วิญญาณชุดเหลืองแห่งทางโค้ง

ข้อมูลเบื้องต้น

เรื่องนี้เกิดขึ้นในคืนหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว เป็นคืนที่อากาศเย็นชื้น กลางทุ่งนาที่เงียบสงัดมืดมิด มีเพียงแสงไฟจากรถอีแต๊กที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาตามถนนลูกรัง ชายคนหนึ่งชื่อ พงษ์ ที่ดื่มเหล้ากับเพื่อนจนเมามาย กำลังนั่งอยู่บนรถอีแต๊กพร้อมกับเพื่อน ๆ พวกเขากลับบ้านหลังจากงานเลี้ยงในหมู่บ้าน ช่วงนั้นเป็นเวลากลางดึก ถนนก็เปลี่ยว ไม่มีรถคันอื่นให้เห็น

พงษ์เมาจนแทบจะไม่รู้สึกตัว แต่เขายังหัวเราะคุยกับเพื่อน ๆ บนรถ ในขณะที่รถอีแต๊กนั้นเลี้ยวเข้าโค้งบริเวณถนนแคบ ๆ ที่มีคูน้ำข้างทาง ทันใดนั้น พงษ์เสียหลักและร่วงตกลงไปจากรถอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างของเขาตกลงไปในคูน้ำ เสียงกระแทกหนักดังขึ้น แต่ไม่มีใครบนรถสังเกตหรือรู้ตัว เพื่อน ๆ ของเขาต่างเมามายจนไม่ทันรู้ว่าพงษ์ได้หายไปแล้ว รถอีแต๊กก็แล่นต่อไป จนเพื่อน ๆ กลับถึงบ้านโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

สามวันผ่านไป จนชาวบ้านคนหนึ่งเดินผ่านจุดนั้นแล้วได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยขึ้นมา พวกเขารีบวิ่งไปดูและพบร่างของพงษ์ที่จมอยู่ในคูน้ำ สภาพศพเริ่มบวมเป่ง ใบหน้าซีดขาวและดูสยดสยอง ครอบครัวของพงษ์จัดงานศพขึ้นทันทีหลังจากพบศพ มีพิธีสวดและทำบุญ 3 วันตามประเพณี ก่อนที่จะเผาศพในที่สุด

แต่นั่นไม่ใช่จุดจบ...

หลังจากที่เผาศพของพงษ์ไปแล้ว กลับมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น ทุกคืน ชาวบ้านที่เดินผ่านบริเวณโค้งที่พงษ์ตกลงไป ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาเห็นเงาคนสวมเสื้อสีเหลืองและกางเกงขายาวสีดำ นั่งหันหลังอยู่ข้างถนนตรงที่พงษ์เสียชีวิต เงานั้นนั่งนิ่ง ๆ ไม่มีเสียง แต่ทุกครั้งที่มีคนเดินเข้าไปใกล้ เงานั้นก็จะหายวับไปเหมือนไม่เคยมีอะไรอยู่ตรงนั้น

หลายคนเล่ากันว่า เมื่อคืนวันพระที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดนั้น เขาบอกว่าเขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างถนน เมื่อขี่ผ่าน เขาก็ชะลอรถแล้วมองเข้าไปใกล้ แต่ทันใดนั้น ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา ชายคนนั้นก็คือ พงษ์ ใบหน้าของเขาซีดขาว ดวงตาแข็งตึงไม่มีแววชีวิต ชายขี่มอเตอร์ไซค์ตกใจสุดขีดรีบเร่งเครื่องหนีแทบไม่ทัน

ทุกอย่างยังคงเกิดขึ้นอยู่ซ้ำ ๆ แบบนี้จนกระทั่งวันทำบุญครบร้อยวัน หลังจากทำบุญวันนั้นไป ชาวบ้านก็ไม่เคยพบเห็นเงาของชายชุดเหลืองอีกเลย เชื่อกันว่าวิญญาณของพงษ์ได้ไปสู่สุคติแล้ว