''อืมๆ ได้ๆยังไงโทรมาบอกแล้วกัน หวัดดีเพื่อน ''ตรูดๆๆ''

    ''ใครโทรมาเหรอ?''

    ''อ่อ ยองกี เพื่อนฉันน่ะ โทรมาชวนไปเที่ยวคืนนี้ สนใจจะไปด้วยมั้ยล่ะ''

    ''เที่ยวเหรอ ที่ไหนล่ะ''

    ''เป็นที่เที่ยว กลางคืนน่ะ เค้าเรียกว่า ผับ ก็ไม่ได้มีอะไรมาหรอก เข้าไปก็มีเสียงเพลงดังๆ ไฟสลัวๆ กินเหล้ายืนเต้น

    มีดีเจ ประมาณเนี้ย สนใจไปด้วยมะ''

    ''ผับงั้นเหรอ มันหน้าตาเป็นไง แล้วอร่อยมั้ย ผับน่ะ?''

    -*- ''เธอนี้ ในหัวมีแต่เรื่องกินหรือยังไงน่ะ ผับมันไม่ใช่ของกินสักหน่อย

    มันเป็นที่เที่ยวของเด็กใจแตก อะนะ''

    ''เอ้าเหรอ ใครจะไปรู้กันเล่า ก็เห็นนายพาไปไหนก็ กินๆๆ ฉันก็นึกว่าจะพาไปกินอีก^^''

    ''ไปก็ได้ เพราะยังไงนายไปไหน ฉันก็ต้องตามไปอยู่แล้ว ไม่เกี่ยง อิอิ/*0*''

    ''แล้วตอนนี้ จะไปไหนต่อดีล่ะ เล่นเครื่องเล่นก็นานแล้ว ลองเปลี่ยนไปดูสัตว์มั้ง มั้ย''

    ''อืมๆ ก็ดีนะ ฉันก็เริ่มเหนื่อยๆแล้ว ไปนั่งรถบัสมั้งก็ได้''(เธอเหนื่อยเป็นกะเค้าด้วยเหรอ)

    ผมพา มายะไปนั่งรถบัส ชมสัตว์ อยู่พักใหญ่ แล้วก็ สวนดอกไม้พาเธอเที่ยว จนเย็น

    ''จะทุ่มแล้ว ฟ้าเริ่มมืด แล้วด้วยเดี๋ยวไปหาอะไรกินกันเถอะ จะได้ไปหา ยองกี กันต่อ''

    ''นี้จินโฮ'' มายะเรียกผมด้วยเสียง ที่ตื่นเต้น

    ''นั้นๆ เธอชี้ไปที่ชิงช้าสวรรค์ ฉันอยากเล่นไอ้นั้นน่ะ  พาฉันเล่นหน่อยนะแล้วค่อยกลับ น๊าๆๆๆๆๆๆ''

    เธอทำหน้าขอร้องแบบเด็กๆ ดูเหมือนเธอจะอยากเล่นมากเลยแหะ ^^

    ''เอาก็เอา เล่นแล้วกลับเลยนะ''

    ''คร๊า เล่นแล้วกลับ เลย อิอิ จินโฮใจดีจังแหะ ^^*''

    ผมพามายะ ขึ้นมาบนชิงช้า เธอนั่งติดกระจก ชิงช้าขึ้นมาสูงจนถึงยอด มองเห็นบรรยากาศข้างล่างได้ชัดเจน

    มองเห็นในตัวเมืองด้วย ภาพตอนฟ้ามืด มองเห็นแสงไฟในเมือง กับในสวนสนุกนี้ ก็สวยดีเหมือนกันน่ะ

    ผมยังไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ต้องขอบใจมายะ นะเนี้ย

    ''นี้ จินโฮ ฉันขออะไร อย่างได้ไหม''

    ''หืม...อะไรเหรอ?'' มายะดูท่าทางแปลกๆ

    ''คือ...ช่วยมานั่งข้างๆฉันหน่อยสิ พอดีฉันกลัวความสูง น่ะ!!''

    ''ห๊า!! เธอเนี้ยนะกลัวความสูง ฮ่ะๆๆ''

    ''นี้เลิกหัวเราะแล้วมานั่งข้างๆได้ไหม ฉันขอร้องล่ะ ''เธอพูดเริ่มน้ำตาซึม

    ผมลุกจากที่นั่งผมอีกฝั่งไปนั่งข้างๆ มายะ

    ''ขอมือหน่อยสิ''

    ''นี้ฉันไม่ใช่หมานะ อยู่ๆจะมาขอมือ''

    ''ยืนมือมาเหอะ น่าไม่ตลกนะ''

    ผมยืนมือไปให้เธอ มายะกุ้มมือผมไว้แน่นบีบจนมือผมเจ็บ ดูเธอจะกลัวจริงๆซะด้วยสิ เหงื่อที่มือเธอชุ่มไปหมด

    เธอหลัวตาปี๋ เอาหน้ามาซบที่ไหล่ผม  *-* เวลานี้ทำไมเธอถึงดูน่ารักนักนะ ความรู้สึกเหมือนตอนที่เธอหลับบนรถก็กลับมาอีกที

    ผมไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเลยจริงๆแหะ อยากให้อยู่แบบนี้นานๆ ถ้านี้เป็นความฝันก็ขอให้ผมไม่ตื่นได้ไหมน่ะ

    ''นี้ จินโฮ นั่งแบบนี้นะอย่าลุกไปไหนนะ อย่าทิ้งฉันนะ ฉันกลัว กลัวมากเลย''

    มายะพูด เสียงสั่นเธอร้องไห้จนเสื้อผมเปียก

    แล้วก็หมดรอบ มายะรีบออกมาจาก ชิงช้าทันทีแบบไม่พูดไม่จา ผมเพิ่งเคยเห็นเธอเป็นแบบนี้นะเนี้ย

    ''นี้ ถ้ารู้ว่ากลัวความสูง ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะ ห๊ะ! ฉันจะได้ไม่ต้องพาขึ้น''เธอเงียบไม่มีคำตอบใดๆ ดูเหมือนเธอจะสำนึกผิด

    ผมพาเธอไป ทานข้าวแล้ว รีบแต่งตัวไปหา ยองกี ที่ผับ ผมมาถึงที่นี้ ดึกพอสมควรเพราะว่าจะจับเธอแต่งตัวได้ก็ไม่ง่ายเลย

    เธอเล่นจะเอาแต่ ชุดคอสตูม ดูแบ๊วๆ เฮ้อ...ปวดหัวเลยแหะ

    ผมกับมายะ มาถึงร้านที่ ยองกีทำงานอยู่

    พนักงานหน้าร้าน พูดว่า ''พอดีวันนี้มีการเหมาทั้งร้านน่ะครับ เฉพาะแขกที่รับเชิญเท่านั้นนะครับถึงจะเข้าได้''

    ''พอดีผมเป็น รุ่นน้องของเจ้าของงานน่ะครับ''

    ''งั้นขอดู บัตรเชิญด้วยครับ''  '' ห๊า!!อะไรน่ะ บัตรเชิญงั้นเหรอ''เจ้ายองกีไม่เห็นบอกเรื่องนี้เลย ผมกดโทรศัพท์ หายองกี

    ''ฮัลโหล ไงจินโฮ ถึงไหนแล้ววะ''

    ''ถึงแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่หน้าผับเนี้ยแต่เข้าไม่ได้ ไม่มีบัตรเชิญ แกออกมาเคลีย์ให้หน่อยสิ''

    ''อ๊า!! มาถึงแล้วเหรอ โอเคๆฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ รอนั้นนะแป๊บเดียว''

    ''อืมๆ ขอบใจมาก ''ติ๊ด

    ผมกับมายะ ยืนรอสักพัก ยองกีก็ออกมา

    ''ไงจินโฮ มาๆเชิญๆ เพื่อนๆกำลังรออยู่เลย แล้วไหนล่ะ ญาติแกที่แกชวนมาด้วยนะ''

    ''ก็นี้ไงยืนข้างๆฉันเนี้ย'' ผมชี้ไปที่มายะ ที่ยืนทำหน้า เลิกลัก

    ''สะ..สวัสดี คะ ชื่อมายะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ'' มายะพูด ตะกุกตะกัก เหมือนอายๆ แปลกแหะ พอพามาที่แบบนี้ทำไมเธอถึงดูเป็นบ้านนอกเข้าเมืองไปเลยเนี้ย

    ''อ๊า!! สวัสดีครับ ผม ซา ยองกี ยินดีที่ได้รู้จักคนสวยแบบคุณ มายะ แหมๆ ไม่คิดเลยนะว่าครับว่า เจ้า จินโฮจะมีญาติ น่ารักแบบนี้แต่กลับไม่เคยบอกผมเลย''

    ''แฮ่ๆๆ...เหรอคะ ^^''เธอยิ้มแบบเจื่อนๆ

    ''เอาจะเข้าไปได้ยัง หรือจะจึบกันก่อนฉันจะได้กลับ ''ผมพูดแบบเคืองๆทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ

    ''อะ..เออ ป่ะเข้าไปกันเหอะ เดี๋ยวจะเสียเวลา ว่าแต่ญาติแก กินเหล้าเป็นไหม''

    ''ไม่ดีกว่า ขอเป็นน้ำผลไม้ หรือไม่ก็ น้ำอัดลมแล้วกันฉันไม่อยากมีปัญหาน่ะ''

    ''อืมๆ โอเค เดี๋ยวจัดให้ ''ยองกีพาผมเข้ามาในงาน ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมห้องของผมเกือบทั้งหมด

    รวมทั้งแฟนเก่าผม คนนึงด้วย เฮ้อ...ทำไมต้องมาเจอกันในนี้ด้วยนะ ไม่เข้าเลย

    ''เออนี้ จินโฮ ไปทักพี่ ชินเค้าหน่อยสิ ไม่เจอกันนานแล้วนิ พี่เค้าถามหาแกบ่อยๆ นะเฟ้ย''

    ''อะ..อืม'' ยองกี พาผมไปหาพี่ ชิน ปาร์ค เจชิน เป็นรุ่นพี่ผม ตอนม.ปลาย เป็นหนุ่มเจ้าสเน่ย์ สาวๆติดตรึม

    ด้วยความหล่อ บวกกับ คำพูดที่คมคาย เรียนก็เก่ง กีฬาก็เก่งแถมไม่โง่ให้ผู้หญิงหลอกด้วย ต่างจากผมลิบลับเลย

    ''อ๊า พี่ชิน ผมพา จินโฮมาทักทายน่ะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว''

    ''หวัดดีครับ พี่ เจชิน''

    ''เอ้า ว่าไงจินโฮ แหม ไม่ได้เจอซะนานเลย ไงคราวนี้ได้สอบเข้ามหาลัยหรือยังล่ะ''

    ''ก็ สอบแล้วล่ะครับ รอดูผลว่าจะออกมาเป็นยังไง ก็ทำไปเต็มที่ล่ะครับ''

    ''อ๊า ...งั้นก็ดีนะสินะ ฮ่าๆๆๆ ได้ข่าวว่าแก โดนผู้หญิงหลอกมานี้ หว่าโดนหลอกเอาเงินไปตั้ง50ล้าน ทำไมถึงกล้าวะ''

    ''เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าไปพูดถึงมันเลยครับ ตอนนี้ผมเป็นคนใหม่แล้วล่ะ ไม่อยากจะกลับไปเป็นอย่างเดิมอีกน่ะ''

    ''อะ เหรอ แล้วนี้มากับใครล่ะ หรือว่ามาคนเดียว?''

    ''อ่อพอดีผมมากับ ญาติน่ะครับพี่คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย พอดีผมพามาด้วย ชื่อ มายะ''

    ''สวัสดีคะ มายะคะ ''พี่เจชิน มองมายะ แบบอึ้งๆ มองนานซะจนผมเริ่มหงุดหงิด

    ''เอ่อ...พี่ชิน ครับเป็นอะไรไปครับ เงียบเลยถ้าไม่ชอบผมพากลับก็ได้นะครับ''

    ''เฮ้ย...ไม่ต้องๆ จะพากลับทำไมเล่า ไหนๆก็พามาแล้ว มาสนุกด้วยกันเลยดีกว่า มีคนสวยๆขนาดมาเที่ยวดีซะอีก ฮ่าๆๆ''

    นั้นไง ความเพลสบอย เริ่มออกแล้ว พูดไม่ทันจบ พี่เจชิน ก็เริ่มจีบ มายะซะงั้น

    ปล่อยให้ ผมนั่งกินเหล้าคนเดียว เฮ้อ...แต่ก็ช่างเหอะ ไหนๆก็มาล่ะกินเหล้าดีกว่า

    ผมนั่งคุยกะ ยองกีหลายๆเรื่อง แต่ผมก็แทบไม่สนใจที่ ยองกี่เล่าเท่าไหร่เลย ที่ผมสนใจตอนนี้คือ มายะ พี่เจชิน ดูเหมือนตั้งใจจะจีบเธอเอาให้ได้เลย คุยกันถูกคอซะด้วยสิ ทำไมผมถึงได้รู้สึก หมั่นไส้นักนะ หรือว่าผมหึง!! เอ๋....หึงงั้นเหรอ ผมจะไปหึงเธอทำไมกันล่ะ

    ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี้ แต่พอเห็นเธอไปคุยกับคนอื่นแล้ว ใจผมเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก แล้วไหนจะแฟนเก่าผมที่มากะแฟนใหม่ของเธอ เต้นกันสนุกสนานเลย แล้วนั้นอะไรน่ะ มายะกับพี่เจชิน ลุกไปไหน อ๊ะ ไปเต้นรำด้วยกันเหรอ ชิส์ มีความสุขจริงนะ ยัยมายะ ทิ้งฉันกินเหล้าคนเดียวแบบนี้เลยเหรอ

    ''เฮ้ย จินโฮ...จินโฮ!! ''ยองกี ตะโกนเรียกผม

    ''ห่ะ ...ห๊า!! อะไร มีอะไรเหรอ ยองกี''

    ''แกเป็นอะไรของแกวะ นั่งทำหน้าซีเรียสมาตั้งแต่มะกี้แล้ว ที่ฉันพูดไป แกฟังมั้งมั้ยเนี้ย''

    ''อะ อ้อ ฟังสิ ฟังอยู่ ทื่แกบอกว่าจะเก็บเงินไปเปิดร้าน วีดีโอ ใช่มะล่ะ''

    ''เฮ้อ...แกไม่ได้ฟังจริงๆด้วย เรื่องนั้นฉันพูดจบไปนานแล้วเฟ้ย แกเป็นอะไรของแกวะ''

    ''ก็...เอ่ออ...เปล่าหรอกไม่มีอะไร เออนี้ ยองกี ฉันขอตัวกลับก่อนนะ ไม่มีอารมณ์ ดื่มแล้ววะ''

    ''เอ้า เฮ้ย!! จะกลับแล้วเหรอ แกเพิ่งมาไม่นานเองนิ ทำไมกลับเร็วจังวะ แล้วญาติแกล่ะ ไม่เอากลับด้วยเหรอ''

    ''เหอะๆ เค้ากำลังมีความสุขเลย ฉันไม่อยากไปกวนเค้าวะ ปล่อยให้เค้าสนุกไปเหอะ ถ้าเค้าอยากกลับก็ฝากแกเอาไปส่งที่ห้องฉันด้วยแล้วกัน ฉันไปล่ะ ''ผมยกเหล้าแก้วสุดท้ายแล้วลุกไปอย่างหัวเสีย ไม่ฟังเสียงเรียกของ ยองกี

    เฮ้อ...นี้ผมเป็นอะไรของผมกันน่ะ ยัยนั้นจะคุยกับใครจะเต้นกับใคร มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย

    ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ จะได้ไม่ต้องมี ใครมากวนใจนายน่ะ จินโฮ  นายน่ะลำคาญยัยนั้น จะตายแค่นี้จะไปสนใจทำไมกัน

    นั้นสิจะสนใจทำไม - -a ผมเดินไปคิดไป หรือว่าผมจะชอบเธอเข้าจริงๆแล้วล่ะเนี้ย ไม่จริงอะเป็นไปไม่ได้

    ยัยนั้นเป็นยมทูตนะ จะมีความรักได้ยังไงกัน โอ๊ย ไม่คิดแล้วปวดสมอง เฮ้อ....

    ระหว่างที่ผมกำลังเดินกลับนั้นก็มีเสียงผู้หญิงคนนึงทักผม

    ''เอ๋..นั้นใช่ ''จินโฮ รึเปล่าน่ะ? ผมหันไปตามเสียงนั้นผมถึงกับตกใจ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยนั้นพี่ ''อึนเจ'' นัม อึนเจ
    รุ่นพี่ของผมพี่ผมเคยหลงรักนั้นเอง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ล่ะเนี้ย

    ''อะ...ใช่จินโฮจริงๆด้วย แหมไม่ได้เจอนานเลยไงสบายดีมั้ยจ้ะ''

    ''อะ...เอ่อ สบายดีครับ แปลกใจจังเลยที่ได้มาเจอพี่ อึนเจที่นี้ มางานเลี้ยงของพี่เจชินเหรอครับ?''


    ''ใช่จ้ะ พี่มางานเลี้ยงของเจชินเค้าน่ะ เป็นไงได้เป็นนักศึกษาหรือยังล่ะเราน่ะ?''

    ''ก็ได้สอบแล้วล่ะครับ ตอนนี้ก็รอฟังผลยังไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า ว่าแต่พี่อึนเจทำงานหรือยังล่ะครับ?''

    ''อ่อ ตอนนี้พี่ทำงานที่บริษัติของแม่เจชินเค้าน่ะ พอดีแม่ของเจชินเค้าทำบริษัติทั่วนำเที่ยวน่ะจ้ะ พี่ก็ได้เป็นไกด์ให้เค้าน่ะ^ ^''

    ''อ่อดีจังเลยนะครับ แบบนี้พี่ก็ได้ไปเที่ยวหลายทีเลยน่ะสิครับ*-*''

    ''ก็ทำนองนั้นล่ะ แต่พี่ก็ยังทำฝันให้เป็นจริงไม่ได้สักทีล่ะนะ''

    ''อ่อครับ เรื่องที่พี่อยากเป็น นักร้องสินะครับ!?''

    ''อ่อจ้ะ เออ แล้วนี้มากับใครเหรอจินโฮ หรือว่ามาคนเดียวน่ะ?''

    ''อ่อ พอดีผมมากับญาติน่ะครับ แต่ตอนนี้เค้ากำลังมีความสุขเลยไม่อยากไปกวนเค้าน่ะครับเลยว่าจะกลับก่อน''
    ผมชี้ไปทาง มายะที่กำลังเต้นอยู่กับพี่เจชินอย่างสนุกสนาน ชิส์เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัดเลย

    ''เอ้า!! จะกลับแล้วเหรอจ้ะ แหมพอดีเลยพี่เองก็กำลังจะกลับแล้วเหมือนกันน่ะ ยังไงเรากลับด้วยกันดีมั้ย?''

    ''อ้าวแล้วตอนมาพี่ไม่ได้มากับพี่เจชินเค้าเหรอครับ?''

    ''พี่ก็มากับเจชินเค้านั้นล่ะ แต่พอดีพี่อยากกลับก่อนน่ะ พี่รู้สึกเบื่อน่ะนะแล้วก็บังเอิญมาเจอเราพอดีนี้ล่ะ
    ไหนๆก็ไหนๆ เราก็เดินกลับด้วยกันซะเลยเหมือนสมัยก่อนไงจ้ะ ^ ^''

    ''อะ เอางั้นก็ได้ครับ '' ระหว่างที่ผมเดินกลับกับพี่อึนเจนั้น ก็ได้คุยถึงเรื่องราวเก่าๆ มากมายทำให้ผมคิดถึงเวลาเก่าๆ ที่ได้อยู่กับพี่ อึนเจรวมไปถึงเรื่องที่ผม สารภาพรักกับพี่อึนเจด้วย แต่การเจอกันครั้งนี้กลับไม่ทำให้ผมรู้สึกใจสั่น หรือตื่นเต้นเวลาที่ได้อยู่กับพี่ อึนเจเลย ตอนนี้ในใจผมคิดถึงแต่ มายะ ทำไมกันนะยัยนั้น จะอยู่กับใครก็ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย

    ''นี้ นานแล้วนะเนี้ยที่เราไม่ได้เดินกลับด้วยกันแบบนี้น่ะ ''พี่อึนเจ ชวนผมคุย

    ''อ่อครับ ก็นานมากแล้วตั้งแต่ที่พี่เรียนจบไปเข้ามหาลัยนั้น ผมก็ไม่ได้เจอพี่อีกเลย''

    ''ใช่ๆ พี่ยังจำได้เลย ตอนที่เดินกลับด้วยกันแล้วมีพวกวัยรุ่นเข้ามาวุ่นวายกับพี่ ตอนนั้น จินโฮฟัดกับพวกนั้นจนน่วมไปหมดเลย ฮ่ะๆๆ''

    ''แหมๆเรื่องนานขนาดนั้น พี่ก็ยังจำได้นะครับ'' ช่วงเวลานี้ที่ผมได้อยู่กับพี่อึนเจแต่ทำไมจิตใจผมถึงได้กระวนกระวายนักนะ

    ''เอ่อ...พี่อึนเจครับ ผมขอตัวไปตามญาติผมกลับก่อนนะครับรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมายังไงไม่รู้น่ะ ''

    ''เอ้า แล้วไม่กลับด้วยกันแล้วเหรอจ้ะ ? ''

    ''เอาเป็นโอกาศหน้าน่ะครับ วันนี้ขอโทษจริงๆ ถ้าเกินยัยนั้นเป็นอะไรไปน่ะ ป้าๆผมที่ต่างจังหวัดคงเอาผมตายแน่เลย''

    พี่อึนเจไม่พูดอะไร ได้แต่มองหน้าผมแล้วยิ้มๆ ''จ้าๆไว้โอกาศหน้าก็ได้ ^ ^''

    ผมรีบวิ่งกลับไปที่ร้าน ที่ยองกีทำงาน เฮ้อ....เป็นบ้าอะไรไปนะเราทำไมถึงได้ปล่อยให้พ่ อึนเจกลับคนเดียวแบบนั้นนะ
    เพราะเธอแท้ๆเลย ยัยยมฑูตจอมยุ่ง!! ชิส์




    ด้าน มายะ

    ''นี้ ยองกี''

    ''หืม...ว่าไงมายะ''

    ''เห็น จินโฮบ้างไหมน่ะ ฉันเดินหาทั่วเลยไม่เจอ ในห้องน้ำก็ไม่มี เค้าไปไหนเหรอ''

    ''อะ อ่อ จินโฮ มันขอตัวกลับไปก่อนแล้ว ล่ะบอกว่าถ้าเธอจะกลับ ก็ให้ฉันไปส่ง สงสัยหมอนั้นจะหึงเธอล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆ''

    ''ห๊า!!ว่าไงนะ จินโฮ กลับไปแล้วเหรอ ทำงี้ได้ไง ไหงปล่อยฉันไว้คนเดียวล่ะ แล้วหมอนั้น จะมาหึงฉันเรื่องอะไรกันไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย''

    ''ไม่รู้สิ แต่เท่าที่ฉันดู มันคงหึงเธอจริงๆล่ะนะ ว่าแต่เธอจะกลับรึยังล่ะ ถ้าจะกลับแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปส่ง''

    ''ไม่เป็นไร ยองกี ในเมื่อตานั้นกล้าทิ้งฉัน ไว้แบบนี้ฉันก็ จะเดินกลับเอง เจอดีแน่ มยอง จินโฮ''

    ''หึย ยัยนี้น่ากลัวแหะ จะรอดมั้ยเนี้ย จินโฮ''

    ''ไม่ได้นะ ถ้าฉันปล่อยให้เธอเดินกลับคนเดียว เจ้าจินโฮ มันเอาฉันตายแน่เลย เอ้าไปไหนแล้ว เฮ้ย....มายะ โธ่ ไปโน่นแล้ว''

    ''มยอง จินโฮ เชอะ!! กล้าทำกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ เสียงแรงที่ฉันมองนายเป็นคนนิสัยดีไว้ใจได้''

    ''แต่นี้นายกลับทิ้งฉันไว้กับคนอื่น แบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนาย เนี้ย คอยดูนะฉันกลับไปถึงห้องเมื่อไหร่ นายตายแน่!!''

    ''นี้จะเดินไปไหนคนเดียว จ้ะน้องสาว''

    อะพวกวัยรุ่นขี้ยา งั้นเรอะ ชิส์ตอนนี้ฉันไม่มี เวลามาเล่นกับพวกนายหรอกนะ

    ''นั้นแน่ ทักไม่ตอบซะด้วยไม่รู้หรอกว่าพี่เป็นใครน่ะ''

    ''อย่ามายุ่งกับฉันน่ะ '' แย่แล้ว!!ลืมไปเลยว่าตอนนี้เราเป็น มนุษย์ นี้แล้วเราจะสู้กับพวกนี้ได้ยังไงกันพวกมันมีตั้ง3คน

    ''โอ้โห น่ารักซะด้วย จะรีบไปไหน จ้ะมาคุยกับพวกพี่ก่อนดีไหม ฮ่าๆๆๆ''

    ''ไม่นะ ปล่อยนะ ช่วยด้วย!!! ''อีตาบ้าจินโฮ นายไปอยู่ไหนนะ ทำไมไม่มาช่วยฉันนะ

    จะปล่อยให้ฉันโดนปล้ำหรือยังไง จำไว้เลยนะ จินโฮ จำไว้เลยคนใจร้ายT T'' ช่วยด้วย!!!''

    ''นี้พวกแกคิดจะทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นน่ะ''

    จินโฮ T T นายมาจริงๆเหรอเนี้ย '' ทำไมมาช้านัก''

    ''เฮ้ย...แกเป็นใครวะ ที่แท้ก็ไอ้เด็กหน้าจืดนี้เอง คิดจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมา ช่วยสาวน้อยคนนี้เหรอไง อย่างแก เอาหมาไปขี่ก่อนไป ฮ่าๆๆๆ''

    ''พวกแก ปล่อยผู้หญิงไปซะ แล้วฉันจะปล่อยแกไป''

    ''ว่ายังไงนะ แกคืดว่าแกคนเดียวจะทำอะไรพวกฉันได้ ห๊า ปล่อยงั้นเหรอ ถ้าฉันปล่อยฉันก็กลัวแกอะดิ!! ทำไมสาวน้อยคนนี้เป็น เด็กแกเหรอไงไอ้หน้า อ่อน''

    ''เออใช่แล้ว!! ผู้หญิงคนนั้น เป็นเด็กฉันเอง''

    ''ห๊า!! นายพูดอะไรของนายน่ะ จินโฮ ใครเป็นเด็กนายกัน''

    ''เธอน่ะ เงียบไปเหอะน่า  เอ้าจะปล่อยไม่ปล่อย หรือต้องให้ใช้กำลัง''

    ''พูดแบบนี้ จะไปรออะไรเล่า อยากตายนักใช่มั้ยไอ้หน้าอ่อน งั้นจะจัดให้''

    ผมตะลุมบอลกับ พวกนั้นอยู่ประมาณ5นาที พวกนั้นก็ลงไปนอนกองกับพื้นซะแล้ว

    ชิส์ ไม่ได้เรื่องกันสักหน่อย ยังไม่ได้ เหงือเลยไม่ไหวกันซะล่ะ ดีแต่ปากชะมัด


     มายะ ยืนจ้องผมตะลึงนิดๆ

    ''อะโห!! นี้นายเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี้ย จัดการกับพวกนี้ได้แป๊บเดียวเอง''

    ''ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ก่อนฉัน เป็นพวกชอบวิวาท น่ะแต่ก็ช่างมันเหอะ เธอเป็นไงมั้งล่ะ''

    ''เชอะ!! เป็นห่วงฉันด้วยเหรอ ย่ะ !!นายเองไม่ใช่เหรอ ที่ทิ้งฉันไว้คนเดียวถึงต้องเป็นแบบนี้น่ะ''

    ''ก็เพราะฉันเป็นห่วง ถึงได้ย้อนกลับมาดูนี้ไง รู้งี้ปล่อยให้โดนพวกนั้นปล้ำซะก็ดีหรอก''

    ''นี้นายจะใจร้ายปล่อยให้ฉัน โดนปล้ำจริงๆน่ะเหรอ''มายะ พูดทำท่าเหมือนจะร้องไห้

    ''เฮ้อ ใครจะไปทำลงกันเล่า ฉันก็มาช่วยแล้วนี้ไง''

    ''แล้วนี้นายเป็นอะไรมากรึเปล่า จินโฮ ที่แขนนายมีเลือดด้วยล่ะ''

    ''อ่อก็แค่ ถลอกน่ะแผลแค่นี้ไม่ตายหรอก ไกลหัวใจตั้งเยอะ เอาล่ะกลับกันเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปอีกหลายที่เลย''

    ''อะ อืม ''มายะเดินมาจับมือผม เราเดินจูงมือกันกลับที่พักผม อืม..ไม่อยากให้ผ่านคืนนี้ไปเลยแหะ มือเธอนุ่มดีจัง

    ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดเลย สงสัยผมจะชอบยัยคนนี้เข้าจริงๆซะแล้วสิ ^^

    ''นี้ จินโฮนายน่ะ หึงฉันเหรอ?''

    ''ห๊ะ!!ห๊า ทำไมฉันต้องหึงเธอด้วยล่ะเนี้ย เธอพูดเรื่องอะไรกัน''

    ''ก็ ยองกีบอกฉันว่า นายหึงที่ฉันไปคุยกับ ตา เจชินอะไรนั้น นายเลยหึงกลับไปเลย''

    ''เหอะ..งั้นเหรอ ฉันไม่ได้หึงสักหน่อยนะ แค่หมั่นไส้เท่านั้นเอง''

    ''อ้อ งั้นเหรอ นายนี้โกหกไม่เก่งเลยนะ อิอิ^^''

    ''ใครบอกว่า ฉันโกหก ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้หึงๆ ไม่มี ไม่มั๊>''

    ''ฮ่าๆๆ นายนี้ตลกจังเลย รู้ตัวมั้ย ว่านายหน้าแดงเป็นลูกมะเขือแล้ว ^^''

    ทำไมผมอยู่กับ ยัยนี้แล้วมีความสุขจังน่ะ ^^อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้จังเลย



    อ่านต่อ : http://writer.dek-d.com/boxnam2006/writer/view.php?id=751773#ixzz1ar1oDugY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×