ข้อมูลเบื้องต้น
ร้านขายกาแฟแห่งหนึ่งนอกตัวเมือง บรรยายเงียบสงบเหมาะแก่การนั้งจิบกาแฟ....ร้านแห่งนี้ถูกตกแต่งจากไม้ทั้งหมดซึ่งเป็นไอเดียของเจ้าของร้าน ภายในร้านตกแต่งให้เข้ากับบรรยายกาศที่ล้อมไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นาๆชนิด วันนี้มีลูกค้าเข้ามาบริการบางตาเป็นปกติของวันธรรมดา.....
"คืนนี้จะไม่ไปแสดงความยินดีให้กับเมฆเขาบางหรอ..แจน"
"ยังไม่รู้เหมือนกัน ถ้าว่างก็คงจะไป แต่ถ้ายุ่งคงจะอยู่ร้าน"
น้ำเสียงของหญิงสาวที่ชื่อว่า"แจน" ตอบโดยไม่คิดอะไรมากมายกับคำถามของเพื่อนสาว ท่าทางของหล่อนเฉยชา..แต่ปะปนไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย....แจนเป็นเจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้หล่อนมีเพื่อนสาวที่สนิจสนมมานานเป็นลูกมือช่วยจึงสะดวกสบายในการแบ่งเบาภาระ ในขณะที่หล่อนกำลังเดินยกกล่องออกจากเคาเตอร์เข้าไปยังห้องเก็บของหลังร้าน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ทำให้หล่อนต้องหยุดชะงักรับสายกับท่าทางเบื่อหน่าย
"แจน..คืนนี้ว่างไหม"
คำถามแรกของผู้ที่โทรเข้ามาทำให้คนฟังออกอาการมีสีหน้าหงุดหงิด
"ยังไม่รู้..ถ้าว่างก็คงจะเห็นในงาน แค่นี้ก่อนนะมีลูกค้าเข้าร้านน่ะ"
หญิงสาวกดวางสายทิ้งไปอย่างไม่แคร์ความรู้ของอีกฝ่าย...เป็นความรู้สึกที่หล่อนคอยเอื้อมระอา หลายครั้งกับนิสัยที่ไม่ยอมฟังและเปิดใจให้คนรักของตนเอง
"แจน..ฉันว่าเธอพูดแรงเกินไปนะ ป่านนี้เมฆคงหน้าจ๋อยเสียความรู้สึกไปแล้วมั้ง"
"อิม"เพื่อนสนิจของแจนพูดให้อีกฝ่ายคิดกับการกระทำที่รุนแรงเกินไปสำหรับความรู้สึกของที่คนรักกัน
"ช่างเถอะ!...ก็ฉันอาจจะไม่ว่างจริงๆ"
พูดจบหล่อนก็เดินหอบของเข้าไปหลังร้านทันที....ข้างในหลังร้าน..มีมุมพักมุมหนึ่งที่ดูจะพิเศษกว่ามุมอื่นๆ เป็นการจัดออกแบบของบุคคลที่ชื่อ"เมฆ" เขาได้ทำเป็นของขวัญเปิดร้านใหม่ให้กับคนรักเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา มันถูกดูแลเป็นอย่างดีจากผู้หญิงคนหนึ่งที่รักผู้ชายคนนี้มาก...เป็นจุดนั้งชมวิวหลังร้านที่มีภูเขาหลายลูกทิวทัศน์สวยงาม..เมื่อตอนเย็นๆแจนและเมฆจะต้องมานั้งจิบเครื่องดื่มร้อนๆชมวิวกันอย่างมีความสุข..สิ่งเหล่านั้นเป็นความทรงจำที่แสนวิเศษที่สุด....
...แจนนั้งลงกับเก้าอี้ไม้ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมาหล่อนกดไปยังเมนูข้อความเหมือนกำลังจะพิมพ์อะไรสักอย่าง แต่ก็มีความรู้สึกลังเลใจอย่างบอกไม่ถูก...
สีหน้าแววตาของหญิงสาวดูแกร่งและเด็ดเดี่ยวกับการตัดสินใจกับเรื่องๆหนึ่ง..กระทั้ง เวลาผ่านไป30นาทีก็เป็นเวลาปิดร้าน ประมาณ 18.30น. ภายในร้านก็เริ่มเงียบสงบลง..อิมเดินเก็บค่าของทุกอย่างในร้านให้เรียบร้อยเพียงลำพังจนเสร็จ หลังจากปิดประตูหน้าร้านลง หล่อนก็เดินเข้ามายังหลังร้านที่มีแจนอยู่เพื่อลากลับบ้านตามปกติทุกวัน..
"แจน..ฉันกลับบ้านนะ.."
อีกฝ่ายยังคงนั้งนิ่ง แต่พยักหน้าตอบรับแทนเมื่อหูได้ยิน
"เรื่องแฟนเธอน่ะ...อย่าลืมที่จะไปบ้างนะสงสารเมฆมัน"
"ขอบใจนะ...ไว้จะคิดดู....กลับบ้านดีๆละ"
คำพูดที่เฉยชาของอีกฝ่ายช่างเยือกเย็นเหลือเกิน..อิมไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากเกี่ยวกับเรื่องของคนสองคน หล่อนได้แต่ถอนหายใจเบาๆแล้วค่อยๆเดินออกจากร้านไป...แสงสว่างในตอนเย็นเริ่มมืดลง แสงไฟภายในร้านกาแฟของแจนยังคงถูกเปิดไว้....ความเหงาเริ่มก่อตัวเข้ามาในความรู้สึกของหญิงสาวที่กำลังนั้งเหม่อมองใจลอยอยุ่เพียงลำพัง นาฬิกาที่ติดอยู่กับผนังก็เคลื่อนเปลี่ยนเป็นตัวเลขไปเรื่อยๆ...ไม่นานเสียงข้อความจากเมฆก็ส่งมาถึงแฟนสาวของเขา..
"แจน..ไม่ว่างจริงๆใช่ไหม ผมรู้สึกเสียใจจังคับ"
เมื่อเปิดอ่าน.....แจนก็ตัดสินใจโทรไปหาอีกฝ่ายทันที
"ขอโทษนะเมฆ...เรายุ่งจริงๆ..เออ...ยินดีกับผลงานใหม่ด้วยละ แค่นี้นะ..บาย"
หล่อนรีบตัดสายทิ้งให้เร็วที่สุด แล้วทรุดตัวหมอบลงนอนกับโต๊ะอย่างเศร้าใจ..มันเป็นความอายหรือความเคยชินกับเรื่องราวที่หล่อนเคยทำมา แจนเคยถามตัวเองมาหลายครั้งเหมือนกันว่าทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไปแล้วได้อะไรกลับมาตอบแทนนอกจากความเสียใจที่ตนเองคอยเก็บความรู้สึกเหล่านั้นมาตลอด...ซึ่งเป็นอารมณ์ที่ใครสุดจะทน แต่อีกฝ่ายกลับรับได้มาตลอด..
แจนคิดเรื่องอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของตนเองตลอดเวลาที่คบกัน..หล่อนมองตัวเองแล้วมันไร้ค่าไร้ความหมายกับเขาคนนั้นเหลือเกิน..ไม่เหมาะสมที่จะต้องไปใฝ่ฝันหมายจันทร์กับคนที่มีอะไรเพียบพร้อมไปทุกอย่างอย่าง..เมฆ... แจนพยายามเจียมตัวเองมาตลอด..เมื่อรู้ตัวว่าเมฆเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยมียศฐาบรรดาศักดิ์ถึงแม้หล่อนจะรักเขามากสักเพียงใด..
"ตลอดเวลาที่ผ่านมา..ฉันเคยทำอะไรให้เมฆบ้างนะ...ขอโทษนะเมฆ..ฉันยังไม่กล้าพอ"
แจนพูดกับตัวเองอย่างแผ่วเบากับความเจียมตัวและไม่กล้าพอกับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเพียบพร้อมไปทุกอย่าง......ค่ำคืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับอย่างสวยงาม..ต่างจากคนคนหนึ่งที่กำลังนั้งแหงนมองฟ้าอย่างผิดหวัง
ภายในงานเลี้ยงฉลองผลงานของเมฆ..กับการเปิดตัวรถแข่งคันใหม่ที่เขาเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเองตามไอเดียของยุคสมัย....ทุกคนภายในงานเลี้ยงล้วนมีแต่เพื่อนๆของเมฆและแจนซะส่วนใหญ่...ขาดเพียงคนเดียวที่สำคัญที่สุดในงานคือ..แฟนสาวของเมฆ.........ทำให้เจ้าของงานเกิดอาการเซ็งๆสีหน้าเศร้าๆไม่ค่อยมีความสุขไปกับงานบางเลย
"ไม่ต้องเศร้าใจไปหรอกนะเมฆ...แจนเขาคงยุ่งงานจริงๆ"
อิม...เพื่อนสนิจของแจน..พยามหาข้ออ้างพูดปลอบใจให้กับเมฆได้สบายใจ..ถึงหล่อนอยากจะอธิบายเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับแจนให้อีกฝ่ายฟังก็ตาม คำพูดที่ยังย้ำนักย้ำหนาของเพื่อนก็จะดังกึ่งก้องไปทั่วสมอง อิมจึงได้แต่เก็บเรื่องเหล่านั้นเอาไว้ให้ดีที่สุดตามคำขอ..
"ไม่เป็นไรหรอก..ฉันพอเข้าใจ เธอฝากไปบอกแจนด้วยนะ...ที่ฉันไม่ค่อยมีเวลาให้เขาบ้างเลยต้องขอโทษจริงๆ"
"ได้สิ....นายนี้ก็อึดเหมือนกันนะเมฆที่ทนกับนิสัยของยัยแจนได้ ถ้าเป็นคนอื่นคงเพ่นหนีหมดไปแล้ว"
"ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่เข้าใจตังเองเหมือนกันทำไมถึงทนได้"
ทั้งสองนั้งพูดคุยกันอยู่ริมสระตามประสาเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนม.ปลาย
....เช้าวันรุ่งขึ้น..เมฆขับรถมาที่ร้านของแฟนสาว..เขาลงจากรถมาด้วยดอกไม้สีขาวช่อใหญ่เดินเข้ามาภายในร้านด้วยสีหน้าแจ่มใส..ส่วนแจนกำลังนั้งเล่นโทรศัพท์ด้วยความสนุก
"หวัดดีแจน..อิม วันนี้ผมมีของขวัญมาให้แจนด้วยนะหวังว่าจะชอบ"
เขาพูดพร้อมหยื่นดอกไม้ช่อใหญ่นั้นให้กับแฟนสาวอย่างใจสั่นที่เขาไม่ได้เจอกับหล่อนมานานพอ.. แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ ทำเป็นหูทวนลมกับสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่ในขณะนี้...กระทั้งอิมต้องมากระตุกแขนเสื้อบอกเพื่อนสาวด้วยความเห็นใจเมฆ
"นี้!...แจนแฟนเธอมาน่ะ..สนใจหน่อยสิ"
แจนเงยหน้ามองเมฆเพียงเล็กน้อยแล้วก้มลงสนใจโทรศัพท์ต่อพร้อมพูดลอยๆ
"หรอ..ขอบใจนะ..เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ"
น้ำเสียงเฉยชา แข็งกระด้าง..ทำให้หัวใจของเมฆเริ่มเหี่ยวเฉาลงริบรี่ด้วยความอดกลั้นเขาจึงฝืนยิ้มออกมาเพื่อคนที่เขารัก..อย่างไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่กำลังเก็บเอาไว้
"แจน ทำอะไรหรอน่าสนุกจังนะ"
เมฆถามแฟนสาวอย่างสนใจ..อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยอยู่สักครู่ก่อนจะรู้สึกว่าคนกำลังถามรอคำตอบ
"อืม..สนุกมาก มีธุระอะไรหรือเปล่า"
'ไม่มีหรอก..ผมแค่เอาดอกไม้ให้ หวังว่าแจนจะชอบ..งั้นผมไม่รบกวนล่ะนะ.......บาย"
"อืม..บาย"
เมฆเดินออกจากร้านไปด้วยความรู้สึกท้อใจเงียบๆที่เขาพึ่งรับมา ..มันช่างทรมานหัวใจของเขาเหลือเกิน ไม่มีครั้งใดที่เขาจะไม่อดทนต่อผู้หญิงคนนี้..อาจจะเป็นเรื่องงี้เง้าแต่สำหรับเมฆมันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเมื่อได้เลือกรักเธอ..หลายครั้งที่เขาเผลอมองไปเห็นคู่รักคนอื่นๆมีความสุข มอบแต่สิ่งดีๆให้กัน..พอหันกลับมามองตนเองกลับว้างเปล่าไร้รสชาติของความรัก
.....รถของเมฆค่อยๆเคลื่อนออกจากบริเวณร้านได้สักพัก แจนก็วางโทรศัพท์ไว้แล้วเงยหน้ามองความห่างไกลของแฟนหนุ่มกับความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
"แจน..เธอจะทำแบบนี้กับเมฆไปนานแคไหนกัน...ไม่นึกสงสารเขาบ้างหรอ คนอุตสาห์มาหาทั้งที่"
หล่อนไม่พูดอะไร เหมือนกำลังนั้งคิดทบทวนเรื่องบางอย่างภายในใจ..ก่อนจะหันกลับมาทำอย่างอื่นกรบความคิดเหล่านั้นไว้..
...วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆจากวันเป็นเดือน แจนก็ยังคงทำนิสัยแบบนี้กับเมฆผู้เป็นแฟนหนุ่มไม่มีเปลี่ยนโดยที่หล่อนไม่รู้สึกนึกสงสารอีกฝ่ายบ้างเลย
ส่วนเมฆก็ยังคงทนได้กับบทซ้ำๆและนิสัยของแจนได้อย่างไมมีเปลี่ยน..
..วันนี้เป็นวันเกิดของเมฆ เขาได้จัดงานวันเกิดอยู่ริมทะเลให้เข้ากับบรรยายกาศโรแมนติกและเย็นสบาย.เมฆชวนเพื่อนๆทุกคนรวมถึงคนพิเศษของเขาเช่นเดิม
"แจน ฉันหวังว่าเธอคงจะว่างไปงานวันเกิดของเมฆเขานะ..เรื่องนี้ถือว่าฉันขอเถอะนะ แจน"
อิม..พูดอ้อนวอนขอร้องเพื่อนสาวและเห็นใจในความพยายามของเมฆ อีกอย่างแจนก็ไม่เคยคิดจะไปไหนมาไหนกับแฟนหนุ่มของตนบางเลย ขนาดพูดโทรศัพท์หล่อนยังไม่อยากจะรับสาย..ชอบทำตัวห่างเหินแข็งกระด้างจนเคยชิน เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเจ็บปวดมากน้อยเพียงใด...
"ก็คงจะคิดดูก่อนว่าจะไปดีไหม"
"อะไรของเธออีกล่ะ..คบกันมาตั้งหลายปีแล้วเธอเคยทำอะไรให้เมฆเขาพึงพอใจบ้างไหม ฉันว่าล้มเลิกไปเถอะกับคาวมคิดบ้าๆมันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก เธอคิดไปเองมากกว่านะ"
..ความอดทนของอิมเริ่มไม่ไหวกับเรื่องราวที่ผ่านพ้นมาโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากความเสียใจ หล่อนจึงขอพูดให้เพื่อนสาวคิดสักทีและหันมามองโลกในแง่ดีของเมฆ..
"ฉันก็เป็นของฉันอยู่แบบนี้ เมฆเขาก็ไม่เห็นโว้ยวายเหมือนเธอเลยนะ อิม"
"ฉันแค่อยากให้เธอเข้าใจ...เธอคิดไหมว่าเขาจะทนกับนิสัยแบบนี้ได้อีกสักกี่น้ำได้..ความอดทนของคนเรามันไม่แน่ไม่นอนหรอกนะ"
"ฉันยังอยากอยู่แบบนี้อีกสักพัก"
แจนตอบโดยไม่คิดอะไรมากมาย หล่อนทำตัวให้ชินและไม่พยายามซีเรียสกับเรื่องเหล่านั้น แม้จะต้องฝืนมันมากแค่ไหนก็ตาม
"ถ้าเธอไปงานวันเกิดของเมฆฉันจะดีใจกับเธอมากนะ"
เวลาประมาณ4 โมงเย็นร้านของแจนถูกปิดเร็วกว่าปกติ..ภายในร้านเงียบสงบเหลือเพียงแค่แจนคนเดียวเท่านั้น ส่วนอิมก็เตรียมตัวจะไปงานวันเกิดเมฆในค่ำคืนนี้ แจนเดินเข้าไปยังหลังร้านแล้วนั้งลงตรงจุดพักมุมเดิมตามเคย......ครั้งนี้เป็นครั้งที่หญิงสาวคิดหนักใจ ..หล่อนช่างใจร้ายใจดำเหลือเกิน แววตาเศร้าๆกวาดสายตามองตรงไปยังจุดชมวิว..ที่ๆเคยมีเพียงเราสองคน ภาพวันวานได้หวนกลับย้อนกลับมาให้หล่อนเห็นพอเลือนลางอีกครั้งเป็นความทนทรงจำที่หญิงสาวแอบอมยิ้มออกมาอย่างปลื้มปิติ บรรยากาศเงียบๆล้อมรอบร่างกาย จู่ๆก็เหมือนมีอะไรสักอย่างสั่งให้หล่อนอยากจะไปงานวันเกิดของเมฆด้วยความต้องการ...
แจนเดินออกจากร้านแล้วขับรถเข้าไปตัวเมืองหล่อนตัดสินใจซื้อของขวัญให้กับเมฆ มันเป็นรถบังคับขนาดจิ๋วที่เขาชอบเป็นชีวิตจิตใจ..แจนเลือกห่อของขวัญเป็นสีเหลืองอย่างสวยงามซึ่งเป็นสีที่เมฆชอบ ไม่นานพระอาทิตย์ก็ตกเย็น แจนขับรถมุ่งหน้าสู่สถานที่จัดงานวันเกิด..หัวใจของหล่อนค่อยเต้นรัวผิดจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หล่อนใช้เวลาครึ่งชั่งโมงมาถึงริมทะเลงานก็เริ่มพอดี เมื่อลงจากรถแจนก็เดินถือกล่องของขวัญเดินเข้างานกับอาการตื่นเต้น ทุกคนดูมีความสุขกันถ้วนหน้า จากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แจนพยายยามกวาดสายตามองหาแฟนหนุ่มของตน กระทั้งเห็นเมฆกำลังยืนพูดคุยกับคนอื่นๆอีกมากมายพร้อมรอยยิ้มทิ่เปี่ยมไปด้วยความสุข แววตาของแจนมองไปที่เมฆอย่างอิจฉาที่แฟนของหล่อนคอยมีแต่สาวๆมาล้อมรอบข้างกาย ทั้งที่หล่อนเป็นคนรักของเขาแท้ๆกลับไม่เคยได้ทำแบบนั้นเลย เพราะความคิดบ้าๆนั้นเอง..แจนหยิบโทรศัพท์โทรหาเมฆที่สนทนากับสาวๆพวกนั้น ในขณะที่เขากำลังหยิบโทรศัพท์มารับสาย ก็มีรุ่นน้องผู้หญิง2-3คนลากตัวของเมฆเดินเข้าไปเต้นอย่างสนุกสนาน..หตุการณ์นั้นเป็นหตุการณ์ที่หล่อนเห็นชัดกับตาทำให้ความคิดทุกอย่างเปลี่ยนไปทันที แจนเดินออกจากบริเวณงานนั้นอย่างอารมณ์เสียและโกรธจนมีน้ำใสๆไหลอาบใบหน้าของหล่อนอย่างปวดใจ แจนจึงขอเป็นการส่งข้อความสั้นๆไปบอกแทน
"มีความสุขให้มากๆนะ"
เสร็จจากส่งข้อความ รถของแจนก็เคลื่อนออกจากงานมาที่ร้านทันที่...
เวลาผ่านไปจนถึงเช้า เมฆก็ต้องผิดหวังเป็นเช่นเดิมเมื่อแจนไม่ได้มาร่วมงานวันเกิดของเขา แม้แต่ของของขวัญสักอันก็ว่างเปล่า ข้อความที่แจนส่งไปให้เมฆเขาก็เพิ่งจะได้รับมันตอนเช้า เป็นข้อความ สั้นๆจากแฟนสาวเหมือนส่งมาประชด ทำให้เขายิ่งคิดหนักเข้าไปอีก จึงรีบโทรไปหาหล่อนทันที แต่กลับโทรไม่ติดและฝากบอกให้อิมมาบอกว่าไม่ขอพบเจอกับเขาอีกต่อไป...เมื่อได้ฟังเช่นนั้นหัวใจของเมฆก็เริ่มร้าวรานจนทำอะไรไม่ถูก กระทั้งเวลาผ่านไปเป็นเดือนๆอีกรอบ ทุกอย่างเงียบสงบ หว้าเหว่ และอ้างว้าง จากวันที่เคยมีเมฆค่อยโทรมาหาถึงหล่อนแม้จะอยากรับสายตอนนี้ก็เงียบหายไปไม่มีแม้ร่องรอย ของขวัญที่เมฆชอบซื้อมาให้ทุกครั้งๆโดยไม่จำเป็นจะต้องมีงานเนื่องด้วยวาระอะไร....รอบๆเหลือเพียงแค่ความเหงาเดียวดายที่ตอกย้ำให้หญิงสาวเจ็บปวดเพิ่มทวีกูลขึ้นเรื่อยๆ แจนได้แต่นั้งมองดูคู่รักคนออื่นๆที่มานั้งดื่มกาแฟกับแฟนอย่างมีความสุข ช่างแตกต่างกับคู่ของหล่อนเสียมากๆที่ไม่เคยเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ชอบคิดอะไรทั้งที่ยังไม่เกิดและไม่มีเหตุผลอะไรสักอย่าง ไม่ชอบแคร์ความรู้สึกของอีกฝ่าย จนทำให้ต้องตัวเองจมอยู่กับความเหงาไร้ไออุ่นรักจากใครคนนั้น..
"แจน..โต๊ะ 2 ขอกาแฟและขนมปัง2ชุดจัดให้ด้วยนะ"
หลังจากเรื่องวันนั้นเป็นต้นมาอิมก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องของเมฆอีก..จากอิมที่เคยพูดเตือนใจให้หล่อนได้คิดตอนนี้กลับเงียบเฉยไม่พูดถึงเรื่องเหล่านั้นอีกเลยนอกจากจะเป็นเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เมฆ แจนเดินเอาเครื่องดื่มไปให้ลูกค้าที่โต๊ะ2ด้วยหัวใจที่กำลังล่องลอยเหมือนคิดถึงใครบางคน
"โต๊ะคุณส่งกาแฟและขนมปัง2ชุดหรือเปล่าค่ะ"
"ใช่คับ..เออที่ร้านคุณมีดอกไม้ช่อใหญ่ๆไหมคับ"
"มีค่ะต้องการเอาตอนนี้เลยไหมค่ะ"
"คับ..ดอกไม้ผมขอเป็นดอกกุหลาบสีขาวนะ"
แจนพยักหน้าตอบรับแล้วเดินเข้าไปยังหลังร้านเพื่อจัดเตรียมตามคำขอของลูกค้า....ช่างเป็นเรื่องราวที่ทำให้หญิงสาวอดคิดถึงเมฆไม่ไหวเพราะเขาก็เคยทำแบบนี้ให้หล่อนเป็นประจำ....
......กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เป็นช่วงที่เจ็บปวดที่สุดกับสิ่งที่หล่อนกำลังรับชะตากรรม..จนมาถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก ร้านกาแฟของแจนถูกปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลภายในร้านและนอกร้านจัดตกแต่งไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีพร้อมของขวัญที่ระลึกน่ารักๆมากมายเต็มไปหมด
..........วันนี้เป็นวันที่ลูกค้าเข้ามาที่ร้านมาของแจนมากเป็นพิเศษ ส่วนมากจะมาเป็นคู่ๆ...
"วันแห่งความรักก็มีแต่คู่รักหวานๆเต็มไปหมดเลย ร้านเราก็เหมือนกันมีแต่คู่รักน่าอิจฉา..ว่าไหมอิม"
แจนหันหน้ามาพูดคุยกับเพื่อนสาวขณะที่หล่อนกำลังชงเครื่องดื่ม...
"นั้นสิ..น่าอิจฉาสุดๆชีวิตทั้งชีวิตฉันยังไม่เคยถูกใครรักและมอบของขวัญให้บ้างเลย สงสัยคงจะขึ้นคานแล้วมั้ง"
"ไม่หรอกน่า มันยังมาไม่ถึงต่างหาก..ฉันสิ..ไม่เคยที่จะทำอะไรเพื่อเมฆเขาสักอย่างบ้างเลย"
น้ำเสียงของแจนเริ่มแผ่วเบาลงอย่างเศร้าใจ เมื่อนึกถึงชื่อแฟนหนุ่มตน
"แจน ฉันอยากให้เธอเปลี่ยนความความคิดใหม่ได้แล้วนะสงสารคนที่เขารักเธอบ้างถ้าเธอยังทำแบบนี้เธอจะตองเสียใจไปตลอดเสียชีวิตนะ"
"ฉันคิดว่ามันสายไปแล้ว ป่านนี้เมฆเขาคงไปมีแฟนใหม่แล้วแหละ"
หล่อนกำมือตัวเองแน่นก่อนจะเปิดล้นชักเพื่อดูอะไรบางอย่าง
"ยังหรอกแจน มันยังไม่สายไปเธอยังมีโอกาสแก้ตัว"
"รู้ได้ไง..นี้มันเป็นเดือนๆแล้วนะเขาคงจะอยู่รอฉันหรอ"
"งั้นลองหันไปด้านหลังดูดิ"
อิมพูดพร้องส่งยิ้มให้เพื่อนสาวอย่างมั่นใจ........และแล้วแจนก็ต้องตกใจ เมื่อหล่อนได้เจอผู้ชายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่หน้าร้านถือดอกกุหลาบช่อใหญ่..เขาค่อยๆเดินเข้ามาภายในร้านแล้วมีเสียงตบมือจากลูกค้าที่อยู่บริเวณนั้นมาเป็นระยะๆ...
"ผมจะอดทนเพื่อผู้หญิงคนนี้ตลอดไป...ต่อเธอจะทำแบบนี้กับผมไปนานสักแค่ไหน ผมก็ยังรักแจ
นและรักเรื่อยๆไปจนแก่"
คำพูดซึ้งๆถูกกลั่นกรองออกมาจากปากของเมฆ ทำให้น้ำตาแห่งความตื้นตันหญิงสาวซึมเต็มดวงตาจนกลั้นไม่อยู่....ตลอดเวลาที่ผ่านมา แจนเคยคิดไว้ว่าตังเองไม่คู่ควรกับคนที่ดีเกินไปเขาเป็นผู้ชายที่มีอนาคตก้าวไกล พอมองตังเองทำไมช่างแตกต่างจากความเป็นจริงมาก ทำให้ความคิดของหล่อนกลับเปลี่ยนแปลงทั้งๆที่หัวใจดวงนี้มอบให้เมฆไปหมดแล้ว มันเป็นความคิดผิดๆมาก ที่ทำให้ตัวหล่อนเองดูแข็งกระด้างเฉยชาไม่เคยแคร์ความรู้สึกของอีกฝ่าย..แจนเดินเข้าไปโอบกอดเมฆอย่างสุดความคิดถึง น้ำตาแห่งความรักไหลพรากออกมา
"เมฆ...ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกนะแจน แจนก็ยังเป็นแจนคนเดิมที่เมฆรักมากมาตลอดไม่มีเปลี่ยนแปลง"
"ฉันมีของขวัญชิ้นหนึ่งจะมอบให้กับเมฆ"
เมื่อคลายจากอ้อมกอดที่อบอวลไปด้วยไออุ่นรัก..แจนเดินเข้าไปเปิดลิ้นชักหลังเคาร์เตอร์ แล้วนำกล่องของขวัญสีเหลืองนั้นมาให้กับเมฆ...
"สุสันต์วันเกิดย้อนหลังนะเมฆ"
เมฆส่งยิ้มออกมาด้วยความตื้นตัน เขาช่างมีความสุขในวันแห่งความรักครั้งนี้มาก
"ขอบคุณมากนะ..ผมอยากให้คุณเข้าใจในตัวของผม ถึงแจนจะเกิดมารวยจน ดีหรือไม่ดีแต่ถ้าผมเลือกที่จะรักคุณแล้ว ผมรับคุณได้ทุกอย่าง"
นานแล้วกับคำพูดที่หล่อนไม่ได้ฟังทำให้หัวใจของแจนเบิกบานเติมเต็มไปด้วยโลกใหญ่ใบสีชมพู
"แจนรักเมฆมากนะ"
คำสารภาพของทั้งสอง มีสักขีพยานเป็นลูกค้าในร้านของหญิงสาว ทั้งสองยืนโอบกอดกันทามกลางวันแห่งความรักที่แสนโรแมนติก........เป็นวันพิเศษมี่จะได้กลับมาอีกครั้งเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเรื่องที่ผ่านเป็นบทเรียนของชีวิต ความสุขหาได้ไม่ยากแค่เราเอาใจใส่ให้กันและกันคุณก็จะมีความสุขใจไม่มีลืม.............อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยเกินไปก่อนที่มันจะสายเกินแก้ หากคุณเป็นคู่รักที่มีเหมือนกับเมฆและแจน ลองหันหน้าเปิดอกปรับความเข้าใจกันให้ลงรอยปรับเปลี่ยนตัวเองให้มองโลกในแง่ดี เปลี่ยนความคิดที่ผิดแล้วหันมามอบของขวัญที่ไม่ใช่แค่สิ่งของแต่ความรักหลากหลายมุมให้คนรักกันเถอะนะ.................................จบ<-_->"
ความคิดเห็น