ฝิ่น...ใครว่ามีแต่โทษ - ฝิ่น...ใครว่ามีแต่โทษ นิยาย ฝิ่น...ใครว่ามีแต่โทษ : Dek-D.com - Writer

    ฝิ่น...ใครว่ามีแต่โทษ

    ฝิ่น...ด้านมืดของมันคือต้นกำเนิดราชายาเสพติดอย่างเฮโรอีน แต่ด้านสว่างของมันคือต้นกำเนิดราชายาระงับปวดอย่างมอร์ฟีน แต่ใครจะมาสนใจ แสงสว่างเล็กๆในความมืดมิดอันตรายที่ผู้คนเห็นจนชินตา

    ผู้เข้าชมรวม

    2,667

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.66K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มี.ค. 49 / 19:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ฝิ่น (Opium)

      ฝิ่นเป็นสารประกอบชนิดหนึ่ง ซึ่งได้จากยางของผลฝิ่น ในเนื้อฝิ่นมีสารเคมีผสมอยู่มากมาย ซึ่งประกอบด้วย โปรตีน เกลือแร่ ยางและกรดอินทรีย์เป็นอัลคาลอยด์ (Alkaloid) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ฝิ่นกลายเป็นสารเสพติดให้โทษที่ร้ายแรง แอลคะลอยด์ในฝิ่นแบ่งแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ

      ประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการมึนเมา และเป็นยาเสพติดให้โทษโดยตรง แอลคะลอยด์ประเภทนี้ทางเภสัชวิทยาถือว่า เป็นยาทำให้นอนหลับ (Hypnotic) แอลคะลอยด์ที่เป็นสารเสพติดซึ่งออกฤทธิ์ตัวสำคัญที่สุดในฝิ่น คือ มอร์ฟีน (Morphine)

      ประเภทที่ 2 ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหย่อนคลายตัว ซึ่งในทางเภสัชวิทยาถือว่า แอลคะลอยด์ในฝิ่นประเภทนี้ไม่เป็นสารเสพติด แต่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายหย่อนคลายตัว ซึ่งมีปาปาเวอร์รีน (Papaverine) เป็นตัวสำคัญ

      ฝิ่นเป็นพืชล้มลุกขึ้นในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 ฟุตขึ้นไป เป็นยาเสพติดที่เป็นต้นตอของยาเสพติดร้ายแรง เช่น มอร์ฟีน เฮโรอีน และโคเคอีน มีการลักลอบปลูกฝิ่นมากทางภาคเหนือของประเทศไทยบริเวณแนวพรมแดน ที่เรียกว่าสามเหลี่ยมทองคำ

      เนื้อฝิ่นได้มาจากยางของผลฝิ่นที่ถูกกรีดจะมีสีขาว เมื่อถูกอากาศจะมีสีคล้ำลง กลายเป็นยางเหนียวสีน้ำตาลไหม้ หรือดำ มีกลิ่นเหม็นเขียวและรสขม เรียกว่า ฝิ่นดิบ ส่วนฝิ่นที่มีการนำมาใช้เสพ เรียกว่า ฝิ่นสุก ได้มาจากการนำฝิ่นดิบไปต้มหรือเคี่ยวจนสุก

      ฤทธิ์ในทางเสพ :
      ฝิ่นออกฤทธิ์กดระบบประสาท มีอาการเสพติดทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีอาการขาดยาทางร่างกาย

      อาการผู้เสพ :
      จิตใจเลื่อนลอย ง่วง ซึม แก้วตาหรี่ พูดจาวกวน ความคิดเชื่องช้า ไม่รู้สึกหิว ชีพจรเต้นช้า

      โทษทางกฎหมาย :
      จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522


      (ที่มา http://www.oncb.go.th/document/p1-bykind01.htm )

      ไงล่ะ น่าเกลียดน่ากลัวตัวละบาทเชียวใช่ม่ะล่ะ ฝิ่นน่ะ

      แต่ขอโทษ ฝิ่นยังมีคุณค่าในการรักษาทางการแพทย์อยู่นะยะ

      เราเพิ่งอ่านเสราดารัล เลยปิ๊ง ตูข้านี่แหละ จะแก้ภาพลักษณ์ของฝิ่น(ให้ดีขึ้นนิดนึง)

      เราก็ทำการหาข้อมูลทางอินเตอร์เนต แต่ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้จะไปหอสมุด คนค้นฝิ่นกันเลยทีเดียว

      = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =>>> เริ่มเลยดีก่า

      ฝิ่นที่มีโทษเนี่ย มันคือพันธุ์ปาปาเวอร์ ซัมนิเฟอรัม( Papaver somniferum L.)ซึ่งคนส่วนใหญ่นำแอลคาลอยด์ไปใช้ในทางที่ผิด คือการนำไปทำเฮโรอีน แต่แหม มันยังมีสารแอลคาลอยด์ตัวอื่นที่มีคุณค่าทางการแพทย์อยู่มากนะคะ

      เช่น

      มอร์ฟีน
      ซึ่งถือได้ว่าเป็นราชาแห่งยาระงับปวด ยังไม่มีอะไรทดแทนได้ แม้ว่ามันจะเป้นยาเสพติด แต่มันก็ยังเป็นที่ต้องการทางการแพทย์

      ในสงคราม ต้องมีการผ่าตัดกันสดๆ ไม่มียาสลบ ไม่มียาชา แต่เราสามารถใช้มอร์ฟีนเพียง 10mg(มิลลิกรัม) ในการผ่าตัดสด และหลังจากการผ่าตัดแล้ว ยังมีการให้มอร์ฟีนเพื่อระงัยความเจ็บปวดอีกด้วย

      ปาปาเวอรีน

      มีประโยชน์ด้านการผ่อนคลายกล้ามเนื้อลำไส้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้เพื่อบำบัดรักษาอาการเสื่อสมรรถภาพทางเพศด้วย โดยใช้เป็นตัวยาในการทาบนผิวหนังองคชาต แม้ว่าจะมีประสิทธิผลจำกัดก็ตาม (แต่ธรรมชาตินะตัว)

      โคดีอีน

      ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นส่วนผสมในยาแก้ไอ้ ยาแก้อาการท้องร่วงทางเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetics)

      โคดีอีน เป็นโปร-ดรัก (prodrug) เพราะ เมตาโบไลต์ ที่ออกฤทธิ์เป็นยาบรรเทาปวดของมันคือมอร์ฟีน โคดีอีนมีความแรงน้อยกว่า มอร์ฟีน เพราะว่า โคดีอีน เพียง 10 % เท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นมอร์ฟีน และผลทำให้ติดยาก็น้อยกว่า มอร์ฟีน ด้วย

      ในทางทฤษฎีปริมาณ โคดีอีน ที่ให้โดยการรับประทานขนาด 200 มก. จะมีฤทธิ์บรรเทาปวดเท่ากับการรับประทานยามอร์ฟีน 30 มก. การเปลี่ยนโคดีอีนเป็นมอร์ฟีน เกิดขึ้นในตับโดย เอ็นไซม์ ซีวายพี2ดี6(CYP2D6)

      แต่ผลข้างเคียงของมันก้ยังมีอยู่ เช่นอาการคัน คลื่นเหียน อาเจียน เซื่องซึม ปากแห้ง ภาวะที่รูม่านตาตีบตัวเล็กกว่าปกติ ความดันต่ำขนาดเปลี่ยนอิริยาบถ ปัสสาวะน้อย และท้องผูก (ไมเยอจังฟร่ะ)

      โคดีอีนและโนสเคปเป็นตัวยาในยาระงับอาการไอ ส่วนมากเป้นยาแก้ไอน้ำเชื่อม โดยยาแก้ไอ้นี้ เป็นยาแก้ไอประเภทกดอาการไอ โดยยาจะไปออกฤทธิ์ที่สมอง ยับยั้งไม่ให้สมองสั่งการลงมา ความจริงแล้ว มันไม่มีประโยชน์ทางการรักษาหรอก กดประสาทไม่ให้ไอเนี่ย(อ้าว ไหนว่ามีประโยชน์ไงเจ้) (ก็ฟังต่อก่อนซิยะ) แต่มักจะใช้ร่วมกันยาแก้ไอละลายเสมหะ โดยยาและลายเสมหะก็จะออกฤทธิ์ของมันไป เจ้ายากดอาการไอก็ทำให้อาการไอลดลงไง (คุณๆรำคาญอ๊ะเปล่า เวลานอนๆแล้วเจือกไอแค่กๆทั้งคืนไม่ได้นอนอ่ะ ดั๊นรำคาญมั่กมาก)

      แต่ว่ายากดอาการไอเนี่ย ทานแล้วจะง่วงซึมนะจ๊ะ ควรให้แพทย์เป็นผู้สั่งดีกว่า

      เมล็ดฝิ่น

      ต๊าย มันมีประโยชน์ด้วยหรือคะคุณน้อง เสียงใครซักคนลอยมา มีเดะ ไม่มีชั้นจะพิมพ์ทำแต๊ะไร มาอ่านต่อ เมล็ดฝิ่นที่ไม่มีแอลคาลอยด์แล้วเนี่ย เค้าก็เอามาทำอาหารได้ ไม่ก็บีบน้ำมันออกมาใช้ซะ ส่วนกากที่เหลอื อย่าทิ้ง!!! เอาไปเลี้ยงสัตว์ต่อ เป็นไง อึ้งล่ะซิๆ

      แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป วิทยาศาสตร์มีความเจริญก้าวงหน้ามากขึ้น แล้วฝิ่นพันธุ์ใหม่ ผลงานอันยิ่งใหย่ของนักวิทยาศาสตร์สหประชาชาติ ผู้ซึ่งต้องการหาฝิ่นที่มาทดแทนฝิ่นพันธุ์ปาปาเวอร์ ซัมนิเฟอรัม ซึ่งให้มอร์ฟีนและสามารถทำไปผลิตเฮโรอีนได้

      (ขอโทษจริงๆที่ไม่สามารถหาชื่อของท่าผุนั้นมาได้)

      โดยฝิ่นพันธุ์ใหม่นี่คือ ฝิ่นพันธุ์ ปาปาเวอร์ เบรสทีเรตุม  ซึ่งแอลคาลอยด์ของมัน ไม่มีมอร์ฟีน ให้เพียงโคดีอีนและทีเบรนเท่านั้น

      ลักษณะที่แตกต่างจากฝิ่นธรรมดาคือ ดอกฝิ่นจะมี 6 กลีบ(มั้ง ถ้าจำไม่ผิด) แล้วก็ปลูกยากมากด้วยแหละ ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ มันชอบอุณหภูมิประมาณ 20องศาเซลเซียล(หรือเปล่าฟร่ะ จไม่ค่อยได้ ถ้าผิดก็โทษที) แล้วแปลงนึกก็ไม่ใช่ว่าปลูกปุ๊บ ขึ้นเต็มแปลงซะทีไหน แค่ขึ้นนิดๆหน่อยๆก็บุญแว้ว

      แต่ถึงจะมีฝิ่นที่ไม่มีมอร์ฟีน ก็ใช่ว่าจะสามารถลดปัญหาของยาเสพติดได้ ยาเสพติดจะหมดไป ถ้าไม่มีผู้เสพ เราก้คงต้องร่วมมือกันต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยปลอดยาเสพติด จะฝากความหวังทั้งหมดหรือยัดเยียดภาระทั้งหมดไปให้ใครคนหนึ่งมิได้หรอก ทุกคนก็คงต้องช่วยกัน คนละมือสองมือ แล้วทุกอย่งจะดีขึ้น เชื่อสิ 




      = = = = = = = = = = = = = = = = = = = >>>>ขอขอบคุณ

      เสราดารัล (โดยกิ่งฉัตร หาอ่านซะ มันส์มาก สนุกแล้วได้ความรู้)
      http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%99
      http://www.elib-online.com/doctors3/drug_cough01.html
      http://www.menhealth.pfizer.co.th/tip001.php?id_knowledge=11
      http://www.oncb.go.th/document/p1-bykind01.htm

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×