ความหวังดีของพ่อ...ที่เรามักมองข้าม - ความหวังดีของพ่อ...ที่เรามักมองข้าม นิยาย ความหวังดีของพ่อ...ที่เรามักมองข้าม : Dek-D.com - Writer

    ความหวังดีของพ่อ...ที่เรามักมองข้าม

    คุณเคยรู้สึกเสียใจใช่ไหมเวลาที่คิดว่าพ่อไม่รัก คุณเคยคิดใช่ไหมว่าทำไมพ่อต้องคอยกำหนดชะตาชีวิตเรา แล้วคุณเคยคิดบ้างไหมว่าที่พ่อทำไปเพราะรักเรา...

    ผู้เข้าชมรวม

    619

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    619

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ม.ค. 51 / 14:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                                                                 
           กานดาหญิงสาววัย 18 ปีที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดว่าพ่อนั้นรักตน  เธอพยายามทำตัวตามสิ่งที่พ่อต้องการเพียงหวังว่าพ่อจะรักเธอบ้าง  แต่หลายๆครั้งที่มันไม่เป็นไปตามที่เธอคิด  อย่างเช่นครั้งนี้

      เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง  เธอไม่ใช่คนเรียนเก่งแต่การเรียนของเธอก็ไม่จัดว่าแย่  เธอพยายามเพื่อจะให้พ่อชมเธอ  ทุกๆครั้งที่คะแนนสอบออกเธอจะต้องมาบอกพ่อของเธอก่อนใคร  เมื่อเห็นคะแนนของเธอพ่อเธอจะทำหน้าไม่พอใจนักแต่ก็ไม่เคยว่าอะไร  เพียงแต่บอกว่า ครั้งต่อไปทำให้ดีกว่านี้นะลูก คราวหน้าเอาเกรด 4 นะลูก ตั้งใจเรียนนะ พ่อของเธอมักพร่ำพูดแบบนี้เสมอ  จนเธอเกิดความน้อยใจ  เธอรู้ตัวเองว่าเธอทำไม่ได้แต่เธอก็จะยิ้มและพยักหน้ารับปากทุกครั้งว่าจะเอาเกรด4 ให้ได้  แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย เธอคิดเสมอว่าที่พ่อเธอต้องการให้เธอเรียนเก่งๆ  เป็นเพราะว่าญาติพี่น้องของเธอเรียนเก่งทุกคน  และพ่อของเธอเองก็ไม่ต้องการน้อยหน้าใคร  กานดาเองก็ไม่เคยคิดอยากจะทำให้พ่อเธอเสียใจ  แต่การที่เธอพยายามทำอะไรสักอย่างแล้วได้รับสิ่งตอบแทนที่ไม่ต้องการ  มันก็เป็นอะไรที่ทำให้เสียใจมากๆ  กระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาทำให้มุมมองของกานดาเปลี่ยนไป

                      กานดาอยู่ชั้นม.6  และกำลังอยู่ช่วงเตรียมเอ็นฯเข้ามหาฯลัย  เธอสมัครที่มหาฯลัยแห่งหนึ่งไว้  ซึ่งเป็นมหาฯลัยที่พ่อเธอต้องการให้เธอเรียน  เธอได้เรียนที่นั่น

      ใช่...มันเป็นที่ๆพ่อฉันต้องการ  เราสามารถเข้ามาเรียนที่นี่ได้แล้วนะ  เธอคิดอย่างนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง  เพราะโดยแท้จริงแล้วเธอไม่ต้องการเรียนที่นี่เลย  มันไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบ

      วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ  การเรียนของกานดาหนักมาก  และเธอรู้ตัวเองว่าเธอเรียนไม่ไหว  เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี  ต้องทนเรียนต่อไป  ใครถามก็บอกว่าไหวๆ ฝืนยิ้มตลอด เพราะกลัวพ่อตัวจะรู้แล้วโกรธ

      จนกระทั่งถึงการสอบมิดเทอม  คะแนนออกมาน้อยมาก  จนเธอเองยังตกใจไม่กล้าที่จะบอกพ่อเธอเลยจริงๆ  ยังดีที่เธอมีแม่ที่เข้าใจเธอ  แม่เธอช่วยไปคุยกับพ่อให้ว่าลูกของเราเรียนไม่ไหวจริงๆ  แต่พ่อยอมรับไม่ได้  เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียนไม่ได้  แล้วก็ว่ากานดาว่าเป็นเพราะเธอขี้เกียจเอง  ไม่ตั้งใจเรียน  กานดาเสียใจมาก  เธอท้อและสิ้นหวังจริงๆ   ที่เธอท้อไม่ใช่เพราะว่าเธอเรียนไม่ไหว  แต่เธอท้อเพราะเธอไม่เคยได้กำลังใจจากผู้เป็นพ่อ

                      ทุกๆครั้งที่เธอกลับไปบ้าน  พ่อจะพูดแต่เรื่องเรียน  กานดาจะยิ้มรับทั้งๆที่จริงๆแล้วลำบากใจ  จนกระทั่งวันหนึ่งเธอตัดสินใจได้เด็ดขาด  เธอกลับไปบ้านเพื่อพูดกับพ่อของเธอ

      พ่อคะดาคิดว่า  ดาเรียนไม่ไหวจริงๆค่ะ เมื่อกานดาตัดสินใจพูดออกไปเธอแทบไม่กล้ามองหน้าพ่อของเธอ  พ่อของเธอนิ่งไป  ไม่พูดอะไร  จนเธอเริ่มใจไม่ดี  กลัวพ่อจะโกรธ  เธอเริ่มน้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน

      เธอกลับไปเรียนที่มหาฯลัยตามปกติ  ตั้งแต่วันนั้นเธอยังไม่ได้คุยกับพ่อของเธอ  บางครั้งเธอเหงาก็จะโทรไปหาแม่  คุยกับแม่และถามถึงพ่อเธอ  ซึ่งแม่ก็ทำได้แค่ปลอบใจเธอเท่านั้น  กานดามักแอบร้องไห้คนเดียว  พอเพื่อนๆเห็นแล้วถามเธอก็จะทำตัวปกติ  ไม่พูดอะไรทั้งนั้น  วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆจนผ่านการสอบเทอมแรกไป  และแน่นอนเกรดออกมาน้อยมากจริงๆ  เธอเกิดความกลัวขึ้นมา  เธอไม่กลับไปบ้านของเธอเลย  จนวันหนึ่งโทรศัพท์ของเธอดัง  เธอเดินไปดูเบอร์โทรเข้าปรากฏว่าเป็นพ่อของเธอ  เธอชะงักไปไม่กล้ารับ  แต่สุดท้ายก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ

      สวัสดีค่ะพ่อเธอพูด

      เป็นยังไงบ้างลูก เสียงพ่อของเธอดังมาตามสาย  น้ำเสียงฟังดูห่วงใยจนเธอน้ำตาคลอ

      สบายดีค่ะแล้วพ่อล่ะคะ

      พ่อก็สบายดี เกิดความเงียบขึ้นมาขณะหนึ่ง

      เมื่อไหร่จะกลับบ้านหรอลูก พ่อเธอถาม

      ไม่รู้เหมือนกันค่ะ  คงจะเป็นประมาณอาทิตย์หน้า เธอตอบออกไป  จริงๆแล้วเธอว่างตลอด  แต่เธอไม่พร้อมจะกลับไปเจอพ่อของเธอ

      เอ่อ... พ่อของเธอเกริ่นขึ้นมาแล้วเงียบไป  เธอเองก็แปลกใจว่าพ่อเธอจะพูดอะไร

      มีอะไรคะพ่อ

      พ่อจะบอกว่า ถ้าดาเรียนไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนนะลูก  บอกพ่อได้  พ่อไม่ว่าอะไรหรอก  อย่าเรียนหนักมากนะ  พ่อเป็นห่วงลูกนะ  กานดาถึงกับน้ำตาร่วง  เธอเอามือขวากุมปากของเธอ  พยายามไม่ให้พ่อเธอได้ยินเสียงร้องไห้

      พ่อก็ไม่มีอะไรมากหรอก  รีบๆกลับบ้านนะลูกพ่อคิดถึงลูกนะ ถึงตอนนี้เสียงพ่อเธอสั่นๆ แล้วเงียบไปพักหนึ่ง

      พ่อขอโทษนะ  อย่าโกรธพ่อได้ไหม เธอส่ายหน้าอย่างแรงเหมือนจะให้พ่อเธอรับรู้ว่าเธอไม่เคยโกรธท่าน

      พ่อรักลูกมากนะ สิ้นเสียงพ่อของเธอ  เธอร้องไห้โฮออกมา  เธอต้องการคำนี้มาตลอด  วันนี้เธอได้ยินมันแล้ว  ได้ยินแล้วจริงๆ

      พ่อคะ  ดาก็รักพ่อนะคะ  ดารักพ่อมากนะ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ  ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ของกานดา  และเสียงสะอื้นเบาๆมาจากพ่อของเธอ

      กานดากลับบ้านทันทีในวันนั้น  เมื่อถึงบ้านเธอสวมกอดกับผู้เป็นพ่อ  ไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงน้ำตาแห่งความดีใจของเธอเท่านั้น  ต่อมาเธอได้รู้ความจริงจากผู้เป็นแม่ว่า

      จริงๆแล้วพ่อเขารักลูกนะ  ที่เขาเคี่ยวเข็ญให้ดาเรียน ไม่ใช่เพราะต้องการได้หน้าได้ตา  เพียงต้องการให้ดามีอนาคตที่ดี  จบแล้วมีการงานดีๆ ทำ  ไม่ต้องลำบากเหมือนอย่างเขาที่เรียนไม่สูง  เข้าใจพ่อใช่ไหมลูก

      กานดารู้ซึ้งได้ทันทีกับความรักที่พ่อมีให้เธอ  เธอกลับไปลาออกที่มหาฯลัย  และเข้าคณะที่ตัวเองต้องการ  เธอตั้งหน้าตั้งตาเรียนด้วยความตั้งใจ  จนกระทั่งเรียนจบเธอมีงานที่ดีทำ  มีเงินส่งให้พ่อแม่เธอทุกเดือน  นอกจากที่เธอประสบความสำเร็จในชีวิตตรงนี้แล้วนั้น  เธอยังเป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อเธออย่างมากจริงๆ

       

      อยากฝากบอกทุกคนเอาไว้นะคะ  การที่บางครั้งพ่อทำอะไรที่เป็นเหตุให้เราไม่ชอบใจนั้น  ช่วยกลับไปคิดด้วยนะคะ  ว่าพ่อทำแบบนั้นเพื่ออะไร  บางทีท่านอาจจะมีเหตุผลที่เราคาดไม่ถึงอยู่ก็ได้นะคะ...ทำความดีเพื่อพ่อกันเถอะค่ะ

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×