คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SNARE :: II
II ‘
Just gonna stand there and watch me burn
ว่ากันว่าคนเรามีพื้นฐานอยู่บนความเห็นแก่ตัว ต่างคนต่างมันสิ่งนั้นด้วยกันเสมอ อาจแปลกที่ต่างคนต่างมากน้อยไม่เท่ากัน แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครที่ไม่มีมัน
แจ็คสันหวังไม่รู้ว่าพาตัวเองมาอยู่บนที่นอนตั้งแต่เมื่อไหร่ สติที่เคยมีครบมันถูกกระชากไปแบบไม่ทันรู้ตัว นาฬิกาดิจิตอลที่หัวเตียงบอกเวลาเกือบตีสี่ ในหัวยังคงคิดวกวนถึงเรื่องต่างๆ ที่เคยผ่านมา ตลอดเวลาเกือบสามปี คำพร่ำรักว่ามากนักหนา คำเลิกราที่ไร้น้ำใจ ...มันลืมไม่ได้...
เขาเกลียดคนคนนั้น...แต่เหมือนจะไม่มากพอ
“.....”จะต้องทำยังไงเมื่อที่เคยคิดไว้ในช่วงที่จบความสัมพันธ์แรกๆ มันไหลมาจมความดีงามในใจ เรื่องที่เคยเปรยไว้กับเพื่อนสนิททั้งสองถูกปลุกขึ้นมาเพราะคำพูดบ้าๆ ของแจบอม...แจ็คสันหวังไม่รู้ตัวเลยว่าวางแผนการณ์ไว้หมดแล้ว มารู้ตัวเองอีกทีก็เหลือแต่การลงมือทำ
‘จะทำอะไรก็คิดดีๆ ทำแล้วเกิดประโยชน์อะไร มันทำให้อะไรมันดีขึ้นไหม’
จำได้ว่าจินยองบอกเขาแบบนี้ แค่มันเหมือนไม่ได้ทำให้การตัดสินใจมันสิ้นสุดลงได้เลย ในเมื่อทุกอย่างที่ค้างในใจมันยังคงไม่จางหาย
ยังจำเขาได้หรือเปล่า
เคยมีเขาในความทรงจำไหม
ตลอดเวลาที่คบกัน...รักหรือแค่แก้เหงา
“มึงลองเจอเขาสักครั้งดิ แล้วค่อยถามตัวเองว่าจะทำยังไง”แจบอมกรอกเสียงมาจากปลายสาย แจ็คสันที่กำลังรู้สึกเหมือนหัวใจถูกเหยียบซ้ำทุกครั้งที่เห็นหน้ารูมเมทที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยวนไปวนมาผ่านสายตา ตอนนั้เขาทำได้เพียงทิ้งตัวลงกับที่นอน หลับตา แต่ความรู้สึกยังคงรับรู้เสมอว่ามาร์คยังอยู่ตรงนั้น
“กูจะลองคิดดู”แจ็คสันหวังแค่อยากจะทำอะไรสักอย่างให้ตัวเองหลุดพ้นจากความเจ็บปวดที่เคยมี อยากจะหลุดออกจากเส้นความรู้สึกที่ยังคงขังหัวใจเอาไว้..... มันบางเบาแต่เขาไม่กล้าข้ามไป
_______ INSNARE________
มาร์คต้วนกำลังแต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอกหลังจากมีสายจากคนรักเข้ามา รูมเมทที่ดูเงียบๆ ไปตั้งแต่เมื่อคืนลุกขึ้นมานั่งมองเขา แววตาที่เคยดูเป็นมิตรหมองลงอย่างประหลาด
“ฉันจะไปข้างนอกกับแฟน นายเอาอะไรไหม”แจ็คสันมองแล้วส่ายหัวเบื่อๆ ขายาวทำท่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่อยู่ๆ ก็หันหลังกลับมามองที่คนตัวขาวซึ่งกำลังดึงกางเกงยีนส์ขึ้นมาจากหัวเข่า โดยที่มีเพียงชั้นในสวมปกปิดร่างกายไว้ตัวเดียว
“ไม่พาแฟนมาที่ห้องบ้างล่ะ ฉันไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ”บอกเรียบๆ เพราะที่จริงในใจของเขาเองก็ยังอยากจะเห็นหน้าคนคนนั้นอีกสักครั้ง
“ได้หรอ”เพื่อนร่วมห้องดูยินดีเมื่อได้ยินว่าต้อนรับ แจ็คสันยิ้มตามเมื่อเห็นว่าคนตรงนั้นดีใจแค่ไหน
“ได้สิ”ตอบสั้นๆ มาร์คหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดพิมพ์อะไรสักอย่างแต่เขาไม่ได้สนใจแล้ว แจ็คสันหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้ตรงเก้าอี้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
เสียงประตูหน้าห้องลั่นพอดีกับเสียงฝักบัวที่ถูกปิดลง ร่างหนาฉวยเอาผ้ามาซับหยดน้ำที่ยังคงเกาะพราวอยู่บนผิวเนื้อและปลายเส้นผม ก่อนจะใช้มันพันรอบสะโพกอย่างหมิ่นเหม่เพราะต้องการเพียงจะปกปิดส่วนนั้นเอาไว้ มือใหญ่เอื้อมไปจะเปิดประตูห้องน้ำ พอดีที่สายตาไปสะดุดกับภาพของตัวเองในกระจกที่มีฝ้าไอน้ำเกาะอยู่ เขาเอื้อมตัวใช้แขนแกร่งเช็ดมันออก ก่อนจะมองดูมัดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องของตัวเองที่ขึ้นมาเป็นรูปอย่างชัดเจน
แจ็คสันเปิดประตูออกจากห้องน้ำ เสียงหวานของใครบางคนที่เคยหูดีลอยเข้ามากระทบโสตประสาท เขาค่อยๆ หันไปมองตามเสียง พอดีกับที่ทั้งคู่ที่นั่งคลอเคลียกันอยู่บนที่นอน
“อ้าว..”ไม่รู้จะทำให้สองคนนั้นออกจากมิติที่สร้างขึ้นมายังไงทั้งๆที่เขารู้สึกว่าจะยืนไม่ไหวเลยส่งเสียงเท่าที่ทำได้ไปให้ มาร์คสะดุ้งผละออกจากคนรักที่ยังเคลิบเคลิ้มและเหมือนกับยังเมารสริมฝีปากของคนรักอยู่
“แจ็คสัน เอ่อ....”ดูเหมือนชื่อของเขาจะทำให้คนที่มาใหม่สร่างได้ไม่ยาก เจ้าของรูปร่างเล็กหันมองมาที่เขา แววตาสดใสที่เคยใช้มองกันเหลือเพียงความตระหนก
“หืม?”เลิกคิ้วทำเหมือนไม่คิดอะไรและหันไปหยิบชั้นในในตู้เสื้อผ้ามาสวม มาร์คดึงมือคนรักเบาๆ ให้ลุกจากที่นอน คนที่ว่ายังคงมองมาที่เขาไม่ละสายตา แจ็คสันเอียงหน้าไปมองเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกระตุกริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างนึกสมเพช
“นี่แจ็คสันรูมเมทฉัน แจ็คสันนี่แบมแบมแฟนฉันเอง”แจ็คสันหันกลับไปมองทั้งคู่ แววคมบอบช้ำมองคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้มขมขื่น แบมแบมยิ้มให้ รอยยิ้มไร้เดียงสาแบบที่เขาเคยเห็น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เหมือนกับว่าไม่เคยรู้จัก ราวกับเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้า แจ็คสันที่ทำได้เพียงยืนนิ่งมองคนที่ยังคงน่ารักเสมอในสายตาของเขา
“ครับ ยินดีครับแบมแบม”
_______ INSNARE________
วันนี้ฝนตกหนักจนมองไม่เห็นอะไรนอกหน้าต่างเลยตั้งแต่เช้า มาร์คในชุดนักศึกษาเต็มยศสำหรับวันเปิดเรียนวันแรก เด็กหนุ่มวางกระเป๋าลงกับเตียงอย่างเซ็งๆ เพราะตั้งใจจะเข้าเรียนวิชาแรก แล้วยังนัดแนะกับเพื่อนซี้ไว้แล้วว่าเจอกันที่ห้องเรียน ทว่าอุปสรรคตรงหน้านี่เกินเขาจะฝ่ามันไปจริงๆ
“ไม่ไปเรียนหรอ”เมื่อเห็นว่ารูมเมทคลายเนคไทด์นักศึกษาเลยอดที่จะถามไม่ได้ มาร์คเงยหน้ามายิ้มจางๆ เพราะสองสามวันมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่แจ็คสันเป็นคนเริ่มบทสนทนา หวังว่ามันจะคลายความอึดอัดที่ไม่รู้สาเหตุระหว่างเขาสองคนลงไปบ้าง
“ฝนตกหนักขนาดนี้ ฉันตากฝนไปเรียนไม่ไหวหรอก”บอกตามตรงพลางทำท่าจะทิ้งหัวลงกับที่นอน แจ็คสันมองนิดนึง แล้วเดินมาดึงไทด์สีเข้มของคนตัวผอมเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มตัวลงนอน มาร์คมองคนที่ว่างงๆ รูมเมทตัวหนากระตุกมือดึงฝ่ายนั้นเข้ามาใกล้จนแทบได้ยินเสียงหายใจ
“เดี๋ยวชุดยับ..ไปกับฉันสิ เดี๋ยวให้แจบอมไปส่ง”ไม่รู้เหมือนกัน มาร์คต้วนเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแค่โดนสายตานิ่งๆ นั่นมองเขาก็พยักหน้าแล้วก็เดินตามอย่างว่าง่ายโดยไม่มีเหตุผล
รถแล่นมาจอดหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์ในเวลาไม่ถึงสิบนาที มาร์คชั่งใจอยู่ครู่นึงเพราะด้านนอกตัวรถยังคงมีฝนตกหนักกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ..ร่มก็ไม่มี
“แจ็คสัน ร่มอยู่นั่นหนะ มึงลงไปส่งมาร์คดิ”จินยองว่าพลางเพยิดหน้าไปที่ใต้กองหนังสือหลังรถ แจ็คสันหวังทำตามเพื่อนบอกอย่างว่าง่าย แขนยาวเอื้อมไปหยิบร่มคันใหญ่สีสันแสบทรวงมาในมือ
“ไปกัน”แจ็คสันยิ้มให้ ก่อนจะเปิดประตูก้าวลงจากรถไปก่อน ละอองฝนสาดใส่เสื้อพอเปียก กางร่มรอให้เขาลงตามมา มาร์ครู้สึกประหลาดที่เห็นว่าเพื่อนร่วมห้องที่รู้จักกันเพียงไม่นานและไม่ได้สนิทสนมอะไรกันเท่าไหร่นักกลับทำดีด้วยแบบนี้
มันออกจะดีเกินไปนิด
“มาสิ.. ฉันไปส่ง”เร่งด้วยถ้อยคำสุภพและรอยยิ้มแสนดี เขาก้าวลงจากรถโดยที่แทบไม่โดนฝนสักหยด แจ็คสันไปส่งจนถึงใต้ตึกเรียน ร่างหนาโบกมือลาแล้วทำท่าจะเดินไป มาร์คหันหลังจะขึ้นบนตึก ทว่ากลับถูกเรียกเอาไว้
“เดี๋ยวมาร์ค!”ร้องเรียกเสียงดังจนคนที่อยู่แถวนั้นต้องหันมามอง เจ้าของชื่อหันกลับมาแล้วเลิกคิ้วฉงน แจ็คสันระบายยิ้มกวน
“เย็นนี้กินข้าวกันนะ ฉันจะมารับเลิกสี่โมงใช่ไหม”ออกจะอึ้งที่อยู่ๆ ก็มาบอกแบบนี้
“เอ่อ...ก็ได้”คิดอยู่ครู่นึงก็ตอบตกลง เมื่อวันนี้ไม่มีนัดไปไหนกับใครก็ไม่น่าจะผิดหากอยากจะไปกับเพื่อนใหม่บ้าง
แจ็คสันวิ่งเหยาะๆ กลับไปที่รถแล้ว มาร์คมองตามแผ่นหลังนั้นไปจนรถเลื่อนจากที่จอด แล้วหันตัวจะเดินขึ้นตึกเรียนเสียที
“ใครมาส่งอะ หน้าตาดีเชียว เปลี่ยนสเป็กหรอวะ”เพื่อนสนิทตัวสูงที่เหมือนจะยืนมองอยู่พักนึงแล้วเข้ามาถามอย่างสนใจ มาร์คหันไปมองทางเดิมที่ไม่มีรถคันนั้นแล้วคนหน้าหล่อยิ้ม
“รูมเมท”ตอบสั้นๆ แล้วเดินนำขึ้นไป ยูคยอมก้าวขาตามเขาไปติดๆ เพื่อนจอมกวนทำท่าจะซักให้มากขึ้น แต่เขาไม่สนใจ
“ไอ้มาร์ค อะไรยังไงวะ มึงกับเมทนี่ดูกุ๊กกิ๊กออก ..ละแฟนมึงล่ะ เลิกกันแล้วหรอ”ก็ไม่รู้อะไรที่ทำให้ยูคยอมมันจินตนาการไปไกลได้ขนาดนั้น มาร์คหันกลับไปมองเพื่อนซี้เหวี่ยงๆ เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ยิ้มแหยเพราะรู้คำตอบ
“กูกับแบมแบมรักกันดี แล้วเมทกูเขาก็มาส่งเพราะฝนตกแค่นั้น”อธิบายเพราะรู้ว่าในหัวของเพื่อนมันก็คิดแต่เรื่องพรรค์นั้นเท่านั้นล่ะ
“แต่เขาจะมารับละก็ พาไปเดทนี่หว่า”พอพูดมาแบบนั้นยิ่งชัดเจนว่ายูคยอมนี่คิดอะไรพิลึกสุดๆ ก็รู้ทั้งรู้ว่ามาร์คต้วนคนนี้มีคนรักเป็นตัวเป็นตน แถมจากลักษณะทางกายภาพแล้วเขากับแจ็คสันแทบแยกโพสิชั่นกันไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ไม่ได้เดท กูไม่อธิบายละ เวียนหัว”บ่นใส่แล้วก็เดินปึงปังหนีไปจากตรงนั้น ยูคยอมเกาหัวมองตามแผ่นหลังเพื่อน และก็ทำได้ดีที่สุดแค่เดินตามไป...
‘BAMBAMM :อยู่ไหน เย็นนี้เพื่อนฉันยกเลิกนัด ไปกินข้าวกันนะ’
ข้อความจากแชทเด้งขึ้นมาก่อนเขาจะถึงเวลาที่นัดแนะกับรูมเมทไม่ถึงสิบนาที และแม้ว่าใจเขาตอบตกลงข้อความคนรักไปแล้ว แต่นัดของแจ็คสันล่ะ
‘MARKT :ฉันมีนัดกับเพื่อนแล้ว เอาไว้วันหลังนะ’
กดส่งเงยหน้าขึ้นมาก็มีคนตัวหนายืนยิ้มมองเขาอยู่ในระยะประชิด มาร์คตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าฝ่ายนั้นมาเข้าใกล้เข้ามากขนาดนี้
“ไง ไปยัง”แจ็คสันมายืนรอตรงหน้า ในมือใหญ่นั่นถือกุญแจรถของแจบอมเอาไว้
“เอ่อ...”ไม่รู้จะบอกปัดดีไหมด้วยซ้ำ แจ็คสันขมวดคิ้วที่เห็นว่าเขาเริ่มลังเล มารค์เม้มริมฝีปากอึดอัดใจเหมือนกันเพราะยังไงเขาก็รับนัดของแจ็คสันไว้ก่อน..แต่แบมแบมก็แฟน
“มีอะไรหรือเปล่า หรือนายไม่สบาย”ไม่ได้ยื่นมือมาทาบหน้าผาก ไม่ได้สื่อสารว่าห่วงใยอะไรขนาดนั้น แต่ทว่ามันกลับทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาอีกถ้าจะปฏิเสธ
“ปละ..เปล่า แจบอมกับจินยองล่ะ”ถามหาอีกสองคนที่ควรจะมาด้วย แจ็คสันยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ
“สองคนนั้นไปเดทกับสาวๆ ที่จริงฉันเองก็ควรจะต้องไปด้วย แต่พอดีว่านัดนายไว้แล้ว”บอกพลางหยิบกระเป๋าของเพื่อนไปไว้ในมือ มาร์คจะแย่งคืนแต่แจ็คสันไม่ยอมให้
“ที่จริงนายไปก็ได้นะ”ไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียโอกาส คนตัวใหญ่ส่ายหัวพลางเดินนำไปทางรถ
“ไม่ล่ะ นายสำคัญกว่า...”เหมือนกับถูกบอกว่าเขาหนะเป็นอันดับแรกที่ถูกเลือก มาร์คมองหน้าคนพูดอึ้งๆ ไม่รู้จะหาประโยคไหนมาพูดด้วยอีก สุดท้ายเลยเลือกจะเงียบน่าจะดีกว่า
กลับมาถึงห้องเกือบทุ่มนึงหลังจากตระเวนขับรถไปรอบๆ มหาวิทยาลัยและจบด้วยร้านข้าวเล็กๆ และเค้กคนละชิ้น มาร์คโยนกระเป๋าไปใต้โต๊ะอ่านหนังสือแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ผิดกับแจ็คสันที่วางกระเป๋าห้อยกับเก้าอี้แล้วเดินไปเปลี่ยนชุดเสียก่อน
“อิ่มจัง”แผ่ร่างลงไปกับเตียงแล้วก็ดึงเอาชายเสื้อนักศึกษาที่ยังคงเหน็บที่ขอบกางเกงออก สาบเสื้อแหวกให้เห็นผิวเนียน
“เชื่อว่านายอิ่ม พุงโผล่เลยดูดิ”ไม่พูดเปล่า แจ็คสันหวังยังชี้ไปที่เนื้อขาวๆ นั่นให้คนที่ไม่ระวังตัวได้รู้สึก แต่เหมือนกับว่ามาร์คไม่ได้คิดว่ามันผิดอะไร เขาปลดกระดุมสองเม็ดล่างออก แล้วก็เปิดให้เห็นหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเนื้ออ่อนๆ เผยให้เห็น
“ฉันมีพุงที่ไหนกัน”ใช้มือตีที่หน้าท้องเบาๆ ให้รู้ว่าไม่ใช่ไขมัน แจ็คสันยิ้มจาง ชายหนุ่มในผ้าเช็ดตัวผืนเดียวส่ายหัว
“ครับๆ ไอ้คนหุ่นดี”ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป มาร์คมองตามหลังกว้างแล้วได้แค่ยิ้ม
โทรศัพท์แผดเสียงขึ้นมาปลุกสติที่ไม่รู้ลอยไปไหนเมื่อครู่ของเขา มาร์คคว้ามันมากดรับสายเพราะรู้ดีว่าคงไม่มีใช่ใคร
“แบม....”
“นายเลือกคนอื่นไม่ใช่ฉัน”น้ำเสียงแข็งกร้าวตัดพ้อมาตามสาย มาร์คที่ทำได้แค่อึ้งไม่รู้ว่าจะเถียงอะไรเพราะก็ทำแบบนั้นจริงๆ แต่เขาก็หวังว่าคนรักจะเข้าใจ
“ฟังเหตุผลฉันก่อนนะ”
“นายจะว่าฉันไม่มีเหตุผลใช่ไหม นายว่าฉันไม่ฟังใช่ไหม มาร์คนายเปลี่ยนไป....ไม่รักฉันแล้วใช่ไหม”ไปกันใหญ่แล้ว เขาไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย ก็รู้อยู่หรอกว่าแบมแบมรักเขามากแล้วก็ชอบคิดมากคิดไปเอง คนตัวสูงอ้าปากจะอธิบายก็ถูกพูดสวนขึ้นมาอีก
“ทำไมไม่ตอบล่ะ พูดมาสิว่าไม่รักฉันแล้ว ไม่ใช่สินายไม่เคยรักฉัน...ตั้งแต่แรกมันมีแค่ฉันที่รักนาย”และมันก็จริงที่ว่าในตอนแรกแบมแบมเข้ามาโดยที่เขาไม่ได้รู้สึกรักใคร่อะไร มันเริ่มจากการที่มาร์คอกหักแบมแบมเข้ามาปลอบใจแล้วทุกอย่างก็เกินเลย มันเริ่มแบบน้ำเน่า แต่พอคบกันเขาก็ผูกพันแล้วก็อยากดูแล
เขาว่าเขาก็รักคนคนนี้นะ...
“ฉันรักนาย...แบมแบมอา ฉันก็แค่รับนัดเพื่อนไปแล้วแล้วก็ไม่อยากผิดนัดเขา ขอโทษนะ”ก็บอกได้แค่นั้น ฝั่งนั้นเงียบไปครู่นึงก่อนจะตอบกลับมา
“พรุ่งนี้ต้องตามใจฉันนะ”บอกสั้นๆ มาร์คยกยิ้มโล่งใจที่ไม่โดนโกรธ
“อย่างกับปกติฉันไม่ตามใจ จะยังไงก็บอกแล้วกัน”พูดเสียงนุ่มฝั่งนั้นร้องอืมตอบรับแล้วก็วางไป
_______ INSNARE________
แจ็คสันเปิดประตูห้องน้ำออกมาพบว่ารูมเมทตัวสูงกำลังจะเผลอหลับ ฝ่ายนั้นเดินตรงเข้าไปใกล้ แววตาใสมองใบหน้าขาวสะอาดที่ดวงตากำลังจะหรี่หลับ ปลายนิ้วยาวแตะที่ปลายจมูกโง มาร์คยกแขนขึ้นมาปัดออกอย่ารำคาญก่อนจะพลิกตัวหนี เจ้าของรูปร่างหนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะแกล้งแบบเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้แทนที่แขนขาวจะปัดป้องกลับคว้าข้อมือของฝ่ายนั้นไว้แน่น แจ็คสันชะงักไปนิดแล้วพยายามจะดึงมือออก
“อื้อ...อย่าแกล้งน่า...”คนที่เหมือนจะหลับครางเบาๆ แต่ก็พอให้เขาได้ยิน แจ็คสันเลิกคิ้วและได้แต่คิดว่านี่มันเป็นคำที่เขาควรจะพูดไม่ใช่หรือไง
“นายนั่นแหละ ปล่อยได้แล้ว”ขืนมือออกแต่คนหลับกลับออกแรงดึงไว้มากกว่าเก่า มากจนคิดว่าโดนเอาคืนเข้าให้แล้ว
“อื้อ...”กระตุกข้อมือของคนตัวหนาแรงพอให้เสียหลัก แจ็คสันคว้าเอาหัวเตียงเอาไว้ก่อนจะพบว่าปมที่เหน็บผ้าเช็ดตัวกำลังจะหลุดแล้วปล่อยให้ลูกชายออกมาวิ่งเล่นมือข้างที่จะจับหลักเลยมาคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วปล่อยให้ตัวหนักๆ ล้มทับเมทขี้แกล้งแทน
โพสิชั่นอันตรายพร้อมด้วยลักษณะภายนอกที่ล่อแหลมสุดๆ มาร์คต้วนอยู่ด้านล่างกระดุมเปิดเผยเห็นเนื้อขาวๆ กางเกงนักศึกษาโหลดต่ำหมิ่นเหม่ ส่วนแจ็คสันหวังที่อยู่ด้านบนกึ่งเปลือย หน้าซบตรงซอกคอคนชอบแกล้ง
“เฮ้ย!”ร้องลั่นกันทั่งคู่ ก่อนที่จะได้สติแล้วเด้งหนีออกจากกัน มาร์คถอยครูดไปจนติดผนัง ส่วนแจ็คสันก็กุมตรงนั้นด้วยมือข้างนึงส่วนอีกข้างก็จับปมผ้าแน่น
“ฉัน...เอ่อ”แจ็คสันพยายามจะพูดอะไรสักอย่างให้สถานการณ์มันดีขึ้น มาร์คเองที่ยังคงเลิ่กลั่กมองซ้ายทีขวาที
“ฉันผิดเองที่แกล้งนาย เอ่อ...ช่างมันเหอะ”คิดว่าการหายกันมันน่าจะจบ แจ็คสันยิ้มเจื่อนๆ เพราะในใจมันก็แปลกๆเหมือนกัน มาร์คนั่งอยู่ที่เดิมอีกครู่ใหญ่ เช่นเดียวกับแจ็คสันที่ไม่ได้ขยับตัวไปไหน
“.....”คนตัวหนาหย่อนตัวลงนั่งที่ข้างเตียงของอีกฝ่าย มาร์คมองคนที่ว่าดวงตาซื่อมองอย่างสงสัย ในใจที่ครู่นี้เต้นแทบไม่เป็นจังหวะเริ่มรัวแรงขึ้นมาอีกเมื่อหน้าหล่อๆ ของรูมเมทขยับเข้ามาใกล้..เชื่องช้า..จนลมหายใจเป่ารดใบหน้า
“มาร์ค”เรียกชื่อของเขาเบาโหวงก่อนจะประทับริมฝีปากอย่างนิ่มนวล กลีบปากหยุ่นย้ำลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ได้รุกล้ำ ไม่ได้วาบหวามจนเกิดอารมณ์อย่างว่า...แต่มากพอจะทำให้ในหัวมันลืมผิดชอบชั่วดี และลืมว่าเขามีใครอยู่แล้ว
’
TO BE CONT'
TALK*
แต่ละตอนอาจจะห่างกันมากไปหน่อย หวังว่าจะไม่มีใครเลิกอ่านไปก่อนนะคะ T^T
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ค่ะ
ความคิดเห็น