Chapter 3 เริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาลัย
สี่ทุ่มกว่า ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ปั๊งๆปั๊งๆๆปั๊งๆๆๆๆ
บอย:-ใครเคาะห้องว่ะ (ซึ่งจริงๆก็เหลือไอ้เม้งคนเดียวละที่อยู่ห้องเดียวกับผม) แม่งชิลีแผ่นติดไหวหรือไงว่ะ
แม่งกี่ริเตอร์กันว่ะ เอ้อๆใจเย็นกูกำลังไปเปิดไอ้เม้ง ห่าของขึ้นอะไรว่ะ พรุ่งนี้วันปฐนนิเทศน์วันแรกด้วย แม่งอุตสาห์รีบนอน กลัวไม่ทัน มีอะไรเชี่ยะเม้ง
พอเปิดประตูมาก็พบไอ้เม้งอยู่ในชุดหล่อเต็มยศเหมือนตอนกลางวันที่เดินพารากอนกับสยามเลย
บอย:- เอ้าเม้งทำไมมึงยังไม่อาบน้ำนอนอีกว่ะ หรือห้องน้ำห้องมึงเสีย โทษว่ะกูลืมเช็ค แต่ถ้าเสียแม่บ้านน่าจะรายงานช่างให้มาซ่อมก่อนนะ
เม้ง:- ห้องน้ำไม่ได้เสียหรอก กูนอนห้องมึงได้ไหม ถ้ามึงอึดอัดมึงก็นอนที่พื้นกูนอนเตียง มึงก็รู้ว่าหลังกูไม่ค่อยดี นอนพื้นแข็งไม่ได้
แต่ถ้ามึงไม่เกรงใจกู กูอนุญาติให้มึงนอนเตียงมึงกับกูได้
บอย:- ชั่วแล้วมึง เนี่ยะห้องของกูทำไมต้องเกรงใจมึงด้วยว่ะ มึงมีอะไรรีบๆพูดมากูจะนอน
เม้ง:-กูพูดตรงๆเลยนะไอ้บอย กูไม่อายมึง กูกลัวผีว่ะ มึงจำได้ไหมตอนเด็กที่พี่มาร์คแกล้งขังกูในตู้เสื้อผ้า กูเลยกลัวนะ มืดๆกูไม่ชอบ แล้วเนี่ยะก็ไม่ใช่บ้านกู กูไม่ชิน ถ้ากูนอนกับมึงกูอนุญาติให้มึงปิดไฟนอนได้ เหลือแค่ไฟห้องน้ำ กูพูดจริงๆนะโว้ย กูเสียสละให้มึงแบบแมนๆเลย
บอย:- ดีนะกูเป็นเพื่อนมึงตั้งแต่เกิด กูเลยทนมึงได้ เอ้าเข้ามา ถ้ากลัวก็ไปอาบน้ำห้องกูเร็วๆกูง่วง
เม้ง:- สีหน้าดีใจ รีบกระโดดขึ้นเตียง กูนอนละกูง่วงมากเหนื่อยด้วยดูสาวๆตอนกลางวัน จนกูรู้สึกว่าหัวใจกูเต้นผิดจังหวะว่ะ
เดี๋ยวก็ช้า เดี๋ยวก็เร็ว
บอย:- สัด วินิจฉัยโรคได้เลยนะมึง มาเรียนหมอเป็นเพื่อนกูไหมมึง เก่งนัก เอ้าเชี่ยะกร่นซะแล้วมึง ซกมกจริงๆมึง
เอ้านอนก็นอนว่ะ
กริ่งๆๆ นาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดัง
บอยค่อยๆ ลุกมาดูนาฬิกา
บอย:- เชี่ยะหกโมงครึ่งแล้ว ไอ้เม้งมึงรีบย้ายตัวมึงไม่อาบน้ำห้องมึงเลย เดี๋ยวสายวันแรกเลยนะมึง
เม้ง:- เจ็ดโมงปลุกกู คอนโดมึงเดินแค่สิบนาทีก็ถึงมหาลัยแล้ว มึงจะตื่นเต้นอะไรนักหนาว่ะ
บอย:- แต่งตัวเรียบร้อยเสื้อเข้าในกางเกง ผูกไทด์ ติดเข็ดกลัดคณะ ไอ้เชี่ยะเม้งตื่นมึง กูไปแล้วนะ มึงจะลืมเอาการ์ดไปด้วยนะมึง
เข้าคอนโดไม่ได้นะมึง กูไม่วิ่งมาเปิดให้มึงนะ กูอุ่นเวฟข้าวกล่องวางที่โต๊ะกินข้าว กินแล้วเก็บทิ้งด้วยนะมึง เดี๋ยวมากลิ่นคลุ้งห้องอีก
เม้ง:- คร๊าบพี่บอย แม่งทำตัวโคตรเหมือนพี่มาร์คเลยมึง
....................................................................
ห้องประชุมใหญ่คณะแพทย์
ท่านคณบดีให้โอวาส:- ผมในนามของคณะแพทย์มียินดีที่พวกหมอทั้งหลายได้เข้ามาศึกษาในคณะแพทย์
ผมและคณะหวังว่าพวกคุณหมอจะตั้งใจศึกษา เพื่อนำความรู้พื้นพื้นฐานในชั้น preclinical ( เน้นเรียนศึกษาเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานทางการแพทย์ เพื่อเตรียมไปต่อยอดในการดูแลรักษาผู้ป่วย) ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยในชั้น clinic ขอให้คุณหมอ( เป็นคำที่อาจารย์ preclinical หรือ staff อาจารย์หมอ เรียก นิสิต หรือ นักศึกษาแพทย์ เป็นการให้เกียรติ์ ซึ่งเด็กปีหนึ่งจะรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่ถูกเรียกว่า หมอ ) ทุกท่านประสบความสำเร็จในก้าวแรกของชีวิตความเป็นแพทย์ ..............
หลังจากเสร็จพิธีขอให้น้องหมอปีหนึ่ง รอที่ห้องประชุมก่อน ทางคณะจะมีการแบ่งกลุ่มการเรียน
เอ้าคุณหมอ ( เท่าที่ดูก็แก่กว่าเรานิดเดียว พี่ปีสองเริ่มแสดงออร่ากับน้องๆปีหนึ่ง)
ต่อแถวเรียงตามส่วนสูง ผู้ชายต่อแถวผู้ชาย ส่วนผู้หญิงก็ต่อแถวผู้หญิงนะ ส่วนใครไม่มั่นใจขอต่อแถวตามชื่อนำหน้า
พวกคุณก่อนแล้วกัน ( มันการให้คำแนะนำที่เคลียร์จริงๆ สมกับกับเป็นพี่ๆปีสอง)
เอ้าเสร็จแล้วคุณหมอนับหนึ่งถึงเจ็ดนะ ใครได้หมายเลขอะไร ให้ไปยื่นตามจุดที่พี่ชูป้ายหมายเลขนะครับ
ต่อไปเทอมหนึ่งเราจะแบ่งกลุ่มเรียนตามที่จัดวันนี้ ทุกคนอย่าลืมทำความรู้จักกันนะ หลังห้าโมงเย็นเชิญที่สโมรทุกคนด้วยนะ
จะมีการจับพี่รหัส และ มอบตำราหนังสือให้ รับทราบกันทุกคนนะครับ
เฟิร์ต:- ผมชื่อเฟิร์ตครับ ( แต่ตอนเช้าเห็นผู้ปกครองมึงเรียก เอก เอก อยู่เลย) ผมจบจากที่ รร .... ยินดีที่รู้ทุกคนครับ
ผมบอยครับ
ผมเอ็กครับ
ผมปอร์เช่ครับเรียกสั่นว่าเช่ก็ได้ครับ เพราะบางครั้งการออกเสียงเปอร์เช่จริงๆ หาคนเรียกถูกต้องอยากครับ ( แม่งไอ้เชี่ยะ ไม่ใช่ไอ้เช่แม่งกวนแต่คาบแรกเลยโว้ย)
ผมพุฒครับ จะเรียกว่าพุทธโธก็ได้นะครับ ผมเคยเป็นประธานชมรมพุทธที่ รร. ครับ
ผมสแกนครับ ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ถามผมได้หมดนะครับ ยกเว้นเรื่องเรียนผมไม่รู้ครับ 555
สวัสดีครับพี่ริว ผมเบริด์ครับพี่ พี่จำได้นะครับ
ผมริวครับ ส่วนไอ้คุณเบริด์มึงมาเรียกกูพี่ แม่งเสียหายหมด
ทุกคน พร้อมกัน "สวัสดีครับพี่ริว พวกผมฝากตัวด้วยนะพี่"
เนี่ยเป็นจุดเริ่มต้นการเกิดกลุ่ม" แปดแสบ"อาจารย์หมอยังยอมส่ายหน้าเวลาที่ lecture พวกนี้ แสบที่สุดประจำคณะแพทย์ได้กำเนิดขึ้น
17:00 น.
พวกหมอปีหนึ่งก็มารวมตัวที่หน้าห้องสโมร
พี่ปีสองเดินมา ตอนหลังเราเรียกพี่ท่านนี้ว่า พี่พาร์กินสัน( โรคชนิดหนึ่งที่แสดงอาการด้วยอาการสั่น สั่นมากจนเขียนหนังสือ จับช้อนจับส้อมกับไม่ได้เลย) เพราะพี่ท่านแกล้งทำตัวสั่นเวลาเดินมาคุมรุ่นน้อง ถ้าชาวบ้านเห็นคงเรียกว่าอาการผีเข้าแน่ๆ
ต่อไปนี้ผมจะประกาศชื่อพี่รหัสของพวกหมอ แล้วพวกหมอไปรับหนังสือกับโน๊ตย่อกับพี่เค้า
บอย พี่รหัส คือ พี่ดอส
เอ็ก พี่รหัส คือพี่เชอรี่
เฟิร์ต พี่รหัส คือ......
.
.
.
.
.
พุฒ:- กูว่าพี่แม่งผีเข้าว่ะ แม่งสั่นยังกับเจ้าเข้า กูอยู่ชมรมพุทธกูรู้ดี
สแกน:- สัดกูว่าแม่งแกล้งแน่ บอกชื่อแล้วทำไมไม่เอาตัวมาด้วยว่ะ คณะแพทย์ไม่มีคนแค่คนสองคนนะโว้ย
( อันนี้ยอมรับไอ้สแกนมัน เจอกันไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถใช้สรรนามสมัยพ่อขุ่นได้ เหมือนมีความสนิกันมาเป็นสิบๆปี)
บอย:- ผมอยากได้หนังสือ จะได้ไม่ต้องไม่ซื้อซ้ำ เก็บตังค์ไปซื้อตำราเรียนเล่มที่ไม่ซ้ำดีกว่า เสียดายตั๊งค์
เฮียริว( ผู้มากประสบการณ์ ผ่านมาแล้วสามคณะ):- คือ เฮียไม่อยากออกความเห็น เฮียอยากให้พวกคุณรับรู้ด้วยตนเอง
เฮียว่ามันเป็นประสบการณ์ที่มีค่า ครั้งเดียวในชีวิต สู้ๆนะพวกเรา
( แต่เฮียริวผ่านประสบการณ์แบบนี้มาสามครั้งแล้วนะครับ 555)
พี่พาร์กินสัน น้องครับตำราเรียนนะ dead line วันนี้ก่อนสองทุ่มๆนะครับ เพราะเดี๋ยวรุ่นพี่ผู้หญิงบางคนต้องกลับไปพักที่บ้าน
ถ้าใครหาไม่เจอ ( ตัวสั่นมากกว่าเดิม เสียงก็สั่นมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้ levodopa ( ยารักษาพาร์กินสัน) ลองรักษาแกจังอยากดูว่าแกจะหยุดสั่นไหม) พรุ่งนี้เจอกัน.....คำคมคำสุดท้าย ทำให้กับมาคิดว่า เจอกันทำไม ถ้าเดินผ่านแล้วเห็นพี่พาร์กินสัน เรียกว่า เจอกันไหม หรือ เรียกว่าบังเอิญ หรือ ถ้าเจอกันแล้วเลี้ยงข้าวเหรอ อันนี้น่าคิด เลยได้คำคมกลับไปนอนคิด"พรุ่งนี้เจอกัน"
เช่:-นั้นไงกวนเหมือนที่คุณเฟิร์ตบอกเลย ( เรียกคุณก็ตอนแรกเนี่ยแหละ หลังจากนั้น สัตว์จากสวนสัตว์ดุสิตมาเองเลยละครับท่าน)ผมนึกว่าคณะแพทย์จะไม่มีระบบแบบนี้นะ ผมไม่ปลื้มเลย เอ้าเอ้ย!!!ทุ่มครึ่งแล้ว พี่พาร์กินสันถ่วงเวลาแน่ๆรีบเถอะพวกเรา
บอย:- กดโทรศัพท์ เม้งวันนี้กูกลับดึกนะ ถ้ามึงง่วงมึงนอนเตียงกูเลยกูอนุญาติ แต่มึงต้องอาบน้ำก่อนนะโว้ย อย่าโสโครก
เอ็ก:- โทรหาใครเหรอบอย
บอย:-เมทนะ พ่อแม่ส่งมา 555
และแล้วจนถึงเวลาสองทุ่ม ก็แทบจะนับหัวได้ว่าใครเจอพี่รหัสแล้วมั๊ง
ความคิดเห็น