เป็นหมอก็ได้ว่ะ chapter 3 เริ่มต้นวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัย - นิยาย เป็นหมอก็ได้ว่ะ chapter 3 เริ่มต้นวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัย : Dek-D.com - Writer
×

    เป็นหมอก็ได้ว่ะ chapter 3 เริ่มต้นวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัย

    วันแรกในรั้วมหาวิทยาลัย อย่าลืมติดตามกันนะครับ เป็นหมอก็ได้ว่ะ chapter 3

    ผู้เข้าชมรวม

    44

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    44

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 เม.ย. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Chapter 3 เริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาลัย
     
     
    สี่ทุ่มกว่า ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ปั๊งๆปั๊งๆๆปั๊งๆๆๆๆ
     
    บอย:-ใครเคาะห้องว่ะ (ซึ่งจริงๆก็เหลือไอ้เม้งคนเดียวละที่อยู่ห้องเดียวกับผม) แม่งชิลีแผ่นติดไหวหรือไงว่ะ
    แม่งกี่ริเตอร์กันว่ะ เอ้อๆใจเย็นกูกำลังไปเปิดไอ้เม้ง ห่าของขึ้นอะไรว่ะ พรุ่งนี้วันปฐนนิเทศน์วันแรกด้วย แม่งอุตสาห์รีบนอน กลัวไม่ทัน มีอะไรเชี่ยะเม้ง
     
     
    พอเปิดประตูมาก็พบไอ้เม้งอยู่ในชุดหล่อเต็มยศเหมือนตอนกลางวันที่เดินพารากอนกับสยามเลย
     
    บอย:- เอ้าเม้งทำไมมึงยังไม่อาบน้ำนอนอีกว่ะ หรือห้องน้ำห้องมึงเสีย โทษว่ะกูลืมเช็ค แต่ถ้าเสียแม่บ้านน่าจะรายงานช่างให้มาซ่อมก่อนนะ
     
    เม้ง:- ห้องน้ำไม่ได้เสียหรอก กูนอนห้องมึงได้ไหม ถ้ามึงอึดอัดมึงก็นอนที่พื้นกูนอนเตียง มึงก็รู้ว่าหลังกูไม่ค่อยดี นอนพื้นแข็งไม่ได้
    แต่ถ้ามึงไม่เกรงใจกู กูอนุญาติให้มึงนอนเตียงมึงกับกูได้
     
    บอย:- ชั่วแล้วมึง เนี่ยะห้องของกูทำไมต้องเกรงใจมึงด้วยว่ะ มึงมีอะไรรีบๆพูดมากูจะนอน
     
    เม้ง:-กูพูดตรงๆเลยนะไอ้บอย กูไม่อายมึง กูกลัวผีว่ะ มึงจำได้ไหมตอนเด็กที่พี่มาร์คแกล้งขังกูในตู้เสื้อผ้า กูเลยกลัวนะ มืดๆกูไม่ชอบ แล้วเนี่ยะก็ไม่ใช่บ้านกู กูไม่ชิน ถ้ากูนอนกับมึงกูอนุญาติให้มึงปิดไฟนอนได้ เหลือแค่ไฟห้องน้ำ กูพูดจริงๆนะโว้ย กูเสียสละให้มึงแบบแมนๆเลย
     
    บอย:- ดีนะกูเป็นเพื่อนมึงตั้งแต่เกิด กูเลยทนมึงได้ เอ้าเข้ามา ถ้ากลัวก็ไปอาบน้ำห้องกูเร็วๆกูง่วง
     
    เม้ง:- สีหน้าดีใจ รีบกระโดดขึ้นเตียง กูนอนละกูง่วงมากเหนื่อยด้วยดูสาวๆตอนกลางวัน จนกูรู้สึกว่าหัวใจกูเต้นผิดจังหวะว่ะ
    เดี๋ยวก็ช้า เดี๋ยวก็เร็ว
     
    บอย:- สัด วินิจฉัยโรคได้เลยนะมึง มาเรียนหมอเป็นเพื่อนกูไหมมึง เก่งนัก เอ้าเชี่ยะกร่นซะแล้วมึง ซกมกจริงๆมึง
    เอ้านอนก็นอนว่ะ
     
     
    กริ่งๆๆ นาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดัง
    บอยค่อยๆ ลุกมาดูนาฬิกา
     
    บอย:- เชี่ยะหกโมงครึ่งแล้ว ไอ้เม้งมึงรีบย้ายตัวมึงไม่อาบน้ำห้องมึงเลย เดี๋ยวสายวันแรกเลยนะมึง
     
    เม้ง:- เจ็ดโมงปลุกกู คอนโดมึงเดินแค่สิบนาทีก็ถึงมหาลัยแล้ว มึงจะตื่นเต้นอะไรนักหนาว่ะ
     
    บอย:- แต่งตัวเรียบร้อยเสื้อเข้าในกางเกง ผูกไทด์ ติดเข็ดกลัดคณะ ไอ้เชี่ยะเม้งตื่นมึง กูไปแล้วนะ มึงจะลืมเอาการ์ดไปด้วยนะมึง
    เข้าคอนโดไม่ได้นะมึง กูไม่วิ่งมาเปิดให้มึงนะ กูอุ่นเวฟข้าวกล่องวางที่โต๊ะกินข้าว กินแล้วเก็บทิ้งด้วยนะมึง เดี๋ยวมากลิ่นคลุ้งห้องอีก
     
    เม้ง:- คร๊าบพี่บอย แม่งทำตัวโคตรเหมือนพี่มาร์คเลยมึง
     
    ....................................................................
    ห้องประชุมใหญ่คณะแพทย์
    ท่านคณบดีให้โอวาส:- ผมในนามของคณะแพทย์มียินดีที่พวกหมอทั้งหลายได้เข้ามาศึกษาในคณะแพทย์
    ผมและคณะหวังว่าพวกคุณหมอจะตั้งใจศึกษา เพื่อนำความรู้พื้นพื้นฐานในชั้น preclinical ( เน้นเรียนศึกษาเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานทางการแพทย์ เพื่อเตรียมไปต่อยอดในการดูแลรักษาผู้ป่วย) ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยในชั้น clinic ขอให้คุณหมอ( เป็นคำที่อาจารย์ preclinical หรือ staff อาจารย์หมอ เรียก นิสิต หรือ นักศึกษาแพทย์ เป็นการให้เกียรติ์ ซึ่งเด็กปีหนึ่งจะรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่ถูกเรียกว่า หมอ ) ทุกท่านประสบความสำเร็จในก้าวแรกของชีวิตความเป็นแพทย์ ..............
     
    หลังจากเสร็จพิธีขอให้น้องหมอปีหนึ่ง รอที่ห้องประชุมก่อน ทางคณะจะมีการแบ่งกลุ่มการเรียน
     
    เอ้าคุณหมอ ( เท่าที่ดูก็แก่กว่าเรานิดเดียว พี่ปีสองเริ่มแสดงออร่ากับน้องๆปีหนึ่ง)
    ต่อแถวเรียงตามส่วนสูง ผู้ชายต่อแถวผู้ชาย ส่วนผู้หญิงก็ต่อแถวผู้หญิงนะ ส่วนใครไม่มั่นใจขอต่อแถวตามชื่อนำหน้า
    พวกคุณก่อนแล้วกัน ( มันการให้คำแนะนำที่เคลียร์จริงๆ สมกับกับเป็นพี่ๆปีสอง)
     
    เอ้าเสร็จแล้วคุณหมอนับหนึ่งถึงเจ็ดนะ ใครได้หมายเลขอะไร ให้ไปยื่นตามจุดที่พี่ชูป้ายหมายเลขนะครับ
    ต่อไปเทอมหนึ่งเราจะแบ่งกลุ่มเรียนตามที่จัดวันนี้ ทุกคนอย่าลืมทำความรู้จักกันนะ หลังห้าโมงเย็นเชิญที่สโมรทุกคนด้วยนะ
    จะมีการจับพี่รหัส และ มอบตำราหนังสือให้ รับทราบกันทุกคนนะครับ
     
    เฟิร์ต:- ผมชื่อเฟิร์ตครับ ( แต่ตอนเช้าเห็นผู้ปกครองมึงเรียก เอก เอก อยู่เลย) ผมจบจากที่ รร .... ยินดีที่รู้ทุกคนครับ
    ผมบอยครับ  
    ผมเอ็กครับ 
    ผมปอร์เช่ครับเรียกสั่นว่าเช่ก็ได้ครับ เพราะบางครั้งการออกเสียงเปอร์เช่จริงๆ หาคนเรียกถูกต้องอยากครับ ( แม่งไอ้เชี่ยะ ไม่ใช่ไอ้เช่แม่งกวนแต่คาบแรกเลยโว้ย)
    ผมพุฒครับ จะเรียกว่าพุทธโธก็ได้นะครับ ผมเคยเป็นประธานชมรมพุทธที่ รร. ครับ
    ผมสแกนครับ ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ถามผมได้หมดนะครับ ยกเว้นเรื่องเรียนผมไม่รู้ครับ 555
    สวัสดีครับพี่ริว ผมเบริด์ครับพี่ พี่จำได้นะครับ
    ผมริวครับ ส่วนไอ้คุณเบริด์มึงมาเรียกกูพี่ แม่งเสียหายหมด
    ทุกคน พร้อมกัน "สวัสดีครับพี่ริว พวกผมฝากตัวด้วยนะพี่"
    เนี่ยเป็นจุดเริ่มต้นการเกิดกลุ่ม" แปดแสบ"อาจารย์หมอยังยอมส่ายหน้าเวลาที่ lecture พวกนี้ แสบที่สุดประจำคณะแพทย์ได้กำเนิดขึ้น
     
     
     
     
    17:00 น. 
    พวกหมอปีหนึ่งก็มารวมตัวที่หน้าห้องสโมร
     
    พี่ปีสองเดินมา ตอนหลังเราเรียกพี่ท่านนี้ว่า พี่พาร์กินสัน( โรคชนิดหนึ่งที่แสดงอาการด้วยอาการสั่น สั่นมากจนเขียนหนังสือ จับช้อนจับส้อมกับไม่ได้เลย) เพราะพี่ท่านแกล้งทำตัวสั่นเวลาเดินมาคุมรุ่นน้อง ถ้าชาวบ้านเห็นคงเรียกว่าอาการผีเข้าแน่ๆ
     
    ต่อไปนี้ผมจะประกาศชื่อพี่รหัสของพวกหมอ แล้วพวกหมอไปรับหนังสือกับโน๊ตย่อกับพี่เค้า
     
    บอย พี่รหัส คือ พี่ดอส
    เอ็ก  พี่รหัส คือพี่เชอรี่
    เฟิร์ต พี่รหัส คือ......
    .
    .
    .
    .
    .
    พุฒ:- กูว่าพี่แม่งผีเข้าว่ะ แม่งสั่นยังกับเจ้าเข้า กูอยู่ชมรมพุทธกูรู้ดี
     
    สแกน:- สัดกูว่าแม่งแกล้งแน่ บอกชื่อแล้วทำไมไม่เอาตัวมาด้วยว่ะ คณะแพทย์ไม่มีคนแค่คนสองคนนะโว้ย
    ( อันนี้ยอมรับไอ้สแกนมัน เจอกันไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถใช้สรรนามสมัยพ่อขุ่นได้ เหมือนมีความสนิกันมาเป็นสิบๆปี)
     
    บอย:- ผมอยากได้หนังสือ จะได้ไม่ต้องไม่ซื้อซ้ำ เก็บตังค์ไปซื้อตำราเรียนเล่มที่ไม่ซ้ำดีกว่า เสียดายตั๊งค์
     
    เฮียริว( ผู้มากประสบการณ์ ผ่านมาแล้วสามคณะ):- คือ เฮียไม่อยากออกความเห็น เฮียอยากให้พวกคุณรับรู้ด้วยตนเอง
    เฮียว่ามันเป็นประสบการณ์ที่มีค่า ครั้งเดียวในชีวิต สู้ๆนะพวกเรา
    ( แต่เฮียริวผ่านประสบการณ์แบบนี้มาสามครั้งแล้วนะครับ 555)
     
    พี่พาร์กินสัน น้องครับตำราเรียนนะ dead line วันนี้ก่อนสองทุ่มๆนะครับ เพราะเดี๋ยวรุ่นพี่ผู้หญิงบางคนต้องกลับไปพักที่บ้าน
    ถ้าใครหาไม่เจอ ( ตัวสั่นมากกว่าเดิม เสียงก็สั่นมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้ levodopa ( ยารักษาพาร์กินสัน) ลองรักษาแกจังอยากดูว่าแกจะหยุดสั่นไหม) พรุ่งนี้เจอกัน.....คำคมคำสุดท้าย ทำให้กับมาคิดว่า เจอกันทำไม ถ้าเดินผ่านแล้วเห็นพี่พาร์กินสัน เรียกว่า เจอกันไหม  หรือ เรียกว่าบังเอิญ หรือ ถ้าเจอกันแล้วเลี้ยงข้าวเหรอ อันนี้น่าคิด เลยได้คำคมกลับไปนอนคิด"พรุ่งนี้เจอกัน"
     
    เช่:-นั้นไงกวนเหมือนที่คุณเฟิร์ตบอกเลย ( เรียกคุณก็ตอนแรกเนี่ยแหละ หลังจากนั้น สัตว์จากสวนสัตว์ดุสิตมาเองเลยละครับท่าน)ผมนึกว่าคณะแพทย์จะไม่มีระบบแบบนี้นะ ผมไม่ปลื้มเลย เอ้าเอ้ย!!!ทุ่มครึ่งแล้ว พี่พาร์กินสันถ่วงเวลาแน่ๆรีบเถอะพวกเรา
     
    บอย:- กดโทรศัพท์ เม้งวันนี้กูกลับดึกนะ ถ้ามึงง่วงมึงนอนเตียงกูเลยกูอนุญาติ แต่มึงต้องอาบน้ำก่อนนะโว้ย อย่าโสโครก
     
    เอ็ก:- โทรหาใครเหรอบอย
     
    บอย:-เมทนะ พ่อแม่ส่งมา 555
     
    และแล้วจนถึงเวลาสองทุ่ม ก็แทบจะนับหัวได้ว่าใครเจอพี่รหัสแล้วมั๊ง
     
     
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น