คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [TOPIK 2] รีวิว สอบวัดระดับภาษาเกาหลี 2
[รีวิว] สอบวัดระดับภาษาเกาหลี
TOPIK II
หมายเหตุ: เป็นข้อมูลจากรอบเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 (TOPIK ครั้งที่ 59)
■ ระบบการสอบ TOPIK
2 (ขั้นกลาง - สูง)
สอบช่วงบ่าย
ในเลเวลนี้ข้อสอบจะมี 3 พาร์ท ได้แก่ พาร์ทฟัง พาร์ทเขียน และ พาร์ทอ่าน เป็นช้อยส์ 4 (ยังไม่มีพาร์ทเขียนเหมือน TOPIK
2 จ้ะ สบายใจได้) โดยแบ่งสัดส่วนเวลาและจำนวนข้อที่ต้องทำ ดังนี้
ช่วงสอบ |
Part |
จำนวนข้อ |
ระยะเวลาที่ให้
(นาที) |
1 |
Listening |
ข้อที่
1 - 50 (50 ข้อ) |
60 |
Writing |
ข้อที่ 51 - 54 (4 ข้อ) |
50 |
|
2 |
Reading |
ข้อที่
1 - 50 (50 ข้อ) |
70 |
*เมื่อจบช่วง จะปล่อยให้ไปพักประมาณ 10 -15 นาที
อย่าเผลอไปเข้าห้องน้ำนานเกินจนเข้าช่วงที่ 2 สายนะคะ*
§ พาร์ทฟัง (Listening)
ความผีที่ 1: พูดด้วยความเร็วปกติมนุษย์ ไม่ยานคางชิลๆ แบบสมัยก่อนแล้ว
ความผีที่ 2: ข้อแรกๆ ที่คุยกันเรื่องทั่วไป พูดรอบเดียวค่ะ ไม่มีมาย้ำรอบที่สอง เจ็บคอ
ความผีที่ 3: ในช่วงที่ดนตรีดังอยู่จะยังไม่อนุญาตให้เปิดข้อสอบเหมือนเดิม อย่าริคิดว่าจะได้ทดเวลาก่อน
ความผีที่ 4: บางข้อก็รู้เลยว่าจงใจดัดเสียงให้ฟังยากขึ้นหนึ่งเลเวล
ความผีที่ 5: บางข้อก็พูดกันยาวมากๆ คุยกันไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
(ยิ่งข้อท้ายๆ นะ โอโห ขี้เกียจฟังแล้วได้มะ)
ความผีที่ 6: ความยากของเรื่องที่เอามาพูด มีตั้งแต่เรื่องทั่วไป ยันเรื่องจริงจังและทางการขนาดแบบ
มาพูดรายงานการสำรวจวิจัยตัวเองก็มี
ศัพท์สรวงก็จะอลังการมาก = ฟังไม่รู้เรื่องเลยจ้า
§ พาร์ทเขียน (Writing)
แบ่งเป็น 4
ข้อ ดังนี้
ข้อ 51: มักจะมาเป็นอีเมล
จดหมาย คอนเวอร์เซชั่นอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็จงใจ blank ไปสองจุดให้เราเอาไปเขียนเติมในกระดาษคำตอบ
เช่น วันนี้มีประชุมก็จริง แต่เนื่องจากมีธุระด่วน …………………. และถ้ามีเอกสารที่ต้องส่ง รบกวน ……………………. ขอบคุณมากเลยนะคะ
ข้อ 52:
คล้ายๆ ข้อ 51 แต่มักจะเป็นพารากราฟที่สั้นโคตรๆ
มาให้ แล้ว blank ไปสองจุดเช่นเคย เช่น การจะเริ่มปั่นจักรยานด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
ตอนเริ่มปั่น ก็ควรให้ให้สักคน ………………………….. และเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้สามารถ …………………….. ดังนั้นแล้ว
ถ้ามีใครสักคนมาช่วยจับด้านท้ายตอนเริ่มปั่นก็จะดี <<<
ถ้าลองสังเกตดีๆ เอาจริงหลักฐานอยู่รอบๆ เลยนะ อย่างช่องว่างอันแรก
ก็แค่เอาประโยค “ใครสักคนมาช่วยจับด้านท้าย” มากลับหัวกลับหางนิดหน่อย (เป็นแบบ
ช่วยจับจักรยาน) ก็เติมได้แล้ว เห็นมะ ไม่ยากขนาดนั้น
ข้อ 53: ความผีจะเริ่มบังเกิดที่ข้อนี้
ก็คือ ในกระดาษคำถามจะให้ภาพอินโฟรกราฟิก หรือกราฟ ชาร์ต อะไรใดๆ มาให้
และหน้าที่ของเราก็คือ ต้องเขียนบรรยายอีภาพนี้ให้เป็นเหมือนสรุปการพรีเซ้นท์
ตัวอย่างเช่น เห็นกราฟที่ตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30% ตรงปี 2010 กับ 2012
ก็ต้องเขียนแบบ จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในที่เคยอยู่ที่ 20%
ณ ปี 2010 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมาถึง 30%
ณ ปี 2012…. เอ่อ แต่มันไม่จบแค่นี้ไง
เอาจริงมันยาวกว่านั้นพอสมควร และต้องเขียนอย่างต่ำให้ถึง 200 ตัวอักษร(ช่อง)ลงในกระดาษคำตอบที่ตีตารางเป็นช่องๆ ให้เรียบร้อยด้วย จึงถือว่ายากและกินเวลากว่าอีสองข้อก่อนหน้ามากพอตัวเลยล่ะ
อนึ่ง อีข้อ 53 ก็แตกย่อยประเภทแพทเทิร์นได้ทั้งหมด
4 แบบอีก โดยในแต่ละรอบจะเอามาออกแค่แพทเทิร์นใดแพทเทิร์นหนึ่งเท่านั้น
1. สถิติสัดส่วน (เช่น ผลสำรวจสิ่งที่นิยมให้เป็นของขวัญที่สุดในวันวาเลนไทน์
(อาจมีเหตุผลในการเลือกประกอบมาด้วย
ก็ต้องบรรยายไป))
2. สถิติการเปลี่ยนแปลง (เช่น
ผลสำรวจอัตราการเปลี่ยนแปลงของยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ต)
3. จำแนกประเภท (มาเป็น Mind mapping เลยจ้า
เช่น ประเภทของภาพยนตร์)
4. ข้อดีข้อเสีย และแนวทางที่พึงปฏิบัติ (เช่น ข้อดีข้อเสียของการสูบบุหรี่ + ต้องเขียนสรุปด้วยการแนะนำว่าควรจะทำอย่างไร
>> ควรเลิกให้ไวเลยค่ะ เพื่อสุขภาพและการเงิน
อะไรก็ว่าไป)
ดังนั้น การเตรียมตัวรับมือข้อนี้ที่ดีที่สุดคือ
การจำแพทเทิร์นของเฉลยในปีก่อนๆ แล้วพิจารณาว่าข้อสอบตรงหน้าตัวเองต้องดึงเข้าแพทเทิร์นแบบไหน
ถึงจะรอด
ระวัง: บางรอบมันก็มีการ
Match up เหมือนกัน โดยเฉพาะแบบที่ 1 นำ
และเอา 2 ลงไปผสมนิดๆ ให้งงเล่นนี่ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันนะแบบนี้…. (คงยึดแพทเทิร์นแบบ 1
เป็นหลัก แล้วเอาแบบ 2 ผสมลงไปในบางจุดล่ะมั้งนะ)
ข้อ 54: เขียนพารากราฟตอบคำถามชิงมงกุฎ
Miss Universe
ในกระดาษคำถาม เขาจะทำตัวเป็นกรรมการ โยนหัวข้อและคำถามให้เราสามพ้อยท์
และเราก็ต้องตอบคำถามสามพ้อยท์นั้นโดยการเขียนบรรยายให้ออกมาเป็นพากราฟ
ความยาวขั้นต่ำ 600 ตัวอักษร(ช่อง) ด้วยภาษาเขียน ทางการ
สละสลวย!!
ตัวอย่างคำถาม
"ทักษะภาษาต่างประเทศคืออะไร - สถานการณ์ใดบ้างที่จำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาต่างประเทศ - มีวิธีการอย่างไรที่จะพัฒนาทักษะดังกล่าวให้สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
Miss Universe ไปอี๊กกกกกกกกกกกกกก *นี่ถือว่าเป็นรอบที่ได้หัวข้อง่ายละนะ
บางปีเขาถามยันเรื่องการแพทย์ สิ่งแวดล้อม มุมมองในแง่ประวัติศาสตร์ ฯลฯ ใดๆ ที่แอดวานซ์กว่านี้ได้อีก*
ข้อควรแนะนำตรงนี้ไม่มีอะไรมาก
เขียนให้รู้เรื่อง เขียนให้ถูกแพทเทิร์นกระดาษตารางนั่น
เขียนให้ยาวกว่าขั้นต่ำที่เขากำหนด
และสำคัญที่สุด เขียนให้ทัน ….ซึ่งเป็นจุดที่ยากที่สุด เพราะดิชั้นก็ทำไม่ทันค่าาาา
ตัวอย่างกระดาษคำตอบพาร์ทเขียน มาเป็นช่องตารางเลยจ้า
TIps: วิธีเขียนคำตอบลงกระดาษคำตอบแบบนี้: https://m.blog.naver.com/liebe_straum/221020133626
….เมื่อเป็นเช่นนี้ แต่ละคนก็เริ่มกรีดร้องกันละว่า ฉันจะเอาตัวรอดไปได้ยังไง
สู่ขิตแน่ ทำไงดี
ใจเย็น โลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า หนังสือ/คอร์สฝึกเขียน TOPIK 2 ช่วยเราอยู่!!!
เอาล่ะ เข้าสู่ช่วงขายของค่ะ
(ถ้าไม่อยากโดนขายตรง ก็เลื่อนผ่านไปได้ค่ะ เตือนละนะ *เสียงเชฟป้อม*)
หนทางที่1: หาซื้อหนังสือฝึก TOPIK 2
สำหรับในประเทศไทยที่เป็นเมืองขึ้นของเกาหลีแค่ในแง่แฟชั่นและร้านอาหารบางมุม
แต่ไม่ได้รวมถึงในแง่การศึกษา หนังสือเกาหลีที่มี ส่วนใหญ่ล้วนเป็นแค่ระดับต้น
เอ๊าะแอ๊ะ ไม่แอดวานซ์เอาเสียเลย เพราะงั้น มันถึงเวลาแล้วค่ะที่เราจะต้อง(ฝาก)หิ้วจากเกาหลี!!
ขอแนะนำแอคร้าน Twitter ที่ขาย(รับหิ้ว)หนังสือเรียนเกาหลีที่น่าเชื่อถือได้
และราคาสมเหตุสมผล
ในขั้นแรก
ก็กดตรง “ความชอบ” เพื่อดูลิสต์หนังสือที่วางขาย(รับหิ้ว)
ขั้นต่อไป ก็ mention (ทักแชท) ไปหาแม่ค้าเพื่อดีลเรื่องซื้อหนังสือได้เลย
แอคเคาทน์ร้าน @Snowflakeshop ใน Twitter
ถ้ายังรู้สึกไม่วางใจ
ก็สามารถเช็คแท็ก #snowfreview ได้ค่ะ เท่าที่เห็นก็ยังไม่เคยมีรีวิวด่านะ มีแต่รีวิวชื่นชมกันทั้งนั้น และส่วนตัวก็เคยสั่งหนังสือจากร้านนี้มาเล่มนึงแล้ว อยากจะบอกว่าแม่ค้าตอบเร็ว น่ารัก เป็นกันเองมาก คุณภาพหนังสือก็ดี แพ็คดี ไม่มีรอยยับ ประทับใจมากมาย
*อนึ่ง เนื่องจากเล่มที่เคยสั่งไม่ใช่เล่มสำหรับฝึกคอร์ส TOPIK 2 จึงไม่สามารถรีวิวได้ว่าเล่มไหนนั้นดีต่อการเตรียมสอบวัดระดับโดยเฉพาะ ขออภัยด้วยค่ะ ลองหาๆ ดูกันเองนะคะ*
//ชั้นควรได้ค่าโฆษณามั้ยให้ทาย 5555555
หนทางที่2: ลงเรียนคอร์สฝึกเขียน TOPIK 2
อันนี้อาจจะแรร์หน่อย
แต่ก็อยากจะเขียนรีวิวเอาไว้
ตอนที่ดิชั้นเตรียมสอบ Topik 2 อยู่
ก็บังเอิญเลื่อนเฟสบุ๊คเจอว่า Korean Education Center in Thailand เปิดคอร์สภาษาเกาหลีในช่วงนี้พอดิบพอดี
และหนึ่งในนั้น ก็มีคอร์สการเขียน Topik 2 เปิดอยู่ด้วย
ก็จัดการสมัครเสร็จสรรพไป 10 วีค วีคละ 4 ชั่วโมง สนนราคาอยู่ที่ 2,000 บาท รวมค่า Text
book ประกอบการเรียนแล้วเรียบร้อย (ถูกมากกกกกกกกกกก ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
พูดเลย!!!)
หน้าตาแฟนเพจ KEC ใน Facebook
พิกัดที่เรียนในครั้งนี้คือ
อาคารสรชัย ชั้น 18 สามารถเดินไปได้ด้วย BTS ลงสถานีเอกมัยค่ะ
ผู้สอนเป็นครูชาวเกาหลีแท้ๆ (แต่พูดไทยและอิ้งได้) ในแต่ละคลาส
โดยหลักจะสอนแพทเทิร์นการเขียนประโยคความซ้อน + เพิ่มคลังศัพท์ระดับกลางถึงสูงให้คล่องก่อน
แล้วครึ่งท้าย จะเป็นการเอาข้อสอบเก่าเฉพาะข้อ 51 - 53 มาฝึกทำ
ข้อเสียของคอร์สนี้อยู่ตรงนี้แหละค่ะ
ไม่มีฝึกทำข้อ 54 แต่ก็เข้าใจแหละว่ามันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะปัจเจก
ไม่มีคำตอบตายตัว คงต้องไปฝึกเอง
แต่อยากจะบอกว่า
โดยรวมแล้วคือดีมากๆๆๆๆๆๆ คลังศัพท์เพิ่มมาอย่างรวดเร็ว
แต่งประโยคความซ้อนแบบซับซ้อนได้รัวๆ และจากที่ตอนแรกกลัวข้อ 51 - 52 มาก ก็กลายเป็นว่าทำได้แบบชิลๆ ส่วนข้อ 53 ก็เก็ตหมดว่าทำไมมันต้องมาแพทเทิร์นนี้นั้นโน้น
(แม้ว่าการบ้านจะเยอะสุดๆ ไปเลยก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้เราได้พัฒนานะคะ) แล้วก็เขียนลงกระดาษตารางนั่นเป็นแบบ
เป๊ะ แล้วด้วยจ้ะ โคตรคุ้มค่า
อนึ่ง
เนื่องจากองค์กรนี้ไม่ใช่สถาบันสอนพิเศษโดยตรง
คอร์สแต่ละคอร์สจึงไม่มีกำหนดการตายตัว ต้องรอติดตามจากเพจอย่างเดียวว่าช่วงนี้มีคอร์สอะไรเปิดให้ลงทะเบียนเรียนนะคะ
//เอาเป็นว่าถ้าคอร์สนี้เปิดอีกรอบ ก็ recommend
ให้เรียนสุดๆ เลยค่ะ
แต่ถ้าไม่ใช่ที่นี่ คอร์สของที่อื่นๆ ก็พอจะมีแนะนำอยู่ นั่นคือ สาขาวิชาภาษาเกาหลี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่นเองค่ะ บางทีก็จะเปิดคอร์สอบรมภาษาเกาหลีสำหรับบุคลภายนอก ชื่อคอร์ส "เตรียมสอบวัดระดับภาษาเกาหลี TOPIK II" แม้ส่วนตัวจะยังไม่เคยลงเรียนคอร์สนี้ แต่ก็คิดว่าน่าจะช่วยได้มากอยู่
สำหรับรายละเอียดคอร์สรอบถัดไป ยังไงรอติดตามรายละเอียดที่เพจ Facebook: สาขาวิชาภาษาเกาหลี อักษร จุฬาฯ
§ พาร์ทอ่าน (Reading)
มีตั้งแต่ทดสอบไวยากรณ์เปรียบเทียบ
ประมาณว่าที่ขีดเส้นใต้ไว้ ถ้าไม่ใช้ไวยากรณ์นี้ จะใช้ไวยากรณ์ตัวไหนแทนบ้าง, เดาว่าเป็นป้ายนี้อยู่ใน
category ไหน, อ่าน passage สั้น, เรียงลำดับประโยค, อ่าน passage
ยาว
ความผีไม่ใช่แค่อ่านไม่รู้เรื่อง
แต่คือเรื่อง เวลา
50 ข้อ
กับ 70 นาที = ทำไม่ทันโว้ยยยยยยยยยยยยยยย
ยิ่งข้อหลังๆ
ที่ยิ่งทวีความยาวขึ้นเรื่อยๆ ขนาดช้อยส์ยังยาวสุดบรรทัดขนาดนี้ ถ้ายังไม่สามารถอ่านแล้วเก็ตปุบปับ
พูดเลยว่าโอกาสทำทันต่ำมาก
ไม่รู้จะแนะนำอะไรนอกจากให้หาอะไรที่เป็นภาษาเกาหลีอ่าน
+ ซ้อมจับเวลาตั้งแต่ที่บ้านบ่อยๆ
จะได้ชินเนอะ
**สำหรับการเตรียมตัวสอบ(เฉพาะพาร์ทฟัง/อ่าน)นั้น
แนะนำให้ไปโหลดข้อสอบเก่าจาก https://www.topikguide.com/previous-papers/ มาทำค่ะ มีทั้งตัวข้อสอบ ตัวเฉลย
แล้วก็ไฟล์เสียงของพาร์ทฟังรวมไปถึงสคริปต์ของพาร์ทฟัง ครบวงจรมาก
■ เกณฑ์การผ่านแต่ละระดับ
คะแนนรวมขั้นต่ำที่ได้
(รวมจาก 3 พาร์ท) |
ผลสอบ |
230 / 300 |
ผ่าน
TOPIK II Level 6 |
190 / 300 |
ผ่าน
TOPIK II Level 5 |
150 / 300 |
ผ่าน
TOPIK II Level 4 |
120 / 300 |
ผ่าน
TOPIK II Level 3 |
ต่ำกว่า 120 / 300 |
ไม่ผ่าน |
เพราะว่านับตามคะแนนรวม นั่นหมายความว่า
ต่อให้พาร์ทนึงเน่าชนิดที่แบบ ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ
แต่อีกสองพาร์ทดีมากกกกกกกก ฟาดเกือบเต็ม = คุณก็มีสิทธิ์ที่จะผ่าน Level 4 - 5 อะไรแบบนี้เหมือนกัน
■ การเดินทางไปสอบ: Exclusive สนามสอบ - โรงเรียนสารวิทยา กทม
พาหนะ |
วิธีการ |
รถส่วนตัว |
ที่จอดรถก็หาๆ เอาในโรงเรียนแหละค่ะ |
BTS |
ลงสถานีหมอชิต แล้วนั่งรถเมล์สาย 29 ไปลงตรงหน้าไปรษณีย์ ข้ามสะพานไปก็จะถึงโรงเรียนค่ะ |
รถประจำทาง |
(อ้างอิงตาม Topik in Thailand) สาย 26,34,39,59,107,114,126,129,185,188,503,512,513,522,524,526,543 |
■
อาหารการกิน (สนามสอบ โรงเรียนสารวิทยา)
มีโรงอาหารเปิดจ้ะ
อร่อยและสะอาด ใช้ได้เลย
■
ขอบ่น: สนามสอบ
โรงเรียนสารวิทยา
-
ไกลจังค่ะซิส
- ห้องน้ำผู้ชายอยู่ไกลมากค่ะ
อยู่คนละตึกนู่น อยากรู้มากว่าโรงเรียนนี้ถ้าน้องๆ ผู้ชายปวดหนักขึ้นมา
ก็คือต้องวิ่งข้ามตึกงั้นเหรอคะ ถามจริง
- ลำโพง…. คือก้องพอตัวเลย
คงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้พาร์ทฟังที่ยากอยู่แล้วทวีความยากขึ้นไปอีก
■
สิ่งที่ต้อง(และควร)เตรียมไป
1. บัตรประชาชน **บางที่ถ้าเคร่งจัด เขาจะไม่รับบัตรนักเรียนหรือใบขับขี่นะคะ
จะเอาแต่บัตรประชาชนเท่านั้น**
2. เทปลบคำผิด** (ลิควิดที่เป็นแบบน้ำนี่ไม่ได้ค่ะ เอาไปก็เปล่าประโยชน์ เปล่าประโยชน์
เปล่าประโยชน์)
3. เสื้อกันหนาว (บางห้องหนาวมากกกกกกกกก
ประหนึ่งจะจำลองอากาศกรุงโซลช่วงฤดูใบไม้ร่วง)
4. นาฬิกาแบบหน้าปัด (ห้ามแบบดิจิตอล) ไม่ใช่ว่าในห้องสอบไม่มีเปิดนาฬิกาให้นะคะ
แต่บางทีถ้าหากเราจับพลัดจับผลูได้ที่นั่งที่หน้าชิดกำแพง (อย่างดิชั้น)
ไม่มีวันที่จะเห็นนาฬิกาที่ฉายอยู่บนสไลด์
หายนะจากการที่ไม่รู้เวลาก็อาจจะมาอันนยองฮาเซโยได้เช่นกัน
**เกี่ยวกับเครื่องเขียน**
แจก ปากกาสีดำ เหมือนเคยค่ะ
ห้ามใช้อย่างอื่นในการขีดเขียนด้วย
ถ้าลืมเอา เทปลบคำผิด (ห้ามใช้แบบน้ำ) มา ทางสนามสอบจะมีเทปคำผิดสาธารณะให้ยืมใช้
แต่ก็เหมือนเคยค่ะ จะยกมือทีก็อายที กว่าอาจารย์จะยุรยาตรเอามาให้อีก เสียเวลาค่ะ
เอามาเองเหอะ
■
การแต่งกาย
ไปรเวท(ที่สุภาพ)ได้เลยจ้า ไม่จำเป็นต้องชุดนักเรียนหรอก
■
ระเบียบในห้องสอบ (สนามสอบ โรงเรียนสารวิทยา)
1.)
ต้องมาให้ตรงเวลา ถ้าสายเกินเวลาที่กำหนดไว้
ก็หมดสิทธิ์เข้าห้องสอบจ้ะ
2.)
เมื่อเข้ามาแล้ว กระเป๋าที่แบกมาต้องเอาวางไว้ใต้โต๊ะ/พิงข้างโต๊ะตัวเอง // ส่วนกระเป๋าตังค์(และบัตรประชาชน)ใส่กระเป๋ากางเกงติดไว้กับตัวได้
3.)
โต๊ะจะรันตามหมายเลขประจำตัวสอบ ให้เข้านั่งโต๊ะที่มีข้อมูลของตัวเองแปะไว้เท่านั้น
แล้วนำบัตรประชาชนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะตัวเองเพื่อให้ครูผู้คุมสอบมาตรวจสอบ
4.)
โทรศัพท์มือถือ
อาจารย์คุมสอบจะวางซองไซส์กรุบกริบไว้บนโต๊ะ(วางไว้พร้อมกับปากกาดำมหัศจรรย์(ไร)นั่นแหละ)
เราต้องเอาโทรศัพท์ขึ้นมาปิดเครื่องให้เขาเห็น และเอาใส่ซองนั้น
เขียนชื่อและหมายเลขประจำตัวสอบบนซองให้เรียบร้อย อาจารย์จะเก็บใส่ตะกร้า แล้วยกออกไปไว้ห้องอื่น
จะนำมาคืนก็ต่อเมื่อหมดเวลาสอบแล้วเท่านั้นค่ะ (เป็นการบังคับกลายๆ ว่า
ยังไงเอ็งก็ต้องนั่งรอจนกว่าเวลาจะหมดอยู่ดี)
ซองใส่โทรศัพท์ และ ปากกาดำสำหรับทำข้อสอบ
(สอบเสร็จแล้ว เอากลับบ้านได้นะจ๊ะ ไม่มีใครว่า)
5.) ต้องเขียนชื่อ-นามสกุล
ทั้งกระดาษคำถามและกระดาษคำตอบ โดยในส่วนการเขียนชื่อภาษาอังกฤษ
ต้องถูกต้องตามบัตรประชาชน 100% ห้ามผิดเด็ดขาด
(ดิชั้นเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ไปทั้งหมดเลย) ส่วนตรงชื่อเกาหลี ครูสนามสอบ มศว บอกว่า
ไม่จำเป็นต้องเขียนตรงกับชื่อผู้เข้าสอบ(ที่แปะไว้หน้าห้องสอบ)ก็ได้ เพราะยังไงเขาก็โฟกัสแค่ชื่ออังกฤษกันอยู่แล้ว
6.) ทด/ขีดเขียนในกระดาษคำถามได้เต็มที่
เอาเลย
จัดไปปปปปป
7.)
ข้อสอบจะมีชุด คู่/คี่ ให้ฝนในกระดาษคำตอบให้ตรงกับชุดที่ได้ด้วยนะคะ (ทั้งสองชุดคำถามเดียวกันหมด
แต่ช้อยส์สลับตำแหน่งกัน)
8.)
ในกระดาษคำตอบจะมีช่อง “ไม่มาสอบ” = ห้ามไปยุ่งเด็ดขาด
ปล่อยว่างไปซะ
9.) ไม่อนุญาตให้เข้าห้องน้ำระหว่างสอบ (บางที่อาจจะผ่อนปรนกว่านี้) ยกเว้นว่าฉุกเฉินจริงๆ อีกนิดปราการจะแตก
เขื่อนจะทลายถึงจะไปได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องให้ครูผู้คุมสอบตามติดไปด้วยนะคะ…
■ สรุปดีกรีความยากของ
TOPIK2
ขอร้องไห้ก่อนพิมพ์แปปนะคะ ฮรึก
โอเค เอาทีละแง่นะคะ
ไวยากรณ์
สำหรับเด็กจุฬาฯ ที่เรียนเกาหลีในคณะอักษรฯ ทะลุถึงเกาหลี 6 (หรืออาจจะเกินกว่านั้น) เลยค่ะ
ศัพท์
สำคัญกว่าไวยากรณ์หลายเท่ามากกกกกกกกกกกกก เพราะต่อให้รู้ไวยากรณ์
แต่ถ้าแปลศัพท์ไม่ออกก็จบเห่ และคลังศัพท์นี่ก็กว้างมาก ท่องไปเหอะ ขอร้อง
ท่องอะไรได้ท่องไปให้หมด ไม่มีขอบเขตจำกัดชัดเจนเหมือนสมัย Topik 1 แล้วนะเธอ
เวลา
ผีที่สุดสำหรับพาร์ทเขียนกับอ่านแล้วค่ะ
หนักกว่าไม่เข้าใจ ทำไม่ได้ คือเวลาไม่พอ ทำไม่ทัน!! ดังนั้น ขอย้ำอีกทีค่ะว่าฝึกซ้อมจับเวลาทำข้อสอบตั้งแต่ที่บ้านให้ชินเลยจะดีกว่านะคะ
สรุปนะคะ สำหรับใครที่เพิ่งเรียนเกาหลีถึงขั้นกลางแล้วทำไม่ได้มากเท่าที่ควร
ก็อย่าเพิ่งเฟลขนาดนั้น อย่างที่เห็นนะคะว่า Topik 2 มันคือการรวมกันของขั้นกลางกับสูง ข้อโหดๆ
พวกนี้คือตัวแทนจากขั้นสูง เพราะงั้น
할 수 없는 게아니라 아직 할 수 없는 일이잖아
มันไม่ใช่ว่า
เราทำไม่ได้ แต่เราแค่ ยังทำไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง
จงเก็บความแค้น(ที่ยังทำไม่ได้)ในรอบนี้ไว้
แล้วกลับมาแก้แค้นให้โอกาสถัดไปกันเถอะค่ะ
โชคดีกับการสอบทุกคนนะคะ อปป้าออนนี่ทั้งหลายเป็นกำลังใจให้
ความคิดเห็น