คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [OS] :: BECAUSE it's YOU - PART II END.
[OS] Because It’s You
PAIRING:: KRiSYEoL
RATE:: PG
CREDIT:: If It’s Not You [YAOI Manga]
BY:: NARIKO HAKUTOU
NOTE:: พาร์ทสองแล้วนะ แนะนำให้ทุกคนเปิดเพลงที่เราแปะไว้ฟังด้วยจะเข้าอารมณ์มาก ขอดราม่าซักแป๊ปก่อนไปรั่วต่อในเรื่องหลักละกัน อ่านให้สนุกนะครัช อิ้อิ้ :P
…
…
“คริส ...”
“...”
“ไอ้เหี้ยคริส!!!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกจนแทบตกเก้าอี้ รู้สึกเหมือนหูดับไปชั่วขณะเมื่อเสียงทุ้มห้าวของเพื่อนตัวดำดังทะลุโสตประสาทตอนกำลังคิดอะไรเพลินๆ ...
... สามวันมาแล้วก็คิดแต่เรื่องเดิมๆ
คริสถอนหายใจยาวเมื่อสลัดเรื่องของชานยอลออกไปจากหัวไม่ได้ซักที ... เขาอยากจะรู้ ... ว่าความรู้สึกจริงๆของไอ้เอ๋อคนนั้นที่มีต่อเขาเป็นอย่างไรเพราะแทบทุกครั้งที่เขาไปกับผู้หญิงคนอื่น อีกฝ่ายก็ดูจะเฉยๆไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เขาซะเองกลับเป็นฝ่ายหงุดหงิดงุ่นง่านเวลามีคนอื่นมายุ่มย่ามกับของของเขา ...
... นายแน่มากปาร์คชานยอลที่ทำให้ฉันเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
“เออ ... กูลืมบอกมึงไป วันมะรืนทำตัวให้ว่างนะ น้องซูจองฝากให้กูให้มาชวนมึงไปเที่ยวเชจูกัน สาวๆเพียบเลยว่ะมึง ... แม่งพูดแล้วเปรี้ยวปาก”จงอินลูบปลายคางไปมาเหมือนพวกเฒ่าหัวงูแต่คำตอบที่ได้รับจากเพื่อนรักกลับมีเพียงความเงียบ ผิดวิสัยเจ้าชู้ของเจ้าตัว ...
... ช่วงนี้คริสดูเหมือนมีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดเวลา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าไอ้นี่มันความลับ แต่ถ้ามันพร้อมเมื่อไหร่มันก็คงจะบอกเขาเมื่อนั้นล่ะ เซ้าซี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพื่อนกันเรื่องแค่นี้รอได้อยู่แล้ว
“ถ้ามึงไม่อยาก ก็ไม่ต้องไปก็นะ เดี๋ยวกูบอกน้องเขาให้”
“ไม่ล่ะ ... กูจะไป”เจ้าของเสียงทุ้มต่ำตอบโดยไม่ละสายตาจากนอกหน้าต่าง ดูเผินๆแล้วอาจไม่รู้ว่าเขามองอะไร ... แต่ความจริงแล้ว ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินขวักไขว่กันอยู่ใต้ตึกวิศวะ มีเพียงคนๆเดียวที่ปรากฏชัดในกระจกตาสีเข้ม ...
...
... ปาร์ค ชานยอลกำลังหยิบกล่องข้าวออกมาออกมา 2 กล่อง ตั้งมันไว้บนโต๊ะฝั่งตรงข้ามและเริ่มลงมือทานข้าวกล่องของตัวเอง โดยมีแบคฮยอนหนุ่มร่างเล็กที่เข้ามาป้วนเปี้ยนนั่งจ้ออยู่ข้างๆ
... ถึงแม้จะไม่ชอบใจนักที่มีคนมาปวนเปี้ยนกับชานยอลแต่คริสก็รู้สึกดีแปลกๆที่อย่างน้อยข้าวกล่องนั้นเจ้าของมันไม่ได้ทำมาให้ใครคนอื่น ...
... คนเอ๋อ ชอบทำอะไรที่เขาไม่เข้าใจอยู่เรื่อย
... ทันที่หันหน้ากลับเข้ามาภายในห้องเรียน สายตาล้อเลียนจากจงอินก็ถูกส่งมาให้จนเขาอยากจะประเคนฝ่าเท้าให้ซักรอบ หมั่นไส้โว้ย
“ฮั่นแน่ ... ไอ้คริส มึงเล็งยอลลี่อยู่เหรอวะ”
... ยอลลี่?
ดูเหมือนคนผิวแทนจะมองเห็นเครื่องหมายคำถามตัวเป้งแปะหราบนใบหน้าคมของเพื่อนรักจึงรีบชี้แจงให้ฟัง
“ก็ปาร์คชานยอลไง ที่ชอบนั่งหลังห้อง ตอนถอดแว่นน่ารักสาด กูนี่แทบไม่อยากจะเชื่อสายตา ช่วงนี้ดูฮอตขึ้นเยอะเลยว่ะ”
อาการขมวดคิ้วยุ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ยังฟังไม่จบ อะไรคือการที่จงอินชมชานยอล อะไรคือการที่มาบอกว่าชานยอลของเขาฮอตขึ้น ... หงุดหงิดชะมัด
“พอๆ มึงไม่ต้องพูดละ กูไม่อยากฟัง”
“อ้าวสาดคริส ... กูนึกว่ามึงจะชอบประเภทขาวๆ แก้มป่องๆซะอีก ไม่สนใจหน่อยเหรอวะ”
“หุบปากเน่าๆของมึงไปเลยไอ้เหี้ยดำ”
“โห่ ด่ากูอีกละ งอนแม่ง”จงอินแกล้งสะบ๊อบใส่หน้าคริสจนเส้นผมหนาๆสีเข้มที่เริ่มจะยาวตีเข้ากับผิวแก้ม เลยโดนโบกกะโหลกมาเป็นของแถม 1 ทีแต่เขาพอจะรู้แล้วล่ะว่าไอ้คุณเพื่อนมันเป็นอะไรของมัน
... มึงนี่มันโง่ชิบหายเลย
...
...
...
‘사랑을 몰라 넌 너밖에 잘 몰라 어린애 같은 투정은 그만 해 줄래’~
ซารังงึล มลรา นอน นอบักเก จัล มลรา ออรีแร กาทึน ทูจองึน คือมัน แฮ จุลแร
(คุณไม่รู้จักความรัก คุณรู้จักแค่ตัวเอง หยุดงอแงเหมือนเด็กๆสักที)
เสียงทุ้มแหบเสน่ห์ของนักร้องคนโปรดดังขึ้นเบาๆจากโทรศัพท์มือถือเครื่องบาง ทำให้คนที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำต้องใช้ผ้าซับหยดตามเส้นผมไปด้วย แก้มขาวๆทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อเพราะความร้อน นัยน์ตากลมเบิกกว้างขึ้นอีกนิดเมื่อมองเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
...
‘KRIS calling’
…
ริมฝีปากอิ่มกระตุกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มกว้าง เขาเคยนึกจะโทรหาอีกฝ่ายอยู่ทุกวันแต่พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สิ่งๆหนึ่งก็พุ่งเข้ามาห้ามไว้ในใจไม่เคยได้กดโทรออกเลยซักครั้ง
... ทั้งที่ความจริงแล้วอยากได้ยินเสียงทุกวัน
... อยากคุยด้วยทุกวัน
... อยากทำอะไรอย่างที่คู่รักเขาทำกัน
... แต่มันก็เป็นไปไม่ได้
มือเรียวสั่นน้อยๆยามประคองเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมาแนบหูหลังจากสไลด์รับสายเรียบร้อยแล้ว ในหัววิ่งจี๋หาเรื่องสนุกๆมาคุยเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็คงเหนื่อยมาทั้งวันไม่ต่างจากตัวเอง
(นั่นชานยอลใช่มั้ย)
“อื้อ คริสมีอะไรเหรอ”
เพียงได้ยินเสียงทุ้มๆนั้นเรียกชื่อของตัวเอง ชานยอลก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากอีกครั้งที่จะบังคับไม่ให้เสียงสั่นจนฟังดูแข็งทื่อ
(เปล่าหรอก แค่โทรมาเฉยๆ)
“อา ... งั้นเหรอ”นัยน์ตากลมโตเริ่มกลอกไปมาอย่างหลุกหลิกอีกครั้งด้วยความประหม่า กลัวไปหมด กลัวเขาจะรำคาญ กลัวเขาจะเบื่อ ... กลัวเขาจะไม่โทรมาอีก
(นี่ ... ถามอะไรหน่อยสิ)
จู่ๆคนปลายสายก็เอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปได้ซักพัก ชานยอลรีบรวบรวมสติตอบกลับไปอย่างตื่นเต้น ชักเริ่มจะขำตัวเองที่ดีใจเหมือนเด็กๆ ได้แต่อมยิ้มจนแก้มป่องพองออกน้อยๆ
...
...
(วันมะรืนฉันจะไปเชจูกับซูจอง)
“...”
(ไปได้มั้ย?)
“... ได้สิ”รอยยิ้มได้เหือดหายไปจากใบหน้าทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ เจ้าของดวงตากลมโตตอบกลับไปด้วยเสียงน้ำเสียงเรียบๆไร้อารมณ์ ทั้งที่ในใจมันวูบโหวง เจ็บร้าวไปทั้งอก ...
(ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ)
“... ไม่มีอ่ะ”แกล้งตอบกลับไปเสียงทะเล้นไม่ให้ปลายสายจับได้ว่าตอนนี้ขามันอ่อนแรงแทบยืนไม่ไหว ก้อนเนื้อในอกบีบรัดตัวรุนแรงจนต้องเอามืออีกข้างไปขยุ้มไว้ คมฟันขาวขบลงบนกลีบปากแดงช้ำและเริ่มจะห้อเลือด บวมเป่ง
(...)
“...”
(เฮ้อ ... งั้นวางนะ)
“อืม ฝันดีนะ”
(เช่นกัน)
...
ตุบ!
...
... มือทั้งสองข้างทิ้งลงข้างตัวอย่างไร้เรี่ยวแรงปล่อยให้สิ่งที่อยู่ในมือตกลงกระแทกพื้นโดยไม่คิดจะสนใจ ภาพที่เห็นเริ่มพร่ามัวและความเปียกแฉะที่ผิวแก้มทำให้ชานยอลเพิ่งรู้ ... ว่าตัวเองกำลังร้องไห้
... หยาดน้ำสีใสถูกปาดออกลวกๆ รอยยิ้มฝืนๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปากอีกครั้งและเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่มองเห็นคริสเดินเคียงไปกับคู่ควงคนแล้วคนเล่า
... ไม่ได้ จะร้องไห้ไม่ได้
... ทำไมถึงขี้แยแบบนี้
... น่ารำคาญแบบนี้ใครเขาจะไปอยากอยู่ด้วย
...
...
... ปาร์คชานยอลคนโง่
...
...
...
...
... ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาหอบเอาลมปนกลิ่นดินชื้นๆพัดผ่านจนดอกไม้สีสวยลู่ลงตามแรง แสงแดดอ่อนๆและบรรยากาศที่แสนรื่นรมย์ไม่ได้ทำให้คริสรู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย ...
... ไม่น่ามาเลย
จงอิน คริสและสาวๆกลุ่มเพื่อนของซูจองเดินทางมาถึงเกาะเชจูได้ 2 วันแล้ว และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสุดท้าย เขาจึงพอจะฝืนๆทนอยู่ต่อได้แต่ดูเหมือนไอ้เพื่อนตัวดำจะอยากอยู่ต่อเสียเหลือเกิน
ระหว่างกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆพลางให้อาหารเจ้าแพะตัวน้อยสีขาวสะอาด ดวงตาใสแป๋วของมันจ้องมองเขาอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ก็ยอมให้มือใหญ่เอื้อมมาลูบหัวของมันแต่โดยดี ... เหมือนไอ้เอ๋อชะมัด
รอยยิ้มบางถูกจุดขึ้นบนมุมปากทำให้ใบหน้าเรียบนิ่งของคริสดูอบอุ่น อ่อนโยนอย่างที่คนมาใหม่ไม่เคยได้รับมาก่อน ซูจองยืนมองคนตัวสูงเงียบๆก่อนจะสอดแขนเข้าโอบรัดเอวหนาไว้จากด้านหลัง
“พี่คริสคะ”
“หืม ... ว่าไงซูจอง”คนถูกเรียกค่อยๆปลดมือของหญิงสาวออกอย่างสุภาพก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับเธอ
“ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว ... ซูจองมีอะไรจะบอกพี่”
“อะไรเหรอครับ”
“ซูจองรักพี่คริสค่ะ เรามาเป็นแฟนกันได้มั้ย”
“...”
“...”
นัยน์ตาสวยจ้องมองใบหน้าเรียบนิ่งปานรูปสลักของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างประหม่าเพราะคำตอบที่รับรับมีเพียงความเงียบ ...
“พี่คริสคะ ...”
“พี่คงคบกับซูจองไม่ได้หรอก”
หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ... เธอมั่นใจเต็มที่ว่ายังไงคริสก็ต้องรับรัก แต่นี่มันอะไรกัน ...
“ทำไมล่ะคะ”
“...”
“...”
ภาพสะท้อนของซูจองในกระจกตาสีเข้มกลับมีใบหน้าของใครบางคนลอยมาซ้อนทับ ... ในวินาทีนั้น เขาเพิ่งจะรู้ตัว ...
... ไม่มีใครมาแทนที่ปาร์คชานยอลได้
...
...
...
“... พี่มีคนรักอยู่แล้วน่ะ”
“...”
...
...
...
“... แล้วพี่ก็รักเขามากๆด้วย”
...
...
...
‘ก๊อกๆ’
“คร้าบๆ กำลังเดินไปคร้าบ~”
ชานยอลรีบควานหาเสื้อผ้าขณะที่ตัวเองมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ปากก็ตะโกนบอกแขกผู้มาเยือนในยามวิกาลหลังประตูห้องไปด้วย
ชุดนอนเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาวสีส้มอ่อนลายลิงกินกล้วย ของขวัญชิ้นแรกจากคริสถูกสวมอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเขาแทบจะใส่มันทุกวันเลยทีเดียว
... ใส่ทีไรก็นึกถึงคนให้ทุกที
เรียวขายาวก้าวไปที่ประตูห้องพร้อมกับเปิดมันออก ... นัยน์ตากลมเบิกกว้าง ริมฝีปากอ้าค้างอย่างตกใจเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็คว้าตัวเขาเข้าไปกอด
ใบหน้าขาวที่ซุกอยู่กับแผ่นอกหนาขยับยุกยิกก่อนที่จะโผล่หัวออกมาวางบนไหล่กว้างได้สำเร็จ กลิ่นกายหอมอ่อนๆของน้ำหอมแนวสปอร์ตราคาแพงที่คุ้นเคยทำให้ชานยอลยกแขนขึ้นกอดตอบโดยไม่เกี่ยงงอน
“...”
“คริส ... มีอะไรรึเปล่า”
“ชานยอล ...”
“หือ ...”
คริสคลายวงแขนออกแล้วประคองแก้มป่องๆของคนตรงหน้าไว้ในอุ้งมือ ดวงตากลมที่ใสแป๋วสะท้อนภาพของเขาชัดเจนในความรู้สึก กลีบปากหนาประทับแผ่วเบาลงบนหน้าผากเกลี้ยง ระเรื่อยไปยังเปลือกตาที่หลับพริ้ม สันจมูกโด่งได้รูป และจบลงที่ริมฝีปากอิ่ม ...
... ทุกๆอย่างประกอบขึ้นเป็นปาร์คชานยอล
... ที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่ารักไปแล้วทั้งใจ
...
...
“คริสรักชานยอลครับ”
...
...
...
“นี่ ... ถามอะไรหน่อยสิ”คนตัวสูงเอ่ยขึ้นขณะที่ทั้งสองกำลังนอนซุกกันอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่า นัยน์ตากลมใสแป๋วที่ทำให้คริสตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่าช้อนขึ้นมองอย่างสงสัยจนอดไม่ได้ที่จะกดจูบหนักๆลงบนแก้มนุ่มอีกครั้ง
“งื้อ ... คริสจะถามอะไร”ชานยอลย่นคอหนีอีกฝ่ายก่อนจะขยี้ตาที่แดงน้อยๆเพราะปล่อยโฮออกมาเต็มที่ตอนคริสบอกรัก ... อ่า ... น่าอายชะมัด
“ตอนฉันไปกับผู้หญิงคนอื่น นายไม่หึงบ้างหรือไง”
“... เราไม่กล้าหรอก”
“ทำไมล่ะครับ”คนถามพูดเสียงอ่อน ฝังจมูกบนกลุ่มผมสีเข้มอย่างไม่รู้เบื่อ มือหนาจับปลายคางของคนตรงหน้าให้ขึ้นมาสบตาเมื่อเห็นว่าชานยอลเอาแต่ก้มหน้างุด
“เรากลัวคริสรำคาญ ... เราไม่ได้สวยเหมือนผู้หญิงพวกนั้น คริสคงอายถ้าต้องเดินกับเรา ...”
“ใช่ ... นายไม่ได้สวย”หยาดน้ำสีใสเอ่อคลอที่ดวงตาแดงช้ำอีกครั้งเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด ... ชานยอลนึกเกลียดตัวเองขึ้นมา
... เขาช่างไม่เจียมตัวเลยที่กล้ามาหลงรักคริสทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มีอะไรดีซักอย่าง ... ไม่มีอะไรเทียบกับคู่ควงของคริสได้เลยซักคน
“แต่ฉันรู้จักอยู่คนนึงนะ ... เขาน่ารักมากเลย ตาโต จมูกโด่ง ปากแดง ผิวก็ขาว แต่ชอบทำตัวเอ๋อๆ ขนาดตอนนี้ร้องไห้อยู่ยังน่ารักเลย ... รู้สึกว่าจะชื่อ ... ชื่ออะไรหว่า “คริสแกล้งทำเป็นนึกชื่อแต่คนที่เอาแต่ซุกหน้าสะอื้นอยู่กับอกเขากลับทุบเข้าที่หน้าท้องดังอั้ก ข้อหากลั่นแกล้งคนน่ารัก ...
“เด็กขี้แย ... ร้องไห้ทำไมครับ หืม”ริมฝีปากร้อนจูบซับน้ำตาบนแก้มนุ่มเบาๆก่อนที่จะเลื่อนไปจูบปลายจมูกที่แดงก่ำอย่างน่าสงสาร
“คริสแกล้งเรา ...”
“โอ๋ๆ ขอโทษครับ”
ชานยอลบึนปากใส่คริสเมื่อเห็นว่าคนตัวสูงเอาแต่จ้องมองด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ... ทีเมื่อก่อนล่ะมาบอกให้ทำตัวเหมือนไม่รู้จักกัน แบบนี้มันเอาคืนนัก คนยิ่งเปลี่ยนฟีลไม่ทันอยู่
“เออ ... จะถามอีกอย่าง เรื่องนี้สงสัยมานานละ”
“อ่า ถามเลยๆ”
“เวลากินข้าวทำไมต้องเอาข้าวขึ้นมาตั้งไว้ 2 กล่องด้วยล่ะ”
พอได้ยินคำถาม แก้มป่องๆก็ขึ้นสีแดงก่ำเพราะไม่คิดว่าคริสจะเห็นพฤติกรรมแปลกๆนั้นด้วย ฮื้อ ... น่าอายชะมัด
“ก็ ... เราอยากกินข้าวกับคริส เลยทำมาเผื่อ แต่ไม่กล้าเอาไปให้หรอก คนอื่นเห็นเข้าจะไม่ดี”
ยิ่งฟัง ยิ่งรู้สึกผิด เขาเคยทำร้ายหัวใจของชานยอลได้มากขนาดนี้ อีกฝ่ายคงรู้สึกแย่มาก ... บางทีนี่คงจะถึงเวลาแล้ว
... ต้องประกาศให้คนอื่นได้รู้ซักที
“นี่ ชานยอล ... มาถ่ายรูปกันเถอะ”
“หา!?”พูดยังไม่ทันขาดคำก็ถูกท่อนแขนหนักๆพาดไว้บนไหล่ พร้อมกับปลายจมูกโด่งที่ฝังแน่นบนแก้ม
แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเบาๆจากโทรศัพท์เครื่องหรู คริสกดยุกยิกๆอยู่ซักพักหนึ่งก็ถูกชานยอลห้ามไว้เมื่อเห็นว่าเป็นแอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์
“คริสทำอะไร! เดี๋ยวคนอื่นเขาก็รู้กันหมดหรอก”
“ก็อยากให้รู้ไงถึงทำ”
“แต่ว่า ...”
“ไม่มีแต่ครับ”ว่าแล้วก็จัดการปิดปากคนชอบขัดด้วยปากซะเลย ... ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง เกิดเป็นคริสอู๋มันก็ดีแบบนี้แหละ
“รักเมียนะครับ :D”
...
...
`อู๋คนหล่อ @Kriskruch
[PLZ RT] … เปิดตัวเมียครับ คนนี้หวงมาก ใครยุ่งเอาตายครับ :D pic.twitter.com/12101316
#END
- จบแบบมึนๆนิดนึง กำลังปวดหัว ฮ่าฮ่าฮ่าบวก
- แท็คเดิม แอ็คเดิม @BELLKYULO96 #ฟิคยอดชาย
- ไม่เม้นแต่แท็คให้ก็ยังดีเอ้า ! เม้นกันหน่อยนะค้า *ปุอิ้ง*
ความคิดเห็น