“รีไวล์ซังข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ”
ผมพูดกึ่งตะโกนพลางเทน้ำเย็นลงในแก้วใสที่รีไวล์ซังใช้เป็นประจำ
“.....อืม.....”
เขาส่งเสียงครางทุ้มต่ำตอบกลับมาเบาๆก่อนที่ร่างของเขาที่เพิ่งจะลุกออกมาจากเตียงจะมายืนนิ่งมองผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว
“ไปล้างหน้าล้างตาก่อนสิครับ
จะได้มากินข้าวเช้ากัน” ผมบอกพลางยิ้มอ่อน
เขาเดินมาหาผมก่อนที่จะหอมแก้มของผมเบาๆแล้วเค่อยเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างมึนๆ
“วันนี้มีประชุมตอนเย็นน่าจะกลับบ้านดึก”
เขาบอกพลางลุกจากโต๊ะกินข้าวที่กับข้าวที่ตั้งอยู่ตรงหน้าของเขานั้นหมดไปแล้วเรียบร้อย
จากอาการหิวของเขานั่นแหละ
“ครับ
จะรอนะครับ” ผมบอกแล้วเดินไปจูบปากของรีไวล์ซัง
เขายิ้มนิดหน่อยก่อนที่จะเดินออกจากบ้านไป หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของแม่บ้านอย่างผมที่ต้องทำงานบ้านที่คุณสามีทิ้งไว้ให้ทำ.....เสียเยอะเชียว
“กริ๊ง
กริ๊ง!” เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นทำให้ผมต้องหยุดการทำงานบ้านก่อนที่จะเดินมารับโทรศัพท์สายนั้น
“สวัสดีครับบ้า-“
“เอเลน!”
“มิคาสะ?มีอะไรงั้นเหรอ?ไม่ได้ติดต่อมานานเลยนี่นา”
“ฉันไปทำงานที่ต่างประเทศน่ะ
ว่าแต่เอเลน....นายรู้เรื่องนี้หรือยัง?”
“...หืม?เรื่องอะไรงั้นเหรอมิคาสะ?”
“ก็เรื่องที่ว่ารีไวล์ซังแอบเป็นชู้กับบอสของบริษัทที่เขาทำงานอยู่น่ะสิ”
สิ้นประโยคของมิคาสะก็ทำให้ผมชะงักก่อนที่จะยิ้มแหยแล้วตอบกลับ
“ก็แค่ข่าวลือน่ะ
อย่าไปเชื่อมากนักเลย”
“เอเลน....ฉันเป็นห่วงนายนะ
ถ้าอยากรู้ความจริงล่ะก็...ลองไปหาเขาที่ทำงานดูสิ
แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นมา...โทรมาบอกฉันด้วยนะ”
“...อื้ม...ขอบคุณนะ”
ผมบอกก่อนที่จะวางสายนั้นลงแล้วเดินไปนั่งกุมขมับบนโซฟา
“รีไวล์ซังเป็นชู้กับบอสของเขางั้นเหรอ?.....”
ผมบ่นพึมพำขึ้นมาพลางหันไปมองรูปถ่ายของผมและเขาตอนงานแต่ง
ผมเดินไปหยิบรูปภาพนั้นพลางยิ้มอ่อนก่อนที่จะวางมันลง
“มันก็แค่ข่าวลือ
รีไวล์ซังน่ะไม่มีทางเป็นชู้ใครหรอก
เขารักเราออกจะตายไป...เราจะอ่อนไหวกับอีเรื่องแค่นี้ไม่ได้หรอกนะ” ผมพูดพลางเดินไปทำงานบ้านต่อจนเสร็จ
“เอาล่ะ...พักสักหน่อยดีกว่า
ทีวีมีอะไรดูบ้างนะ” ผมพูดพลางเดินไปนั่งบนโซฟาและกดเปิดสวิชต์โทรทัศน์
“เดี๋ยวนี้เรื่องหย่าร้างนี่เหมือนเป็นแฟชั่นสำหรับคนเดี๋ยวนี้ไปเลยนะครับ”
เสียงผู้ชายในโทรทัศน์นั่นทำให้ผมชะงักที่จะหยิบรีโมทเปลี่ยนช่องทันที
“หย่าร้าง?”
ผมพูดขึ้นพลางเลิกคิ้วมองในโทรทัศน์
“ค่ะ
จากผลสำรวจจากครอบครัวหนึ่งในญี่ปุ่นพบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ทั้งสองหย่าร้างมาจากการมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ”
ประโยคนั้นทำให้ผมชะงักอีกครั้งพลางเบิกตากว้าง นี่มันอะไรกัน?เหมือนโทรทัศน์รู้เลยว่าผมกำลังเครียดเรื่องนี้อยู่
“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าเขาแอบมีใครหรือเปล่า?มีวิธีแนะนำมั้ยครับอายาสึกิซัง?”
“ค่ะ
ดิฉันได้ทำข้อสังเกตไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญรับฟังได้เลยค่ะ”
“1.เขามักจะกลับบ้านดึกบ่อยๆ”
“.....อืม....ห้าทุ่มแล้วนะ”
ผมพึมพำขึ้นมาพลางมองนาฬิกา ทำไมรีไวล์ซังยังไม่กลับบ้านอีกนะ?
ตีสอง
“แอ๊ด.....”
“...โอย...เหนื่อยชะมัดเลย”
เสียงของรีไวล์ซังดังขึ้นก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาในบ้านที่มืดมิดเพราะว่าผมปิดไฟแล้ว
“....ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ...รีไวล์ซัง”
ผมบอกพลางฉายไฟฉายใต้คางของตัวเองพลางมองหน้าของเขา
“เห้ย!!ทำบ้าอะไรน่ะเอเลน?ตกใจหมดเลย”
เขาพูดพลางมองหน้าผมด้วยใบหน้าตกใจก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดไฟ
“ข้าวเย็นอยู่ในตู้กับข้าวนะครับ”
ผมบอกพลางหันไปมองเขาเล็กน้อย
“ฉันกินมาเรียบร้อยแล้วล่ะ
ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” เขาบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“......เช็ค........”
“2.ไม่ยอมทำการบ้าน”
“อึก...เมื่อย”
เขาพูดพลางขยับร่างกายไปมา
“เดี๋ยวผมนวดให้มั้ยครับ?”
ผมถามพลางมองหน้าของเขา
“ก็ดี”
เขาบอก
ผมเลยขยับไปนวดไหล่ของเขาไปเรื่อยๆจนเขาจับมือผมแล้วจ้องหน้าของผม
“เอเลน...”
เขาเรียกชื่อของผมพลางจ้องหน้าของผมด้วยสายตาอันเร่าร้อน
“...รีไวล์ซัง...”
ผมเรียกชื่อของเขาแล้วยื่นหน้าเข้าไปหา
จะทำเหมือนกับทุกๆครั้งสินะครับ
“ฟึ่บ!”
แล้วจู่ๆเขาก็เอื้อมมือไปปิดไฟในห้องจนมันมืดไปหมด
“นอนเหอะ
พรุ่งนี้ฉันมีงานต้องทำแต่เช้า” เขาบอกก่อนที่จะล้มตัวลงไปนอน
“.............เขาก็แค่เหนื่อยเท่านั้นแหละ
ไม่มีอะไรเสียหน่อย.............” ผมพูดก่อนที่จะล้มตัวลงไปนอนเช่นกัน
“แต่ก็ต้องเช็ค....”
ผมพูดก่อนที่จะหลับตาลงแล้วหลับไป
“ข้อสุดท้ายข้อที่3.ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยนะคะ
ข้อที่3.เขาตีตัวออกห่างจากเรามากกว่าทุกทีๆหรือว่าเขาหวงเนื้อหวงตัวกับเรามากกว่าทุกๆครั้งค่ะ”
“รีไวล์ซัง
ไทด์เบี้ยวน่ะครับ” ผมพูดพลางเดินเข้าไปหาเขาแล้วกำลังจะผูกไทด์ให้เขา
“ไม่ต้องหรอก
ฉันผูกเองได้” เขาบอกพลางผูกไทด์ของตัวเองแล้วกำลังจะเดินออกจากบ้านไป
“เดี๋ยวก่อนรีไวล์ซัง”
ผมบอกแล้วเดินเข้าไปเพื่อจะจูบลาเขา
“หมับ!”
แต่เขากลับใช้มือของเขาปิดปากของผมเอาไว้แล้วพูด
“ฉันรีบน่ะ
ขอตัวก่อนนะ” เขาบอกพลางเปิดประตูออกจากบ้านไปทันที
“.......เช็ค........”
หลังจากนั้นไม่นาน
“.........ตรงทุกข้อเลย......”
ผมพูดพลางทำหน้าเซ็ง จริงเหรอเนี่ย? เขาแอบมีใครอีกคนจริงๆงั้นเหรอ?....ไม่....ไม่อยากจะเชื่อเลย
“อ๊ะ?วันนี้เขาบอกว่าจะกลับดึกอีกแล้วนี่นา...ลองไปหาที่ทำงานสักหน่อยเพื่อเช็คว่าเขาไม่ได้นอกใจเรา...ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา”
ผมพูดพลางเดินไปหยิบเสื้อโค้ทแล้วปิดน้ำปิดไฟก่อนที่จะล็อคประตูแล้วออกจากบ้านมา
ผมเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บริษัทของรีไวล์ซัง
พอมาถึงหัวใจของผมมันเต้นระรัวเหมือนกับกำลังจะเข้าไปยังสนามรบอะไรอย่างนั้น
ผมเดินเข้าไปแล้วบอกยามว่าผมเป็นภรรยาของหัวหน้าฝ่ายรีไวล์เขาเลยให้ผมเข้ามาได้
ผมเคยมาที่ทำงานของรีไวล์ซังหลายครั้งก็จริงเพราะว่าเขามักจะลืมข้าวกล่องอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ได้แม่นทางสักเท่าไหร่หรอกนะ
ห้องประชุม...ห้องประชุมอยู่ที่ไหนกันนะ?...เอ...เหมือนว่าจะเป็นแถวๆนี้นะ...ห้องนี้หรือเปล่านะ?
ผมคิดพลางเดินไปเปิดประตูห้องใหญ่ห้องหนึ่ง
“ขออนุญา-........รีไวล์ซัง?”
ผมเปิดประตูเข้าไปก่อนที่จะต้องชะงักและเบิกตาโพลงเพราะว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าของผมมันทำให้หัวใจของผมมันแตกสลาย
ร่างใหญ่ของบอสของรีไวล์ซังกำลังคร่อมร่างของเขาอยู่
ส่วนรีไวล์ซังที่นอนอยู่ด้านล่างก็กำลังใช้มือของเขาจับใบหน้าของบอส
ผมเห็นแล้วรีบปิดประตูแล้วรีบวิ่งหนีออกมาจากบริษัททันที
“เอเลน!!!!”
“ฮึก...ฮึก...อึก..แท็กซี่!!”
ผมโบกแท็กซี่ก่อนที่จะรีบเข้าไปในรถในขณะที่รีไวล์ซังก็วิ่งมาพอดี
เขาตีประตูรถพลางตะโกนเรียกผม ผมพูดเร่งให้คนขับรถขับไป
ก่อนที่รถแท็กซี่ที่ผมนั่งจะขับออกไปทำให้รีไวล์ซังที่ทุบรถอยู่นั้นล้มลงไป
ผมร้องไห้ตลอดทางที่กลับบ้าน พอมาถึงผมจ่ายเงินค่ารถก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าบ้านไป
ผมวิ่งไปที่โซฟาก่อนที่จะเอาหมอนมาซุกหน้าของตัวเองแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ฮือ....ฮึก....ฮือ...ฮื่อ!!!”
ผมร้องไห้ออกมาไม่ยอมหยุดก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาแล้วตัดสินใจที่จะเก็บข้าวเก็บของไปอยู่ที่อื่น
“ก๊อกๆ!!”
“เอเลน
เปิดประตูก่อน เอเลน!!!” เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงตะโกนของรีไวล์ซังทำให้ผมต้องรีบไปจัดกระเป๋าและเตรียมตัวหนีออกจากบ้านแต่เสียงดังสนั่นที่หน้าบ้านกลับทำให้ผมต้องชะงักไป
“ตึง!!”
เสียงที่เหมือนกับคนที่กำลังทำลายอะไรบางอย่างนั้นดังสนั่นอย่างต่อเนื่องก่อนที่ร่างของเขาจะเข้ามาในบ้าน
ผมหยิบกระเป๋าออกมาพลางยืนมองหน้าของเขา
“..กระเป๋า?นายคิดจะไปไหนน่ะเอเลน?”
เขาถามพลางเดินมาจับแขนของผมแล้วกระชากไป
“ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่!”
ผมบอกแล้วสะบัดมือทิ้งแล้วกำลังจะเดินไปหน้าบ้าน
“อวดดีเกินไปแล้วนะไอ้เด็กเหลือขอนี่!”
เขาบอกพลางอุ้มร่างของผมขึ้นบ่าทันที
“หมับ!”
“อึก...ปล่อยนะ
ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้เลยนะรีไวล์ซัง!!” ผมตะโกนพลางทุบไหล่ของเขา
เขาเดินอุ้มผมไปโยนที่เตียงในห้องนอนก่อนที่เขาจะปลดซิปกางเกงของเขาออกพลางกระชากเสื้อผ้าของผมออกด้วย
“คุณจะทำอะไร?!”
ผมถามพลางดิ้นไปมา
“ก็ทำแบบที่ผัวเมียเขาทำกันน่ะสิ!!”
เขาบอกพลางจูบปากของผมก่อนที่จะไซร้คอของผม
เขาใช้มือของเขาเกลี่ยหัวนมของผมไปมาทำให้ผมส่งเสียงแปลกๆออกไป
“อ๊ะ!”
ผมใช้มือปิดปากตัวเองทันทีที่เสียงนั้นเล็ดลอดออกมา
เขาแสยะยิ้มก่อนที่จะเลียไปทั่วร่างของผม
ก่อนที่ภาพในตอนนั้นจะทำให้ผมชะงักและร้องไห้ออกมา
“ฮึก...ฮึก...”
เสียงสะอื้นของผมดังขึ้นทำให้เขาหยุดการกระทำทั้งหมดแล้วมามองหน้าของผมแทน
“นายเกลียดฉันแล้วงั้นเหรอเอเลน?...นายไม่อยากทำกับฉันแล้วงั้นเหรอ?”
เขาถามพลางทำสีหน้าเศร้า
“นั่นน่ะ...ผมต้องเป็นคนถามคุณต่างหาก...คุณเบื่อผมแล้วใช่มั้ยอ่ะ..ฮึก...ถึงได้...ฮึก...แอบไปมีอะไรกับบอสของคุณน่ะ...ฮือ!!!”
ผมพูดพลางร้องไห้ออกมาเสียงดัง
ผมเอามือมาปิดหน้าของตัวเองเอาไว้และสะอื้นแรง
“หึๆนายนี่มันเป็นแค่เด็กเหลือขอจริงๆเลย”
เขาบอกพลางดึงขาของผมให้ไปแนบชิดกับเขามากขึ้น
“ใช่สิ...ฮึก...ผมมันเด็ก...ฮึก...คุณเลย-
อุบ!!...อื้อ!!” ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบเขาก็จูบปากของผมก่อน
เป็นจูบอันเร่าร้อนที่ผมไม่ได้สัมผัสมันมานานหลายวัน
“เลิกคิดเองเออเองแบบนี้ได้แล้วเอเลน
ฉันน่ะ...มีแค่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ” เขาบอกพลางสอดใส่เจ้าแก่นกายยักษ์ของเขาเข้ามาในตัวของผมทันที
“อื้อ!!!!รี....รีไวล์ซัง...อื้อ...”
ผมครางพลางจิกไหล่ของเขาอย่างแรง
เขายิ้มเยาะก่อนที่จะจูบปากของผมอีกครั้ง
“....ไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวัน...ขอสักสี่ห้าน้ำละกันนะเอเลน”
เขาบอกก่อนที่จะไซร้คอของผมโดยที่ส่วนล่างยังคงขยับอยู่อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ผ่านไปห้าชั่วโมงผมที่นอนหลับเป็นตายหลังจากที่รีไวล์ซังกระหน่ำผมไม่ยั้งอย่างกับไปตายอดตายอยากที่ไหนมาอย่างนั้นแหละ
ผมตื่นขึ้นมาพลางมองไปรอบๆก่อนที่จะเห็นหน้าของรีไวล์ซังที่จ้องหน้าของผมอยู่
“รีไวล์ซัง?”
ผมเรียกชื่อของเขาพลางผลุดลุกขึ้นมาแต่ก็ต้องล้มไปนอนอีกครั้งเพราะว่ารู้สึกเจ็บสะโพกมาก
“อ๊ะ!...อึก...เจ็บ”
ผมพูดพลางจับสะโพกของตัวเองก่อนที่รีไวล์ซังจะดึงร่างของผมเข้าไปกอดแล้วลูบคลำตรงก้นของผมไปมา
“เพิ่งจะโดนจัดหนักมาขนาดนั้นยังจะอวดดีลุกขึ้นเองอีกนะเอเลน”
เขาบอกพลางยิ้ม
ผมเบือนหน้าหนีแต่ก็โดนมือของเขาจับมาให้มองตาเขาเหมือนเดิม
“นายคิดว่าฉันเป็นกิ๊กกับเอลวินงั้นเหรอ?”
เขาถามพลางมองหน้าของผม (เอลวินคือชื่อบอสของรีไวล์)
“ก็ภาพมันฟ้อ-“
“เอลวินมันมีสาวที่ปิ๊งอยู่ฉันก็เลยอาสาไปเป็นโค้ชให้มัน
ไอ้ท่าที่นายเห็นนั่นน่ะก็ไม่ใช่อะไรหรอกก็แค่ซ้อมให้มันไปทำกับสาวที่มันปิ๊งเท่านั้นแหละ”
เขาบอกพลางมองหน้าของผมแล้วยิ้มมุมปาก
“แต่ว่า..พักนี้คุณกลับบ้านดึกบ่อย-“
“นั่นเพราะว่าฉันมีโปรเจ็คต้องปิดเลยต้องทำงานดึกกับคนอื่นๆให้เร็วที่สุดเพราะว่าต้องส่งภายในอาทิตย์นี้แถมยังต้องเจียดเวลาไปสอนวิธีจีบหญิงให้เจ้าบอสเอลวินหน้าโง่นั่นอีก
เลยกลับบ้านช้าอย่างนี้ไง” เขาบอกพลางทำหน้าเซ็ง
“แล้ว...เรื่องที่คุณไม่ค่อยทำการบ้าน-“
“นั่นก็เพราะว่าฉันเหนื่อยจากการทำงานแต่ถึงฉันจะอยากทำกับนายแทบใจจะขาดแต่วันรุ่งขึ้นฉันก็ต้องไปทำงานแต่เช้า
เข้าใจมั้ย? นี่นายมีความต้องการมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย?”
เขาถามพลางกอดร่างของผมแน่นขึ้น
“แล้ว...แล้วเรื่องที่ไม่ให้ผมผูกไทด์ล่ะ..แถมไม่จูบก่อนไปอีกด้วย”
ผมถามพลางทำสีหน้าไม่ค่อยดีนักก่อนที่เขาจะจูบปากของผม
“จุ๊บ!”
“อื้อ...”
ผมครางพลางมองตาของเขา เขายิ้มก่อนที่จะกดร่างของผมลงไปอีกครั้ง
“ก็เพราะว่าฉันรีบไปทำงานเพราะว่ามันคือวันพรีเซ็นต์งานและที่ไม่ให้จูบก็เพราะว่าฉันอมยาแก้เจ็บคอเอาไว้
รสมันขมถ้านายจูบนายก็จะเอารสขมจากยาไปด้วยน่ะสิ” เขาบอกพลางมองตาของผมอีกครั้ง
.....ตายแล้วๆ...เราเข้าใจผิดหมดเลยอ่ะ...น่าอายจัง...งือ..ผมคิดพลางเอามือมาปิดหน้าของตัวเองเขาจูบมือของผมพลางกอดรัดร่างของผมแน่นขึ้น
“ปิดหน้าทำไม?ขอฉันดูหน้าของคนเข้าใจผิดหน่อยสิ”
เขาบอกพลางก้มหน้าลงมาแล้วเอาแต่จูบมือของผมไปมาก่อนที่เขาจะจี้เอวผมทำให้ผมเผลอปล่อยมือออกจากหน้าตัวเองเขาเลยได้โอกาสจูบที่ปากของผมอย่างดูดดื่ม
“อื้ม...อื้อ....”
ผมครางออกมาก่อนที่จะผละออกจากจูบแล้วมองหน้าของเขา
“ขอโทษนะครับรีไวล์ซัง
ที่เข้าใจผิดแล้วสร้างปัญหาให้” ผมบอกพลางกอดคอของเขา
เขากอดผมกลับก่อนที่จะยัดเจ้าแก่นกายนั่นเข้ามาในตัวของผมอีกครั้ง
“อ๊ะ!....อื้อ.....รีไวล์ซัง...ยังไม่พออีกเหรอครับ?”
ผมถามพลางทำหน้ามุ่ยมองหน้าของเขา
เขาแสยะยิ้มก่อนที่จะจูบที่ปากของผม
“นั่นน่ะแค่บทลงโทษที่นายเข้าใจผิดฉัน...แต่ต่อจากนี้น่ะ...เป็นของจริง”
เขาบอกพลางขยับเจ้าสิ่งนั้นต่อนานไปอีกหลายชั่วโมงจนวันต่อมาผมลุกจากเตียงไม่ไหวเลยทีเดียว
แต่โชคดีที่มันเป็นวันหยุดรีไวล์ซังเลยคอยดูแลผมที่เดินไปไหนไม่ได้เป็นอย่างดี
.
.
.
“ชิ....เสี้ยมไม่สำเร็จ....สงสัยต้องหาวิธีอื่นอีก
.....ฉันจะไม่ยอมให้นายอยู่กับไอ้เตี้ยนั่นนานหรอกเอเลน ฉันจะช่วยนายเอง!!” มิคาสะบอกพลางวิ่งกลับไปที่บ้านด้วยความเร็วสูงขนาดที่รถยนต์ยังเทียบเท่าไม่ได้