ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC-B2ST] A DAY

    ลำดับตอนที่ #2 : II :: Yesterday

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 55


    A DAY
    II : Yesterday
    By blackcc/circle

     

     













                    ดูจุนสวมชุดนักศึกษาตรงตามระเบียบมหาวิทยาลัยเป๊ะก้าวออกจากบ้านในเช้าวันใหม่หลังจากที่นั่งกินข้าวเช้ากับน้องสาวคนสวยที่รายนั้นเองอยู่ในชุดมัธยมปลายปีสามเตรียมพร้อมจะไปเรียนแล้วเช่นเดียวกัน เขากระชับสายกระเป๋าเป้ให้มั่น ขายาวทำท่าจะก้าวออกจากรั้วบ้าน แต่ก็โดนรั้วไว้ด้วยมือเล็กของน้องสาวตัวดี


    “ตัวเองไปส่งเค้าหน่อยสิ”เสียงหวานว่าพลางพยักพเยิดหน้าไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดสงบนิ่งอยู่ภายในรั้วบ้านเดี่ยวขนาดกลางไม่ไกลจากเขตการค้าของเมืองหลวง

    “ปกติตัวเองก็นั่งรถเมล์ไปทันไม่ใช่หรอ เวลานี้หน่ะ”เขาว่าเสียงเรียบ หญิงสาวหน้างอ ส่ายหัวแรงๆจนผมสวยที่ถูกมัดรวบตึงไปด้านหลังสะบัดไปมา

    “ไปส่งเค้าหน่อยนะ เค้าไม่อยากนั่งรถเมล์...มีพวกผู้ชายชอบมายืนเบียด เค้ากลัวโดนลวนลามแบบเพื่อนเค้า”กายุนพูดอ้อนเสียงอ่อน พร้อมด้วยเหตุผลที่ดูจุนคนที่รักน้องสาวยิ่งกว่าอะไรจะต้องไม่ปฏิเสธ

    “ลวนลามหรอ...แบบไหน เล่าให้เค้าฟังซิ”คนผิวเข้กว่าพูดเสียงเครียด กายุนเม้มปากแน่น...ที่จริงเธอกระดากอายเกินกว่าจะเล่าให้พี่ชายตัวเองฟังว่าเพื่อนสนิทของตัวเองโดนรังแกอะไร ถึงจะไม่ได้ถูกกระทำจนเกินเลย แต่ก็สัมผัสลูบไล้เช่นนั้นมันก็โหดร้ายเกินไปกับเด็กสาว

    “อย่ารู้เลย...รู้แค่ว่าเพื่อนเค้าน่าสงสารมาก ตอนนี้ต้องให้ที่บ้านไปรับส่งทุกวัน เค้าเองก็กลัว”สุดท้ายดูจุนก็ต้องยอมเป็นสารถีควบบีเอ็มดับเบิ้ลยูซีรี่ย์หกที่นานๆ จะใช้ขับไปไหนออกไปส่งน้องสาวสุดที่รัก...แล้วเลยไปเรียนเลยเพราะเขาก็ไม่ได้มีเวลามากพอจะขับเอารถไปเก็บได้

     



    สิ่งที่ใครๆ ไม่รู้คือ ครอบครัวของยุนดูจุนร่ำรวยจากธุรกิจกลางคืนที่กระจายไปทั่วกรุงโซล

     

     








     

     

                    ฮยอนซึงหรี่ตามองรถยนต์คันงามที่แล่นเข้ามาในเขตตึกเรียนของคณะอย่างแปลกใจ เขาเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ลึกรู้จริงยิ่งกว่าเอสต้าร์พลัส ดูจุนไม่ชอบเป็นเป้าสายตา ไม่ชอบอวดรวย แต่ไหงวันนี้ขับรถออกมาจากบ้านได้

    “รถใครวะ...สวยมาก เด็กปีหนึ่งชัวร์เลย”บยองฮีออกความเห็น คนอื่นพยักหน้าเชิงว่าเห็นด้วย

    “ไม่ใช่”ฮยอนซึงพึมพำออกมากลางวงสนทนา จุนฮยองที่นั่งจิบโค้กอยู่ข้างๆ เบนหน้ามามองที่เขา ริมฝีปากอิ่มว่าจะเอ่ยถาม แต่รถยนต์คันที่เป็นประเด็นสนทนากลับจอดเทียบข้างๆ โต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่  กระจกรถที่ว่าถูกลดลงช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นตา

    “อารมณ์ไหนขับรถมามหาลัย ปกติขนาดแท็กซี่มึงยังไม่กล้าให้เงินกระเด็น”ฮยอนซึงทักเพื่อนในขะที่ทุกคนมองไปที่ดูจุนอย่างงงๆ ถึงพอจะรู้ว่ามีฐานะแต่ก็ไม่มีใครคิดว่าคนที่มาเรียนด้วยสภาพแบบยุนดูจุนวันนึงมันจะลากบีเอ็มดับเบิ้ลยูมาให้ยลถึงคณะ

    “รวยสัตว์”โยซอบหันไปกระซิบจุนฮยองที่ทำไม่สนใจ ไม่ใส่ใจคนที่ว่า

    “กูก็รวย”ที่พูดก็คือความจริง จุนฮยองเป็นลูกชายบริษัทอสังหาริมทรัพย์ถึงจะมีพี่น้องไว้แย่งสมบัติเยอะแยะไปหมดแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว...เขาเป็นลูกชายคนรองของภรรยาหลวงของคุณยง

    “กูรู้ครับว่ามึงไม่แคร์”โยซอบทำเสียเซ็ง ก่อนจะหันไปชื่นชมดูจุนที่เอาแต่ยิ้มเคอะเขินกับที่กลุ่มเพื่อนแซว

     

    ที่จริงจุนฮยองเองก็สนใจอยู่หรอก..แต่เขามีฟอร์มเกินกว่าจะแสดงออกอะไรแบบนั้น

     

    “หวัดดีจุนฮยอง”ดูจุนเอ่ยทักคนที่นั่งนิ่งไม่สนใจตัวเองด้วยรอยยิ้มกว้าง เพื่อนๆ มองแล้วได้แต่อมยิ้มกับท่าทีของทั้งคู่ จุนฮยองหันมาตามเสียงแล้วทำท่าพยักหน้าให้ไปงั้นๆ ดูจุนยิ้มกว้างเพราะแม้ว่าจะไม่ได้รับการสนใจเท่าที่ควรแต่ว่าจุนฮยองก็รับรู้ว่ามีเขาอยู่บนโลกใบนี้

    “กูเอารถไปเก็บก่อนนะ แล้วเจอกันบนห้องเรียน”พอพูดจบร่างสูงนั้นก็หันตัวกลับไปที่รถทันที

     

     






     

                    ฮงกีเดินมาหย่อนตัวลงนั่งข้างดูจุนในบ่ายของวันนั้น เพื่อนในคณะที่สนิทสนมกันกับพวกเขา ฮงกีเป็นผู้ชายหน้าหวานที่นิสัยประหลาด แต่ก็ไม่ได้เป็นคนไม่น่าคบหาอะไร

    “มึงจะจีบไอ้ดูจุนหรอฮงกี”อีจุนหันมาถามเมื่อเห็นหน้าตากรุ่มกริ่มของเพื่อนต่างกลุ่ม ดูจุนเหลือบสายตาจากไอพอดในมือขึ้นมามองแล้วระบายยิ้ม

    “คุณฮงกีไม่คิดสั้นแบบนั้นหรอก”ดูจุนว่าเสียงเรียบพร้อมกับยิ้มกว้าง คนอื่นๆ หัวเราะร่วนก่อนที่เก้าอี้เรียนจะถูกถีบกระเด็นอย่างแรงแล้วคนที่ถีบก็เดินกระแทกเท้าปึงปังออกไปแบบไม่มีสาเหตุ ดูจุนมองตามแผ่นหลังนั้นไปตาไม่กระพริบ ฮงกีกระทุ้งศอกมาที่สีข้างของเขาเบาๆ ก่อนจะยิ้มกริ่ม

    “ชอบไอ้จุนฮยองหรอวะ”ที่จริงเป็นคำถามที่ใครๆ ก็ชอบได้จากอกัปกริยาทั้งหมดทั้งมวลที่ดูจุนมีมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งจนอยู่ปีสอง ร่างสูงพยักหน้ารับแล้วอมยิ้มเต็มแก้ม

    “ทำไมไม่จีบมันวะ”ฮงกีว่าต่อ ใบหน้านั้นดูเจ้าเล่ห์แต่ดูจุนไม่ได้สังเกตอะไรหรอก เพราะมัวแต่เป็นห่วงว่าจุนฮยองหงุดหงิดอะไร

    “ห๊ะ...หา ไม่หรอก  เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว”ดูจุนหันมาตอบพลางเกาหัวแก้เขิน คนอื่นๆ ยิ้มขำกับท่าทีแต่ฮยอนซึงกลับรู้สึกแปลกๆ

    “ฮงกี จงฮุนวานให้มาบอกว่ากลับไปได้แล้วครับ”ใครสักตนที่มักจะนั่งที่เก้าอี้หน้าสุดของห้องเดินก้มหน้าคางแทบจะชิดกับอกมาบอกฮงกีเสียงเบา คนที่ว่าพยักหน้าหงึกหงักแล้วบอกขอบใจ

    “ขอบใจกีกวัง...”

     

    ดูจุนรู้ว่าฮยอนซึงกำลังสนใจ...















    ---- -

     












                    เสียงโทรศัพท์ดังลั่นห้องนอนเป็นรอบที่สาม ร่างสูงก้าวอาดๆ ออกมาจากห้องน้ำพร้อมด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่พันรอบเอวหนา มือนั้นเอื้อมไปจะรับสายแต่ก็ต้องชะงักเมื่อที่กำลังโชว์บนหน้าจอเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่เขาเมมโมรี่ไว้ว่า





     

    ‘JUNHYUNG’

     







    “ฮา...ฮัลโหล”รับสายเสียงอึกอัก เขารู้สึกเหมือนหัวใจมันจะออกมาเต้นที่นอกอกเสียให้ได้

    “ดูจุนใช่ไหม”ฝั่งนั้นกรอกเสียงมาเนิบนิ่งเหมือนพยายามเก็บกลั้นอารมณ์เอาไว้ ดูจุนครางอืมในลำคอเพราะเขากำลังสั่นเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้

    “พอดีว่ากูเบื่อๆ อยากหาเพื่อนคุย...มึงว่างพอจะคุยกับกูไหม”ไม่ใช่เพราะเสียงอ้อนๆ นั่นหรอกที่ทำให้ใจเขาสั่นขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะคำที่พูดออกมาหรอกที่ทำให้ดูจุนเกือบลืมหายใจ ไม่ใช่หรอก มันไม่ใช่แค่นั้น...มันเป็นเพราะทุกอย่างคือยงจุนฮยองต่างหาก

    “อะ..อื้อ ได้ดิ”

     






     

                    แทนที่ฮยอนซึงจะยิ้มดีใจไปด้วย  คนหน้าสวยกลับขมวดคิ้วเหมือนสงสัยในสิ่งที่เพื่อนสนิทกำลังบอกเล่า ริมฝีปากบางอยากจะถามอะไรดูจุนก็เอาแต่ทำเป็นหูทวนลมไม่รับฟัง

    “มึงไม่เชื่อกูระวังจะเจ็บ..”เขาพูดแค่นั้น ดูจุนเลยหันมาเลิกคิ้วสูงก่อนจะดูหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง

    “กูก็แค่ดีใจที่ได้สนิทกัน กูเจียมตัวตลอดนั่นแหละว่าเป็นได้แค่ไหน”พอว่าจบใบหน้าคมก็ยิ่งหงุดหงิดกว่าเก่า ฮยอนซึงตบไหล่เพื่อนเบาๆ

    “กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่เตือนเอง”ดูจุนพยักหน้า ที่จริงเขาก็ไม่ได้โกรธหรือคิดมากอะไรกับที่ฮยอนซึงพูด แต่ก็นั่นแหละเขาไม่ได้คิดแบบที่ฮยอนซึงคิด ยุนดูจุนมองตัวเองก็รู้ว่าห่างกับจุนฮยองขนาดไหน

     



    ได้เป็นเพื่อน...ก็พอ

     












                    เสียงโหวกเหวกอันเป็นเอกลักษณ์ของอีจุนดังมาจากอีกฝั่งของถนน ดูจุนมองไปตามเสียงนั้นก็เจอกับคนที่อยู่ในบทสนทนาระหว่างเขา จุนฮยองหรี่ตาลงเพราะแสงแดดที่จ้าพอควร ก่อนจะมองมาที่เขาแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ดูจุนยิ้มกว้างตอบไป

    “แค่เห็นหน้าเขาก็ยิ้มปากจะฉีกแล้วนะมึง”ซึงโฮที่โผล่มาจากตรงไหนก็ไม่รู้โผล่หัวเข้ามาระหว่างเขากับฮยอนซึง สองคนสะดุ้งผงะออกจากกันคนละฝั่ง

    “เชี่ย เล่นไรไม่ให้ซุ่มให้เสียง”ฮยอนซึงแหวขึ้นมา ซึงโฮหัวเราะลั่น ก่อนที่สมาชิกที่เหลือจะมาสมทบพอดี

    “มีเลคเชอร์ให้กูลอกไหม”จุนฮยองพูดขึ้นมาเสียงนิ่ง โยซอบรูดซิปกระเป๋าแทบจะทันทีที่เพื่อนสนิทของตัวเองพูดจบ

    “ไม่เอาของมึง...ลายมืออย่างกับแผนที่อวกาศ ดูจุน..มึงมีให้กูลอกไหม”จู่ๆ ก็หันมาพูดกับดูจุนที่กำลังตั้งสติกับการเจอหน้าตัวคนถามเอง ใบหน้าคมมองจุนฮยองแบบอึ้งๆ ก่อนจะรีบรื้อหาสมุดเลกเชอร์ในกระเป๋ามายื่นให้

    “ขอบใจ...ไว้จะคืนนะ”แล้วคนที่ว่าก็ยิ้มให้เขาน้อยๆ แต่กลับเหมือนสวิชต์กดให้ยุนดูจุนหยุดการทำงานของร่างกาย

     

    เมื่อกี๊จุนฮยองเดินเข้ามาใกล้ และยิ้มให้เขา...

     

                   

     

     

     







                    ฮยอนซึงเดินเลี้ยวเข้าไปในมุมของตึกเรียน ขายาวชะงักนิ่งเมื่อเสียงหอบกระชั้นดังขึ้นมาจากด้านในของห้องน้ำชาย คนหน้าสวยพยายามเงี่ยหูฟังว่าเสียงนั่นใช่เสียงแบบที่เขากำลังคิดหรือเปล่า ก่อนจะได้ยินเสียงครางอืมในลำคอ ไม่นานเสียงดานล็อกประตูก็ดังขึ้น เขาเดินย้อนไปก่อนจะแกล้งเหมือนเพิ่งเดินเข้าไปในห้องน้ำ....อยากจะเห็นว่าไอ้คนที่เขามาทำอะไรกันในห้องน้ำมันจะหน้าตาแบบไหนกันบ้าง

    “.......”ฮยอนซึงหรี่ตามองคนตัวเล็กที่ยืนล้างมือนิ่งที่อ่างล้างมือหน้ากระจก ในนั้นมีเพียงคนที่ว่ากับเขายืนอยู่ ฮยอนซึงลืมตัวมองหาคนที่เข้าคิดไว้ว่าจะอยู่ในนั้น แล้วเสียงหวานใต้ทรงผมยาวๆ และแว่นสายตาอันใหญ่จะเอ่ยขึ้นมา

    “มีแค่ผมคนเดียว..คุณไม่ต้องมองหาใครหรอก”เหมือนรู้...ไม่ใช่สิ เขาว่ากีกวังหนะรู้ว่าเขารู้ เจ้าของใบหน้าเล็กมองเขาจากทางกระจกตรงหน้า แทนที่คนที่ว่าจะเขินอายกลับเป็นเขาเสียเองที่พ่ายแพ้แก่สายตาคู่นั้น

    “เมื่อกี๊นาย...”

    “ผมแค่ต้องการ..ก็เลยมาปลดปล่อย”พูดเสียงเรียบโดยไร้ความกระดากอายที่พึงมี ฮยอนซึงกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ในใจก็ออกจะยอมรับอยู่หรอกว่าแอบชอบ แอบมองคนที่ว่านี้...แต่ที่มาทำร้ายตัวเองในห้องน้ำมหาวิทยาลัย คนปกติเขาทำที่ไหนกัน!

    “ถ้าคุณจะไม่ไปบอกใคร ผมจะขอบคุณมาก”กีกวังหันมาแล้วบอกหน้านิ่ง ฮยอนซึงพอยิ่งเห็นดวงตาแบบนั้นเขายิ่งรู้สึกแปลกใจ เลยลองแกล้งถามบางอย่างออกมา เพื่อดูปฏิกิริยาของคน

    “แลกกับการ..ช่วยฉันได้ไหมล่ะ”กีกวังมีแววตาตระหนกไปนิด ก่อนที่เจ้าของใบหน้านั้นจะกดยิ้มมุมปากแล้วตรงเข้ามาดันอกเขาให้ถอยหลังเข้าไปข้างในห้องน้ำย่อยๆ

     

    “ปากกับมือ...คุณฮยอนซึงต้องการแบบไหนหรอครับ”

     







    ------ -

     








                    ดูจุนกดรีโมตปลดล็อกรถยนต์คันงามของตัวเอง ตาคมก้มมองนาฬิกาสปอตสีดำสวยที่ฮยอนซึงกับกลุ่มเพื่อนตอนมัธยมปลายซื้อให้ เขากำลังคิดว่าเส้นทางไหนที่จะพาตัวเองไปรับน้องสาวคนสวยที่โรงเรียนได้ยังไง

    “รถมึงเสียหรอจุนฮยอง”โยซอบถามเสียงเศร้า ดูจุนหันไปตามเสียงก็พบเจ้าของชื่อนั้นยืนหน้ามุ่ยอยู่กับเพื่อนสนิทตัวเล็ก

    “มีอะไรกันหรอ”ตะโกนถามเสียงดังพอควร สองคนที่ว่าหันมาแล้วโยซอบก็ยิ้มกว้างจนตาปิด

    “ดูจุน! พอดีเลย”แล้วโยซอบก็จัดการลากแขนเพื่อนสนิทตัวเองให้เดินมาหาเขา จุนฮยองขมวดคิ้วฉับทำท่าไม่อยากไปด้วย

    “ฝากเอาไอ้จุนฮยองกลับบ้านไปด้วยได้ไหม พอดีกูมีนัดไปกินเค้กกับพวกสาวๆ ของไอ้ซึงโฮ”โยซอบพูดพร้อมรอยยิ้มหวานที่มักจะเปื้อนบนแก้มเสมอ ดูจุนอึ้งกับคำขอร้องของเพื่อนหันไปมองหน้าอีกคนที่ดูเหมือนจะอ้าปากพูดอะไรก็ไม่ยอมพูด เบือนหน้าหนีไปทางอื่นไม่สบตาเขา...




     

    หรืออาจจะเป็นยุนดูจุนเองที่ไม่กล้าสบตาจุนฮยองตรงๆ



     

    “กูกลับรถเมล์เองได้”แล้วจู่ๆ จุนฮยองก็หันมาว่าเสียงเย็นเพราะเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบอะไร ดูจุนอ้าปากเหวอ เขาแค่ประมวลผลไม่ทัน ไม่ได้คิดว่าจะให้จุนฮยองที่เกิดมาบนความสุขสบายและควรได้สบายจะต้องไปลำบากบนรถเมล์ร้อนๆ ในเย็นวันศุกร์ที่รถติดอย่างมหาโหด

    “เด็กที่คาบช้อนเงิน ชามทอง อ่างอาบน้ำเพชรมาเกิดแบบมึงเนี่ยนะจะขึ้นรถเมล์....ไปๆ ขึ้นไปนั่งบนบีเอ็มนู่นเลยไอ้คุณยง นายแม่กับป๊ะป๋ามึงจะแดกหัวกูเอาถ้าเสือกปล่อยให้ลูกชายเขาต้องลำบาก”พูดพลางดันหลังให้เพื่อนตัวสูงกว่าเดินไปที่ประตูข้างคนขับ พลางเอื้อมมือไปเปิดประตูรถให้

    “อะไรของมึงเนี่ย”ถึงจะทำท่าหงุดหงิด ร่างโปร่งก็เอาตัวหายเข้าไปนั่งข้างคนขับแล้วเป็นที่เรียบร้อย โยซอบผุดออกมาจากรถแล้วยิ้มให้ดูจุนพลางขยิบตาเป็นสัญญาณ



     

    โยซอบท่าจะยัดเยียดเขาให้จุนฮยองซะแล้ว

     



    “ขึ้นดิวะมึง
    !”โยซอบว่าเสียงดัง ก่อนจะถอยตัวออกมาปิดประตูให้ฝั่งของจุนฮยอง ดูจุนยิ้มพลางผงกหัวขอโทษโยซอบที่ทำให้หงุดหงิด ก่อนจะพุ่งขึ้นรถไป..

     

     

     















                    สำหรับจุนฮยองบรรยากาศแบบนี้คงไม่ได้อึดอักอะไรเท่าไหร่กับความเงียบสงบบนรถยนต์คันหรู ผิดกับเจ้าของรถที่มีหน้าที่เป็นสารถีที่เหมือนกับว่าอากาศกำลังจะหมดไป....

    “เปิดเพลงนะ”ดูจุนพูดเชิงขออนุญาต จุนฮยองเลิกคิ้วสูง กอดอกหันหน้ามามองเขา

    “รถมึงนะ..จะขอกูทำไม”มันก็จริงแบบที่จุนฮยองพูด เขาจะไปขออนุญาตทำไม ...มือยาวกดปุ่มเปิดเพลง เสียงดนตรีสไตล์อาร์แอนด์บีดังขึ้น อดไม่ได้ที่ดูจุนเองจะฮัมเพลงออกมาอย่างมีความสุข

     

                    จุนฮยองมองภาพใบหน้าคมคายที่ถูกบดบังความหล่อด้วยไขมันจากกระจกที่สะท้อนไปเงาเลือนราง เขาเผลอยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว....












     

    ดูจุนเป็นเพื่อนที่ไม่เหมือนเพื่อน...











    2 be con

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×