ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Exchange student (Fic Justin Bieber)

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1 โจทก์แรก [แก้]

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 58





     








     

    Chapter 1



     

    นี่คุณคิดถูกหรือเปล่านะที่ทำแบบนี้ ใช่...มันก็ดีอยู่หรอก มาแลกเปลี่ยน หาประสบการณ์ที่ต่างประเทศ แต่มันก็อดใจเสียไม่ได้จริงๆที่ต้องจากคนในครอบครัว จากบ้านเกิดตัวเอง ยิ่งในตอนนี้ เวลานี้ คุณอยู่ตัวคนเดียว นั่งครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยบนเครื่องหลังจากเซย์กู้ดบายกับครอบครัว นี่อีกไม่นานแล้วสินะ ที่คุณจะได้เผชิญโลกกว้าง

     

     

     

    คุณเป็นคนเก่งภาษาอังกฤษ เก่งมากทีเดียว สามารถพูดคล่องปรื๋อโดยไม่อายฝรั่งเลยก็ได้ แต่บอกตามตรงว่าจู่ๆคุณก็รู้สึกประหม่า ไม่รู้สินะ...มันอดวิตกไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะนี่ไม่ใช่ถิ่นคุณอะไรทำนองนี้ล่ะมั้ง แต่ช่างเถอะ ทำใจให้ดีไว้ นี่ไม่ใช่หรอ เหตุผลที่คุณอยากมาแลกเปลี่ยนน่ะ มาหาประสบการณ์ไง คุณคิดเข้าข้างตัวเอง

     

     

     

    โชคเข้าข้างคุณซะอีก เพราะส่วนใหญ่ นักเรียนแลกเปลี่ยนมักจะอยู่รัฐบ้านนอกๆ แต่คุณได้อยู่ถึงใจกลางเมือง โรงเรียนของคุณอยู่ไม่ไกลจากแหล่งช้อปปิ้งเท่าไหร่ด้วย นั่นควรจะน่าดีใจสิ

    .

    .

    .

    .

     

    หึ...น่าดีใจงั้นหรอ ?

     

     

    .....................................

     

     

    เมื่อเครื่องลงจอด คนบนเครื่องบินต่างทยอยเบียดเสียดกันออกไป

     

     

    ในขณะที่คุณนั่งเฉยๆ เปิดเครื่องโทรศัพท์ แมสเสจก็เด้งพรึบขึ้นบนหน้าจอทันที คิ้วเรียวยาวขมวดเข้าหากันด้วยความตื่นเต้นเพราะแมสเสจเป็นเบอร์ของโฮสต์แฟมิลี่ของคุณ ข้อความที่ส่งมาทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจเพราะโฮสต์บอกว่าพวกเขาถึงสนามบินแล้วและจะรอคุณที่ประตูโซนบี

     

     

    คุณลุกจากที่นั่งและเดินไปรับกระเป๋าเดินทาง

    ฮู้วววววว! คุณสูดอากาศที่สนามบินอย่างตื่นเต้น มันเป็นโถงทางยาวแคบๆ สนามบินดูไฮเทคสุดๆ คุณเตรียมจะไปรอรับกระเป๋าแต่ทันใดนั้นเองที่มีผู้ชายวัยรุ่นเดินชนซะคุณตัวเซอย่างจัง เขาไม่ขอโทษแต่กลับไถลสเก็ตบอร์ดคู่ใจไปตามทางเดิน คุณสบถเบาๆแต่ก็ไม่เอะใจอะไร

     

     

    หลังจากรับกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก็ถึงเวลาที่จะได้พบกับโฮสต์แฟมิลีอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก็นะ คุณออกจะตื่นเต้นไม่น้อย ก็แหม ที่ผ่านมาคุณได้แต่คุยกับโฮสต์ผ่านทางเฟสบุ๊คเท่านั้นนี่นา ถ้าให้เธอปังๆคงจะเขินไม่น้อย

     

     

    บอกได้เลยว่าโฮสต์ของคุณหาตัวไม่ยากนัก

     

    คุณมองเห็น ริซ่า มาโฮน หญิงชราท่าทางใจดีกำลังถือป้ายกระดาษที่เขียนด้วยสีน้ำสีชมพูว่า ยินดีต้อนรับสู่นิวยอร์ก คุณแอบยิ้มให้กับความน่ารักของริซ่า เหมือนเธอจะมองเห็นคุณพอดีจึงเดินดุ่มๆมาหาด้วยความตื่นเต้น

     

    เฮ้ ว่าไง[ชื่อของคุณ]ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ

     

    คุณสวมกอดเบาๆและรับแผ่นกระดาษในมือริซ่ามา อืม...เป็นคนแก่ที่หัวศิลป์ไม่เบาแฮะ หวัดดีค่ะ ดีใจที่ได้พบนะคะ ริซ่า แม่ฉันอบขนมมาฝากคุณด้วย คุณล้วงหยิบกล่องคุ้กกี้จากเมืองไทยยื่นให้ริซ่า หญิงชราได้แต่ยิ้มแก้มปริและขอบคุณคุณไม่ต่ำกว่าสามรอบ

     

    เราไปกันเถอะ ฉันอดไม่ไหวที่จะแนะนำหลานชายให้หนู เธอเอ็ด พอดีเจ้านั่นบอกว่านี่เช้าเกินไปสำหรับเขา ต้องขอโทษแทนหลานชายตัวแสบด้วยนะจ๊ะ ที่ไม่ได้มารับ จริงสิ คุณลืมไปเลยว่าโฮสต์แฟมิลี่ของคุณนั้นมีริซ่ากับหลานชายอีกคน ถ้าจำไม่ผิด ชื่อของหมอนั่นคือ ออสติน มาโฮน แฟ้มประวัติบอกว่าเขาอยู่โรงเรียนเดียวกับคุณ อายุน้อยกว่าคุณสองปี และอืม...เขาเป็นนักบาสของโรงเรียนด้วย แต่คุณความจำไม่มากพอที่จะจำใบหน้าของเขาได้

     

    ตลอดทางที่อยู่บนรถแท็กซี่ คุณได้ค้นพบว่าริซ่าเป็นคนที่น่ารักเอามากๆ เธอใจดีและอ่อนโยน แถมยังดูรักหลานชายตัวเองไม่น้อยเลยทีเดียว ริซ่าซักไซร้ประวัติคุณสักพัก รถแท็กซี่ก็จอดลงข้างๆบ้านสีขาวหลังใหญ่หลังหนึ่ง ที่สนามหญ้ามีลูกแมวตัวอ้วนกำลังนอนเกลือกกลิ้งอย่างมีความสุข อีกฟากของสนามหญ้าเป็นปูนซึ่งมีแป้นบาสตั้งตระหง่านอยู่ คุณนำกระเป๋าเดินทางลงจากรถแท็กซี่และเดินตามริซ่าไปติดๆ

     

    ไง โลโม่ วันนี้ฉันพาแขกมา ทำตัวดีๆไว้นะ ริซ่าบอกกับเจ้าเหมียวแสนเชื่อง ดูท่าว่ามันจะถูกใจคุณไม่น้อยเพราะมันเริ่มมาป้วนเปี้ยนกับคุณแทนแล้ว ภายข้างในบ้านไม่ถึงกับหรูหรามากแต่ก็ดูอบอุ่น ทั้งๆที่สมาชิคในครอบครัวมีสองคน แต่โต๊ะกินข้าวกลับมีสี่ที่นั่ง ข้างๆกันมีประตูเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ทีวีจอยักษ์กับตู้เล่นเกมส์ ริซ่าพาคุณไปชั้นสองของบ้าน เธอพาคุณไปยังห้องห้องหนึ่งสุดริมทางเดิน ห้องของคุณนั่นเอง

     

    ตามสบายนะจ๊ะ ขอฉันไปปลุกออสตินก่อน ...หมอนั่นจะหลับกินตะวันเลยหรือไงนะ--

     

    ว่าแล้วริซ่าก็เดินจากเข้าไปในห้องถัดจากคุณ ว้าว ถึงจะไม่ใช่ห้องที่เริดหรู แต่มันก็วิเศษณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอนกับเตียงไซส์คิง ข้างๆหน้าต่างมีขาตั้งวาดรูปอยู่ ริซ่ารู้ได้ยังไงนะว่าคุณรักการวาดภาพแค่ไหน แต่แล้วเสียงกระแอมก็ดังขึ้น คุณหันไปทางต้นเสียงและพบกับ...

     

    อืม-- ผมสีน้ำตาลของเขาค่อนข้างยุ่งเหยิง หน้าตาสะลึมสะลือ นัยต์ตาสีสวยกำลังจดจองมาที่คุณงงๆ เขายืนพิงประตูโดยท่อนล่างสวมกางเกงขายาวสีเขียวเข้ม ท่อนบนปราศจากเครื่องนุ่งห่มเผยให้เห็นผิวเนียนละเอียด เขาไม่มีซิกส์แพ็คแต่หน้าทองแบนราบ แถมยังมีกล้ามหน่อยๆด้วยแฮะ อืม...เชื่อเถอะ ว่าแค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้คุณหน้าแดงได้แล้ว...ไม่ผิดแน่ หมอนี่คือออสติน มาโฮน

     

    ไง

     

    เอ่อ หวัดดี คุณทักกลับ ดูเหมือนออสตินจะยังไม่ตื่นแฮะ เพราะนานเกือบนาทีนึงทีเดียวที่เขาเอาแต่ยืนจ้องคุณเฉยๆ แต่นั่นคงจะดีกว่าเพราะตอนนี้เขาเริ่มขยับตัว เดินเข้ามาในห้องคุณ นั่งลงบนเตียงและกระพริบตาปริบๆใส่คุณงงๆมีอะไรหรือเปล่า

     

    เปล่า ไม่มีอะไร เขาตอบ ฉันแค่อยาก...มองหน้าเพื่อนร่วมบ้าน ของฉันชัดๆน่ะ

     

    ก็...ดี มองชัดเมื่อไหร่บอกด้วยแล้วกัน ฉันจะลงไปข้างล่างล่ะ

     

    เดี๋ยวสิ ออสตินลุกขึ้น แนะนำตัวกันหน่อยไหม?

     

    ฉันคิดว่านายจะรู้จักฉันแล้ว...? ออสตินยักไหล่ คุณจึงแนะนำตัวกับเขาอย่างเป็นทางการอีกที รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่คุณไม่ค่อยอยากจะคุยกับผู้ชายตรงหน้านี้เท่าไหร่ เมื่อออสตินเงียบไป คุณก็เตรียมจะเดินลงไปหาริซ่าข้างล่าง

     

    แต่... ออสติน มาโฮน ยินดีที่ไม่รู้จักเขาเดินมาหาคุณ ยายดูตื่นเต้นมากที่เธอมาอยู่บ้านเดียวกับเรา แต่รู้ไว้หน่อยก็ดี...เธออยู่ไม่สงบแน่ สาวน้อย เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไป ทิ้งให้คุณงุนงงสักพัก สรุปก็คือ ไม่ว่าออสตินคิดจะทำอะไร นั่น ไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับคุณแน่ๆ

     

    ................................

     

    หลังจากที่ช่วยริซ่าเตรียมอาหารสำหรับมือเที่ยงนี้แล้ว ริซ่าตัดสินใจออกไปซื้อของในเมือง ถึงแม้จะอาสาไปเป็นเพื่อน แต่ริซ่าบอกให้คุณจัดข้าวของบนห้องดีกว่า ด้วยความว่าง่าย คุณก็กลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง รู้สึกแปลกๆตอนที่เดินผ่านห้องออสตินนิดหน่อย เพราะนอกจากเช้านั้นแล้วคุณก็ไม่ได้เจอเขาอีก นั่นถือเป็นเรื่องดีจริงๆ เอาล่ะ นึกขึ้นมาได้พอดีว่านี่คุณก็มาถึงที่อเมริกาตั้งนานแล้ว โทร.บอกข่าวกับครอบครัวหน่อยดีกว่า หืม...จำได้ว่าครั้งล่าสุดคุณใช้โทรศัพท์บนเครื่องบิน แล้วคุณก็เก็บใส่กระเป๋านี่นา แต่ทำไมหาหลายรอบยังไม่เจอเลยนะ เริ่มใจไม่ดีแล้วสิ

     

     

    หลังจากค้นทั้งกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถืออยู่นาน ก็ไม่ยักพบโทรศัพท์สุดรัก มีเซนส์แปลกๆว่าจะโดนล้วงกระเป๋าเอาตอนที่หนุ่มสเก็ตบอร์ดมาชน-- ต้องใช่แน่ๆ...เมื่อคิดได้ดังนั้นน้ำตาก็แทบจะร่วงเพราะว่าเบอร์ของทุกคนในเมืองไทยเซฟอยู่ในนั้นหมด บอกไปหรือยังนะ ว่าคุณเป็นคนความจำแย่ นอกจากเบอร์ที่บ้านแล้วเบอร์ของเพื่อนคนอื่นๆในเมืองไทยคุณก็จำไม่ได้สักเบอร์

     

     

    เพราะเป็นเรื่องด่วนมากๆหรอกนะ คุณถึงมายืนอยู่หน้าห้องออสติน ถ้าคุณไม่ซื้อโทรศัพท์ภายในวันนี้ ที่บ้านคงจะเป็นห่วงเพราะติดต่อไม่ได้แน่ๆ

     

    ก๊อกๆ

     

    รอไม่นาน ประตูก็เปิดออก เขาดูประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นว่าเป็นคุณ ตอนนี้เขาใส่เสื้อแล้ว โอเค--ค่อยยังชั่ว-- ไม่ได้อยากจะรบกวนหรอกนะ แต่... ...ตอนที่อยู่ที่สนามบิน ฉันโดนล้วงกระเป๋าน่ะ แล้วโทรศัพท์ฉันมันก็หายไปด้วย

     

    แล้วไง?

     

    ฉันว่าจะออกไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่น่ะ เพราะงั้น...

     

    อ๋อ ไม่เป็นไร คุณยิ้ม เฮ้อโล่งอก อย่างน้อยออสตินก็ใจดียอมพาคุณไปล่ะนะ ...เธอออกไปซื้อเถอะ มีร้านขายโทรศัพท์แถวนี้แหละ ยายไม่อยู่ใช่ไหม ได้ เดี๋ยวฉันเฝ้าบ้านให้

     

    ว่าไงนะ-- คุณหุบยิ้มทันที แต่ฉันไปไม่เป็น นี่เพิ่งจะวันแรกเองนะที่ฉันมา ฉันไม่อยากหลงทาง..มือถือก็ไม่มีด้วย

     

    เธอบ้าหรอ ร้านโทรศัพท์ไม่อยู่ไกลพอที่จะทำให้เธอหลงทางหรอกน่า แต่ถ้าไม่ไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว เขายักไหล่ ทำท่าจะปิดประตูใส่หน้าคุณ ดีที่มือคุณไวกว่า

     

    น่านะ ขอร้องล่ะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวฉันจะไม่ขอนายอีก สัญญา ชิ ถ้าคุณคุ้นกับเมืองนี้เมื่อไหร่ รอก่อนเถอะจะไม่ง้อให้เปลืองน้ำลายเลย!

     

    ออสตินนิ่งไป เขาทำหน้าครุ่นคิดนิดหน่อยก่อนจจะเผยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “ก็ได้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ คุณพยักหน้าอย่างไม่รีรอ ยิ่งทำให้ออสตินยิ้มกว้างเข้าไปอีก พอดีกำลังต้องการเมด ถ้าเธอทำความสะอาดห้องฉันให้ล่ะก็...ฉันไปเป็นเพื่อนเธอก็ได้ เขาเพยิดหน้าเข้าไปในห้อง คุณมองตามเข้าไปและ-- โอ้แม่เจ้า สาบานเถอะว่านั่นคือห้อง ไม่ใช่รังปลวก-- ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ราวกับว่าเมื่อคืนมีคนเริงระบำกันตรงนั้นอย่างงั้นแหละ เศษกระดาษเกลื่อนห้องไปหมด เสื้อผ้าที่ใช้แล้วแขวนอยู่ที่แป้นบาสตรงประตูห้องน้ำบ้างหล่นตามพื้นบ้าง ห่อขนมและกระป๋องเบียร์กระจายอยู่ทั่วสารทิศ เศษขนมหกเรี่ยราด โอเค-- มันอาจไม่ใช่งานยากเท่าไหร่ (มั้ง)

     

    ตกลง ฉันทำความสะอาดของให้นาย ส่วนนาย พาฉันไปซื้อโทรศัพท์ โอเค้?

     

    โอเคครับ คุณเมด







     

     


    talk : ขออณุญาตอัพรัวๆ555ช่วยเม้นให้กำลังใจด้วยนะค้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×