Dear Diary สวัสดีไดอารี่ ของนายบี(Yaoi) - นิยาย Dear Diary สวัสดีไดอารี่ ของนายบี(Yaoi) : Dek-D.com - Writer
×

    Dear Diary สวัสดีไดอารี่ ของนายบี(Yaoi)

    เคยอยากเขียนไดอารี่แต่ไม่สำเร็จมั้ย งั้นมาลองดูกันการเขียนครั้งนี้จะนานเท่าไหร่ จะเขียนได้เยอะไหม เรื่องรักของชายรักชายในชีวิตจริง

    ผู้เข้าชมรวม

    102

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    102

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 ม.ค. 59 / 23:31 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัสดีไดอารี่                       

                           

                             นี้เป็นการเขียนไดอารี่ครั้งแรกของเรา แต่มันไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกที่พยายามจะเขียนหรอก มีใครเป็นบ้างแบบ อยากเขียนเหมือนคนอื่นจัง แต่พอเขียนได้วันสองวัน ก็เริ่มเบื่อและไม่อยากเขียนต่อ แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่อีกต่อไป เพราะไดอารี่ครั้งนี้ของเรา เราจะเขียนเพื่อชาววาย เคยอยากอ่านเรื่องจริงประสบการณ์รักจริงๆ ของชาวชายรักชายนะ แต่ที่เห็นสมัยนี้ก็มีแค่ นิยายวาย ไม่ก็เพจต่างๆที่ทำขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์บ้าง ครั้งนี้อยากเขียนนิยายบ้าง แต่ไม่รู้จะเขียนอะไร ยังไม่มีแรงบันดาลใจ และยังรู้สึกแยกเรื่องจริงกับเรื่องที่จะจินตนาการไม่ได้ 55+ ใครที่ไม่อยากเครียดหรือไม่อยากจริงจัง ก็คิดว่ามันเป็นนิยายเรื่องหนึ่งแล้วกันเนอะ แต่เรื่องราวที่จะได้อ่านต่อไปนี้ เราจะเล่าความจริงเป็นส่วนใหญ่นะ หรือแทบจะทั้งหมด ความฟินไม่รู้จะเท่าเรื่องที่แต่งไหม แต่คิดว่าน่าจะสนุกพอ

                            สวัสดีเราชื่อบีนะ เราเป็นเด็กจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่เดี้ยวนี้มีแต่รีวิว ท่องเที่ยวเต็มไปหมด เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งรีสอร์ทสวยๆ เต็มไปหมด    คงคิดว่าดีจังอยู่จังหวัดนี้ มันจะดีกว่านี้มากถ้าเราอยู่ ในอำเภอเมือง ของจังหวัด แต่ในความเป็นจริงคือเราเกิดในอำเภอเล็กๆที่อยู่ติดกับจังหวัดใกล้เคียง เราเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลางจนถึงล่าง พ่อกับแม่เราแยกทางกันตั้งแต่เราอายุได้ 5 ขวบ จำได้ว่าฉากที่พ่อแม่เราตัดสินใจแยกทางกัน ตอนนั้นเราจำอะไรไม่ได้มาก แต่ภาพที่จำได้คือ เรานั่งอยู่บนตักพ่อที่ประตูหน้าบ้าน และตรงข้าม คือน้องที่นั่งบนตักของแม่ เราก็พอจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่จำ ความเศร้าตอนนั้นได้ดี เราร้องไห้ เพราะได้ยินพ่อพูดคุยกับแม่ว่า เขาจะไปเอง ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรดี แต่น้ำตาของแม่กลับทำให้เรารับรู้ความรู้สึกว่าสถานการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องน่าเศร้าเพียงใด สุดท้ายสิ่งที่จำได้คือภาพที่พ่อหันหลังและเดินออกจากบ้านไป เราไม่รู้ว่านั้นจะเป็นการจากลาที่เวลาต่อมาเราจะไม่ได้เจอพ่ออีก

    เวลาล่วงเลยผ่านไป  จนถึงช่วงประถมเราเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน เป็นโรงเรียนวัดประจำตำบล หลังจากการเลิกราครั้งนั้น แม่เลือกที่จะทิ้งบ้านของเราเพื่อไปอยู่กับคนรักใหม่ของแม่ เรากับน้องถูกฝากไว้กับตาและยายให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลและส่งเสียเราเรียน  เราเรียนเก่งมากๆ ได้ที่ 1 ไม่ก็ ที่  2 ของห้องในทุกๆปี จน ป. 3 แม่ของเราเริ่มรับเราไปค้างคืนที่บ้านใหม่ต่างตำบลของเขา ในทุกๆวันศุกร์ของอาทิตย์ เรากับน้องจะหอบเสื้อผ้าไปโรงเรียน เพื่อรอเวลาเลิกเรียน แม่จะมารับไปยังบ้านต่างอำเภอ เมื่อเราไปถึงภาพที่เห็นคือแม่และแฟนใหม่ของแม่ อยู่ภายในบ้านเช่าแบบบ้านจัดสรร ชั้นเดียว มีเตาอบขนมเค้กอยู่หน้าบ้าน แม่กับแฟนใหม่ของแม่ทำงานกันหนักอย่างมาก เพื่อหาเงินที่จะสร้างฐานะให้พวกเขาทั้งสอง แม่จะชอบพาเรากับน้องไปยังสระน้ำใกล้ๆบ้าน เพื่อให้น้องกับเราได้เล่นน้ำอย่างที่อยากเล่น เป็นสระน้ำมาตรฐาน สองสระ เมื่อเดินเข้าไปภายในตัวอาคาร ภาพที่เห็นตรงหน้า คือสระน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่ หนึ่งสระ และข้างๆกันเป็นสระน้ำขนาดเล็กสำหรับเด็ก วันเวลาผ่านไปเรา มีเพื่อนคนใหม่ๆที่รุ่นราวคราวเดียวกันในหมู่บ้าน เป็นแก๊งเด็กที่รวมเด็กหลากหลายรุ่นอายุราวๆ 7 – 13 ปี ภาพความทรงจำการเล่นกับเพื่อนใหม่นั้น มันมีความสุขมากๆ เพราะมักจะพากันตะลอนๆ ไปเล่นน้ำที่ริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นฐานลับของพวกเราชาวแก๊ง เป็นช่วงน้ำลดของปี บริเวณฐานลับของพวกเรานั้น เส้นทางที่จะไปต้องออกจากหน้าหมู่บ้านแล้วเลี้ยวซ้ายมือ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆตามเส้นทาง เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ด้านขวามือจะมีต้นจามจุรีย์อันสูงใหญ่อยู่ ข้างๆกันมีเส้นทางเล็กๆ ลงเนินไปยังพื้นที่ฐานลับ เมื่อเดินลงไปจะพบกับ สันทรายขนาดใหญ่ที่ลอยเด่นขึ้นมาจากแม่น้ำ อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่บริเวณโค้งน้ำด้านในทำให้ทรายถูกพัดพามากองรวมกันทางด้านนี้ ด้วยระดับน้ำที่ขั้นกลางระหว่างสันทรายนั้นไม่ห่างกันมาก และบริเวณนั้นก็เป็นบริเวณที่น้ำไหลไม่แรงนัก พวกเราจึงมักจะไปเล่นน้ำ ณ สถานที่แห่งนี้ มีเชือกที่ผูกเข้ากับยางรถเครื่อง(รถจักรยานยนต์) ห้อยอยู่เป็นเสมือนเครื่องเล่นทางน้ำเพียงชิ้นเดียว ของฐานทัพ แต่เราก็ไม่ได้ไปที่แห่งนี้บ่อยนัก เพราะเมื่อไหร่ที่พวกผู้ใหญ่รู้ เราจะถูกดุและถูกทำโทษอยู่เสมอ เราจึงเลือกที่จะเล่นกันภายในบริเวณหมู่บ้าน อีกหนึ่งกิจกรรมที่ฮิตที่สุดเห็นจะเป็นการเล่นปิดแอบ(ซ่อนแอบ) ที่สถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหนหากเป็นบ้านร้างภายในหมู่บ้านนั้นเอง วันหนึ่งเรากำลังรวมตัวกันเพื่อจะไปเล่นปิดแอบ วันนั้นเป็นวันที่บรรยากาศดีมาก ลมเย็น ท้องฟ้าสดใส มีสมาชิกใหม่ มาเพิ่มอีกคน แต่เหมือนว่าคนในกลุ่มจะรู้จักกับเขาดีอยู่แล้ว เขาเป็นเด็กผู้ชายที่อายุพอๆกับคนที่อายุเยอะมากที่สุดในกลุ่ม ประมาณ 12-13 ปี เป็นคนสูง ผิวขาว หน้าตาดีกว่าเด็กคนอื่นๆ มารู้ทีหลังว่าเขาคือลูกของเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร วันนั้นเราเลือกที่จะเล่นปิดแอบกัน สถานที่ก็ไม่ใช่ที่อื่นใด นอกจากบ้านร้างหน้าซอยเขาคนนั้นเป็นผู้โชคร้ายที่เข้ามาทีหลัง เขาจึงต้องเป็นคนหา เมื่อเขาเริ่มนับ พวกเราต่างก็พากันไปแอบตามมุมต่างๆของบ้าน เราเลือกที่จะไปกับพี่เต๋า พี่ที่โตที่สุดของกลุ่ม พี่เต๋าเป็นเด็กที่มีนิสัยเกเรนิดๆ เมื่อวิ่งขึ้นไปชั้นบน เขาเลือกที่จะไม่แอบอย่างที่เคย แต่เขากลับเอาถังสีแสตนเลสขนาดใหญ่มาผูกกับเชือก แล้วเมื่อเขาคนนั้นนับถึงจำนวนที่จะต้องออกมาหา เขากำลังวิ่งขึ้นมาบชั้นสองเราทำได้เพียงมองการกระทำของพี่เต๋า ที่ค่อยๆหย่อนถังแสตนเลสนั้นลงไป จังหวะเดียวกับที่เขาคนนั้นวิ่งมาทำให้เขาชนกับถังสีพอดี ทำให้เขาเจ็บอย่างมาก เขาเอามือกุมมือบริเวณที่ชนตลอดเวลา พี่เต๋าเมื่อความคึกคะนองหมดไปเพราะเขาคนนั้นบาดเจ็บเป้นอย่างมากก็รีบวิ่งลงไปดู เราทุกคนที่เล่นกันอยู่ต่างตกใจ และวิ่งเข้าไปดูเช่นกัน ภาพที่เห็นคือเขาคนนั้นไม่ว่าอะไรพี่เต๋าสักคำ ทำเพียงแค่มองหน้าผู้ที่ทำให้เขาเจ็บ จากนั้นก็เดินกลับไปยังบ้านของเขาเงียบๆ นั้นแหละ รักแรกของเรา ที่เราแน่ใจแล้วว่าเรานั้นไม่ปกติ เราชอบผู้ชายด้วยกัน แต่พอเรารู้ตัวตนของตัวเอง มันกลับเป้นครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นหน้าเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปเที่ยวเล่นหรือผ่านบริเวณหน้าบ้านของเขานั้น เราทำได้เพียงมองบ้านของเขา โดยไร้ซึ่งเงาของคนที่เราเฝ้ามองหา จนถึงช่วง ป.4 แม่ของเราเลือกที่จะกลับไปอยู่ที่บ้านที่จากมา แม่กลับมาเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆที่บ้าน กิจการไปได้สวยอยู่ระยะหนึ่ง  พอจบชั้นประถมศึกษาปีที่หก แม่ของเราเลือกที่จะให้เราไปต่อในโรงเรียนประจำอำเภอซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเราเป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร ..........

     

     

     

     

     

              

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น