ฮา ... จริงแล้ว น่ะผมเรียนเก่งนะ*.* ไม่ได้โม้ แถมครอบครัวก็มี ฐานะที่ดีเลยทีเดียว
พ่อเป็นผู้บริหารธนาคารใหญ่ ในเกาหลี เลยนะ ส่วนคุณแม่ผมเหรอ ท่านเป็นทูตเอกอัครราชฑูตในเกาหลี ผมเป็นลูกคนเดียว
แต่ค่อนข้างหัวดื้อ ชอบใช้ชีวิต สันโดด ฮาๆๆ = = แต่ดีนะ ที่แม่รักผม มากเลยเช่าคอนโดให้ผม อยู่คนเดียว
แต่ผมก็ทำเรื่องให้ เสียชื่อเสียงวงตระกูล ซะนี้ จะเรื่องอะไรนะเหรอ ก็ผม น่ะเอ็นท์ไม่ติดมา3 ปีแล้ว ทั้งๆที่เรียนเก่ง
เหตุก็เพราะ ผู้หญิง!! ใช่แล้วครับ ฟังไม่ผิดหรอก ผมเสียเรื่องเรียนเพราะผู้หญิงนั้นเอง ผมคงเกิดมา โชคร้ายด้วยแหละครับ
คบกับใคร เป็นอันต้องเลิกกันไปทุกทีสิน่า โดนหลอกอยู่ตลอดเลย T Tพูดไปแล้ว น่าเศร้าครับ
ครั้งแรก ที่ผมจะเข้าสอบเข้ามหาวิทยาลัย แฟนคนแรก ผมเค้าก็บอกผมว่า ''ถ้านายไม่มาหาฉันเดี๋ยวนี้ฉันจะฆ่าตัวตายให้ดู''
เอ้าผม มันคนรักแฟนนิ เลยต้องไปหาทำให้ผม พลาดการสอบครั้งแรกไป แล้วเธอก็ทิ้งผม เพราะบอกว่าผมมันดีเกินไป เค้าเจอคนที่ดีกว่าแล้ว (เรียกไปแค่นี้อะนะ)ToT แล้ว พอผมจะเริ่มสอบอีก ครั้ง แฟนคนที่2ของผม ก็จะฆ่าตัวตายถ้าผมไม่ ยอมรถเก๋งคันใหม่ ให้เธอ
เห็นการสอบดีกว่าเธอใช่มั้ย!! เอ้าว่าไปนั้น ผมเลยต้องรีบ ไปผ่อนรถให้เธอทันที ตอนนั้น โดนท่านพ่อ ไล่ออกจากบ้านกันเลยทีเดียว
เฮ้อ....แล้วในครั้งที่3ผมก็ตั้งใจ จะสอบเต็มที่ ครั้งนี้ต้องไม่พลาด!!- - หึหึ ผมมั่นใจมากว่าจะไม่ทำให้ แม่เสียใจอีก*.* และแล้ว สิ่งที่ผมดกำลังกลัว นั้นก็เกิดขึ้น!! ติ๊ด...ติ๊ด....ติ๊ด. โทรศัพท์ ผมดังขึ้น อ๊า!! แย่แล้ว คราวนี้จะอะไรอีกล่ะเนี้ย ผมหนักใจ จะรับดีมั้ย นะ
ถ้าไม่รับ ต้องเลิกกันอีกแน่ๆ ไม่ๆๆๆ ผมไม่เลิก ผมกดรับ แว๊กๆๆ แย่แล้ว กดรับแล้ว = o = ทำไง ดีๆๆๆ
''ฮัลโหล.. จินโฮเหรอ''
''ฮะ ฮัลโหล ... อ่าว่าไง จีซู ตอนนี้ ผมกำลัง จะสอบมีอะไร รึเปล่า''
....ปลายทางเงียบไปครู่นึง
''โหลๆ จีซู ฟังอยู่ หรือเปล่า''
'' จินโฮ ฉันมีเรื่อง จะขอร้องหน่อย น่ะไม่รู้จะเป็นการรบกวนเธอ ไหมนะแต่ว่าฉันจำเป็นจริงๆ''
นั้นไง มาอีกแล้วผมคิดในใจ ....''เอ่อ แล้ว มันคือเรื่องอะไรเหรอ ให้ผมสอบเสร็จก่อนได้ไหม'' (ผมต่อรอง)
''ถ้า ฉันรอ เธอสอบเสร็จ ป่านนั้น ฉันกับแม่ คงไม่มีที่อยู่แล้ว ล่ะ''
''ห๊า!! ไม่มีที่อยู่ เกิดเรื่องอะไร ขึ้น เหรอ จีซู'' (เอาแม่มา ขู่เลยเรอะ)
''คือตอนนี้ มีเจ้าหนี้ ที่แม่ฉันไปกู้เงินมาตามาทวงที่ บ้านถ้า ฉันไม่จ่ายวันนี้ พวกเค้า จะไล่ออกจากบ้าน''
''อ๊า~ อะไรกัน ทำไมใจร้าย แบบนี้ นะ- - แล้ว เป็นหนี้ เท่าไหร่ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ''
''ก็ ไม่เยอะหรอก แต่ ฉันไม่รู้ว่า จะเป็นการรบกวนเธอ ไหม''
''นี้ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ว่าจะรบกวนมั้ย บอกมาเหอะ ว่าเท่าไหร่''
'' 50ล้านวอน นะจ้ะ''
''อ่อ 50 ล้านวอน ห๊า!!! 50ล้าน !!!''
''นี้ๆ แม่เธอไป กู้อะไร มากมายขนาดนั้น น่ะห่ะ''
''นั้น สินะมันคงเยอะไป สินะ จินโฮ คงช่วยฉัน ไม่ได้หรอก ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวฉัน โทรไปหา คนอื่นเผื่อ ว่าเค้าจะช่วยได้''
''ถึงต้องแลก ด้วยตัวฉันก็เถอะ T T'' (เธอพูดเสียงปนสะอื่น)
''อะ อะ โอเค ฉัน จะเอาเงินไปให้เดี๋ยวนี้ล่ะ รอฉัน อยู่ที่บ้าน นะ''
แล้วผมก็ทิ้งการสอบเป็นครั้งที่3 เพื่อเอาเงิน50ล้านไปให้ จีซู เฮ้อ.... นี้ผมจะบ้าผู้หญิงไปถึงไหน นะ
หลังจาก ที่ผมกลับ จากเอาเงินไปให้ จีซูที่บ้านแล้ว ผมก็รู้ตัวแล้ว ว่าต้องเจอกับอะไร บ้าง
ทั้งพ่อแล้วก็ แม่
นี้มันอะไรกัน เนี้ย ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้กันนะ พอผมกลับถึงบ้าน ก็เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ
ผมโดนไป ชุดใหญ่ คราวนี้ พ่อถึง ขนาดยึด บัตรกดเงิน แถมกำหนดให้ เงิน อาทิตย์ ล่ะหนึ่งแสนวอน แว๊กๆๆ แล้วผม จะอยู่ยังงายยย
เฮ้อเซ็ง... ติ๊ด...ติ๊ด....ติ๊ด โทรศัพท์ผม ดังขึ้น
'' ฮัลโหล จินโฮ พูดครับ...''
'' นายสินะ คือ มยอง จินโฮ''
'' อ่อ ครับ แล้วคุณ เป็นใคร?''
''ถามได้ ฉันก็เป็นแฟน ของ จีซู นะสิ รู้จักมั้ย ฮา จีซู !!''
''จีซู'' คุณ เป็นแฟน เธองั้นเหรอ''
''ก็ใช่นะสิ แกนิมันโง่ นะ ผู้หญิงพูดอะไรแกก็เชื่อ ขออะไรแกก็ให้ แหม เหมือนกับที่ จีซูเล่าให้ ฉันฟังเลย''
จีซูเล่าให้ฟังงั้น เหรอ โอ้ นี้ผมโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งที่ผมทำเพื่อคนที่รัก แต่ทำไม ทุกคนถึงได้หลอกผม
''เอาล่ะนะ ที่นี้ฟังให้ดี ต่อไปนี้ แกเลิกยุ่งกับ จีซูได้แล้ว เพราะ จีซูเค้าก็เบื่อ ที่จะต้องเจอหน้าแกแล้ว เหมือนกัน แค่นี้นะ''
ตรู๊ดๆๆ.... ผมได้แต่ นั่งนิ่งๆ ฟังเสียงสาย ที่วางไปแล้ว น้ำตาเริ่มไหล ทำไมนะผมถึงได้โง่ ขนาดนี้
ผมทำทุกอย่าง เพื่อ คนที่รักแต่กลับโดน เห็นว่าเป็นแค่ไอ้โง่ คนนึง ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งโดนไล่ออกจากบ้าน
โดน จำกัดเงิน โอ๊ย...อยากจะบ้าตาย โว้ย!!
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด.. โทรศัพท์ ผมดังขึ้น เฮ้อ...ใครอีกนะโทรมาตอนกำลัง เซ็งๆ
ยองกี ซา ยองกี เป็นเพื่อน มาตั้งแต่ สมัย ม.ต้น
ติ๊ด ผมกดรับ
'' เฮ้ย ว่าไงวะ จินโฮ วันนี้ว่าง เปล่าว่าจะชวน มานั่งกินเหล้า สักหน่อยนะ สาวๆเพียบเลยนะเว้ย''
''สาวๆงั้นเหรอ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ วะขอผ่าน''
''เฮ้ยอะไรวะ นานๆ ทีเพื่อนจะชวนเที่ยว ไม่คิดจะมาหาเพื่อน เลยเหรอไงวะ''
''วัน นี้ฉันเครียด เว้ย ไม่อยากไปไหน ทั้งนั้นล่ะ เอาไว้ คราวหน้า นะแล้วจะไป''
ติ๊ด แล้วผมก็ กดวางสายไป เฮ้อ...ใจก็อยากไปอยู่หรอก แต่ทำไงได้ล่ะ ตอนนี้มันไม่ไหวจริงๆ
แต่ อืม เหล้างั้นเหรอ จะว่าไป เราเพิ่งอกหักนี้ เจ้ายองกี อาจ ช่วยได้มั้ง ไปก็ไป วะ
''ฮ่าๆๆๆ นึกว่าแก จะไม่มาแล้วซะอีก จินโฮ เป็นอะไร วะหน้าบูดเป็น ปลาคราฟเลย''
''แก จำ จีซูได้ไหม''
'' เออ จำได้ดิ ก็แฟนแกไม่ใช่เหรอ ไง''
''เออไม่ใช่แฟน แล้วว้อย ฉันโดนหลอก ยัยนั้นน่ะ มีแฟนอยู่แล้ว''
''ฮ่าๆๆ แกยังไม่ชินอีกเหรอไง แกก็เจอแบบนี้ ประจำอยู่แล้ว นี้''
''เฮ้อ มันไม่ใช่ อย่างนั้นนะ สิคราวนี้ ยัยนั้นหลอกเอา เงินฉันไป 50ล้านวอน''
'' เฮ้ย!! จริงดิ 50ล้านเลยเหรอ?''
''เออดิ !แถม ยังให้แฟน หล่อนโทร มาด่าฉัน เป็นคนโง่ ขออะไรก็ให้ อีก''
''แจ้ง ความเลย จินโฮ แบบนี้ น่ะยอมไม่ได้ นะเฟ้ย''
''แจ้งความข้อหาอะไร วะ ฉันเป็นคนเอาเงินไปให้เค้าเอง ไม่มีอะไร ผูกมัด''
''เฮ้อ ... แกนินะไม่เข็ดสักที เรื่องแบบนี้เจอมาบ่อยๆ เมื่อไหร่ จะจำวะ''
''นี้ ยองกี ฉันแค่ต้องการ ความรักที่แท้จริงจากใครสักคน ฉันทุ่มเทไป มันผิด ด้วยเหรอไง วะ''
''หึหึ ยองกี หัวเราะ มันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่ที่แกทำ นะมันไม่ถูก การที่จะรักใครสักคน หรือต้องการให้เค้ารักนะ''
''ไม่ใช่ ว่าแกให้นั้นให้นี้แล้ว เค้าจะรักแก เงิน หรือ ของต่างๆ มันไม่ได้ช่วยให้แก เจอคนที่จริงใจหรอกนะ''
''แกต้องเอาตัวเอง เข้าไปหาเค้า ดูสิว่าเค้า จะรับในสิ่งที่แกเป็นได้ไหม ไม่จำเป็นต้องไปทำให้เค้าเห็นว่าแกมี''
''ถ้ารับแกได้ อยู่กับแกได้ แสดงว่า เค้าไม่ได้หวังอะไรจากแกเค้ารักแก จริงๆ''
ผมนั่งเงียบไป สักครู่
''อืม....เอาล่ะ หลังจากวันนี้ไป ฉันจะตั้งใจเรียนล่ะ จะต้องสอบให้ผ่านเข้ามหาลัยให้ ได้''
''ฉัน จะไม่ทำให้แม่ เสียใจอีกแล้ว!!''
''ฮ่ะๆๆ แกพูดแบบนี้มา2ครั้งแล้ว แล้วแกก็ ทำไม่ได้ ยองกี ขัดขึ้น''
''ก็คอยดูแล้วกัน ยองกี ครั้งนี้ฉันจริงจัง นะฉัน จะทำให้ ได้''
''เออ...แล้วจะคอยดู ''
''เออ...คอยดูแล้วกัน ยองกี''
''คราวนี้ ฉันต้องสอบให้ได้ และต้องเป็นนักศึกษาให้ได้''
''แต่ตอนนี้ จะยังไงก็ช่าง มาชนแก้ว เต็มที่ เฟ้ย มื้อนี้ ฉันเลี้ยงเอง''
''ฮาๆๆๆ นี้สิ ถึงจะสมกับเป็น มยอง จินโฮ''
''เอ้า ดื่มไม่เมาไม่เลิก คำปายยย~ ดื่มให้ลืมเธอ''
ณ. มหาวิทยาลัยโซล เกาหลี
เฮ้อ....วันนี้ก็มาถึง
ผมตื่นแต่เช้า มาที่วิทยาลัย วันนี้แหละ ที่รอคอย
วันที่ผม รอคอยมานานมากๆ คราวนี้ต้องไม่พลาด จะไม่มีอะไร มาขัดจังหวะอีกแล้ว
ผมต้อง สอบให้ได้ ต้องเป็นนักศึกษา ให้ได้ แต่ รู้สึกแปลกๆแหะ พอถึงวันจริงๆแล้ว
ทำไมผมถึงได้ ตื่นเต้นขนาดนี้ก็ไม่รู้ นี้ละน๊า คนกำลังจะได้เป็น นักศึกษาแล้ว
โอ๊ย ใจเต้นแรงจังแหะ อยู่ๆก็ กลัวขึ้นมางั้น ล่ะ ไม่นะ จินโฮ นายรอเวลา นี้มานานแล้ว ไม่ใช่เหรอ
ใจเย็นไว้ๆ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว
ระหว่างที่ผม กำลังตื่นเต้น อยู่นั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็น สาวสวยคนนึงตรงข้ามกับโต๊ะที่ผม นั่ง
เอ๊ะ ทำไมเธอแต่งตัวแปลกๆ จังอย่างกับจะไปประกวดคอสเพลส งั้นแหละ ฮ่ะๆๆ ผมมองเธอด้วยสายตา สงสัย
''สวัสดีครับ เรารู้จักกัน รึเปล่าครับ''
....เธอเงียบ แล้วยิ้มที่มุมปาก
''สวัสดี มยองจินโฮ ''
''รู้ จักชื่อผม ด้วยเหรอครับ เราเคยเจอกันแล้วเหรอ ผมรู้สึกแปลกใจ ที่อยู่ๆ เธอก็ทักผม แถมรู้ชื่อผมด้วย''
''หึหึ! ''เธอหัวเราะในลำคอ ''รู้จักสิ''
''นาย ชื่อ มยอง จินโฮ''
''พ่อนาย ชื่อ มยอง ฮันโซ''
''แม่นาย ชื่อ มยอง อึนนิน''
''นายเป็น เด็กเรียนดีแต่ บ้าผู้หญิง จนทำให้ไม่ได้ เข้ามหาลัย มาถึง3ปี จนพ่อแม่นาย
เริ่ม ระอา นายเกิด วันที่17 ตุลา นายมีปานสีแดงที่ ก้นซ๊าย ไม่มีพี่น้อง
และ ที่ฉันมาวันนี้ จะมาบอกนายว่า นายมี เวลาอีกแค่เจ็ดวันเท่านั้น แล้วนายกำลัง จะตาย''
''ห๊า!! จะ..จะ เจ็ดวัน งั้นเหรอ''
''แล้วเธอเป็นใครกันเนี้ย ทำไมถึงรู้เรื่องฉัน ขนาดนี้''
''แล้วอยู่ๆก็ มาบอกว่าฉัน มีเวลาอีกแค่เจ็ดวันฉันจะตายงั้นเหรอ ไม่จริงงะ เป็นไปไม่ได้
แล้ว ฉันจะตายได้ไง อย่ามามั่ว นะ''
''หึหึ''! เธอหัวเราะในลำคอ อีกแล้ว ขนลุก บรื่อๆๆๆ
''อยากรู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?''
''ชะ..ใช่ อยากรู้สิ เธอบอกมาสิว่าเธอเป็นใครกันแน่''
''ฉันคือยมฑูต!!''
''มาเพื่อ บอกเวลาตายของนาย ส่วนสาเหตุการตายก็คือ
หัวใจวายกระทันหัน''
''ห๊า!!! หัวใจวาย เนี้ยนะ''
''จะบ้า รึเปล่า คนแข็งแรงแบบฉัน เนี้ยนะจะหัวใจวาย
ฉันตรวจสุขภาพทุกปี ออกกำลังกายทุกวัน เล่นกีฬาก็เล่น
ออกจะ บ้าพลัง ขนาดนี้ฉันจะหัวใจวายได้ยังไง บ้าไปแล้วไม่จริง อะ
ต้องมีเพื่อนฉัน สักคนจ้างเธอมาหลอกอำ ฉันแน่ๆ ไม่เชื่อ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ''
''ก็นั้นสินะ ฉันก็ไม่ได้ต้องการให้นายเชื่อ อยู่แล้ว
เพราะถึงเวลานั้น นายก็จะตายอยู่ดี ฉันก็แค่มีหน้าที่พานายไป ก็แค่นั้นเอง''
''พาไปงั้นเหรอ? พาไปไหนกัน อย่าบอกนะว่า นรก ฮาๆๆๆ''
ผมหัวเราะลั่น แบบไม่เชื่อ ที่เธอพูดเลยสักอย่าง
ทันใด นั้นก็มีเสียง เพื่อนผมคน นึงแทรกขึ้นมา
''ว่าไง จินโฮ อ่านหนังสือ จนเพี้ยนพูดคนเดียว เลยเหรอไงวะ''
''อะ.. คังวอน ''ใครบอกว่าฉัน พูดคนเดียวกันล่ะ แกไม่เห็นเหรอไง''
''ฉันกำลังพูด กะ ยัยคนนี้อยู่ นั่งอยู่ตรงข้ามฉันเนี้ย แต่งตัวอย่างกับ โกสโลลิต้า งั้นล่ะ
นึกว่าจะไปประกวดคอสเพลส ที่ไหนซะอีก''
คังวอน พยายามรี้ตาดู
''อืม...ไม่เห็นจะมีใครเลย นี้นา ที่ฉันเห็น ก็มีแกกับกองหนังสือ ที่แกอ่าน
เก้าอี้ตรงข้ามแกนั้น ก็ไม่เห็นจะมีใครนั่ง เลยฉันว่า นะ จินโฮ แกคงหลอนไปแล้วแน่ๆ
เครียดมาก กับการสอบเหรอไง วะ ห่ะ ฮ่าๆๆๆ พักบ้างก็ได้นะเพือน ก่อนที่จะบ้าไปก่อนน่ะ
ถึงขนาด นั่งพูดคนเดียวได้ ตั้งนานสองนาน ก็ไม่ธรรมดาแล้ว นะ ฮ่าๆๆๆๆ''
คังวอนเดิน หัวเราะแล้ว ออกไปจาก ที่ผมนั่ง
ผมตกใจบวก อึ้งไม่ชั่วขณะ
''นี้ เธอเป็น ยมทูต จริงๆ นะเหรอ ผมพูดเสียง สั่นตอนนี้ผม เริ่มกลัวซะแล้ว สิ''
''ก็จริงนะสิ เพราะงั้น เพื่อนนายถึงได้ไม่เห็น ฉันไง แล้วอีกอย่างนะ จินโฮ ป่านนี้คนในห้องอาหาร
เค้าคงมองนายเป็นตา เดียวกันแล้วว่านาย เป็นคนบ้าพูดคนเดียว หึหึหึ!! ''เธอหัวเราะ
ผมดูนาฬิกา ''ได้เวลาสอบแล้ว นิ''
ผมลุก จากเก้าอี้ มองไปรอบๆ ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ ทุกคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ
''เธอจะเป็นใครก็ ช่าง ฉันไม่แคร์ แต่ตอนนี้คือเวลา ที่ฉันต้องไปสอบ ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน''
''เชิญตามสบาย เลย '' เธอพูด
''ถึงนายจะ สอบผ่าน นายก็ไม่ได้เป็นนักศึกษาอยู่ดี เพราะนายตายก่อน''
''ฉันจะไม่ยอมให้ใครมา ทำให้การสอบครั้งนี้ พลาดอีก ต่อให้เธอเป็นนางฟ้ามาจากไหน ก็เอาฉันไม่อยู่หรอก''
ผมรีบ ผละออกจากที่นั้น ตรงไปที่ ห้องสอบทันที
กระดาษข้อสอบวางบนโต๊ะ แต่ตอนนี้ในหัวผม มีแต่เรื่องที่เธอคนนั้นพูด จนไม่มีสมาธิในการสอบ
ไม่เอาน่า จินโฮ มันต้องไม่เป็นเรื่องจริงแน่ๆ มันไม่มีทางเป็นไปได้นิ อยู่ๆ นายจะตายได้ไงกัน
ตอนนี้ งานของนายคือสอบ สอบเท่านั้น ห้ามคิดอะไร เด็ดขาด -*-
หมดชั่วโมงการสอบ
เฮ้อ....การสอบครั้งนี้ เหมือนผมจะไม่ได้อะไรเลยแหะเพราะเอาแต่ คิดเรื่องบ้าๆนั้นตลอดเลย
นี้มันอะไรกัน เนี้ยสงสัยงาน นี้จะเอ็นไม่ติดเข้าจริงๆแล้ว สิ
''ว่าไง มยอง จินโฮ ดูเหมือนนาย จะอารมณ์ เสียนะ
ทำไม สอบไม่ได้งั้นเหรอ''
ผมหันไปตามเสียงนั้น แล้วก็เจอ เธออีกแล้ว!! ''อะไรกันเนี้ย จะตามฉันไปถึงไหนกันน่ะ''
''เฮ้อ...จริงๆแล้ว ฉันก็ไม่ได้อยากตามนายหรอก นะแต่มันเป็นงาน เลยต้องทำ''
''ฉันต้องอยู่กับ นายแบบนี้ไปอีกเจ็ดวัน จนกว่าจะถึงวันที่กำหนด เพราะงั้น ในเจ็ดวันนี้ ฉันก็เหมือนคนธรรมดาคนนึง''
''ไม่ว่าใครๆก็มองเห็น ฉันทั้งนั้น ยังไง ก็ขอฝากเนื้อฝากตัว ด้วยนะคะ มยอง จินโฮ''
''อะไรนะ เธอจะต้อง อยู่กับฉัน แบบนี้ไปอีกเจ็ดวันงั้นเหรอ บ้าแล้ว ใครจะยอมกัน
เธอเป็น ผู้หญิงนะ แล้วจะมาอยู่ในห้อง ฉันได้ยังไง กันน่ะ''
''ก็บอกแล้วไง ว่ามันเป็นหน้าที่ฉัน แล้วอีกอย่างน่ะนะ นายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก
เพราะถ้า นายทำอะไร ฉัน นายก็จะตายก่อนกำหนด ฮะๆๆๆ''
''เพราะ งั้นนายต้องยอมรับให้ ฉันไปอยู่ด้วยแล้วล่ะ แล้วก็ นะตอนนี้ฉันเป็น คนแบบนายแล้ว นิ
ฉันหิวเป็น ร้อนเป็น หนาวเป็น แล้วอีกอย่าง ฉันไม่มีเงิน''
''นายต้องดูแล ฉันด้วย ตอนนี้ฉันหิวแล้ว''
''เหอะ! ดูแลงั้น เหรอ หิวก็เรื่องของเธอดิ
ฉันจะกลับ ล่ะอยากตามก็ตามมาแล้วกัน''
ผมกลับมาถึงห้อง เธอคนนั้นตามมาจริงๆด้วยแหะ เฮ้อ...ผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับ ยัยคนนี้ไปอีกเจ็ดวันจริงๆเหรอเนี้ย
แล้วอีกเจ็ดวัน ผมจะตายจริงๆเหรอ เนี้ย คิดไปแล้วก็ไม่น่าเชื่อแหะ แล้วเราเชื่อได้ไงล่ะเนี้ย โอ๊ยๆๆ พอๆๆ เลืกคิดดีกว่า
เอาเป็นว่า เชื่อแล้วกัน ว่าเราต้องตาย '' โหว ห้องนายนี้ใหญ่จังนะ!!''
เสียง เธอพูดขึ้น
''แหมๆๆ สมเป็นลูกคนมีเงินแหะ เช่าห้องหรูขนาดนี้อยู่คนเดียวซะด้วย แม่นายนี้ ช่างเอาใจนายซะจริงๆ เลย''
''เรื่องของฉันน่า ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน ถึงยังไงเธอก็บอกเอง นิว่าฉันนะตายอีกเจ็ดวันน่ะ''
''พูดแบบนี้ แปลว่าเชื่อแล้วสินะ''
''ก็ไม่เชิงเชื่อหรอก แต่ก็อะไรๆ มันก็ไม่แน่นอนฉัน อาจจะตายแบบที่เธอพูดก็ได้''
จ้อกๆๆ เสียงท้องเธอร้อง
''อ๊าๆๆๆ ท้องฉันร้อง ซะแล้ว หิวชะมัดเลย นี้ จินโฮ หาอะไรให้กินหน่อยสิ อย่าลืมนะ ว่านายต้องดูแลฉัน''
''อะไรกันเนี้ย เธอหิว แล้วมาเกี่ยวอะไร กับฉันเล่า เธอเป็น ยมทูตไม่ใช่เหรอไง''
''ก็บอกแล้วไง ว่าตอนนี้ฉันเป็น คนธรรมดาแล้ว นะ หิวเป็น นะไม่รุ้ ละถ้านายไม่หาไรให้กิน ฉันจะให้นาย ตายเดี๋ยวนี้เลย''
''จ้าๆๆ คำก็ตายสองคำก็ตาย จะไปทำอะไรให้ กินเดี๋ยวนี้ล่ะ รอแป๊บแล้วกัน ผมพูดอย่างเซ็งๆ จะว่าไป ยัยคนนี้ก็น่ารักดีนะถ้าไม่''
ติดว่าเป็นยมทูต น่ะ จีบไปแล้ว
''เดี๋ยวนะ มะกี้นายบอกว่า ทำให้งั้น เหรอนายทำกับข้าวเป็นเหรอ ไม่ได้ซื้อหรอกเหรอ''
''แน่นอนสิ นี้ เธอจะดูถูกกันมากไปแล้ว นะถึงฉันจะมีเงิน ฉันก็ทำกับข้าวกินเองหรอก''
''โอ้ ไม่น่าเชื่อแหะ ว่านายจะทำเป็น จะกินได้มะเนี้ย''
''งั้นไม่ทำก็ได้ เธอก็ ทนหิวไปแล้วกัน กว่าฉันจะออกไปข้างนอกก็ คงค่ำๆ เลยล่ะ''
''ไม่ๆๆๆ กินก็ได้ ย่ะ ฉันไม่ทนหิวหรอก ชิส์ อะไรก็ทำๆ มาเหอะ''
ผมเข้าไปในครัว หาของให้ยัยนั้นกิน
เอ๋...เหลืออะไรมั้ง นะ อ๊า ไข่ ผักนิดหน่อย ต้มหอม กับเนื้อหมู แค่นี้เองเหรอ เนี้ย
อ๊าๆๆ ยังมีบะหมี่ สำเร็จรูป อืมๆๆ ไม่มีทางเลือก ล่ะ ทำให้ ยัยนั้นก่อนแล้วกัน เดี๋ยวจะ อาละวาด
''เอ้า เสร็จแล้ว ของมันมีน้อย ก็ทำได้แค่นี้ล่ะ นะ กินไปก่อนแล้วกันเดี๋ยว ดึกๆ จะพาออกไปหาไรกิน''
''หืมๆๆ ไหนๆ อะไร น่ะ หอมจัง''
''ก็ไม่มีอะไร มากหรอกแค่ บะหมี่ นะ บะหมี่ กินได้ป่ะล่ะ''
''บะหมี่งั้นเหรอ โหย นายออกจะรวย ไหงกินบะหมี่ ละเนี้ย''
''ฉันซื้อมาไว้ เวลาไม่อยากออกไปไหน หรอกนะ จะกินไม่กิน''
''กิน ค่า กิน แหมๆ แค่นี้ต้องโกรธ ด้วย อืมดูท่าทางน่ากินจังแหะ ขอชิมหน่อยแล้วกัน''
''ว๊าว อร่อยแหะ แน่ใจเหรอว่านี้เป็น บะหมี่ น่ะ''
''ก็บะหมี่ นั้นแหละ แต่ ฉันทำในแบบของฉัน ไงอร่อยมะล่ะ''
''อร่อยงั้น เหรอ มันอร่อย มากเลยต่างหากล่ะ นายทำได้ไง กันน่ะ''
''ไม่รู้สิ นะ แต่ก่อน อยู่กับย่า ย่าสอนมาอีกที น่ะเลยทำกินเวลาอยู่คนเดียว จริงๆแล้ว ฉันชอบทำอาหาร''
ผม นั่งมองเธอกิน อย่างมีความสุข ดูท่าทางจะหิวมาก ขนาดน้ำเธอยังซด ซะไม่เหลือเลย
''ฮา อร่อยจังเลย แหม นายนี้เก่งแหะ เอ้า!! แล้วนั้นนายไม่กินเหรอ ทำไมเหลือเต็มชามเลยล่ะ''
''อ่อ พอดี ฉันไม่ค่อยหิวนะ เธอจะกินมะล่ะ ถ้าจะกินก็เอาไปจิ''
''ว๊าวๆๆ ให้ฉันจริงๆเหรอ เอาสิๆ เดี๋ยวกินก็ได้''
ผมเลื่อนชาม บะหมี่ของผมไปให้เธอ เธอเอื่อมมือมารับในทันที (สงสัยจะหิวจริงแหะ)
''เออนี้ ขอถามอะไรหน่อยสิ''
''หืม..ถาม? อ่อ ขอโทษทีนะ ลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อมายะ นะ เรียกว่า มายะแล้วกัน''
''อ่อ อืม มายะ คือฉันอยากรู้ว่า ฉันจะตายจริงๆ เหรอ แบบว่าฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเลย น่ะ''
''นี้นายยังติดใจเรื่องนี้อยู่อีกเหรอ ''
''ก็นะ มันก็น่าจะติดใจอยู่หรอก ก็ฉันน่ะ ยังมีอีกตั้งหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำนิ''
''ฉันน่ะ ยังไม่มีแฟนเลย นะ แล้วอีกอย่างฉันก็ยังไม่ได้เป็นนักศึกษาเลย ไหนจะพ่อแม่ ฉันอีก
แล้วอยู่ๆ ฉันจะตายได้ไง''
มายะ เงียบไป ...
''นายก็ ใช่เวลาที่เหลือ อยู่นั้นทำในสิ่งที่นายอยากทำซะสิ นายมีเวลาอีกตั้งเจ็ดวันนะ
ใช้ให้คุ้มไปเลย !''
....''เธอพูดเหมือนกับว่า ภายในเจ็ดวันนี้ฉันต้องทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำให้ได้ทั้งหมดงั้นล่ะ''
''อืม...ก็ทำนองนั้นล่ะนะ แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ใช่มั้ยล่ะเพราะคนเรา จะไปทำทุกอย่างที่อยากทำในเจ็ดวันมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแต่ก็นั้นล่ะ นายถูกกำหนดมาแล้ว นิก็ต้องทำใจยอมรับมันล่ะ นะ อิอิ^^...''
''แต่ฉันยังคิดไม่ออกเลย นิว่าจะทำอะไรมั้งในเจ็ดวันเนี้ย มันปุ๊บปั๊บเกินไป ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเลย
ไม่มีทางอื่นเลยเหรอไงที่ฉันต้องไม่ตาย หรือเปลี่ยนจากวัน เป็นเจ็ดปีแทนอะไรแบบนี้น่ะ T T''
ซู๊ด~~ เธอยกน้ำบะหมี่ซดซะหมดชาม (สนใจที่ฉันพูดมะเนี้ย)
''ไม่มีทางหรอก เพราะลิขิตของนายถูกกำหนดมาแล้ว ยังไงก็แก้ไขไม่ได้ ไม่มีทางเลย''
''ฮ้า.. อิ่มล่ะฝากเก็บชามไปล้างด้วยนะ ขอบคุณคะ!^o^''
''โห! ดูดิกินแล้วก็นอนเลย แทนที่จะช่วยเก็บชามไปล้าง เธอนี้ไร้มารยาทจริงเลย = =''
เธอไม่สนใจที่ผมพูด แถมนอนอ่านหนังสือสบายใจอีก เฮ้อ....ต้องอยู่แบบนี้ไปอีกตั้งเจ็ดวันเหรอเนี้ย ={}=ปวดหัว จริง!!
เย็นวันนั้น
'' นี้มายะ ฉันจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกนะ จะไปด้วยกันมั้ย?
''ไปสิๆ นี้ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว''(กินไปขนาดนั้นยังหิวอีกเหรอ = = ) อ่านหนังสือรอนายทั้งวันเลย เธอลุกจากโซฟาอย่างรีบร้อน
คงกลัวว่าผมจะไม่รอมั้ง ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด..โทรศัพท์ผมดังขึ้น อ๊ะ! แม่ผมนั้นเอง ติ๊ด ผมกดรับ
''ว่าไงครับแม่''
''จินโฮ เหรอลูก?วันนี้สอบเป็นยังไงบ้างแม่โทรไปถาม ยองกีมา เห็นยองกีบอกว่า พอลูกสอบเสร็จก็ รีบร้อนกลับ เลย''
''แม่เป็นห่วงก็ เลยโทรมหาลูกน่ะจ้ะ''
''ก็ดี นะครับแม่ เหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่ผมก็ตั้งใจเต็มที่ครับ
ผมรับปากแม่ไว้แล้วนี้ครับว่าจะไม่ทำให้แม่เสียใจอีก นะครับ ''
''อืมได้แบบนั้นก็ดีจ้ะ นี้จินโฮ แล้วลูกทานอะไรหรือยังเงินพอใช่มั้ย พ่อเค้าค่อนข้างจะใจร้ายกับลูกนะ แต่ก็อย่าโกรธพ่อเค้าเลย''
''นี้แม่แอบเอา บัตรกดเงินสดไว้ให้ลูกน่ะ แม่ฝากคนเอาไปส่งให้ที่พักลูกแล้ว ลองไปถามที่เคาร์เตอร์ดูนะลูกแม่จดรหัสไปให้ด้วย''
''ลูกจะได้ไม่ลำบากนะจ้ะ อ่อนี้จินโฮ ถ้าวันพรุ่งนี้ลูกว่างๆ แวะไปที่หลุมศพคุณย่าด้วยนะจ้ะ ดูเหมือนลูกจะไม่ได้ไปนานแล้ว น่ะ''
''ไปทำความสะอาดหน่อย นะจ้ะแล้ว อย่าลืมน้ำซุปที่ ย่าเค้าชอบด้วยล่ะ''
''ครับแม่พรุ่งนี้ผมจะแวะไป เอ่อ...แม่ครับ''
''ว่าไงจ้ะ จินโฮ''
''ถ้าผมตายไปแม่จะเสียใจไหมครับ''
''หืม...ทำไมถามแบบนี้ล่ะลูก แม่ก็ต้องเสียใจสิจ้ะ ถามอะไรไม่เข้าถ้าลูกคนนี้ เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ไม่สบายใจอะไร บอกแม่ได้นะลูก''
''เปล่าหรอกครับ เอ่อ..แม่ครับ หลังจากพรุ่งนี้ไปอาทิตย์นึง ผมไม่อยู่น่ะครับว่า จะเดินทางไกลหน่อยน่ะครับ
อ่านหนังสือสอบมานาน จะไปเที่ยวคลายเครียดหน่อย''
''อ่อจ้ะ มีอะไรก็ โทรมาหาแม่ได้นะลูก แม่เป็นห่วง แล้วจะไปคนเดียวเหรอจ้ะ ?''
''ครับไปคนเดียว เอ่อแม่ครับ งั้นผมขอออกไปหาอะไรทานก่อนนะครับ
ไว้ผมจะโทรไป รักแม่นะครับ''
''จ้ะ แม่ก็รักลูกนะ จินโฮ'' ...''ครับบายครับแม่ ตรู๊ดๆๆๆ''
''คุณแม่สุดที่รัก โทรมาเหรอ?''
''อืมใช่...แม่ฉันเองล่ะ''
''ดีจังแหะดูเหมือนว่าแม่นายจะรักนายมากเลยนะเนี้ย''
''ก็นะแม่น่ะ รักฉันมากเลย ตามใจฉันทุกอย่างมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ ไม่ว่าพ่อฉันจะดุจะด่า ว่าฉันยังไง''
''แม่ก็จะค่อยปกป้องฉันตลอดเลยแบบนี้ ฉันถึงได้ติดแม่ไง''
''แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รักพ่อหรอกนะฉันน่ะ รักพ่อมากนะ คิดว่าสักวันฉันจะเป็นเหมือน พ่อฉันแต่ก็นะ
ก็ได้แค่คิด ฉันคงไม่มีทางเป็นแบบพ่อฉันได้หรอก''
...''.จินโฮ''...
''เอ้าล่ะ ช่างเหอะ เราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ''
ผมกับ มายะลงมาที่เคาร์เตอร์ ''เอ่อ...ขอโทษนะครับ มีคนฝากของไว้ให้ห้อง 502มั้ยครับ''
''อ่อ มีคะ เพิ่งมาไว้ให้สักครู่นี้อีก แป๊บนะคะ เดี๋ยว ดิฉัน ดูให้'' ...พนักงานหาของอยู่ครู่แล้ว จึงหยิบซองสีน้ำตาลเล็กๆ ออกมาให้ผม
''นี้คะ ของที่ฝากให้คุณ'' พนักงานยืนซองนั้นให้ผม
''อ๊ะ ขอบคุณมากครับ'' ผมเปิดซองดูในนั้น มีบัตรกดเงินสด พร้อมรหัสบัตร มีกระดาษขาวๆเล็กๆ ตกออกมา
ผมหยิบขึ้นมาอ่านเป็น ข้อความที่แม่ผมฝากไว้ ''แม่แอบพ่อเอามาให้ลูกแม่เป็นห่วงลูกนะจ้ะ ใช้ประหยัดๆนะลูก เงินหาทองหายาก
แม่รักลูกนะจ้ะ'' ผมอ่านข้อความนั้น ถึงกับน้ำตาซึม ผมพูดในใจว่า ขอบคุณครับแม่ ผมก็รักแม่นะครับ
''เอ้าไปกันได้ยัง จินโฮ ฉันหิวแล้ว น๊า >''
''โอเคๆ รอหน่อยก็ไม่ได้ป่ะๆ ไปกัน...''
ผมพา มายะออกมาข้างนอก เพื่อหาอะไร กินกัน แต่ตอนนี้ในใจผม มันวุ่นวายไปหมด
รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูกเลย ผมควรจะทำยังไงดีนะพูดก็ พูดเลยนะครับ ผมน่ะ ยังไม่อยากตายนิ
ผมเพิ่งจะอายุ23ปีนะ จะให้รีบตายไปไหน เฮ้อ...แต่ดูยัยนี้ สิห่วงกินอย่างเดียวเลย ดูถ้าว่าถ้าผมตายไปงานเธอจะได้จบๆ
ประมาณนั้นล่ะมั้ง เฮ้อ...
''เอ้านี้ มายะ เธออยากกินอะไรล่ะ ฉันจะพาไปกิน''
''อืม ไม่รู้สินายพาไปกินอะไร ฉันก็กินหมดล่ะ ฉันนะกินง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ฮิฮิ ^^''
''อ๊า งั้นเหรอ งั้นลองทานอาหารเสียบไม้ข้างหน้านั้นมั้ยล่ะ ผมชี้ไปที่รถเข็น ที่มีอาหารเสียบไม้ที่ผมทานประจำ''
''อ๊า เอาสิไม่ได้กินมานานล่ะด้วย *0* อีกอย่างนายเลี้ยง นะฉันกินได้หมดล่ะนะ *.*''
ผมเดินเข้าไปนั่งที่ร้าน ผมมาร้านนี้กับ ยองกีประจำ สมัยเรียนมัธยม ป้าคนนี้รู้จักผมดีเลยล่ะแกเป็นคนใจดี
ชอบแถมให้ผมประจำ ''เอ้าว่าไง จินโฮ วันนี้เหมือนเดิมหรือเปล่า''
''อ๊า.. เหมือนเดิมครับป้า อะผมขอเหล้าด้วยนะ''
''จ้าๆ เหมือนเดืมนะ วันนี้ยองกีไม่มาเหรอจ้ะ''
''ไม่มาหรอกป้า ยองกี มันต้องทำงานน่ะวันนี้''
''แล้วนั้นพาใครมาล่ะจ้ะ แหมๆ เป็นสาวสวยเชียว นะแฟนเหรอ''
''อ่อ ...เปล่าครับไม่ใช่แฟน หรอก พอดีเป็นญาติๆกันน่ะ เค้ามาเรียนทีนี้แล้วยังไม่มีที่พักน่ะครับ
เลยขอมาอาศัยห้องผมชั่วคราว''
''สวัดดีคะ นู่ชื่อ มายะ คะยินดีที่ได้รู้จัก ^^''
ยัยนั้นทำหน้าตาบ๊องแบ๊ว แนะนำตัวดูไปก็เหมือนจะเรียบร้อย อะนะ แต่ก็น่ากลัวดี
จะว่าไปก็น่ารักใช่ย่อย
''เอ้ากินให้เต็ม ที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ''
''หึหึ ถึงนายไม่บอก ฉันก็ไม่เกรงใจนายอยู่แล้วล่ะน๊า เพราะถึงยังไงนายก็ต้องจ่ายเงิน ฮิฮิ ^o^''
''เหอๆ นั้นสินะ เธอนี้น่า ถึงจะบอกว่าต้องมาตามฉันทุกวันก็เหอะ แล้วเธอไม่คิดจะเตรียมตัวเตรียมเงินไว้หาอะไรกินบ้างเหรอไง''
''ทำไมต้องเตรียมล่ะ ในเมื่อนายมีเงิน อีกอย่าง ยมทูตที่ไหนจะมีเงิน ย่ะ!!''
''เอ้า แล้วยมทูตไม่มีวิธีเสกเงินอะไรแบบนี้เหรอไง ห่ะ! แบบว่า เสกใบไม้ให้เป็นเงินอะไรแบบเนี้ย ฉันเห็นในหนัง''
''เสกกระดาษเปล่า ให้เป็นเงินยังได้เลย''
เธอมองหน้าผมแปลกๆด้วยหางตา
''นายนี้ ดูหนังมากไปหรือเปล่า เนี้ย ทำได้น่ะมันก็ทำได้หรอกนะ แต่การที่ฉันต้องมาเป็น มนุษย์เหมือนนายเนี้ย''
''ฉํนก็ต้องไม่มี อะไรเลยจะทำอะไร จะเสกอะไรก็ไม่ได้ แล้ว ฉันจะไปทำอะไรได้ ก็เป็นคนเหมือนกับนายนั้นล่ะ''
''อ้าวแล้วเสก ก่อนจะเป็น คนไม่ได้เหรอไง?''
''ถ้าเสกก่อนเป็นคน พอฉันเป็นคน ของพวกนั้นก็กลับเป็นเหมือนเดืม ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก''
''เออ..นั้นสินะลืมคิดไป เฮ้อ...แต่ก็เอาเถอะแค่ผู้หญิงคนเดียว ฉันเลี้ยงไหวอยู่แล้ว''
''แต่ฉันกินเก่งนะ อิอิ^^''
''กินเก่งยังไง ก็แค่อิ่มล่ะน๊า ไม่ต้องห่วงหรอก''
''แล้วนี้นายคิดจะทำอะไรต่อล่ะ กับเวลาที่เหลือ น่ะ''
''เฮ้อ...ฉันก็ยังไม่รู้หรอกนะ คิดแค่ว่าจะออกท่องเที่ยวในที่ ที่อยากไปคิดไว้แบบนี้น่ะ''
''อ้อ มันเป็นที่แปลกๆเหรอ หรือว่าท้าทาย''
''ก็ไม่แปลกไม่ท้าทายอะไรหรอก ก็ที่ ที่คนอื่นๆเค้าเที่ยวกันแต่ฉันไม่เคยได้ไป''
''ทำไมถึงไม่เคยได้ไปล่ะ?''
''ก็ฉันคิดมาตลอดไงว่า สถานที่พวกนั้นฉันต้องไปกับแฟน หรือ คนรักเท่านั้น น่ะสิฉันก็เลยไม่ได้ไปสักที่น่ะ''
''นายนี้ อยากมีแฟนมากขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย''
''ฉันน่ะ ไม่ได้อยากมีแฟนอย่างเดียวหรอกน่ะ ฉันอยากมีคู่ชีวิคที่จะอยู่กับฉันไปตลอดเลย ต่างหากล่ะ
แต่กลับเจอแต่คนที่ไม่จริงใจ ก็เลยเป็นแบบนี้ ซิ่วมาสามปีเลย''
''อืม....น่าสงสารจัง ฮ้า ~อิ่มล่ะ นี้ จินโฮ ฉันอยากไปเดินเล่นจัง ช่วยพาฉันไปเดินเล่นหน่อยได้มั้ย''
''เดินเล่นเหรอ ได้สิงั้น จะพาไปที่ ย่านแฮดงแล้ว กันมันคล้ายกับตลาดนัดตอนกลางคืน น่ะนะ
คิดว่าเธอคงจะชอบ''
''อ๊าๆๆ ชอบสิๆ ของกินคงเยอะใช่มะ ฉันชอบตอนกลางคืนนะของกินเยอะดี''
''ของกินเหรอก็เยอะอยู่ นะมีการแสดง ของพวกนักศึกษาด้วย ล่ะ งั้นก็ป่ะเลยแล้วกัน''
''เท่าไหร่ครับป้า''
''เอ้าจะไปแล้วเหรอจ้ะ''
''ครับป้า พอดี มายะเค้าอยากไปเดินเล่น น่ะไว้ผมจะแวะมาทานใหม่นะครับ''
''จ้าๆ ขอบใจมากนะ จินโฮ''
ผมยืนรอรถสักพักนึง รถก็ผ่านมาบรรยากาศตอนหัวค่ำนี้ มันช่างดูเศร้าๆยังไงไม่รู้แหะ
หรือเป็นเพราะว่า ในหัวผมตอนนี้ มีแต่เรื่องให้คิดมันเลยดูอะไรก็แย่ไปหมด เลย
รถมาถึง ย่านแฮดง ผู้คนมากมาย ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ดูคนพวกนั้นช่างมีความสุขจังนะ
ผมนี้สิ ทุกข์ใจจริงๆ
''เอ้า จินโฮถึงแล้วนะ จะลงเปล่าเนี้ย''
''อะ.อ้อลงสิๆ ลงๆ'' ผมจ่ายค่ารถเสร็จ มายะก็รีบ กระชากผมลงจากรถ
''ว๊าวๆๆ อะไรกันเนี้ยคนเยอะจริง ตื่นเต้นแหะ ไม่ได้มานานแล้วแบบเนี้ย''
''ไม่มานาน แล้วเมื่อกี้ ที่ร้านเธอก็พูดแบบนี้ หมายความว่าไงเหรอ?''
''อ่อ ก็ไม่มีอะไรหรอก ก่อนที่ฉํนจะมาเป็น ยมทูตฉันก็เป็น มนุษย์ เหมือนๆ กับนายนี้แหละ แต่อายุสั้นไปนิด''
''งั้นเหรอ เพิ่งรู้นะเนี้ย ว่าเธอก็เคยเป็น มนุษย์ด้วย น่ะ''
''อะนั้น สายไหมนิ อยากกินจัง เลย จินโฮ ซื้อให้หน่อย สิ>< ''เธอดึงชายเสื้อผมทำสายตาข้อร้องให้ผมซื้อให้
''อะก็ได้ๆ ไม่เห็นต้องทำตาน่าสงสารขนาดนั้นเลย นิ''
''ก็ฉันอยากกินนี้ เกิดนายใจร้ายไม่ซื้อให้ทำไง ก็เลยต้องทำถ้าน่าสงสารเข้าไว อิอิ^^''
*-*ผมอึ้งไปนิดนึง ยัยนี้เวลา ได้กินหรือทำท่าแบบนี้ก็น่ารักดีแหะ ผมมองมายะ จนลืมไปว่ามองนานแค่ไหน
''นี้ๆ มองอะไรน่ะ มองสาวอยู่เหรอไง ?''
''อ้อ เปล่าน่ะ พอดีคิดอะไร นิดหน่อย ขอโทษที ป่ะเดินดูอะไรไปเรื่อยๆ เพื่อเธอ อยากได้อะไรมั้ง''
ผม พามายะเดิน ดูอะไรหลายๆอย่างที่ ย่านนี้ ดูท่าทางเธอจะมีความสุขมาเลย แต่ผมสิเหนื่อยจะแย่แล้ว
ไหนจะเจอกับเรื่องปวดหัวตอนเช้า แล้วต้องมาเดินเล่นตอนเย็นอีก เฮ้อ...
''เหนื่อย หรือยัง?''
''ถามฉันเหรอ''
''เอ้า ก็ถามนายนะสิ เห็นมีคนอื่นอีกเหรอไง''
''อะขอโทษ ก็เหนื่อยนิดๆ อะนะ แล้วเธอล่ะ จะกลับกันยัง อืมกลับ เลยก็ได้ เพราะเดินมาตั้งนานแล้ว ยังไม่เจออะไรถูกใจเท่าไหร่เลย''
ระหว่างที่จะเดิน กลับนั้น มายะก็เดินดู อะไรเรื่อยเปื่อยแล้วก็ หยุดเรียกผม
''นี้ๆ จินโฮมาดูนี้สิ''
''หืม...อะไรเหรอ''
''นี้ไงๆ สร้อยสวยจัง ฉันอยากได้ ดูสิรูปหัวใจใส่รูปไว้ตรงกลางได้ด้วย''
''อืมสวยจริงๆแหะ อยากได้เหรอ''
''ช่ายๆๆ อยากได้ ><'' เธอทำหน้าอ้อนวอนนิดๆ น่ารักอีกแล้ว**-**
''เท่าไหร่ครับ'' ผมถามคนขาย
''5000วอน ครับ'' 5000เลยเหรอ แพงดีแหะ แต่ก็เอาเถอะ 50ล้านยังเสียมาแล้ว นี้แค่5000วอน ผมควักเงินจ่าย
เรานั่งรถกลับ ที่พักผม ระหว่างที่นั่งกลับนั้นดูเหมือนเธอจะ สนใจสร้อยนั้นพอสมควรเลย
''ชอบเหรอสร้อยนั้นน่ะ''
''ชอบสิ ไม่เคยมีใครซื้อให้ ฉันเลยนะเนี้ย ขอบใจมากนะ จินโฮ ^^ นายนี้ดูดีๆ ก็น่ารักนะ''
ฮ่ะๆๆ พูดไปไม่ได้ดูเลย ว่าเธอเองน่ะ น่ารักมากเลยนะเนี้ย ยิ่งเวลาเธอมีความสุขนะ ฉันนี้ตะลึงไปเลย
''อะ จะถึงแล้วนิ นี้มายะ เตรียมลงได้แล้ว จะถึงแล้วนะ''
ฟรี้~~ ลมอุ่นๆกระทบ ที่ไหล่ผม เสียงหายใจของเธอนั้นเอง เอ้าหลับซะแล้วสงสัยจะเหนื่อย- -
ผมจ้องมองใบหน้า เธอน่ารักแหะ ตอนนั้นผมคิดว่าไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเลย อยากให้อยู่แบบนี้นานๆ
เอ๊ะ!!-0- นี้ผมคิดอะไรเนี้ย เอ๊ยๆๆๆ เลยแล้วๆ โธ่ ~มัวแต่ ตะลึงเรื่อง ยัยนั้น เฮ้อ... ''จอดด้วยคร้าบบบ''
อึ๊บ หนักเป็นบ้าเลย เฮ้อ....เลยมาตั้งไกลแถมผมต้องมาแบก ยัยนี้อีกหลับไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ แถมตัวหนักเป็นบ้าเลย
แล้วดูสิเนี้ย ต้องแบกเธอกลับไปที่ห้องผม ใครๆเค้าก็มองหาว่าผมไปหลอกผู้หญิงที่ไหนมาแน่ๆเลย
แล้วก็มาถึง ที่พักผม ดูสิมองแม้กระทั้งยาม เฮ้อ...ไม่รู้จะบอกไงวุ่ย ผมรีบเดินไปที่ลิฟท์ กด อย่างไวเลย เพราะหนักมาก
เอ๊ะ! ทำไมลิฟท์ไม่ติดไม่มีไฟล่ะ ยามเดินเข้ามาบอกผมว่า ''ขอโทษนะครับคุณ พอดีลิฟท์มันเสียน่ะครับ''
''กรุณาใช้บรรใดก่อนนะครับ '' ''ห๊า!!! ลิฟท์เสียงั้นเหรอ'' อะไรกันเนี้ย คอนโดออกจะใหญ่โตไหงปล่อยให้ ลิฟท์เสียได้ไงฟร่ะ!!
แล้วฉันอยู่ตั้ง ชั้น15นะเฟ้ย จะให้เดินขึ้นเหรอ บ้าไปแล้ว จะบ่นไปทำไมเนี้ย สุดท้ายก็ต้องเดินๆๆๆๆ
แล้วก็เดิน เฮ้อ ถึงสักทีแทบตายเลยทีเดียว ยัยนี้ก็หลับดีจังแหะ เฮ้อ....ผมพามายะไปปล่อยไว้ที่นอนผม
ยัยนี้ตอนหลับน่ารักดีแหะ ผมดึงผ้าห่มมา ห่มให้ แล้วจ้องมองเธออยู่พักนึง
ผมแทบจะไม่อยาก ละสายตาไปจากเธอเลย แหะ ผมเอามือลูบผมเธอ
''ฝันดีนะยัยยมทูตจอมยุ่ง!! ^ ^ ''เฮ้อ..เราเองก็เหนื่อยทั้งวันแล้ว นอนมั้งดีกว่า
ความคิดเห็น