ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลัง Short fic #JJP #Jinson

    ลำดับตอนที่ #3 : (OS) Bnior : Not a bad thing

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 61


     

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ jj project

    Type: One-shot fiction

    Couple: Jaebum and Jinyoung Got7 

     Status: Finished


    อย่าลืมส่งฟีดแบ็คเป็นกำลังใจกันนะคะ เราเปิดแท็กแล้ว #ฟิคบตน มาเล่นกันเราเหงา555555


     


    “เค้กอร่อยมั้ย”

    “อือ”

    “คราวหลังมากินด้วยกันอีก”

    “อือ”

    “เป็นแฟนกันมั้ยมึง”

    “ไม่เป็น เลิกถามได้แล้ว จะกินเค้ก”

    แจบอมยิ้มรับคำตอบเรียบๆนั้นไว้ มองคนตรงหน้าที่ก้มหน้าก้มตาสนใจเค้กไม่มองหน้าเขา แถมไม่มีอาการเขินอายกับคำถามเมื่อกี้ด้วยซ้ำ

    ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยถามใหม่ก็ได้

     

    Said all I want from you is to see you tomorrow
    And every tomorrow, maybe you'll let me borrow your heart

     

    แจบอมชินกับการวืด

    เพราะเอาดีๆนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถามออกไปแล้วโดนปฏิเสธหน้าหงายกลับมา

    อันที่จริง ตอนผมพูดออกไปครั้งแรกน่ะ ผมโดนต่อยด้วยแหละ คนอะไรไม่รู้ หมัดหนักเป็นบ้า

    “กูขอถามแค่วันละครั้ง”

    ผมยื่นข้อเสนอไปแบบนั้น พร้อมความหวังว่าตาขวางๆนั่นจะยอมอ่อนลง

    “งั้นกูจะต่อยมึงวันละที”

    และคนอย่างจินยอง ก็พูดจริงทำจริงเสียด้วยสิ ถึงอย่างนั้น ผมก็อดยิ้มกับประโยคที่ว่าไม่ได้อยู่ดี

    “ยิ้มอะไร!” จินยองถามออกมาด้วยความหงุดหงิด เขาคงไม่เข้าใจ ว่าทำไมคำปฏิเสธอันไร้เยื่อใยนั้นยังทำให้ผมยิ้มอยู่

    หาว่าผมบ้าก็ได้ แต่ผมน่ะ คาดหวังไว้น้อยกว่านี้อีก

    ต่อยวันละทีงั้นเหรอ...

    แสดงว่าต่อให้ผมพูดอะไรไม่เข้าหู ผมก็ยังกลับมาเจอเขาได้ทุกวันสินะ

    “อย่างน้อยก็ได้เห็นหน้าทุกวัน” ผมขอแค่นั้นแหละ ไม่ต้องชอบผมกลับหรอก

    แค่ให้ผมมีโอกาสทุกวันก็ดีถมเถแล้ว


    And is it too much to ask for every Sunday
    And while we're at it, throw in every other day to start

    ผมก็โดนแม่ด่าไปตามระเบียบเพราะกลับบ้านไปพร้อมแผลโดนต่อยทุกวัน ถึงอย่างนั้นผมโดนจินยองต่อยอยู่แค่อาทิตย์แรกจนมันยอมแพ้

    พอมันเริ่มชินกับการขอเป็นแฟนของผม ผมก็ยิ่งโลภ

    “ได้คืบจะเอาศอก”

    จินยองบ่นใส่ผม และผมไม่เถียงหรอก หากมันทำให้คนตรงหน้ายอมอ่อนลงอีกนิด

    “สรุปวันอาทิตย์”

    “เออๆ ย้ำอยู่ได้ รำคาญ”

    อย่างน้อย ผมก็ได้เห็นหน้าจินยองทุกวันอาทิตย์ ผมพอใจแล้ว

     

     

    I know people make promises all the time
    Then they turn right around and break them
    When someone cuts your heart open with a knife, now you're bleeding

    คำพูดร้ายๆจากจินยองน่ะ ผมรับได้เสมอ

    เชื่อเถอะว่าผมเข้าใจคนปากร้ายใจดำอย่างมันที่สุดแล้ว

    “ผิดเพศไม่พอ สุดท้ายยังโดนเทอีก มีอะไรเหี้ยๆก็กูทั้งนั้นอ่ะ ฮึก ฮือ”

    ความชื้นบนบ่าของผมกับดวงตาแดงๆช้ำๆที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผมไม่กล้าอ้างว่าตัวเองเข้าใจความเจ็บปวดพวกนั้นทั้งหมด

    เพราะชีวิตผมมีแค่เรื่องเดียวให้เจ็บคือเรื่องที่จินยองไม่รับรักผมสักที

    แต่สำหรับจินยองแล้ว คนที่ยอมแหกกฎทุกอย่างทั้งที่อยู่ในระเบียบของที่บ้านมาเสมอ เพียงเพื่อให้ไอ้คนผิดสัญญาคนนั้นทำร้ายกลับมา

    คงเจ็บปวดน่าดูเลย

    แต่ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้ บ่าผมว่างเสมอ

     

    But I could be that guy to heal it over time
    And I won't stop until you believe it
    'Cause baby you're worth it

    “อย่ารอเลย”

    “จะรอ”

    “...”

    “กูยอมรอ กูรู้ว่ามันคุ้ม”

    แค่ความหวังริบหรี่ ผมก็รู้ว่ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

    ดังนั้นผมจึงยอมเป็นคนที่เยียวยาเขาต่อไปเรื่อยๆ และคงไม่หยุดเพียงเพราะอีกฝ่ายขอ

     

     

    Now how about I'd be the last voice you hear tonight?
    And every other night for the rest of the nights that there are

    หลายครั้งที่ผมอยากเร่งรัดให้คนตรงหน้ายอมรับผมเสียที

    แต่พอผมทำท่าจะเอ่ยปาก ผมก็แพ้สายตาตัดพ้อนั้นเสียทุกที ผมแพ้ทุกอย่างที่เป็นจินยอง

    คำพูดน่ะ ไม่สำคัญเท่าการกระทำหรอก ผมพร่ำบอกตัวเองแบบนั้น

    พยายามเหลือเกินให้ตัวเองเชื่อว่าการที่ได้นอนกอดคนปากร้ายอยู่ตอนนี้ มันดีกว่าสถานะแฟนเป็นไหนๆ

    “ตัวนุ่มนิ่มจังวะ”

    “เบื่อหน้ามึง”

    “พูดงี้กูกลับบ้านนะ”

    “ไม่!

    ...

    “อย่าไป อยู่กับกู”

    ผมแพ้

    แววตาตื่นๆตอนที่ผมทำท่าจะลุกออกไปแบบนั้น

    เสียงสั่นๆเป็นเชิงสั่งแต่กลับฟังดูเหมือนคำขอร้อง

    ผมไม่พยายามจะเอาชนะด้วยซ้ำ
    ผมก็แค่อยากเป็นเสียงสุดท้ายที่จินยองจะได้ยินในทุกคืน

    “ฝันดีนะ”

     

     

    Every morning I just wanna see you staring back at me
    'Cause I know that's a good place to start

     

    “ตื่นสาย”

    เสียงบ่นของคนในอ้อมกอดที่ตื่นก่อน แต่ก็ไม่ได้ลุกหนีผมไปไหน

    “แอบมองเหรอ”

    “ใครแอบ”

    ...

    “ก็มองตรงๆ ไม่ได้แอบ”

    แล้วก็เป็นผมเองที่ใจเต้นกับคำพูดเล็กน้อยแบบนั้น แจบอมแพ้จินยองตลอดแหละ

    อยากชนะแค่อย่างเดียวคือชนะใจ แต่ก็นั่นแหละ

    เห้อ เก่งทุกอย่างแต่แพ้คนปากแข็งโว้ย เลยได้แต่ตะล่อมถามไปเรื่อยๆ จนจะครบปีอยู่แล้ว

    “เป็นแฟนกันมั้ย”

    “ไม่เป็น”

    จินยองตอบแค่นั้นพร้อมจูบเบาๆเป็นการปลอบใจ

    ผมไม่เจ็บแล้ว ไม่รู้ว่าชินหรือชา

    หรืออาจเพราะที่เป็นอยู่มันดีกว่าคำว่าแฟนเป็นไหนๆ



    So don't act like it's a bad thing to fall in love with me
    'Cause you might look around to find your dreams come true, with me

     

    “ผ่านแล้ว..”

    ...

    “กูทำได้แล้ว”

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะโถมตัวมากอดผมแน่น ผมได้แต่ยิ้มดีใจกับความสำเร็จของคนในอ้อมกอด ผมรู้ดีว่าคนตัวนิ่มทุ่มเทกับงานนี้ไปเท่าไหร่

    “ถ้าไม่ได้มึง กูคงมาไม่ถึงตรงนี้”

    เสียงอู้อี้นั้นทำผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก หัวใจที่พองฟูเต็มอกตอนนี้บีบให้ผมถามคำถามนั้น..อีกครั้ง

    “เป็นแฟนกันมั้ย”

    ....

    “การรักกูมันก็ไม่ได้แย่ไม่ใช่เหรอ”

    และคำตอบที่ผมได้คือความเงียบ

    แต่ไม่เป็นไร ผมก็แค่ถามออกไป ไม่ได้หวังให้ตอบตกลงอยู่แล้ว

    “เสียเวลากับกูมาเป็นปีแล้วนะมึง เหนื่อยมั้ย”

    เหนื่อยเหรอ...ไม่เคยรู้สึกแฮะ

    ผมเคยเกือบถอดใจ แต่สุดท้าย พอคนตรงหน้าร้องไห้ ผมก็เป็นสุดท้ายที่ได้กอดปลอบคนหยุดร้องอยู่ดี

    “กูไม่เคยเสียเวลา รักกูที่ให้อ่ะ กูไม่ได้หวังอะไรจากมึงอยู่แล้ว”

     


    Spent all your time and your money just to find out that my love was free
    So don't act like it's a bad thing to fall in love with me, me

     

    “คบกันมั้ย”

    “มึงถามครั้งที่สองแล้ว ไหนบอกจะถามวันละครั้งไง”

    “งั้นถามใหม่”

    ...

    “การตกหลุมรักกูมันไม่ได้แย่ใช่มั้ยจินยอง”

    จินยองมองหน้าผม เราสบตากันนิ่ง คนตรงหน้าเอามือเย็นๆมาแนบแก้มผมไว้ รอยยิ้มอบอุ่นเหมือนทุกครั้งเป็นคำตอบ

    “ถ้าไม่แย่แล้วทำไมมึงทำเหมือนมันเป็นเรื่องไม่ดีวะ”

    “พูดมาก”

    ผมถอนหายใจยอมแพ้ แจบอมไม่เคยชนะจินยอง

    “คบกันมั้ย”

    คำถามเดิมถูกส่งมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่ใช่คนถาม

    ผมถูกถาม

    “การตกหลุมรักกูมันแย่จะตาย ทนมาได้ยังน้า อิมแจบอม”

    เสียงหวานเอ่ยลอยๆจนผมได้แต่มองตาค้าง ก่อนสมองจะประมวลผลเสร็จ พร้อมความรู้สกที่เอ่อล้น วูบวาบไปทั้งตัว

    “จินยองเป็นแฟนแจบอมแล้วนะ ไม่ต้องถามแล้วเข้าใจมั้ย”

    ผมไม่ได้ยินเสียงตัวเองใจเต้น อาจเพราะผมหูอื้อตาลายไปหมด

    “เรานิสัยไม่ดี ขอบคุณที่อดทนนะ”

    การตกหลุมรักจินยองน่ะ ไม่ได้แย่สักหน่อย แต่ผมไม่อยากเถียง ใจผมจดจ่อกับสิ่งที่สำคัญกว่า

    จูบของแฟน

    ใช่แล้ว จินยองเป็นแฟนผมแล้ว

    “การรักใครสักคนมันไม่ได้แย่จริงๆด้วยแฮะ”

    เสียงหวานๆของคนที่เข็ดหลาบกับการตกหลุมรักพร่ำบอก และนี่อาจเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งในชีวิตของผม

    แจบอมพิสูจน์ให้จินยองเห็นแล้ว การตกหลุมรักใครสักคน ไม่ใช่เรื่องแย่นักหรอก 


    It's not a bad thing to fall in love with me






    ไรท์เตอร์หน้ามืดอีกแล้วววววววววว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×