โอตาคุผู้เฝ้ามอง
คุณเคยเห็นเวลาติ่งจองบัตรคอนเสิร์ตไหม? มันเหมือนกับว่าคุณจะได้ตามความฝันพวกเขาไปเลยล่ะ
ผู้เข้าชมรวม
73
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
พวกคุณจงอย่าได้บังอาจดูถูกจิตวิญญาณของเด็กสาวเป็นอันขาด
พวกเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่อยากได้
อา…
มันช่างบริสุทธิ์จนหาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้จริงๆ
ท่ามกลางเสียงสายฝนที่กำลังตกกระทบกับหลังคาสังกะสีของโรงอาหารขนาดใหญ่ในเวลาเกือบสิบนาฬิกาในกี่ไม่กี่นาที เป็นบรรยากาศที่ชวนไม่สบายตัวเอาซะเลย ทั้งชื้นทั้งอบอ้าว แล้วเสียงยังดังน่ารำคาญอีก ทั้งฝน และเสียงโทรทัศน์เครื่องใหญ่ที่กำลังฉายยอดนักสืบโคนันที่ตั้งอยู่ห่างไปไม่กี่เมตร เสียงมันตีกันไปหมดจนฟังไม่รู้เรื่อง พัดลมบนเพดานก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ หากแต่มีสิ่งที่ไร้ประโยชน์สำหรับฉันอยู่อีกอย่างที่ดูเหมือนมันกำลังจะเอื้อประโยชน์สูงสุดกับเพื่อนสาวของฉันอย่างเต็มที่ มันคือ ‘เครื่องส่งสัญญาณไวไฟ’ ที่เกาะอยู่บนผนังตรงกับโต๊ะที่ฉันนั่งพอดีเป๊ะ และด้วยการที่ต้องมานั่งตรงหัวโต๊ะของโต๊ะนี้มันทำให้เสาบังจอโทรทัศน์ไปครึ่งนึงเลยสำหรับฉัน แต่ช่างมันเถอะ ยังไงฉันก็ดูไม่รู้เรื่องอยู่ดี…
ฉันเป็นคนคนสุดท้ายที่ซื้อข้าวมานั่งกินร่วมโต๊ะกับเพื่อน เพราะในตอนแรกร้านที่ฉันสั่งข้าวไปนั้นดันข้าวสวยหมดพอดี แต่ก็ยังดีที่ฉันไม่ใช่คนที่กินข้าวรั้งท้ายจนให้คนอื่นรอ…
(อา…ข้าวผัดพริกแกงหมูหมักเมื่อวานนี้มันอร่อยกว่านี้นี่นา…)
ในขณะที่ฉันกำลังจัดเรียบเรียงข้าวสวยบนช้อนและค่อยๆยัดมันเข้าไปในปากนั้นฉันก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบางอย่าง…
(โต๊ะสั่นเพราะอะไรวะ)
มันคงจะเป็นเสียงกระทบกันระหว่างโต๊ะบางๆกับเล็บแข็งๆของเพื่อนของฉันที่ค่อยๆทอดลงตั้งแต่นิ้วก้อยจนถึงนิ้วชี้ แล้วก็ทอดลงไปอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยมือทั้งสองข้างอย่างตื่นเต้น
สายตาของเธอมองไปที่แท็บเล็ตที่วางนอนอยู่บนโต๊ะอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนเพื่อนอีกคนที่อยู่ข้างๆก็ถึงมือถือสมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆแล้วใช้มือข้างหนึ่งตีโต๊ะรัวๆ
“นี่พวกมึงทำอะไรกันเนี่ย” เสียงใหญ่ๆของฉันส่งเสียงถามไปด้วยความสงสัย
“จองบัตร จองบัตร” เพื่อนผู้ครอบครองแท็บเล็ตอยู่เพียงคนเดียวในโต๊ะกล่าวขึ้นพร้อมเร่งจังหวะเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ “แพรววา อีกกี่นาที! อีกกี่นาที!!” จะสแปมอะไรนักหนาจ๊ะแม่คู๊ณณ
“ไม่รู้อ่ะ สิบโมงอ่ะสิบโมง” คนที่ถูกเรียกว่าแพรววาส่งเสียงแหลมออกมาพร้อมประสับกระส่ายหันซ้ายหันขวามองไปทางนาฬิกาทางด้านหลังของโรงอาหาร ทางด้านข้างของโรงอาหาร และหันกลับมามองที่มือถือของตัวเอง “ของเค้าเหลืออีกประมาณหกนาทีอ่ะไข่มุก!!”
“บัตรอะไรอ่ะ บัตรคอนหรอ” ฉันถามเพราะความอยากรู้
“อืมใช่! BAP อ่ะ”
อันที่จริงฉันอยากจะบอกว่าฉันไม่รู้จัก เพราะฉันไม่ได้สนใจเกาหลีซักเท่าไหร่ ฉันเป็นคล้ายๆพวกโอตาคุซะด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำฉันยังได้ยินหล่อนพูดว่า ‘VIP’ อีกต่างหาก
(นี่พวกหล่อนเอาเงินภาษีของประชาชนไปซื้อบัตรVIPเรอะ!! แต่ฉันก็เคยเอาเงินภาษีของประชาชนไปซื้อหนังสือการ์ตูนเหมือนกัน…)
“VIP…” ฉันพูดทวนสิ่งที่ได้ยิน
“อื้มใช่ BAP” นั่นและที่ทำให้ฉันเพิ่งรู้ว่ามันคือบีเอพี
เดี๋ยวนะ! วงนี้ฉันรู้จักนี่ วงที่มันมีสัญลักษณ์ตราดำๆแล้วก็มีรูปกระต่ายนี่นา…
(มันคงจะดังมาก ถึงขนาดโอตาคุที่ดูแต่ละครหลังข่าวอย่างฉันยังรู้จัก)
“แอดมินบอกว่าไม่ต้องรีบนะคะ คนน้อย” เสียงแหลมของเพื่อนฉันดัดขึ้นทำเสียงงุ้งงิ้งดังขึ้นมาก่อนเวลาสิบโมงในอีกห้านาที
“น้อยก็พ่อดิ เชื่อเหอะ เดี๋ยวพอเปิดให้จองบัตรแม่งก็เต็มละ” เพื่อนที่นั่งเคาะนิ้วๆรัวๆพูดแทรกขึ้นทันที
ไม่รู้ทำไม แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะเชื่อแอดมินที่ว่านั่น เพราะถ้าเขาบอกคนน้อย คนก็น่าจะน้อยสิ หรือฉันเขื่อคนง่ายไปนะ?
“เขาบอกคนน้อยแล้วพวกมึฝจะรีบกันทำไม รอกดสิบโมงกว่าๆก็ได้มั้ง” ฉันพูดด้วยความสงสารเพระเห็นพวกเธอลนลานกันจนแทบคลั่ง
“ไม่ได้เว้ย เค้าบอกว่าจะรับถึงวันที่ห้า แล้วมึงไม่คิดว่ามันจะหมดตอนสิบโมงเลยหรอ คนมันไม่น้อยหรอก”
พวกหล่อนดูจริงจังไปนะ…
แต่เอาเถอะท่าทีของพวกติ่งสองคนนี้คงไม่ต่างกับโอตาคุที่ต่อแถวซื้อไลท์โนเวลที่ขายล็อตแรกแค่ในงานหนังสือเท่านั้น ส่วนล็อตต่อไปที่วางแผงทั่วไปก็จะออกมาในอีกสองสามเดือนข้างหน้า แต่ถึงอย่างนั้นในโลกออกไลน์นี้มันต่อแถวได้ซะที่ไหนกัน มันคงจะต้องแย่งชิงเอาเท่านั้น… มันคงจะเหมือนโอตาคุที่แย่งชิงกันซื้อฟิกเกอร์มิคุที่มีขายไม่ถึงสิบตัวในบูทเดียวในประเทศมากกว่า ฮ่าๆ
“อ้ายย อ้ายย อีกสองนาที อีกสองนาทีแพรววา!!”
“หึ้ย ไม่แน่นาฬิกาที่นู่นอาจจะสิบโมงแล้วก็ได้” แพรววาพูด
“ยังกดไม่ได้ ยังกดไม่ได้! เค้าลองแล้ว”
ไข่มุกกดปุ่มอะไรซักอย่างบนจอแท็บเล็ตซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วเข้าหน้าเว็บใหม่
พอรู้ตัวอีกทีฉันก็หันหลังไปทางนาฬิกาเรือนจากด้านหลังโรงอาหารด้วยอารมณ์ที่ลุ้นไปด้วยอีกคน ซึ่งถ้าดูไม่ผิดตอนนี้ก็สิบโมงกับอีกยี่สิบวินาทีเข้าให้แล้ว!!
“กดได้แล้ว!!”
“หึ้ย เค้าเด้งอ่ะ!!”
เสียงกรี๊ดกร๊าดเริ่มดังขึ้น สถานการณ์ตอนนี้คือมีการเปิดระบบให้จองบัตรเรียบร้อยแล้ว และทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะเด้งและต้องล็อคอินใหม่หรืออะไรซักอย่าง ฉันประมวลจากสิ่งที่เห็นด้วยการมองเพื่อนทั้งสองนั่งกรอกรหัสลงในแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ด้วยมือที่สั่นระรัว แล้วร้องเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความทรมาณ
คนหนึ่งพูดด้วยอารมณ์ประมาณว่าจองได้แล้ว คนหนึ่งพูดด้วยอารมณ์ประมาณว่าเครื่องมือที่ใช้ในการจองบัตรนั้นค้างไม่ว่าจะด้วยสัญญาณเน็ตในโรงอาหารแรงไม่พอที่จะเจาะเข้าไปในเว็บที่มีคนมากมายมหาศาลใช้อยู่ หรือเว็บอาจจะล่มไปแล้วก็ได้
“ไข่มุก จองให้เค้าด้วย เค้าจะจองให้มายด์” บะ..บุคคลที่สามเรอะ!!
“ได้ๆ”
“ไข่มุกได้รหัสบัตรยัง ได้รหัสของมายด์แล้วนะ” วะ..ไวแท้!!
“รหัสไรอ่ะ”
“ก็กดได้ที่นั่งแล้วมันจะเด้งขึ้นมาเลยอ่ะ”
ทันใดนั้นไข่มุกที่เพิ่งตระหนักขึ้นได้ว่าที่นั่งที่ตัวเองได้ละเลียดนิ้วน้อยๆของเธอบรรจงกดลงไปบนหน้าจอสัมผัสบนแท็บเล็ตนั้นมันเป็นที่นั่งที่มีคนจองเรียบร้อยแล้ว…
“อ่าว ยังงี้เค้าก็ต้องจองใหม่ดิ” ความฉิบหายมาเยือนแล้วสินะ!!
“ไม่เป็นไร! เข้าใหม่ เข้าใหม่!”เธอเตือนตัวเองอยู่หบายครั้งแล้วทะลวงเข้าหน้าเว็บไซต์ด้วยเน็ตโรงเรียนอืดๆอีกครั้ง
เพื่อนร่วมโต๊ะที่ร่วมเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจ(?)ครั้งนี้ด้วยเริ่มหยุดนิ่งการกระทำของตนเองและหันมาหัวเราะกับท่าทีลุกลี้ลุกลนของติ่งสองคนบนโต๊ะที่ฝ่าฝันสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพื่อแย่งชิงเศษกระดาษเพียงไม่กี่ใบ และหาสัญญาณไวไฟสุดชีวิตจแทบจะยืนบนโต๊ะแล้วเอามือถือจ่อเครื่องไวไฟบนผนังเลยด้วยซ้ำ
รวมทั้งฉันคนหนึ่งที่เริ่มหัวเราะทั้งๆที่ยังกินข้าวในจานยังไม่เสร็จ และแทบจะทั้งๆที่มีข้าวอยู่ในปากด้วยซ้ำ
…และแล้วพิษของพริกแกงในผัดก็เริ่มออกฤทธิ์ในขณะที่ฉันกำลังหัวเราะอย่างตลกสุดชีวิต
อา…ฉันหัวเราะจนสำลักพริกจนน้ำตาร่วงเลยล่ะ
ไม่กี่นาทีต่อมาสงครามขนาดย่อมที่เกิดขึ้นภายในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและมีตัวกลางเป็นสัญญาณไวไฟก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ติ่งทั้งสองได้ที่นั่งในคอนเสิร์ตที่เธอต้องการ ถึงจะไม่ใช่ที่นั่งที่ดีที่สุด แต่จองได้ก็ถือว่าบุญแล้วสำหรับราคาบัตรสี่พันห้า (แพงชะมัด)
“เมื่อสิบนาทีที่แล้วพวกมึงยังเป็นคนปกติอยู่เลยนะ” เสียงเพื่อนคนหนึ่งที่นั่งทาวด้านซ้ายมือของฉันพูดขึ้นพาทำให้เพือนทั้งโต๊ะหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น..
อา…ใช่สิ ดูๆแล้วตอนนี้มันก็แค่สิบโมงสิบนาทีสินะ ผ่านช่วงเวลาที่เปิดให้จองบัตรมาเพียงสิบนาที แตสำหรับเราทุกคนในโต๊ะที่ช่วยกันร่วมลุ้นมันช่างเป็นเวลาที่ยาวนานอะไรกันอย่างนี้…ทั้งๆที่มันใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งของสงครามแองโกล-ซานซิบาร์ซะอีก
อ๊ะ…เดี๋ยวพวกนั้นจะเดินไปโอนเงินที่หน้าโรงเรียนนี่นา เดี๋ยวไปด้วยดีกว่า ช่วงนี้ไม่มีเงินติดกระเป๋าละ…
เอาเถอะ จิตวิญญาณของเด็กผู้หญิงเนี่ย บริสุทธิ์จังนะ
พวกเธอทำอะไรก็ได้เพื่อที่จะได้สิ่งที่ต้องการ
ถึงฉันจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการก็ตาม แต่ฉันก็พอจะเข้าใจถึงความรักที่เธอมีต่อพวกเขาแล้วล่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ Topaz ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Topaz
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น