คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2
คุณกับจัสตินได้ใช้เวลาในห้างด้วยกัน ถึงแม้ว่าคุณจะชอบบ่นเรื่อยๆและเขาเองก็ชอบยียวนคุณ แต่มันก็เป็นเวลาที่สนุกทีเดียว หลังจากกินไอศกรีมกันเสร็จ เขาก็พาคุณลงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต คุณรอเขาไปเข็นรถเข็นที่อยู่อีกฝั่ง เป็นจังหวะเดียวที่ป้าคุณโทรเข้ามาพอดี
“ว่าไงคะป้า”
“หลานอยู่ที่ไหนแล้วจ๊ะ ทำไมป่านนี้ถึงยังไม่กลับมาอีก งานยุ่งหรือลูก” ป้าคุณถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าหรอกค่ะ เอาเป็นว่าอีกสักพักหนูจะกลับแล้วล่ะ เดี๋ยวพอกลับไปหนูจะเล่าทุกอย่างให้ป้าฟังอย่างละเอียดเลยค่ะ” จัสตินมาตอนที่คุณวางสายป้าคุณพอดี
“บอกหน่อยสิ มัสมั่นนี่เขาใช้วัตถุดิบอะไรบางหรอ” เขาถาม
คุณเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ถามทำไม คุณจะให้ฉันไปทำหรอ...ไม่เอาด้วยหรอกนะ แค่นี้ก็ดึกจะแย่อยู่แล้ว”
“เปล่าซะหน่อย ฉันยังไม่ได้พูดซักคำ”
คุณถอนหายใจอย่างโล่งอก “มันก็มีไม่มากหรอก ก่อนอื่นก็ไปหาเนื้อไก่ มัน กะทิ แล้วก็เครื่องปรุงรสอื่นๆ”
“ใจเย็นๆสิ บอกเร็วอย่างนั้นใครจะจำได้” เขาว่า “เอาทีละอย่างซิ”
คุณกลอกตาอย่างสุดเซ็งก่อนจะผลักจัสตินไปอีกด้านแล้วเป็นคนเข็นรถเข็นเอง ความจริงแล้วใช้เวลาเลือกวัตถุดิบไม่นานก็เสร็จ แต่คุณเสียเวลากับการอธิบายคำตอบต่อคำถามที่จัสตินถามไม่หยุด เขาดูตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ แม้กระทั่งไก่-- เขาถามคุณว่าทำไมไม่ใช้ปลาหมึกหรืออะไรอย่างอื่น ทำไมต้องเป็นไก่-- พอเลือกเสร็จ คุณก็คิดว่าจะจ่ายเงินแล้วจบแค่นั้น แต่จัสตินดูสนุกสนานกับการเล่นรถเข็น เขาเข็นไปที่หมวดขนม และหยิบขนมห่อสีเหลืองยี่ห้อ sour patch มาหลายโหล ก่อนจะเข็นไปหมวดซีเรียล และหยิบซีเรียลยี่ห้อ cap’n crunch ขนมสองอย่างนี้เหมือนคุณจะเคยเจอในห้องแต่งตัวของจัสตินมาแล้ว ก็ขยะที่ทั้งสองคนช่วยกันเก็บนั่นแหละ
“กินอะไรเนี่ย” คุณหยิบขนมขึ้นมาดู ก่อนจะหัวเราะ “กินเป็นเด็กๆไปได้”
“ก็มันอร่อยนี่”
“แล้วเล่นซื้อเยอะอย่างนี้ จะกินหมดหรอ”
“กินหมดแล้วกันน่า เอ้านี่ แล้วเธอไม่คิดจะซื้ออะไรบ้างหรอ” คุณส่ายหน้า “เอาเถอะน่า ไม่ต้องเกรงใจหรอก” คุณส่ายหน้าอีกครั้ง จัสตินกลอกตาก่อนจะเข็นรถเข็นไปอีกทาง หยิบขนมสารพัดแบบไม่คิดชีวิต คุณมองเขาอึ้งๆตลอดทาง
พอจ่ายเงินเสร็จ คุณเดินกลับไปที่รถ และเห็นว่าปาปารัซซี่รอดักอยู่ตรงทางออกแล้วสองคน คุณตกใจจนทำตัวไม่ถูก กลัวว่าจัสตินจะเดือดร้อนเพราะส่วนใหญ่คนพวกนี้ชอบสร้างข่าวให้ชาวเซเลบปวดหัว คุณหันไปมองจัสติน เขาดูนิ่งและไม่ได้สนใจปาปารัซซี่พวกนั้นแม้แต่น้อย
“อย่าสนใจ” เขาพูด
คุณทำตาม จัสตินคว้ามือคุณแล้วรีบพาเดินออกไป พวกปาปารัซซี่แชะภาพรัว คุณรีบสะบัดของเขาออกแต่จัสตินบีบมือคุณไว้แน่นมาก จนมาถึงรถ พวกปาปารัซซี่ยังคงป้วนเปี้ยนไม่ไปไหน ยังคงถ่ายภาพจนกระทั่งรถของเขาแล่นออกไป
“ทำอะไรของคุณ!”
“อะไรล่ะ”
“มาจับมือฉันตอนที่พวกปาปารัซซี่อยู่ทำไม! เดี๋ยวก็เป็นข่าวเอาหรอก”
“ไม่ต้องกลัวหรอก แค่เป็นข่าวเอง” เขาพูดอย่างใจเย็นราวกับคนไม่เดือดร้อนอะไร
“แค่งั้นหรอ” คุณพึมพำ โชคดีที่ห้างอยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ของคุณมากนัก จึงใช้เวลาไม่นาน จัสตินลงมาจากรถก่อนจะมาเปิดประตูให้คุณ
“ให้ฉันขึ้นไปส่งไหม”
“ไม่ต้องหรอก ขอบใจมากนะ ส่งแค่นี้แหละ” คุณบอก
“เดี๋ยว” เขาเดินไปเปิดประตูรถก่อนจะยื่นถุงขนมถุงใหญ่มาให้คุณ “รับไปสิ ฉันซื้อให้”
“ซื้อให้ฉัน? ขนมเนี่ยนะ?” คุณถามอย่างแทบจะไม่เชื่อสายตา
“ทำไมล่ะ รับไปสิ ฉันรู้ว่าซื้อขนมให้มันไม่โรแมนติกเท่าไหร่หรอก แต่เผื่อเธอหิวเมื่อไหร่ คนที่เธอนึกถึงคนแรกจะได้เป็นฉันไง” เขาพูดก่อนจะยิ้มแป้น คุณหัวเราะแบบงงๆ โรแมนติกอะไร? แล้วทำไมเขาถึงอยากให้ฉันนึกถึงเขาคนแรกด้วย? คุณคิดงงๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ได้แต่รับขนมมาแล้วกล่าวขอบคุณ ระหว่างก้าวไปในตัวอพาร์ตเมนต์ คุณหันหลังไปดูเขา และพบว่าเขาเองยังไม่ได้ขับรถออกไป จัสตินเมื่อเห็นว่าคุณมองมาทางรถเขาที่เปิดกระจกและโบกมือพร้อมกับส่งยิ้มให้ คุณโบกมือไล่เขา ก่อนที่รถของเขาจะขับออกและหายไปในท้องถนนยามราตรี
คุณส่ายหน้า ก่อนจะลากเท้าก้าวขึ้นไปห้องของคุณอย่างเหน็ดเหนื่อย วันนี้คุณยังไม่ได้เริ่มงานก็จริง แต่ส่วนใหญ่คุณหมดแรงกับการเดินรอบห้างกับจัสตินมากกว่า พอเข้าไปในห้อง ป้าของคุณกำลังนั่งคุยกับแพมอย่างสนุกสนาน คุณเดาว่าทั้งคู่คงจะอยากรู้ว่าคุณทำงานให้กับใครไม่ไหว แพมจึงมาหาคุณถึงที่บ้านเลย พอทั้งคู่เห็นคุณก็เดินเข้ามาหาอย่างเป็นห่วง
พอทุกอย่างพร้อม คุณก็เล่าเรื่องงานวันแรกของคุณให้ฟัง แพมกรี๊ดแทบจะลั่นอพาร์ตเมนต์ เธอแทบจะหมดแรงเลยด้วยซ้ำ พอเล่าถึงตอนท้าย ถึงจะไม่ละเอียดมากนัก แต่แพมก็ถึงกับน้ำตาคลอ คุณหัวเราะในท่าทีของเพื่อนสนิท ทั้งสามคนคุยกันอย่างออกรส จนเกือบจะเที่ยงคืนพวกคุณถึงจะตระหนักได้ว่าดึกมากแล้ว ป้าของคุณจึงให้แพมมานอนกับคุณเสียเลย
หลังจากคุณอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นแพมนอนหลับอยู่บนเตียงแล้ว คุณนั่งลงตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง อดคิดถึงเรื่องวันนี้ไม่ได้ คุณเดินไปที่เตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง
.
.
วันนี้คารินโทรมาบอกคุณว่าวันนี้ไม่มีคอนเสิร์ต คุณจึงไม่ต้องไปทำงาน คุณวางแผนว่าจะศึกษาเรื่องสไตล์การแต่งตัวของจัสตินทางอินเตอร์เน็ตว่าเขาเป็นคนสไตล์แบบไหน
ป้าของคุณเองวันนี้ก็มีนัดช้อปกับเพื่อนๆวัยเดียวกัน ส่วนแพมเองก็ติดเรียนพิเศษ ส่งผลให้คุณว่างอย่างแท้จริง คุณคลิกเน็ตไปเรื่อยๆ ทีวีก็เปิดค้างไว้อย่างไม่ใส่ใจจนกระทั่ง ช่วงข่าวบันเทิง เสียงทีวีที่พูดชื่อจัสตินทำให้คุณหันไปมองโทรทัศน์ แล้วคุณก็เห็นภาพคุณและจัสตินอยู่ในห้าง กำลังกินไอศกรีม ภาพเมื่อวานนั่นเอง รวมทั้งภาพที่คุณกับเขาเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตและตอนออกจากห้างที่เขาจับมือคุณ บนรูปภาพถูกวงกลมสีแดงวงรอบมือของคุณและจัสติน คุณใบหน้าร้อนฉ่า รีบหยิบรีโมทกดเพิ่มเสียง แล้วก็ฟังได้ว่าข่าวยังคงคลุมเครือ ไม่แน่ใจว่าคุณใช่แฟนใหม่ของจัสตินหรือเปล่า ข่าวยังบอกอีกด้วยว่าคุณเป็นคนนอกวงการที่มาทำงานกับจัสตินในวันเดียวกัน คุณรีบติดต่อไปหาคารินทันที
“ว่าไงจ๊ะ”
“คุณมอร์ริสคะ คือไม่ทราบว่าคุณเห็นข่าวหรือยัง...”
“ข่าว? ข่าวอะไรหรอ”
“คือ...ข่าวของฉันกับจัสตินน่ะค่ะ เมื่อวานเราสองคนแวะเข้าห้างก่อนที่เขาจะมาส่งฉันที่บ้าน แล้วบังเอิญมีปาปารัซซี่อยู่แถวนั้นพอดี แล้ว...”
“อ๋อ ถ้าเป็นเรื่องนั้น ฉันก็รู้แล้วล่ะจ้ะ” เสียงของคารินดูสดใสร่าเริงราวกับไม่รู้สึกอะไร ต่างจากคุณที่ตอนนี้กลัวแทบแย่ “ไม่ต้องกังวลหรอกนะ มันก็ไม่เสียหายอะไรสักหน่อยที่เป็นข่าว ตอนนี้เองจัสตินก็ไม่ได้คบกันใครคนอื่นอยู่ ใช่ว่าหมอนั่นจะมากิ๊กกับเธอแล้วเป็นข่าวเสียเมื่อไหร่ ไม่ต้องตกใจนะ มันเป็นธรรมดาน่ะ”
“แต่ว่า...”
“ฟังนะ ถ้าเธอกับเขาจะเป็นข่าวกันมันก็ไม่เห็นแปลกเลยนี่ ทำใจให้ชินไว้ เพราะเธอจะต้องเจออะไรอีกเยอะ” คารินพูด คุณขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ คารินวางสายไปแล้ว คุณหันกลับไปสนใจคอมพิวเตอร์ต่อ ถึงแม้ว่าในใจยังคงคิดถึงข่าววันนี้ไม่หาย
เสียงกดกริ่งหน้าประตูเรียกให้คุณลุกขึ้นไปเปิด
“เดี๋ยวค่ะ” คุณตะโกนบอก เสียงกดกริ่งดังรัวๆจนคุณถึงกับขมวดคิ้ว ไม่ใช่ป้าของคุณแน่ และคุณเองก็แน่ใจว่าไม่ใช่แพมเพราะแพมติดเรียน คุณเปิดประตูและ-- จัสตินที่ในมือหอบถุงกระดาษที่ในถุงเต็มไปด้วยกับข้าวเต็มมือ เขาหยุดกดกริ่งแล้วหันมามองคุณ ก่อนจะยิ้มหวาน “ว้าว เธอสวยจัง” คุณมองเขาแทบไม่เชื่อสายตา
“คุณขึ้นมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย แล้วรู้ได้ไงว่าไหนห้องฉัน”
“มันจะยากตรงไหน ฉันก็ถามพนักงานหน้าเคาท์เตอร์เอาน่ะสิ” คุณทำท่าจะต่อว่าเรื่องกริ่งแต่จัสตินไม่สนใจ เขาดันคุณไปให้พ้นทาง “ปีบๆ หลีกทางๆ” คุณมองเขาแบบตะลึงๆโดยไม่ละสายตา “เอาล่ะ เธอพร้อมหรือยัง”
“ฮะ?”
“เธอคงไม่คิดใช่ไหมว่าฉันพาเธอไปห้าง ซื้อวัตถุดิบอาหารไทย แล้วฉันจะเอามันไปทำเองน่ะ”
“หยุดความคิดของคุณเดี๋ยวนี้จัสติน คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะ กลับไปซะ”
“นี่ ใจคอเธอจะใจร้ายไม่ช่วยฉันเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนะ แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าเธอเองก็ยังเหมือนกัน” เขาเดา ซึ่งเดาถูกซะด้วย คุณขมวดคิ้วใส่จัสตินก่อนจะเดินไปดูข้าวของที่เขาหอบมา
“คุณจะเอายังไงกับฉันกันแน่” คุณพึมพำ แต่แล้วก็คิดอะไรบางอย่างได้ “เออนี่จัสติน”
“หืม” เขาขานพลางหยิบมันฝรั่งออกมาจากถุงกระดาษ
“รู้ข่าวหรือยัง ข่าวคุณกับฉันน่ะ เมื่อวานนี้ที่เรา...”
“รู้แล้ว”
“รู้แล้ว! รู้แล้วแล้วยังจะมาหาฉันที่นี่อีกเนี่ยนะ” คุณกัดฟันพูด เดินเข้าไปหาเขาแล้วดึงเขาให้หันมาคุยกับคุณ “คุณจะตกเป็นข่าวกับฉันอีกไม่ได้นะ ถ้าพวกนักข่าวรู้ต้องกรูกันมาหาฉันถึงที่นี่แน่ แล้วอีกอย่าง ข่าวพรรค์นี้มีแต่จะทำให้แฟนคลับของคุณไม่พอใจนะ”
“โวยวายอะไรของเธอเนี่ย นี่ฟังนะ แฟนคลับของฉันไม่ใช่ประเภทแบบนั้นเสียหน่อย ถ้าฉันรักใคร พวกเขาก็รักด้วย โอเค?”
คุณนิ่งไป เขาหมายความว่ายังไงที่บอกว่ารัก คุณคิด หลังจากนั้นคุณก็ยืนนิ่งไม่ขยับตัว รู้สึกอีกทีก็เป็นตอนที่จัสตินมาเขย่าตัวคุณ ตอนนี้คุณเข้ามาอยู่ในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“เร็วเข้า ฉันหิวแล้ว” เขาบ่น “เมื่อไหร่จะทำให้กินเนี่ย”
“อยากกินก็หยิบหม้อกับทัพพีให้ฉันสิ” คุณว่า
จัสตินเดินไปหยิบของสองอย่างให้คุณอย่างว่าง่าย “เอาไปสิ”
คุณจัดการต้มมันแล้วหันให้เป็นชิ้นพอดีคำ จัสตินเองก็เป็นลูกมือที่ดี ติดตรงที่เขาชอบทำให้คุณเสียสมาธิอย่างเช่นเวลาที่เขาว่าง เขาจะมองคุณและยิ้มอยู่คนเดียว คุณสังเกตได้ด้วยหางตา--
“มองอะไรอยู่ได้ หยิบจานมาสิ เสร็จแล้ว”
“อื้ม กลิ่นหอมดี” เขาส่งจานมาให้คุณ พอทุกอย่างเสร็จคุณก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้...
“จัสติน...ฉันลืมหุงข้าว” คุณพูดเสียงอ่อนเพราะรู้ว่าเขาหิวมากแล้ว กว่าข้าวจะสุกเขาคงฟุ้งซ่านแน่ คุณคิด-- จัสตินเหมือนจะคิดว่ากลิ่นมัสมั่นเปล่าๆได้โดยไม่ต้องกินกับข้าว คุณคิดว่าถ้าเขาหิวมาก ความคิดนั้นก็เข้าท่าดี แต่ดูเหมือนจัสตินจะต้องการกินแบบไทยแท้-- คือต้องมีข้าวด้วย
“ถ้าเธอเหนื่อยเดี๋ยวฉันหุงเองก็ได้ แค่บอกมาว่าต้องทำอะไรบ้าง”
“ก็ดี” คุณบอกวิธีขั้นตอนให้เขาอย่างละเอียด โดยปล่อยให้เขาทำเองส่วนคุณไปนั่งรอโดยดูทีวีอย่างสบายใจ ถึงแม้รู้ดีว่าอันตรายที่จะให้จัสตินอยู่ในครัวคนเดียว แต่เขาก็เป็นคนทำอาหารเป็น ไม่น่าจะมีอะไรน่าห่วง พอเขาหุงเสร็จ รู้ตัวอีกทีคุณกับเขาก็หิวมากแล้ว
จัสตินเป็นคนตักข้าว ส่วนคุณเป็นคนราดมัสมั่น พอเสร็จรูปร่างก็ออกมาน่ากินใช้ได้
“ฝีมือฉันนี่อร่อยเหมือนกันเนาะ” เขายิ้ม
“ฝีมือฉันต่างหาก”
“ฉันหมายถึงข้าว เธอหุงข้าวหรอ” เขากวน คุณเลยเหยียบเท้าของเขาเต็มแรง จัสตินร้องเบาๆแต่ก็ยอมให้คุณเหยียบ เมื่อเห็นว่าจัสตินไม่เจ็บตัว คุณเลยเลิกเล่นเป็นเด็กๆและหันมากินมัสมั่นแทน จัสตินร้องว้าวเพราะความอร่อยสามครั้งก่อนจะโดนคุณสั่งให้หุบปาก--
“ก็มันอร่อยนี่”
“อร่อยก็กินไปสิ มาร้องว้งร้องว้าวอยู่ได้ น่าหมั่นไส้”
“ว้าว” เขาร้อง คุณเหยียบเท้าเขาอีกรอบ “เหยียบไปเถอะ ไม่เห็นจะเจ็บเลย”
“อยากเจ็บตัวมากนักหรอ”
จัสตินหัวเราะ “ก็ถ้าคนทำเป็นเธอก็โอเคนะ ถึงจะเจ็บแต่ก็มีความสุข” เขามองคุณด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ สัญชาตญาณบอกให้คุณเอามือปิดหน้าอกอย่างรวดเร็ว
“พูดจาอะไรทุเรศจริงๆ” คุณว่า
จัสตินหัวเราะอย่างมีความสุข พอกินเสร็จ จัสตินอาสาจะเป็นคนล้างจาน คุณจึงไปนั่งเล่นอยู่ตรงโซฟา อย่างน้อยการที่เขามาหาคุณก็ทำให้คุณยิ้มได้ไม่น้อยเหมือนกัน จู่ๆจัสตินก็เดินออกมาจากครัว แล้วก็ถามคุณว่าจะไปหรือยัง คุณมองจัสตินแบบงงๆอีกครั้ง เขาคนนี้ทำให้คุณงงและประหลาดใจได้ตลอดเวลาจริงๆ
“ไปไหน”
“ไปเที่ยวไงล่ะ”
ความคิดเห็น