ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::ฮาหัวเกรียน...นักเรียนนายร้อยตำรวจ::

    ลำดับตอนที่ #14 : บุญคุณคาราบาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.57K
      7
      25 เม.ย. 53

    บุญคุณคาราบาว 

    หลังจากที่เราได้เรียนในฐานยุทธวิธี อาวุธศึกษา และวิชาทั่วไปแล้ว ภาคสุดท้ายของการฝึกหลักสูตรต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบก็คือการฝึกภาคป่า ซึ่งเป็นการเอาวิชาความรู้ทั้งหมดที่ได้ร่ำเรียนมาไปเข้าป่าจริงๆ
     
    พื้นที่ที่เราใช้ฝึกในภาคป่านั้นก็คือพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งพวกเราถูกขนขึ้นรถแล้วก็ไปปล่อยที่โรงเรียนอะไรซักอย่างผมจำชื่อไม่ได้ มีปืนคนละกระบอก กับแผนที่เข็มทิศหมวดละชุด ผมได้รับมอบหมายหน้าที่เป็น พลวิทยุประจำหมวด ก็เลยมีออพชั่นเสริมเป็นวิทยุสนามเครื่องเท่าควายเครื่องนึง สะพายไว้ข้างหน้าด้วย ตอนแรกๆก็คิดว่าน่าจะหนัก แต่พอเอามาสะพายจริงๆปรากฏว่ามันถ่วงน้ำหนักกับเป้สนามที่สะพายอยู่ข้างหลังได้สมดุลพอดี   
     
    ผมจำได้ว่าเราเดินเท้ากันตั้งแต่เช้ายันเย็นจนมาถึงจุดตั้งฐาน ซึ่งรายลอมไปด้วยขุนเขาและบึงน้ำ เราต้องอยู่ที่นี่ 3 คืนเพื่อรอรับภารกิจฝึกทั้งกลางวันและกลางคืน
     
    การฝึกภาคป่านี้สิ่งสำคัญก็คือการบริหารเสบียงที่ได้รับมอบมาให้พอดีสำหรับ 9 มื้อใน 1 รอบเสบียง
     
    อาจลำบากเล็กน้อยตรงที่การเข้าห้องน้ำแต่ละครั้งต้องแบกเสียมไปด้วย นั่งไปนั่งมาก็จะเห็นหัวเพื่อนคนอื่นๆแบกเสียมเดินเข้ามาใกล้ๆ ต้องคอยส่งเสียงไล่
     
    ตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรครับ แค่รอเวลากินข้าว ผมไม่มีอะไรทำก็อ่านหนังสือไปเพลินๆ และด้วยความว่างจัดของช่วงกลางวัน หนังสือ ‘Angle and Demon : เทวากับซาตานของแดน บราวน์ ที่ภายหลังถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ ก็ถูกอ่านจนจบภายในเวลาไม่นานนัก แล้วมันก็ถูกส่งต่อไปให้เพื่อนคนอื่นๆ เฉกเช่นเดียวกับที่ผมได้รับมอบต่อๆมา ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันอันตรธานไปไหนแล้ว
     
    เมื่อแสงอาทิตย์สุดท้ายหายลับขอบภูเขา ภารกิจบัดซบก็เริ่มขึ้น
     
    ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะด้วยฐานของผมมันน่าหมันไส้มากนักหรือยังไง ภารกิจที่ได้รับในค่ำคืนนั้นก็คือการป้องกันฐาน (อีกแล้ว) โดยที่ข้าศึกสมมติคือเพื่อนอีก 2 ฐาน สนธิกำลังกับเข้าตีฐานผม
     
    กติกาก็เช่นเดิมคือธงโดนยึดกับมีเสียงปืนข้าศึกดังขึ้นกลางฐานหมายความว่าแพ้
     
    ไอ้ตอนที่รบกับพี่ๆผู้หมวดนั้นไม่ค่อยกังวล เพราะเรารู้ดีว่าพี่เขาต้องมาแบบตามตำรา คือมาล้อมฐาน แล้วก็ยิงปืนเข้ามา แต่รบกับเพื่อนนี่สิหนักใจ เพราะอานุภาพของกระสุนจินตนาการนั้นมันร้ายแรงจนไม่สามารถคาดเดาได้
     
    ฐานของเรามีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังติดบึง หัวหน้าฐานในตอนนั้นชื่อไอ้เด่น ไอ้เด่นสั่งการให้เพื่อนระวังป้องกันรอบฐาน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับเรามีการจัดชุดลาดตระเวนทางน้ำกันด้วย เพราะก่อนหน้านั้นมีครูฝึกแอบดำน้ำแทรกซึมเข้ามาในฐาน แต่ยังดีที่ไม่ใช่เวลาภารกิจ ครูเขามาเล่นๆเฉยๆ
     
    คืนนี้เราดับไฟทุกดวง ใช้เสียงให้น้อยที่สุด กิจวัตรของพวกสิงห์อมควันดูจะเป็นที่เข้าใจกันว่าห้ามปฏิบัติโดยเด็ดขาด และแล้วเวลา 3 ทุ่มก็มาถึง ชุดระวังป้องกันตรวจพบความเคลื่อนไหวหน้าฐาน และมันก็เป็นไปตามคาดคือมีข้าศึกประมาณ 10 นาย คลานคืบมาอยู่หน้าฐานโดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วก็เปิดฉากยิงถล่มเรา กระสุนที่ใช้มีทั้งกระสุนเสียงกระสุนแสงที่เบิกมาจากครู และกระสุนปากที่ออกมาจากจินตนาการ
     
    แต่ฐานเรายังคงมาตรฐานการรบนอกคอกไว้ได้อย่างดี พวกที่เฝ้าหน้าฐานกรูกันออกไปจับเชลย ข้าศึกแตกฮือ แล้วเราก็จับไว้ได้ 2 คน
     
    ตั้งแต่ 3 ทุ่มจนถึงตี 1 เราถูกตอดเป็นระยะๆ จากด้านหน้าบ้าง ด้านหลังบ้าง จนหลายคนเริ่มง่วงและรู้สึกรำคาญ ผมเองก็เห็นด้วยว่ายังไงเพื่อนเราก็ตีฐานเราไม่แตก และเราจำเป็นจำต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อยุติปฏิบัติการของเพื่อนเรา
     
    ผมนั่งอยู่กับไอ้ตึก เราสองคนซักซ้อมแผนกันอย่างดี แล้วก็เริ่มปฏิบัติการ
     
    ผมขึ้นวิทยุ “พระพายศูนย์หนึ่ง จาก พระพาย” พระพาย หมายถึงกองร้อยของผม ส่วนพระพายศูนย์หนึ่ง (พระพาย01) ผมสมมติให้เป็นหน่วยบ้าอะไรซักอย่างที่เป็นหน่วยย่อยของกองร้อย
     
    ไอ้ตึกตอบ “ว.2 พระพาย” แปลว่า ได้ยินแล้วพระพาย
     
    “ขอทราบ ว.1” หมายความว่าผมต้องการทราบที่อยู่ของหน่วยพระพาย01 ว่าอยู่ที่ไหนแล้ว
     
    “พระพายศูนย์หนึ่ง ว.1 ฐานข้าศึกหนึ่ง” ไอ้ตึกตอบกลับมาว่าตอนนี้หน่วยลาดตระเวนของมันได้อยู่รอบๆฐานของข้าศึกแล้ว ซึ่งอย่างที่ผมเรียนให้ทราบไปตั้งแต่ต้นว่าเรามีข้าศึก 2 ฐาน แต่ข้าศึกน่ะเขาไม่รู้หรอกครับว่าไอ้ “ข้าศึกหนึ่ง” เนี่ยหมายถึงใคร อาจเป็นฐานมันเองหรืออาจเป็นอีกฐานนึง
     
    ผมรีบสั่งการ “ว.15 ข้าศึก ว.24ใด ให้ ว.4 หรือ ว.20ได้ตามสมควรแล้วรายงานพระพายทราบ” ถ้าพบข้าศึกเมื่อใดให้จับกุมตัวไว้แล้วรีบรายงานให้ผมทราบเท่านั้นแหล่ะครับ ผมหมุนไปหาคลื่นที่ข้าศึกใช้กัน ก็ฟังได้ความว่าแตกตื่นกันยกใหญ่ มีการสั่งระงับการออกนอกฐานกันวุ่นวาย ทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่มีหน่วยบ้าบออะไรจากกองร้อยของผมไปซุ่มโจมตีอยู่หน้าฐานข้าศึกหรอกครับ เรารู้ว่าข้าศึกต้องแอบฟังวิทยุข่ายของเราอยู่ เพราะเราก็แอบฟังของเขาอยู่เช่นกัน เราจึงปฏิบัติการจิตวิทยาให้ข้าศึกสับสน
     
    และผลมันก็เกินคาด คือข้าศึกไม่ออกมาแหย่เราอีกเลยตลอดคืน
     
    หลังจากค่ำคืนแห่งการชิงไหวชิงพริบผ่านพ้นไป ก็เป็นช่วงเวลาของการเดินทางไกลข้ามเขาไปยังที่หมายสุดท้าย ซึ่งก็คือ เขื่อนแก่งกระจาน พวกเราจะอยู่กันที่นั่นจนจบหลักสูตร
     
    แผนที่ที่กองร้อยผมได้รับมานั้นเป็นระวางเก่า ไม่อัพเดท หลายต่อหลายจุดในแผนที่จึงไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง แล้วปัญหาที่ทุกคนกังวลใจที่สุดก็เกิดขึ้นเมื่อพวกเราเดินวนไปวนมาในเทือกเขาแก่งกระจานจนไม่สามารถหาทางไปต่อได้ เพราะเป็นป่ารกชัฏรอบทิศทาง ซึ่งแม้แต่ครูฝึกเองก็ยังยอมรับดื้อๆว่า พวกเรากำลังหลงป่า
     
    การเดินบุกป่า ถางทางไปเรื่อยๆนั้นนับว่าเป็นอะไรที่สิ้นหวังพอสมควร เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าทางที่เราเดินมามันจะพาเราไปโผล่ที่ไหน ถนนแปลกๆสักเส้น หรือซ้ำร้ายไปกว่านั้น เราอาจเดินลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆจนไม่สามารถกลับออกมาได้
     
    ผมเข้าใจอารมณ์ของทหารเรือที่เขาบอกว่า คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล หรือแม้แต่อารมณ์ของคนที่เดินทางข้ามทะเลทราย
     
    ประสบการณ์ที่ผมได้เจอมากับตัวมันดูเลวร้าย เพราะว่ามองไปทางไหนก็ต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้
     
    แม้แต่ครูฝึกที่พวกเราหวังจะฝากชีวิตไว้ก็ยังพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “พื้นที่มันเปลี่ยน พื้นที่มันเปลี่ยน”
     
    แต่ระหว่างที่พวกเรากำลังสับสนวุ่นวายทุกคนนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบนั้น เพื่อนผมคนนึงก็กระดิกเท้าเป็นจังหวะ แล้วมันก็เริ่มขยับปากร้องเบาๆ
     
    มันมองมาทางผม “มึงได้ยินมั้ย”
     
    ผมรวบรวมสมาธิแล้วตั้งใจฟังดีๆ
     
    ทำนองมันช่างคุ้นหู วณิพกพเนจร ของพี่แอ๊ด คาราบาว
     
    พวกเรารีบถางป่า เดินหน้าไปตามเสียงนั้น ใจก็หวังว่าอย่าให้เสียงเพลงเงียบลงเลย แล้วไม่นานต่อมาพวกเราก็มาโผล่ตรงถนนเส้นหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารป่า ซึ่งมันตั้งอยู่หน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติพอดี
     
    แน่นอนครับว่า ทั้ง นรต.กองร้อยผมและครูฝึกต่างก็ เข้าตี ร้านนั้นจนไม่มีของขาย
     
    ขอบคุณพี่แอ๊ดครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×