ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 :: INSNARE

    ลำดับตอนที่ #1 : SNARE :: I

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 57


    INSNARE  

    DRAMA/ROMANTIC(?)

    GOT7 ' JACKSONxMARK

     










     

     

    I






     

     

    'ความรักเหมือนโรคา ..บันดาลตาให้มืดมน'

     

     

     

                    แดดร่มลงพร้อมด้วยเข็มนาฬิกาที่บอกเวลาห้าโมงเย็น เจ้าของรูปร่างหนาถอดเสื้อนักเรียนตัวใหญ่ของตัวเองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของปากกาเมจิกที่เขียนข้อความล่ำลากันจนแทบไม่เหลือเนื้อผ้าสีขาว  แจ็คสันหวังมองมันด้วยรอยยิ้ม ข้าวของที่เรียกง่ายๆ ว่าของขวัญวันจบการศึกษาวางกินพื้นที่ของอัฒจันทร์เยอะสมกับที่เขาเป็นคนดังของที่นี่

    “มาแล้วๆ”อิมแจบอมกับรถยนต์คันงามร้องเรียก จินยองที่อยู่ใกล้ๆ รีบกวาดสิ่งของใส่ถุงกระดาษใบโตที่เตรียมมา ไม่ใช่แค่หนึ่ง สอง หรือสามใบ แต่เกือบสิบ..ซึ่งไม่แปลกสำหรับแก็งค์ของเขา

    “รีบเลยแจ็คสัน แม่กูจะรับประทานหัว”แจบอมร้องขึ้น ขณะเพื่อนตัวล่ำกำลังละเมียดละไมพับเสื้อนักเรียนใส่กระเป๋า เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากะจะกวนประสาทเพื่อนด้วยการทำท่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่เขาเป็นคนดี

    “เออ รู้แล้ว!”บอกเสียงดังแล้วคว้าของที่จัดเก็บเรียบร้อยวิ่งขึ้นรถเพื่อนสนิท

     

    วันสุดท้ายในโรงเรียนมัธยมที่มีแต่ความทรงจำดีๆ ...

     

     

     

    “ดีนะที่สอบติดมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ไม่งั้นต้องไปนั่งหง่าวหาเพื่อนใหม่ อีก”จินยองว่าพลางแกะห่อขนมที่ได้มาจากรุ่นน้องน่ารักๆ ที่เป็นแฟนคลับของแจบอม  

    “ก็จริง แต่มันน่าจะดีกว่านี้ถ้าเราได้อยู่หอด้วยกัน นี่มึงสองคนเล่นจับคู่กันแล้ว”แจ็คสันบ่น พลางนึกไปถึงว่าถ้าเจอรูมเมทเพี้ยนๆ จะทำยังไง ...หอพักในมหาวิทยาลัยที่บังคับให้อยู่อย่างน้อยหนึ่งปีนั่นไม่สนุกเลยนะ ถ้าเพื่อนร่วมห้อง...แย่

    “ช่วยไม่ได้ มึงช้าเอง”แจบอมเยาะเย้ย แจ็คสันอยากยกเท้าขึ้นมายันคนพูดให้มันหัวทิ่มสักที แต่พอนึกได้ว่าฝ่ายนั้นกำลังขับรถให้นั่งอยู่เลยหยุดไว้ก่อน

    “แล้วนี่จะเข้าหอวันไหนกัน “แจบอมถามต่อ แจ็คสันหันมองจินยองเชิงขอความเห็น

    “สักพักแหละ อีกตั้งสองอาทิตย์ถึงจะเปิดเรียน”จินยองว่าเรียบๆ แจ็คสันพยักหน้าเห็นด้วย

     

    แค่คิดว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ...ก็อดตื่นเต้นไม่ได้

     

     

    _______ INSNARE________

     

     

                    ข้าวของถูกขนมาจนถึงหน้าห้องพัก ในมือของแจ็คสันหวัง ในมือใหญ่มีลังอยู่หนึ่งใบ ที่หลังมีเป้สนามใบโต แต่ที่คล้องที่แขนทั้งสองข้างอีก...  เอาง่ายๆ เขาเหมือนไอ้บ้าหอบฟาง

    “มึงขนบ้าขนบออะไรมานักหนาวะกุญแจหออยู่ไหน กูไขให้”แจบอมบ่นอุบพลางกระชับชุดเครื่องนอนหมอนผ้าห่มที่แขนเข้ามาให้กระชับขึ้น มืออีกข้างวางกระเป๋าเดินทางใบหนาลง แล้วคลำหากุญแจห้องที่ไม่รู้ว่าเจ้าของเอามันไม่ใส่กระเป๋ากางเกงตรงไหนไว้

    “เฮ้ยๆ มึงอย่าล้วงไปลึก เดี๋ยวลูกกูจะออกมาทักทาย”พูดติดตลก แจบอมหัวเราะเพื่อน ก่อนจะดึงลูกกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้าข้างซ้าย แล้วไขประตูเข้าไปด้านในห้อง

     

                    ภายในห้องสีขาวสะอาดสะอ้าน เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเดียวกับห้องตัดกับพื้นสีฟ้าเขียวอย่างลงตัว ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ปลายเตียง แจ็คสันเป็นเจ้าของห้องคนแรกที่มาถึงที่นี่  เตียงสองฝั่งข้างนึงติดกับห้องน้ำที่อยู่หน้าห้อง อีกหลังอยู่ติดกับหน้าต่างที่มี่ประตูออกไปที่ระเบียง

     

    เขาได้สิทธิ์เลือกมันก่อน

     

    “มึงว่าฝั่งไหนดี”หันไปถามอิมแจบอมที่ง่วนกับการดึงที่ลากกระเป๋าอยู่หน้าห้องเงยหน้ามามองแล้วตัดสินใจใช้กำลังกับมันโดยการยกขึ้นมาทั้งอันแทน

    “แล้วแต่มึงดิ”วางกระเป๋าดังปัง ก่อนจะกระโดดไปนั่งบนเตียงฝั่งที่ติดห้องน้ำ  แจ็คสันมองหน้าเพื่อนที่เหมือนว่าจับจองไว้ให้เขาแล้ว

    “มึงนั่งเตียงนั้นแล้ว ตามมารยาทกูก็ต้องเอาเตียงนี้ดิ”เพราะไม่รู้ว่ารูมเมทจะป็นคนประเภทไหน ไม่รู้ว่าถือสาหรือเปล่าที่เข้าไปยุ่มย่ามของส่วนตัว ถึงจะยังไม่มาก็เถอะ แต่เขาไม่ควรไปทำเลอะเทอะจริงไหม

    “มึงนี่ก็มารยาทงามตลอด น่าเบื่อจริง...แบบนี้สินะถึงได้โสดสนิทมาตั้งเกือบสามปี”ก็รู้ดีว่าพูดแทงใจดำเพื่อน แต่ช่างประไรในเมื่อเขาคิดแบบนั้นจริงๆ แจบอมรู้ว่าแจ็คสันรู้ว่าเขาก็แค่คนขวานผ่าซาก

    “พูดมาก  ไปซื้อของกันไอ้จินยองรอนานละ กูจะได้มาจัดห้องสักทีด้วย”ว่าไปสักหน่อยก่อนจะออกปากชวนกันออกไปด้านนอก  

     

     

     

                    ข้าวของถูกลิสในกระดาษทิชชู่ของร้านอาหารญี่ปุ่น  พวกเขาเคี้ยวไป เขียนไป คุยไปจนเวลาล่วงเลยไปเกือบสี่ชั่วโมง นานขนาดที่ว่าพนักงานในร้านมองแล้วมองอีกว่าจะไปกันได้หรือยัง

    “ไม่ทราบว่า....”

    “เอาทาโกะยากิอีกสองจานนะครับ”จินยองหันไปสั่งอาหารเพิ่มเพราะรู้สึกว่ายังไม่มีใครอิ่ม พนักงานที่จะมาไล่จากร้านเลยได้แต่จดรายการไปสั่งในครัวให้

    “เรานั่งนานไปป่าว”แจ็คสันเอ่ยถามหลังจากที่รู้สึกว่ารายการสิ่งของที่เขาต้องการมันน่าจะครบถ้วน

    “แต่เราก็กินเรื่อยๆ นี่หว่า ที่สำคัญกูสองคนยังไม่เสร็จ”แจบอมว่าพลางเขียนอีกอย่างที่ต้องการจะซื้อ ที่จริงข้าวของที่จะใช้มันไม่ได้มากมาย แค่คิดตรงที่ปกติไม่เคยต้องหาเอง ทำเอง ..มันเลยออกจะคิดยากสักหน่อย

    “กูก็ไม่ได้ว่าไร แต่เราอยู่ร้านนี้มาสี่ชั่วโมงแล้ว”แจ็คสันออกความเห็น สองคนนั้นมองหน้ากันไหวไหล่น้อยๆ ก่อนที่เจ้าของดวงตาขีดเดียวจะบอกห้วนๆ

    “กินทาโกะก่อนแล้วค่อยไปซื้อของกัน”

     

     

     

    _______ INSNARE________

     

     

     

     

                    แจ็คสันหิ้วถุงที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เกตเต็มไม้เต็มมือ ประตูห้องถูกปลายเท้าผลักเข้าไปแทนจะเป็นมือ ในห้องมืดสนิท ทว่ากลับมีข้าวของของรูมเมทวางอยู่บนเตียงแล้วเช่นกัน

    “ไม่นอนหรอวันนี้”แจ็คสันพูดกับตัวเอง เชาวางของลงกับพื้นทางเดิน คลำหาสวิทช์ ไฟที่อยู่หน้าห้อง ข้างในไม่ได้มืดมากนักเพราะม่านถูกเปิดเอาไว้  

     

                    พอไฟติด แจ็คสันก็มองเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้อง ดวงตาคมมองไปเห็นรูปที่แขวนอยู่บนผนังเหนือโต๊ะอ่านหนังสือ ชายหนุ่มตัวผอม ผมแดง หน้าขาว รอยยิ้มมีเสน่ห์ไม่เบา ..จัดว่าหล่อเลย

    “สวัสดี”ประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมด้วยร่างสูงยาวของคนในรูปเมื่อครู่ แจ็คสันส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ฝ่ายนั้นก็เช่นกัน

    “หวัดดี..นาย?”เอ่ยทักทายกลับไป คนที่ว่ากระโดดโหยงข้ามข้าวของที่เขาวางระเกระกะ รอยยิ้มกวนๆ เผยให้เห็น แต่นั่นไม่ได้กวนใจเขาหรอกเพราะมันก็ดู...น่ารักดีเฉยๆ

    “มาร์ค ..มาร์คต้วนนิเทศ แล้วนายล่ะ”แนะนำตัวแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงบนเตียงของตัวเอง คนที่ว่ามองมาอย่างรอคำตอบ

    “แจ็คสัน หวัง วิศวะ”ยิ้มให้จนเต็มแก้ม ฝั่งนั้นหยิบขนมมาแกะแล้วยื่นให้เขา

    “สักหน่อยไหม”แจ็คสันมองแล้วส่ายหัว เขากำลังวุ่นวายกับการยัดสิ่งของเข้าที่ อย่างน้อยก็ไม่ควรให้รูมเมทรู้สึกว่ามันเกะกะ

    “ไม่ต้องรีบจัดก็ได้”เหมือนถูกอ่านใจออกจนปรุโปร่ง แจ็คสันเลิกคิ้วหันไปมอง ฝ่ายนั้นทำหน้ายียวนก่อนจะเฉลยให้ฟัง

    “ฉันหมายถึงว่ามันก็ดึกแล้ว แล้วนายก็น่าจะพักก่อน อย่าคิดว่าความรกจะรบกวนฉันหรอก ฉันไม่ได้เจ้าระเบียบสักหน่อย”ถ้าคนตรงหน้าคืออิมแจบอมหรือปาร์คจินยองเขาคงร้องว่าหรอใส่หน้าดังๆ ไปสักที แต่นี่ไม่ใช่และเป็นคนที่เพิ่งรู้จักด้วย

    “แต่ดูนายจัดของเรียบร้อยมากเลย ฉันคงรู้สึกแปลกๆ ถ้าไม่เก็บของให้เป็นระเบียบตอนนี้”หยิบเอาผ้าปูที่นอนมาคลุมเอาไว้อย่างเก้กัง คนฝั่งนั้นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินมาช่วยเหลือ

    “ฉันช่วยนายดีกว่า...แล้วที่จริงฉันก็ไม่ได้เจ้าระเบียบอะไรนักหรอก ทั้งหมดนี่ฝีมือไอ้ตัวยุ่ง เอ่อ แฟนฉันหนะ”พูดแล้วก็ยิ้มไป แจ็คสันมองหน้าคนที่ว่าแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ มาร์คช่วยใส่ผ้าปูที่นอนจนเรียบร้อย

    “ขอบใจนะ”ด้วยความสัตย์จริงว่าแจ็คสันหวังรู้สึกดีมากกับรูมเมทคนนี้ จากที่กลัวจะเข้ากันไม่ได้กลายเป็นว่าดีกว่าที่หวังไว้เสียอีก

    “ไม่เป็นไร  เราเพื่อนกันแล้วนี่”เจ้าของความสูงที่มากกว่าเขาเกือบคืบยิ้มหวาน แจ็คสันตอบแทนรอยยิ้มและมิตรภาพนั้น ด้วยยิ้มหล่อที่แสนจริงใจ

                   

     

     

     

    “นี่เมทกูเอง มาร์คนิเทศ”เอ่ยปากแนะนำรูมเมทสุดหล่อที่นอนไขว่ห้างอ่านดราก้อนบอลอยู่บนที่นอนตัวเอง แจบอมยกมือขึ้นระดับไหล่ทักทาย

    “มาร์ค นี่แจบอมเพื่อนสนิทฉัน”ฝ่ายนั้นลุกขึ้นมาโค้งให้นิดๆ สองคนยิ้มให้กันเป็นมิตร

    “กินข้าวกันมึง..อ่า มาร์คไปด้วยกันไหม”แจบอมออกปากชวน ฝ่ายนั้นยิ้มให้ก่อนที่แจ็คสันจะแย่งตอบหน้าตาเฉย

    “เดี๋ยวมาร์คจะไปกินกับคนพิเศษ เราไปเหอะน่า”พูดพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม มาร์คอมยิ้มน้อยๆ เพราะถูกแซว แจบอมหัวเราะก่อนจะโบกมือเป็นการลาให้เจ้าของห้องคนที่เหลือ

     

     

     

                    ร้านข้างมหาวิทยาลัยเป็นที่แรกที่ถูกเลือก สามคนรวมทั้งจินยองนั่งรอที่ร้านก่อนแล้ว เมนูสามสี่อย่างถูกสั่งมากินร่วมกันเหมือนปกติเวลาอยู่ที่โรงเรียน เด็กหนุ่มสามคนพูดคุยกันสนุกสนาน ก่อนที่จินยองจะเงียบลงพร้อมด้วยดวงตาเล็กที่มองออกไปนอนร้านนิ่ง

    “เป็นไรวะ กำลังขำๆ ก็หยุดเล่า”แจ็คสันถามขึ้นพลางตักอาหารเข้าปาก แจบอมหันมองตามสายตาเพื่อนไปแล้วร้องออกมาจากในลำคอ

    “นั่นมัน....”

    “......”เอ่ยชื่อคนที่เคยคุ้นออกมาเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน รสชาติอาหารจืดชืดลงในทันที แจ็คสันมองตามแผ่นหลังบางที่ไกลออกไปนิ่ง  ภาพต่างๆ เมื่อเกือบสามปีก่อนที่เขาคิดว่ามันถูกฝังลึกและปิดผนึกแน่นหนาลงไปในความทรงจำแล้วไหลย้อนกลับมาจนเหมือนกับว่ามันเพิ่งผ่านไปเมื่อครู่นี้

     

     

     

    แต่นั่นย้ำให้รู้ว่าเขาปางตาย

     

     

     

    “ฉันรักนายนะแจ็คสัน”ในอ้อมกอดมีคนตัวเล็กซุกอยู่ เขาสองคนที่ริมแม่น้ำฮัน ดวงตาเล็กนั่นออดอ้อน รอยยิ้มของริมฝีปากอิ่มน่ารักสดใส

     

    แบมแบมเป็นคนไทยที่ย้ายมาอยู่ที่นี่เหมือนกับเขา

     

    “มากไหม”ย้ำถามคำพูดนั้นด้วยน้ำเสียงนุ่ม คนตัวเล็กเบี่ยงออกจากอ้อมกอด เจ้าของเสื้อสูทนักเรียนสีเขียวเข้มตัวเล็กกว่านิดหน่อยเอื้อมมือมาตะใบหน้าของคนรัก แจ็คสันยิ้มให้เจ้าของฝ่ามือเล็ก

    “มากที่สุดเลย ..ในโลกนี้ฉันว่าไม่มีใครจะดีเท่าแจ็คสันของฉันอีกแล้ว”เลื่อนมือขาวมาวางตรงนอกสูทสีแดงเลือดหมูของคนตัวโต รอยยิ้มบางระบายบนแก้มขาว

    “ฉันอยู่ในนี้ใช่ไหม ..ให้ฉันอยู่ที่นี่ตลอดไปนะ”

     

     

     

    “เฮ้ย! แจ็คสัน ร้องไห้หรอได้ขี้แง”จินยองตะโกนใส่หูเพื่อปลุกเขาออกจากภวังค์ ความร้อนมันพุ่งขึ้นตาเลยก้มหน้าไม่ยอมสบตาใครและก็ทำเพียงส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ

    “เจ้านั่นเรียนที่นี่หรอวะ  โลกกลมจริง”แจบอมเปิดประโยคสนทนากับจินยองโดยปล่อยให้เขานั่งฟังและทำใจเงียบๆ เพื่อนตัวผอมที่นั่งข้างกาย พยักหน้าเห็นด้วย แล้วตักหมูเข้าปากแต่ไม่ทันได้เคี้ยวดีก็เอ่ยตอบเพื่อน

    “เออ กลมมาก...ที่สำคัญกูเห็นว่ามันเดินกับไอ้คนนั้นด้วย”

     

     

     

    ไอ้คนนั้น สรรพนามที่เรียกแฟนใหม่ที่ทำให้แจ็คสันหวังโดนทิ้งเหมือนกับรองเท้าเก่าๆ ที่ขาดจนซ่อมมาใส่ไม่ได้  สรรพนามที่ไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาของมันเป็นยังไง  มีเพียงจินยองที่เคยเห็นคนคนนั้น

     

     

     

    “คบกันนานเชียว”แจบอมเอ่ยขึ้น ในขณะแจ็คสันที่นิ่งอยู่นานยกแขนขึ้นมานั่งเท้าคาง ดวงตาคมหม่นหมองอมเศร้าได้จัดการข่มความเสียใจลงไปแล้ว

    “คงรักกันมาก”พูดเองก็เจ็บเอง แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อความจริงมันก็แบบนั้น ..เขาโดนบอกเลิกเพราะความรักของเขามันบินหนีไปแล้ว

     

     

    แต่แจ็คสันหวังยังเก็บคนคนนั้นไว้ในใจตามที่เคยสัญญา

     

     

     

     

                    ล่วงเลยเวลาจนบ่ายคล้อย แจ็คสันหวังนอนคลายอารมณ์จนบ่ายคล้อย อยู่ที่ห้องของเพื่อนสนิท ที่คู่นั้นเหมือนจะจับคู่กันถูกแล้ว เมื่อเครื่องเกมส์ถูกติดตั้ง และมันทั้งคู่ก็เอาแต่รัวจอยกันแกร๊กๆ ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย คนตัวหนามองแอนิเมชั่นบนจอที่ปล่อยพลังใส่กันอย่างเมามันส์ จินยองที่เล่นแพ้แจบอมไม่รู้กี่รอบออกแอคชั่นมากมายแต่สุดท้ายก็...

     

     

    ‘GAME OVER’

     

     

    “มึงเปลี่ยนเกมส์เหอะจินยอง กูเบื่อละ”แจบอมโอดครวญพลางลงไปนอนแผ่ที่พื้นห้อง จินยองมุ่ยหน้าให้ความพ่ายแพ้ที่ได้รับแบบนอนสตอป

    “ไม่ กูยังไม่ชนะ!”โวยวายและไม่ยอมเลิกเล่น แจบอมหันมองหน้าเขาที่นอนคว่ำอยู่บนที่นอน แจ็คสันทำเพียงยิ้มให้กำลังใจเพื่อน

    “มึงเล่นอีกร้อยรอบก็ไม่ชนะหรอก วินนิ่งเหอะน่านะจินยองอา”แจบอมลุกขึ้นมานั่งเจรจาแล้วตบท้ายด้วยการอ้อนเพื่อนสนิทแบบที่คิดว่าน่ารัก แจ็คสันยิ้มขำ ส่วนจินยองดูรังเกียจการกระทำนั้นมากกว่าเอ็นดู

    “ทำไรเนี่ย พอเลยมึง วินนิ่งก็ได้วะ  เลิกทำท่าไม่เข้ากับหนังหน้าสักที”ยิ่งกว่ารังเกียจท่าทีนั้น ก็หน้าแมนๆ แต่ทำตัวเหมือนพร้อมจะแปลงเพศได้ทุกเวลา คือมันไม่เข้าท่า ชวนอ้วกจริงๆ

    “ดีมากเพื่อนเลิฟ”โถมตัวกอดเหมือนกับได้ของขวัญที่ถูกใจ แจ็คสันหัวเราะร่วนมีความสุขที่เห็นเพื่อนหยอกล้อกัน ก่อนที่จะนึกได้ว่า เขาเองก็เคยมีความสุขกับใครบางคนมากเหมือนกัน

     

    แต่มันจบลงแล้ว..

     

    “แจ็คสันหวัง เมทมึงนี่เขาหน้าตาดีนะ  ไม่ลองจีบล่ะ”อยู่ๆ แจบอมก็พูดขึ้นมาขณะเลือกทีมฟุตบอลที่ต้องการ คนตัวหนาเลิกคิ้วงงกับคำถามของเพื่อนที่พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

    “อะไรของมึง”ถามเข้มๆ คนเดิมหันมามองที่เขาแล้วยิ้มกวนประสาท

    “ไหนๆ ก็เรียนมหาลัยเดียวกับแฟนเก่า มึงก็ควรจะมีแฟนสักคนควงให้เขาเห็น แบบที่ดูดีกว่าอะไรเงี๊ยะ”เขาไม่คิดว่าคำแนะนำแบบนี้มันทำแล้วจะดีหรอกนะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าคนแบบแจบอมจะคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องความรักเป็น ก็เพื่อนของเขาเป็นคนป่าเถื่อน และไม่เคยคบใครจริงจังสักคน

    “ละทำไมต้องมาร์ค”อยากจะรู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมต้องเอ่ยมาเป็นรูมเมทคนหล่อคนนั้น

    “ก็เขาอยู่ห้องเดียวกับมึงป่ะ แล้วเวลาจะอะไรกันลึกๆ ซึ้งๆ จะได้ไม่ต้องลำบาก”พูดไปก็ทำท่าทำหน้าซี้ดซ๊าดสยิว จินยองกับเขามองหน้ากันด้วยความเอือมระอา ก่อนที่เจ้าของมือใหญ่ที่ครองพื้นที่บนเตียงอยู่จะหยิบหมอนข้างมาโยนใส่หัวคนพูดเมื่อครู่ แล้วโต้ไปด้วยรอยยิ้มที่เคลือบได้ด้วยความรู้สึกจริงๆ ที่มี

     

    “กูไม่สนใจคนมีแฟนแล้วหรอก กูรู้ว่าโดนแย่งของรักมันเจ็บ”

     

     

     

    _______ INSNARE________

     

     

     

     

    แต่บางทีคนเราก็เลือกจะทำอะไรที่ใจจริงไม่ได้อยากทำ ..

     

                   

                    เย็นวันที่สองของการเข้าหอพักและพายุฝนที่จู่ๆ ก็พัดโครมเข้ามาแบบไม่มีตั้งเค้า แจ็คสันปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับข้าวเย็นที่ซื้อไว้ตั้งแต่เที่ยง ก่อนจะเห็นว่ารูมเมทตัวสูงตัวเปียกลอกแลกจากการที่เพิ่งวิ่งออกไปเก็บผ้าเช็ดตัวของเขาทั้งสองคนที่ผึ่งไว้ด้านนอก

    “เอ่อ ขอบใจนายมากเลย”ทำหน้ารู้สึกผิดพร้อมกับพูด มาร์คหันมายิ้มทั้งที่กำลังก้มหน้าให้หยุดน้ำที่ลู่กับเส้นผมหยดลงที่พื้นพรมปลายเตียงตัวเอง

    “ไม่เป็นไรน่า”

     

                    มุมนั้นที่แสงครึ้มๆ สาดมาจากด้านหลังของคนตัวสูง รอยยิ้มพิมพ์ใจและแสนมีเสน่ห์ ทำให้เจ้าของเนื้อผิวขาวเนียนสะกดสายตาของเขาเอาไว้ได้ .อดยอมรับไม่ได้จริงๆ ว่ามาร์คต้วนเพื่อนใหม่ของเขาช่างน่าหลงใหล

    “มีไรหรือเปล่า?”เขาคงจะจ้องภาพที่แสนน่ามองนั่นมากเกินไป จนเจ้าของรอยยิ้มแสนสะดุดตานั้นต้องถาม           ขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะยิ้มเขินเพราะถูกจับอาการได้

    “อะ เอ่อ ..เปล่า นายกินอะไรหรือยัง ฉันซื้อข้าวเย็นมากินด้วยกันไหม”ออกปากชวนแก้เก้อ พลางหยิบจานชามออกมาใช้ ข้าวของของเขาจัดเข้าที่แล้วตั้งแต่เช้าโดยมีรูมเมทแสนดีมาช่วยเหลือ

    “เรียบร้อยแล้ว อื้ม.. วันนี้ฉันเห็นนายกับเพื่อนนั่งกินข้าวที่ร้านข้างมหาลัย ว่าจะทักแต่แฟนฉันดันหิวจัดเลยต้องรีบพาไปกิน เดี๋ยวฟ้าผ่าใส่”มาร์คยิ้มกว้างหลังพูดจบ ดูเหมือนว่าเมทเขาจะรักแฟนมากและเขาหรือเธอคนนั้นคือความสุขในชีวิตของมาร์คจริงๆ

    “น่าอิจฉาเธอนะ  คบกันนานแล้วสินายถึงดูรักเธอมาก”แจ็คสันพูดสบายๆ พลางตักข้าวคำแรกเข้าปาก ฝ่ายนั้นหัวเราะเบาๆ  ถอดเสื้อยืดสีดำลายกราฟฟิคสวยงามที่ชื้นไปด้วยน้ำฝนออกทางศีรษะ เผยผิวขาวละเอียดและมัดกล้ามเนื้ออ่อนๆ  ตามต้นแขน แผงอกและหน้าท้อง

    “สองปีกว่าแล้ว พวกฉันจบไฮสคูลเดียวกันหนะ แล้วแฟนฉัน แบมแบมไม่ใช่ผู้หญิงหรอกแต่เป็นผู้ชายน่ารักๆ  นายคงไม่ได้อึดอัดใจนะที่มีรูมเมทที่ชอบผู้ชาย”แจ็คสันนิ่งค้าง ข้าวคำที่สองที่ยังไม่ทันได้ส่งเข้าปากถูกวางลงอย่างเชื่องช้า เขาพยายามครองสติและตอบคำถามที่แทบจับใจความไม่ได้ออกไปอย่างลำบาก

    “ไม่..ไม่หรอก”สั้นๆ เพียงพอจะควบคุมเสียงที่มีไม่ให้สั่นจนคนฟังรู้ มาร์คยิ้มดีใจแล้วพาร่างที่เปลือยท่อนบนเดินผ่านเขาเข้าห้องน้ำไป

     

     

    คงหลอกตัวเองไม่ได้ว่าไม่ใช่ ..

     

    ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อโหลในเกาหลีแบบจินยองหรือแจบอม

     

    ชัดเจนว่า......ความเจ็บปวดมันอยู่ใกล้ตัวเขามากจริงๆ

     

     

     

     

    _______ INSNARE________

     

     

     

     

     

    JACKSONW : เห็นหน้าแฟนใหม่แบมแบมแล้ว

    JR7 : ที่ไหน?

    JACKSONW :  เขาเป็นรูมเมทกู







    TO BE CON'


    TALK''

    - ติ่งมาสักพักและพยายามจะเขี่ยออกมาให้ได้สักเรื่องแต่ไม่เป็นผลเลยตลอดมา...เรื่องนี้มีพลอตและคิดว่าน่าจะทำได้ T^T
    - สไตล์เถื่อนนี่เลิกไม่ได้จริงๆ โมเมนท์แจ็คมาร์คไม่อาจต้านทานได้เลยออกมาทำนองนี้
    - ฟิคชั่นเซอเคิ้วไม่มีทำว่าอ่อนโยนนัก อาจจะละมุนบ้างต้องรอดูนะคะ

    ขอบคุณที่สนใจค่ะ <3


     

     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×