ตอนที่ 19 : ปลอกคอ 2 : ตอนที่ 10
ปลอกคอ 2 : ตอนที่ 10
รถแท็กซี่จอดสนิทหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวสะอาดสไตล์ยุโรปแต่กลับล้อมด้วยสวนแบบญี่ปุ่นผสมผสานกับต้นกุหลาบดามัสก์บานสะพรั่งในสายลมหนาว แอนกระชับเสื้อคาดิแกนสีขาวตัวยาวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ภายใต้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีจากเหล่าอัลฟ่าสูทดำ
“สวัสดีค่ะหมอแอน มาตรวจคุณพ่อเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ หมอแอนซื้อขนมมาฝากด้วยนะ ของโปรดของพ่อกับหวานน้อยเลย”
แอนขยับยิ้มรับไหว้ลูกสาวแฟนเก่า เธอเดินเข้าไปหาเด็กน้อยอัลฟ่าแล้วยื่นถุงใส่กล่องขนมชูครีมช็อกโกแลตเจ้าอร่อยที่กินตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาให้ หวานน้อยรับกล่องขนมมาถือ เอาแต่ยืนดูกล่องเงียบๆครู่หนึ่งแล้วส่งคือหมอสาวเสียอย่างงั้น
“เป็นอะไรไปคะ ไม่ชอบเหรอ?”
“ชอบค่ะ แต่หวานน้อยอยากกินฝีมือคุณแม่มากกว่า หวานน้อยมาคิดๆดูแล้ว หวานน้อยจะรอจนกว่าคุณแม่ทำเป็น” ชูครีมช็อกโกแลตเจ้าอร่อยกลับคืนสู่คนซื้อพร้อมบทสนทนาระหว่างทั้ง 2 คนจบลงหลังเสียงย่ำฝีเท้ากระแทกรุนแรงลงจากบันได แต่ที่น่าประหลาดใจมากคือกระเป๋าเดินทางในมือโอเมก้าหนุ่มผิวขาวเพียงหนึ่งในบ้าน คริสชะงักกึกเมื่อเจอหน้าแอน กัดฟันแน่นจนกรามขึ้นสัน ขอบตาร้อนผ่าวฉันพลัน รีบก้มหน้าลงต่ำหลบหน้าโอเมก้าสาวผู้เป็นดวงใจของราชา
ตัวจริง..กับ..ตัวแทน
สถานะบดบี้หัวใจไม่มีชิ้นดี
“คุณคริส!! คุณไปไหนไม่ได้นะครับ!!”
“ถามบอสคุณดูแล้วกัน เขาอนุญาตแล้ว” คริสกระแทกเสียงตอบกลับเหล่าอัลฟ่าชุดดำ วิ่งกรูเข้าขวางทาง
“ไม่ได้นะครับ! ยังไงก็ไปไม่ได้จนกว่าจะมีคำสั่-“
“ให้เขาไป..”
เสียงทุ้มเปี่ยมอำนาจแต่ฟังดูอ่อนแรงกว่าที่ผ่านมาดังจากบันได ร่างสูงผิวสองสีย่ำก้าวลงมาช้าๆ ฝีเท้าที่คริสนึกรังเกียจเดียดฉันท์จนไม่อยากหันไปมอง ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรับรู้ถึงการมีตัวตนของคนใจคอเลือดเย็น ทำร้ายเขาได้อย่างสุดแสนอีกแล้ว ต่อให้หนทางข้างหน้าหลังก้าวออกไปจะพบเจออันตราย ก็ยังดีเสียกว่าจมจ่อมทนอยู่ที่นี่ ลูกน้องยอมถอยออกจากคริสตามคำสั่งทันที
“สิง!!? หน้าคุณ..” แอนวิ่งสวนผ่านคริส เข้าไปประคองจับแก้มอัลฟ่าหนุ่มที่บวมช้ำขึ้นสีเขียวอมม่วง
“คุณนิว..ไปส่งคุณคริสที..” สิงโตออกคำสั่งมือขวาที่ยืนช็อคกับใบหน้านายเหนือหัว นิวดึงสติกลับมาได้ แม้ว่าคำสั่งนี้จะมาจากบอสในสภาวะความจำเสื่อม แต่สำหรับเขาแล้ว..คำสั่งนายถือเป็นที่สุด จึงโค้งรับคำสั่งเดินออกไปเตรียมรถโดยไม่มีข้อโต้แย่งใด
คริสกำหมัดจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ฝืนกลืนก้อนสะอื้นขนาดใหญ่ลงลำคอ จุกแน่นแทบหายใจไม่ออก หวานน้อยมองพ่อกับหมอสาวสลับแม่ที่ยืนตัวแข็งทื่อไม่แม้แต่เหลียวมามองพ่อซักนิด และพ่อ..ก็ไม่ยอมมองมาที่แม่เช่นกัน คริสสูดลมหายใจลึกเดินลากกระเป๋าตรงไปยังประตูบ้าน ทว่า..แรงกระตุกดึงที่มือทำให้เขาต้องหลุบตาลงมอง
หวานน้อยจับมือเขาไว้..บีบแน่น...
“หวานน้อยอยู่ที่นี่ดีกว่านะคับ ที่นี่ปลอดภัยกว่า” คริสบอกลูกน้อย เด็กคนนี้เท่านั้นที่เป็นแรงผลักดันให้เขามีชีวิต ทนอยู่ในนรกชังแห่งนี้..แต่ตอนนี้เขาต้องขอโทษเด็กตรงหน้าในใจที่อดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้วก่อนจะสูญเสียความเป็นคนไปมากกว่านี้
“ไม่ค่ะ หวานน้อยจะอยู่กับคุณแม่” เธอกอดเอว กำชับอ้อมแขนรัดแน่นพร้อมซุกหน้าลงกับท้องแม่
“หวานน้อยเป็นอัลฟ่า อัลฟ่าต้องดูแลโอเมก้า จนกว่าคุณพ่อหายป่วย หวานน้อยจะดูแลคุณแม่เองค่ะ” เด็ดเดี่ยวไร้ซึ่งความลังเลส่งผ่านดวงตากลมโตใจแจ๋ว คริสใจอ่อนยวบ รู้ทั้งรู้ว่ามากับเขามีแต่อุปสรรค รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่มีพร้อมทุกอย่างประเคนให้ลูกสาวได้เชิดหน้าชูตา มีชีวิตผาสุกยิ่งกว่าพระราชวัง แต่ลูกก็เลือกที่จะมากับเขา..โอเมก้าธรรมดาเดินดิน
“ตัวเล็กเอ้ย” ยิ้มขำขันเอ็นดู ขณะเดียวกันก็ซึ้งในตัวลูกสาว มือขาวป้อมขยี้หัวอัลฟ่าตัวน้อย ก่อนพากันจูงมือขึ้นรถเบนซ์สีดำที่มีนิวเป็นคนขับรถ ประตูปิดสนิท ล้อรถขับเคลื่อน ห่างออกไปจากตัวบ้านหลังใหญ่ ห่างออกไปจากสวนญี่ปุ่นสวยงาม ผ่านพ้นรั้วเหล็กสีดำที่เขาเฝ้ามองมาตลอด..ห่างออกไปจากทุกสิ่งอย่างตลอดระยะเวลา 8 ปี
ออกไปได้เสียที
มือคลึงรอยแผลเป็นคมฟันบนคอขาว..กัดลึกทำปลอกคอเอาไว้ไม่มีวันจางหายไปชั่วชีวิต ปลอกคอที่ทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันสู่โลกมืดมิดเข้มข้นยิ่งกว่าฟ้ายามรัตติกาล ไร้หมู่ดาว ไร้เมฆา ไร้แสงจันทรา ราวกับคนตาบอดไม่อาจหลุดพ้นจนกว่าเจ้าของปลอกคอปลดปล่อยเสียเอง
แสงสว่างส่องจ้า..อิสรภาพกลับคืน…
ดวงตะวันยามเช้าช่วงสายส่องกระทบทุกสิ่งบนโลกา คริสมองผ่านวิวนอกหน้าต่างโดยโอบกอดลูกน้อยไว้ในอ้อมอก เคล้นคลึงลูบหัวแผ่วเบาจนเธอหลับปุ๋ยโดยที่กอดเอวเขาแน่นไม่ยอมปล่อย
“คุณหนูหวานน้อยพูดจาคล้ายบอสมากนะครับ” นิวชวนคุยระหว่างขับรถ คริสสบตามือขวาแห่งลีโอนิกผ่านกระจกรถก่อนหลุบตาลงพิศมองดวงหน้าขาวกลมแก้มยุ้ยหลับพริ้มในอ้อมแขน
“…ผมไม่ให้หวานน้อยเหมือนไปมากกว่านี้แล้ว” กระชับกอดลูกไว้แน่นอย่างหวงแหนไว้ใกล้หัวใจที่ปิดตายลงและควรปิดไว้เช่นนั้นอย่างที่เป็นมา
.
.
.
น้ำแข็งประคบเย็นบนรอยฟกช้ำบนแก้มขวา เบามือ ระมัดระวังแรงกด ไม่ให้อีกฝ่ายเจ็บระบม แอนพิศมองดวงหน้าคมหล่อเหลาครึ่งซีกที่ลดความหล่อลงจากการร่องรอยชกต่อย หมัดหนักและรุนแรงน่าดูชม ดูก็รู้ว่าคริสซัดเต็มเหนี่ยวทีเดียวจอด เธออดคิดต่อว่าคนที่เก็บกระเป๋าหนีออกจากบ้านเสียไม่ได้กับการใช้ความรุนแรง ขณะเดียวกันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอะไรทำให้คนท่าทีเก็บอารมณ์เก่งอย่างคริสโมโหได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือ
“สิง เจ็บไหม”
“นิดหน่อย..แค่โดนต่อยเอง” สิงโตฝืนยิ้มให้แอน แล้วหันหน้ากลับมามองนาฬิกาหน้าปัดร้าวในมือที่คริสทิ้งไว้ คลึงมือลูบไปมาอย่างนั้น “สิงจำได้แล้วว่าสิงเลิกกับแอนเพราะอะไร”
กึก..
มือเรียวสวยชะงักถุงน้ำแข็งประคบเย็น สิงโตจับมือนิ่มนุ่มที่กอบกุมไว้มาตลอดในห้วงความทรงจำที่เป็นเพียงคนธรรมดาเดินดิน มีชีวิตในฐานะนักศึกษาแพทย์ตั้งไว้ด้วยปณิธานว่าจะช่วยเหลือผู้คนเอาไว้ให้มากที่สุด
“แอนเข้าใจในสิ่งที่สิงทำนะ”
“แอน..กลัวสิงไหม..ตัวตนของสิงหลังจากวันที่เลิกกับแอน” สิงโตถามทั้งเสียงสั่นเครือ เหลียวหน้ามาสบตาคู่สวย
“แอนไม่ได้เจอสิงนานมากจนวันที่สิงอาบเลือดมาคลีนิกของแอน แอนตอบไม่ได้” เธอเว้นวรรคครู่หนึ่ง แล้วกล่าวต่อทั้งรอยยิ้มแสนอ่อนโยนกับฝ่ามือแสนอบอุ่นลูบสัมผัสประคองแก้มคนรักเก่า..เหมือนวันวานที่อยู่ในสถานะ ‘คนรัก’ เป็นเครื่องการันตีความรักบริสุทธิ์ ไม่มีข้อแม้ที่มอบให้ชายหนุ่มตรงหน้า..
“แต่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมา แอนไม่เคยเสียใจเลยที่ครั้งหนึ่งได้รู้จักสิง ได้คบกับสิงและได้พบกับสิงอีกครั้ง”
น้ำตาไหลรินอาบแก้ม สะอึกสะอื้นต่อหน้าหมอสาวราวกับเด็กทารก ร้องไห้ออกมาไร้เสียงคร่ำครวญ ซบหน้าลงกับบ่าเล็กแต่กลับหนักแน่นและเข้มแข็งจนไม่อยากเชื่อว่าเธอมีชะตาชีวิตเกิดเป็นโอเมก้า เขากอดรัดหญิงสาวเอาไว้ คว้ากอดไออุ่นในวันวานแสนโหยหาและวาดฝันอยากถนอมดูแลให้ดีที่สุด แม้ตื่นมาพบกับความจริงน่าเจ็บใจว่าไม่มีวันได้ครองคู่แอน
กาลครั้งหนึ่ง..เป็นเพียงคนธรรมดา มีรักแบบคนธรรมดา ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา
“ส..สิงอยากเป็นหมอ อยากช่วยคน อยากเห็นทุกคนยิ้มดีใจที่หายป่วย..ฮึก..” กล่าวถึงความฝันสูงสุดที่พึงปรารถนา ส่วนลึกในหัวใจ ปรารถนาตอนจบนิทานที่ลงเอยด้วยการเป็นเพียงนายแพทย์ปราชญาแต่งงานมีลูกกับแพทย์หญิงโชติกา มีลูกด้วยกัน สร้างครอบครัวอบอุ่น ใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนธรรมดา
อวสานลงด้วยชะตาฟ้าลิขิต
“สิงไม่ได้อยากเป็นมาเฟีย!!!” เขาร้องสิ่งที่อยู่ในใจ ระบายออกมาให้แฟนเก่าฟัง เธอคนเดียว..ที่เชื่อมเขาไว้กับโลกธรรมดาที่พยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อหนี แต่อย่างที่บอก..คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ต่อให้พยายามหนีแค่ไหน หนทางก็บีบให้กลับมาที่เก่า สู่จุดยืนที่ควรจะเป็น
อยากเป็นเทวดา
แต่สุดท้ายปิศาจจะเป็นอะไรไปได้นอกจาก..ปิศาจ
แอนกัดปากแน่นกลั้นน้ำตาเอาไว้ นึกสงสารคนรักเก่าและสมเพชตัวเองที่ไม่อาจช่วยเหลืออีกฝ่ายได้เลย ทำอะไรไม่ได้ นอกจากลูบหลังปลอบ โคลงศีรษะอิงแนบหัว..ปลอบโยนอย่างที่เธอเคยทำกับในสถานะคนรัก..ทำได้เพียงเท่านี้ ทั้งที่ใจอยากยื่นมือฉุดดึงสิงโตกลับคืนสู่การเป็นคนธรรมดามากที่สุด แต่โลกความเป็นจริงโหดร้ายกว่านิทานปรัมปรา แรงจิกขยุมบนบ่าเล็กทำเอาแอนนิ่วหน้าเจ็บแต่เธอก็ยังทนก่อน ทน..เพื่อเป็นที่พึ่งพิงให้แก่ดวงใจบอบช้ำเกินคณา
“กลิ่นของแอน..” กลิ่นหวานละมุนนุ่มนวลเสมือนชูครีมช็อกโกแลต ความใกล้ชิดตอกย้ำชัดเจนว่าคริสและแอนมีกลิ่นฟีโรโมนแบบเดียวกัน สาเหตุที่ทำให้เขาลงมือทำลายชีวิตโอเมก้าคนหนึ่งในตกนรกทั้งเป็นในความเห็นแก่ตัว ตาคมแดงก่ำจากการร้องไห้หนักมองลำคอระหงที่ยัง..ไร้รอยกัด..
ครองตนไม่เป็นของใคร ไม่ยอมให้ใครสวมปลอกคอ
สิงโตจ้องมองพลางเคล้นคลึงลำคอเบาๆ แอนสบตาตอบ..ตาคมที่เติมเต็มอารมณ์ปรารถนาขึ้นมาเด่นชัด ปลายนิ้วเน้นหนักนวดเฟ้นกดคอมากเท่าไหร่ เธอครางแผ่วเบาตามสัญชาติญาณโอเมก้าร่ำร้องหาอัลฟ่า มือเรียวสวยจิกเกร็งบนแผ่นหลังกว้างแกร่ง ขยำเสื้อยับยู่ยามลมหายใจร้อนถี่แรงโน้มลงรดแถวต้นคอ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักเพียงใด
หัวใจของ แอน โชติกา
“แอน..”
“ส..สิง..สิง”
มีเพียง สิงโต ปราชญา คนเดียว
หมับ!!!!
สิงโตถอยผละจากแฟนเก่า ก้มหน้าหายใจหอบ หลบหน้าแอนที่คอไร้รอยกัดเหมือนเดิม เขากลืนน้ำลายดับกระหายผ่อนลมหายใจถี่แรงเสียจนอกกระเพื่อมสั่นไหวไปทั้งร่างจากการมึนเมากลิ่นฟีโรโมนแสนหวานตรงหน้า
“แอนกลับไปก่อนเถอะ..ก่อนที่สิงจะทำอะไรไม่ดี”
แอนตัวแข็งทื่อ กัดปากแน่น พยักหน้าตอบรับแล้วหิ้วกระเป๋าสะพายเดินออกไปจากบ้าน ทิ้งเจ้าของบ้านไว้เพียงลำพังในห้องรับแขกขนาดใหญ่ กลิ่นชูครีมช็อกโกแลตห่างไกลออกไปจนยากรับรู้จึงทิ้งตัวเอนกายพิงพนักยกแขนก่ายหน้าผาก เลียริมฝีปากแห้งผากที่เกือบเผลอไผลทำกับคนที่เขารู้สึกมากที่สุด แต่ลึกๆก็รู้ดีว่าหากสานต่อเท่ากับว่าเป็นการ ‘นอกใจ’
รู้ผิดชอบชั่วดี..สวนทางหัวใจ
“เจ็บ..” สิงโตคลึงแตะรอยกำปั้นที่ต่อยมาเต็มแรงจากคริส หยิบเอานาฬิกาเรือนหรูที่คนที่เก็บของออกจากบ้านพกติดตัวตลอดแต่ไม่เคยเห็นสวมใส่ซักครั้งบนโต๊ะรับแขกมาพิจารณาต่อ ทั้งน้ำหนัก กลไกไขลานที่ต้องเขย่าเข็มถึงจะเดิน โดยรวมแล้วคาดว่าน่าจะถูกผลิตขึ้นมาอย่างพิถีพิถันประณีตมาก และดูจากทรงแล้ว นาฬิกาไม่ได้รับการเขย่าเลยด้วยซ้ำ เขาสงสัย จึงหยิบมือถือเข้าเว็บกูเกิ้ลค้นหาชื่อแบรนด์และรุ่นตามระบุไว้ด้านหลังนาฬิกา
“เหี้ย! 18 ล้านบาท!!” อุทานหลังเจอราคาเข้าให้
คนที่ให้นาฬิกาเรือนนี้เป็นใคร? เหตุใดบ้าบิ่นกล้าทุ่มขนาดนี้ !!?
ที่ตะขิดตะขวงใจกว่าคือ คริสเป็นภรรยาของเขา แต่กลับไปรับของราคาสูงชะลูด สิงโตโยนเหวี่ยงมือถือลงกับโต๊ะรับแขก มุ่นคิ้วขมวดลงเป็นปม เขม็งมองนาฬิกาเรือนหรู สิ่งของเพียงชิ้นเดียวของคริสที่ทิ้งเอาไว้ในบ้าน
มันเป็นใครวะ? ไม่พอใจ..ไม่พอใจอย่างมาก
“คุณเต” มือซ้ายแห่งลีโอนิกแฟมิลี่เดินผ่านมาพอดี ถูกสิงโตเรียกเข้าพบ เตเดินเข้ามาในห้องรับแขกยืนรอรับคำสั่ง สิงโตโชว์นาฬิกาหน้าปัดร้าวในมือพร้อมกับคำถาม “รู้ไหมใครซื้อนาฬิกาเรือนนี้”
“ก็..บอสไงครับ” หนุ่มอัลฟ่าหน้าไทยกระพริบตาปริบๆ มองนาฬิกาสลับนายเหนือหัว ตาคมกริบร้อนวาบมาฉับพลัน คนที่มอบของขวัญราคาแสนแพงเป็นถึงมาเฟีย ก็ว่าทำไมเปย์ของราคาสูงลิ่วได้ขนาดนี้ แบบนี้มันหยามหน้ากันชัดๆ รู้ทั้งรู้ว่าคริสแต่งงานยังจะทำแบบนี้ได้อีก จิตใจไม่รู้จักศีลข้อสามหรืออย่างไร ขนาดเขาจำไม่ได้เขายังรักษาศีลข้อสามเลย!!
“แฟมิลี่ไหน?”
“ผมหมายถึงบอสนี่แหละครับ ซื้อให้คุณคริส”
ราวกับโดนไม้หน้าสามฟาดหน้า สิงโตหันขวับมองนาฬิกาในมือไม่เชื่อสายตา ตาโตหน้าเหวอนั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกกับคำตอบที่ได้รับรู้ ก่อนจะรีบปรับหน้าเข้ม กระแอมเสียงในลำคอแล้วโบกมือไล่เตให้ออกไปจากห้องรับแขก
“จริงดิ..” ความจริงน่าตะลึง เงิน 18 ล้านบาทไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ จริงอยู่ที่ว่า หากดูจากรายได้ของลีโอนิกแฟมิลี่เทียบสัดส่วนแล้ว ไม่ถึงกับทำขนหน้าแข้งร่วง แต่ราคาสูงขนาดนี้ ก็ไม่ใช่ของที่จะซื้อเล่นเอาสนุกสนานเช่นกัน
ตัวเขากับนาฬิการาคาสูงมาไกลจากอิตาลี
ปัจจุบัน สิงโต ปราชญา เป็นคนแบบไหน?
เป็นอีกครั้งที่สิงโตรู้สึกว่าไม่รู้จักตัวเองเอาเสียเลย ไม่เข้าใจในการกระทำหลายอย่างรวมถึงนาฬิกาในมือ ถอนหายใจลูบหน้าเครียด ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกและไม่แน่ใจว่านึกออกแล้ว มันจะดีกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ไหม
“เฮ้อ..” ถอนหายใจอีกครั้ง ไหนๆคริสก็ทิ้งของเอาไว้ จึงลองเขย่าทดสอบการทำงานดูหน่อย ก็คงไม่เสียหาย..ไขลานเริ่มหมุน ฟันเฟือนกระทบกันขยับเคลื่อน เข็มนาฬิกาทำจากทองคำขยับเดินก้าวแรก..
กริ๊ก!!!!
อัลฟ่าหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย จู่ๆ สลักด้านในเด้งออก เขาอ่านจากเว็บไซด์มานาฬิการุ่นนี้ไม่มีกลไกแบบนี้ เว้นแต่จะสั่งร้านให้ทำเพิ่มก็มีสิทธิ์
“อะไร?” ดวงตาคมสีดำมืดเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัยใคร่รู้
..ดึงสลักโลหะที่เลื่อนออกช้าๆ…
“บอส!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!!! รถแท็กซี่ของคุณแอนโดนดักซุ่มโจมตี!!!!” เตวิ่งกระหืดหอบเข้ามารายงานนายทั้งหน้าตาตื่น สิงโตเบิกตาโพล่งสุดขีดเด้งลุกจากโซฟาอย่างรวดเร็ว
มหัตภัยร้ายถาโถมไม่หยุด
TBC
++++++++++++++++++++++++++
น่าจะอีก 4 ตอน ก็จบภาค 2 แล้ว ที่เหลือจะเป็นสเปเชี่ยลอีก 3 ตอนค่ะซึ่งมีเฉลยปมที่ไม่ได้พูดถึงในภาคหลัก
โดยเฉพาะสเปเชี่ยลสุดท้ายคาดว่าไม่สามารถจบในตอนเดียวได้
ไปก่อนนะคะ บายจ้า มีอะไรไปสครีมในทวิตแฮชแทค #ฟิคปลอกคอ ได้น่อ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

บอสสๆๆๆอย่าหึงตัวเองดิ
มันจะมีฉากหวานฉ่ำ มาฮีลหัวใจพี่บ้างมั้ย!!
แล้วบอสยังรักแอนอยู่เหรอ
หน้าซื่อตาใส แต่ทำไมเราหงุดหงิดบอสมากกกกกกกกก ว่าแต่อะไรอยู่ในนาฬิกา ลุ้นๆๆๆๆ
อ๊ากบอสสส โว้ย !!! หงุดหงิดใจแท้เด้ แง่มๆ
เพราะตอนนั้น ฮีทพอดีนี่นา 555555
ส่วนหนูคริส ขอให้ใช้ชีวิตอิสระให้มีความสุขนะลูก เพราะไม่รู้ตาบ้าผีเข้าผีออกจะมาตามกลับเมื่อไหร่ คริสออกไปแบบนี้จะท้องอีกมั้ยเนี่ยกลัวใจ
จะถึงวินาทีที่รอคอยแล้วสินะ ถึงเวลาต้องเลือกแล้วบอส
ไรท์เก่งมาก เขียนได้สนุก น่าติดตาม
สงสารคริสอ่า
ตอนไม่รักก็โดนกักขัง
พอรักแล้วก็มาบอกเป็นตัวแทน ฮือๆๆ