คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ลมรัก 21
ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง เกลินถูกริคกี้ขอให้ออกมาเป็นเพื่อน เขาอ้างว่าต้องการจะมาซื้อของให้เพื่อนผู้หญิงจากขอร้องให้เธอมาเป็นเพื่อน ด้วยความเกรงใจเธอจึงไม่กล้าปฏิเสธ
“ ขอบคุณครับที่ยอมมาเป็นเพื่อน ไม่งั้นผมคงแย่ เพราะผมไม่สันทัดเรื่องเลือกของให้ผู้หญิง “ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณเป็นการใหญ่
“ เรื่องเล็กน้อยค่ะ เกลยินดี “ เธอตอบรับคำขอบคุณอย่างแจ่มใส ได้ออกมานอกบ้านเสียบ้างมันก็รู้สึกดีไม่น้อย “ แต่เกลไม่ใช่คนตามแฟชั่นจ๋าหรอกนะคะ ถ้าจะให้แนะนำ เป็นน้ำหอมหรือเครื่องประดับน่าจะดีนะคะ เพราะผู้หญิงชอบของสวยๆ งามๆ อะไรพวกนี้ เกลเองยังชอบเลย “
“ น้ำหอมเหรอครับ น่าสนนะ งั้นรบกวนคุณช่วยเลือกหน่อยได้ไหม “
ทั้งคู่เข้าไปในร้านน้ำหอมชั้นนำแห่งหนึ่ง โดยมีพนักงานหน้าตายิ้มแย้มคอยบริการ ขวดแก้วสุดหรูที่บรรจุน้ำหอมหลากกลิ่นถูกหยิบขึ้นมาให้เลือกสรร แต่ล่ะกลิ่นมีความเอกลักษณ์ของตัวตนได้ดี สำหรับเกลินนั้นไม่นิยมกลิ่นฉุนแรง เธอชอบกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ หอมสดชื่น
ระหว่างที่ทั้งสองยืนเลือกน้ำหอมขวดแล้วขวดเล่าอยู่นั้น ด้านนอกร้านมีสายตาของคนๆ หนึ่งเหลือบมองเข้ามาพอดี วงหน้าเข้มขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจกับภาพเบื้องหน้า เพราะคนหนึ่งนั้นคือเพื่อนสนิทของเขา อีกหนึ่งคือศรีภรรยาหน้าเงินที่ชอบคลุกอยู่แต่ก้นครัว สองคนนี้แอบนัดกันออกมาโดยไม่บอกเขามันน่าเจ็บใจจริง จู่ๆ วันนี้เขาเกิดอยากมาหาซื้อของแล้วมาเห็นภาพที่ไม่เจริญตาแบบนี้เข้า แม่ตัวดีนั่นก็กระไรช่างน่าไม่อาย มีสามีเป็นตัวเป็นตนยังกล้าออกมากับชายอื่น ถึงเขาจะเป็นแค่สามีกำมะลอของเธอก็เถอะ
“ กลิ่นนี้ก็หอมนะคะ แบบธรรมชาติดี ไม่รู้ว่าคนที่คุณริคกี้จะซื้อให้เป็นคนแบบไหน ต้องเลือกกลิ่นให้เหมาะกับเจ้าตัวถึงจะดีคะ “ หญิงสาวนำแผ่นกระดาษตัวอย่างน้ำหอมขึ้นดม
“ ก็คล้ายๆ คุณนี่แหล่ะครับ สดใส น่ารัก อ่อนหวาน คุณชอบกลิ่นนี้เหรอ ไหนดูสิ “ เมื่อเขาพูดแทนที่เขาจะหยิบแผ่นทดลองนั้นไปดม กลับจับมือนิ่มโดยที่เธอยังกำแผ่นทดลองนั้นอยู่ ยกมันขึ้นดมหน้าตาเฉย ขณะที่ปลายหางตายังแอบชำเลืองออกไปนอกร้าน มองร่างสูงยืนสั่นเร่าๆ เป็นเจ้าเข้า คิดว่าเดี๋ยวคงบุกเข้ากระชากเขาออกไป แต่ที่ไหนได้ ไอ้เพื่อนตัวดีดันเดินหนีไปเฉยเลย อะไรวะไม่หึงเมียรึไง มองตามอย่างฉงน จนเมื่อเกลินดึงมือออกจากการเกาะกุม
“ ขอโทษครับ “ เอ่ยด้วยรอยยิ้มเฝื่อนๆ อย่างคนรู้สึกผิดที่ถือวิสาสะจับมือโดยที่เจ้าตัวไม่อนุญาต
มิคาเอลเดินหัดฟัดหัวเหวี่ยงด้วยอาการหงุดหงิด ช่างเธอประไร อยากทำอะไรก็ตามใจเขาไม่สน แต่ถึงจะคิดแบบนั้นหากใจกลับไม่สงบเอาเลย พลันสายตาไปปะทะเข้ากับร่างระหงเข้า มือเรียวของเอมม่าถือถุงช๊อปปิ้ง โดยที่ทางนั้นยังไม่เห็นเขา ชายหนุ่มหรี่ตาลงอย่างคนครุ่นคิดจากนั้นจึงเดินไปหา
หลังจากที่เลือกซื้อของถูกใจได้แล้ว ริกกี้จึงพาเกลินออกมาหาอะไรทานก่อนกลับ ชายหนุ่มกวาดสายตามองหาร้านเหมาะๆ และบรรยากาศดีๆ แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นเสียก่อน ไม่รู้เป็นเพราะความบังเอิญหรือเขาตั้งใจกันแน่ มิคาเอลมาพร้อมกับเอมม่า สองมือหล่อนนั้นกอดแขนเขาไม่ยอมห่าง ไอ้เพื่อนคนนี้มันไม่ไหวเลยจริงๆ คิดอย่างระอาใจ
“ ริคกี้ คุณเกลิน หนีมาเที่ยวกันสองคนเหรอ แหมๆ ทำแบบนี้ไม่เกรงใจมิคกี้บ้างเลยนะ “ เสียงหวานแหลมแกล้งแซวแกมเหน็บ เกลินหน้าเสียลงเล็กน้อย แต่ก็พยายามเชิดคางขึ้นสู้ ก็เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา ขนาดเขายังมากับคนอื่นได้
“ กรุณาพูดให้ดีหน่อยนะครับ ผมแค่ชวนคุณเกลินมาช่วยเลือกซื้อก็เท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเสียหน่อย “ โต้แย้งแบบไม่พอใจนิดๆ เขาแค่จะพาเธอมายั่วมิคาเอล แต่กลายเป็นว่าพาเธอมาตกที่นั่งลำบาก
ด้านมิคาเอล แม้ใบหน้าคมเข้มนั้นจะเรียบนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา เพียงแต่แววตาสีครามกลับขุ่นแข็ง ปรายตามองหน้าเพื่อนสนิทที่ช่างกล้าพูดว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไอ้ที่จับมือถือแขนกันไปดมแบบนี้เรียกว่าไม่เสียหายงั้นหรือ เขาอยากพูดใส่หน้าไอ้เพื่อนจอมหักหลังนี่จริงๆ หากแต่ต้องข่มมันไว้เพราะกลัวเสียหน้า
ริคกี้อยากพาเธอไปกลับไปส่งที่บ้าน เพราะคิดว่าเธอคงไม่สะดวกใจที่จะทานอาหารมื้อนี้กับมิคาเอลและเอมม่า เพียงแต่หญิงสาวนั้นยืนกรานที่จะอยู่ต่อ
ภายในร้านอาหาร บรรยากาศเงียบสงบ เพราะแทบไม่มีลูกค้าเลย แต่อาจเป็นความตึงเครียดบนโต๊ะที่แผ่ออกมาเลยทำให้รู้สึกแบบนั้นก็เป็นได้ เกลินนั้นก้มหน้าอยู่กับเมนูอาหารเพื่อซ่อนอาการขุ่นเคืองไว้ในใจ เธอจะแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่แคร์ เขาอยากจะมากับใครมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา และเธอเองก็เช่นกัน บางทีสัญญานั่นอาจไม่ถึงหกเดือนก็เป็นได้ คิดในใจว่าหากเขาจะขอหย่าเธอก็จะหย่าแต่โดยดี ของแบบนี้มันฝืนใจกันไม่ได้ การแต่งงานมันคือการร่วมแบ่งปันของคนสองคน มันต้องมีปัจจัยหลายๆ เป็นองค์ประกอบร่วมด้วยซึ่งทั้งเธอและเขาไม่มีเลย ทั้งความรัก ความห่วงหา อาทร และใส่ใจ จุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นเพราะสถานการณ์มันบังคับ จึงเกิดเส้นคั่นขึ้นระหว่างกลาง และเธอจะไม่ก้าวข้ามเส้นนั้นเป็นเด็ดขาด
หญิงสาวนั่งทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยราวกับมันเป็นอาหารรสเลิศทั้งที่มันจืดสนิท มองคนรักกันเขานั่งจู๋จี๋แบบไม่อายคนร่วมโต๊ะแล้วช่างบาดตาจัง เกิดอาการหมั่นไส้แต่ต้องข่มใจเพื่อไม่ให้ส้อมในมือปลิวไปหา ผู้ชายก็หน้ามึน ผู้หญิงก็หน้าด้าน พวกเขาลืมไปรึเปล่าว่าที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ริคกี้นั้นพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
“ แล้ว..เอ่อ คุณเอมม่าทำงานอะไรคะ “ เกลินเอ่ยแทรกขึ้นมาหลังจากการทานอาหารที่แสนจะฝืดคออย่างยากลำบาก
“ ฉันนะเหรอ เป็น M.C. ให้กับบริษัททั่วไปนะคะ งานไม่มีตายตัว แล้วแต่ฉันจะเลือกรับ งานพิธีกรก็แบบนี้แหล่ะคะ อิสระ แต่ก็นั่นแหล่ะ เพราะงานนี้มันทำให้ฉันได้เจอกับมิกกี้ ใช่ไหมคะที่รัก “ เอมม่าตอบอย่างฉะฉาน ส่งสายตาหวานพริบพราวซึ่งอาจเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะการเป็นพิธีกรนั้น หรือเรียกเต็มอีกแบบ คือ Master of ceremony นั้นเป็นอาชีพที่จะต้องดึงดูดความสนใจ ทำให้ผู้ชมประทับใจในการดำเนินรายการ จึงไม่แปลกที่เธอจะดูเด่นเฉิดฉายอยู่ตลอดเวลา
“ อืม..แบบนี้เอง ถึงว่าคุณคงเก่งเรื่องดึงดูดความสนใจคน แม้แต่สามีคนอื่นก็ยังไม่เว้น “
“ ก็อาจใช่ค่ะ เพียงแต่ว่าสามีของคนอื่นมันเคยเป็นของเรามาก่อน มันไม่ผิดใช่ไหมถ้าเราอยากได้ของๆ เราคืน “ โต้กลับอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ คนเรานี่ก็แปลกเนาะ ทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเองแล้วก็ยังอยากได้คืน “ ย้อนกลับอย่างเหลืออด หากแต่คนที่ตอบกลับมานั้นไม่ใช่เอมม่า
“ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก มันก็ต้องดูด้วยว่าของชิ้นนั้นเป็นของเราจริงรึเปล่า ถ้าเป็นแค่ของที่ยืมเขามา วันหนึ่งก็คืนให้เจ้าของอยู่ดี “
“ มิกกี้..แกพูดให้น้อยหน่อยได้ไหม “ ริคกี้ปรามขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ อะไร..ก็ฉันพูดความจริง หึ! สามี..กล้าพูด ไม่อายปากหน่อยเหรอ เราทั้งโต๊ะนี่ก็รู้ๆ อยู่ ไม่ต้องแสร้งทำตลอดเวลาทั้งที่มันไม่ใช่ เราต่างคนต่างมีจุดประสงค์ แต่เผอิญฉันไม่ใช่คนเล่นละครเก่ง ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ลับหลังฉันเป็นยังไง ต่อหน้าคนอื่นฉันก็เป็นอย่างงั้น ไม่อวดโอ้อวดอ้างหรอก เพราะมันกระดากปาก เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันว่าสามีด้วยซ้ำ เพราะเราไม่เคยเป็น ก็แค่เมียตีทะเบียน “ ความคึกคะนองบวกกับแรงหึงมันทำเขาพูดโดยไม่คิด แค่อยากจะทำให้เธอเสียหน้า
เกลินจ้องมองชายคนที่อยู่เบื้องหน้ากับคำพูดที่ไม่อยากจะเชื่อหู เขากล้าหักหน้าเธอต่อหน้าคนอื่น ทั้งที่ตกลงกันก่อนแต่งงานแล้วว่าจะให้เกียรต์เธอในฐานะภรรยา นี่คงรักกันมากถึงขนาดออกโรงปกป้อง โกรธจัดจนเลือดพุ่งไปเลี้ยงสมองแทบไม่ทัน ไม่รู้ว่ามือมันไปได้ยังไง น้ำที่มีอยู่ค่อนแก้วถูกสาดออกไปก่อนที่เธอระงับมันได้อยู่ ก่อนจะลุกพรวดออกมา
“ แกเป็นสามีที่ดีมากเลยมิคาเอล “ ริคกี้พูดประชดใส่หน้าอย่างมีอารมณ์ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้กับเมียตัวเอง จากนั้นจึงวิ่งตามเกลินออกไป ท่ามกลางความสะใจของเอมม่า
มิคาเอลปัดมือนิ่มที่พยายามจะเอาผ้าเช็ดหน้าซับคราบน้ำตาออกให้ด้วยความหงุดหงิดใจ ไม่รู้ทำไมถึงเจ็บกับคำพูดของตนเอง เขาจะสนใจผู้หญิงคนนั้นทำไม แต่เมื่อนึกถึงแววตาคู่นั้นที่มันแดงก่ำ ก็อดที่จะใจเสียไม่ได้
เกลินก้าวเท้าฉับๆ ออกมาจากร้าน ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งน้อยใจ ผู้ชายบ้าพูดอะไรออกมาไม่ถนอมน้ำใจกันบ้าง สำหรับเขาเธอเป็นได้เท่านี้เองนะหรือ
“ ฉันก็ไม่อยากเป็นเมียนายหรอก คนใจดำ “ พูดไปพลางน้ำตาก็ไหลไปพลาง
“ คุณเกลิน “ เสียงเรียกของริคกี้ทำให้คนที่อยู่อารมณ์โกรธกรุ่นหยุดชะงัก รีบเช็ดใบหน้าซ่อนคราบน้ำตาไว้อย่างมิดชิด หันไปส่งยิ้มเฝื่อนไปให้
“ อย่าไปสนใจคำพูดมิคาเอลเลย เขาก็ปากเสียแบบนี้แหล่ะครับ “ คำปลอบนี้ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด
“ ช่างเขาเถอะค่ะ เกลไม่สนหรอก อยากพูดอะไรก็พูด ก็มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เรื่องนี้คุณก็รู้ใช่ไหม ในเมื่อรู้กันหมดแล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำอีกต่อไป ฉันก็แค่รอเวลาให้มันจบลงเท่านั้น “ น้ำเสียงของคนพูดมันดูเศร้าสร้อยจนอีกฝ่ายรับรู้ได้ จึงแสดงอาการเห็นใจขึ้นมา
“ คุณไม่สนจริงๆ นะหรือ “ ต้องถามย้ำด้วยว่าแววตาคู่นั้นของเธอมันบอกอย่างชัดแจ้งว่าเธอสนเป็นอย่างมาก มองตากลมใสรื่นชื้นแฉะมันทอประกายหม่นๆ เธออยากจะตอบว่าใช่! เธอไม่สน แต่กลับมาจุกอยู่ที่ละคอไม่สามารเปล่งมันออกมาได้ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และเธอก็ไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย ถอนสายตาเบือนไปทางอื่นเพราะไม่อาจซ่อนความอ่อนแอได้อีกต่อไป มันไหลลงมาอาบแก้ม มือใหญ่นั้นเอื้อมมาเพื่อหวังจะเช็ดมันให้ แต่เขายังไม่ทันได้แตะก็ถูกอะไรบางกระแทกเอาจนจนเซถลา เมื่อหันมาจึงเจอเข้ากับสีหน้าเคืองโกรธของเพื่อนสนิท เพราะคิดว่าเขากำลังจะจูบเลยเผลอแสดงอาการออกมาด้วยความลืมตัว
“ ไอ้เพื่อนทรยศ นี่แกจะสวมเขาให้ฉันรึ “ นิ้วหนาปราดชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง
“ ฉันไม่จำเป็นต้องสวมเขาให้แกหรอกมิคาเอล เพราะแกมันมีเขาอยู่แล้ว ไอ้โง่ “
“ ไอ้..” ปราดเข้าไปจะเอาเรื่อง แต่ถูกเกลินรั้งไว้เสียก่อน
“ อย่า..นั่นเพื่อนนายนะ “
“ ก็เพราะมันเป็นเพื่อนฉันไง ฉันถึงยอมให้มันทำแบบนี้ไม่ได้ “ เมื่อจบคำเขาชายหนุ่มจึงตวัดแขนบางเข้ามาในอุ้งมือก่อนจะพาเธออกมาจากนั้นพาเธอกลับไม่ที่รถ เกลินดีดดิ้นสุดแรง
“ ปล่อยนะ นี่นายเป็นคนแบบไหนกันแน่ เมื่อกี้ยังพูดปาวๆ ว่าฉันไม่ใช่เมียแล้วเกิดบ้าอะไรเนี่ย นายนี่มันหมาหวงก้างจริงๆ ตัวเองไม่อยากได้ แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นได้ บอกให้รู้ไว้นะ ฉันไม่ใช่ของตายที่จะซุกเอาไว้ในบ้านนะ “
“ ก็ใครว่าฉันคิดแบบนั้นกันเล่า “
“ ก็นายเพิ่งพูด ฉันไม่ได้หูหนวกนะ ได้ยินเต็มสองรูหูเลย “ หญิงสาวถลึงตาใส่จนเขาหน้าเสียที่โดนย้อนเข้าให้
“ ฉัน...อยากคุยกับเธอ “
“ ไม่คุย เบื่อจะคุย “ กระชากเสียงใส่ จะผละจากมาแต่ถูกดึงไว้ “ อะไรอีก บอกแล้วไงไม่คุย ไปให้พ้นนะ “ เธอผลักเขาจนเต็มแรง โชคร้ายร่างเขาถลาไปชนเสาไฟริมถนน เกลินกรีดร้องด้วยตกใจจนลืมโกรธ
“ ว๊าย! มิคกี้ เป็นอะไรไหม ฉันขอโทษฉันไม่ได้...” มือรีบช่วยพยุง มองมิคาเอลยกมือกุมหัว “ ขอดูหน่อยสิ หัวแตกรึเปล่า “
“ ไม่ “ เมื่อเขาพูดพลางนิ่วหน้าไปด้วย แต่เขาไม่ยอมเอามือออก เธอจึงไม่เห็นว่าเขาเจ็บมากน้อยแค่ไหน รู้แต่ตอนโดนกระแทกมันดังมาก
“ ขอฉันดูหน่อย “ น้ำเสียงนั้นอ่อนลงทันตาเห็น
“ ไม่..จนกว่าเธอจะยอมขึ้นรถไปกับฉันดีๆ “ ถือโอกาสต่อรอง เกลินหรี่ตามอง เจ็บจริงรึเปล่าเนี่ย ถึงจะหมั่นไส้เขามาก แต่ก็เป็นห่วงด้วยเหมือนกัน มิคาเอลเหยียดยิ้มก่อนจะเดินไปที่รถ เปิดประตูออก โดยที่มือนั้นยังกุมหน้าผากอยู่ หญิงสาวชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ที่จริงเธอจะไม่สนก็ได้ จะเดินหนีไปเลยก็ได้แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ทำแบบนั้น
“ ก็ได้ “
สุดท้ายเธอก็ยอมเข้าไปนั่งในรถแต่โดยดี จากนั้นเขาจึงอ้อมไปด้านขับรถ พร้อมกายใหญ่แทรกร่างเข้ามา เกลินรีบชะโงกมองถึงรู้ว่าโดนหลอกขึ้นรถมา
“ โธ่เอ๊ย ก็แค่ถลอกเท่านั้น “ เธอหน้างอลงทันที หากแต่คนขับกลับหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีไม่สนใจอาการแสนงอนของหญิงสาว
ความคิดเห็น