ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์รักคนเถื่อน ผ่านพิจารนาสำนักพิมพ์ แสนรัก (ไลต์ออฟเลิฟ)

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11 RENEW

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.75K
      7
      27 มี.ค. 59


    SQWEEZ






    โดยมาธาวีเดินตามหลังประธานหนุ่มต้อยๆ อย่างภูมิอกภูมิใจ ที่จริงหล่อนขับรถตามเขามาตั้งแต่ออกจากบริษัทแล้ว แกล้งทำเป็นบังเอิญเจอกันทั้งที่จงใจ พลันสายตาคู่เฉี่ยวเหลือบไปเห็นเอมมาลินกับญารินดา

    เอะนั่น! เอมกับยัยดานี่คะ อยู่กับใคร” จบคำหล่อน เจมส์ก็เดินดุ่มๆ ตรงไปหาสองสาวในทันที มาธาวีรีบเดินตามไปติดๆ

    บอส”  ญารินดาร้องทัก เนื่องจากเพราะมัวก้มหน้าอยู่กับอาหาร เลยเพิ่งเห็นเขาเดินเข้ามา รีบกลืนลงคอแทบไม่ทัน

    มาทานข้าวสองคนไม่รอผมเลยนะ” น้ำเสียงเรียบนุ่ม พอๆ กับใบหน้าคมที่มันดูเรียบนิ่ง แต่มีแววดุดันแฝงอยู่ในที เจมส์ปรายตามองชายแปลกหน้า ซึ่งภูเบศเองก็มองตอบกลับมาอย่างสงสัย

    พี่เบศ..กลับมาแล้วเหรอคะ แหมดีจริงๆ ได้เจอเพื่อนเก่า นัดกันมาทานข้าวไม่เห็นชวนเมย์มั่งเลย” มาธาวีเอ่ยทักทายเสียงหวานใส ส่งยิ้มพรายให้ชายหนุ่มอย่างคนคุ้นเคย ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะ”

    เอ่อ..พี่เบศ นี่คุณฮอริงตัน หุ้นส่วนที่บริษัทของเอมเองค่ะ” หญิงสาวแนะนำอย่างเป็นทางการ ก่อนที่เธอจะหันมาหาเจมส์ นี่พี่ภูเบศเพื่อนฉันค่ะ”

    ภูเบศพยักหน้าให้อย่างสุภาพ เพราะดูแล้วอีกฝ่ายท่าจะมีอายุมากกว่าเขาหลายปี แต่เจมส์กลับดูเหมือนไม่อยากรู้จักเขาเท่าไหร่ แถมยังปรายตามองนิดหนึ่งเท่านั้น

    มีที่ว่างให้ผมแทรกมั่งไหม”

    น้ำเสียงที่ใช้มันฟังดูทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้ เอมมาลินซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะเหล่ตามอง ร่างสูงตระหง่านยืนค้ำหัวเธออยู่ ทำหน้าเหมือนคนโกรธใครมา หรืออาจจะโกรธเธอที่เธอไม่รอ แถมยังมองด้วยสายตาแปลกๆ ซึ่งเธอเองก็รู้สึกไม่ชอบใจอยู่เล็กน้อยเหมือนกันที่เห็นเขามากับยัยอดีตเพื่อนซี้จอมหักหลัง จากนั้นญารินดารีบชิงพูดขึ้นว่า

    งั้น บอสนั่งตรงนี้ก็ได้ค่ะ” หล่อนเสียสละเก้าอี้ตัวเองให้แล้วขยับลุกขึ้น กำลังจะนั่งตัวถัดไป มาธาวีรีบชิงลงนั่งตัดหน้าแบบหน้าด้านๆ ญารินดาถลึงตามอง ส่ายหน้านิดๆ อย่างระอา จำเป็นต้องอ้อมไปนั่งอีกฝั่งแทน

    บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดเล็กน้อย จากตอนแรกที่ดูเหมือนจะสบายๆ แต่พอมีเจมส์กับมาธาวีมาร่วมด้วย เลยเกิดความเงียบไปชั่วอึดใจ เอมมาลินนั่งเขี่ยอาหารในจานอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ฟังมาธาวีไถ่ถามภูเบศไปเรื่อย

    พี่เบศกลับมาคราวนี้จะอยู่เลยรึเปล่าคะ”

    ไม่หรอกครับ พี่มาคราวนี้อยู่เพียงไม่กี่วันก็กลับแล้ว” ชายหนุ่มตอบเสียงทุ้ม เมื่อได้ยินเจมส์แอบยิ้มกริ่มอย่างพอใจ ก่อนมันจะจางหายไปเมื่อเขาพูดต่อว่า แต่คราวหน้าพี่คงจะมาอยู่เลย”

    คุณภูเบศทำงานอะไรครับ” เจมส์เอ่ยถามพร้อมกับเชิดปลายคางตัดเหลี่ยมขึ้นมองคล้ายกลับประเมินีกฝ่ายอยู่เงียบๆ

    ผมมีธุรกิจส่วนตัวครับ เป็นธุรกิจของครอบครัว บริษัทเล็กๆ คุณอาจจะไม่รู้จัก บริษัท พีบี เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น

    หือ? เจมส์นิ่วหน้า ทำไมคุ้นชื่อบริษัทนี้พิกล เพียงแต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหนกัน อืม! เก่งนะครับ” เขาแกล้งชมไปอย่างงั้น สำรวจดูชายหนุ่มที่ดูแล้วอ่อนกว่าเขาไปหลายปี อยู่ดีๆ ก็ไม่ชอบขี้หน้าขึ้นมา

    แหม! ท่านประธานไม่รู้อะไรนะคะ พี่เบศเก่งมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว พอเรียนจบก็ย้ายไปอยู่อเมริกาซะงั้น ทำเอาสาวอกหักกันเป็นแถบๆ จริงไหมเอม ฉันยังจำได้ สมัยนั้นเธอกับยัยดาปลื้มพี่เบศจะตาย ถึงขนาดตามกรี๊ด ใช่ไหมยัยดา” หล่อนหันไปหาญารินดาที่นั่งแกะกุ้ง กำลังจะเอามันเข้าปาก อ้าปากค้างอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

    เรื่องมันก็นานมาแล้ว เธอจะพูดถึงทำไมกันเมย์...มาทานอาหารกันเถอะค่ะ” เอมมาลินเปลี่ยนเรื่องรู้สึกขวยเขินนิดๆ เมื่อมาธาวีเอาเรื่องเก่ามาพูด ดวงหน้าสวยหวานเปลี่ยนสีชมพูจางๆ ไม่รู้มาธาวีจะมาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าภูเบศทำไม แม้เธอจะไม่รู้สึกอะไรกับเขาแล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังอดที่จะอายไม่ได้อยู่ดี

    จริงเหรอ พี่ไม่รู้เลยนะเนี่ย” ภูเบศที่ดูเหมือนปลื้มใจเป็นนักหนา แสดงอาการพอใจจนออกนอกหน้า

    เจมส์ที่นั่งฟังอย่างเงียบกริบนึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แอบคิดในใจ อ้อ..แบบนี้นี่เอง วงหน้าคมเข้มมึนตึงขึ้นมา แอบไม่พอใจหญิงสาวอยู่ลึกๆ เธอนั่งบิดเมี้ยน แถมยังชะม้อยชายตาให้ภูเบศอยู่เนืองๆ สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาไม่น้อย

    หลังมื้อเที่ยง ซึ่งต่างคนต่างแยกย้ายกลับไปทำงาน ภูเบศออกมาส่งสองสาวที่ลานจอดรถ

    ขับรถกันดีๆ นะคะ ไว้คราวหน้าเจอกันใหม่ พี่ขอเบอร์พวกเธอได้ไหม เผื่อครั้งหน้าอยากนัดไปเที่ยวตามประสาเพื่อนเก่า” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ซึ่งทั้งคู่ก็ยินดีที่จะแลกเบอร์โทรด้วยความเต็มใจ ภูเบศโบกมือลาสองสาวที่ขับรถออกไปอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะหันมาเห็นรถของเจมส์ที่ยังจอดนิ่ง ก่อนที่มันจะเคลื่อนที่ผ่านหน้าเขาไป ชายหนุ่มมองตามคล้ายกับมีเรื่องครุ่นคิดในใจ แววตาทอประกายแปลกๆ

    เนื่องจากวันนี้งานในออฟฟิศไม่ค่อยมีจึงเลิกเร็วกว่าปรกติ เจมส์ตรงกลับบ้านอย่างคนอารมณ์ไม่ดี เขาหงุดหงิดทั้งวันโดยไม่รู้สาเหตุ ไม่ว่าใครก็เข้าหน้าเขาไม่ติด ชายหนุ่มเหม่อมองออกไปด้านนอกอย่างเลื่อนลอย โดยที่รถคันหรูแล่นไปเรื่อยๆ มีเคิร์กทำหน้าที่สารถี ก่อนความเร็วชะลอลงก่อนจะหักเลี้ยวเข้าบ้านโดยไม่รู้ว่ามีรถคันหนึ่งขับตามมา

    ห่างออกไป มาธาวีมองรถคันงามของประธานหนุ่มสุดหล่อเลี้ยวเข้าไปในบ้าน มือเรียวกดลดกระจกลง ดวงตาคู่เฉี่ยวมองอย่างตะลึงตะลาน บ้านหลังใหญ่สุดหรูกินเนื้อที่กว้างขวาง เป็นบ้านในฝันของหล่อนโดยแท้ มันทำเอาบ้านหลังน้อยของหล่อนกลายเป็นรูหนูไปเลย นี่ถ้าได้เข้ามาอยู่คงจะดีไม่น้อย คิดอย่างนึกครึ้ม มาธาวีจอดรถหลบมุมแอบมองมันอย่างเพลินใจอยู่นานพร้อมจินตนาการไปต่างๆ นาๆ ก่อนจะเห็นรถคันหนึ่งที่คุ้นตาแล่นผ่านมา จากนั้นก็เลี้ยวเข้าบ้านไป มาธาวีมองด้วยความตกใจระคนประหลาดใจสุดๆ ทำไมรถเอมมาลินถึงเข้าไปในบ้านของเจมส์ได้นะ เย็นขนาดนี้อีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่ เอะหรือว่าเธอจะอยู่ที่นี่นะ จะเป็นไปได้ยังไง สมองครุ่นคิดประมวลถึงเหตุผลแต่ก็ยังไม่สมารถคลายความสงสัยลงได้

    ภายในบ้าน เอมมาลินนำรถยนต์เข้าไปจอดในโรงจอดรถ ก่อนจะพาร่างระหงที่เหนื่อยอ่อนเข้าไปยังด้านใน มือนุ่มนวดคลึงต้นคอไปพลาง อีกข้างก็ยังกำกระเป๋าถือไว้แน่น พลันเสียงแหบห้าวก็ดังมาจากห้องนั่งเล่นของบ้านพร้อมกับคนส่งเสียงเดินหน้ามุ่ยออกมาจากมุมมืด

    คุณกลับช้า...ไปไหนมา”

    ขอโทษนะ...ฉันต้องรายงานคุณหมดทุกเรื่องอย่างนั้นหรือ” หน้าหวานมึนตึงขึ้น รู้สึกเหมือนถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว เธอจะกลับเร็วหรือช้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาแต่มาแสดงอาการไม่พอใจแบบนี้เธอไม่ชอบเอาเสียเลย

    ไปกับไอ้หน้าจืดนั่นมาใช่ไหม” สุ่มเสียงชวนหาเรื่องเป็นอย่างยิ่งสายตาคมเข้มเขม่นมองอีกฝ่าย

    พี่เบศนะเหรอ...ใช่! เราไปดื่มกันนิดหน่อย ก็คนมันไม่เจอกันนานไปสังสรรค์กันหน่อย ไม่เห็นแปลกตรงไหน”เธอเอ่ยตอบ จับอาการได้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ แต่ใครสน เพราะเธอไม่ใช่นักโทษที่ต้องทำตามคำสั่งเขาตลอดเวลา ทีเขายังไปทานข้าวกับมาธาวีได้เธอก็ควรมีอิสระจะไปไหนก็ได้ที่ใจอยาก

    แปลกแน่ ก็คุณเป็น...” เขาทิ้งค้างไม่จบประโยค คำว่าเมียมันมาจุกอยู่ที่คอหอยไม่ยอมออกมา กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แค่คำพูดง่ายๆ ทำไมมันพูดยากนักวะ

    เป็นอะไร...” เอมมาลินหรี่ตาคู่สวยลงมองร่างสูงสาวเท้าเข้ามาหา

    ตราบใดที่คุณยังอยู่ในข้อตกลงของเรา คุณไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับผู้ชายคนไหน” เสียงแค่นขู่คำรามในลำคอ ทำเอาคนฟังเคืองขุ่น

    คุณจะมาจำกัดสิทธิเสรีภาพฉันแบบนี้ไม่ได้” คนร่างเล็กเริ่มโมโหขึ้นมาตงิดๆ กับความเผด็จการของอีกฝ่าย ฉันมีสิทธิ์ไปไหนกับใครก็ได้ ความพึงพอใจของฉัน และคุณก็ห้ามฉันไม่ได้ด้วย” หน้าสวยเชิดขึ้นสู้ยั่วยุอย่างคะนองใจ ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มอย่างกวนอารมณ์ และดูเหมือนมันจะได้ผลเมื่ออีกฝ่ายบดขยี้กรามจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนออกมาอย่างน่ากลัว แต่มันได้ทำให้คนมองรู้สึกรู้สมเลยซักนิด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ทำให้อีกฝ่ายเดือดขึ้นมาได้

    เอมมาลิน..อย่ามาลองดีกับผมนะ” เจมส์พยายามข่มอารมณ์ไว้อย่างยากเย็น

    ก็ฉันพูดจริงนี่ เราไม่เคยมีข้อตกลงว่าห้ามฉันยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น เจมส์จริงอยู่ที่เรามีสัญญาต่อกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะมีสิทธิ์ก้าวก่ายทุกอย่างในชีวิตฉันนะ คุณอาจเป็นเจ้าหนี้ แต่ไม่ใช่จ้าวชีวิต” เอมมาลินเดินหนีกลับขึ้นห้องไปทว่าคนเจ้าอารมณ์ก็ยังตามมาติดๆ และคว้าข้อมือเล็กเอาไว้

    นี่คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”

    “คุณพูดถูกผมไม่ใช่จ้าวชีวิตคุณ แต่ผมมีสิทธิ์ในตัวคุณ” ว่าจบร่างของเธอก็ปลิวลงไปบนเตียงใหญ่

     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×