วันนี้เป็นวันที่นักเรียนทุกคนมาโรงเรียนเพื่อดูห้องเรียนในเทอมใหม่และหลายต่อหลายคนคงมีความสุขที่ได้อยู่ห้องเรียนเดียวกับคนที่ตนแอบชอบแต่คงไม่ใช่เค้าคนนี้
"เป็นแบบนี้อีกแล้วสินะ"เด็กสาวรูปร่างเล็กผิวขาวราวกับไข่มุกพูดกับตัวเองเบาๆพลางมองไปที่เด็กสาวคนหนึ่งที่ดูท่าทางมีความสุขกับห้องที่ตัวเองได้อยู่นั่นก็คือ"ฮวัง ทิฟฟานี่"เด็กสาวจากอเมริกาผู้ที่คิม แทยอนคนนี้ชอบมาตั้งแต่ม.1 ทั้งๆที่ตอนม.1เราก็สนิตกันดีแต่แล้วแทยอนคนนี้ก็ถูกเมินเพราะอยู่ๆก็มีคนมาล้อว่า"แทยอนชอบทิฟฟานี่"ตั้งแต่วินาทีนั้นเราก็แทบไม่ได้คุยกันเลย ไม่รู้เลยสักนิดว่าทำอะไรผิด แต่ก็ยังดีที่ยังทักกันอยู่ เราเคยอยู่ห้องเดียวกันตอนม.1แต่นับจากนั้นมาเราก็ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันอีกเลยเพราะว่าฉันมักจะอยู่ห้องรองโหล่เสมอ ส่วนเธอมักจะอยู่ห้องคิงเสมอ
ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันได้มีกำลังใจอยู่ได้นั้นก็คือ
"แทยอนหวัดดีจะ"
"หวัดดี"
คำพูดไม่ก็คำของทิฟฟานี่ที่พูดกันตอนเฉพาะตอนเดินผ่านกัน แต่...มันควรจะดีใจไหม?ที่เธอทักฉัน เพราะฉันรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าทักไปตามมารยาท ก็นะ..คนมีมารยาทก็เงี้ย
หลังจากที่ได้ยินเสียงเพียงไม่กี่คำของเธอแล้วฉันก็เดินเล่นอยู่ในโรงเรียนจนถึงเย็นแล้วจึงกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านก็ขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสี้อผ้า แล้วก็นั่งเล่นคอมไปเรื่อยเปื่อย พอมืดก็อาบน้ำนอน น่าเบื่อไหมละชีวิตฉัน
วันต่อมา วันนี้เริ่มต้นชีวิตที่น่าเบื่ออีกวันของคิม แทยอน ในตอนกลางวันก็นั้งคิดไปเรื่อยเปื่อยถึงตอนม.1เป็นความผิดพลาดของเธอเองที่เอาเรื่องที่เธอชอบทิฟฟานี่ไปบอกเพื่อนที่สนิตที่สุดอย่าง"ควอน ยูริ"และด้วยความที่ยูรินึกสนุกอยากแกล้งฉันเธอก็เอาไปพูดใบ้เพื่อนในห้องว่าฉันชอบใคร และความซวยก็เกิดขึ้นอีกเมื่อพวกนั้นทายถูกและเอาเรื่องนี้ไปบอกทิฟฟานี่ซึ่งเป็นสาเหตุที่เธอเมินใส่ฉันในช่วงนั้น ในตอนนั้นฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกยูริซึ่งยูริก็ตกใจและก็ขอโทษที่ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้บอกเหตุผลว่ามันนึกสนุกก็เลยเล่นๆเฉยๆไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันบอกไปว่าก็ไม่ได้โกรธอะไรทั้งที่ในใจอยากจะต่อยหน้ามันตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ...ฉันจะทำยังไงกับชีวิตตัวเองดีนะ เบื่อกับชีวิตแบบนี้ อยากจะตายๆไปให้รู้แล้วรู้รอด เบื่อกับชีวิตที่ต้องรออย่างไร้จุดหมาย เบื่อกับความฝันลมๆแล้งๆ ฉันจะทำยังไงดีนะ ทำไมถึงคิดไม่ออกเลย....
"แท"
"แท!!"
"คิม แทยอน!!!"
"หะ อะไรหรอเรียกซะดังเลย"แล้วก็มีเสียงที่ทำให้ฉันออกจากห้วงความคิดแต่ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้ไม่คิดมากไปกว่านี้"ก็ฉันเห็นแกนั้งหน้ามึนอย่างกับจะระรึกชาติให้ได้อย่างงั้น เป็นไรป่าวเนีย"
"ป่าว ไม่มีไรหรอก จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้วนี่ไปเรียนกัน"หลังจากชวนจอมป่วนอย่างยูริเข้าเรียน เหมือนเวลามันช้าลงยังไงไม่รู้ตอนที่ไม่มีเธอทิฟฟานี่ เฮ้อ...ฉันคิดอะไรเนี้ยเรียนต่อดีกว่า สุดท้ายตลอดคาบบ่ายฉันเรียนไม่รู้เรื่องเลยสักวิชาเป็นอย่างนี้ทุกวันจากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี จนถึงวันที่เรียนจบม.6 วันนี้มีเวทีเล็กๆสำหรับคนที่จะบอกลาเพื่อนเพื่อไปเรียนต่อที่อื่นแต่ก็คงเป็นมหาลัยในประเทศส่วนฉัน ฉันตัดสินใจไว้ตั้งแต่ม.5แล้วว่าถ้าจบม.6จะขอลาชีวิตที่ว่างปล่าวที่สักทีนั้นก็คือการไปเรียนต่างประเทศเพื่อที่จะลืมเธอคนนั้นวันนี้ฉันเห็นเธอสนุกสนานดีตอนนี้กำลังคุยอยู่กับกลุ่มของเธอนั้นคือ"ลี ซุนคยูหรือซันนี่""จอง เจสสิก้า"และคนฉันไม่รู้ว่าไปสนิตกับทิฟฟานี่เมื่อไรอย่าง"ควอน ยูริ" อยากจะเข้าไปทักเธอเพราะนี่เป็นวันสุดท้ายในเกาหลีแล้วแต่ก็ไม่กล้าอยู่ดี ในวินาทีนี้ฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะบอกกับเธอยังไงว่าฉันกำลังไปเรียนต่อที่อเมริกา ในตอนนั้นเองที่ฉันเหลือบไปเห็นเวที ฉันเลยตัดสินใจขึ้นไปร้องเพลงๆนึงให้เธอ แต่เธอจะฟังไหมฉันก็ไม่รู้เพราะตอนนี้เธอและกลุ่มของเธอกำลังเดินไปที่ตึกเรียนซึ่งอยู่ตรงข้ามจากเวที
"คือวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ฉันจะได้อยู่เกาหลี ฉันก็เลยอยากจะร้องเพลงให้คนๆนึงฟัง"
아무 준비도 하지 못한 채 떠나려는 너의 눈앞에 서서
อามู ชุนบีโด ฮาจี โมทัน แช ตอนารยอนึน นอเอ นุนอาเพ ซอซอ
ฉันยืนต่อหน้าเธอที่กำลังเดินจากไป อย่างที่ฉันไม่เคยได้เตรียมใจ
그 어떤 말조차 하지 못해 그저 손만 흔들어
คือ ออตอน มัลโชชา ฮาจี โมแท คือจอ ซนมัน ฮึนทือรอ
ฉันพูดอะไรไม่ออก นอกจากโบกมือให้กับเธอ
잘 가 손 흔들어 반짝이는 너를 향해
ชัล กา ซน ฮึนทือรอ พันจากีนึน นอรึล ฮยังแฮ
ขอให้โชคดี ฉันโบกมือให้กับเธอผู้ส่องประกาย
안녕 내 사랑 내 소중한 사람아
อันนยอง แน ซารัง แน โซจุงฮัน ซารามา
ลาก่อน เธอผู้เป็นดั่งความรักของฉัน เธอผู้เป็นดั่งคนสำคัญของฉัน
햇살처럼 뜨겁게만 날 안아준 그대여
แฮดซัลชอรอม ตือคอบเกมัน นัล อานาชุน คือแดยอ
คนที่คอยโอบกอดฉันไว้อย่างอบอุ่นดุจดั่งแสงอาทิตย์
두 눈 가득히 널 보며 안녕
ทุ นุน คาทือคี นอล โพมยอ อันนยอง
สองตาของฉันมองเธอด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม ลาก่อน
조금 더 널 보며 안녕
โชกึม ทอ นอล โพมยอ อันนยอง
ฉันมองเธออีกเพียงครู่เดียว ลาก่อน
부디 행복하길
พูดี แฮงโบคากิล
ฉันเพียงแต่ขอให้เธอมีความสุข언제나 그댄 늘 빛이 나는 사람이기를
ออนเจนา คือแดน นึล บีชี นานึน ซารามีกีรึล
ขอให้เธอเป็นคนที่เปล่งประกายได้เสมอไม่ว่าเวลาไหน
미소로 안녕 조금 더 힘을 내 이제는 안녕 잘 가
มีโซโร อันนยอง โชกึม ทอ ฮีมึล แน อีเจนึน อันนยอง ชัล กา
ฉันกล่าวลาด้วยร้อยยิ้ม ฉันรวบรวมกำลังขึ้นอีกนิด ตอนนี้ต้องจากกันแล้ว ขอให้โชคดี
우리 이제
อุรี อีเจ
ตอนนี้ เราต่างต้อง
안녕 내 사랑 내 소중한 사람아
อันนยอง แน ซารัง แน โซจุงฮัน ซารามา
จากกัน เธอผู้เป็นดั่งความรักของฉัน เธอผู้เป็นดั่งคนสำคัญของฉัน
햇살처럼 뜨겁게만 날 안아준 그대여
แฮดซัลชอรอม ตือคอบเกมัน นัล อานาชุน คือแดยอ
คนที่คอยโอบกอดฉันไว้อย่างอบอุ่นดุจดั่งแสงอาทิตย์
두 눈 가득히 널 보며 안녕
ทู นุน คาทือคี นอล โพมยอ อันนยอง
ฉันมองเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมล้นด้วยความรู้สึก ลาก่อน
환하게 웃으며 Oh
ฮวานฮาเก อุซือมยอ Oh
ฉันยิ้มให้เธออย่างสดใส โอ้
안녕 잘 가 소중한 사람아
อันนยอง ชัล กา โซจุงฮัน ซารามา
ลาก่อน ขอให้โชคดี คนสำคัญที่สุดของฉัน
아름답게 반짝이며 날 비춰준 그대여
อารึมทับเก พันจาคีมยอ นัล พีวอชุน คือแดโย
คนที่งดงามและสดใส ที่มอบแสงสว่างให้กับฉัน
안녕 내 사랑 널 보며 안녕, 조금 더 널 보며 안녕
อันนยอง แน ซารัง นอล โพมยอ อันนยอง, โชกึม ทอ นอล โพมยอ อันนยอง
ลาก่อน ความรักของฉัน ฉันมองเธอ แล้วกล่าวอำลา, ฉันมองเธออีกเพียงครู่เดียว ลาก่อน
หลังจากร้องเพลงเสร็จฉันก็เดินลงมาที่เธอแล้วเดินไปใกล้ๆและบอกกับเธอว่า"ลาก่อน ความรักของฉัน"แล้วฉันก็ค่อยๆถอยห่างออกมาเห็นเธอทำหน้าเรียบๆทายไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไงแต่ตอนนี้ฉันไม่อยากรู้แล้วหละ ฉันค่อยๆหันหลังแล้วก้าวไปอย่างช้าๆ รู้ตัวอีกทีก็มาถึงรถที่ตัวเองขับมา ฉันขึ้นไปนั่งบนรถแล้วก็ขับกลับบ้านไปเอาของทันที หลังจากที่ไปเอาข้าวของต่างๆมาฉันก็ตรงไปที่สนามบิน และรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่มีพวกเพื่อนๆของฉันและเธอคนนั้นมาอยู่ที่สนามบิน เพื่อนๆทุกคนต่างเข้ามาแสดงความยินดีที่ฉันได้ไปเรียนต่อในที่ดีๆ ในขณะที่ฉันกำลังบอกลาเพืี่อนเพื่อที่จะไปขึ้นเครื่องนั้นอยู่ๆทิฟฟานี่ก็เดินเข้ามาอวยพรว่าขอให้โชคดีนะ ตอนแรกฉันก็ดีใจที่อย่างน้อยเธอก็มาพูดด้วย แต่คิดไปคิดมาเธอคงพูดตามมารยาทก็นะ ฉันก็แค่ยิ้มเล็กน้อยและบอกลาทุกคนอีกครั้งหนึ่ง รู้สึกว่าฉันจะง่วงมากไปหน่อยเลยเห็นเหมือนเธอจะร้องไห้ 'คงตาฝาดไปเองแน่ๆอย่างเธอคงไม่ร้องไห้ให้คนอยางฉันหรอก'ฉันคิดกับตัวเองอย่างนั้นก่อนที่จะหันหลังให้ทุกคนแล้วเดินไปขึ้นเครื่อง ทำไมนะฉันถึงรู้สึกเหมือนเสียงเธอตะโกนเรียกแต่คงหูฝาดไปเอง ก็ฉันมันคงไม่มีค่าพอให้เธอเรียกหรอก
ตอนนี้ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกไม่อยากไปแล้วสิ เปลี่ยนใจตอนนี้จะทันไหมนะ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆตอนนี้ฉันอยู่ที่อเมริกา ไม่เข้าใจทำไมถึงลืมเธอไม่ได้สักที ทุกๆวันหลังจากที่เรียนเสร็จฉันจะนั่งอยู่หน้านาฬิกามองดูเวลาที่กำลังผ่านไปเรื่อยๆอย่างไม่เคยหยุดพัก โดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าเวลาของฉันกำลังจะหยุดลง
วันต่อมาวันนี้สภาพอากาศไม่ค่อยดีเท่าไรเพราะฝนตกหนักตลอดทั้งวันอย่างกับพายุเข้า ในตอนเย็นฉันเดินตากฝนไปเรืี่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามาเดินตากฝนให้ตัวเปียกเล่นทำไม เดินไปสักพักเหมือนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือเป็นเสียงที่คุ้นจริงๆฉันเลยรีบวิ่งไปต้นเสียงแล้วก็เจอกับโจรที่กำลังปล้นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ด้วยความที่ไม่ทันคิดว่าโจรจะมีอาวุธหรือป่าว ฉันจึงวิ่งเข้าไปใช้ไม้แถวนั้นตีเข้าที่คอจนโจรนั้นสลบไป หรือป่าวนะ
"คุณไม่เป็นไรใช่ไหม"
"คะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้"หญิงสาวคนนั้นตอบก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา
"ทิฟฟานี"ฉันมองเธอด้วยสายตาอึ้งๆ'มาอยู่ที่นี่ได้ไง'
"แท.."
ปัง!!
ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะพูดจบโจรที่ไม่รู้ฟื้นขึ้นมาเมื่อไรไม่รู้นั้นมั้นก็ควักปืนมายิงฉันแล้วก็หนีไป
"แทยอน!!!"
เจ็บจัง นี่เป็นความรู้สึกแรกที่ฉันรู้สึก สิงที่ฉันเห็นตอนนี้คือทิฟฟานี่กำลังเรียกชื่อชั้นอยู่แต่ทำไมแรกของฉันไม่มีเลยขยับตัวไม่ได้
"คิม แทยอน!!เธอห้ามหลับนะ!!ฉันมาอเมริกาเพื่อจะบอกความรู้สึกของฉันนะ!!ถ้าเธอไม่อยู่แล้วฉันจะบอกกับใครเล่า!!"จะบอกอะไรนะมันคงไม่เกี่ยวกับฉันหรอกมั้ง
"คิม แทยอนฉันรักเธอนะ!!เธอได้ยินไหมฮวัง มิยองรักคิม แทยอน!!ได้โปรดอย่าตายนะ!!"
อะ.. อะไรกันทำไมเธอไม่บอกให้เร็วกว่านี้นะทำไม
ภาพที่ทิฟฟานี่กำลังเรียกชื่อฉันทั้งน้ำตานั้นคือสิ่งที่ฉันเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เวลาของฉันจะหยุดเดินตลอดกาล
ตอนนี้ร่างของฉันกลับมาอยู่ที่เกาหลีโดยมีทิฟฟานี่อยู่ด้วยตลอดเวลาและวิญญานของฉันเองที่มองเธออยู่ตลอด ตอนนี้ร่างของฉันอยู่ในโลงมีคนมาเคารพศพของฉันมากมายมีทั้งเพืี่อนๆ ครอบครัว และทิฟฟานี่ทุกคนกำลังร้องไห้ฉันมองร่างของตัวเองอย่างอาลัย รู้สึกเสียดายชีวิต
"ถึงเวลาที่เจ้าต้องไปแล้ว"เสียงของยมทูตพูดขึ้น
"ชีวิตมนุษย์มันสั้นจังนะท่านยมทูต"ฉันพูดกับยมทูต
"เจ้าเสียดายชีวิตงั้นรึ""ก็น่าจะนะ"ฉันตอบด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ
"ไปกันเถอะ"ฉันพยักหน้าพลางมองไปที่ทิฟฟานี่
"ลาก่อนนะ....ทิฟฟานี่"ฉันยิ้มเศร้าๆให้เธอแต่เธอคงไม่ห็นหรอกนะก็ฉันหนะตายแล้วนี่น่า และฉันก็หายไปพร้อมกับยมทูต
...คุณทุกคนเคยได้ยินคำว่า"รักจนตาย"ไหมละฉันว่าคำนี้ใช้ได้ดีกับฉันนะ...
...ฉันรักเธอนะทิฟฟานี่...
...ลาก่อน ความรักของฉัน...
...ลาก่อนทิฟฟานี่...
ความคิดเห็น