โง่ไหม (สงสัยจริง) - โง่ไหม (สงสัยจริง) นิยาย โง่ไหม (สงสัยจริง) : Dek-D.com - Writer

    โง่ไหม (สงสัยจริง)

    โง่ไหม (สงสัยจริง) เป็นความสงสัยของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ฝังใจเธอมาตั้งแต่เด็ก อ่านแล้สช่วยตอบเธอด้วย

    ผู้เข้าชมรวม

    43

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    43

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 มี.ค. 65 / 20:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    โง่ไหม (สงสัยจริง ๆ)

    sds

    เรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เธอเก็บเอาความสงสัยว่า เธอ โง่ไหม เธอสงสัย จริง ๆ เธอได้เก็บความสงสัยนี้คู่มากับชีวิตเธอ และเธอก็ยังไม่ได้รับคำตอบ หลายคนที่เคยรู้จักเธอเมื่อครั้งก่อน อาจคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่โง่ ๆ คนหนึ่ง และอีกหลายคนก็อาจคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เธอคือเป็นผู้ด้อยโอกาส หรืออาจคิดว่าเป็นเธอคนไม่เต็มบาท สุดแต่ใครจะคิด ผู้หญิงคนนั้นคือเพียงดาว อ่านแล้วช่วยตอบเพียงดาวให้หายสงสัยด้วย

    เพียงดาว เป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวดำกว่าคนไทยทั่วไป เพียงดาวเป็นแม่ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่หนึ่ง ปีที่สาม และปีที่ห้า ของโรงเรียนเดียวกัน คนโตเรียนชั้นประถมปีที่ ห้าเป็นลูกศิษย์ในชั้นเรียนของครู จึงทำให้ครูได้รู้จักและสนิทกับเพียงดาว

    เพียงดาวเป็นคนเปิดเผย คุยสนุกทุกครั้งที่ได้เจอ เพียงดาวเล่าว่า เพียงดาวเกิดและเติบโตที่ในเมือง จากครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ เธอได้รู้จักกับสามีตอนที่สามีเป็นทหารเกณฑ์ สามีเกิดรักเพียงดาวจึงพาพ่อแม่ไปสู่ขอ แม่เธอรู้ว่าพ่อแม่สามีเป็นคนมีฐานะมีทรัพย์สมบัติ และที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง แม่จึงยกเพียงดาวให้แต่งงานกับสามี ตั้งแต่เพียงดาวอายุสิบเจ็ด

    หลังจากแต่งงาน เพียงดาวจึงตามสามีมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน พ่อแม่ของสามีให้เพียงดาวกับสามีสร้างบ้านอยู่ด้วยกันบนที่ดินที่พ่อแม่มอบให้ สามีจึงสร้างบ้านหลังเล็กที่ดูแล้วก็ดีกว่ากระต๊อบนิด ๆ เพียงดาวไม่เคยมีบ้านหรืออะไรที่เป็นของตัวเอง เพียงดาวจะรู้สึกดีกับทุกอย่างที่ได้รับและได้เป็นของตัวเอง เพียงดาวรักบ้านรักความสะอาด และความสวยงามจึงทำให้บ้านหลังเล็กของเพียงดาวน่าอยู่มากกว่าที่คิด

    เพียงดาวเริ่มรู้จัก และคิดได้ว่าสามีเป็นคนทำงานการอะไรก็ไม่ค่อยเป็น ทำไม่ได้ ทำอาชีพอะไรก็ไม่เหมาะ และยังมีนิสัยมุทะลุ แต่ส่วนดีก็คือสามีเป็นคนขยัน รักและเอาใจเพียงดาวมาก กว่าเพียงดาวจะรู้จักอะไร ๆ ที่เกี่ยวกับสามี เพียงดาวก็มีลูกคนแรกไปแล้ว

    “ไหน ๆ ก็มีลูกแล้วนี่ครู อยู่ต่อก็แล้วกัน แล้วลูกคนที่สองที่สามก็ตามมานี่ครู” เพียงดาวพูดไปหัวเราะไป เหมือนเพียงดาวไม่ได้รู้สึกอะไรกับชีวิต

    “แต่มีสิ่งหนึ่งครู ที่พ่อเด็กมันทำได้เหมือนชาวบ้าน” เพียงดาวพูดแล้วหัวเราะลงคอครูสงสัย แต่ไม่ทันได้ถามเพียงดาวก็ตอบออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เปิดเผย

    “ทำลูกยังไงคะครู ดูสิมันทำได้ตั้งสาม ต้องบังคับให้หมอทำหมันให้ ไม่อย่างนั้นโรงเรียนนี้ต้องเต็มไปด้วยลูกของดาว ครูมีได้แค่สอง ดาวมีถึงสามเห็นไหมล่ะครู ฝีมือพ่อมัน” เธอพูดแล้วหัวเราะลงคอ ครูก็ต้องหัวเราะไปด้วย

    “แล้วตอนนี้เขาทำงานอะไรหรือคะพี่ดาว” ครูเรียกเขาว่าพี่ดาวเพราะดูแล้วก็คงแก่กว่าครูหลายปี

    “งานชั้นสูงชั้นต่ำพ่อมันทำหมดค่ะ” ครูสงสัยกับคำพูดของเธอแต่ก็ไม่ต้องถามพี่ดาวคนอารมณ์ดีก็ตอบออกมาตามด้วยเสียงหัวเราะตามเคย

    “ขึ้นต้นมะพร้าว ขึ้นต้นหมาก ขึ้นต้นไม้ ได้หมดค่ะครู และก็ขุดบ่อขุดท่อ ขุดดิน หาบทรายได้ทุกอย่างที่ไม่ต้องใช้สมองคิด คืองานที่เหมาะกับเขา” ครูก็ต้องหัวเราะกับคำตอบของเพียงดาว

    “ว่างพ่อมันก็ลงคลองจับปลา หาผัก มีกินไม่ลำบากค่ะครู”

    เพียงดาวเป็นคนที่ไม่คิดมาก ยอมรับกับสิ่งที่ได้สิ่งที่มี สังเกตดูจากสีหน้าและแววตา เหมือนเธอจะมีความสุขกับทุกสิ่งของเธอ

    ตอนเช้าวันจันทร์ได้เจอเพียงดาว มาส่งลูกที่โรงเรียน ดูเพียงดาวเหมือนจะไม่ค่อยสบาย เมื่อเธอเห็นครูเธอก็เดินมาหาทันที

    “ไม่สบายหรือคะพี่ดาวดูท่าทางไม่ค่อยดี” ครูถามเพราะดูเพียงดาวตัวแข็ง ๆ ไป

    “สบายได้อย่างไรคะครู ดูที่หัวนี่สิคะ พ่อมันฟาดเปรี้ยงด้วยด้ามไม้กวาด สลบเหมือดไปครึ่งค่อนวัน ตื่นมาโดนเย็บไปสิบเข็ม” พูดอย่างแค้นใจ วันนี้อารมณ์เปลี่ยน

    “ดาวนั่งหันหลังให้ขณะที่ด่าพ่อมัน ดาวไม่ทันระวัง พูดแล้วดาวยังเจ็บใจด่ามันได้ไม่กี่คำเอง” ตั้งแต่รู้จักกันมาเพิ่งเห็นเพียงดาวโกรธเป็นครั้งแรก

    “ใครพาพี่ดาวหาหมอค่ะ” ครูถามอย่างสงสัย

    “พอพ่อมันเห็นดาวนิ่งไป มันก็ตกใจจับดาวแบกขึ้นบ่าไปขึ้นรถไปหาหมอเอง ตอนนี้มันก็ยังตกใจ ง้อดาวยอมให้ดาวด่าเท่าไหร่ก็ได้แต่อย่าโกรธมัน” เพียงดาวเล่าอย่างแค้นใจแต่ก็อดที่จะหัวเราะสามีไม่ได้

    “พี่ดาวยังมีอาการอะไรบ้างไหมคะ” ครูถามด้วยรู้สึกทั้งเป็นห่วงทั้งสงสาร

    “โอ๊ย คนอย่างดาวตายยาก ไม่เป็นไรหรอกค่ะครู”

    หลังจากนั้นก็มีหลายครั้งที่ครูรู้ข่าวว่าเพียงดาวสลบไปด้วยแรงเหวี่ยงของสามี ครูก็อดที่จะเตือนพี่ดาวไม่ได้

    “พี่ดาวก็ระวังตัวบ้างซี โดนบ่อยไม่ดีนะพี่”

    “ไม่เป็นไรค่ะครู ดาวรู้จักพ่อมันดี แต่ดาวก็เป็นคนทำให้เป็นเรื่องเองทุกที อย่างนี้ใครโง่กว่าคะครู” เมื่อครูถามถึงเพียงดาวก็ตอบด้วยคำถามย้อนกลับมาให้ได้หัวเราะได้ทุกที

    “ดาวโง่เองใช่ไหมค่ครู”

    “ไม่หรอก พี่ดาวไม่ได้หรอกค่ะ”

    “พี่ดาวทำไมพี่ไม่เขียนในสมุดของลูกที่ครูให้ไปด้วยค่ะ ลืมหรือเปล่า” ครูถามจากที่เพียงดาวไม่ได้เขียนความคิดเห็นในสมุดของลูกที่ครูให้ไปเหมือนคนอื่น ๆ

    “เอ้า..แสดงว่าครูยังไม่รู้ ดาวเขียนหนังสือได้ดาวก็ไม่โง่ซิคะครู” พูดแล้วหยุดหัวเราะ

    “อย่าว่าแต่เขียน อ่านยังไม่ได้เลย” พูดได้แค่นั้นเพียงดาวก็หัวเราะเหมือนตลกกับชีวิตตัวเอง

    “อ่านเขียนไม่ได้นี่โง่ไหมคะครู แต่ดาวว่า ดาวไม่โง่นะ” เพียงดาวพูดแล้วถามอย่างจริงจัง

    “เห็นพี่ดาวเก่งนี่ พูดเก่ง คุยเก่ง พี่ดาวไม่ใช่คนโง่หรอก ทำไมพี่ดาวอ่านหนังสือไม่ได้ค่ะ” ครูถามตามความรู้สึกต่อเพียงดาวจริง ๆ

    “ดาวไม่เคยได้ไปโรงเรียน ไม่ได้เรียนหนังสือแม้แต่วันเดียว พี่เลี้ยงแต่น้อง ที่ตามหลังมาเยอะแยะพ่อแม่ทำงานรับจ้างไม่ทำก็ไม่มีกิน” พี่ดาวตอบแบบสบายไม่มีความเศร้ากับชีวิตแม้แต่น้อย

    “พี่ดาวอยากอ่านได้เขียนได้ไหมคะ ครูสอนให้ อย่างพี่ดาวนี้ไม่กี่วันค่ะ รับรองอ่านเขียนได้แน่นอน” ครูอถามและเสนอตัวอย่างปรารถนาดีและมีความตั้งใจจริง

    “เอาซิคะครู ดาวอยากอ่านหนังสือได้มานานแล้ว จะได้ฉลาดกับเขาเสียที พ่อมันได้เรียนจบประถม แต่มันไม่มีเหลือเลยทั้งอ่านทั้งเขียน”

    “ตกลง พี่ดาวพร้อมพี่ดาวมาเลยนะคะ หรือจะไปที่บ้านครูก็ได้อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง วันหยุดก็ดีจะได้อ่านเยอะ อ่านได้เร็ว” ครูพูดเมื่อเห็นเพียงดาวมีความตั้งใจที่จะอ่านหนังสือได้ พี่ดาวรับปากยกมือไหว้ขอบคุณ

    หลายวันผ่านมา

    “ครูค่ะ ดาวยังหาเวลาไม่ได้เลยครู พ่อมันเรียกให้ช่วยงานไม่ว่างจริง ๆ ครูอย่าเปลี่ยนใจนะคะ” เพียงดาวพูดทั้งหัวเราะแล้วรับลูกกลับบ้าน

    “เมื่อวันอาทิตย์ตั้งใจจะไปบ้านครูพอดี พ่อมันเป็นลมชัก น่ากลัวมากค่ะครู แต่แป๊บเดียวมันก็หายลุกขึ้นไปต่อได้ ดาวเพิ่งรู้พ่อมันเป็นลมชักมาตั้งแต่เด็ก”

    “ถ้าแบบนั้นขึ้นปีนต้นไม้สูงไม่ได้นะ และก็หาปลาในคลองก็ไม่เหมาะด้วย” ครูก็พูดเตือนตามความรู้ที่มี

    “แต่ทุกอย่างมันคืออาชีพพ่อมันทั้งนั้นนะครู” เพียงดาวเหมือนจะคิดได้เลยไม่มีเสียงหัวเราะ

    หลังจากนั้นไม่กี่วันเกิดน้ำท่วมหนัก ผู้คนได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ครูทราบข่าวว่าบ้านของเพียงดาวโดนน้ำพัดพาหมด แต่ทุกคนในครอบครัวได้รับความช่วยเหลือปลอดภัย ทางหมู่บ้านได้จัดสร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัวของเพียงดาวพร้อมข้าวของที่จำเป็น

    หลังจากน้ำท่วมหนักครั้งนั้น ครูเห็นลูกของเพียงดาวเดินไปกลับโรงเรียนเอง ไม่มีเพียงดาวมารับลูกที่โรงเรียนเหมือนก่อน ครูรู้สึกเหมือนเหงา เมื่อไม่ได้เจอเพียงดาวหลายวัน ครูจึงถามลูกก็ได้รับคำตอบว่า แม่ไปทำงานให้พ่อดูแลลูก ๆ แม่ส่งเงินมาให้พ่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับทุกคน

    ครูจึงออกไปเยี่ยมบ้านเพียงดาว สภาพความเป็นอยู่ก็สกปรกขึ้น แต่ในบ้านมีของใช้ที่จำเป็นครบถ้วน สอบถามได้ความว่าแม่ให้เงินมาซื้อ อาเป็นคนไปหาซื้อให้ ลูกทุกคนมีเงินกินขนมและใช้จ่ายไม่ขัดข้อง

    สองปีผ่านไป ครูได้มีโอกาสพบกับเพียงดาวตอนที่เธอกลับมาเยี่ยมครอบครัว เธอดูปราดเปรียวขึ้นมาก แต่งตัวสวยทันสมัยสไตล์ฝรั่ง

    “พี่ดาวไม่คิดกลับมาหัดอ่านหัดเขียนแล้วหรือ” ครูถามล้อเล่นมากกว่า

    “ภาษาไทยไม่ทันแล้วครู ต้องเรียนภาษาอังกฤษจึงจะทัน” เพียงดาวตอบและหัวเราะตาม อารมณ์ดีเหมือนเดิม

    “ตอนนี้ได้ไปหลายคำ ฝรั่งมันสอนด้วย ให้เงินด้วยสบายไหมคะครู” ครูหัวเราะอย่างรู้ทัน

    เพียงดาวเล่าว่าเธอตัดสินใจหลังจากถูกน้ำท่วม ถ้าเธอยังปล่อยให้สามีหาเลี้ยงด้วยอาชีพปีนมะพร้าว ปีนต้นหมากหาปู หาปลาในคลอง เธอและลูกไปไม่รอดแน่ และวันหนึ่งเธอกับลูกคงไม่มีกิน เธอจึงตัดสินใจดั้นด้นไป เกาะสมุยโดยไม่มีเป้าหมาย คิดเพียงว่าให้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวต้องดีกว่านี้ เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยว คงมีงานให้เธอทำแน่ เมื่อไปถึงก็ไปหัดเป็นหมอนวดโดยที่นวดไม่เป็นเลย ไปนวดฝรั่งแถวชายหาด ฝรั่งถูกใจเขาให้เงินมาก เธอทำทุกวันก็มีรายได้ดีจึงส่งเงินกลับบ้าน ให้สามีสร้างบ้าน ให้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ บ้านเธอมีความสมบูรณ์ทุกอย่าง

    ต่อมาฝรั่งรับเลี้ยงเธอประจำให้เงินเดือนเธอมากพอที่จะสร้างสมบัติได้บ้าง

    “ครูคิดดูนะว่าดาวโง่ไหม ดาวหาเงินได้มาก แต่ไม่มีใครที่ดาวไว้ใจได้และใช้เงินเป็น โอนเข้าบัญชีพ่อมันก็เอาไปเล่นการพนัน โอนไปฝากกับแม่พี่ดาว แม่ก็เอาไปเล่นการพนันเหมือนกัน ลูกของดาวยังลำบากเหมือนเดิมมันเจ็บใจไหมคะครู” เพียงดาวรู้สึกแค้นใจจริง ๆ

    หลังจากนั้นเพียงดาวก็กลับไปทำงานต่อ เป็นเวลานานที่ครูไม่ได้เจอเพียงดาว และก็ไม่ได้รู้ข่าวคราวของเพียงดาวอีก รู้เพียงว่าสามีและลูกมีเงินใช้จ่ายกันอย่างฟุ่มเฟือย

    ผ่านมาอีกปีเพียงดาวกลับมาอีกครั้ง ครูได้เจอเพียงดาวพูดไทยคำอังกฤษคำ เพียงดาวเก่งจนครูอาย เพียงดาวเปลี่ยนไปมาก แต่ที่เหมือนเดิมคือ เพียงดาวคุยสนุกอารมณ์ดีและยังรักลูกรักสามี

    “พี่ดาวเป็นอย่างไรบ้าง” ถามได้นิดเดียว

    “สบายมากค่ะครู พ่อมันไม่ต้องทำอะไรแล้วให้เลี้ยงลูกอย่างเดียว ดาวส่งเงินมาให้ใช้”

    “เงินดีมีรายได้มากกว่าเดิมหรือพี่ดาว”

    “ดาวมาตกลงกับพ่อมัน ให้พ่อมันจดทะเบียนหย่าให้ดาว ฝรั่งรับดาวเป็นเมียตามกฎหมาย แต่ดาวต้องมีสถานะเป็นโสดเท่านั้น ตอนนี้ฝรั่งไม่รู้ว่าดาวมีทะเบียนสมรสอยู่” เพียงดาวพูดอย่างจริงจัง

    “ดาวตกลงกับฝรั่งไว้แล้ว เขาจ่ายเงินให้ดาวจำนวนหนึ่งก่อนจดทะเบียนสมรสกับเขา หลังจากนั้นเขาจะพาดาวไปอยู่ประเทศของเขา”

    “ดาวขอพาลูกไปด้วยสองคน ให้เขารับเป็นบุตรบุญธรรม และเขาต้องเลี้ยงดูดาวกับลูก ให้ลูกได้เรียนหนังสือที่เมืองนอกจนจบและได้ทำงานทุกคน เขาตกลงทุกอย่าง พี่จึงกลับมาเคลียร์กับพ่อมัน”

    “พ่อเด็ก ๆ ยอมหรือพี่ดาว” ครูถามจากนิสัยที่มุทะลุของเขาที่เคยรู้จากพี่ดาว

    “ต้องยอม ถ้าไม่ยอมดาวหยุดส่งเงินให้ ต้องหากิน หาใช้เอง ดาวก็จะไม่กลับมา”

    “ดาวตกลงกับเขา เงินที่ฝรั่งให้ครั้งแรก ดาวก็จะให้เขาไว้ใช้สุขสบายทั้งชีวิต ลูกคนโตจะอยู่ดูแลเขาดาวจะส่งเงินมาให้ลูกทุกเดือน”

    “จริง ๆ แล้วดาวก็สงสารเขาเป็นห่วงเขามาก แต่ถ้าดาวต้องทนอยู่พระสงสารเขา แล้วต้องอดอยากกันทั้งครอบครัว ดาวก็จำเป็นค่ะครู”

    “ดาวจัดการไปหย่าเสร็จแล้วดาวต้องไปเตรียมเอกสารของลูก เพราะเราจะไปด้วยกันสามคนแม่ลูกกับฝรั่งหนึ่งคน เขาจะจัดการทุกอย่างเองหมด”

    เพียงดาวก็กลับไปพร้อมกับลูกสองคนโดยทิ้งคนที่เป็นผู้ชายคนโตที่กำลังเรียนชั้นมัธยมปลายไว้ให้ดูแลสามี โดยที่เพียงดาวส่งเงินมาให้เข้าบัญชีของลูก สองคนพ่อลูกอยู่กันอย่างสบาย

    หลังจากนั้น ครูรู้เพียงข่าวของเพียงดาวจากลูกชายของเพียงดาว ว่าน้องผู้หญิงของเขาได้เป็นพยาบาลประจำอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองนั้น น้องชายคนเล็กเปิดกิจการเกี่ยวกับช่างยนต์ในเมืองนั้นเช่นกัน เพียงดาวยังคงทำงานด้วย ลูกชายและลูกสาวสองคนมีครอบครัวมีลูกอยู่ที่เมืองนอก เพียงดาวได้ส่งเงินมาให้เขาซื้อที่ดินไว้หลายร้อยไร่ และให้เขาทำกิจการที่ถนัด สามีเพียงดาวก็มีชีวิตที่สุขสบายตามสภาพของตน

    หลายปีผ่านไปเพียงดาวกลับมา ครูได้โอกาสเจอกับเพียงดาวอีกครั้ง

    “ครูค่ะ ดาวคิดถึงครูจัง ครูเป็นคนหนึ่งที่ดาวคุยด้วยสนุก ครูรับฟังเรื่องของดาวได้เสมอ ดาวอยู่เมืองนอก แต่ครูอยู่ในใจดาวตลอดค่ะ” เพียงดาวผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผิวดำ เธอเป็นผู้ใหญ่ที่ดูดี แต่งตัวสไตล์ฝรั่งที่เหลือความเป็นคนไทยน้อยมาก

    “ครูค่ะดาวยังอ่านยังเขียนภาษาไทยไม่ได้เหมือนเดิม”

    “แต่ดาวใช้ภาษาไทยเฉพาะตอนกลับมาเยี่ยมบ้าน และก็ใช้เพียงพูดกับฟังเท่านั้น แต่ตอนนี้ดาวอยู่เมืองนอก ดาวอ่านเขียนภาษาอังกฤษได้หมดเลยค่ะครู”

    “ดาวคงต้องอยู่เมืองนอกตลอดไปแล้วค่ะครู เพราะดาวอ่านเขียนภาษาไทยไม่ได้” เพียงดาวพูดจบตามด้วยเสียงหัวเราะดัง ๆ ตามแบบเพียงดาวคนเดิม

    “พี่ดาวหายสงสัยแล้วใช่ไหมคะ พี่ดาวโง่ไหม” เพียงดาวหัวเราะเหมือนเดิม แต่เสียงดังกว่าเดิม

    “พี่ดาวไม่ต้องอ่านต้องเขียนอีกแล้ว แต่อย่าลืมหาเวลามาหัวเราะที่เมืองไทยกันอีกนะพี่ดาว ครูไทยคิดถึงค่ะ”

    ครูกับเพียงดาวจบลงด้วยเสียงหัวเราะเสียงดังกว่าทุกครั้ง

    …………………………………………………………………

    อ่านแล้ว กดถูกใจ กดติดตาม นักเขียนด้วยเด้อ จะขยันหาเรื่องดีฝากเพื่อเป็นกำลังใจต่อกันค่ะ

    ฟ้าใหม่

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×