ผมชื่อมินทร์เป็นชายที่เพิ่งจะถูกแฟนสาววัย22ปีทิ้งด้วยเหตุผลที่ว่าเธอมีแฟนใหม่ในขณะที่กำลังคบกับผมอยู่ไม่ถึงปี
ความจริงแล้วคนที่ควรทิ้งมันต้องผมไม่ใช่หรือไงกัน?แต่เธอกลับเป็นคนทิ้งผมเสียงั้น?
ผมเลยตัดสินใจปลีกวิเวกตัวเองมาเข้าป่าเพื่อซึมซับธรรมชาติให้ลืมเรื่องซวยๆที่ผ่านมานั้นให้หมด
ผมมักมาตั้งแคมป์ตามป่าเป็นประจำแต่ส่วนใหญ่ผมจะไปที่ไกลๆแต่คราวนี้ผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่านึกยังไงถึงได้มาตั้งแคมป์ป่าแถวๆบ้านแทน
ผมหอบข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในกระเป๋าใหญ่นั้นมาพร้อมกับการเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาที่พักของคืนนี้
แล้วผมก็ไปเจอที่หนึ่งที่มันเป็นที่ราบที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนมาจองที่ไว้เลยแล้วตอนนั้นเองผมก็คิดในใจว่าทำไมไม่มีใครมาจองที่ๆวิวสวยแบบนี้กันนะ?
หรือว่าเป็นเพราะผมโชคดีกันแน่
ผมตัดสินใจจะนอนตรงนี้จึงได้จัดการกางเต็นท์สำเร็จรูปของผมและจัดวางข้าวของเครื่องใช้อื่นๆมาวางเอาไว้ให้เรียบร้อย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นผมก็เดินออกมาดูผลงานของตัวเอง วิวตรงนี้มันสวยมากจริงๆนะ
ผมคิดในใจพลางยิ้มอย่างภาคภูมิที่ตัวเองได้ที่ๆสวยแบบนี้ในป่า
ก่อนที่จะเข้านอนทุกครั้งผมมักจะออกไปถ่ายรูปหรือเดินเล่นครั้งนี้ก็เช่นกัน
ผมเดินไปที่ทางข้างๆพลางถ่ายภาพเก็บความทรงจำเอาไว้ก่อนที่ผมจะเดินมาที่เต้นท์ของผมแต่ผมก็ต้องประหลาดใจเมื่อเต็นท์ของผมที่ผมได้ปิดไฟจากตะเกียงและรูดซิบปิดเต็นท์ไว้นั้นมันถูกเปิดออก
ผมมองค้างไปครู่หนึ่งก่อนที่จะค่อยๆย่องเข้าไปแถวๆเต็นท์แต่ผมกลับไม่เจอใครเลย
หรือว่าเราไม่ได้ปิดไฟแล้วเปิดซิปทิ้งไว้กันนะ? ผมถามกับตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไปในเต็นท์
แล้วเมื่อผมเข้าไปเท้าของผมก็ไปเหยียบเข้ากับของแข็งอะไรบางอย่าง
ผมหยิบมันขึ้นมาดูปรากฎว่ามันคือวอล์สื่อสาร ผมมองมันสักพักแล้วคิด
ไม่ใช่ของฉันแน่เพราะว่าของฉันมันอยู่ตรงนี้นี่
ผมหันไปมองตรงด้านข้างของเต็นท์ที่มีวอล์ที่แปะสติ๊กเกอร์ตัวเอ็มเอาไว้ซึ่งนั่นคือเครื่องหมายว่านั่นล่ะคือของๆผม
แล้วอันนี้ของใครกันล่ะ?
ผมได้แต่ตั้งคำถามข้างในใจก่อนที่วอล์ปริศนาอันนั้นมันจะส่งเสียงดังขึ้น
ผมกดปุ่มสื่อสารไปแล้วเสียงทุ้มอันน่าขนลุกมันก็ดังขึ้นมา
"กูอยู่ข้างนอก" เสียงนั้นทำให้ผมถึงกับต้องโยนวอล์นั้นทิ้งแล้วมองมันอยู่ห่างๆ
ใคร?ใครมันเข้ามาในเต็นท์ของผมแล้วทำแบบนี้?เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่?แกล้งกันงั้นเหรอ?หรือว่า...ขโมย
ผมคิดดังนั้นแล้วก็รีบมองไปรอบๆเต็นท์เพื่อตรวจเช็คว่าของๆผมยังอยู่ครบดีหรือเปล่า
แต่กลับไม่มีของชิ้นไหนหายไปเลยสักชิ้น เสียงจากวอล์นั้นเงียบไปไม่มีเสียงใดดังขึ้นมาอีกผมเลยตัดสินใจจะเอามันไปทิ้งด้านนอกเผื่อว่าใครคนนั้นที่ทำแบบนี้จะแค่อยากแกล้งนักท่องเที่ยวอย่างผมก็เท่านั้น
"เฮ้อ...อย่ามาแกล้งกันเลยนะขอล่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันก็กลับแล้ว" ผมพึมพำพลางไหว้ไปด้วยก่อนที่ผมจะวางเจ้าวอล์นั่นลงไปกับพื้นแต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นจากวอล์อันนั้น
ผมมองมันนิ่ง ไม่อยากจะกดฟังอะไรจากปลายสายนั้นเลยสิให้ตาย
ผมคิดแต่แล้วผมก็เอื้อมมือไปกดปุ่มแล้วเสียงอันน่าขนลุกเสียงเดิมนั้นก็ดังขึ้น
"กู...อยู่ข้างหลัง" เสียงนั้นบอกทำให้ผมถึงกับขยับตัวไม่ได้ ขาของผมมันแข็งไปหมดจนไม่สามารถที่จะก้าวได้
ผมพยายามที่จะหันไปมองทางด้านหลังแต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าร่างกายมันไม่เอื้ออำนวยผมกัดฟันของตัวเองพลางคิดในใจ
นี่มันกรรมอะไรของกูวะเนี่ย?แฟนก็ทิ้งแถมยังต้องมาเจอใครก็ไม่รู้ในป่าแบบนี้อีก
ถ้าไม่ได้มาขโมย...ก็มีอย่างเดียวแล้ว...มันต้องการที่จะฆ่าผมแน่เลย
หมับ!! แล้วมือหนาของใครคนหนึ่งก็เอามาปิดปากของผมเอาไว้
ผมดิ้นไปมาและพยายามจะสลัดให้ตัวเองหลุดออกมาแต่แรงของชายคนนี้กลับมากเสียจนผมสู้แรงของเขาไม่ไหว
แล้วเขาก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งของเขามากระชากกางเกงของผมจนมันกองไปอยู่กับพื้นจนตอนนี้ผมเหลือแค่กางเกงในเพียงตัวเดียว
ผมขมวดคิ้วพลางหันไปมองหน้าของเขาจนตาของผมไปสบเข้ากับดวงตาของเขา
ก่อนที่เขาจะกระชากกางเกงในนั้นของผมลงไปกับพื้นเช่นกัน ท่าไม่ดีแล้ว
อีแบบนี้..ผมต้องโดนมันตุ๋ยแน่เลย!!
ผมคิดและดิ้นแรงมากกว่าเดิม ไม่นะ...แค่โดนแฟนทิ้งก็แย่แล้วแต่จะให้มาโดนผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาข่มขืนกลางป่าแบบนี้มันซวยเกินไปแล้ว!!! แล้วเขาก็ค่อยๆดันให้ร่างของผมไปติดกับต้นไม้ก่อนที่เขาจะเอาหน้าของเขามาใกล้ๆที่ซอกคอของผมจนผมขนลุกซู่ไปหมด
แม่จ๋าพ่อจ๋า...ช่วยลูกด้วย!!!!!
"แอ่นดีๆล่ะ...ไม่งั้นมึงจะเจ็บเอานะ" เขาบอกทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว
แอ่น..?แอ่นอะไร-
สวบ!!!
"อื้อ!!!!" ผมร้องเสียงหลงพลางกัดฟันของตัวเองเอาไว้
มันเจ็บมาก...เจ็บแบบทรมานสุดๆ
น้ำตาของผมไหลออกมาจากความเจ็บเมื่อครู่ผมพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ชายคนนั้นก็ดันเจ้าของแข็งนั้นเข้ามาในตัวผมจนผมสัมผัสได้เลยว่ามันเข้ามาจุกตรงท้องของผมแล้ว
"อึ๊!!!!" ผมร้องอีกครั้งพลางหลับตาปี๋ด้วยความเจ็บ
ชายคนนั้นส่งเสียงหอบหายใจกระเส่า
เขาดันสิ่งนั้นเข้ามาไม่หยุดจนร่างของผมสั่นสะท้านไปหมด
ผมได้แต่กัดฟันของตัวเองแล้วร้องไห้ออกมาจนเสียงของผมมันเล็ดลอดออกมาจากมือหนาของเขาที่ปิดปากของผมเอาไว้
"ฮึก...ฮึก...ฮึก" ผมสะอื้นออกมาเสียงดังแล้วจู่ๆการกระทำอันรุนแรงของเขาก็ค่อยๆช้าลง
เขายื่นหน้ามาตรงซอกคอของผมอีกครั้งพลางสูดดม
"...มึงเจ็บเหรอ?....มินทร์?" เสียงนั้นถามพลางเรียกชื่อของผม
ผมเบิกตากว้างก่อนที่จะตัดสินใจกัดมือของเขาตอนเผลอแล้วรีบหันหน้าไปหาเขาจนผมและเขาประจันหน้ากัน
ผมมองหน้าเขาพลางทำสีหน้าผิดหวังแล้วน้ำตาที่ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนก็ไหลออกมา
"ไอ้ริว?" ผมเรียกเขาพลางกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง
ชายตรงหน้าที่เมื่อครู่ได้ข่มขืนผมอยู่นั้นคือพี่ชายของแฟนผมที่เธอทิ้งผมไปเหมือนที่ได้เล่าเอาไว้ในตอนต้น
ผมและเขาสนิทกันมากแต่ไม่คิดเลยว่า...เขาจะทำกับผมแบบนี้ได้
"มึงทำแบบนี้ได้ไงวะ?...ฮึก...กูแฟนน้องมึงนะ!!...ฮึก...ฮือ...." ผมตระโกนพลางกำมือของตัวเองแล้วทุบไปที่ไหล่ของเขารัวๆ
เขานิ่งไม่ยอมตอบผมก่อนที่เขาจะกระชากมือของผมเข้าไปแล้วกอดร่างของผมเอาไว้
"กูขอโทษมินทร์...กูทำแบบนี้...ก็เพราะกูรักมึงนะ" เขาบอกพลางใช้มือของเขาลูบหัวของผมแต่ผมก็ผลักร่างของเขาออก
"รัก?...แต่กูแฟนน้องมึงนะ" ผมบอกพลางใช้มือเช็ดน้ำตาของตัวเอง
"แต่ตอนนี้มึงเลิกกันแล้ว" เขาบอกพลางเดินมาจับมือของผม
"ตลอดมามึงคิดกับกูแบบนี้มาตลอดเลยใช่มั้ย?มึงคิดจะเอากูอย่างเดียวเลยใช่มั้ย?!!" ผมถามพลางกำหมัดและจะต่อยหน้าของเขา
"กูไม่ได้หวังจะเอามึงเพื่อระบายอารมณ์อย่างเดียวนะไอ้มินทร์
กูรักมึงต่างหาก...นั่นแหละ...คำที่กูอยากจะบอกมึงตลอดมา" เขาบอกพลางทำสีหน้าเศร้า
"อยากจะบอก....แล้วทำไมไม่บอก...มาเอากันแบบนี้...คิดว่ากูจะรักมึงมั้ย?" ผมถามกลับพลางต่อยไปที่อกของเขา เขาคว้ามือของผมเอาไว้พลางลูบมันไปมา
"กูขอโทษ...กูกลัว...กลัวว่ามึงจะไปมีคนอื่นก่อน...กูเลย..อยากจะทำให้มึงเป็นของๆกูเอาไว้เสียก่อน" เขาบอกพลางจ้องตาของผม
"กูไม่ใช่ของเล่นที่มึงจะเขียนชื่อเอาไว้ว่าเป็นของมึงได้นะ!แล้วไอ้การที่มึงทำแบบนี้กูแจ้งจับมึงได้เลยด้วยซ้ำ!!" ผมบอกพลางสะบัดมือทิ้ง
เขามองผมด้วยใบหน้าหงอยๆพลางคุกเข่าลงไปกับพื้น
ตุบ!
"ก็เอาสิ มึงโทรหาตำรวจเลย กูสมควรโดนแล้ว...ยังไงซะ...กูกับมึงก็คงมากันได้แค่นี้แหละ" เขาบอกด้วยเสียงอันสั่นเครือหลังจากนั้นร่างของเขาก็สั่น
ผมก้มไปหยิบกางเกงมาสวมก่อนที่จะลงไปนั่งมองหน้าของเขา
"เวลามึงชอบใครมึงข่มขืนเขาแบบนี้ทุกคนเลยใช่มั้ย?" ผมถามพลางทำสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"คนที่กูชอบ ก็มีแต่มึงเท่านั้น" เขาบอกพลางมองตาของผม ถูกข่มขืนในป่าว่าแย่แล้วแต่คนที่ข่มขืนผมกลับกลายเป็นพี่ชายคนสนิทของผมเองมันดันเป็นเรื่องที่แย่เสียกว่า
แต่จะให้โทรแจ้งตำรวจให้ไอ้คนแบบนี้ไปติดคุกมีหวังมันเองเนี่ยแหละที่จะโดนตุ๋ยเสียเอง
"เฮ้อ..." ผมถอนหายใจออกมาทำให้เขามองหน้าของผมทันที
"มึงไม่โทรหาตำรวจหรือไง?" เขาถามพลางกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้ ผมมองหน้าของเขาก่อนที่จะยิ้มมุมปากออกมา
"ถ้ามึงอยากโดนตุ๋ยขนาดนั้นล่ะก็เดี๋ยวกูโทรให้" ผมบอกแล้วแสร้งทำท่าหยิบมือถือออกมาเพราะว่ามือถือของผมน่ะ..มันอยู่ในเต็นท์ของผมน่ะสิ
"โทรแล้วกูขอมึงอย่างหนึ่งได้มั้ย?" เขาถาม
ผมเลิกคิ้วข้างหนึ่งพลางพยักหน้า
"มึงอย่าเกลียดกูเลยนะ
อย่างน้อย...ก็ปล่อยให้กูได้รักมึงแบบนี้ต่อไปเถอะนะ" เขาบอกพลางก้มหน้าลงมองพื้นอีกครั้ง เฮ้อ...จะบ้าตาย
นี่ผมเป็นอะไรไปกันเนี่ย?ทำไมต้องมาสงสารไอ้โรคจิตที่มาข่มขืนผมด้วยแถมคำพูดบ้าๆนั่นอีกทำไมมันถึงทำให้ใจผมสั่นได้กันเล่า?...นี่ผม...เป็นพวกมาโซคิสต์ไปแล้วงั้นเหรอ?
เห้ย...เดี๋ยวนะ ทำไมมันรู้สึกอึดอัดจังวะ?
"เห้ย!?" ผมอุทานออกมาพลางมองไปที่เป้าของตัวเองที่มันตุงอยู่
นี่เรา...แข็งเพราะของไอ้บ้านี่งั้นเหรอ? นี่ฉัน...เป็นเกย์งั้นเหรอ?!!
"อะไร?งูกัดมึงเหรอ?" เขาถามพลางลุกขึ้นมาแล้วทำท่าทีเป็นห่วง ผมมองท่าทางของเขาครู่หนึ่งก่อนที่จะผลักเขาออกไป
"งูไม่ได้กัดแต่งูกูตื่น มึงเห็นมั้ย?" ผมถามพลางแอ่นเป้าไปให้เขาดู เขายิ้มมุมปากพลางมองหน้าของผม ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก
นี่มึงเป็นคนข่มขืนกูนะเนี่ย แถมกูดันตอบสนองซะกูยังตกใจอีกต่างหาก
"กูจะไปนอนแล้ว" ผมบอกแล้วเดินหนีมาทันทีแต่เขากลับจับมือของผมเอาไว้เสียก่อน
"ไม่โทรหา-"
"กูบอกว่าจะไปนอน อยากเจอตำรวจนักก็โทรเอาเองสิ
เปลืองตังค์มือถือกู" ผมบอกแล้วเดินไปที่เต็นท์ทันทีพอมาถึงเต็นท์ผมก็เข้าไปข้างในก่อนที่จะหันไปมองเขาที่วิ่งมาอย่างร้อนรนพลางหอบหายใจเสียงดัง
"มึงนอนไหน?" ผมถามพลางมองหน้าของเขา
เขาทำหน้างงก่อนที่จะตอบผม
"บนต้นไม้ มึงถามทำไม?" เขาถามพลางนั่งลงมองหน้าของผม
"ถามเฉยๆเผื่อมึงอยากจะมานอนด้วย
กูก็ไม่ใช่ปีศาจที่จะไม่ชวนพี่คนสนิทอย่างมึงให้มานอนด้วยหรอกนะ
ถึงมึงจะเพิ่งปล้ำกูไปก็เถอะ" ผมบอกพลางกรอกตาไปมา
อะไรของผมวะเนี่ย?ไปชวนมันทำไม?เดี๋ยวมันก็เข้ามาโซเดมาคอมในเต็นท์หรอกเห้ย!แต่ถ้าให้มันไปนอนบนต้นไม้มีหวังตื่นเช้ามาเป็นไข้เลือดออกพอดีแต่ถ้าให้มานอนด้วยตอนเช้าผมไม่เหลืออะไรแน่เลย
โอย!!!เอาไงดีวะเนี่ย?
"ไอ้มินทร์" เขาเรียกชื่อของผมพลางเดินมาตรงที่หน้าทางเข้าเต็นท์
"อะไร?" ผมถามกลับแล้วมองหน้าของเขาด้วยความสงสัย
จะไม่นอนงั้นสิ?เอาเหอะ อยากป่วยก็เรื่องของมึง
"คบกันเถอะ" เขาบอกทำให้ผมมองเขาตาค้าง
"ห..ห๊ะ?คบ...คบ?!!" ผมถามเสียงสูงพลางมองหน้าของเขา
"กูไม่รู้ว่าถ้ากูนอนกับมึงแล้วคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกูเลยอยากจะให้กูกับมึงมีสถานะแบบนี้กันก่อน...เผื่อว่าไอ้สิ่งที่กูทำกับมึงลงไป...จะทำให้มึงเกลียดกูน้อยลงบ้าง" เขาบอกพลางทำสีหน้าเศร้า
ไม่รู้ทำไมแต่พอได้ยินไอ้บ้านี่พูดแบบนี้ร่างกายของผมก็เข้าไปกอดร่างของเขาอย่างแนบแน่น
ผมใช้มือลูบหัวของเขาไปมา
"กูไม่ได้เกลียดมึง
ถึงไอ้การกระทำแบบนั้นของมึงมันจะทำให้กูไม่ชอบก็เถอะ...แต่ถ้ามึงไปทำแบบนั้นกับใครที่ไม่ใช่กู...มึงตายแน่" ผมบอกพลางผละออกมาจากร่างของเขาพลางชี้หน้า
ไอ้ประโยคที่พูดไปเมื่อกี๊มันแปลกๆเปล่าวะ? เหมือนสารภาพรักกับมันยังไงก็ไม่รู้
"...ไอ้มินทร์!!" เขาเรียกชื่อของผมก่อนที่จะกระโจนร่างของเขาเข้ามาหาผมจนเราทั้งสองมาอยู่ข้างในเต็นท์แล้วมือของเขาก็ไปจับโดนเจ้างูเหลือมของผมเข้าให้
เขาจับมันแล้วหันมามองหน้าของผม
"หนอนน้อยของมึงมันแข็งแล้วนะ" เขาบอกพลางยิ้มมุมปาก
"หนอนบ้านมึงสิ!!ใครมันจะไปใหญ่เหมือนพระเอกหนังโป๊อย่างมึงล่ะ!" ผมพูดพลางจ้องหน้าของเขา
เอาอีกแล้วกู...รูปประโยคที่พูดไปมันเหมือนชื่นชมขนาดน้องชายของมันยังไงก็ไม่รู้
"..ไอ้มินทร์..นี่มึง...กำลังยั่วกูงั้นเหรอ?" เขาถามพลางยิ้มอีกครั้ง ผมส่ายหน้าไปมาพลางพูดกับเขา
"กูไม่ได้ยั่- อื้อ!!" ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบเขาก็ประทับจูบอันเร่าร้อนนั้นกับผม
ผมหมดแรงก่อนที่เขาจะค่อยๆปลดกางเกงและเสื้อผ้าของผมออก
เขาผละปากของเขาออกจากปากของผมก่อนที่เขาจะค่อยๆเลียไล่ลงไปจนมาหยุดที่เจ้างูเหลือมของผม
เขามองหน้าของผมชั่วครู่ก่อนที่จะแลบลิ้นออกมา
"กูจะทำให้มึงถึงสวรรค์เอง"
.
.
.
"จิ๊บ จิ๊บ" เสียงนกร้องในยามเช้าทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาพลางมองไปที่แสงที่มันกระทบเข้ากับเต็นท์ของผม
ผมรูดซิบเปิดเต็นท์ออกมาพลางดูวิวภายนอก
"ว้าว..สวยจัง" ผมอุทานขึ้นมาพลางรีบพาตัวเองกลับเข้าไปในเต็นท์แล้วกำลังจะหยิบกล้องมาถ่ายแต่แล้วร่างของชายตัวใหญ่ที่นอนแน่นิ่งหลับตาพริ้มเป็นเด็กอยู่นั้นก็ได้ดึงสายตาของผมเอาไว้
ผมใช้มือของผมลูบไปที่ใบหน้าของเขาก่อนที่จะยิ้มมุมปากออกมา
"ตอนตื่นล่ะยังกับยักษ์ไหงตอนนอนเหมือนเด็กน้อยแบบนี้กันล่ะห๊ะ?ไอ้ริว
ไอ้หน้าโง่" ผมบอกพลางใช้นิ้วของผมบิดจมูกของเขาเบาๆ
"อือ...งืม..." เขาครางออกมา ผมหัวเราะในลำคอออกมาก่อนที่จะหยิบกล้องตัวเก่งของผมขึ้นมาแล้วเตรียมถ่ายหน้าของเขาแต่แล้วรูปภาพเก่าๆในกล้องนั้นมันก็ขึ้นมาเสียก่อนเพราะว่าเมื่อวานผมดูมันค้างเอาไว้
ผมเลื่อนดูมันไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่รูปๆหนึ่ง รูปของชายคนหนึ่งที่กำลังยิ้มจนตาหยี
รูปที่เขาทำหน้าโกรธ รูปที่เขาทำหน้าเครียด และอีกหลายๆรูปที่เป็นรูปของเขา
ผมยิ้มพลางมองรูปนั้นไปมาก่อนที่จะหันไปมองหน้าของคนที่นอนอยู่
รูปผู้ชายทั้งหมดในนั้นที่ทำให้ผมยิ้มนั้น...ก็คือรูปของไอ้โง่คนนี้นี่แหละ ทำเหมือนผมชอบมันเลยใช่มั้ย?ใช่ครับ...ผมหลงรักมันมาตั้งแต่ผมเจอมันตอนเดินมากับแฟนเก่าผมนั่นแหละ
ผมเลยตัดสินใจคบกับน้องสาวมันเพื่อจะได้เข้าใกล้และอยู่ข้างๆมันแต่ก็ไม่เคยคิดเลย...ว่ามันก็จะแอบชอบผมเหมือนกัน
(เป็นพวกซึนเดระสินะ:writer)
หมับ!! มือของเขาที่เคยอยู่นิ่งจู่ๆก็มาคว้าเอวของผมเอาไว้พลางกอดรัดแน่น
"เห้ย?" ผมอุทานออกมาพลางมองหน้าของเขาที่ห่างกับหน้าของผมเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
"มามองหน้าคนอื่นเขาแล้วยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงวะ...ไอ้มินทร์?" เขาบอกพลางมองตาของผม
"ไม่บอก แล้วมึงจะทำไม?" ผมถามพลางทำท่าทางยียวนเขายิ้มก่อนที่จะขึ้นคร่อมร่างผม
"นี่มึงอยากโดนจัดหนักเหมือนเมื่อคืนอีกใช่มั้ย?" เขาถามพลางยิ้ม
"ไม่เอาแล้วเว้ย เจ็บตูดจะตายอยู่แล้ว" ผมบอกพลางมองหน้าของเขา เขาหัวเราะในลำคอออกมาก่อนที่จะจูบที่หน้าผากของผม
"ขอโทษนะที่ทำให้เจ็บ
ต่อจากนี้จะทำให้เบาลงแล้วกันนะ" เขาบอกเสียงอ้อนๆผมเบิกตากว้างพลางยิ้มออกมาเขาเอาหน้ามาซุกที่ซอกคอของผมก่อนที่เขาจะจูบมันเบาๆ
"มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่นี่?" ผมถามพลางรอคำตอบ
"กูเห็นมึงแบกสัมภาระมาตั้งแต่บ้านมึงละ
กูเลยแอบตามคิดว่ามึงจะย้ายบ้านหนีไปไหนเสียอีก" เขาบอกพลางกอดร่างของผมแน่น
"จะย้ายไปไหนได้
ถ้ากูไปเดี๋ยวหมาแถวนี้มันจะหงอยเอาน่ะสิ" ผมบอกพลางยิ้มเขาเงยหน้าขึ้นมาพลางหอมแก้มของผมเบาๆ
"รู้ก็ดีแล้ว" เขาบอกพลางยิ้มแล้วผมกับเขาก็อยู่กันอย่างนั้นสองสามชั่วโมงก่อนที่เราจะตัดสินใจเดินทางกลับบ้านกัน