คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : NU :: หลักการจัดอาหาร ตอนที่1
หลักการจัดอาหาร(ตอนที่1)
สุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาว การศึกษาเรื่องอาหารและโภชนาการจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะยุคปัจจุบันมีการผลิตอาหารในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย บางอย่างไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือบางอย่างก็มีประโยชน์น้อย แต่กินสะดวก การมีความรู้ทางโภชนาการจะช่วยให้เรารู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย หรือดัดแปลงอาหารที่กินสะดวกแต่คุณค่าน้อย ให้เป็นอาหารที่มีคุณค่ามากขึ้นได้ ดังนั้นการจัดอาหารให้เหมาะกับแต่ละบุคคลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญต่อชีวิต
หลักเกณฑ์ในการจัดอาหาร
1. คุณภาพและปริมาณ คุณภาพในที่นี้ หมายถึงคุณค่างทางโภชนาการ คือมีสารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ปริมาณ หมายถึง อาหารที่นำมาประกอบเป็นอาหารับประทานในแต่ละมื้อ ต้องมีปริมาณพอเหมาะกับความต้องการของสมาชิกในครอบครัว คือเพียงพอกับจำนวนสมาชิก และเหมาะสมกับความต้องการของสมาชิกแต่ละวัยด้วย นอกจากนี้จะต้องคำนึงถึงอาหารหรือกิจกรรมที่ต่างกันด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้ความต้องการอาหารต่างกันออกไป ดังนี้
♠ วัยและภาวะของร่างกาย
ทารก หมายถึงเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี อาหารที่ดีที่สุดคือนมแม่ แต่นมแม่จะดีได้นั้น หมายถึงแม่ต้องรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและสร้างน้ำนมได้มาก อาหารที่เหมาะกับทารกต้องเป็นอาหารที่ย่อยง่าย เพราะระบบทางเดินอาหารของทารกยังไม่พัฒนาเต็มที่
วัยก่อนเรียน วัยก่อนเรียนจะเจริญเติบโตช้ากว่าวัยทารก และอยู่ในระยะที่กำลังปรับตัว ควรฝึกนิสัยการกินที่ดีในวัยนี้ แต่ยังควรเป็นอาหารรสอ่อนและย่อยง่าย
วัยเรียนและวัยรุ่น วัยนี้ต้องการอาหารมากขึ้น เพราะร่างกายกำลังเจริญเติบโตและต้องการใช้แรงงานมาก
หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมลูก อยู่ในภาวะพิเศษต้องการอาหารมากกว่าบุคคลทั่วไป เพราะต้องเผื่อแผ่ไปยังลูกด้วย โดยเฉพาะช่วงให้นมลูก แม่ต้องการอาหารไปสร้างน้ำนม และช่วยซ่อมแซมร่างกายมารดาที่ทรุดโทรมเนื่องจากคลอดบุตรด้วย
ผู้สูงอายุ มีความต้องการอาหารน้อยกว่าคนในวัยหนุ่มสาว เพราะร่างกายหยุดการเจริญเติบโต และใช้แรงงานน้อยลง
♠ อาชีพและการใช้แรงงาน มีผลต่อความต้องการอาหารเช่นกัน ทำงานหนัก ออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬามาก ก็ต้องการอาหารมาก
2. งบประมาณและการประหยัด งบประมาณ หมายถึง การจัดอาหารภายในวงเงินที่กะไว้ โดยพยายามเลือกซื้ออาหารที่มีคุณค่าสูงแต่ราคาถูก เช่น ซื้ออาหารตามฤดูกาล ซื้ออาหารที่มีในท้องถิ่น หรือ ผลิตขึ้นเอง เช่น การปลูกผักสวนครัว เป็นต้น ส่วนการประหยัด หมายถึง การประหยัดเงิน แรงงาน เวลา และเชื้อเพลิงในการประกอบอาหาร
♠ การประหยัดเงินค่าอาหาร
เลือกซื้ออาหารและกะปริมาณอาหารให้ถูกต้อง และเป็นรายการอาหารที่สามารถรับประทานได้ทั้งครอบครัว
ประหยัดการสูญเสียอาหารและคุณค่าของอาหารในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ เตรียม ปรุง เช่น ไม่หั่นส่วนที่กินได้ออกไปมากนัก หุงข้าวไม่เช็ดน้ำ ใช้เกลือแทนน้ำปลา
ประหยัดการสูญเสียอาหารในการรับประทาน ไม่กินทิ้งกินขว้าง ตักอาหารแต่พอควร ไม่กินเหลือทิ้งในจาน ถ้าอาหารเหลือรู้จักดัดแปลงให้เป็นกับข้าวชนิดใหม่
ไม่ใช้เงินค่าอาหารอย่างไม่คุ้มค่า เช่น ไม่หลงเชื่อคำโฆษณา ไม่กินอาหารสำเร็จรูปที่ใส่สารปนเปื้อน
♠ การประหยัดเวลาและแรงงาน คือการจัดอาหารที่มีคุณค่าสูง ทำง่าย สะดวกและรวดเร็ว เหมาะแก่ความต้องการของสมาชิกทุกคนและทุกวัย เวลาปรุงก็จัดวางเครื่องใช้ที่หยิบง่าย ไม่ต้องเสียเวลา ใช้เทคโนโลยีหาเครื่องปรุงที่นำมาประกอบอาหารได้ทันที
♠ การประหยัดเชื้อเพลิง การจัดทำอาหารที่ง่ายและเสร็จเร็วก็ถือว่าเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงไปในตัว
3. ความอร่อยหรือนำบริโภค คนเราไม่ได้กินอาหารเพื่อบำบัดความหิวเท่านั้น แต่ยังสนองความต้องการด้านจิตใจด้วย นั่นคือการจัดอาหารอย่างสวยงามน่ารับประทาน เช่น จัดอาหารที่มีสี กลิ่น รส และเนื้อสัมผัสต่าง ๆ กันในอาหารแต่ละมื้อเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร คนไทยมีวัฒนธรรมในการกินอาหารที่เลือกเฟ้นและประณีตมาก ใช้เวลาในการประดิษฐ์อาหารให้สวยงามนาน อาหารแต่ละมื้อก็จัดเป็นชุดหรือสำรับ มีทั้งคาว – หวาน
4. เวลาหรือมื้ออาหาร เวลาหรือมื้ออาหารนั้น จะต้องทราบว่าอาหารชนิดใดเหมาะสำหรับมื้อใด จะได้กำหนดรายการให้แน่นอนไว้ล่วงหน้า เช่น อาหารมื้อเช้า ควรเป็นอาหารที่ปรุงง่าย เสร็จไว ได้แก่ ข้าวต้มกุ๊ย ข้าวต้มเครื่อง ข้าวสวย แกงจืด ข้าวผัด ขนมปัง เป็นต้น เพราะสะดวกในการปรุง และประหยัดเวลา มื้อกลางวันส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียว ปรุงง่าย รวดเร็ว ส่วนมื้อเย็นมักเป็นอาหารหนัก มีหลายอย่าง ถือว่าเป็นอาหารมื้อหลัก มีการปรุงสลับซับซ้อนกว่ามื้ออื่น ๆ เพราะมีเวลามาก ไม่ต้องรีบร้อนไปไหน เป็นต้น
www.health.kapook.com, www.yimwhan.com/board/show.php%3...opic%3D5, www.kbusociety.eduzones.com/th/archives/5430
ความคิดเห็น