ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส อีกหนึ่งความทรงจำ

    ลำดับตอนที่ #2 : ความทรงจำบทที่หนึ่ง100%

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 54


         หวัดดีค่าทุกท่าน  ข้าพเจ้ามีนามอันสวยหรูว่าbluepowerเจ้าค่ะ  ต้องขออภัยเป็นอย่างมากด้วยน่ะเจ้าค่ะ  ที่ภาษาในการแต่งฟิคของข้าน้อยอยู่ในอาการน่าเป็นห่วงอ่านแล้วงง(มีคนว่ามาอย่างนั้น)แต่ข้าพเจ้าสัญญาว่าจะปรับปรุงแน่นอนค่ะ  อีกอย่างที่ต้องขอโทษด้วยจริงๆที่อัพช้าสุด(บังเอิญเป็นพวกชอบดองงาน  ถ้าไม่มีอะไรมากระตุ้นจะค่อยๆกระดืบช้าๆ) แม้ว่าคงจะไม่มีใครตั้งตาคอยเราอัพเลยก็ตาม(ถ้ามีแล้วเรารู้จะอัพเร็วมาก ขึ้นอยู่กับกำลังใจ)ถ้าใครอยากอ่านเร็วก็เม้นซะดีๆน่ะ(จะมีไหมเนี้ย)

             สายลมเอื้อยพัดมาเบาๆในยามเช้าแรกของฤดูใบไม้ผลิ  ขณะที่เกวียนเล่มเล็กค่อยๆวิ่งไปบนถนนสายหนึ่ง  ที่มุ่งหน้าไปยังโรงเรียนพระราชา   เมื่อเกวียนน้อยเดินทางมาถึงจุดหมายและจอดสนิท  อยู่หน้าทางเข้าป้อมอัศวิน

       ร่างบางร่างหนึ่งได้พุ่งลงจากเกวีบนทันทีราวกับรอเวลานี้มานานแล้ว
    "เฮ้ยคิลถึงแล้วน่ะเว้ย ลงมาสักทีสิว่ะหิวจะตายอยู่แล้ว  ไปหาอะไรกินกันเถอะ"เฟรินที่ลงมาเป็นคนแรกตะโกนเร่งคู่หู(คู่หายนะ)ทันทีที่เท้าแตะถึงพื้น

       "โห้ย....เฟรินแกจะรีบไปไหนว่ะโรงอาหารมันไม่หนีแกไปไหนหรอกน่า"คิลเอ่ยครางออกมาเบาๆ  เนื่องจากเมื่อยที่ต้องนั้งรถมาเป็นเวลานาน "ใช่เลยว่ะคิล ไม่รู้เฟรินมันจะรีบอะไรนักหนา  เมื่อกี้ก็กินมาตลอดทางไม่ทันไรก็หิวอีกแล้ว  ถามจริงแกไม่กลัวอ้วนบ้างรึไง"ครี้ดที่ลงมาจากรถเป็นคนที่สามเอ่ยถามสาวน้อยจอมเขมือบอย่างสงสัย  ก่อนมองสำรวจว่าไอ้ที่กินทั้งหมดมันเอาไปเก็บไว้ตรงไหน  แต่เมื่อได้คำตอบก็ต้องรีบเบือนหน้าหนีทันที  เพราะถ้าใครบางคนจับได้ว่าเขามองไปตรงไหนของเฟรินล่ะก็  คงได้เป็นนักดาบแช่แข็งเป็นแน่

     
    "โธ่ครี้ดแกก็พูดอะไรไม่คิด  คนอย่างเฟรินเหรอจะกลัวอ้วนไม่มีทาง"เจ้าคนที่ยังไม่เจียมตัวสักทีว่าตัวเองเป็นผู้หญิง   ตอบกลับมาอย่างมั่นใจ "แกแน่ใจน่ะว่าไม่กลัวอ้วน"คิลถามย้ำเพื่อความแน่ใจ "เออก็แน่สิว่ะแกจะทำไมนักหนาว่ะไอ้คิล"เฟรินที่ชักเริ่มสงสัยตงิดๆ  ว่าจะโดนเจ้าเพื่อนตัวดีพวกนี้แกล้งหยอกอะไรอีกรึเปล่า "ถ้าคาโลมันเลิกกับแกเพราะแกอ้วนเกินไปแกก็ไม่สนใจงั้นซิ"(สะอึกซิครับงานนี้) เมื่อเฟรินเจอหมัดเด็ดเข้าไป  แม่ตัวดีจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้รีบชวนคิลให้เข้าไปในโรงอาหารทันที   ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฟรินเรียกรอยยิ้มจากเพื่อนฝูงได้เป็นอย่างดี





                  เดี๋ยวเถอะพวกนายอยากแกล้งกันนักใช่ไหมได้...เดี๋ยวได้เจอดีแน่ฮึฮึฮึ แล้วเฟรินก็คิดอะไรดีๆขึ้นมาได้ เมื่อตอนที่พวกเธออยู่ที่คาโนวาลก่อนที่ท่านพ่อจะไปได้ฝากสิ่งของน่าสนุกอย่างหนึ่งไว้ด้วย เป็นของที่เธออ้อนขอพ่อไว้นานแล้ว "ในเมื่อได้ของดีมาแล้วก็ต้องลองใช่สิถึงจะถูกจริงไหม"แล้วร่างบางก็ยิ้มออกมาด้วยร้อยยิ้มชั่วร้าย เฟรินเดินไปที่ลิ้นชักพร้อมกับหยิบของบางสิ่งออกมา ดูท่าคืนนี้เธอคงต้องนอนดึกซักหน่อยถ้าอยากจะเห็นอะไรสนุกๆในวันพรุ่งนี้


     


          แสงอรุณสาดส่องรับวันใหม่ที่แสนสดใส(ของเฟริน)แสงอาทิตย์ต้องไปยังร่างสูงโปร่งของนักฆ่าหนุ่มนาม คิล ฟีลมัสเขาบิดขี้เกียจเล็กน้อยเมื่อตื่นนอนมาได้ไม่นาน  ชายหนุ่มอ้าปากฮาวออกมาอย่างเกียจคร้าน  ขณะที่กำลังลุกจากเตียงนั้นชายหนุ่มก็ได้สะดุดตาเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ตรงหัวเตียง 
     
         สิ่งที่คิลสังเกตเห็นคือแหวนวงเล็กดูไม่น่ามีพิษสง(ที่ลงอาคมบางอย่างสองอย่าง)คิลหยิบแหวนน้อยขึ้นมามองอย่างงงๆ "มันมาอยู่นี้ได้ไงหว่า"ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง  ยกมือข้างหนึ่งเกาหัวเบาๆแสดงอาการว่างงจัด  แต่เมื่อมองดูลวดลายของมันดีๆก็พบว่าเจ้าแหวนปริศนามีลายที่สวยและน่าเป็นเจ้าของ 

       ลองใส่ดูสักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง มาหล่นอยู่ตรงนี้คงเป็นคาโลไม่ก็เฟรินมาลืมไว้  ใส่ของเพื่อนคงไม่เสียหายอะไร  คิดได้ดังนั้นนักฆ่าตัวน้อยๆจึงทดลองสวมดู  ปรากฎว่ามันพอดีกับนิ้วของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ(แกเสร็จแน่ไอ้คิล) เมื่อลองใส่ดูจนพอใจแล้วเขาจึงดึงแหวนออกจากนิ้วแต่ปรากฎว่า...ถอดไม่ออก(แต่นั้นยังไม่เลวร้ายที่สุด)คิลจึงคิดลองเอาสบู่ถูดูเผื่อจะออก  เมื่อเดินไปถึงหน้ากระจกห้องน้ำ  สิ่งที่ชายหนุ่มพบเป็นอย่างแรกก็คือ สาวน้อยร่างอรชรที่น่าตาดูน่ารักจิ้มลิ้ม  ดวงหน้านั้นมองเขาออกมาจากกระจกแบบงงๆ เขาลองยกมือซ้ายขึ้นดู  สาวน้อยในกระจกก็ยกตาม  พอลองหันซ้ายแลขวาดูก็ไม่พบใคร นั้นก็หมายความว่า...(ไว้อาลัยให้ความแมนของคิล10วิ.....)"อ๊าก.........ไอ้เฟริน............"

         เสียงร้องโหยหวนของคิลน้อย(ที่กลายเป็นสาวน้อย)ดังไปทั่วป้อม  ซึ้งไม่นานก็มีเสียงของชาวป้อมอัศวินปีสามดังออกมาเป็นระยะๆ (สิ่งที่ท่านเจ้าให้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากแหวนลงอาคมที่ใช้สำหรับปลอมตัว  ท่านมีให้หลายแบบทั้งปลอมเป็นสัตว์  มีหูสัตว์งอกออกมาหรือแหวนเปลี่ยนสีผิว  หรือแบบแปลงเพศได้  ป.ล.แต่ที่มันถอดไม่ออกเพราะท่านเฟรินเขาลงเวทกำกับไว้อีกที)


           
         ขณะที่ทุกคนกำลังชื่นชม(?)อยู่กับการเปลี่ยนแปลงอันแสนรวดเร็วของตัวเอง เจ้าตัวต้นเรื่องที่หายตัวไปตั้งแต่เช้า ก็กำลังเฝ้ามองดูผลงานของตัวเองอยู่เงียบๆที่มุมหนึ่งของโรงเรียน ที่ที่เจ้าตัวคิดว่าคงไม่มีใครมาหาตัวหล่อนในนี้แน่ๆ ร่างบางนั่งหัวเราะอย่างสบายใจเฉิบ โดยไม่รู้เลยว่ากรรมกำลังตามมาสนองตนถึงที่

    หวัดดีเจ้าค่ะบลูลี่มีเรื่องจะขอโทษ  ต้องขออภัยจริงๆเรื่องของเรื่องคือ งานมันท่วมหัวอ่ะ จะอัพตอนนี้ให้จบภายในสามวันก็แล้วกัน จะพยายามค่ะ

               555555555555เสียงหัวเราะที่ดังไปทั่วป้อม เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงที่อยู่ของเจ้าของเสียงได้เป็นอย่างดี(เฟรินแกโง่เองนะ) เหล่าป้อมอัศวินปีสามค่อยๆย่องตามเสียงไปเงียบๆ นัยน์ตาของพวกเขาลุกเป็นอย่างน่าสยอง  เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะสะท้านโลกาของแม่ตัวดีแล้ว  พวกเขาก็ได้แต่สาบานในใจว่า  จบเรื่องนี้เมื่อไหร่ไอ้หมารนหาที่นี้ต้องโดนสั่งสอนซะให้เข็ด 

                ขณะที่พวกเพื่อนๆพากันสาบานในอย่างเจ็บแค้นอยู่นั้นเอง เฟรินก็รู้สึกได้ถึงรังศีอาฆาตที่ส่งตรงถึงเธอจนสะดุ้งเฮือก "อะไรฟ่ะ  ไอ้ความรู้สึกเหมือนกำลังจะซวยแบบนี้  ชักสังหรใจไม่ดีชอบกล  ออกไปแอบที่อื่นดีกว่า"เมื่อคิดได้ดังนั้น เฟรินที่นั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่ในห้องสมุด จึงลุกขึ้นเตรียมเผ่นแนบทันที ...แต่(สายไปแล้วล่ะเฟรินน้อย)

                  ก่อนที่เฟรินจะวิ่งออกไปจากห้องสมุด เธอก็ได้ชนเข้ากับกำแพง(น้ำแข็งเดินได้)เข้าให้   เฟรินค่อยๆเงยหน้ามองไล่ขึ้นไปตั้งแต่เท้าของใครบางคน  ไปจนถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนๆนั้นก็ได้พบว่า  เจ้าของร่างสูงเพียงแค่เอวของเธอ   ตอนยืนเต็มความสูงเท่านั้น  แล้วใบหน้า(ที่เคยหล่อหลา)ของมันล่ะ....น่ารัก 

           หญิงสาวคงจะลุกขึ้นมากอดเจ้าคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูแล้วแน่ๆ  ถ้าคนที่ทำหน้าที่เป็นกำแพงจิ๋วเมื่อครู่   ไม่ส่งไอเย็นพร้อมกับสายตาอาฆาตมาให้   เจ้าของร่างเล็กจะเป็นใครไปไม่ได้  นอกเสียจากเจ้าชายคาโลนั้นเอง  แม่ตัวดีจึงได้แต่ทำหน้าจ๋อยเมื่อถูกจับได้เร็วเกินคาด "แหมไม่คิดเลยน่ะว่าแกจะลงทุน  มาอยู่ในห้องสมุดที่แกเบื่อนักเบื่อหนาไม่คิดเลยจริงๆ" ครี้ดน้อยผู้โชคร้ายเอ่ยขึ้นข้างๆตัวคาโล(ที่ถูกลดอายุ)  เมื่อเฟรินหันไปเห็นร่างของนักรบตาเดียวขณะนี้   ก็ถึงปล่อยก๊ากออกมาอีกรอบ


        "5555555 ไอ้ครี้ด ตัวแกเป็นสีเขียวนี้ก็ดูมีเสน่พิกลเนอะ"(ยัยคนเขียนบ้า  ที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้นี่)(ก็เจ๊ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าสีผิวมีแค่ขาวกับดำ)ขณะที่เฟรินกำลังหัวเราะอย่างสะใจอยู่นั้นเอง   เจ้าตัวต้นเรื่องก็ถึงกับต้องสะดุ้งเฮือก  เมื่อเจอกับรังศีฆ่าฟันของเพื่อนซี้ตัวแสบ "คะ..คิลใจเย็นดิว่ะกะ..แกก็น่ารักดีออก"พอชายหนุ่ม(ที่กลายเป็นหญิงสาว)ได้ยินคำพูดคล้ายจะปลอบใจของเพื่อนสาว(ที่พยายามเอาตัวรอด)สติที่เพียรจะระงับก็ขาดผึ่ง  เตรียมกระโจนเข้าไปตะลุมบอนกับเจ้าคนปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด  ถ้าไม่ติดว่าเจ้าของแม่ตัวยุ่งจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ(ต่อหน้าคนอื่น)ไม่เลิก

        เจ้าตัวดีเมื่อเห็นว่า   ในที่สุดคาโลก็คงจะใจอ่อนกับเธออีกจนได้   จึงเริ่มฉีกยิ้มกว้างแต่ก็ต้องหุบยิ้มทันที   ที่เจ้าของใบหน้าเล็กแสนน่ารัก   เอ่ยประโยคหนึ่งออกมา  "ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอกคิล  จับแม่ตัวดีไว้  แล้วรอให้คนมาครบก่อนจากนั้นค่อยจัดการทีเดียวดีกว่า"คาโลเสนอความเห็น  เฟรินพยายามทำสีหน้าออดอ้อนคาโลเต็มที่  แต่พอเขาเห็นหน้าเธอปุ๊บก็หันหนีทันทีเพราะกลัวใจอ่อน  แต่เฟรินกลับคิดว่าชายหนุ่มโกรธจนไม่อยากมองหน้าเธอแทน

    จบไปอีกหนึ่งตอนตามสัญญานะจ๊ะ



           
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×