ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวียงวัง

    ลำดับตอนที่ #268 : ขุนนาง 8 แผ่นดิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 654
      2
      19 เม.ย. 53

    ารปกครองแต่ก่อนมา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่ชนในการเข้าตั้งถิ่นฐานการปกครอง ตั้งเป็นพระราชอาณาจักรนั้น ย่อมทรงเป็นเจ้าของแผ่นดินทั้งหมดในพระราชอาณาจักรของพระองค์ ชนทั้งหลายที่มีพระองค์เป็นหัวหน้าปกป้องคุ้มครองจึงเรียกพระองค์ว่า ‘พระเจ้าแผ่นดิน’
    เจ้าคุณพระประยุรวงศ์
    เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ - ท่าน ๕ แผ่นดิน เกิดในรัชกาลที่ ๔ ทรงสู่ขอเป็นสะใภ้หลวง เมื่อปลายรัชกาล ถึงรัชกาลที่ ๕ โปรดฯ ให้เป็นเจ้าคุณพระสนมเอก ในรัชกาลที่ ๖ สถาปนาเป็น เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ (ในหนังสือเก่าว่า ประยูรวงศ์) อายุยืนยาวถึงรัชกาลที่ ๘ สิริรวมอายุ ๘๙ ปี ๖ เดือน

    คนสมัยโบราณจึงมักนับอายุ โดยถือเอาพระเจ้าแผ่นดินเป็นหลัก เช่นว่า เกิดมา ๒ แผ่นดินแล้ว อยู่มา ๓ แผ่นดินแล้ว

    ซึ่งธรรมดา ๆ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว มักจะเกิดมีชีวิตอยู่และแก่ตาย ประมาณ ๕ แผ่นดิน หรือในรัชกาลของพระเจ้าแผ่นดิน ๕ พระองค์ ก็นับว่านานที่สุดแล้ว

    แต่ยังมีขุนนางผู้หนึ่ง ตามประวัติของท่านว่า เป็นขุนนางถึง ๘ แผ่นดิน ซึ่งหากนับตั้งแต่เกิดอาจมีอายุเกิน ๙ แผ่นดินด้วยซ้ำไป เพราะเมื่อปรากฏชื่อเสียงเรียงนามของท่านในคำให้การของผู้สืบเชื้อสายจากท่านนั้น ปรากฏว่า ท่านเป็นถึงพระยาพิชัยราชา ผู้ช่วยราชการเสนาบดีกรมท่า ในปลายแผ่นดินพระเจ้าปราสาททองแล้ว

    พระเจ้าปราสาททองนั้นครองราชย์อยู่ ๒๖ ปี พระยาพิชัยราชา จึงเห็นจะเกิดในสมัยพระเจ้าทรงธรรม หากเกิดในสมัยพระเจ้าทรงธรรมจริง ๆ ชีวิตของท่านต้องอยู่นานถึง ๑๑ แผ่นดิน

    เพราะอะไร

    ตรงนี้ต้องย้อนไปหา ‘เวียงวัง’ สมัยกรุงศรีอยุธยากันหน่อย

    เพราะเมื่อสิ้นแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรมแล้ว มีพระราชโอรสครองราชย์ต่อ ๒ พระองค์ พระองค์แรก คือ พระเชษฐาเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้เพียง ๑ ปี ๗ เดือน เกิดวิวาทกับเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ อัครมหาเสนาบดีกลาโหม เจ้าพระยากลาโหมฯ จึงจับฆ่าเสีย ยกพระอาทิตยวงศ์ พระอนุชา ชนมายุเพียง ๙ พรรษา เป็นพระเจ้าแผ่นดินเพียง ๖ เดือน เจ้าพระยากลาโหมฯ และขุนนางทั้งหลายจึงพร้อมใจกัน เนรเทศออกจากราชสมบัติ แล้วเจ้าพระยากลาโหมฯ ก็ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนาม พระเจ้าปราสาททอง เปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ จากบรมราชวงศ์ทรงธรรม เป็น บรมราชวงศ์ปราสาททอง

    เป็นอันว่าก่อนถึงแผ่นดิน พระเจ้าปราสาททอง พระยาพิชัยน่าจะเกิดในแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรม เพราะเมื่อแรกเข้ารับราชการในแผ่นดินพระเจ้าปราสาททองนั้น อายุอานามน่าจะรุ่นหนุ่มแล้ว

    หากเป็นดังที่ว่าจริง ท่านก็เป็นขุนนาง ๘ แผ่นดิน แต่เกิดมาจนถึงแก่อสัญกรรมนั้น มีชีวิตอยู่มาถึง ๑๑ แผ่นดิน

    ทีนี้จะว่าถึงประวัติของพระยาพิชัยราชาผู้นี้

    ในหนังสือลำดับสกุลเก่าบางสกุล พิมพ์เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๕ ลำดับสกุลอมาตยกุลนั้น เริ่มต้นตั้งแต่พระยาสมบัติธิบาล (บุญเกิด) สมรสกับคุณหญิงแป้น

    จึงมีบุตรชายเป็นพระยามหาอำมาตย์ (ป้อม) ผู้เป็นต้นสกุล ‘อมาตยกุล’ คือได้รับพระราชทานนามสกุลนี้ เนื่องมาจากท่านผู้นี้

    ต่อเมื่อสืบสาวเรื่องราวของต้นตระกูลขุนนางไทยขึ้นไป จึงปรากฏว่า คุณหญิงแป้น ผู้นี้ท่านเป็นเชื้อสายพระยาพิชัยราชา ขุนนาง ๘ แผ่นดิน คือ คุณหญิงแป้นเป็นชั้นที่ ๔
    สาวขึ้นไปอีก บิดาท่านผู้หญิงแป้น คือ เจ้าพระยาราชสงคราม (ปาน) ชั้นที่ ๓

    ท่านบิดาของเจ้าพระยาราชสงคราม (ปาน) คือ เจ้าพระยาวรราชนายก (ช้าง) ชั้นที่ ๒

    และท่านบิดาของเจ้าพระยาวรราชนายก (ช้าง) ซึ่งเป็นต้นตระกูล ชั้นที่ ๑ ก็คือ พระยาพิชัยราชา ผู้นี้นั่นเอง

    ตามประวัติว่า พระยาพิชัยราชา ท่านมีนามเดิมว่า นกแก้ว ปรากฏชื่อเสียงเรียงนามเอาเมื่อเป็นพระยาพิชัยราชา (นกแก้ว) แล้วในแผ่นดินพระเจ้าปราสาททอง
    ตั้งแต่พระเจ้าปราสาททองสวรรคต จนถึงแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ผลัดแผ่นดินถึง ๗ แผ่นดิน คือ

    ๑.  เจ้าฟ้าไชย เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ๙ เดือน

    ๒.  พระศรีสุธรรมราชา เป็นอยู่ ๒ เดือน ๒๐ วัน

    ๓.  สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็น ๒๖ ปี จึงเปลี่ยนจากบรมราชวงศ์ปราสาททองเป็นบรมราชวงศ์บ้านพลูหลวง

    ๔.  สมเด็จพระเพทราชา เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ๑๖ ปี กลับเปลี่ยนเป็นพระบรมราชวงศ์ปราสาททองอีก ด้วยขุนหลวงสุรศักดิ์ นั้นถือว่าเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

    ๕.  พระเจ้าเสือ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ๑๐ ปี

    ๖.  พระเจ้าท้ายสระ เป็นอยู่ ๒๗ ปี

    ๗.  พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ เป็นอยู่ ๒๖ ปี

    ตลอดระยะเวลาทั้ง ๗ แผ่นดินนั้น พระยาพิชัยราชา (นกแก้ว) รับราชการสนองพระเดชพระคุณบ้านเมือง โดยเรียบร้อยและซื่อสัตย์สุจริตตามหน้าที่ของท่าน จึงเป็นที่ทรงเกรงใจตลอดมา ปรากฏว่าท่านได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศ และตำแหน่งหน้าที่ดังนี้

    แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระยาสุรสงคราม (นกแก้ว)

    แผ่นดินพระเจ้าท้ายสระ เป็นเจ้าพระยาสุรสงคราม (นกแก้ว) แผ่นดินพระเจ้าเสือ เป็นเจ้าพระยาบวรราชนายก (นกแก้ว)

    เมื่อเป็นเจ้าพระยาบวรราชนายก (นกแก้ว) ในแผ่นดินพระเจ้าท้ายสระนั้นท่านชราภาพแล้ว เมื่อถึงแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ท่านมีอายุถึง ๙๙ ปี

    ครั้งนั้น พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ทรงขุ่นเคืองสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ

    เจ้าคุณพระประยุรวงศ์
    เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ อายุ ๘๘ ปี ในรัชกาลที่ ๘ รัฐบาลขอร้องให้แต่งกาย ตามวัฒนธรรมการแต่งกายสมัยนั้น (พ.ศ.๒๔๘๔-๒๔๘๕)

    ด้วยเรื่องว่า เมื่อครั้งแผ่นดินพระราชบิดา คือ พระเจ้าเสือ พระเจ้าเสือจะเสด็จไปคล้องช้าง จึงมีพระบรมราชโองการให้พระราชโอรส คือ เจ้าฟ้าเพชร (พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระในเวลาต่อมา) และเจ้าฟ้าพร (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ในเวลาต่อมา) สองพระองค์เสด็จไปบัญชาการถมที่ล่มที่จะเสด็จพระราชดำเนินแต่บังเอิญ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินนั้น ช้างพระที่นั่งเดินพลาดลงไปในหล่มเซไป พระเจ้าเสือกริ้ว ตรัสว่า ไอ้สองพี่น้องนี้คบคิดกันจะทำร้ายกู ให้ลงพระราชอาญานำไปคุมขัง รอเวลาสำเร็จโทษ ทว่าความทราบถึงเจ้าแม่วัดดุสิต ตกพระทัยรีบเสด็จไปเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานโทษให้เจ้าฟ้าทั้งสอง พระเจ้าเสือทรงเกรงพระทัย ด้วยเจ้าแม่วัดดุสิตทรงเลี้ยงดูพระองค์มา จึงพระราชทานอภัยโทษแก่พระราชโอรส

    เมื่อพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระได้ราชสมบัติ จึงทรงตั้งพระราชอนุชาเป็นวังหน้า พระมหาอุปราช

    แต่ครั้นพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ จะเสด็จสวรรคต หาได้มอบราชสมบัติแก่พระมหาอุปราชไม่ แต่ทรงมอบให้แก่เจ้าฟ้าอภัยพระราชโอรส พระมหาอุปราชไม่ทรงยอม เกิดรบราฆ่าฟันกันระหว่างอากับหลาน ในที่สุดพระมหาอุปราช (เจ้าฟ้าพร) ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน (มาออกพระนามกันว่า พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ภายหลังเมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว โดยที่เป็นพระเจ้าอยู่หัวพระองค์สุดท้ายที่พระบรมศพได้ประดิษฐานในพระบรมโกศ)

    พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ทรงน้อยพระทัยสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จึงเมื่อเสด็จขั้นครองราชย์แล้ว มีพระราชดำรัสว่าจะไม่เผาพระบรมศพ แต่จะโปรดให้ลากพระบรมศพไปทิ้งน้ำ

    ตามประวัติเจ้าพระยาบวรราชนายก (นกแก้ว) ว่า เจ้าพระยาบวรราชนายก (นกแก้ว) อัครมหาเสนาบดีหลายแผ่นดิน ซึ่งอายุถึง ๙๙ ปีแล้ว ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาวิงวอนให้ทรงทำพระราชพิธี ถวายตามธรรมเนียมพระมหากษัตริย์ แต่โบราณมา เพื่อมิให้เป็นที่ติฉิน พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ทรงเกรงใจ จึงโปรดให้ถวายพระเพลิงอย่างสังเขป พอมิให้เสียพระเกียรติยศ

    ประวัติเจ้าพระยาบวรราชนายก (นกแก้ว) ยังมีโดยพิสดารอีกต่อไปว่า

    เมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแล้ว อยู่มาอีกไม่กี่วัน ในพระราชพิธีตรุษไทย ขณะกำลังยิงปืนอาพาธพินาศ เจ้าพระยาบวรราชนายก (นกแก้ว) ก็ถึงแก่อสัญกรรม เสมือนผลไม้อันสุกงอมร่วงหล่นหลุดจากขั้วไปเฉย ๆ โดยมิได้เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคาพยาธิแต่อย่างใด

    ภาพประกอบของตอนนี้ เป็นภาพเจ้าคุณพระประยุรวงศ์พระสนมเอก ‘คู่ทุกข์คู่ยาก’ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่งมีชีวิตตั้งแต่เกิดในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ ๔ เจริญด้วยเกียรติยศมาแต่ปลายรัชกาลที่ ๔ ตลอดรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ และรัชกาลที่ ๘ จึงเรียกว่า ‘ท่าน ๕ แผ่นดิน’ มากกว่า แม่พลอยในเรื่องสี่แผ่นดินของ อาจารย์หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ๑ แผ่นดิน 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×