คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โลกมันกลมนี่นะ
He talk
ณ ..ลานใต้ต้นไทรมีโต๊ะหินอ่อน ตั้งเป็นแถวๆ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และที่โต๊ะตัวหนึ่งมีหญิงสาว
นั่งตรงกันข้ามกับชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังทำหน้าตาลำบากใจ แต่ชายหนุ่มกลับทำหน้าตาเรียบเฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และชายหนุ่มที่ว่านั่นก็คือ ผมเอง และหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันกับผมก็คือเนย แฟนสาวของผมเอง เธอทำหน้าตาลำบากใจ ทำท่าเหมือนจะพูด แต่แล้วก็หยุด แล้วก็ทำท่าจะพูดอีกครั้ง จนผมอดไม่ได้ที่เธอเรียกผมมาในในนี้มีเรื่องอะไรกันแน่ ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยปากถาม เธอก็พูดขึ้นมาก่อน
“ เรา เลิกกันเถอะเลเวีย “ เธอส่งแววตาเสียใจมาให้ผม
และผมก็ได้แต่ยอมรับมัน แม้ว่าจะเสียดายเวลากว่าสามเดือนก็เถอะ
“ อืม โชคดีนะ “
เธอเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะเอ่ย ด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
“ โชคดี..... แค่เนี้ยเหรอ จะไม่รั้งเราไว้เลยเหรอ “
ผมยักไหล่ขึ้นทีหนึ่งก่อนจะตอบ
“ ก็ จะให้พูดว่าไงล่ะ ก็เนย ขอเลิกเรา แสดงว่าเนยไม่รักเราแล้ว ไม่ได้รักกันจะคบกันต่อทำไมล่ะ ”
เธอแสดงสีหน้าเจ็บปวด ก่อนจะเอ่ยมาว่า
“ ผิดแล้วเลเวีย คนที่ไม่ได้รักกันน่ะ ไม่ใช่เราหรอก “ และแล้วเธอ ก็เดินจากไป โดยไม่หันหน้ากลับมามองอีกเลย
ทันทีที่เธอเดินจากไป ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ตบไหล่ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆแล้วกอดคอ
“ไงวะเลเวีย น้องเนยเค้าว่าไงบ้างวะ “
คนที่เดินที่เดินมากอดคอ ผมแล้วพูดคนคนนี้ชื่อ ไท เป็นซี้ผมเอง
“ เลิกกันแล้ว “ ผมมองยอดไม้เพื่อหลบสายตา
แรงบีบที่ไหล่เบาๆ บ่งบอกว่าเพื่อนผมแสดงความเสียใจด้วย
“ แล้วรู้สึกเป็นไงบ้าง “
ผมยักไหล่ก่อนจะตอบ
“ ก็เซ็งนิดหน่อย “
ไททำหน้าเหมือนน้องเนยสักครู่ไม่มีผิด คือเลิกคิ้วก่อนจะขึ้นเสียงสูง
“ แค่นั้นเองเหรอวะ นั่นน่ะ น้องเนย ดาวคณะรัฐศาตร์ปีนี้นะเว้ย “
ผมเอามือปัดไหล่ก่อนจะตอบ
“ แล้วจะให้ทำไงวะ ขอทีเถอะว่ะ เลิกจับคู่ให้ข้าเสียที พอเลิกกันแล้ว คนที่เสียใจมันมีนะ “
พูดก็พูดเถอะ ทำไมก็ไม่รู้เพื่อนๆ ทั้งหลาย ถึงอยากจะให้ผมมีแฟนกันนักนะ ชอบมาจับคู่ให้ผมอยู่เรื่อย
ผมเองบอกแล้วว่าผมไม่ใช่เกย์ ไอ้พวกนี้ก็ไม่เชื่อ ยังพยายามหาแนะนำ ผู้หญิงให้ผมอยู่เรื่อย แล้วสุดท้ายก็เป็นแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ว่าทำไมผมไม่รู้สึกอะไรเลย กับผู้หญิงสวยๆ ผมไม่ใช่เกย์แน่นอน เพราะผมไม่รู้สึกอะไรเลยกับผู้ชายออกแนวรังเกียจด้วยซ้ำถ้าจะให้ผมไปซะละบาเฮ้ กับผู้ชายด้วยกัน
แต่ว่าผมก็ไม่ได้อะไรมากกมายกับผู้หญิง ตกลงผมเป็นอะไรล่ะเนี่ย
ไทส่ายหัวก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักใจ
“ ไม่ไหวเลยว่ะ กี่คนแล้ววะเนี่ย ถามจริงเถอะ แก เป็นเกย์รึเปล่าวะ “
ผมหลับตาลงเพื่อระงับอาการสั่นของขา
“ เฮ้ยไอ้ไท แกช่วยกระเถิบไปหน่อยได้มั้ย “
ไอ้หมอนั่นยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ ทำไมวะ “
ผมแสยะยิ้มไปให้มัน
“ใกล้ไปมันเตะไม่ถนัด “
ไทรีบกระเถิบรัศมีเท้าผมขขึ้นมาทันทีก่อนจะยิ้มแหยๆ
“ แหม แค่นี้ทำเป็นของขึ้น “
ผมยกนาฬิกาขึ้นดูก่อนจะเอ่ยกับเจ้าไท
“ เออๆ ว่าแต่ไอ้วิชาต่อไปเนี่ยเราต้องไปลงเรียน วิชา ภาษา C กับคณะอื่นใช่มั้ยวะ “
ไทเปิดสมุดประจำตัวของมันขึ้นดูก่อนจะตอบ
“ อืมๆ ใช่เราต้อง เรียนกับพวกเด็ก ไอทีน่ะ “ เจ้าหมอนั่น ยกนิ้วชี้กับนิ้วโป้งติดกันก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “ เฮ้ยข้าจะบอกอะไรดีๆให้ เด็กไอทีเนี่ย มีอยู่คนหนึ่งชื่อ แคร์ น่ารักสุดๆ “
“ จะจับคู่ให้ ข้าอีกเหรอไง “ผมเอ่ยยิ้มๆ
เจ้านั่นรีบส่ายนิ้วไปมาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ เปล่าซักหน่อย คนนี้ ข้าจองเฟ้ย “
ทำไมนะพบฟังไอ้ไทพูดจบทำไม หนังตาผม รู้สึกว่ามันกระตุกๆชอบกลแฮะ เหมือนจะเจออะไรซักอย่าง
ผมอดไม่ได้จริงๆนะที่จะคิดแบบนั้น เมื่อใกล้เวลาเราทั้งคู่ก็เดินขึ้นไปบนตึก ผมจับจองโต๊ะริมหน้าต่างส่วนไทก็นั่งข้างๆผม ก่อน เวลาเรียนราว15นาทีแบบนี้ ทำให้ยังไม่มีใครมา วิวข้างหน้าต่างชวนให้เพลิดเพลินใจ มันชวยให้ใจลอย ทำให้ผมนึกถึงเรื่องเมื่อคืน มือของผมเลื่อนไปที่ปากความรู้สึกเมื่อคืนยังหลงเหลืออยู่
และแน่นอน ที่....ตรงนั้นด้วย
ไทที่วางมือจากเกมส์ในมือถือ หันมามองผมก่อนจะเอ่ยปาก
“ เลเวีย แกไหวเปล่าเนี่ย “ ไทมองหน้าผมแล้วทำหน้าแปลกๆ
“ ทำไมวะ “ ผมหันมามองมัน
“ ก็เห็น แกยิ้ม แล้วซักพัก แกก็ทำหน้าบึ้ง อากาศก็ไม่ร้อนสักหน่อย “
ผมยักไหล่ก่อนจะตอบ“ ข้าแค่นึกถึงเรื่องเมื่อคืน เท่านั้นเอง “
ว่าแต่...นึกถึงแล้ว ยังเจ็บไม่หายเลยอย่าให้เจออีกนะ ยัยทอมบ้าเอ๊ย!!
ไทพยักหน้าก่อนจะพูด
“ คนที่แกเล่าให้ฟังน่ะเหรอ “
มานั่งๆนึกดูแล้วมันก็น่าโมโหนะ
“ ใช่ คนมันไม่ได้ตั้งใจ ซักหน่อย “ จริงๆแล้วก็ไม่เชิงจูบสักหน่อย แค่ปากชนกันแค่นั้นเอง
“ ข้าว่า คงไม่ได้ เจอกันอีกแล้วล่ะ “
“ ก็ขอให้จริงอย่างปากแกก็แล้วกัน “ผมหันไปมองนอกหน้าต่างต่อ
“ ถ้าเจอกันนะ พวกแกคงเป็นเนื้อคู่กันแล้วล่ะ “ไทพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“ อย่าพูดอะไร แปลกๆได้ป่ะ ขนลุกว่ะ จะไปเจอเจอกันได้ไง โลกมันไม่กลมขนาดนั้นหรอก “
ผมอดไม่ได้ที่จะลูบแขนตัวเอง
……………………………………………..
She talk
ฉึก !! ตรงนี้เป็นลูกตา
ฉึก ตรงนั้นเป็นม้าม
ฉึก ส่วนตรงนี้เป็นไส้ติ่ง
อย่าเข้าใจผิดว่า คุณเข้าไปอ่านเรื่องนิยาย ฆาตกรรมอำพรางรึเปล่า
ไม่ใช่หรอกคุณกำลังอ่านเรื่องเดิมนั่นล่ะเพียงแต่ว่า ตอนนี้ฉันกำลัง เอาส้อมจิ้มหมูทอดที่อยู่ตรงหน้า อย่างตั้งใจเหมือนมีความแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน โดยจินตนาการว่าเป็นหมอนั่น บังอาจจูบฉันงั้นเรอะ นี่แนะ นี่แนะ เอาให้พรุนซะเลยตอนนี้ เรากำลังอยู่ที่โรงอาหารใต้ตึกเรียนที่มหาลัย ฉันกับเพื่อนเรามากินข้าวฆ่าเวลา
“ เอ่อ....หมูมันไปทำอะไร ให้ เว รึเปล่าจ๊ะ “
หญิงสาวท่าทางบอบบางอมโรคน่าตาน่ารักสุดๆคนนี้คือซี้ฉันเอง เธอมีผิวบอบบางราวกับจะมองทะลุได้ ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตา ผมหยักนิดนิดทำให้มองดูเหมือนเจ้าหญิงในนิทาน
“ เปล่าหรอก แต่ เรากำลังคิดว่า หมูทอดเป็นหน้าไอ้หมอนั่น “ ฉันกำลังจินตนาการว่าทุกส่วนที่ถูกแทงคือหมอนั่น
“ คนเมื่อคืนที่ เวเล่าให้ฟังน่ะเหรอ “
“ ใช่ “ ว่าแล้วก็จิ้มต่อ
“ เท่าที่ฟังมาเขาก็ไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่เหรอจ๊ะ “คนขางตัวฉันเอียงอมมองด้วยความสงสัย
“ ตั้งใจหรือไม่ตั้ง ก็ไม่รู้ล่ะ แต่ว่าเราโกรธ และโมโหมากเลย “ โอเคหึๆ เท่านี้หมอนั่นก็ไส้ทะลักแล้ว หึๆ
ใบหน้าน่ารักอมยิ้มก่อนจะตอบ
“ จ้า แต่เราคิดนะว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ “
“ ก็ขอให้มันเป็นจริงก็แล้วกัน ไม่งั้นเราจะเอาไอ้ส้อมนี่เข้าไปอยู่ในพุงไอ้หมอนั่นให้ได้เลย คอยดูสิ “
“ จ้า จ้า แม่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น แอบแรงนะเนี่ย “
เธอหัวเราะเล็กๆ แอบเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบเล็กน้อย
“ วันนี้ เราต้องไปเรียนรวม กับพวก เด็กคอมฯ ใช่มั้ย “
“ ใช่จ๊ะ ว่าแต่ใกล้เวลาแล้วนี่ “ เธอ ยกข้อมือบอบบางขึ้นดูเวลา
ฉันเก็บข้าวของบนโต๊ะก่อนจะเอ่ย
“ งั้นเราไปกันเถอะ.... แคร์ “
.............................................
ฮืมๆ
ฉันฮำเพลงอย่างอารมณ์ดี เมื่อจะได้เรียนวิขาที่ฉันอยากเรียนอย่าง วิชานี้
แต่เอ๊ะ ทำไมหนังตามันกระตุกๆ หว่า รู้สึกทะแม่งๆ ยังไงก็ไม่รู้ เอาเถอะไม่มีอะไรหรอกมั้ง
“ เป็นอะไร ไปจ๊ะ เว “ แคร์ถามฉัน เมื่อ เห็นฉันเอามือลูบหนังตา
“ ไม่มีอะไรหรอก แค่หนังตามันกระตุกน่ะ “
“ เหรอจ๊ะ... “ เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะ ดูนาฬิกา
“ แย่แล้ว เว นาฬิกาเรา ตายล่ะ “
“ เฮ้ย จริงสิ งั้นตอนนี้กี่โมงแล้วเนี่ย “
เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะเอ่ย
“ หวาย เราสายเกือบยี่สิบนาทีแล้วล่ะ “
เรามองหน้ากันก่อนจะรับรู้ ว่า วิ่ง!! อาจารย์คนนี้น่ะเฮียบมากเลย ใครสายเกินกว่ายี่สิบนาทีจะเช็กชื่อขาดด้วยล่ะ ทันที่เราไปถึงเราก็อยู่ ในสภาพ หอบจนตัวโยน
ครืด....ฉันเลื่อนประตูเปิดออกมา ก่อนจะเอ่ย
“ ขอโทษ ฮะ ขออนุญาติ เข้าห้องฮะ “
อาจารย์ มองด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าให้เข้ามา
เราเลื่อกที่นั่งหลังห้องใกล้หน้าต่างที่ว่างอยู่ มีผู้ชายสองคน คนหนึ่งนั่งริมหน้าต่างกำลังหันหน้าออกไปเลยทำให้เห็นไม่เห็นหน้า ส่วนอีกคนเนี่ย เผ่าหูดำชัดๆ ดูหน้าก็รู้แล้ว เราเลือกที่นั่งที่เว้นห่างสองคนนั่นหนึ่งโต๊ะ
“ เอาล่ะ ที่ให้แบ่งกลุ่มทำงานเรียบร้อยหรือยัง “ อาจารย์ ถามทุกคนในห้องก่อนจะดู กระดาษที่ส่งรายชื่อมา
“ นายเลเวีย นาย เมคิน ทำไมกลุ่มของเธอ ถึงได้มีสองคนล่ะ “ อาจารย์เอ่ยถามผู้ชายสองคนข้างๆเรา
“ เอ่อ...คือผมกะว่าจะรอเพื่อนน่ะครับ “
คนหนึ่งในสองนั้นเป็นคนตอบ แต่เอ๊ะทำไม เลเวียเนี่ยชื่อคุ้นๆแฮะ
“ ไม่ต้องรอ นายเมคิน ใครไม่มาก็ให้หากลุ่มใหม่เอา เธอสองคนน่ะ ยังไม่มีกลุ่มใช่ไหม
อยู่กับสองคนนั้นก็แล้วกัน“อาจารย์ชี้มาทางพวกฉัน
“ ค่ะ “ แคร์ตอบรับอาจารย์
นาย คนที่ตอบ หันมายิ้มให้เรา ก่อนสะกิด เพื่อนให้หันมาทางเรา
พอนายคนที่หันไปนอกหน้าต่างหันมา ก็พบว่าเขาคือ
“ นาย / เธอ!! “
“ นาย เกย์ โรคจิต “
“ ยัยทอม อกตัญญู เธอว่าใครโรคจิต “
“ ก็นายนั่นล่ะ แล้วอีกอย่างฉันไปอกตัญญู ตอนไหนฮะ “
“ ชั้นช่วยเธอไว้นะ แต่กลับ......”
“ สมควรแล้ว “
“ ฉันไม่ได้อยาก จูบเธอซักหน่อย ฝันร้ายชัดๆ “
“ ฉันต่างหากที่ฝันร้าย “
เพื่อนนายนั่นและเพื่อนฉัน มองเราสองคนสลับกันไปมาก่อนจะเอ่ย
“ นี่เธอ / นาย รู้จักกันเหรอ “
“ ใครอยากจะไปรู้จัก โรคจิตแบบนี้ “ ( ฉันเอง )
“ พูดให้ดีๆนะ ใครโรคจิต จูบเธอ เนี่ย เอาปากไปชนตอไม้ยังจะดีกว่า “ ( หมอนั่น )
อ๊าค!!หยาม อย่างแรง ทำไมฉันต้องมาเจอไอ้หมอนี่ด้วยนะ
“ นายจะมากไปแล้วนะ “
“ น้อยไปด้วยซ้ำ “
แต่แล้วเสียงตบโต๊ะที่ดังขึ้นมา ก็ดังขึ้นทำให้เราทั้งคู่ต้องหันไปดู
“ นี่!!! คุณสองคนน่ะ จะเรียนมั้ยวิชานี้น่ะ ถ้าไม่เรียน เชิญ “
อาจารย์ เอ่ยพร้อมกับสีหน้าที่บึ้งตึง ทำให้เราทั้งตู่ต้อง หยุดเถียงกันชั่วคราว
ฮึ่มๆ ทำไมนะฉันต้องมาเจอ ไอ้หมอนี่ด้วยนะ อ๊าคเจ็บใจจริงๆเลย
ทันทีที่เลิกเรียนเสร็จเราทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องเรียน แคร์ที่แทบจะวิ่งตามฉัน
ตามมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ
“ รีบอะไร ขนาดนั้นจ๊ะ “
“ ไม่อยากเป็นฆาตกร ขืนอยู่นานๆ เราได้แทงไอ้บ้านั่น แน่ “
“ จ้า แม่คุณโหด “ เธอหัวเราะ
“ ผู้ชายอะไร ปากเสียที่สุด “ หนอยเอา ปากไปชนตอไม้ยังจะดีซะกว่าเรอะ
เกิดมาไม่เคยโดนหยามเท่านี้เลยนะ
“ แต่ว่า....เค้าน่ารักดีนะ ชื่อเลเวียใช่ไหม “
“ เอ๋ ...เมื่อกี้แคร์ว่าอะไรนะ “
“ ป...ปะ...เปล่า มะ..ม..ไม่มีอะไรหรอก “
เธอตอบกลับมาด้วย สีหน้าที่แดงจัด คุณพระคุณเจ้า อย่าให้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลย
ฉันไม่อยากได้เพื่อนเขย อย่างหมอนี่หรอกนะ
.............................................................
ความคิดเห็น