ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #96 : Knight Taylor And Atlantis อัศวินเทเลอร์กับอาณาจักรแอตแลนติส

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56


    ลิงก์นิยาย http://writer.dek-d.com/z-real/story/view.php?id=763572

     

    นวนิยายแฟนตาซีน เรื่อง Knight Taylor and Atlantis อัศวินเทเลอร์กับอาณาจักรแอตแลนติส ผลงานของ J. Ron  ขณะนี้โพสต์ถึงตอนที่ 14  เป็นเรื่องราวของ เทเลอร์  ล็อควู้ด  เด็กชายวัย 12  ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเพิ่งทราบความจริงว่าตนเป็นอัศวินแห่งแอตแลนติสที่ต้องเป็นผู้ยุติสงครามในการยึดของโลกที่เขาเรียกว่าเอเธน ของครีโทเนียส นักรบแห่งแอตลาส ผู้เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรแอตแลนติส

    นวนิยายเรื่องนี้แม้จะโพสต์ถึงตอนที่ 14  แต่ในความจริงแล้วเรื่องราวเพิ่งจะเป็นช่วงเริ่มต้นหรือบทนำ  จึงเป็นเพียงการแนะนำตัวละครและปูเรื่องเท่านั้น  ผู้อ่านจึงยังไม่ได้สัมผัสกับจินตนาการของผู้เขียนที่จะแสดงความมหัศจรรย์ของอาณาจักรแอตแลนติสดินแดนที่สาบสูญมากนัก   แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะการปูเรื่องในช่วงต้นนี้  J. Ron  เลือกใช้การเปิดเรื่องด้วยสาส์นแห่งตรีศูร ซึ่งเป็นคำทำนายที่มีความสำคัญของอาณาจักร ที่มีความผูกพันกับการถือกำเนิดของเด็กชายคนหนึ่ง  และชีวิตของเด็กคนนี้ยังคงเป็นความลับมานานกว่า 10 ปีกว่าจะเป็นที่เปิดเผยว่าเขาคือใคร  ซึ่งกลวิธีการดังกล่าวเป็นที่นิยมใช้อย่างมากในการเปิดเรื่องของนวนิยายแนวแฟนตาซี  เพราะกระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของผู้อ่านได้เป็นอย่างดี และในเรื่องนี้ก็สร้างความน่าติดตามให้กับผู้อ่านได้เช่นกัน

    นอกจากนี้ยังพบว่า J. Ron  ยังสร้างความน่าสนใจในเรื่องด้วยการสร้างเรื่องราวคู่ขนานที่เกิดขึ้นระหว่างโลกของตัวละครเชื่อมโยงกับอาณาจักรแอนแลนติส  ผ่านทางความฝันของเทเลอร์อยู่เป็นระยะๆ  เมื่อเทเลอร์ทราบความจริงแล้วว่าเขาเป็นอัศวินของแอตแลนติสในคำทำนาย  J. Ron  ก็เปิดเผยช่องทางเชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรที่สาบสูญแห่งนี้กับโลกปัจจุบันไว้อย่างน่าสนใจ  โดยผ่านสถานที่สำคัญของโลกในหลายประเทศที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี  ไม่ว่าจะเป็นประตูชัยในฝรั่งเศส  สโตนเฮนจ์ ที่อังกฤษ  มายา หรือในจีน   แต่การที่จะผ่านช่องทางลับที่ตั้งอยู่เปิดเผยต่อหน้าคนทั่วไป  แต่ผู้ที่จะผ่านเข้าไปได้มีเฉพาะบุคคลที่รู้สัญลักษณ์ลับของอาณาจักรและมีพลังที่สูงมากพอเท่านั้น

    แม้ว่า J. Ron  จะสร้างความน่าสนใจให้กับเรื่องได้  แต่จุดอ่อนประการหนึ่งที่ลดความน่าเชื่อถือของเรื่องนี้ลงคือ ความไม่สมจริงต่างๆ ที่ปรากฏเป็นระยะๆ นับตั้งแต่ประเด็นเล็กๆ  เช่นในกรณีการออกกฎของโรงเรียนที่ให้อาจารย์คนเดียวสอนทุกวิชา และสมาคมผู้ปกครองก็ยอมรับกฎนั้น เพียงเพราะมีปัญหาเกิดขึ้นกับนักเรียนคนหนึ่งที่สอบตกในวิชาหนึ่งเพราะครูไม่ชอบหน้าเธอ   ทั้งๆ ที่การแก้ปัญหานี้กระทำได้อย่างง่ายๆ โดยการแก้ปัญหาที่ครูคนนั้น อาจจะเป็นการคาดโทษหรือไล่ออกก็ได้  เนื่องจากว่าโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนของผู้ดีมีเงิน  ซึ่งน่าจะให้ความสำคัญกับนักเรียนมากกว่าครู

    หรือการสร้างให้ตัวละครที่ทราบความจริงว่าเทเลอร์เป็นใคร  ไม่ว่าจะเป็นอแมนด้า แมท และเทรซี่  ซึ่งต่างก็เป็นคนที่มีเชื้อสายของแอนแลนติส  และต่างก็รู้ความจริงแล้วว่าเทเลอร์เป็นอัศวินในคำทำนาย  แต่ไม่ถูกกันและมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เสมอ  ซึ่งเหตุการณ์ที่พวกเขาทะเลาะกันบ่อยครั้งนั้น  แทนที่จะปกปิดเรื่องของเทเลอร์ได้   ยิ่งทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจมากขึ้น  อีกทั้ง การที่ผู้ที่ถูกส่งมาจากแอตแลนติสเพื่อทำหน้าที่ตามหาและปกป้องอัศวินคนสำคัญของอาณาจักร  ก็ทราบว่าอัศวินคนนั้นคือเทเลอร์มานานนับเดือน  กลับไม่มีมาตรการป้องกันอันตรายใดๆ ให้เขาและครอบครัวของเขาเลย  จนเป็นเหตุทำให้พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต และตัวเขากลายเป็นเป้าหมายในการตามล่าในครั้งนี้

    จนไปถึงประเด็นใหญ่ๆ ที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของเรื่อง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่สมจริงของตัวละคร นับตั้งแต่การกำหนดให้เทเลอร์และผองเพื่อนที่อายุแค่ 12 ปี และเรียนอยู่เกรด 6 หรือเทียบเท่ากับชั้น ป. 6 เท่านั้น  แต่ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้ว่าเด็กอายุเท่านี้จะได้รับอนุญาตให้ทำกันเองได้โดยลำพัง  นับตั้งแต่การขึ้นเครื่องบินข้ามประเทศตามลำพัง  ในประเด็นนี้อาจจะพออนุโลมได้ว่ามีกลอเรียซึ่งอายุ 18 ปีเดินทางไปด้วย  ซึ่งอาจจะผ่านกฎของสายการบินได้อย่างฉิวเฉียดที่ว่าเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีเดินทางโดยลำพังไม่ได้  แต่ต้องมีผู้ปกครองอายุ 16 ปีขึ้นไปที่ได้รับการแต่งตั้งดูแลและต้องแจ้งให้ทางสายการบินทราบ  แต่พวกเขาเดินทางอย่างฉุกละหุกและเป็นความลับ  ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าพวกเขาไม่น่าจะดำเนินการในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้ทัน    นอกจากนี้ยังสร้างเหตุการณ์ให้เทเลอร์ และแมท นำบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินของอแมนด้าไปใช้ซื้อของในต่างประเทศ  ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในความเป็นจริง   เพราะตามกฎหมายการอนุญาตให้มีบัตรเครดิตนไม่ว่าจะบัตรเสริมหรือบัตรหลัก  ผู้ที่เป็นเจ้าของต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป  และผู้ที่จะใช้บัตรเครคิตได้ต้องเป็นเจ้าของบัตรเท่านั้น   สำหรับในประเด็นนี้ ผู้วิจารณ์เห็นว่าหากผู้เขียนเพิ่มอายุของตัวละครขึ้นเป็น 18 ปี ก็น่าจะสร้างความสมจริงให้กับเรื่องและแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้

    การเพิ่มอายุของตัวละครในครั้งนี้ยังจะช่วยสร้างความเหมาะสมให้กับเทเลอร์ในเรื่องโครงงานของเขาด้วย  แม้ว่า J. Ron  ต้องการสร้างให้ผู้อ่านเห็นถึงความเป็นอัจฉริยะของเทเลอร์ในเรื่องของวิทยาศาสตร์  ที่เขาสามารถที่จะเข้าใจฟิสิกส์ชั้นสูงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตล์ หรือทฤษฎีควอนตัม  จนเขาคิดจะเสนอโครงการเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตล์ในการเข้าศึกษาต่อที่สถาบันวิทยาศาสตร์แคลิฟอเนียร์  แม้ว่าสถาบันแห่งนี้จะมีการแข่งขันกันสูงในการเข้าเรียน  แต่สำหรับเด็กเกรด 6 การเข้าใจทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตล์ได้เป็นอย่างดีก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่น่าจะถึงขั้นที่ต้องต่อยอดความคิดจากทฤษฎีดังกล่าวก็ได้  หากต้องเสนอโครงงานถึงระดับที่ต้องต่อยอดความคิดน่าจะเป็นยื่นเพื่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษามากกว่า

    สืบเนื่องจากในประเด็นที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น  เห็นว่าการที่แมทเสนอให้เทเลอร์เปลี่ยนการยื่นโครงงานจากการทำเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพมาเป็นการพิสูจน์ความจริงว่าแอนแลนติสมีจริงหรือไม่นั้น  โดยการใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ดูจะผิดที่ผิดทาง  เพราะการพิสูจน์ว่าแอนแลนติสมีจริงหรือไม่  น่าจะเป็นโครงการที่ใช้เพื่อศึกษาต่อสถาบันที่เกี่ยวข้องกับโบราณคดีมากกว่าที่จะเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์

    ยิ่งไปกว่านั้น  การที่ตัวตนที่แท้จริงของเทเลอร์เปิดเผยมานานหลายเดือนแล้ว โดยที่ออร่าของเขาเปล่งแสงจนเป็นที่สังเกตเห็นสำหรับคนจากแอตแลนติสได้อย่างง่ายดายเช่นนี้  แต่ผู้ที่มีหน้าที่มาสังหารเทเลอร์อย่างอาจารย์แฟรงค์  ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเขาในฐานะอาจารย์ประจำชั้น  ทั้งยังมีโอกาสอยู่กับเขาตามลำพังทุกเย็นเป็นเวลา 2 เดือนในช่วงที่เขาถูกทำโทษ  กลับไม่ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวกำจัดเขาไปเลย  ทั้งๆ ที่ตนเองมีพลังอำนาจมากกว่า  ในฐานะที่เขาคือ อมินอส บุตรชายของกษัตริย์ครีโทเนียส   รวมทั้งยังมีคนใน FBI และ CIA เป็นพวก  การกำจัดเด็กชายธรรดาๆ คนหนึ่งที่มีอายุ 12 ปีไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก  แม้ว่าเทเลอร์จะมีมนตราโบราณปกป้องอยู่  แต่ถ้าใช้คนธรรมดาที่ไม่ใช่คนจากแอนเลนติสเป็นคนจัดการเขาแทนก็น่าจะทำได้อย่างง่ายดาย

    แม้ว่า J. Ron  จะใส่ใจและให้ความสำคัญในการเขียนบรรยายและการสร้างบทสนทนา  และสามารถจะทำได้เป็นอย่างดี  ซึ่งช่วยสร้างบรรยายกาศ  ตัวละคร และจินตนาการให้กับนครสาบสูญนี้ให้กลับมามีชีวิตในใจผู้อ่านได้เป็นอย่างดี   แต่นวนิยายเรื่องนี้มีคำผิดที่พบเป็นจำนวนมาก  จึงลดทอนจุดเด่นในแง่นี้ของ J. Ron   ลงไปอย่างน่าเสียดาย  จึงเสนอว่า J. Ron   น่าจะใส่ใจและให้ความสำคัญกับการสะกดคำมากขึ้น  ก็จะช่วยให้นวนิยายเรื่องนี้น่าอ่านและถูกต้องสมบูรณ์มากขึ้น  สำหรับคำผิดที่พบ เช่น  เชกสเปียร์  เขียนเป็น  เช็คสเปียร์  ผมหยักศก เขียนเป็น ผมหยักโสก สาละวน เขียนเป็น สาระวน พิรุธ เขียนเป็น  พิรุจ พะเนิน เขียนเป็น เผนิน ด็อกเตอร์ เขียนเป็น ด๊อกเตอร์  หรือ / เหรอ เขียนเป็น หรอ  คร่ำเคร่ง หรือ เครียด เขียนเป็น  คร่ำเครียด   ข้อมือขวา เขียนเป็น ข้อมือแขนขวา  อัตชีวประวัติ เขียนเป็น  อัตถชีวประวัติ  แป๊บ  เขียนเป็น  แปบ เซ็ง  เขียนเป็น  เซง สัญชาตญาณ เขียนเป็น  สัญชาติญาณ ร้อนรน เขียนเป็น  ร้อนล้น  ศีรษะ  เขียนเป็น ศรีษะ  อ้าว  เขียนเป็น  อ่าว ทรมาน เขียนเป็น ทรมาณ  สุดโต่ง เขียนเป็น สุดโต้ง อนาถ เขียนเป็น อนาจ ประหัตประหาร เขียนเป็น ประหารประหัติ ครรภ์  เขียนเป็น ครรถ์ กระตือรือร้น  เขียนเป็น กระตือรือล้น  หมัน เขียนเป็น หมั้น รัว เขียนเป็น รั้ว  นอนขดตัว เขียนเป็น นอนคดตัว  นอกจากนี้ยังมีการใช้คำผิดความหมาย เช่น  บีบกระดูกนิ้วมือเสียงดังลั่น  ควรเขียนว่า  หักข้อนิ้วมือเสียงดังลั่น  เดินตะล่อมดูรอบบ้าน ควรเขียนเป็น  เดินสำรวจดูรอบบ้าน  ไส้ศึกด้านใน  ควรเขียนแค่ ไส้ศึก  (เพราะไส้ศึกมีความหมายรวมถึงว่าอยู่ภายในอยู่แล้ว)  ข้อมูลต่างๆ ที่ผมรับรู้กำลังเบียดเสียดออกมา  ควรเขียนว่า  ข้อมูลต่างๆ ที่ผมรับรู้กำลังพรั่งพรูออกมา  เธอม้วนตัวกลับไปและลากกระเป๋า  ควรเขียนว่า  เธอหันหลังกลับไปและลากกระเป๋า  ตื่นเต้นสุดโต่ง  ควรเขียนว่า ตื่นต้นสุดขีด  พยายามประโลม  ควรเขียนว่า พยายามปลอบประโลม  มองหน้าอแมนด้าขมัง  ควรเขียนว่า  มองหน้าอแมนด้าเขม็ง

     

    ---------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×