คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : SNARE :: I
INSNARE
DRAMA/ROMANTIC(?)
GOT7 ' JACKSONxMARK
I
'ความรักเหมือนโรคา ..บันดาลตาให้มืดมน'
แดดร่มลงพร้อมด้วยเข็มนาฬิกาที่บอกเวลาห้าโมงเย็น เจ้าของรูปร่างหนาถอดเสื้อนักเรียนตัวใหญ่ของตัวเองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของปากกาเมจิกที่เขียนข้อความล่ำลากันจนแทบไม่เหลือเนื้อผ้าสีขาว แจ็คสันหวังมองมันด้วยรอยยิ้ม ข้าวของที่เรียกง่ายๆ ว่าของขวัญวันจบการศึกษาวางกินพื้นที่ของอัฒจันทร์เยอะสมกับที่เขาเป็นคนดังของที่นี่
“มาแล้วๆ”อิมแจบอมกับรถยนต์คันงามร้องเรียก จินยองที่อยู่ใกล้ๆ รีบกวาดสิ่งของใส่ถุงกระดาษใบโตที่เตรียมมา ไม่ใช่แค่หนึ่ง สอง หรือสามใบ แต่เกือบสิบ..ซึ่งไม่แปลกสำหรับแก็งค์ของเขา
“รีบเลยแจ็คสัน แม่กูจะรับประทานหัว”แจบอมร้องขึ้น ขณะเพื่อนตัวล่ำกำลังละเมียดละไมพับเสื้อนักเรียนใส่กระเป๋า เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากะจะกวนประสาทเพื่อนด้วยการทำท่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่เขาเป็นคนดี
“เออ รู้แล้ว!”บอกเสียงดังแล้วคว้าของที่จัดเก็บเรียบร้อยวิ่งขึ้นรถเพื่อนสนิท
วันสุดท้ายในโรงเรียนมัธยมที่มีแต่ความทรงจำดีๆ ...
“ดีนะที่สอบติดมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ไม่งั้นต้องไปนั่งหง่าวหาเพื่อนใหม่ อีก”จินยองว่าพลางแกะห่อขนมที่ได้มาจากรุ่นน้องน่ารักๆ ที่เป็นแฟนคลับของแจบอม
“ก็จริง แต่มันน่าจะดีกว่านี้ถ้าเราได้อยู่หอด้วยกัน นี่มึงสองคนเล่นจับคู่กันแล้ว”แจ็คสันบ่น พลางนึกไปถึงว่าถ้าเจอรูมเมทเพี้ยนๆ จะทำยังไง ...หอพักในมหาวิทยาลัยที่บังคับให้อยู่อย่างน้อยหนึ่งปีนั่นไม่สนุกเลยนะ ถ้าเพื่อนร่วมห้อง...แย่
“ช่วยไม่ได้ มึงช้าเอง”แจบอมเยาะเย้ย แจ็คสันอยากยกเท้าขึ้นมายันคนพูดให้มันหัวทิ่มสักที แต่พอนึกได้ว่าฝ่ายนั้นกำลังขับรถให้นั่งอยู่เลยหยุดไว้ก่อน
“แล้วนี่จะเข้าหอวันไหนกัน “แจบอมถามต่อ แจ็คสันหันมองจินยองเชิงขอความเห็น
“สักพักแหละ อีกตั้งสองอาทิตย์ถึงจะเปิดเรียน”จินยองว่าเรียบๆ แจ็คสันพยักหน้าเห็นด้วย
แค่คิดว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ...ก็อดตื่นเต้นไม่ได้
_______ INSNARE________
ข้าวของถูกขนมาจนถึงหน้าห้องพัก ในมือของแจ็คสันหวัง ในมือใหญ่มีลังอยู่หนึ่งใบ ที่หลังมีเป้สนามใบโต แต่ที่คล้องที่แขนทั้งสองข้างอีก... เอาง่ายๆ เขาเหมือนไอ้บ้าหอบฟาง
“มึงขนบ้าขนบออะไรมานักหนาวะกุญแจหออยู่ไหน กูไขให้”แจบอมบ่นอุบพลางกระชับชุดเครื่องนอนหมอนผ้าห่มที่แขนเข้ามาให้กระชับขึ้น มืออีกข้างวางกระเป๋าเดินทางใบหนาลง แล้วคลำหากุญแจห้องที่ไม่รู้ว่าเจ้าของเอามันไม่ใส่กระเป๋ากางเกงตรงไหนไว้
“เฮ้ยๆ มึงอย่าล้วงไปลึก เดี๋ยวลูกกูจะออกมาทักทาย”พูดติดตลก แจบอมหัวเราะเพื่อน ก่อนจะดึงลูกกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้าข้างซ้าย แล้วไขประตูเข้าไปด้านในห้อง
ภายในห้องสีขาวสะอาดสะอ้าน เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเดียวกับห้องตัดกับพื้นสีฟ้าเขียวอย่างลงตัว ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ปลายเตียง แจ็คสันเป็นเจ้าของห้องคนแรกที่มาถึงที่นี่ เตียงสองฝั่งข้างนึงติดกับห้องน้ำที่อยู่หน้าห้อง อีกหลังอยู่ติดกับหน้าต่างที่มี่ประตูออกไปที่ระเบียง
เขาได้สิทธิ์เลือกมันก่อน
“มึงว่าฝั่งไหนดี”หันไปถามอิมแจบอมที่ง่วนกับการดึงที่ลากกระเป๋าอยู่หน้าห้องเงยหน้ามามองแล้วตัดสินใจใช้กำลังกับมันโดยการยกขึ้นมาทั้งอันแทน
“แล้วแต่มึงดิ”วางกระเป๋าดังปัง ก่อนจะกระโดดไปนั่งบนเตียงฝั่งที่ติดห้องน้ำ แจ็คสันมองหน้าเพื่อนที่เหมือนว่าจับจองไว้ให้เขาแล้ว
“มึงนั่งเตียงนั้นแล้ว ตามมารยาทกูก็ต้องเอาเตียงนี้ดิ”เพราะไม่รู้ว่ารูมเมทจะป็นคนประเภทไหน ไม่รู้ว่าถือสาหรือเปล่าที่เข้าไปยุ่มย่ามของส่วนตัว ถึงจะยังไม่มาก็เถอะ แต่เขาไม่ควรไปทำเลอะเทอะจริงไหม
“มึงนี่ก็มารยาทงามตลอด น่าเบื่อจริง...แบบนี้สินะถึงได้โสดสนิทมาตั้งเกือบสามปี”ก็รู้ดีว่าพูดแทงใจดำเพื่อน แต่ช่างประไรในเมื่อเขาคิดแบบนั้นจริงๆ แจบอมรู้ว่าแจ็คสันรู้ว่าเขาก็แค่คนขวานผ่าซาก
“พูดมาก ไปซื้อของกันไอ้จินยองรอนานละ กูจะได้มาจัดห้องสักทีด้วย”ว่าไปสักหน่อยก่อนจะออกปากชวนกันออกไปด้านนอก
ข้าวของถูกลิสในกระดาษทิชชู่ของร้านอาหารญี่ปุ่น พวกเขาเคี้ยวไป เขียนไป คุยไปจนเวลาล่วงเลยไปเกือบสี่ชั่วโมง นานขนาดที่ว่าพนักงานในร้านมองแล้วมองอีกว่าจะไปกันได้หรือยัง
“ไม่ทราบว่า....”
“เอาทาโกะยากิอีกสองจานนะครับ”จินยองหันไปสั่งอาหารเพิ่มเพราะรู้สึกว่ายังไม่มีใครอิ่ม พนักงานที่จะมาไล่จากร้านเลยได้แต่จดรายการไปสั่งในครัวให้
“เรานั่งนานไปป่าว”แจ็คสันเอ่ยถามหลังจากที่รู้สึกว่ารายการสิ่งของที่เขาต้องการมันน่าจะครบถ้วน
“แต่เราก็กินเรื่อยๆ นี่หว่า ที่สำคัญกูสองคนยังไม่เสร็จ”แจบอมว่าพลางเขียนอีกอย่างที่ต้องการจะซื้อ ที่จริงข้าวของที่จะใช้มันไม่ได้มากมาย แค่คิดตรงที่ปกติไม่เคยต้องหาเอง ทำเอง ..มันเลยออกจะคิดยากสักหน่อย
“กูก็ไม่ได้ว่าไร แต่เราอยู่ร้านนี้มาสี่ชั่วโมงแล้ว”แจ็คสันออกความเห็น สองคนนั้นมองหน้ากันไหวไหล่น้อยๆ ก่อนที่เจ้าของดวงตาขีดเดียวจะบอกห้วนๆ
“กินทาโกะก่อนแล้วค่อยไปซื้อของกัน”
_______ INSNARE________
แจ็คสันหิ้วถุงที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เกตเต็มไม้เต็มมือ ประตูห้องถูกปลายเท้าผลักเข้าไปแทนจะเป็นมือ ในห้องมืดสนิท ทว่ากลับมีข้าวของของรูมเมทวางอยู่บนเตียงแล้วเช่นกัน
“ไม่นอนหรอวันนี้”แจ็คสันพูดกับตัวเอง เชาวางของลงกับพื้นทางเดิน คลำหาสวิทช์ ไฟที่อยู่หน้าห้อง ข้างในไม่ได้มืดมากนักเพราะม่านถูกเปิดเอาไว้
พอไฟติด แจ็คสันก็มองเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้อง ดวงตาคมมองไปเห็นรูปที่แขวนอยู่บนผนังเหนือโต๊ะอ่านหนังสือ ชายหนุ่มตัวผอม ผมแดง หน้าขาว รอยยิ้มมีเสน่ห์ไม่เบา ..จัดว่าหล่อเลย
“สวัสดี”ประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมด้วยร่างสูงยาวของคนในรูปเมื่อครู่ แจ็คสันส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ฝ่ายนั้นก็เช่นกัน
“หวัดดี..นาย?”เอ่ยทักทายกลับไป คนที่ว่ากระโดดโหยงข้ามข้าวของที่เขาวางระเกระกะ รอยยิ้มกวนๆ เผยให้เห็น แต่นั่นไม่ได้กวนใจเขาหรอกเพราะมันก็ดู...น่ารักดีเฉยๆ
“มาร์ค ..มาร์คต้วนนิเทศ แล้วนายล่ะ”แนะนำตัวแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงบนเตียงของตัวเอง คนที่ว่ามองมาอย่างรอคำตอบ
“แจ็คสัน หวัง วิศวะ”ยิ้มให้จนเต็มแก้ม ฝั่งนั้นหยิบขนมมาแกะแล้วยื่นให้เขา
“สักหน่อยไหม”แจ็คสันมองแล้วส่ายหัว เขากำลังวุ่นวายกับการยัดสิ่งของเข้าที่ อย่างน้อยก็ไม่ควรให้รูมเมทรู้สึกว่ามันเกะกะ
“ไม่ต้องรีบจัดก็ได้”เหมือนถูกอ่านใจออกจนปรุโปร่ง แจ็คสันเลิกคิ้วหันไปมอง ฝ่ายนั้นทำหน้ายียวนก่อนจะเฉลยให้ฟัง
“ฉันหมายถึงว่ามันก็ดึกแล้ว แล้วนายก็น่าจะพักก่อน อย่าคิดว่าความรกจะรบกวนฉันหรอก ฉันไม่ได้เจ้าระเบียบสักหน่อย”ถ้าคนตรงหน้าคืออิมแจบอมหรือปาร์คจินยองเขาคงร้องว่าหรอใส่หน้าดังๆ ไปสักที แต่นี่ไม่ใช่และเป็นคนที่เพิ่งรู้จักด้วย
“แต่ดูนายจัดของเรียบร้อยมากเลย ฉันคงรู้สึกแปลกๆ ถ้าไม่เก็บของให้เป็นระเบียบตอนนี้”หยิบเอาผ้าปูที่นอนมาคลุมเอาไว้อย่างเก้กัง คนฝั่งนั้นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินมาช่วยเหลือ
“ฉันช่วยนายดีกว่า...แล้วที่จริงฉันก็ไม่ได้เจ้าระเบียบอะไรนักหรอก ทั้งหมดนี่ฝีมือไอ้ตัวยุ่ง เอ่อ แฟนฉันหนะ”พูดแล้วก็ยิ้มไป แจ็คสันมองหน้าคนที่ว่าแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ มาร์คช่วยใส่ผ้าปูที่นอนจนเรียบร้อย
“ขอบใจนะ”ด้วยความสัตย์จริงว่าแจ็คสันหวังรู้สึกดีมากกับรูมเมทคนนี้ จากที่กลัวจะเข้ากันไม่ได้กลายเป็นว่าดีกว่าที่หวังไว้เสียอีก
“ไม่เป็นไร เราเพื่อนกันแล้วนี่”เจ้าของความสูงที่มากกว่าเขาเกือบคืบยิ้มหวาน แจ็คสันตอบแทนรอยยิ้มและมิตรภาพนั้น ด้วยยิ้มหล่อที่แสนจริงใจ
“นี่เมทกูเอง มาร์คนิเทศ”เอ่ยปากแนะนำรูมเมทสุดหล่อที่นอนไขว่ห้างอ่านดราก้อนบอลอยู่บนที่นอนตัวเอง แจบอมยกมือขึ้นระดับไหล่ทักทาย
“มาร์ค นี่แจบอมเพื่อนสนิทฉัน”ฝ่ายนั้นลุกขึ้นมาโค้งให้นิดๆ สองคนยิ้มให้กันเป็นมิตร
“กินข้าวกันมึง..อ่า มาร์คไปด้วยกันไหม”แจบอมออกปากชวน ฝ่ายนั้นยิ้มให้ก่อนที่แจ็คสันจะแย่งตอบหน้าตาเฉย
“เดี๋ยวมาร์คจะไปกินกับคนพิเศษ เราไปเหอะน่า”พูดพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม มาร์คอมยิ้มน้อยๆ เพราะถูกแซว แจบอมหัวเราะก่อนจะโบกมือเป็นการลาให้เจ้าของห้องคนที่เหลือ
ร้านข้างมหาวิทยาลัยเป็นที่แรกที่ถูกเลือก สามคนรวมทั้งจินยองนั่งรอที่ร้านก่อนแล้ว เมนูสามสี่อย่างถูกสั่งมากินร่วมกันเหมือนปกติเวลาอยู่ที่โรงเรียน เด็กหนุ่มสามคนพูดคุยกันสนุกสนาน ก่อนที่จินยองจะเงียบลงพร้อมด้วยดวงตาเล็กที่มองออกไปนอนร้านนิ่ง
“เป็นไรวะ กำลังขำๆ ก็หยุดเล่า”แจ็คสันถามขึ้นพลางตักอาหารเข้าปาก แจบอมหันมองตามสายตาเพื่อนไปแล้วร้องออกมาจากในลำคอ
“นั่นมัน....”
“......”เอ่ยชื่อคนที่เคยคุ้นออกมาเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน รสชาติอาหารจืดชืดลงในทันที แจ็คสันมองตามแผ่นหลังบางที่ไกลออกไปนิ่ง ภาพต่างๆ เมื่อเกือบสามปีก่อนที่เขาคิดว่ามันถูกฝังลึกและปิดผนึกแน่นหนาลงไปในความทรงจำแล้วไหลย้อนกลับมาจนเหมือนกับว่ามันเพิ่งผ่านไปเมื่อครู่นี้
แต่นั่นย้ำให้รู้ว่าเขาปางตาย
‘
“ฉันรักนายนะแจ็คสัน”ในอ้อมกอดมีคนตัวเล็กซุกอยู่ เขาสองคนที่ริมแม่น้ำฮัน ดวงตาเล็กนั่นออดอ้อน รอยยิ้มของริมฝีปากอิ่มน่ารักสดใส
แบมแบมเป็นคนไทยที่ย้ายมาอยู่ที่นี่เหมือนกับเขา
“มากไหม”ย้ำถามคำพูดนั้นด้วยน้ำเสียงนุ่ม คนตัวเล็กเบี่ยงออกจากอ้อมกอด เจ้าของเสื้อสูทนักเรียนสีเขียวเข้มตัวเล็กกว่านิดหน่อยเอื้อมมือมาตะใบหน้าของคนรัก แจ็คสันยิ้มให้เจ้าของฝ่ามือเล็ก
“มากที่สุดเลย ..ในโลกนี้ฉันว่าไม่มีใครจะดีเท่าแจ็คสันของฉันอีกแล้ว”เลื่อนมือขาวมาวางตรงนอกสูทสีแดงเลือดหมูของคนตัวโต รอยยิ้มบางระบายบนแก้มขาว
“ฉันอยู่ในนี้ใช่ไหม ..ให้ฉันอยู่ที่นี่ตลอดไปนะ”
‘
“เฮ้ย! แจ็คสัน ร้องไห้หรอได้ขี้แง”จินยองตะโกนใส่หูเพื่อปลุกเขาออกจากภวังค์ ความร้อนมันพุ่งขึ้นตาเลยก้มหน้าไม่ยอมสบตาใครและก็ทำเพียงส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ
“เจ้านั่นเรียนที่นี่หรอวะ โลกกลมจริง”แจบอมเปิดประโยคสนทนากับจินยองโดยปล่อยให้เขานั่งฟังและทำใจเงียบๆ เพื่อนตัวผอมที่นั่งข้างกาย พยักหน้าเห็นด้วย แล้วตักหมูเข้าปากแต่ไม่ทันได้เคี้ยวดีก็เอ่ยตอบเพื่อน
“เออ กลมมาก...ที่สำคัญกูเห็นว่ามันเดินกับไอ้คนนั้นด้วย”
‘ไอ้คนนั้น’ สรรพนามที่เรียกแฟนใหม่ที่ทำให้แจ็คสันหวังโดนทิ้งเหมือนกับรองเท้าเก่าๆ ที่ขาดจนซ่อมมาใส่ไม่ได้ สรรพนามที่ไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาของมันเป็นยังไง มีเพียงจินยองที่เคยเห็นคนคนนั้น
“คบกันนานเชียว”แจบอมเอ่ยขึ้น ในขณะแจ็คสันที่นิ่งอยู่นานยกแขนขึ้นมานั่งเท้าคาง ดวงตาคมหม่นหมองอมเศร้าได้จัดการข่มความเสียใจลงไปแล้ว
“คงรักกันมาก”พูดเองก็เจ็บเอง แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อความจริงมันก็แบบนั้น ..เขาโดนบอกเลิกเพราะความรักของเขามันบินหนีไปแล้ว
‘แต่แจ็คสันหวังยังเก็บคนคนนั้นไว้ในใจตามที่เคยสัญญา’
ล่วงเลยเวลาจนบ่ายคล้อย แจ็คสันหวังนอนคลายอารมณ์จนบ่ายคล้อย อยู่ที่ห้องของเพื่อนสนิท ที่คู่นั้นเหมือนจะจับคู่กันถูกแล้ว เมื่อเครื่องเกมส์ถูกติดตั้ง และมันทั้งคู่ก็เอาแต่รัวจอยกันแกร๊กๆ ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย คนตัวหนามองแอนิเมชั่นบนจอที่ปล่อยพลังใส่กันอย่างเมามันส์ จินยองที่เล่นแพ้แจบอมไม่รู้กี่รอบออกแอคชั่นมากมายแต่สุดท้ายก็...
‘GAME OVER’
“มึงเปลี่ยนเกมส์เหอะจินยอง กูเบื่อละ”แจบอมโอดครวญพลางลงไปนอนแผ่ที่พื้นห้อง จินยองมุ่ยหน้าให้ความพ่ายแพ้ที่ได้รับแบบนอนสตอป
“ไม่ กูยังไม่ชนะ!”โวยวายและไม่ยอมเลิกเล่น แจบอมหันมองหน้าเขาที่นอนคว่ำอยู่บนที่นอน แจ็คสันทำเพียงยิ้มให้กำลังใจเพื่อน
“มึงเล่นอีกร้อยรอบก็ไม่ชนะหรอก วินนิ่งเหอะน่านะจินยองอา”แจบอมลุกขึ้นมานั่งเจรจาแล้วตบท้ายด้วยการอ้อนเพื่อนสนิทแบบที่คิดว่าน่ารัก แจ็คสันยิ้มขำ ส่วนจินยองดูรังเกียจการกระทำนั้นมากกว่าเอ็นดู
“ทำไรเนี่ย พอเลยมึง วินนิ่งก็ได้วะ เลิกทำท่าไม่เข้ากับหนังหน้าสักที”ยิ่งกว่ารังเกียจท่าทีนั้น ก็หน้าแมนๆ แต่ทำตัวเหมือนพร้อมจะแปลงเพศได้ทุกเวลา คือมันไม่เข้าท่า ชวนอ้วกจริงๆ
“ดีมากเพื่อนเลิฟ”โถมตัวกอดเหมือนกับได้ของขวัญที่ถูกใจ แจ็คสันหัวเราะร่วนมีความสุขที่เห็นเพื่อนหยอกล้อกัน ก่อนที่จะนึกได้ว่า เขาเองก็เคยมีความสุขกับใครบางคนมากเหมือนกัน
แต่มันจบลงแล้ว..
“แจ็คสันหวัง เมทมึงนี่เขาหน้าตาดีนะ ไม่ลองจีบล่ะ”อยู่ๆ แจบอมก็พูดขึ้นมาขณะเลือกทีมฟุตบอลที่ต้องการ คนตัวหนาเลิกคิ้วงงกับคำถามของเพื่อนที่พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อะไรของมึง”ถามเข้มๆ คนเดิมหันมามองที่เขาแล้วยิ้มกวนประสาท
“ไหนๆ ก็เรียนมหาลัยเดียวกับแฟนเก่า มึงก็ควรจะมีแฟนสักคนควงให้เขาเห็น แบบที่ดูดีกว่าอะไรเงี๊ยะ”เขาไม่คิดว่าคำแนะนำแบบนี้มันทำแล้วจะดีหรอกนะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าคนแบบแจบอมจะคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องความรักเป็น ก็เพื่อนของเขาเป็นคนป่าเถื่อน และไม่เคยคบใครจริงจังสักคน
“ละทำไมต้องมาร์ค”อยากจะรู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมต้องเอ่ยมาเป็นรูมเมทคนหล่อคนนั้น
“ก็เขาอยู่ห้องเดียวกับมึงป่ะ แล้วเวลาจะอะไรกันลึกๆ ซึ้งๆ จะได้ไม่ต้องลำบาก”พูดไปก็ทำท่าทำหน้าซี้ดซ๊าดสยิว จินยองกับเขามองหน้ากันด้วยความเอือมระอา ก่อนที่เจ้าของมือใหญ่ที่ครองพื้นที่บนเตียงอยู่จะหยิบหมอนข้างมาโยนใส่หัวคนพูดเมื่อครู่ แล้วโต้ไปด้วยรอยยิ้มที่เคลือบได้ด้วยความรู้สึกจริงๆ ที่มี
“กูไม่สนใจคนมีแฟนแล้วหรอก กูรู้ว่าโดนแย่งของรักมันเจ็บ”
_______ INSNARE________
แต่บางทีคนเราก็เลือกจะทำอะไรที่ใจจริงไม่ได้อยากทำ ..
เย็นวันที่สองของการเข้าหอพักและพายุฝนที่จู่ๆ ก็พัดโครมเข้ามาแบบไม่มีตั้งเค้า แจ็คสันปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับข้าวเย็นที่ซื้อไว้ตั้งแต่เที่ยง ก่อนจะเห็นว่ารูมเมทตัวสูงตัวเปียกลอกแลกจากการที่เพิ่งวิ่งออกไปเก็บผ้าเช็ดตัวของเขาทั้งสองคนที่ผึ่งไว้ด้านนอก
“เอ่อ ขอบใจนายมากเลย”ทำหน้ารู้สึกผิดพร้อมกับพูด มาร์คหันมายิ้มทั้งที่กำลังก้มหน้าให้หยุดน้ำที่ลู่กับเส้นผมหยดลงที่พื้นพรมปลายเตียงตัวเอง
“ไม่เป็นไรน่า”
มุมนั้นที่แสงครึ้มๆ สาดมาจากด้านหลังของคนตัวสูง รอยยิ้มพิมพ์ใจและแสนมีเสน่ห์ ทำให้เจ้าของเนื้อผิวขาวเนียนสะกดสายตาของเขาเอาไว้ได้ .อดยอมรับไม่ได้จริงๆ ว่ามาร์คต้วนเพื่อนใหม่ของเขาช่างน่าหลงใหล
“มีไรหรือเปล่า?”เขาคงจะจ้องภาพที่แสนน่ามองนั่นมากเกินไป จนเจ้าของรอยยิ้มแสนสะดุดตานั้นต้องถาม ขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะยิ้มเขินเพราะถูกจับอาการได้
“อะ เอ่อ ..เปล่า นายกินอะไรหรือยัง ฉันซื้อข้าวเย็นมากินด้วยกันไหม”ออกปากชวนแก้เก้อ พลางหยิบจานชามออกมาใช้ ข้าวของของเขาจัดเข้าที่แล้วตั้งแต่เช้าโดยมีรูมเมทแสนดีมาช่วยเหลือ
“เรียบร้อยแล้ว อื้ม.. วันนี้ฉันเห็นนายกับเพื่อนนั่งกินข้าวที่ร้านข้างมหาลัย ว่าจะทักแต่แฟนฉันดันหิวจัดเลยต้องรีบพาไปกิน เดี๋ยวฟ้าผ่าใส่”มาร์คยิ้มกว้างหลังพูดจบ ดูเหมือนว่าเมทเขาจะรักแฟนมากและเขาหรือเธอคนนั้นคือความสุขในชีวิตของมาร์คจริงๆ
“น่าอิจฉาเธอนะ คบกันนานแล้วสินายถึงดูรักเธอมาก”แจ็คสันพูดสบายๆ พลางตักข้าวคำแรกเข้าปาก ฝ่ายนั้นหัวเราะเบาๆ ถอดเสื้อยืดสีดำลายกราฟฟิคสวยงามที่ชื้นไปด้วยน้ำฝนออกทางศีรษะ เผยผิวขาวละเอียดและมัดกล้ามเนื้ออ่อนๆ ตามต้นแขน แผงอกและหน้าท้อง
“สองปีกว่าแล้ว พวกฉันจบไฮสคูลเดียวกันหนะ แล้วแฟนฉัน แบมแบมไม่ใช่ผู้หญิงหรอกแต่เป็นผู้ชายน่ารักๆ นายคงไม่ได้อึดอัดใจนะที่มีรูมเมทที่ชอบผู้ชาย”แจ็คสันนิ่งค้าง ข้าวคำที่สองที่ยังไม่ทันได้ส่งเข้าปากถูกวางลงอย่างเชื่องช้า เขาพยายามครองสติและตอบคำถามที่แทบจับใจความไม่ได้ออกไปอย่างลำบาก
“ไม่..ไม่หรอก”สั้นๆ เพียงพอจะควบคุมเสียงที่มีไม่ให้สั่นจนคนฟังรู้ มาร์คยิ้มดีใจแล้วพาร่างที่เปลือยท่อนบนเดินผ่านเขาเข้าห้องน้ำไป
คงหลอกตัวเองไม่ได้ว่าไม่ใช่ ..
ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อโหลในเกาหลีแบบจินยองหรือแจบอม
ชัดเจนว่า......ความเจ็บปวดมันอยู่ใกล้ตัวเขามากจริงๆ
_______ INSNARE________
‘
JACKSONW : เห็นหน้าแฟนใหม่แบมแบมแล้ว
JR7 : ที่ไหน?
JACKSONW : เขาเป็นรูมเมทกู
TO BE CON'
TALK''
- ติ่งมาสักพักและพยายามจะเขี่ยออกมาให้ได้สักเรื่องแต่ไม่เป็นผลเลยตลอดมา...เรื่องนี้มีพลอตและคิดว่าน่าจะทำได้ T^T
- สไตล์เถื่อนนี่เลิกไม่ได้จริงๆ โมเมนท์แจ็คมาร์คไม่อาจต้านทานได้เลยออกมาทำนองนี้
- ฟิคชั่นเซอเคิ้วไม่มีทำว่าอ่อนโยนนัก อาจจะละมุนบ้างต้องรอดูนะคะ
ขอบคุณที่สนใจค่ะ <3
’
:) Shalunla
ความคิดเห็น