ตอนที่ 13 : 第六章 : ชีวิตข้า หน้าผา และผู้มีพระคุณ?
“อยู่นิ่งๆ”
“ปล่อยข้าลงไป”
“อยากตายอยู่ที่นี่หรืออย่างไร”
ซย่าเฉียวอี้ตะคอกด้วยความไม่พอใจ เขากระตุกบังเหียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างร้อนรน โชคดีมากที่อาชาตัวนี้ช่างยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ แม้ขาข้างหนึ่งจะถูกคมดาบบาด ไม่แม้แต่เจ้าม้าตัวนี้จะมิถอดใจด้วยความเจ็บปวด หากแต่ร่องรอยแผลนั่นกลับทำให้มันคึกคะนอง ฝีเท้ารวดเร็วขึ้นอีกด้วย
มิเสียแรงที่เขาอดทนปราบพยศมันนานถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ...เห็นทีต้องทูลขอฮ่องเต้ให้เพิ่มจำนวนอาชาพันธุ์ดีนี้ไว้ในแผ่นดินหลายๆ ตัวแล้ว!
“ข้ามิ...”
ฟึบ!
คำว่ากลัวยังมิทันออกจากปาก ลูกธนูแหลมคมก็พุ่งเฉียวปลายผมของนางไป วาจาที่เตรียมจะเอื้อนเอ่ยจึงกลายเป็นเพียงอากาศที่นางกลืนลงคอไปเท่านั้น หากมิใช่เพราะเขาบังคับให้เจ้าม้าตัวใหญ่นี่เลี้ยวหลบไปอีกทาง มีหวังธนูดอกเมื่อครู่คงจะปักที่ร่างเขาแล้ว
ดวงหน้าเล็กถึงได้เอี้ยวมองเล็กน้อย ม้าสี่ห้าตัวถูกควบคุมด้วยบุรุษน่ากลัวถือธนูตามพวกนางมาติดๆ หากแต่ระยะห่างของทั้งคู่ก็ห่างออกไปเรื่อยๆ เช่นกัน
นางเม้มปากอย่างขบคิด...
ลมกระโชกรุนแรง ต้นไม้ใหญ่สูงและทึบทุกที เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพานางเข้าในป่าลึก ส่วนพวกที่กำลังตามหลังมาก็เร่งเท้าอย่างมิย่อท้อเช่นกัน...แต่อย่างน้อยชายผู้นี้ก็มิได้คิดจะฆ่านาง...ล่ะมั้ง? คิดได้ดังนั้นศีรษะเล็กที่โอนเอนไปมาจึงหยุดลงที่แผ่นอกแข็งแรง ร่างอรชรที่แข็งทื่อเมื่อครู่ค่อยๆ โอนอ่อนผ่อนตามอย่างว่าง่าย ยามนี้ขอเพียงเขาพานางหนีอย่างปลอดภัยแล้วค่อยว่ากัน
ความเป็นความตายของนางอยู่ที่เขาแล้วนี่
ทว่านางคิดตกได้เพียงเท่านั้น มือหยาบกร้านก็กระตุกบังเหียนอาชาให้หยุดฝีเท้าลง เพียงจะหันไปถามว่าเหตุใดถึงได้หยุดกะทันหัน เบื้องหน้าก็ปรากฏเป็นหน้าผาสูงใหญ่ ป่าไม้รายล้อมไปทั่วจนแอบคิดว่าหากนางมาจบชีวิตที่นี่แม้แต่ศพก็ยากที่จะหาพบ!
หรือว่า...
“ลงไป”
ไม่รอคำตอบท่อนแขนที่พันธนาการนางเมื่อครู่ก็ออกแรงให้นางลงจากหลังม้า
แน่นอน...เรือนร่างเล็กไม่แม้แต่จะทันคว้าอันใดไว้ รวมไปถึงอาชาพันธุ์ยอดเยี่ยมนี่สูงเกือบพ้นศีรษะของนาง องค์หญิงแห่งหยวนโหย่วจึงได้ลงไปนั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เบื้องล่าง แววตาปรากฏความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งนัยน์ตาทั้งสองยังแดงๆ จวนจะร้องไห้ออกมารอมร่อ!
ซย่าเฉียวอี้เงียบไปชั่วอึดใจ...เมื่อครู่เขาเพียงออกแรง ‘เบาๆ’ เท่านั้น เหตุใดนางถึงได้ตกง่ายดายเช่นนี้เล่า บอกแล้วอย่างไรว่าผู้หญิงช่างอ่อนแอน่ารำคาญยิ่ง!
“ไปกับข้า” ท่อนแขนแข็งแกร่งฉุดร่างนางให้ลุกขึ้น
“ที่แท้...” น้ำเสียงคราวนี้จึงสั่นเครือเล็กน้อย “ที่แท้เจ้าก็ต้องการเอาชีวิตข้า”
“เหลวไหล!” หากข้าต้องการเอาชีวิตเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าเพื่ออันใด!
สตรีโง่งม! เขาทำได้เพียงสบถในใจ
“ลุกขึ้นมา อยากถูกธนูปลิดชีพหรืออย่างไร” น้ำเสียงขุ่นเคือง แฝงไปด้วยโทสะอยู่หลายส่วน
“หากข้าตกไปจากหน้าผา ชีวิตของข้าก็มิเหลือเช่นกัน”
เสวี่ยซุนเป่าจำใจลุกขึ้นยืนตามแรงดึงรั้น แม้ข้อเท้าจะปวดมิน้อยจากการที่ถูกเขา ‘ผลัก’ จนตกจากม้าตัวสูงใหญ่นางก็จำใจฝืนจนน้ำตาไหลเผาะ ร่างเล็กพยายามอย่างยิ่งที่ฝืนแรงเขา
...แล้วอย่างไรเล่า แรงสตรีหรือจะสู้บุรุษ
เสียงม้าหลายตัวดังเข้ามาทุกที ซย่าเฉียวอี้มองอีกฝ่ายที่ต่อต้านสุดความสามารถอย่างจนใจ เวลาเช่นนี้นางยังมีกะจิตกะใจร้องไห้อีกหรือ!
“กรี๊ดดด”
จู่ๆ ร่างของนางก็เบาหวือ ผืนดินเอนเอียงอย่างรวดเร็วจนท่อนแขนเล็กเอื้อมไปยึดเกาะคนตรงหน้าอย่างตกใจ ดวงตาที่เคลือบด้วยหยาดน้ำเอ่อทำให้นางมองเห็นภาพมิชัดเจนนัก
ธนูดอกหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาทางนี้พร้อมๆ กับร่างของนางกับเขาที่เบาโหวง
แม้หูจะอื้ออึงเพราะถูกลมตี...แต่ถึงกระนั้นนางยังได้ยินเสียงเขาร้องครางเบาๆ
เพราะเหตุใดกัน...
เวลาล่วงเลยผ่านไปที่ตั้งค่ายก็กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง กองกำลังทหารหลายนายวุ่นวายอยู่กับการ ‘เก็บกวาด’ ค่าย ทุกคนทราบดีว่ายามใดที่ศัตรูรู้ตำแหน่งการตั้งค่ายแล้ว ที่แห่งนั้นจึงไม่เหมาะต่อการพักพิงอีกต่อไป ยามนี้ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอจวิ้นอ๋องเพื่อรอรับคำสั่ง แต่ผ่านไปถึงสี่ชั่วยามแล้วก็มิเห็นวี่แววของเขา
จะเป็นไปได้อย่างไร...
ฝูจิ้งเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย เมื่อครู่เขากับท่านอ๋องตัดสินใจแยกกันไปคนละทาง ท่านอ๋องพาองค์หญิงสิบสองเข้าไปในป่าลึก ส่วนเขาก็ปกป้องสาวใช้ของนางและเป็นผู้นำการตัดสินใจแทนชั่วคราว ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปเนิ่นนานจนมืดค่ำ
“ท่านอ๋องมีวิทยายุทธ์สูงส่ง ท่านฝูอย่าได้กังวล”
ทหารนายหนึ่งทนไม่ไหวจึงโพล่งปากขึ้นมา ถึงแม้วาจาจะเอ่ยออกมาเช่นนั้นแต่ในใจล้วนกระหน่ำไปด้วยความกลัว หากเกิดอะไรกับท่านอ๋องขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ชีวิตของพวกเขาจะอยู่กันได้อย่างไร!
“ข้ารู้”
ฝูจิ้งตอบเบาๆ ก่อนจะปรายตามองเข้าไปภายในกระโจมเล็กๆ หลังหนึ่ง โชคดีนักที่เขาเข้าไปขัดขวางได้ทันเวลา มิเช่นนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าแม่นางผู้นั้นจะมีชีวิตรอดอยู่อีกหรือไม่ ถึงบาดแผลจะไม่อันตรายจนถึงชีวิตแต่หากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะทำให้ลุกลามจนถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน
เฮ้อ...ท่านอ๋อง ได้โปรดกลับมาเถิด!
“ท่านฝู...ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วขอรับ”
“อืม” แม้ปากจะตอบรับ แต่ก็มิมีวี่แววจะออกคำสั่ง
ทหารเห็นดังนั้นก็อดเตือนด้วยความประหม่ามิได้
“ท่านอ๋องเคยประกาศว่าคำสั่งของท่านเป็นใหญ่ที่สุดเมื่อท่านอ๋องไม่อยู่ ได้โปรดออกคำสั่งด้วย” เสียงสั่นๆ พร้อมทั้งร่างกำยำที่คุกเข่าลงกับพื้นทำให้ฝูจิ้งถอนหายใจ
“แบ่งทหารห้าสิบนายออกตามหาท่านอ๋องกับข้า ส่วนที่เหลือกลับวังไป๋หู่เดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเคร่งเครียดเงียบไปชั่วอึดใจ แววตาดูนิ่งสงบ “ดูแลแม่นางอู๋ให้ดี”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง”
ไปแล้วว ลงผาไปแล้ววว 555555
จะมุ้งมิ้งหน่อยดีมั้ยนะ ><
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ท่านอ๋องถูกยิงตอนตกหน้าผาด้วยรึเปล่าน่าเป็นห่วง รอลุ้นค่ะ ขอบคุณค่ะไรท์