เรื่องเล่าจากพี่คนหนึ่ง - เรื่องเล่าจากพี่คนหนึ่ง นิยาย เรื่องเล่าจากพี่คนหนึ่ง : Dek-D.com - Writer

    เรื่องเล่าจากพี่คนหนึ่ง

    จากห้องฉุกเฉิน จากความเป็นความตายปลายนิ้วหมอ หมอดีก็มีมาก หมอเลวก็มีเยอะ เป็นหมอน่ะเหนื่อยขนาดไหนรู้มั้ย จากรุ่นพี่ที่เวบบอร์ดแห่งหนึ่ง ยัยนู๋alexเป็นหมอน่ะเสี่ยงขนาดไหนรู้มั้ยยะ

    ผู้เข้าชมรวม

    726

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    726

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.พ. 49 / 00:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      จากคุณพี่ rooney ณ ........ .com

      เรื่องมันมีอยู่ว่า เราไปโพสว่าเราทำงานดึก เพื่อทำงานทำเกรดเข้าโควต้า

      ไม่วิศวะก็แพทย์(ที่กำลังจะเปิด)

      แล้วท่านพี่rooney ก็เข้ามา จุดประกายให้เราเลย

      *****************************************************************

      น้องนู๋เล็กซ์..พี่ขอเตือนให้คิดดีๆนะจ๊ะ
      เพราะการเรียนแพทย์กับวิดวะเนี่ย..มันคนละเรื่องกันเลยนะน้อง
      ไม่ใช่ว่าเรียนเก่งแล้วจะเรียนได้ทุกอย่าง..ต้องดูด้วยว่าเราชอบอะไร
      เพราะมีคนที่สับสนในตัวเองแบบนี้ต้องเสียใจมาหลายคนแล้ว

      ถ้าน้องชอบวิชาคำนวณ..เลือกเรียนวิดวะไปเลย
      เพราะการเรียนแพทย์จะไม่มีวิชาคำนวณให้น้องเรียนอีกแล้ว ความรู้ในวิชาชีพนี้ส่วนใหญ่จะตายตัวอยู่แล้ว..คือน้องไม่ต้องคิดอะไรใหม่..แค่น้องทำความเข้าใจและจำให้ได้ก็พอ..

      การเรียนหมอเป็นเรื่องง่ายๆ..แค่น้องจำได้ น้องก็สอบผ่าน
      แต่สิ่งที่ยากคือ การนำความรู้ไปใช้กับผู้ป่วย มีเพื่อนพี่หลายคนที่พอขึ้นชั้นclinicแล้วไม่มีความสุข
       
      เพราะการไปเจอคนไข้จริงๆแล้วมันต้องใช้ความอดทนสูงมาก

      สมัยนี้ภาพของหมอในสายตาของคนทั่วไปมันแย่ลง..เราเป็นแค่ผู้ให้บริการเท่านั้น
      ถ้าเจอคนไข้ดีๆ..คุยกันรู้เรื่อง ทำตามที่เราแนะนำ ก็ดีไป


      แต่ถ้าเจอพวกเรื่องมาก คนไข้ขี้เมาคุยกันไม่รู้เรื่อง..ก็เซ็งไปเลย

      สรุปนะ..รักษาแล้วหาย ก็เสมอตัว..รักษาแล้วตาย มีสิทธิ์โดนฟ้อง

      ถ้าอยากเป็นหมอก็ต้องทำใจไว้ด้วยนะ..มีเพื่อนพี่ไม่อยากเสี่ยง ลาออกไปเป็นหมอskinหลายคนแล้ว..ขนาดพี่ยังคิดอยู่เลยเนี่ยว่า ตูคิดผิดหรือเปล่า..เสียเวลาเรียนมาตั้ง 6ปี แต่เหมือนเอาขาแหย่เข้าตารางไปแล้วข้างนึง..

      ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย ไม่ได้ขู่นะ..แต่อยากให้คิดดูให้ดี..น้องยังมีโอกาสเลือก..ถ้าเลือกผิดมันจะเศร้าไปทั้งชีวิตเลยนะน้อง
      แต่ข้อดีของการเรียนหมอก็มีนะน้อง..เดี๋ยวจะหาว่าพี่มองโลกในแง่ร้าย
      1.สอบติดหมอ..พ่อแม่ดีใจ..คุยอวดชาวบ้านได้ว่าลูกตูเก่ง(ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังมีค่านิยมแบบนี้กันอยู่รึเปล่า) แต่พี่ว่าไม่จริงหรอก ขนาดแม่พี่ยังมาเสียใจทีหลังเลย..ที่ลูกต้องลำบาก ไม่มีความสุขกับการเรียน เพราะเรียนในสิ่งที่ไม่รัก

      2.เป็นหมอรายได้(เหมือนจะ)ดี น้องคิดดูนะ ค่าเวร 900 บาท/8ชม(ถูกกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีกนะ) ตอนกลางคืนอยู่เวรทั้งคืน บางครั้งไม่ได้นอน ตอนกลางวันต้องออกOPD ตรวจคนไข้อีกทั้งวัน ห้ามง่วง ห้ามตรวจพลาด ห้ามขึ้นเสียงกับคนไข้ ถ้าไม่อยากดัง(เดี๋ยวได้ไปคุยกับสรยุทธ)

      3.หมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติ...อันนี้พี่ก็ไม่แน่ใจ..น้องคิดเอาเองละกัน
      ถ้านับข้อดีได้ 3ข้อแล้ว ก็เอาเลยจ๊ะน้อง ตั้งใจอ่านหนังสือ แล้วก็เลือกแพทย์เข้าไว้ ไม่ว่าจะโควต้าหรือเอ็นท์ รับรองได้เรียนหมอสมใจแน่..ขนาดพี่กามั่ว..ยังสอบติดเลย..ซวยจริงๆ

      ******************************************************************

      ขออภัยคุณพี่rooneyด้วย ที่พามาดังโดยไม่ได้บอกได้กล่าว

      จริงอยู่ที่ทุกวันนี้ศีลธรรมจรรยาของแพทย์หลายๆท่านกำลังแปรผกผันเงิน

      เงินยิ่งมาก ภาษาไทยในจิตใจยิ่งเลือน โดยเฉพาะคำว่า จรรยาบรรณ น่ะ

      เราไม่เถียงเลยนะ ไม่ได้แก้ตัวแทนใครด้วย ว่าหมอน่ะ ดีเลิศประเสริฐศรีจริงๆ

      แต่เราขอเถียง แทนหมอ สำหรับคนที่ดูถูกหมอ หมอที่ทำตัวแย่ๆน่ะ มีเยอะ แต่ส่วนที่ดีดีล่ะ ส่วนที่ทำงานลำบากลำบนอยู่หลังเขา รักษาเขาแล้วไม่ได้เงิน แต่ได้มิตรภาพแห่งความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกกลับมาแทน มิตรภาพที่น้อยคนนักจะมีและได้สัมผัส

      เคยดูโฆษณากาแฟยี่ห้อหนึ่งมั้ย เราดูแล้วน้ำตาซึม ยังมีคนที่มีไฟ มีอุดมการณ์อย่างนี้อยู่หรือ แพทย์พอ.สว.ที่บุกป่าฝ่าดงเพื่อไปรักษาชาวบ้านที่อยู่ห่างไกล ทำไมพวกเขาถึงได้เสียสละขนาดนั้น

      เอาเวลาไปทำคลินิกหาเงินไม่ดีกว่าหรือ

      แต่เราคิดว่า เพราะความเป็นหมอ ที่หล่อหลอมเขามากว่า 6 ปี ให้กลายเป็นหมอที่ดี มีคุณธรรม ทำให้พวกขาทำแบบนี้ได้ต่างหาก

      เคยดูภาพยนตร์เรื่องซาไกยูไนเต็ดมั้ย ที่หลายๆคนคิดว่ามันเหมือนกับ เส้าหลินซ็อกเกอร์อ่ะ เราดูแล้ว เสือ.กร้องไห้

      หลายคนอาจจะบอกว่า เอ็.งบ้าป่าวว่ะ หนังตลก ดูแล้วเสื.อกร้องไห้ เราร้อง เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะว่า เอาตั้งแต่ตอนแรกเลยนะ ที่หัวหน้าเผ่าเอาซองยาพระราชทานออกมาดู (เนื่องจากตอนนั้นเกิดโรคระบาดน่ะ) เขาได้ซองยานี่มาตอนลูกเขาป่วยตอนเด็กๆ ตอนนั้นมีแพทย์อาสามา เขาพาลูกไปทันเวลา

      แล้วตอนสุดท้ายที่เราดูแล้วร้องไห้ก็คือ ตอนที่หมอคนหนึ่งเค้าหาวิธีรักษาโรคระบาดนี้ แล้วก็สำเร็จด้วย เราดีใจแทนมั่กมาก ยิ่งตอนที่หมอสองคนนั่นบุกป่าไปเผื่อเอายานี้ไปรักษาพวกซาไกน่ะ เรายิ่งซึ้งเข้าไปใหญ่ ยิ่งตอนที่พวกซาไกกำลังไหว้ถ้วยพระราชทาน(ที่เข้าใจผิดว่าเป็นยาพระราชทาน ด้วยความหวังว่ามันจะช่วยพวกเขาได้เหมือนตอนโน้น) เราก็กลั้นไม่อยู่จริงๆ ใครจะว่าเราบ้าเราก็ยอม

      แต่ให้ตายเถอะ ยิ่งเราอ่านเรื่องเกิดเป็นหมอ เรายิ่งรู้เลยว่าเราต้องการจะเป็นอะไร จะทำอะไร และเพื่อใคร!!!!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×