คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : [Finalเทอม2] ภาษาไทยหลัก Feat.Abhichana Anna
สรุปวิชา ภาษาไทยหลัก Final เทอม 2
Part วรรณคดีวิจักษ์
By.Abhichana Anna : Arts-Math #76
สรุปพาร์ทวรรณคดีวิจักษ์โดย Abhichana Anna Arts-Math #76 (จิ้ม)
สรุปพาร์ทวรรณคดีวิจักษ์โดย Abhichana Anna Arts-Math #76 (Linkสำรอง)
Part หลักภาษาไวยากรณ์
ความจริงมันจะมีสอบหลายส่วนนะ เช่น ภาษาสูงต่ำ คำกำกวม คำฟุ่มเฟือย ฯลฯ ซึ่งอันนั้นเป็นส่วนคอมมอนเซนส์ คิดเอง ตีความเอง (ไม่เหมาะแก่การมานั่งท่องจำ เอาเวลาไปท่องวิชาอื่น / ท่องส่วนที่ท่องได้ โอกว่าค่ะ) แต่ส่วนที่พอจะช่วยกันได้จะมีตรง ‘ชนิดของคำ’ ตามนี้นะก๊ะ
เอาล่ะ ในเรื่องคำประเภทต่างๆ ถ้านึกชื่อของชนิดคำออก ระดับม.4กันขนาดนี้ แบบว่า ถ้าเจอคำไหน ใครๆ ก็คงจะทำได้แล้วใช่มะว่าคำนั้นเป็นคำประเภทอะไร
แต่ประเด็นสำคัญคือ มันจะมีพวกหน้าตาเหมือนกัน แต่ดันต่างหน้าที่กันเนี่ยดิ นั่นคือ
ประพันธสรรพนาม vs ประพันธวิเศษณ์ (คำคีย์เวิร์ด : ที่ ซึ่ง อัน) |
คำคีย์เวิร์ดก็ดันเหมือนกันอีก!! แล้วมันจะต่างกันยังไง!? จะให้ตรูใช้ยังไงฟระ!?
ดังนั้น อิชั้นจะมาชี้แจงแถลงไขส่วนนี้ให้ชัดเจนเป็นการดีที่สุดนะคะ
เริ่มต้นที่หลักการง่ายๆ ที่สุด
ถ้าไอ้คำคีย์เวิร์ดเป็นวิเศษณ์ จะต้องตามหลังคำนาม / กริยา / วิเศษณ์มันเอง เสมอ (ความจริงก็นำหน้าได้นะ แต่น้อยหาได้น้อยมาก)
เช่น ดินสอเนี่ยโดนซื้อไปละ /
ดินสอ เป็นคำนาม
เนี่ย ตามหลังคำนาม จะถือว่าเป็น วิเศษณ์แบบนิยมวิเศษณ์
*แต่จะยกเว้นแค่กรณี ประพันธสรรพนาม vs ประพันธวิเศษณ์
เพราะ ประพันธสรรพนาม ตัวคีย์เวิร์ดจะเป็นประเภทเดียวที่ต้องตามหลังคำนาม(ชาวบ้านนำหน้าประโยคได้หมด) ทำให้ ประพันธวิเศษณ์เหลือแค่ตามหลัง กริยา / วิเศษณ์มันเอง เท่านั้น
เช่น ดินสอที่เธอใช้
ดินสอ เป็นคำนาม
ที่ ตามหลังคำนาม แต่กรณีนี้จะถือว่าเป็น ประพันธสรรพนาม
เขาดีอย่างที่ใครๆ กล่าวจริง
ดี เป็นคำวิเศษณ์ (แบบลักษณวิเศษณ์)
อย่างที่ ตามหลังคำวิเศษณ์มันเอง จะถือว่าเป็น วิเศษณ์แบบประพันธวิเศษณ์
...เอ่อ งงอ่ะดิ อิฉันก็ว่างั้น เอางี้ เรามาใช้วิธีแบบชัดๆ แบบเดิมดีกว่า...
***แนะนำให้จำตัวอย่างไปเลย เวิร์คสุด***
มาถึงอันถัดไปที่อิฉันเชื่อว่า ทุกคนจะต้องหวีดร้องไม่แพ้กัน
บุพบท vs สันธาน ที่ใช้คีย์เวิร์ดตัวเดียวกัน เช่น |
ให้สังเกตตามนี้นะคะ
จะสังเกตได้ว่า กลุ่มคำที่ตามหลังของ ฝั่งบุพบท จะเป็นคำนาม/วลีทั้งหมด (ความสุขของทุกคน)
กลุ่มคำที่ตามหลังของ ฝั่งสันธาน จะเป็นประโยคทั้งหมด (ทุกคน มี ความสุข)
นี่คือตัวอย่างเบาๆ ค่ะ แต่ถ้าจำหลักการได้ดังนี้แล้ว ต่อให้เจอพลิกแพลงยังไง ก็น่าจะทำได้ไม่ต่างจากในนี้หรอกค่ะเธอ
Part ประวัติวรรณคดี (อยุธยาตอนต้น)
.....สวัสดีค่ะสายวิทย์ทุกท่าน
ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่ง ปวว. ค่ะ #ยิ้มกว้าง
//โดนเหล่าสายวิทย์ผู้น่ารักเอาสมการเคมีไล่ทิ่มแทง
เทียบกันแล้ว รอบนี้มีแค่ 7 เรื่องที่ทุกท่านต้องท่องด้วยกัน ห่างไกลจาก 49 เรื่องที่สายศิลป์เพิ่งสอบไปหลายขุมนะคะ ฉะนั้น นี่ถือว่าเบๆ แล้วนะขอบอก!!
//โดนเหล่าสายวิทย์ผู้น่าพิศวาสเอาภาคตัดกรวยไล่บี้
เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ
******หมายเหตุ******
ดาวแดง = ได้รับการยกย่อง ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร //แปะๆๆๆ
ดาวเขียว = ต้นตำรับ เริ่มการ.....(อะไรสักอย่าง).....เป็นเรื่องแรก
ดาวทอง = มีอะไรแปลกแหวกแนวกว่าชาวบ้าน
ลักษณะวรรณคดีอยุธยาตอนต้น
1. เนื่องจากเก่าจัด ข้อมูลผู้แต่ง แหล่งที่มาหลายส่วนจึงต้องสันนิษฐาน เดาเอาว่าใครน่าจะแต่ง ซึ่งผู้ที่มีส่วนในการช่วยวินิจฉัยว่า เรื่องนี้คนนี้แต่ง เยอะสุดเห็นจะเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย)
2. สำนวนการประพันธ์มีหลายแบบ ได้แก่ โคลง ร่าย กาพย์ และฉันท์ กลอน(ยังไม่มี)
3. เนื้อหาเน้นเกี่ยวกับ พระราชพิธี + ศาสนาขัดเกลาจิตใจ + ยอเกียรติพระราชา + ปลุกใจให้รักชาติเพื่อการศึกสงคราม
4. ใช้ภาษา บาลี สันสกฤต และเขมร ปะปนในเนื้อเรื่องเยอะพอตัว
พราหมณ์คนใดคนหนึ่งในสมัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง)
ลิลิตโองการแช่งน้ำ
จุดมุ่งหมาย : ใช้อ่านในพิธี ศรีสัจจปานกาล (ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา)
ลักษณะการแต่ง : ลิลิต (ร่ายดั้น + โคลงห้ามณฑกคติ) ใช้ภาษาสันสกฤตเยอะสุด
เนื้อเรื่องโดยย่อ : เป็นบทสวดในพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในสมัยโบราณ
• จะเริ่มด้วยร่ายดั้นสรรเสริญตรีมูรติ ว่าด้วยเรื่องไฟบรรลัยกัลป์ทำลายล้างความชั่ว การสร้างโลกใหม่
• อัญเชิญพระกรรมบดีปู่เจ้า อัญเชิญพระรัตนตรัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์
• ให้สาบานตนว่าจะซื่อสัตย์ในการทำราชการ ว่า ทำดีขอให้ได้ดี ทำชั่วก็รับกรรมตามที่ก่อไว้
• แล้วดื่มน้ำที่แช่ด้วยอาวุธทั้งหลาย
• จบด้วยการยอพระเกียรติกษัตริย์นั่นเอง
ความเด่น : เป็นลิลิตเรื่องแรกของวงการวรรณคดี
- ถ่ายทอดวัฒนธรรมฝั่ง ขอม(ต้นฉบับเดิมเอามาจากภาษานี้) + อินเดีย หรือถ้าทางศาสนาก็ทาง พราหมณ์ฮินดู
- เรื่องนี้ได้รับการชำระในภายหลัง โดย รัชกาลที่ 6
นักปราชญ์คนใดคนหนึ่ง / กลุ่มหนึ่งช่วยกันแต่ง ในสมัย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
มหาชาติคำหลวง
จุดมุ่งหมาย : สวด ในวันสำคัญทางศาสนาเท่านั้น (อุบาสกอุบาสิกาชั้นผู้ใหญ่นำสวดได้)
ลักษณะการแต่ง : คำหลวง (ร่าย + โคลง + กาพย์ + ฉันท์ 1,000 คาถา)
เนื้อเรื่องโดยย่อ : พระมหาเวสสันดรชาดกที่สอบไปรอบที่แล้วน่ะจ้ะ...
ความเด่น : เป็นคำหลวงเรื่องแรกของวงการวรรณคดี
- ต้นฉบับเป็นภาษาบาลี
คุณสมบัติของคำหลวง |
ลิลิตยวนพ่าย
จุดมุ่งหมาย : ยอพระเกียรติแด่พระบรมไตรโลกนาถ สดุดีที่รบชนะเมืองเชียงใหม่
ลักษณะการแต่ง : ลิลิตดั้น (ร่ายดั้น 2 บท + โคลงดั้นบาทกุญชร 365 บท)
และมีภาษาสันสกฤตปนมาก
เนื้อเรื่องโดยย่อ : ว่าด้วยเรื่องการกรีธาทัพของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถไปตีเมืองยวน ซึ่งก็คือ ล้านนาหรือเชียงใหม่ ได้ชัยชนะกลับมา จึงมีการยอพระเกียรติในพระปรีชาสามารถของท่าน
ความเด่น : มีอิทธิพลต่อวรรณคดีเรื่องอื่น (เช่น เป็นต้นแบบพล็อต หรือนำเรื่องราวบางส่วนมาดัดแปลงแล้วใส่) ได้แก่
1. โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์ (แต่งโดย พระศรีมโหสถ)
2. สดุดีวีรกรรมพระนเรศวร (แต่งโดย พระมหาสมณเจ้า)
3. **ยวน = ล้านนา
ลิลิตพระลอ
จุดมุ่งหมาย : แต่งถวายพระเจ้าแผ่นดิน
ลักษณะการแต่ง : ลิลิตสุภาพ (โคลงสุภาพ + ร่ายสุภาพ)
เนื้อเรื่องโดยย่อ : เมืองสรวง = ลำปาง (เมืองพระเอก)
เมืองสรอง = แพร่ (เมืองนางเอก)
เป็นศัตรูกัน โดยพี่เลี้ยงของฝ่ายนางเอกเป็นคนชักใย ทำเสน่ห์ใส่พระลอให้มาขอนายตนแต่งงาน คนที่รับไม่ได้คือย่าเลี้ยงของนางเอกทั้งสอง เพราะยังแค้นที่พ่อพระเอกเคยฆ่าสวามีนาง จึงจัดการทั้งพระเอกนางเอกทิ้ง และท้ายสุดย่าเลี้ยงก็โดนสั่งประหารตามไป ทำให้ความพยาบาททั้งหมดจบลง เมืองทั้งสองกลับมาคืนดีกันดังเดิม
ความเด่น : เป็นสุดยอดลิลิตในวงการวรรณคดี
- วลีดังติดชาร์จ ‘เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย’
- บางส่วนได้นำไปไว้ใน หนังสือจินดามณี
- เป็นวรรณคดีชั้นครู อิทธิพลรูปแบบสำนวนถึง ลิลิตเพชรมงกุฎ และลิลิตตะเลงพ่าย
ทิพ หรือศรีทิพ (เป็นคนเหนือ @ลำพูน)
โคลงนิราศหริภุญชัย
จุดมุ่งหมาย : Stepนิราศ ต้องพรรณนาอาลัยนางอันเป็นที่รัก และบรรยายการไปนมัสการพระธาตุหริภุญชัย
ลักษณะการแต่ง : เริ่มแรกเป็น โคลงไทยเหนือ ....
แล้วกลายเป็น โคลงสี่สุภาพ 178 บท (เป็นการแปลจากภาษาเหนือ เป็นภาษากลาง)
เนื้อเรื่องโดยย่อ : เริ่มด้วยบทบูชารัตนตรัย ทูลลาพระพุทธสิหิงค์ อาลัยถึงนางก่อนระยะหนึ่งแล้วออกเดินทางไปยังพระธาตุหริภุญชัย ตอนจบได้นมัสการตามที่ตั้งใจไว้
ความเด่น : เป็นโคลงนิราศเล่มแรกในวงการวรรณคดี (และเป็นแบบอย่างนิราศในอยุธยาด้วยนะ)
พระเยาวราช , ขุนพรหมมนตรี , ขุนศรีกวีราช , ขุนสารประเสริฐ : แต่งร่วมกัน
โคลงทวาทศมาส
จุดมุ่งหมาย : แต่งเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าแผ่นดิน
ลักษณะการแต่ง : โคลงดั้นวิวิธมาลี
เนื้อเรื่องโดยย่อ : เกี่ยวกับพระราชพิธีทั้ง 12 เดือน รวมถึงมีบทอาลัยถึงนางอันเป็นที่รัก
แต่น่าแปลกคือ ไม่บอกว่าจากไปยังที่ใด (ปกติเขาจะต้องบอกใช่มะล่ะ ว่าจากนางเพื่อไปเที่ยวที่xxx)
ความเด่น : - มีอิทธิพลต่อวรรณคดีอื่น นั่นคือ นิราศเดือน (แต่งโดย นายมี สมัยร.3)
พระราชพิธีสิบสองเดือน (แต่งโดย ร.5)
- มีการกล่าวถึง พิธีตรียัมปวายโล้ชิงช้า + ดอกไม้เพลิง
- มีการอ้างอิงตัวละครในวรรณคดีอื่นมาใส่ เช่น รามเกียรติ์ สมุทรโฆษ
ศรีปราชญ์
โคลงกำสรวล
จุดมุ่งหมาย : อาลัยถึงนางผู้เป็นที่รัก (คาดว่าจะเป็น พระสนมศรีจุฬาลักษณ์)
ลักษณะการแต่ง : โคลงดั้นบาทกุญชร (ร่ายดั้น 1 บท + โคลงดั้น 129 บท)
เนื้อเรื่องโดยย่อ : กล่าวถึงสภาพบ้านเมืองอยุธยาที่กำลังรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางของศาสนา แต่กวีก็ต้องจากนาง ผ่านไปยังตำบลต่างๆ จากอยุธยาสู่ประจวบคีรีขันธ์ เห็นตำบลอะไรเอาชื่อไปก็เปรียบเทียบกับความอาลัยที่มีต่อนาง
ความเด่น : มีอิทธิพลต่อวรรณคดีรุ่นหลัง คือ โคลงนิราศนรินทร์ (แต่งโดย นายนรินทร์ธิเบศร์ อิน)
โคลงนิราศตามเสด็จลำน้ำน้อย (แต่งโดย พระยาตรังคภูมิบาล)
จบแล้ววววว ตามนี้ล่ะจ้า
ความคิดเห็น