คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : [gyumyung] ANGEL (1/3)
ANGEL…1
‘ผมแอบมองเขาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
แต่มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาชอบเขามายุ่งวุ่นวายกับผม
จะบอกว่ารำคาญก็ไม่เชิงแต่ผมไม่อยากคุยกับเขามากไป เพรารู้ดีว่าเราต่างกัน..’
‘ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงชอบแอบมองผมแต่พอผมหันไปเขาก็มักจะหลบตาผมตลอด
และเพราะการอยากรู้ทำให้ผมเดินเข้าไปพูดคุยกับเขาและได้รู้ว่าคนๆนี้ไม่ค่อยสุงสิงหรือยุ่งกับใคร
แต่อะไรก็ไม่รู้ที่มันดนใจให้ผมอยากรู้จักกับเขา...’
ชีวิตของการเรียนมหาลัย
ใครๆก็ต่างรู้ดีว่ามันอยากลำบากมากขนาดไหน ทั้งดิ้นรน ทั้งไขว่คว้า
เพื่อได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แม้แต่มิตรภาพที่แท้จริงยังหาได้ยากแทบจะไม่มี
การได้เข้าเรียนมหาลัยเป็นสิ่งที่ใครก็ไฝ่ฝันเพราะวัยรุ่นทั่วๆไปก็มักอยากจะก้าวเข้าสู่รั่วมหาลัยกันทั้งนั้น
หลายคนอยากจะหลุดพ้นจากโรงเรียนมอปลายสักทีเพื่อออกมาเผชิญโลกกว้างและอยู่ไกลจากพ่อแม่ตัดความรำคาญที่มีผู้คอยบัญชาชีวิตมาตลอด
18 ปี
แต่หารู้ไหมว่าการเรียนมหาลัยนั้นมันยากลำบากกว่าการเรียนมัธยมเป็นไหนๆโดยเฉพาะกับคนที่พยายามดิ้นรนหาเงินเพื่อนำมาจ่ายค่าหน่วยกิจที่มันแพงหูฉี่และยิ่งกว่านั้นก็คือการสอบตกและต้องจ่ายค่าเรียนใหม่ ถ้าเป็นพวกลูกคนมีเงินคงไม่ต้องมาสนใจกับปัญหานี้แต่กับเจา
คิม
ซองกยูที่ต้องทำงานหนักเพื่อส่งตัวเองเรียนและดูแลพี่สาวที่ป่วยหนักทำให้เขาต้องพยายามทำงานและตั้งใจเรียนเพื่อนไม่ให้ติดเอฟและจะได้มีเวลาไปหาเงินมารักษาพี่สาว
“เห็นว่าขยันทำงานหรอกนะป้าเลยเพิ่มค่าแรงให้น่ะ”หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านสะดวกซื้อเอ่ยขึ้นขำๆด้วยความเอ็นดูเด็กหนุ่มที่คอยมาช่วยเบาแรงเธอเป็นประจำ
“ขอบคุณนะครับ
แต่เดือนหน้าไม่ต้องให้ผมเยอะขนาดนี้ก็ได้”ซองกยูโค้งขอบคุณให้คนอายุมากกว่าแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไร
ยังไงซะป้าก็ให้นายมาช่วยทุกวันอยู่แล้ว”หญิงอวบว่าพรางเดินออกจากร้านไปพร้อมกับซองกยูหลังจากที่ช่วยกันเก็บร้านเสร็จ
“งั้นผมลาแล้วนะครับ ต้องรีบไปตั้งแผง”ซองกยูโค้งลาก่อนจะรีบวิ่งออกจากหน้าร้านไปทันทีเพราะกลัวจะไม่ทันเวลา
ร่างหนาของเด็กหนุ่มขนกระสอบเสื้อผ้าที่เขาให้เงินเก็บลงทุนซื้อมาขายในช่วงเลิกงานที่ร้านสะดวกซื้อ
ทุกๆวันเสาร์ อาทิตย์จะมีตลาดโต้รุ่งตอนดึกซึ่งเขาจะขนของมาขายที่นี้ทุกวัน
ขายได้บ้างไม่ได้บางตามประสาแต่ถ้าทำแล้วมันได้เงินไม่ว่าจะมากหรือน้อยเขาก็จะทำมันทั้งหมด
“วันนี้มาช้านะ ซองกยู”พี่ชายข้างร้านถามขึ้นพรางเดินเข้ามาช่วยซองกยูตั้งแพงเหล็กเพราะเห็นว่าร้านของตนไม่ค่อยมีลูกค้าสักเท่าไร
“ผมอยู่รอเอาเงินเดือนน่ะครับ”ซองกยูว่าแล้วนำเสื้อผ้าในกระสอบที่ตนแบกมามากองแล้วแยกเกรดของเสื้อผ้า
“ขยันจังนะ แล้วพี่สาวเป็นยังไงบ้าง”ด้วยความที่เป็นคนขยันทำให้พวกรุ่นพี่ข้างๆร้านเอ็นดูและให้ความช่วยเหลือเสมอแม้ว่าตอนที่ซองกยูมาขายแรกๆชายกนุ่มจะเงียบขรึมและหน้ามั่นไส้แค่ไหนก็ตาม
“ช่วงนี้อาการดีขึ้นมากครับ”ซองกยูตอบก่อนส่งยิ้มไปให้ลูกค้าที่เดินเข้ามาเลือกดูเสื้อผ้า
“ถ้าดีขึ้นแล้วนายก็พักบางสิ
เลิกทำงานหนักแบบนี้ได้แล้ว”ชายหนุ่มนึกเป็นห่วงหนุ่มรุ่นน้องที่ทำงานหามรุ่งหามคำแถมยังต้องตื่นเช้าไปเรียนอีก
“ไม่ได้หรอกครับ เดือนหน้าผมต้องจ่ายค่าเทอม”ซองกยูตอบกลับไปแล้วหยิบเสื้อที่ลูกค้าเลือกได้มาใส่ถุง
ชายหนุ่มส่ายหน้าเอือมๆกับนิสัยดื้อรันของซองกยูคงจะเพราะว่าเป็นแบบนี้ถึงไม่ค่อยมีเพื่อนวัยเดียวกัน
เด็กวัยนี้ตอนนี้คงพากันไปเที่ยวเตร่ขอตังพ่อแม่แต่ซองกยูกลับเอาแต่ทำงานอยู่ตลอดเพื่อนๆเลยไม่ค่อยอยากคบเพราะไม่สามารถไปเที่ยวกับตนได้
“เสื้อสวยจัง”น้ำเสียงแหบหวานดังขึ้นทำให้ซองกยูที่กำลังถอนเงินลูกค้าอยู่ต้องหันไปมอง
ก่อนจะนิ่งชะงักไปเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่ตนไม่ค่อยอยากเจอเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายมาเห็นสภาพของตนตอนนี้
แต่อะไรมันจะบังเอิญปานนั้น
“นาย”นิ้วเรียวชี้มาทางซองกยูใบหน้าหวานของคนตรงหน้าก็ทำท่านึกคิด
“สนใจตัวไหนครับ”ซองกยูเอ่ยตัดบทพรางมองเสื้อที่อีกฝ่ายจับอยู่ เขาไม่กล้ามองหรอกเพราะเขาแตกต่างจากอีกคนมาก
ซองกยูคนนี้ไม่สามารถยืนเทียบข้างคิม มยองซูเดือนมหาลัยได้หรอก
“สนใจทุกตัว”ร่างบางว่าพรางมองซองกยูด้วยสายตาเรียบๆแต่ในใจก็นึกเคืองที่ดึกป่านนี้แล้วเด็กมหาลัยยังต้องมาขายของหาเงินอยู่
เขาไม่ค่อยรู้จักซองกยูหรอกรู้แต่ว่าอยู่มหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน
มีคลาสเรียนบางวิชาเหมือนกันแต่เห็นพวกเพื่อนๆเขาชมนักหนาว่าอีกคนหล่อแต่หยิ่ง
เขาไม่ได้ไม่ชอบซองกยู แต่เขาไม่ชอบที่เด็กมหาลัยอย่างซองกยูมาขายของตอนดึกป่านนี้
“ทุกตัว?”ซองกยูเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานพรางขมวดคิ้วยุ่ง
“ฉันเหมา”มยองซูว่าก่อนจะหยิบกระเป๋าตังออกมาแล้วหยิบธนบัตรจำนวนหลายใบเพื่อเตรียมจ่ายให้คนเป็นพ่อค้า
“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าให้คุณเหมาผมจะเอาที่ไหนขาย”ซองกยูว่าแล้วพับเสื้อที่เป็นเกรดดีๆให้เรียบร้อย
“ก็ไม่ต้องขาย
ทำไมนายต้องมาทำงานดึกๆแบบนี้ด้วยเหรอ”มยองซูตอบกลับไปก่อนจะถามขึ้นในตอนหลังอย่างสงสัยไม่ได้มีเจตนาที่จะหาเรื่องอีกคนเลย
“ถ้าจะซื้อก็เลือกมาสักตัวสิครับ”ซองกยูไม่ตอบแต่บอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบๆพรางหันไปตอบคำถามลูกค้าคนอื่น
“ฉันจะเอาทั้งหมด”มยองซูว่าอย่างเอาแต่ใจพรางมองซองกยูที่เลี่ยงคำถามของตนไปคุยกับลูกค้าคนอื่น
“คงไม่ได้ครับ”ซองกยูหันมาตอบพรางหยิบเสื้อของลูกค้ามาใส่ถุง
“งั้นฉันจะเอาเงินวางไว้นี้
แล้วแต่นายนะว่าจะให้เสื้อฉันไหม”พอพูดจบมยองซูก็เดินออกมาจากหน้าร้านของซองกยูทันที
“นี้คุณ เอาเงินคุณคืนไป”แต่ยังเดินไปไม่ถึงไหนแขนเรียวก็ถูกคว้าด้วยมือของซองกยูพร้อมกับเงินที่ถูกยื่นมาให้
“ก็บอกว่าจะเหมา ฉันไม่เอาเงินคืน
ถ้านายลำบากใจมากก็ไปเก็บเสื้อผ้าทุกตัวมาให้ฉัน”มยองซูว่าแล้วเสมองไปทางร้านของซองกยู
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
คุณจะเอาเสื้อผ้าไปทำไมเยอะแยะ มีเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยนะ”ซองกยูว่าแล้วมือออกจากแขนของอีกฝ่ายทันทีที่รู้สึกตัว
“จะเอาไปบริจาค ไปเก็บมา”มยองซูว่าเสียงเข้มแล้วชี้ไปที่ร้านเล็กๆของซองกยู
ร่างสูงถอนหายใจนิดหน่อยแต่เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมยองซูให้มากความเพราะยิ่งต่อความยาวสาวความยืดมยองซูอาจจะยิ่งกลับบ้านช้า
“เอาทุกตัว”ตอนนี้มยองซูกำลังยืนกอดอกสั่งซองกยูที่กำลังก้มเก็บเสื้อผ้าใส่กระสอบของเจ้าตัวให้เขา
ด้วยสีหน้านิ่งๆแต่กลับทำทุกอย่างอืดอาดเหมือนเสียดายของ
“เก็บร้านนายด้วย”มยองซูสั่งอีกครั้งเมื่อซองกยูแบกกระสอบขึ้นข้างหลังเพื่อนเอาไปส่งที่รถของเขา
“จะเหมาร้านผมด้วยเหรอ”ซองกยูถามพรางเลิกคิ้วมองอีกคนๆมยองส่ายหน้าเบาเป็นการปฏิเสธ
“ของหมดแล้วนายจะอยู่ทำไม เก็บให้หมดเลย”มยองซูสั่งอีกครั้ง
ซองกยูจึงยอมวางกระสอบลงแล้วเก็บท่อนเหล็กที่เอามาเป็นฐานรองแผงของตน
“เสร็จแล้วก็ตามมา”มยองซูว่าแล้วเดินกอดอกนำอีกคนไปที่รถทันทีเพราะนี้ก็ดึกมากแล้วเขาไม่อยากกลับบ้านดึกมากนักเดี๋ยวผู้สร้างชีวิตจะหวีดเอา
“เรียบร้อยแล้ว”ซองกยูว่าเมื่อแบกกระสอบเสื้อผ้าไปไว้ในกระโปรงรถของมยองซูและปิดมันให้เรียบร้อยก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทาง
“เดี๋ยว”มยองซูเดินตามไปคว้าแขนอีกคนที่แบกกระสอบใส่เหล็กด้วยแววตาเห็นใจ
ซองกยูหันมามองดวงตาสวยด้วยความไหววูบก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยตามแบบฉบับของตน
“นาย ...กลับบ้านยังไงเหรอ”มยองซูว่าแล้วค่อยๆปล่อยมือออกจากการเกาะกุมอีกคนไว้แล้วส่งยิ้มแหยะๆไปให้
“รถเมล์”ซองกยูตอบเสียงเรียบแล้วหันหลังกลับเดินไปทางเดิม
“พรุ่งนี้นายจะมาขายอีกไหม”ร่างบางตะโกนตามหลังมา
ซองกยูหันไปมองเพียงนิดก่อนจะเดินต่อไปทำเป็นไม่สนใจอีกคน
เขาไม่อยากให้มยองซูมายุ่งกับเขาแค่อีกคนเหมาเสื้อผ้าที่ร้านเขาในจำนวนเงินไม่น้อยเขาก็รู้แย่จนมึนไปหมด
ไม่รู้ว่าจะทำต้องทำอะไร ยังไงดี
“เหนื่อยเป็นบ้า”ชายหนุ่มบ่นขึ้นพรางวางกระเป๋าเป้ของตนพร้อมกับกระสอบบรรจุท่อนเหล็กลงบนพื้นห้องที่เขาใช้เป็นที่ซุกหัวนอน
บ้านใต้หลังคาที่เขาเช่ามันด้วยราคาถูกๆมีแค่เตียงกับห้องน้ำ แต่เขาก็อยู่มาหลายปี
ปรับเปลี่ยนของในห้องบางอย่างจนมีเยอะขึ้นแต่ก็ไม่ได้มากไปกว่าที่เคยมีอยู่
ก็แค่ซื้อทีวีมือสองเก่าๆไว้ดูเล่นเวลาเลิกงานกับฮิตเตอร์ที่ให้ความอุ่น
เมื่อก่อนเขาต้องทนหนาวจนปากสั่นไปหมด
“คุณจะรู้จักผมไหม”ซองกยูว่าพรางล้มลงบนเตียงเอาแขนก่ายหน้าผากแล้วนึกไปถึงอีกคนที่เพิ่งเหมาเสื้อผ้าที่เขาขายไปจนหมด
มยองซูเป็นดาวมหาลัยที่เขาเรียนอยู่
ร่างบางมีเพื่อนมากมายทั้งในคณะและต่างคณะผู้คนต่างให้ความสนใจเพราะเป็นลูกหลานของพวกนักการเมืองและที่รู้ๆคือบ้านของคิม
มยองซูนั่นรวยมาก
เมื่อก่อนเขาชอบแอบมองร่างบางจนชินตาและค่อยๆถลำขึ้นเรื่อยๆเป็นการลงทะเบียนเรียนวิชาเดียวกันเพื่อให้ได้เจอมยองซูมากขึ้นและตอนนี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าที่ชอบแอบมองและอยากอยู่ใกล้มยองซูมันเป็นเพราะอะไร
เขากำลังตกหลุมรักคนที่เขาให้ฉายาว่านางฟ้า เพราะมยองซูเหมือนนางฟ้าในใจเขา
ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือท้อแค่ไหนเขาก็มักจะเก็บรอยยิ้มที่มยองยิ้มให้คนอื่นมานึกถึงเสมอและมันก็เป็นกำลังใจอย่างดีสำหรับเขา
เขาไม่ได้ต้องการให้มยองซูมารักเขาแบบที่เขารักร่างบาง
เขาไม่อยากให้มยองซูมายุ่งกับเขาด้วยซ้ำแต่ท่าทางของร่างบางวันนี้ราวกับว่าจำเขาได้ทั้งๆที่ไม่เคยคุยกับด้วยซ้ำ
เขาไม่คิดว่ามยองซูจะเคยเห็นเขาในสายตาเลยสักครั้งแต่ร่างบางกลับมีท่าทางครุ่มคิดเมื่อเห็นหน้าเขาหรือว่าเขาหน้าเหมือนคนที่มยองซูรู้จักกัน
“ขอบคุณนะครับ”ซองกยูกอดเงินที่มยองซูให้มาแนบอกพรางส่งยิ้มออกมา
เขารู้สึกดีที่ได้แอบรักมยองซูแม้จะแอบเจ็บปวดที่นางฟ้าของเขาต่างก็มีคนจับจ้องมากมาย
เขารู้ดีว่าไม่สามารถเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นได้แต่เขาแค่อยากเก็บร่างบางมานอนฝันแบบนี้นานๆเขาไม่ได้โรคจิตแต่การหากำลังใจให้ตัวเองมันก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเขา
เขาไม่ได้ไปทำร้ายใครแค่เก็บเอาภาพกิริยาต่างๆของมยองซูมานอนฝันเพื่อให้สู้ในวันพรุ่งนี้เท่านั้นเอง
“ซองจงผู้ชายที่นายบอกว่าหล่อๆนั้นเขาชื่ออะไรหรอ”เสียงแหบหวานเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินมานั่งบนโต๊ะแล้ว
“ใครเหรอ คนหล่อๆมีเยอะแยะ”ซองจงว่าพรางหยิบขนมเขาปากก่อนจะมองมยองซูด้วยความสงสัย
ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเดือนคณะคนนี้สนใจใครไม่ว่าจะผู้หญิงสวยๆผู้ชายที่ตามจีบหรือใครก็แล้วแต่มยองซูไม่สนใจใครทั้งนั้น
“คนที่นายบอกว่าหล่อแต่หยิ่งอะ
ที่เรียนบัญชีคลาสเดียวกับเรา”มยองซูว่าแล้วมองหน้าซองจงอย่างรอคำตอบก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นใครอีกคนที่เขากำลังพูดถึง
ร่างสูงที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะคนเดียวไม่มีเพื่อนหรือใครๆเข้ามาคุยด้วยเลย
ใบหล่อเคร่งเครียดจนเขาอดห่วงไม่ได้ เขารู้ตัวมานานแล้วว่าเป็นคนขี้สงสาร
กับเพื่อนวัยเดียวกันแบบผู้ชายคนนั้นเขาก็ยิ่งเป็นห่วงและสงสารไม่ได้
ชีวิตเขาไม่เคยต้องมานั่งขายของหาเงินเองเลยสักครั้ง
“อ่อพี่ซองกยู”ซองจงมองตามสายตาของเพื่อนไปก่อนจะบางอ้อแล้วเอ่ยออกมาทำให้มยองซูหันมาขมวดคิ้วใส่ทันที
“เขาเรียนปีเดียวกับพวกเราก็จริงแต่เขาอายุมากกว่าเรา”ซองจงว่าราวกับตัวเองเป็นนักสิบ
ก็แหงล่ะเขาชอบใบหน้าหล่อๆของพี่ซองกยูจะตายแค่ไปสืบประวัติของอีกคนที่บอกข้อมูลไม่กี่บรรทัดแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยาก
แม้ว่าประวัติของซองกยูจะหายากและมีน้อยราวกับไม่ใช่คนทั่วไปก็ตาม
“ทำไม?”พอได้รู้มานิดมยองซูก็อยากรู้มากกว่าเดิม
“หน้าจะหยุดไปเรียนมั้ง ”ซองจงว่าตามคำสันนิษฐานของตนเอง
“หยุดเรียนหรอ”มยองซูพึมพำเบาๆแต่สายตายังมองไปที่อีกคนไม่ห่าง
ซองกยูเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาเพียงนิดก่อนจะรีบก้มหน้าอ่านเหมือนเดิม
“หน้าจะมีปัญหาอะไรแหละ เพราะแอบรู้มาว่าหยุดไปตั้งสองปีพี่เขาเป็นคนนิ่งๆเงียบๆไม่สุงสิงกับใคร
ไม่รู้ว่าเรียนถึงปีสามแล้วมีเพื่อนบางหรือยัง”ซองจงบ่นไปตามความคิดของตนแล้วมองซองกยูด้วยความเห็นใจ
เขาพอจะรู้มาเหมือนกับว่าพี่ซองกยูทำงานหนักและเป็นคนเงียบขรึมเพื่อนๆเลยไม่ค่อยชอบ
เขาเคยเข้าไปชวนคุยอยู่ครั้งหนึ่งแต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความเงียบ
“แล้วนายถามชื่อเขาทำไมเหรอ”ซองจงถามขึ้นพรางมองเพื่อนอย่างจับผิด
“พอดีฉันไปเจอเขาขายของอยู่ที่ตลาดคนเดินเมื่อคืนน่ะ
ตอนนั้นก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วไม่คิดว่าจะมีเด็กมหาลัยไปขายของดึกขนาดนั้น
เลยอยากรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน”มยองซูเล่าความจริงให้เพื่อนฟังตอนนี้เขานึกสงสารซองกยูจนอยากจะร้องไห้
ทำไมคนที่ดูจะขยันและเรียนเก่งแบบซองกยูถึงต้องดรอปเรียนถึงสองดี
แล้วยังต้องไปขายของดึกๆดื่นๆแบบนั้นอีกหรือว่าเขาสบายเกินไปจนไม่รู้วิถีชีวิตของคนอื่น
“อ่อ ฉันก็อยากรู้แต่ไปสืบประวัติมา
ประวัติพี่เขามีน้อยมาก บอกแค่ชื่อกับอายุและสถานที่เรียน
ที่อยู่ครอบครัวหรืออะไรไม่มีในข้อมูลเลยอะ”ซองจงว่า
ก่อนจะหันไปมองคนที่มยองซูมองอยู่ เพื่อนเขาไม่ละสายตาไปจากผู้ชายคนนี้เลย หลายๆคนก็อาจจะเป็นแบบนั้นเพราะคิม
ซองกยูน่ะหล่อมากกว่าเดือนคณะหลายคนซะอีกแต่อีกฝ่ายกับไม่ช่วยเหลืองานของมหาลัยเลยเพราถ้าเป็นอย่างนั้นตำแหน่งเดือนมหาลัยคงจะไม่หลุดมาถึงเพื่อนของเขาหรอก
“อืม ขอบใจนายนะ”มยองซูว่าแล้วลุกขึ้นยืนทันทีก่อนจะก้าวฉับๆเดินไปหาคนที่ตนจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
จนกระทั่งมาหยุดยืนเกาอี้ฝั่งตรงข้ามของซองกยู
อีกคนก็ไม่มีท่าทีจะสนใจเลยแม้แต่น้อยจนมยองซูต้องกระแทกก้นลงบนเกาอี้แรงๆคนตรงหน้าถึงค่อยๆเลยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาเรียบๆ
“นี้ นายกินข้าวยังอะ”มยองซูถามขึ้นแต่ซองกยูก็ยังมองมาที่เขานิ่งๆเหมือนเดิม
“กินหรือยัง ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวไปซื้อมาให้”มยองซูว่าแล้วส่งยิ้มไปให้
เขาพอจะจำได้ว่าตอนแรกๆที่เขาเจอซองกยูอีกฝ่ายไม่ได้ซูบผอมขนาดนี้
“ไม่เป็นไร”ร่างสูงตอบเสียงเรียบก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋าทันที
“นี่จะรีบไปไหน”มยองซูถามขึ้นด้วยความร้อนรน เขาไม่หน้าคบจนอีกฝ่ายต้องลุกหนีเลยหรอ
“คุณจะใช้โต๊ะนี้ไม่ใช่เหรอเพราะงั้นผมจะลุกไปให้”ซองกยูว่า
เขาเห็นตั้งแต่แรกว่ามยองซูมองมาที่เขาแล้วพูดคุบกับเพื่อนอีกคนแต่ไม่คิดว่าอีกคนจะเดินมานั่งรวมโต๊ะกับเขาและตอนนี้คนก็มองมาด้วยความสนใจ
เขาไม่ชอบการเป็นจุดเด่น
“ใช่ แต่ฉันจะใช้กับนาย”มยองซูว่าแล้วคว้าแขนอีกคนให้นั่งลง
“ช่วยกินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”เสียงออดอ้อมพร้อมกับดวงตาที่ส่งมาทำให้ซองกยูใจสั่นจนยอมนั่งลงตามเดิม
“เพื่อนคุณ?”ซองกยูพยักเพยิดหน้าไปทางซองจงที่กำลังมองมาที่พวกเขาสองคนอย่างสนใจ
“หมอนั้นกำลังไดเอต
ฉันไม่มีเพื่อนกินข้าวช่วยกินเป็นเพื่อนหน่อยนะ”มยองซูทำท่าหน้าสงสารและเขย่ามือแขนซองกยูไปมาอย่างออดอ้อนทำให้ร่างสูงยอมใจอ่อนและเดินตามร่างบางไปซื้อข้าว
แต่เขาไม่ได้จ่าย
มยองซูเป็นคนจ่ายให้และบอกกับเขาว่าเพราะเป็นคนชวนมากินเลยออกค่าข้าวให้
และสุดท้ายวันนี้เขาก็ได้ทานข้าวเที่ยงในรอบปีกับเดือนคณะสุดฮอตจนใครๆหลายคนต่างส่งสายตามองเขาอย่างไม่ชอบใจ
“เดี๋ยวไปเรียนพร้อมกันนะ”มยองซูว่าแล้วสะพายกระเป๋าก่อนจะส่งยิ้มไปให้ซองกยู
“คุณไปก่อนเถอะ”ซองกยูตอบเสียงเรียบก่อนจะรวบจานข้าวทั้งของเขาและมยองซูไว้ด้วยกันเพื่อนำไปส่งให้แม่ค้า
พวกเธอจะได้ไม่ต้องมาตามเก็บ
“ทำอะไร”มยองซูถามด้วยความสงสัย
“ผมจะเก็บจานไปให้แม่ค้า คุณไปก่อนเถอะ”ซองกยูว่าแล้วลุกขึ้นถือจานไปส่งที่ร้านที่ตนไปซื้อข้าวมาโดยมีมยองซูเดินตามหลัง
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”มยองซูถามขึ้นหลังจากที่ซองกยูส่งจานข้าวไปให้แม่ค้าและเดินไปล้างมือ
“เพราะมันคือความลำบากของพวกเขา
จานพวกนี้ไม่รู้ว่าของร้านไหนบ้างแต่แม่ค้าแต่ละร้านต้องมาเดินหาจานร้านตัวเอง
มันเหนื่อยนะ”ซองกยูว่าแล้วเดินนำอีกคนไปทำให้มยองซูต้องเร่งฝีเท้าเพื่อนเดินให้ทัน
เขาอยากสนิทกับซองกยูเพราะซองกยูดูเป็นคนดี
“เข้าใจล่ะ ปะไปเรียนกัน”ด้วยความไม่ทันคิดอะไรมือบางฉวยจับมือเรียวสวยของร่างสูงก่อนจะออกแรงดึงเพื่อขึ้นไปบนตึกที่ตนต้องเรียน
ซองกยูมองมือเล็กๆของร่างบางที่กุมมือตนอยู่ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
เขาอยากจะสะบัดมือมยองซูออกแต่ก็ไม่กล้า
เพราะอาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจของอีกคนแม้ไม่รู้ว่าที่มยองซูเข้ามาคุยและทำดีด้วยนั้นเพราะเหตุผลอะไร
เขาอยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่ามยองซูกำลังสนใจเขาอยู่แต่การคิดไปเองก็อาจจะทำให้เขาเจ็บ
มยองซูอาจจะเห็นเขาเป็นแค่เพื่อนรวมคณะหรือเห็นเป็นแค่คนไม่มีเพื่อนเลยสงสาร
แต่สำหรับเขาแล้วมยองซูคือนางฟ้าที่เข้ามาทำให้ใจเขาปั่นป่วนวุ่นวายเสมอ
ความคิดเห็น