ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC-B2ST] A DAY

    ลำดับตอนที่ #3 : III :: Yesterday

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 151
      0
      12 พ.ค. 55

    A DAY
    III
    By blackcc/circle 

     

     












                    ดูจุนคิดว่าตัวเองกำลังฝัน แล้วก็กำลังฝันดีมากๆ เขานั่งอยู่ในร้านอาหารกลางห้างเพื่อรอยัยน้องสาวตัวแสบที่จู่ๆ ก็โทรมาอ้อนเขาที่กำลังขับรถไปเกือบถึงโรงเรียนให้ย้อนกลับไปรอเจ้าตัวที่ห้างซึ่งห่างจากตรงนั้นไม่มากเท่าไรนัก ...กับยงจุนฮยองคนที่เขาชอบมาตั้งแต่แรกเห็น

    “มองอะไร...มีอะไรติดหน้ากูหรอ”จุนฮยองถามเสียงห้วนห้าว ตานั่นมองมาที่ร่างอวบของคนที่เอาแต่มองหน้าตัวเอง ถึงจะทำแบบนั้นแต่ก็แค่เพราะเขาเขินๆ ทำตัวไม่ถูกที่มาโดนใครจ้องหน้าไปยิ้มไปแบบนี้

    “ปละ..เปล่า”ดูจุนเหมือนหลุดจากภวังค์รีบตอบอึกอัก  จุนฮยองขมวดคิ้วแล้วกดยิ้มมุมปากกับท่าทีเหรอหราของอีกฝ่าย ดูจุนเป็นผู้ชายนิสัยน่ารักจากที่หลายคนบอกมา แต่สิ่งที่จุนฮยองไม่เข้าใจคือ คนแบบเขาไปเหมาะสมให้คนดีแบบดูจุนชอบได้ยังไง

    “ก็เห็นมองซะ...ทำไม ชอบกูหรอมึง”แค่อยากจะแกล้งให้ดูจุนตกใจ ให้อายเท่านั้น ยงจุนฮยองหนะรู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่าดูจุนคิดกับเขาเองแบบไหน เขาเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร....ก็เพื่อนคนนึงที่บางทีก็ไม่ค่อยเหมือนเพื่อน

                    ดูจุนมองหน้าคนถามเพราะไม่คิดว่าจุนฮยองจะกล้าถามตรงๆ แบบนี้ เขายิ้มเขินแล้วได้พยักหน้า จุนฮยองขมวดคิ้วแล้วกดยิ้มมุมปาก นิ้วมือที่สวมเต็มไปด้วยแหวนเงินรูปแบบสวยงามหลายวงแตะที่หลอดของตัวเอง

    “แค่พยักหน้า แล้วกูจะเข้าใจไหมล่ะเนี่ยดูจุน”จุนฮยองยังคงยิ้มแกล้ง ถ้าดูจุนยังเอ่อๆ อ่าๆ แบบนี้อีกสักนาทีเขาคงต้องหลุดหัวเราะแน่ๆ แล้วพอกำลังนึกจะขำ ฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็ช้อนตาขึ้นมอง ยกยิ้มราวกับกำลังมั่นใจอะไร...

    “มันเลยคำว่าชอบแล้วล่ะจุนฮยอง...”แผ่ว เบา....แต่ก้องในหัว จุนฮยองคิดแค่ว่าถ้าได้ยินคงไม่อะไรเพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดกันแบบไหน แต่พอมันออกมาจากปากของดูจุนจริงๆ ยงจุนฮยองกลับทำได้แค่นั่งนิ่ง แล้วก็ยิ้มไม่ออก เขาสับสนนิดๆ ไม่ใช่สิ ไม่ได้สับสนหรอก เขาแค่ยังไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่ที่ดูจุนพูดออกมาแล้วก็ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งอยู่ในใจ




     

    ไม่หรอก...เขาไม่ได้หวั่นไหว




     

    “อ่ะ..เอ่อ กูขอโทษ กูไม่ได้...”

    “ไม่หรอก กูถามมึงเองนี่”จุนฮยองพูดได้แค่นั้น โดยไม่สบตาอีกคน ดูจุนไม่ได้ใส่ใจหรอกกับที่อีกฝ่ายไม่มองหน้าไม่สบตาเขา ก็เขาดันพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไป ..ได้แค่เพื่อนก็ดีเท่าไหร่แล้วยุนดูจุน ไม่น่าหรอก ไม่น่าสะเออะไปบอกรักแบบนี้

    “คือ คือกูไม่...”
    “ลองคบกันก็ได้...ถ้ามึงชอบกูจริงๆ ก็ลองคบกัน แต่กูไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย มันอาจจะแปลกถ้าบอกใคร”ดูจุนไม่รู้หรอกว่าจุนฮยองจะสื่อสารอะไรในประโยคหลังๆ เพราะหูของเขามันดับตั้งแต่คำว่าคบกันแล้ว ดูจุนมองหน้าจุนฮยองที่ดูมีแววตาที่หนักใจไม่น้อย เขาไม่รู้ ไม่เข้าใจ และคงไม่อยากเข้าใจ
    “เอาจริงหรอ”ถามจุนฮยองพร้อมด้วยดวงตาที่มีแต่ความหวัง ฝ่ายนั้นยิ้มบางๆ

    “ลองดูไง...กูเองก็เบื่อผู้หญิง แล้วเวลาอยู่กับมึงมันก็ไม่ได้แย่”จุนฮยองไม่ได้บอกว่ารัก ไม่ได้บอกว่าชอบ แต่แค่พูดว่ามันก็ดีที่อยู่กับเขา ยุนดูจุนก็ยิ้มแก้มแทบฉีก

    “ว่าไง จะลองคบไหม”จุนฮยองเร่งรัด ในใจเขามันรู้สึกหวั่นๆ จุนฮยองมีแววตาที่ร้ายกาจแค่ไหนเวลามองกายุนทำไมเขาจะไม่รู้ ...

    “คบกันหรอ...คิดดีแล้วหรอจุนฮยอง”ที่จริงเขาไม่ควรจะถามแล้วรีบคว้าโอกาสไว้ แต่ยุนดูจุนไม่ได้ลิงโลด เขาไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าที่ควรอีกแล้ว เขากลัว...กลัวว่าจะเสียทุกอย่าง

    “ก็ลองคบไปแบบเงียบๆ ไม่บอกใคร ถ้าไม่เวิร์คก็จบ กลับมาเป็นเพื่อนกัน”จุนฮยองว่าเรียบๆ ดูจุนมองใบหน้านั้นอย่างไม่มั่นใจ เขาไม่มั่นใจว่าถ้ามันต้องจบแล้วคนแบบเขาจะทำใจได้




     

    ดูจุนไม่เคยคิดว่าจุนฮยองจะไม่ใช่สำหรับเขา




     

    “กูคิดว่า....”มือที่เต็มไปด้วยแหวนยกขึ้นมาเหมือนบอกไม่ให้เขาพูด จุนฮยองขยับตัวขึ้นมาแล้วยื่นหน้าไปใกล้ดูจุน ริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้าง

    “ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ กูเองก็อยากพิสูจน์ว่าที่จริงแล้วกูกำลังคิดแบบไหนกับมึง”

     

     















    ------ -

     

     










                    กายุนวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะในห้องนั่งเล่นของบ้าน ตากลมสวยมองพี่ชายตัวเองที่เอาแต่ยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่ที่บันไดทางขึ้นห้องนอน รายนั้นตั้งแต่พอเจอหน้ากันแล้ว เอาแต่ยิ้ม พอถามก็ไม่พูดอะไรส่ายหน้าอย่างเดียว พอมองไปที่เพื่อนของพี่ชายก็ได้รับแต่ยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ....



     

    ฮอกายุนต้องการรู้เหมือนกันนะ...



     

    “ตัวเองยิ้มอะไร...ใกล้บ้าแล้วป่ะเนี่ย”พอทนไม่ไหวก็เลยร้องถามออกไปเสียงเรียบ ดูจุนช้อนตาจากหมอนที่กอดอยู่ขึ้นมามองน้องสาวตัวเอง เขายิ้มกว้างแต่กลับตอบเพียงการสั่นศีรษะ

    “เฮ้ย....ตัวเอง ไหวป่ะเนี่ย ยิ้มอะไรขนาดนี้ นี่ตัวยังไม่หุบยิ้มเลยนะตั้งแต่เจอกัน เค้าพาไปหาหมอไหม”เด็กสาวขมวดคิ้วแล้วทอดมองพี่ชายตัวเองอย่างห่วงใย ดูจุนหัวเราะในลำคอ แล้วตอบน้องสาวเสียงใส

    “เปล่า แค่มีเรื่องให้อารมณ์ดี พี่ล็อกบ้านแล้วขึ้นข้างบนก่อนนะ เราก็รีบขึ้นห้องอ่านหนังสือได้แล้ว”ดูจุนพูดแค่นั้นแล้วก็เดินหลีกไปจัดการประตูบ้านและหน้าต่างที่ปิดสนิท ก่อนจะหายตัวเข้าห้องไป กายุนมองตามแล้วได้แต่เก็บวามสงสัย ก่อนจะสะบัเความคิดของตัวเองออกจากหัว แล้วเข้าห้องนอนไปอีกคน

     



     

     

                    ดูจุนไม่เคยมีแฟนทั้งที่เมื่อก่อนมีสาวๆ มาชอบกันเป็นพรวนโดยไม่รู้ว่าเหตุอะไร แต่นั่นไม่ได้สำคัยเท่ากับการที่เขาไม่รู้ว่ามีแฟนต้องทำยังไง แล้วด้วยแฟนคนนั้นคือยงจุนฮยอง คนที่เป็นรักครั้งแรกคนนี้...


                    เสียงโทรศัพท์ดังลั่นห้องจนเจ้าของของมันสะดุ้งโหยง ดูจุนมองหน้าจอแล้วได้แต่ใจสั่น เบอร์โทรที่โชว์อยู่คือเบอร์ของจุนฮยอง ดูจุนกดรับแบบไม่ต้องคิด



    “ฮัลโหล”กรอกเสียงสั่นไปตามคลื่นสัญญาณ ปลายสายเงียไปนิดแล้วตอบกลับมา

    “ถึงบ้านแล้วหรอ”เสียงเรียบนิ่งตามประสายงจุนฮยอง แต่ดูจุนกลับไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นชาเลยสักนิด

    “ถึงแล้ว...จุนฮยอง คือ เอ่อ”ดูจุนกำลังประหม่าแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหนต่อ เจ้าของชื่อที่เขาเรียกเงียบเหมือนรอจะฟัง แล้วเสียงหัวเราะใสๆ ก็ดังลอดเข้ามา

    “คือ เอ่ออะไรวะ หื๊ม”จุนฮยองทำเสียงขึ้นจมูกในท้ายประโยค น้ำเสียงที่ยังติดขำนั่นบอกให้รู้ว่าจุนฮยองมีความสุข

    “ก็..เปล่า แค่ไม่รู้จะพูดอะไร”พอพูดจบทุกอย่างก็เงียบลง ดูจุนยังคงนิ่งรอว่าอีกคนจะตอบอะไรมาไหม จนเขาเองที่อึกดอัดแล้วก็ต้องพูดไป

    “ทำไรอยู่”สั้นๆ ได้ใจความและสิ้นคิดไปในเวลาเดียวกัน เขาแอบได้ยินเสียงถอนหายใจเบาบางก่อนที่น้ำเสียงที่ไม่ว่าจะฟังยังไงก็หวานจะตอบมา

    “รอให้มึงพูดอะไรสักอย่าง...ถามจริงๆ คุยกับกูมันน่าเบื่อมากใช่ไหม ทำไมเวลากูโทรไปมึงเอาแต่เงียบ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยถามวะ”จุนฮยองเสียงหงุดหงิด แล้วถ้าอยู่ด้วยกันดูจุนคงได้เห็นหน้าเหวี่ยงๆ ของคนมีแก้มพอน่ารักคนนี้แน่ๆ

    “ไม่..ไม่เบื่อหรอก ถ้าเป็นมึงพูด ยังไงก็ไม่มีวันเบื่อ”ไม่ใช่แค่พูดหรอกที่ยุนดูจุนจะไม่เบื่อ ไม่ใช่แค่นั้น ทุกอย่าง ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นยงจุนฮยองต่างหากที่เขาไม่มีวันเบื่อ

     





    ------ -






     

     

                    ฮยอนซึงโดนโยวอบลากมากินไอศกรีมด้วยตอนเย็นแล้วก็เลยลากกินต่อไปที่คาราโอเกะต่อ ในที่นั้นมีสาวๆ อยู่ไม่กี่คนซึ่งล้วนแล้วก็เป็นกิ๊กของพวกซึงโฮทั้งนั้น



     

    มันไม่ได้น่าจะอยู่ต่อเลยสักนิด



     

    “กลับได้ยังโยซอบ”ฮยอนซึงหันไปถามเพื่อนตัวเล้กที่ยังคงแหกปากโชว์พลังเสียงอยู่กลางห้อง โยซอบหรี่ตามองมาที่เขาแบบไม่พอใจน้อยๆ ก่อนจัดมือใหญ่ให้ไปไกล ฮยอนซึงเดินคอตกกลับไปที่เบาะที่หมายจะนั่ง แล้วนึกได้ว่าเขาเองอยากบุหรี่อยู่หน่อยๆ เลยถือโอกาสหลีกตัวไปก่อน



     

                    ทางเดินของร้านทอดยาวเชื่อมต่อจนสุดทาง ตาสวยมองห้องคาราโอเกะไปเรื่อย จนเลี้ยวก้าวเข้าไปในห้องน้ำคาราโอเกะ พอดีกับที่ใครอีกคนที่เดินเลี้ยวมาเหมือนกันชนเขาเข้าพอดี สองคนรอฮยอนซึงที่หลักดีกว่าคว้าเอวของเด็กที่ตัวสูงกว่ามาไว้ไม่ให้ล้ม

    “ขะ..ขอบคุณครับ”สองสายตาประสานกันนานพอควรก่อนที่คนนั้นจะได้สติแล้วถอยไปจากอกของเขา ขายาวก้าวไปไกลแล้วหันมายิ้มให้ ฮยอนซึงทำได้เพียงแค่มองตามไปราวกับถูกใจ

     



    แต่กับกีกวัง จางฮยอนซึงก็ถูกใจ สนใจและได้ใจ

     



     

    “อ้าว...”พึมพำในคอเมื่อเห็นที่แว๊บมาในหัวเมื่อครู่เดินไปทางเดียวกับคนเมื่อครู่ ฮยอนซึงเลยพักเรื่องบุหรี่ไปเพื่อแค่ตะเดินตามไปดูกีกวังว่าจะไปไหน

    “ไอ้ฮยอนซึง!”เสียงเล็กแหบของเพื่อนสนิทร้องเรียกจากด้านหลัง ฮยอนซึงหันกลับไปมองโยซอบแล้วขมวดคิ้วเหมือนเวลาโดนขัดใจ

    “อะไร เหวี่ยงเชี่ยไรเนี่ย กูเห็นอยากกลับเลยมาเรียก จะกลับไหมตกลงไม่กลับกูจะได้ไปร้องเพลงต่อ”โยซอบพอเหนวว่าเพื่อนสนิทชักสีหน้าใสยังไงแล้วดันทำแบบไม่มีเหตุผลด้วยก็เลยเหวี่ยงไปก่อน ก่อนจะโดน ฮยอนซึงเลิกคิ้วสูงริมฝีปากบางอ้าจะอธิบาย

    “เฮ้ย! นั่นอีกีกวังนี่หว่า มากับใครวะหล่อเชียว”ไม่ใช่แค่พูด โยซอบยังชี้ไม้ชี้มือไปที่หน้าห้องร้องคาราโอเกะห้องในสุดพร้อมกับทำท่าทางสนใจ ฮยอนซึงหมุนตัวหันควับไปมองตามมือเพื่อน ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำให้รู้สึกเหมือนโลกมันหยุดหมุน

     

    อีกีกวังกำลังกอดใครสักคนอยู่ตรงนั้น

     

    “แฟนแน่เลยว่ะ”โยซอบเดินมาหยุดยืนข้างๆ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้เขา ฮยอนซึงเม้มริมฝีปากแน่น เขาไม่ได้ฟังเพื่อนพูดสักคำ ที่ที่อยากทำที่สุดคือเดินไปกระชากผู้ชยตัวเล้กคนนั้นออกมาจากวงแขนของใครอีกคน กระชากมาถามให้รู้ว่ามีความสุขมากไหมที่ได้ปั่นหัวเขา

     

    ที่สำคัญ...จางฮยอนซึงไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร!

     

    “เฮ้ย..ฮยอนซึง เฮ้ย!”แรงตบที่ไหล่ทำให้สติของเขาหลุดกลับมา โยซอบกำลังมองที่เขาอย่างไม่เข้าใจ

    “มึงโอเคไหม ทำไมทำหน้ายุ่งขนาดนั้น”น้ำเสียงหวานว่าอย่างห่วงใย ฮยอนซึงแกล้งยิ้มแล้วส่ายหัว

    “มึงร้องเพลงต่อก็ได้นะ แต่ว่าให้ไอ้ซึงโฮไปส่งได้ไหม”เพราะยังโยซอบเป็นลูหชายคนเล็กของบ้าน คุณพ่อคุณแม่ของมันเลยออกอาการเป็นห่วงมากเป็นพิเศษ เพื่อนตัวเล็กพยักหน้า

    “มึงจะกลับเลยหรอ”น้ำเสียงที่ถามไม่ได้บ่งบอกว่าสนใจเท่าไหร่ ฮยอนซึงเผลอตัวส่ายหัวก่อนจะหันมามองหน้าโยซอบที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์

    “อื้อ...กลับเลยแหละ”โยซอบเงยหน้ามาพยักหน้ารับรู้ ขาเล็กหันกลับไปที่ห้องร้องเพลงของตัวเองแล้ว ฮยอนซึงทำเพียงแต่มองให้แน่ใจว่าเพื่อนสนิทลับตา ก่อนจะกลับมาสนใจคนอีกคู่ที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น

     









    ------

         








               ดูจุนวางแก้วน้ำแข็งและกระป๋องน้ำอัดลมสีแดงสดไว้ตรงหน้าคนรักของตัวเองที่นั่งเขี่ยข้าวรออยู่กลางโรงอาหาร จุนฮยองช้อนตามายิ้มรับ ก่อนที่ดูจุนจะขยับตัวให้นั่งเยื้องไปจากจุนฮยองอีกสองที่เพื่อไม่ให้เพื่อนคนอื่นๆ สงสัยในความเปลี่ยนแปลง

    “อร่อยไหม”จุนฮยองเป็นคนเริ่มพูดก่อน ดูจุนหันมามองแล้วพยักหน้าเบาๆ รับ

    “โค้กหนะไม่กินเยอะได้ไหมจุนฮยอง”จู่ๆ ก็ออกปากพูดอะไรที่คิดจะพูดกับคนที่ว่ามานานออกมา คนที่ถูกขอร้องขมวดคิ้วพลางเหลือบสายตามามอง

    “มันกัดกระเพาะแล้วก็ทำให้กระดูกผุด้วย...แค่เป็นห่วงหนะ ถ้าจุนฮยองจะไม่ทำก็ไม่เป็นไร”ดูจุนรู้ดีว่าการบอกให้ยงจุนฮยองลดละเลิกโค้กมันเหมือนการสั่งลงมีดที่คอตัวเอง แต่ถึงจะแบบนั้นคนแบบยุนดูจุนก็อดไม่ได้จริงๆ

    “จะพยายามลดแล้วกัน....เพื่อมึง”รอยยิ้มน้อยๆ ผุดที่มุมปากอิ่ม ดูจุนมองได้แค่แวบเดียวก็ต้องละสายตา เขายังใจไม่แข็งแรงพอจะมองรอยยิ้มแบบนั้นแล้วจะชินได้





     

    มันเหมือนฝันเกินไป...





     

                    ไม่นานจากนั้นกลุ่มเพื่อนก็ทยอยกันมานั่งประจำที่ เสียงพูดคุยโหวกเหวกตามประสากลุ่มมนุษย์ผู้ชายดังไปทั้งบริเวณนั้น ดูจุนกับจุนฮยองที่อยู่ในกลุ่มมักจะเงียบอยู่แล้วเลยทำได้แค่นั่งฟังแล้วก็หัวเราะไปตามที่เพื่อนว่า หลายครั้งที่เผลอสบตาแล้วต่างคนต่างก็เบือนหลบกัน

     

    ถึงเขาจะไม่ได้รู้สึกถึงความหมายอะไรจากแววตาเย็นชานั่น..แต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ถูกมา

     

    “มึงดูอารมณ์ดีนะกูว่า”ฮยอนซึงกระทุ้งศอกใส่เขาแล้วเอ่ยเสียงนิ่ง ดูจุนเลิกคิ้วสูงแล้วทำท่าเหมือนไม่ใช่

    “กูก็แบบนี้ประจำ...มึงเองหรือเปล่าที่หงุดหงิดอะไร”ไม่ใช่ว่าเขาจับไม่ได้ถึงอะไรบางอย่างจากตัวเพื่อน ฮยอนซึงเริ่มเปลี่ยนไปมาสองสามวัน แต่วันก่อนๆ มันแค่ดูอารมณ์ดีผิดกับตัว ไหงวันนี้ดูจะไม่สบอารมณ์กับอะไรบางอย่าง

    “เปล่า”สั้นๆ ได้ใจความแต่ดูจุนรู้ว่าไม่ใช่แบบนั้น คนตัวอวบผิวคล้ำคิดว่าป่วยการจะเถียงอะไร คนอย่างฮยอนวึงถ้าจะเล่าเดี๋ยวก็พูดออกมาเอง

    “อาทิตย์หน้าไปทะเลกันไหมมึง”บยองฮีถามขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

    “อาทิตย์หน้าสอบ...มึงยังจะเที่ยวอีกหรอ อ่านหนังสือเหอะหนวด”โยซอบขัดขึ้น เพื่อนคนอื่นหัวเราะกับสรรพนามที่เพื่อนตัวถูกเรียก

    “หลังสอบดิ ไปพักที่บ้านกู”จุนฮยองที่นิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้นมาบ้าง ทุกคนหันไปสนใจคนที่ว่าทันที

    “บ้านมึงที่เซจูป่ะ”โยซอบรู้ดีเพราะเคยไปมาหลายครั้ง จุนฮยองพยักหน้า

    “เอาดิ ไปๆ”อีจุนเป็นต้นเสียงแล้วคนอื่นๆ ก็เลยตอบรับแบบนั้นตาม จุนฮยองแกล้งกวาดสายตามองเพื่อนด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยุดที่ใบหน้าคม

    “มึงก็ไปด้วยกันนะ ร้านมึงมึงก็ให้น้องสาวมึงดูแลไป..”พอจุนฮยองพูดจบเสียงของทั้งหมดก็เงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างต่างมองหน้าจุนฮยองกับดูจุนสลับกันไปมา

    “แต่..”ดูจุนก็รู้อยู่หรอกว่าเพื่อนกำลังมองแบบสนใจแต่เขาควรพูดอะไรสักอย่างเป็นการตอบ

    “ถือว่าไปกับกู..นะมึง ไปด้วยกัน ไม่มีมึงกลุ่มเราจะสนุกได้ไง”เสียงครางฮือในลำคอดังขึ้นมาพร้อมกับแบบไม่ต้องนัด โยซอบเผลอตัวเขย่าแขนอีจุนด้วยความเขินที่พวยพุ่ง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นดูจุนแค่พอฟังทั้งน้ำเสียงทั้งคำพูดของเพื่อนสนิทตัวเองแล้วแก้มกลมๆ กลับแดงมาเสียดื้อๆ

    “อื้อ..ไปก็ไป”ทำเป็นตอบรับแบบเสียไม่ได้ทั้งที่จริงเขาแทบจะวิ่งขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าตึกเรียนแล้วตะโกนให้โลกรู้ว่าจุนฮยองชวนเขาไปเที่ยวค้างอ้างแรม

    “ทำเป็นไม่อยากไป ...กระแดะเกินไปแล้วไอ้อ้วน!”ฮยอนซึงกัด คนอื่นเลยหัวเราะออกมากลบเกลื่อนว่ากำลังแปลกใจ จุนฮยองแสร้งทำไม่รู้เรื่อง

    “อะไร...กูก็อยากไปนั่นแหละ แค่ก็เป็นห่วงกายุนไง”ดูจุนแก้ตัว ฮยอนซึงเบ้ปากใส่

    “เดี๋ยวน้องมึงก็ชวนฮยอนอา จียุนมาอยู่เป็นเพื่อน”พูดจบดูจุนก็พยักหน้า การสนทนาในกลุ่มเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อยจนใกล้เวลาเข้าคลาส ถึงได้แยกย้ายไปเรียนตามห้องของตัวเอง

     




     

     

                    ฮยอนซึงเรียนในเซคชั่นนี้คนเดียวโดยมีเพื่อนในคณะอีกไม่กี่คนที่หล่นมาอยู่เซคชั่นนี้ เจ้าของใบหน้าสวยหงุดหงิดทันทีเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินมานั่งที่ข้างกัน

    “นั่งด้วยนะครับคุณฮยอนซึง”ถึงจะขออนุญาตแต่ร่างเล้กนั่นก็หย่อนตัวลงข้างๆ เขาแล้วเรียบร้อย

    “จะขอทำไม ถึงไม่ให้ก็จะนั่งอยู่ดีไม่หรอ”เขาหงุดหงิดเพราะภาพมันยังคิดตา กีกวังยิ้มกว้างวางมือเล้กลงบนหน้าขาของเขา

    “หงุดหงิดอะไรครับ ให้ผมช่วยคลายเครียดให้ไหม”เลื่อนมือลูบขานั้นเบาๆ ดวงตาเล็กช้อนมองหวานช่ำ ฮยอนซึงนึกเจ็บใจตัวเองที่กำลังหวั่นไหว




     

    แบบที่บอก..เขาไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร




     

    “ถ้าแค่ที่เคยช่วยหนะไม่หายเครียดหรอก มันต้องมากกว่านั้น”ฮยอนซึงบอกเสียงเย็น ในความหมายของเขาเขาไม่ได้ต้องการเซ็กหรอก เขาแค่อยากถามให้รู้เรื่องมากกว่า แต่พอคิดได้ว่าจะไปถามอีกคนในฐานะอะไร เขาก็ต้องหยุดความคิดของตัวเอง

     

    จางฮยอนซึงกับอีกีกวังความสัมพันธ์แค่คู่ขา!











    2 be con

    taLk*
    #ฝากด้วยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×