คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2..
ลำคอแหบแห้ง สติพร่ามัว รู้สึกถึงสัมผัสเย็นเยียบและขรุขระของไม้อยู่ใต้ร่าง
เขาลืมตาอีกครั้งเพราะเสียงเรียกของลู่หาน และจงแด
"มินซอก นายเป็นอะไรรึเปล่า" ร่างโปร่งช่วยพยุงเขาขึ้นมานั่ง ใบหน้าหวานดูตื่นตระหนก คนถูกถามมองไปรอบๆก่อนจะพบว่าเขายังอยู่ในบ้านร้างสยองขวัญหลังเดิม
ถึงอากาศจะเย็นเยียบ แต่ก็รู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นมาตามใบหน้าและร่างกาย
"ฮยองเอาน้ำมั้ยครับ" จงแดที่อยู่ข้างๆยื่นน้ำมาให้ เขายกขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น เขาฝันไปเหรอ? เด็กหนุ่มที่ชื่อโอเซฮุนคนนั้น...
"นายเป็นไงบ้าง" ลู่หานจับไหล่เขาไว้ถามด้วยสีหน้ากังวล
"ง่วงนิดหน่อย" พูดเสร็จไม่ทันไร ลู่หานก็เอามือเขกหัวมินซอกอย่างจัง คนที่โดนก็ได้แต่ยกมือลูบหัวอย่างไม่เข้าใจ
"หมายถึงบาดเจ็บรึเปล่าเฟ้ย! แต่ถ้าตอบได้อย่างนี้คงจะสบายดีแหละ" หลังจากพลิกร่างคนตัวเล็กไปมาเพื่อดูว่าบาดเจ็บหรือเปล่า พอเห็นว่าปกติ เขาก็ช่วยฉุดมินซอกให้ลุกขึ้นยืน
"รีบออกจากที่นี่กันเถอะครับ" จงแดรีบเสนอขึ้น
ไม่ต้องพูดก็ทำแน่...
ทั้งสามรีบร้อนออกจากบ้านหลังนี้อย่างรวดเร็ว
รู้สึกได้ถึงกระแสอากาศที่อบอุ่นขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านประตู ระหว่างที่เขาเดินอย่างรวดเร็วจนเกือบจะเรียกว่าวิ่งอยู่บนถนนในซอยร้างมินซอกก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
"ซูเปอร์แมนของคริสล่ะ"
"ยังจะสนอีกเรอะ" สิ้นเสียงคนตัวเล็ก ใบหน้าหวานแยกเขี้ยวหันขวับมามองทันที
"อยู่กับผมครับ" ว่าแล้วจงแดก็เอาพวงกุญแจในมือขึ้นมาเขย่าโชว์
"อ้าว" เสียงร้องด้วยความสงสัยดังมาจากทั้งสองคน เขาโยนมันให้กับลู่หาน
"ผมเห็นมันวางอยู่ข้างๆตอนที่เราฟื้นน่ะ"น้ำเสียงที่ฟังดูไม่ปกติ คำตอบของจงแดทำเอาลู่หานเบิกตากว้างใบหน้าซีดเผือก
"พวกนายสองคนสลบไปด้วยเหรอ" คนตัวเล็กถามออกมาด้วยความสงสัย จงแดพยักหน้าให้กับคำถามของเขา แล้วเริ่มเล่า
"ตอนที่มินซอกฮยองตกลงไป ลู่หานฮยองก็แทบจะกระโดดตามลงไปเลย ผมเกือบจะห้ามไว้ไม่ทันแน่ะ ผมบอกให้ลองไปดูบันไดที่เราเจอตั้งเข้ามาเพราะฮยองตกลงไปข้างล่างใช่มั้ยล่ะ มันน่าจะมีบันไดที่พาเราไปข้างล่าง" จงแดเล่าเหตุการณ์ในช่วงที่เขาไม่อยู่ "พอเราจะก้าวลงบันได ก็สลบไปเลย"พอฟังมาถึงตรงนี้ มินซอกเหวอหนักว่าเดิม มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิด
"เป็นงั้นได้ไง" แต่จงแดทำได้แค่เพียงส่ายหน้า "ไม่รู้สิ มารู้สึกตัวอีกทีข้างๆมินซอกฮยองตรงหน้าบันไดนั่นแหละ"
ใบหน้ากลมทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่จงแดก็พยักหน้าจริงจังให้อีกครั้ง "ตอนตื่นขึ้นมา ผมก็เห็นมันวางอยู่ข้างๆ"
"ว่าแต่นายเหอะ ตกลงไปข้างล่างมาโผล่ชั้นบนได้ไง"ลู่หานถามออกมา
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" มินซอกเลือกที่จะปิดบังเรื่องที่เขาเจอมา อีกอย่างเขายังไม่แน่ใจว่านั้นเป็นความฝันหรือความจริงด้วยซ้ำ
"บ้านหลังนี้มันมีอะไรแปลกๆแน่ๆ" ลู่หานโพล่งขึ้นมา "ฉันจะไม่กลับไปเหยียบอีกเด็ดขาด"
สิ่งที่เขาพูดออกมา ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของอีกสองคนที่เหลือเช่นกัน
ตอนนี้เบื้องหน้าของพวกเขาทั้งสามคือหอพักนักศึกษา รอบตัวมืดเทา แต่ก็พอมีแสงไฟจากหลอดนีออนจากอาคารมาให้เห็นอยู่รำไร
"ผมอยู่หอสาม งั้นผมไปล่ะนะครับ" ว่าแล้วจงแดก็เดินจากไปทางอาคารอีกอาครหนึ่ง ไม่วายส่งเสียงบอกว่าอย่าลืมส่งซองผ้าป่า
"ลาก่อนอดีตอันขมขื่น ฉันจะกลับไปนอนยันเที่ยงเลย" ลู่หานพูดพลางยกมือขึ้นมาประสานไว้ที่ท้ายทอยด้วยท่าทางสบายๆ
ถึงเรื่องที่พวกเขาเจอจะชวนให้รู้สึกไม่ดี แต่ตอนนี้พวกเขาก็รอดออกมาได้แล้ว ร่างโปร่งเลือกที่จะ(พยายาม)ลืมเรื่องทั้งหมด แล้วทำใจให้สบายดีกว่า
"พรุ่งนี้นายมีเรียนเช้าไม่ใช่เรอะ" จบประโยค ใบหน้าสวยก็เดาะลิ้นออกมาอย่างขัดใจ
"ข้าวฟรีอาทิตย์นึงจ๋า ฉันมาแล้ววว" มินซอกก้าวขึ้นบันไดอย่างร่าเริง
"นายยังจะเห็นแก่กินอีกเรอะ" ขณะที่พูดลู่หานก็ยื่นมือมาดึงแก้มกลมทั้งสองของคนข้างๆ "อ้วนจนจะเป็นซาลาเปาอยู่แล้ว เปาจื่อเอ้ยยย"
"อ่อยอ่อนน อั้นเอ็บบบบ" คนตัวเล็กร้องโวยวายดิ้นไปมา
ใบหน้าสวยขยับยิ้มกว้างแล้วปล่อยมือออก คนถูกทำร้ายบ่นพึมพำพลางยกมือขึ้นมาลูบแก้มทั้งสองข้างของตนป้อยๆ
"วันนี้นายมานอนห้องพวกฉันมา"ลู่หานเสนอ
ห้องของพวกเขาสามคนอยู่คนล่ะห้องกันจาการเลือกห้องพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะแบ่งโดยดูจากคณะเป็นหลัก คริสและลู่หานที่อยู่คณะนิเทศน์ฯเหมือนกันได้ห้องริมสุดฝั่งขวาขวาชั้นสี่ ส่วนมินซอกมี่อยูคณะสถาปัตย์ฯได้ริมสุดฝั่งซ้ายของชั้นเดียวกัน อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่ไกลกันมาก
เพราะมีการสุ่มทุกห้องครบแล้ว เศษอย่างเขาเลยเลยต้องระเห็จมานอนคนเดียว ทั้งๆที่ห้องมีสองเตียง ถึงผลการแบ่งห้องนอนจะทำให้ทั้งสามคนรู้สึกไม่พอใจอยู่ไม่น้อย แต่มหาลัยก็ไม่ได้มาเช็คชื่อพวกเขา ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วมินซอกจะมานอนรวมกับลู่หานและคริส
"อืม ก็ดีเหมือนกัน" เสียงตอบรับของมินซอกทำให้ร่างโปร่งพยักหน้าแล้วเดินเลี้ยวไปทางขวาพอมาถึงหน้าห้องนอนมินซอก
"รีบๆมาล่ะ ฉันจะไม่ล็อคประตูไว้"ลู่หานชกไหล่เขาเบาๆแล้วเดินไป ห้องของทั้งสองคนนั้นอยู่ตรงสุดทางเดิน
มินซอกไขกุญแจห้องเข้าไป ห้องของเขามีการจัดวางของเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบที่ว่าร้อยทั้งร้อยคนมาเห็นต้องไม่เชื่อว่าเป็นห้องของผู้ชายที่อยู่คนเดียว
เขาทิ้งตัวลงบนเตียงซึ่งอยู่ฝั่งขวาของห้องสักพักหนึ่งหวังเพื่อคลายความอ่อนล้า เนื่องจากเป็นห้องนอนคู่ แต่ก็มีเขาอยู่คนเดียว อีกเตียงที่อยู่ฝั่งซ้ายจึงถูกคลุมผ้าไว้อย่างเรียบร้อย
มินซอกกดมือลงบนกระบอกตาของตัวเองที่รู้สึกปวดตุบ แล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น
"เด็กที่ชื่อโอเซฮุนคนนั้น..." เขาขมวดคิ้ว รู้สึกมีบางอย่างที่รบกวนใจเขาอยู่
"เรียกผมเหรอครับ" เสียงทุ้มดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่ง ทำเอาเจ้าของใบหน้ากลมเบิกตากว้าง
"นายมาได้ไง" เขาผงะถอยกรูดชิดกำแพงด้วยความเร็วระดับแมลงสาบวิ่งเข้าใส่อาหาร เซฮุนนั่งอยู่บนเตียงตรงข้ามเขา เมื่อกี้นี้...ยังไม่มีใครอยูแท้ๆ
"มาได้ยังไงน่ะเหรอครับ" เซฮุนลุกขึ้น เดินมาทางเตียงของคนตัวเล็ก เขาปีนขึ้นมาคุกเข่าบนเตียง แล้วใช้มือยันกำแพงไว้ โดยมีมินซอกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากมินซอกเพียงแค่อากาศไหลผ่านเล็กน้อย
"มากับคุณไงครับ" แล้วเขาก็ยิ้มออกมาน้อยๆ
เม็ดเหงื่อไหลออกตามใบหน้า ความหวาดกลัวเริ่มเข้าครอบคลุมจิตใจ มินซอกรู้สึกใจตนเองเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา มีสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้เขามั่นใจแน่ๆ คือ...
โอเซฮุนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์
"เอ่อ นายต้องการอะไร" เสียงสั่นดังออกมาจากปากเล็ก "บุญเหรอเดี๋ยวฉันจะอุทิศส่วนกุศล ก..กรวดน้ำ ผะ..ผ้าป่าด้วยเลยเอ้า!" เขาเบนหน้าหลบใบหน้าคมที่อยู่ตรงหน้าแล้วหลับตาปี๋
"อุ้บ..ฮ่าๆๆๆๆ" คนตรงหน้าพ่นหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วก็ทิ้งตัวลงไปหัวเราะต่อบนเตียง มินซอกทำตัวไม่ถูกที่เห็นอย่างนั้น เขาค่อยๆปีนลงจากเตียงแล้วลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตู
แม่งเอ้ยยยย เปิดไม่ออก
...เพราะเด็กนี่แน่ๆ เขาหันไปมองตัวการซึ่งนั่งอยู่บนเตียงกำลังเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเนื่องจากการหัวเราะมากเกินไป
"ฮยองเป็นคนตลกจัง" เขาใช้นิ้วชี้ปาดน้ำตาออก พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
"ขอบคุณน้ะ" ดีใจจังเล้ยยยยยยยยย มินซอกยืนหลังแนบกับประตูแล้วถามขึ้น "นายต้องการอะไร"
หลังจากนิ่งไปพักหนึ่ง เซฮุนจึงค่อยๆเอ่ยออกมา"ผมต้องการให้คุณช่วย"ใบหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงจริงจัง
"อ...อะไรล่ะ" เขาพยายามควบคุมเสียงให้ปกติ มินซอกรู้สึกว่ามันไม่ใช่การขอร้องเลยสักนิด
"ให้ผมฟื้น" คนตัวสูงจิ้มนิ้วลงไปที่ตัวเองเพื่อย้ำคำพูด
"ฉันจะต้องไปขุดศพนายขึ้นมาเรอะไง" ถึงจะกลัวก็ยังจะอุตส่าห์ไปพูดจาท้าทายอีก
ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมา "ผมยังไม่ตาย"
แล้วไอ้พลังงานบางอย่างที่ขนาดคิมมินซอกยังสัมผัสได้นี่มันอะไรห๊าาาาาาาาา
คงเพราะเห็นสีหน้าของคนตัวเล็กที่บ่งบอกถึงความไม่อยากเชื่อเลยสักนิด เซฮุนจึงระบายยิ้มออกมา"ยังไม่ตายจริงๆนะครับ"
ถ้าเขายังไม่ตาย แล้วกลายมาเป็น...พลังงานอย่างนี้ คำตอบที่เขาคิดได้ในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น "นายจะบอกว่านายวิญญาณออกจากร่างเหรอ" มินซอกขมวดคิ้วเข้าหากัน
"ประมาณนั้นมั้งครับ" หลังจากเอียงคอคิดก็ตอบออกมา
"งั้นนายก็เป็นวิญญาณจริงๆน่ะสิ" น้ำเสียงของมินซอกสั่นเล็กน้อยทำเอาเซฮุนที่ได้ฟังเลิกคิ้วขึ้น
ขนาดนี้ยังจะถามอีกเหรอ.. แล้วใบหน้าคมจึงผุดยิ้มชั่วร้ายออกมา "ผมไม่น่ากลัวหรอกครับ"
นายมันปีศาจชัดๆ!
"ผมอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับฮยองล่ะ" หลังจากเล่นเกมจ้องตากันด้วยความหวาดระแวงพักหนึ่ง จู่ๆเซฮุนก็พูดสิ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยขึ้นมา
"หือ" ใบหน้ากลมเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจว่าเจ้าเด็กตรงหน้านี่ต้องการสื่ออะไรกันแน่
"ถ้าจะช่วยผมคงง่ายขึ้น" ถุยยย นี่เขายังไม่ทันจะตอบตกลงเลย
"ทำไมถึงคิดว่าฉันจะช่วยนายฮะ"
"ผมแน่ใจว่าฮยองต้องช่วยผมแน่" ใบหน้าคมเผยยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ทำให้มินซอกรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่แปลกที่ครั้งนี้ไม่ใช่การใจเต้นเพราะความหวาดกลัวเหมือนที่ผ่านๆมา "เพราะไม่งั้นผมจะตามหลอกหลอนคุณไปชั่วชีวิตเลย"
มินซอกอารมณ์ดิ่งลงฉับพลัน ทำหน้าเซ็งรู้สึกเหมือนหินทั้งก้อนตกลงมาทับ "ได้ๆๆ ช่วยก็ช่วย" เขายอมแพ้แล้วจริงๆ
"ฮึฮึ" เซฮุนอมยิ้มจนแทบตาแทบปิด สีหน้ามีความสุขจนชวนให้ยิ้มตาม...ถ้าคนๆนั้นไม่ได้โดนขู่บังคับจากเด็กนี่ "ขอบคุณนะครับ"
"แล้วต้องทำอะไรบ้างล่ะ" หลังจากปลงตกกับตัวเอง มินซอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้นหน้าประตู เซฮุนลงนั่งตาม
ไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่เหมือนวิญญาณเลยสักนิด มินซอกที่เริ่มรู้สึกกลัวน้อยลงคิดอย่างนี้
"ผมเพิ่งเข้ามาเรียนปีนี้น่ะครับ แล้วพวกรุ่นพี่ก็พาไปรับน้องที่บ้านหลังนั้น"
...คณะไหนวะ จะจับมาตบหัวเรียงตัวเลย "แต่ไม่รู้ทำไมตอนผมลงบันไดไปห้องใต้ดิน ผมก็สลบไป ฟื้นอีกทีก็ติดอยู่ที่นั่น"
"ติดอยู่ที่นั่น?" คำๆนี้หมายความว่ายังไงกัน
"ตอนที่ผมจะออกจากห้องใต้ดินไม่ว่าจะออกยังไงก็ออกไม่ได้ ทำได้แค่มองพวกเพื่อนๆรีบร้อนกันแบกร่างผมออกไป ผมถึงได้รู้ตัว ว่าผมคือ
วิญญาณ"
"เอ่อ...แล้วนายไม่คิดว่าตัวนาย...เสีย เอ่อ ชีวิตไปแล้วงั้นเหรอ"มินซอกพยายามถามคำถามที่เขาคิดอยู่ให้ออกมารุนแรงน้อยที่สุด ถ้าฟังตามที่คน...วิญญาณ(เขาไม่รู้ว่าควรจะเรียกยังไง)ตรงหน้าเล่ามา มันก็ดูจะเป็นไปได้
คนถูกถามไม่ได้ติดใจอะไร แค่ทำหน้าครุ่นคิด"นั่นสิครับ"
"อะไรของนายฟร้าาา"
"ผมถึงมาขอความช่วยเหลือฮยองนี่ไง" เซฮุนพูดด้วยใบหน้าจริงจัง "ถ้าผมยังไม่ตายผมก็จะหาวิธีกลับร่าง แต่ถ้าตายแล้วจริงๆก็ขอคิดดูก่อนว่าจะอยู่หลอกหลอนฮยองต่อไปดีรึเปล่า" จะดีมากถ้าเด็กนี่ไม่พูดด้วยใบหน้าจริงจัง
"นายยังไม่ตายแน่เชื่อฉัน" มินซอกหมายจะตบบ่าเซฮุน แต่มือกลับวูบผ่านร่างของเขาไปเฉยๆ เลยทำได้แค่จ้องมองมือตัวเอง
"ทำไมตอนอยู่ในบ้านหลังนั้นนายถึงจับมือฉันได้ล่ะ" คนตัวเล็กปัดมือผ่านร่างเซฮุนไปมา ร่างสูงคว้ามือของเขาเอาไว้ พอรู้สึกถึงสัมผัสมือของร่างสูง ใบหน้ากลมจึงเลิกคิ้วขึ้น
"ลองจับผมใหม่สิครับ" เขาเอ่ยบอก แรงบีบที่ส่งมาทำให้สัมผัสตรงมือชัดเจนมากขึ้น
มินซอกเอื้อมมืออีกข้างที่ไม่ได้โดนเซฮุนจับไว้ไปแตะไหล่เขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับสัมผัสได้ถึงเนื้อผ้า
"โอ้ะ แปลกแฮะ" คนตัวเล็กร้องด้วยความประหลาดใจพลางบีบๆคลำๆไหล่บาง
"มันอยู่ที่ผมจะเลือกสัมผัสน่ะ เมื่อกี้ฮยองมาจับผมตอนที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ก็เลยไม่โดนผมไง" เซฮุนอธิบายเรียบๆ "แต่ถ้าผมคิดจะสัมผัสหรือให้สัมผัส ก็จะสัมผัสได้"
"อ่อ.." รู้สึกไม่เข้าใจเท่าไหร่แฮะ แต่แล้วมินซอกก็กลับเข้าประเด็น "แล้วนายออกมาจากห้องใต้ดินได้ไง"
"เพราะฮยองไงครับ"
"ฉัน??" คนตัวเล็กชี้ที่ตัวเอง ถามเสียงหลง
"ครับ การจับมือกับคนเป็นเป็นวิธี ...หรือเรียกว่าสื่อนำ ผมก็ไม่รู้สิครับ เอาเป็นว่ามันช่วยพาผมออกมาจากที่นั่น"
"นายรู้ได้ไง" ตั้งแต่ฟังเจ้าเด็กนี่เล่ามา เขารู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล เซฮุนเพิ่งจะเป็นวิญญาณ ทำไมถึงรู้ได้ว่าควรทำยังไง
"สัญชาตญาณวิญญาณมั้งครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าต้องทำอย่างนี้"
แปลเป็นภาษาคนให้ที...
คนตัวเล็กเอามือกุมศีรษะ แล้วถามขึ้นอีกคำถาม "แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ"
"พรหมลิขิตมั้งครับ" พูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงจริงจังสุดๆ
"คิดซะว่าฉันไม่ได้ถามนะ"
"ฮะๆ ก็มีแต่คุณที่เห็นผมนี่ครับ" เขาอธิบายตอบคำถามของมินซอก "ตอนแรกผมเจอผู้ชายตัวสูงๆหัวทองคนนึง คนที่ทำพวงกุญแจหล่นน่ะ"
"คริสน่ะเหรอ"
เซฮุนยักไหล่ก่อนจะพูดต่อ "เขาเข้ามาเพราะเสียงของอีกคน"
"อีกคน..?" ใบหน้ากลมทวนคำของเขาซ้ำ
"ครับ บ้านหลังนั้นไม่ได้มีผมคนเดียวหรอก" มินซอกแน่ใจทันทีว่า คำว่าอีก'คน'เนี่ยไม่ได้หมายถึงคนแน่ๆ "แล้วเขาก็วิ่งลงมาชั้นใต้ดิน แต่เขากลับไม่เห็นผม ทั้งที่ผมก็อยู่ข้างแท้ๆ แต่พออีกคนโผล่มาเขาก็สลบไปเลย"
ร่างเล็กรู้สึกทันทีว่าเขาโชคดีแค่ไหนเนี่ยที่เจอแค่เด็กนี่คนเดียว
"แต่คุณกลับเห็นผม" แล้วเซฮุนก็เงยหน้ามาสบสายตากับเขา
"ทำไมล่ะ" คงไม่ใช่ว่าเขามีสัมผัสที่หกหรอกนะหรอกนะ จะบ้าเรอะผ่านมายี่สิบสองปีไม่เคยเจอสักแอะ เพิ่งมาเห็นเอาตอนนี้เนี่ยนะ
"ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"อ่าวไหงงั้นเล่า..” พอเห็นเซฮุนทำหน้าเหมือนไม่รู้จริงๆ มินซอกจึงทำได้แค่พักเรื่องนี้ไว้ก่อน "แล้วนายติดอยู่ที่นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่"
หลังจากครุ่นคิดร่างสูงจึงตอบออกมา "อืม..ตั้งแต่เปิดเทอมมาสัก..หนึ่งเดือนน่ะครับ"
"เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงเดือนเองนี่" มินซอกนับนิ้วเสร็จก็รีบบอกออกมา "ประมาณสามอาทิตย์.." เซฮุนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นวันอะไร ทำได้แค่ยักไหล่
"อ๋อ จำได้แล้ว!" มินซอกเอากำปั้นทุบลงบนฝ่ามือเบาๆ "ตอนนั้นมีข่าวว่าเด็กปีหนึ่งคณะวิทย์ฯนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล"
"เหรอครับ" เซฮุนพยักหน้ารับ
ใบหน้ากลมขมวดคิ้วพยายามนึกถึงข่าวที่ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว "เห็นเขาบอกว่าหน้าตาดี มีสาวกรี้ดเพียบเลย"
"งั้นคงเป็นผมแหละ" คำพูดของร่างสูงทำเอาใบหน้ากลมเหลือบมองด้วยหางตา แต่อย่างเซฮุนน่ะเหรอจะสะทกสะท้าน มินซอกเลยเลือกที่จะมองข้ามคำพูดนั้น
"งั้นอันดับแรกต้องตามหาร่างนายก่อน ต้องถามเพื่อนนาย ใครที่เข้าไปบ้านนั้นกับนายล่ะ"
เซฮุนทำหน้าใช้ความคิด เขารู้สึกความทรงจำทุกอย่างช่างเลือนลาง แต่แล้วเขาก็นึกออก
"คิมจงอินกับหวงจื่อเทาครับ"
"ไม่รู้จักแฮะ เรียนคณะอะไรกันหละ" ชื่อทั้งสองชื่อนั้นเขาไม่คุ้นหูเลยสักนิด
"พวกเราเรียนคณะวิทยาศาสตร์กันหมดเลยครับ"
"เดี๋ยวฉันจะลองไปถามดูละกันนะ ฉันต้องไปนอนแล้ว เพื่อนรออยู่" มินซอกสังเกตเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่ รู้ว่านี่เป็นเวลาตีสามแล้ว จึงเดินเบี่ยงตัวอ้อมเซฮุนเพื่อไปหยิบหมอน
ถึงจะน้อยลงแล้วแต่ก็ยังกลัวอยู่ดีนั่นแหละ!
"อย่าไปนะครับ นอนนี่กับผมเถอะ" เซฮุนยันตัวขึ้นจากพื้น คว้าข้อมือเขาไว้อย่างรวดเร็ว
"อะไรของนายเนี่ย" แล้วไอ้ประโยคสุดล่อแหลมนี่มันอะไรก๊านนนนน
มินซอกสะบัดมือออกหวังให้หลุด อีกฝ่ายกำไว้แน่นเหลือเกิน "ฉันจะไปนอน พรุ่งนี้ฉันมีเรียนตอนเช้า"
"ก็นอนที่นี่กับผมสิครับ" เซฮุนไม่ยอมปล่อยเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
"ทำไมต้องนอนกับนายด้วย" คนตัวเล็กถามออกมาอย่างรู้สึกหัวเสีย แต่เซฮุนไม่ตอบอะไรเขาสักคำ ทำให้ยิ่งรู้สึกโมโหหนักกว่าเดิม
"ปล่อยนะ ยังไงนายก็ไม่ต้องนอนอยู่แล้วนี่"
"ไม่ครับ ใครว่าผมไม่ต้องนอนล่ะ นี่ผมก็ง่วงเหมือนกันแหละ"
โอ้ยยยย นอกจากผีงอแง เอาแต่ใจเหมือนเด็กอนุบาล แล้วยังต้องนอนอีกเหรอออออ
"ปล่อย"
"ไม่"
"ปล่อยนะ"
"ไม่ครับ"
"ปล่อยโว้ยยย"
"ไม่เด็ดขาดครับบบ" ว่าแล้วทั้งสองคนก็ยุดยื้อฉุดกระชากกัน
จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
"มินซอกทำไมนายยังไม่มาเนี่ย" เสียงดังถามมาจากอีกฟากของประตู ถึงจะไม่เห็น แต่เขาคิดว่าคงจะเป็นลู่หาน
"จะไปแล้วล่ะ" พูดเสร็จใบหน้ากลมก็หันไปทำหน้ากินเลือดกินเนื้อใส่คนที่ยังไม่ยอมปล่อยมือเขา แต่รายนั้นกลับไม่ยอมปล่อยแถมยังแลบลิ้นใส่อีก "ปล่อย" เขาพูดรอดไรฟัน
เซฮุนทำหน้ายียวนกวนประสาทมา ชวนให้น่าโดนต่อยเป็นที่สุด ถ้าไม่ติดว่ามือเขาโดนจับอยู่นะ...อ้ะ อีกข้างว่างนี่
...แต่ถึงต่อยไปก็ไม่โดนอยู่ดีนี่หว่า!
"ฉันจะเปิดเข้าไปแล้วน้ะ" ลู่หานที่ยืนรอมาพักหนึ่งเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย แล้วก็เปิดเข้ามาเลย
การกระทำของเขาทำให้มินซอกตกใจเป็นอย่างมาก ถ้าลู่หานเห็นวิญญาณล่ะก็ เขาต้องร้องโวยวายแน่
เนื่องจากไม่ได้ล็อค ประตูจึงถูกเปิดออกมาอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นลู่หานที่มองมาจากด้านนอก
"นี่นายยืนทำบ้าอะไรอยู่คนเดียวน่ะ "เจ้าของใบหน้าสวยยืนกอดอกอย่างอารมณ์เสีย "ฉันก็รอนายตั้งนานทำไมไม่ยอมมาซักที"
"ก็..." มินซอกเหล่มองไปทางเซฮุน
"อย่าบอกเลยครับ ก็บอกแล้วไงว่ามีแต่คุณที่เห็นผม เดี๋ยวเขาก็หาว่าคุณบ้าหรอก" เซฮุนตอบด้วยรอยยิ้มสดใสชวนโดนถีบเช่นเคย
ไอ้เด็กนี่ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ!
ใบหน้ากลมทำได้แค่กัดฟันกรอด
"ฉันว่าจะนอนที่ห้องนี้แหละ" มินซอกได้แต่จำใจพูดเนื่องจากยังไงเขาก็ดิ้นหลุดจากมือเซฮุนไม่ได้แน่ๆ เด็กอะไรแรงควายชะมัด ให้เขามาสะบัดมือตอนนี้คงจะไม่ใช่เรื่อง เพราะลู่หานที่มองไม่เห็นจะสงสัยว่าเขาทำอะไร
"อะไรของนายเนี่ย! จะเปลี่ยนใจก็บอกกันก่อนสิ รู้มั้ยฉันรอตั้งนาน"ลู่หานพูดเสียงดังขึ้น เพราะคริสหลับอยู่ตอนที่เขากลับมาถึง เขาเลยต้องเล่นเกมรออย่างเบื่อหน่ายอยู่ตั้งนาน
"ขอโทษนะ ฉันรู้สึกอยากจัดห้องอีกหน่อยน่ะ" มินซอกยกมือข้างที่ว่างจากการจับกุมขึ้นมาขอโทษสีหน้าสำนึกผิด
"ไม่เป็นไรหรอกน่า" พอเห็นสีหน้าแบบนั้นลู่หานก็ได้แต่ใจอ่อน “มีอะไรอยากให้ช่วยมั้ย
“ม๊าย ไม่ต้องๆ” คนตัวเล็กรีบยกมือข้างที่ว่างขึ้นห้าม อย่าเพิ่งมาใจดีตอนนี้นนน
"งั้นราตรีสวัสดิ์ รีบๆนอนล่ะ ฝันดีน้ะเปาจื่อ" เขาลูบหัวกลมเบาๆ แล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้ห้องที่เหลือเพียงหนึ่งคนกับหนึ่งวิญญาณเงียบลง
"แฟนฮยองเหรอ?" หลังจากลู่หานออกไปซักพัก เซฮุนก็ถามขึ้นโดยที่ยังไม่ปล่อยมือคนตัวเล็ก
"จะบ้าเรอะ เพื่อนเฟ้ย"
"มีเรียกชื่อลงชื่อเล่นกันด้วย" เซฮุนพูดราวกับจะล้อ แต่คนตัวเล็กไม่สนใจ
"ปล่อยได้รึยังฮะ" เขาสะบัดมือแรงๆ อีกหนึ่งทีเพื่อเป็นการย้ำ
"ก็ได้ครับ แต่คุณต้องนอนนี่นะ" เซฮุนปล่อยมือเขาออก ยังไงซะเมื่อกี้มินซอกก็บอกอีกคนไปแล้วว่าเขาจะนอนที่นี่
"ฉันเลือกอย่างอื่นได้มั้ยละ" เขาบ่นเซ็งๆแล้วทิ้วตัวลงบนเตียง
"ไม่ได้ครับ"
"ไม่ได้ถามให้ตอบ” เจ้าเด็กนี่สามารถกวนประสาทเขาได้ในทุกประโยคจริงๆให้ตายเถอะ “ปิดไฟด้วย ราตรีสวัสดิ์" เขายกผ้าห่มขึ้นคลุมโปง อาจเป็นเพราะวันนี้เหนื่อยมามาก จึงผลอยหลับไปในทันที
ทิ้งให้ร่างสูงยืนมองอยู่อย่างนั้นสักพัก แล้วจึงเดินไปปิดไฟ
"ฝันดีนะครับฮยอง"
เสียงทุ้มดังขึ้นในความมืด
-------------------------------------------------------------------
จุ้บๆ
ความคิดเห็น