คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สร้างบรรยากาศ
สถานที่นัดหมายที่แรกก็เป็นหน้าร้านกาแฟเล็กๆในย่านเมียงดง เลย์ไม่คิดจะนัดคริสไว้ที่บ้าน เพราะถ้าหากผู้เป็นพ่อรู้เรื่องเข้า เดี๋ยวก็ถูกตั้งคำถามหลายๆคำถามขึ้นมาอีก ยิ่งขี้เกียจหาคำตอบยู่ด้วย ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน อะไรทำนองนั้น เอาไว้ให้เลย์มั่นใจในตัวเขาเมื่อไหร่ แล้วค่อยพาเขาเข้าไปพบท่าน
เมื่อเข็มของนาฬิกา เดินผ่านไปไม่กี่นาที ในที่สุด เจ้าของร่างสูงก็เดินทางมาถึง ด้วยรถราคาแสนแพงของวันนั้น... คริสค่อยๆผ่อนความเร็วลงแล้วจึงจอดตรงบริเวณหน้าร้าน ก่อนที่พาตัวเองลงจากรถเมื่อสังเกตเห็นเลย์กำลังยืนรออยู่..
“รอผมนานมั้ยครับ” คริสปริปากพูดทักทายพลางถอดแว่นตากันแดดนั่นออก แล้วส่งยิ้มออกมาจางๆ
เลย์จ้องมองอีกฝ่าย ที่กำลังอยู่ในเสื้อโปโลสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว ถึงแม้ร่างสูงจะอยู่ในเพียงแค่ชุดธรรมดา แต่ก็ยังเรียกสายตาของใครหลายคนจงใจหันหน้ามามองเขากันทั้งนั้น
“ไม่นานหรอกครับ”
“งั้นเราก็ไปกันเลย” คริสพูดชวน แต่คนตัวเล็กยังไม่ทันรู้ว่าเขาจะพาไปไหน เพราะลืมถามเขาไว้ก่อนหน้านี้
“เอ่อ แล้วคุณจะพาผมไปไหนหรอครับ”
"เดี๋ยวก็รู้เองแหละครับ รับรองว่าที่ๆผมจะพาไป มันทั้งสวยแล้วก็ถูกใจคุณแน่นอน ผมว่าเราไปกันเลยดีกว่า"
คริสใช้มือสากๆเลื่อนไปจับมือของเลย์โดยที่ไม่รอรับอนุญาต ก่อนจะจูงขึ้นไปนั่งบนรถข้างๆกัน แล้วสตาร์ทเครื่องเคลื่อนรถออกไปหลังจากนั้น
แค่สัมผัสแรก เลย์ก็รู้สึกว่าเขาช่างอบอุ่นเหลือเกิน
สงสัย ฟ้าคงสั่งให้เลย์เป็นโสด จะได้ลงโทษไอ้คนตาไม่ถึง และยังนำพาให้พบกับเทพบุตรเดินดินอีกด้วย
“วันนี้คุณแต่งตัวน่ารักจังครับ” คริสเอ่ยขึ้นหลังจากที่ขับรถออกไปได้สักพัก พลางใช้สายตาคมกริบจ้องมองคนข้างๆ ซึ่งกำลังอยู่ในเสื้อยืดบางๆสีขาว กางเกงยีนส์ห้าส่วน รองเท้าผ้าใบคู่เล็กๆสีน้ำตาล คริสไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคนข้างๆ ช่างน่ารัก จนทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะลักยิ้มนั่น
“ขอบคุณครับ คุณก็เหมือนกัน เมื่อกี้ผู้หญิงหลายคนต่างก็เหลียวมองคุณกันทั้งนั้น”
“เรื่องนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วครับ ในเมื่อคนมันหน้าตาดี” คริสยักไหล่พูดอย่างมั่นใจตัวเอง
“แหม ไม่ค่อยหลงตัวเองเท่าไหร่เลยนะครับ” เลย์เอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก็ในเมื่อเขาพูดความจริงนี่
“ก็คนมันมีดี ก็ต้องพูดสิครับ ใครเขาจะเอาข้อเสียของตัวเองมาพูดล่ะ”
“ก็นั่นน่ะสิครับ เป็นผมก็คงจะเอาเรื่องดีๆมาพูดเหมือนกัน แต่พอสนิทกันขึ้นมาจริง เเล้วเราค่อยพูดข้อเสียของตัวเอง แต่ว่าในขณะเดียวกัน เราก็ควรจะแก้ไขข้อเสียไปด้วย”
“เรื่องนี้ผมก็เห็นด้วยครับ”
คริสพยักหน้ารับตาม ก่อนจะเลื่อนมือไปเปิดวิทยุในจังหวะที่ดีเจกำลังเปิดเพลงแนวสบายๆ ... ความเงียบก็เริ่มปกคลุมไปชั่วขณะ เพราะทั้งสองกำลังตั้งใจฟังพร้อมทั้งโยกหัวไปมาตามจังหวะเพลง.....
เลย์ค่อยๆเลื่อนกระจกลงเพื่อรับสายลมกับแสงแดดเบาๆที่สาดส่องลงมาหลังจากที่เดินทางออกนอกเมืองหลวงได้สักพัก ก่อนที่ร่างบางจะใช้คางเรียวอิงกับขอบหน้าต่าง พลางมองสำรวจภาพท้องถนนที่ไร้ซึ่งความแออัดจากการจราจร...
เมื่อเวลาเดินผ่านไปหลายร่วมชั่วโมง ในที่สุดคริสก็ขับรถมาถึงสถานที่ๆตนนั้นต้องการพามา เมื่อเลย์ใช้สายตาเพ่งมองไปข้างหน้า ก็ปรากฏให้เห็นเป็นร้านอาหารในแบบธรรมชาติ มีหลายๆศาลาตั้งเรียงรายกันอย่างสวยงาม มีทะเลสาบขนาดใหญ่กว้างล้อมรอบ และมีสายลมเย็นๆคอยพัดผ่านเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เลยทำให้ความร้อนจากแสงแดดของยามบ่ายค่อยๆทุเลาลง
“สวยจังเลยครับ คิดยังไง คุณถึงพาผมมาที่นี่” เลย์ขยับปากเอ่ยถาม หลังจากที่พาตัวเองลงจากรถโดยที่มีคนร่างสูงกำลังเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ...
“คือพอดีร้านนี้เป็นร้านของเพื่อนผมครับ แล้วผมก็ชอบมากๆด้วยเพราะบรรยากาศมันสวยมาก ผมก็เลยพาคุณมา... แล้วคุณชอบมั้ยครับ”
“ชอบมากเลยครับ (ชอบทุกที่ที่มีคุณอยู่) บรรยากาศก็สวยอย่างที่คุณพูดไว้”
"ผมดีใจจังที่คุณชอบ" คริสฉีกยิ้มอย่างดีใจ ไม่เสียแรงที่ตนขับรถพามาตั้งไกล พอเห็นเอ่ยปากสมว่าชอบ ก็พลอยทำให้เขาหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“งั้นเราก็ไปหาที่นั่งกันเลยดีกว่าครับ” คริสเอ่ยปากชวน เลย์จึงพยักหน้ารับตามที่คนร่างสูงบอก ก่อนที่จะมองสำรวจหาที่นั่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสังเกตเห็นตรงบริเวณที่ไร้ซึ่งผู้คนเดินผ่านไปมา มีลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาได้ง่าย...พวกเขาก็เลยตัดสินใจเลือกที่นั่น
และเมื่อทั้งสองหาที่นั่งกันเรียบแล้วแล้ว คริสจึงขออาสาขนของที่ตัวเองเตรียมมาตั้งแต่บ้าน ซึ่งนั้นก็คือกีตาร์ตัวโปรดของเขา รวมทั้งเรียกเด็กเสิร์ฟมารับออเดอร์
“อยากฟังผมร้องเพลงมั้ยครับ ฟังก่อนที่เขาจะเอาอาหารมาเสิร์ฟ” ร่างสูงเสนอพร้อมทั้งยกกีต้าร์โปร่งขึ้นมา แล้วปรับสายให้มันเข้าที่
“คุณเล่นเป็นด้วยหรอ”
“เป็นสิ... ผมน่ะไม่ได้มีดีแค่หน้าตาอย่างเดียวนะครับ แต่ยังมีความสามารถพิเศษด้วยนะ” คริสพูดอย่างโอ้อวด
“ผมรู้แล้วน่าว่าคุณหน้าตาดี ไม่เห็นต้องพูดย้ำก็ได้นี่”
“ครับๆ แล้วคุณอยากฟังเพลงอะไรครับ เดี๋ยวผมจะเล่นให้ฟัง”
“อื่ม.... เพลงของจางกึนซอกอ่ะครับ เพลงอะไรก็ได้”
수줍은 그의 속삭임 스며드는 귓가에
ซูจูบึน คือเอ ซกซากิม ซือมยอนดือนึน ควีดกาเอ
ความเขินอายขณะที่กำลังกระซิบในหูของเธอ
소복하게 쌓여가는 우리들의 이야기
ซูโบคาเก ซาฮยอกานึน อูรีดือเร อียากี
เรื่องราวระหว่างเราถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ
서로를 바라보며 살아가는
ซอโรรึล พาราโบมยอน ซารากานึน
ความสุขในยามที่เรามองสบตากันและกัน
참 어리석고 예쁜 모습들
ชัม ออรี ซอกโก เยปึน โมซึบตึล
ความงดงามที่ดูเหมือนโง่เขลา
타박타박 걸어가는 나지막한 골목길
ทาบักทาบัก คอรอกานึน นาจีมาคัน คลมกกิล
ช่วงเวลาที่ค่อยๆก้าวเดินไปในซอย
틈 사이로 비춰오는 한 모금의 햇살처럼
ทึม ซาอีโร พีชวอโอนึน ฮัน โมคึมเอ แฮดซัลชอรอม
ช่องว่างที่เพียงพอให้แสงแดดสาดส่องผ่านเข้ามา
무엇조차 알 수 없던 나에게
มูออดโจชา มัล ซู ออบตอน นาเอเก
ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรจะเป็นเช่นไร
작은 꿈하나를 심어주는 너
ชากึน กุมฮานารึล ซีมอจูนึน นอ
เธอได้ปลูกฝังความฝันเล็กๆของฉัน
my precious (my precious)
my precious (my precious)
สิ่งมีค่าของฉัน (สิ่งมีค่าของฉัน)
가시같았던 기억들이 흔적도 없이 사라질만큼 따뜻하게
คาซีกาทัดตอน คีออกตือรี ฮึนจอกโต ออบซี ซาราจิลมันคึม ตาตึดฮาเก
ความทรงจำที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น ฉันไม่อยากให้จางหายไปจนไม่เหลืออะไร
my precious (my precious)
my precious (my precious)
สิ่งมีค่าของฉัน (สิ่งมีค่าของฉัน)
작은 한아름조차 소중히 간직하게 될 것만 같은 이런 설레임
ชากึน ฮานารึมโจชา โซจุงฮี คันจีคาเก ดเวล คอดมัน คาทึน อีรอน ซอลเรอิม
ก้าวเดินเล็กๆที่ยึดมั่น ความตื่นเต้นแบบนี้ เราควรจะรักษามันไว้
기분 좋은 바람에 스치는 옷 깃 위로
คีบุน โชอึน พาราเม ซือชีนึน อด กิด วีโร
ชื่อเสียงที่พัดผ่านสายลมกระทบคอเสื้อ
부서지는 너의 눈빛 두손을 모아 담으며
พูซอจีนึน นอเอ นุนบิด ดูโซนึล โมอา ดามือมยอ
แววตาของเธอ มือของเราที่ผสานไว้ด้วยกัน
철 없이 그저 순수했던 말들이
ชอล ออบซี คือจอ ซุนซูแฮดตอน มัลดือรี
วันเวลาอันบริสุทธิ์จนไม่มีคำกล่าวใดๆ
내 가슴 위로 전해져 온다
แน กาซึม วีโร ชอนแฮจยอ อนตา
หัวใจฉันที่ควักออกมาและหยิบยื่นให้
유난히 간절했던 잃어버린 내 바램들
ยูนันฮี คันจอลแฮดตอน อีรอบอริน แน พาแรมดึล
ถึงจะสูญเสียความหวังและสิ่งล้ำค่า
머뭇머뭇 주억이다 한 숨 짓고 돌아서며
มอมุดมอมุด ชูออกีดา ฮัน ซุม ชิดโก โทราซอมยอ
ประโยคที่ทำให้แตกหักจนความทรงจำผันแปร
혼자서만 남겨질 것 같았던
ฮนจาซอมัน นัมกยอจิล คอด คาทัดตอน
สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว
내 두 손을 꼭 잡아주는너
แน ทู โซนึล กก ชาบาจูนึนนอ
เธอได้จับมือฉันเอาไว้แน่น
my precious (my precious)
my precious (my precious)
สิ่งมีค่าของฉัน (สิ่งมีค่าของฉัน)
부서질것만같던 가슴을 말 없이 쓰다듬어 줬던 너의 손길
พูซอชิมกอดมันกัดตอน คาซือมึล มัล ออบซี ซือดาดือมอ ชวีดตอน นอเอ ซนกิล
หัวใจฉันที่ยังคงเต้นระรัว ท่ามกลางความมืดที่เธอยื่นมือมาให้
my precious (my precious)
my precious (my precious)
สิ่งมีค่าของฉัน (สิ่งมีค่าของฉัน)
너만 곁에 있다면 무엇도 해낼 수 있을 것만같은 이런 설레임
นอมัน คยอเท อิดดามยอน มูออดโต แฮแนล ซู อีซึล คอดมันกาทึน อีรอน ซอลเรอิม
เธอเพียงคนเดียวที่จะผ่านฉันไปได้และทำให้ฉันรู้สึกสนุกในชีวิต
เพียงแค่ไม่กีนาทีที่ผ่านไป เสียงเพลงเพราะๆที่คนร่างสูงได้ถ่ายทอด ก็นำพาเลย์เข้าไปสู่ความรู้สึกที่เขาส่งมาผ่านเสียงเพลงที่ตนนั้นชอบ...
เลย์แทบไม่ละสายตาไปไหนได้ เพราะเขาช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน... ถึงแม้ว่าร่างบางไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดนตรีเท่าไหร่ แต่การสื่อสารทางสายตาและอารมณ์ของเขา มันช่างเหมือนศิลปินระดับมืออาชีพจริงๆ
“เป็นยังไงบ้างครับ พอฟังได้มั้ย” คริสเอ่ยถามหลังจากที่เล่นเพลงจบก่อนจะวางกิตาร์ลงข้างๆ
“ผมว่าไม่ใช่แค่พอฟังได้หรอกครับ แต่เพราะมากๆเลยต่างหาก”
“หรอครับ ดีใจจังที่คุณชอบ คุณรู้มั้ย นี่เป็นครั้งแรกของผมเลยนะครับ ที่เล่นกีต้าร์ให้คนที่เพิ่งรู้จักฟัง....
“จริงหรอ” เลย์ถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“จริงครับ” เขายืนยันด้วยกระแสเสียงที่หนักแน่น “เอ่อ เลย์ คือผมมีอะไรบางอย่างจะถามคุณนะครับ แล้วก็อยากจะถามมาตั้งแต่ที่พบคุณครั้งแรกแล้ว"
"อะไรหรอครับ"
"เอ่อ คือ ถ้าผมบอกว่า ผมจะจีบคุณ จะได้มั้ยครับ...."
ประโยคแค่เพียงสั้นๆที่เอยขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ เป็นผลทำให้เลย์ถึงกับนิ่งงันในทันที ก็ในเมื่ออยู่ดีๆอีกฝ่ายก็พูดออกมาแบบหน้าตาเฉย
แต่ภายในใจ
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เลย์ก็อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆเสียตอนนี้เลย ถ้าให้ไม่ติดว่าต้องเก็บอารมณ์ไว้ไม่ข้างในเพียงคนเดียว ก็คงจะตะโกนระบายความรู้สึกให้โลกได้รับรู้แล้ว ก่อนจะกลับไปตีสีหน้าเหมือนว่ายังไม่มั่นใจกับคำพูดของคริส ทั้งๆที่อยากจะพูดตอบรับออกไปตั้งแต่ที่เขาเอ่ยวาจา
“ยังหรอกครับ เพราะผมไม่รู้ว่าคุณจะพูดออกมาจากใจจริง หรือแค่พูดส่งเดช”
“ผมไม่ได้พูดส่งเดชเลยนะครับ ผมรู้สึกพิเศษกับคุณ จริงๆ”
ทุกๆคำพูดนั้นล้วนแต่ถูกกลั่นมาจากส่วนลึกข้างใน จนสามารถทำให้เลย์สัมผัสถึงความรู้สึกนั้นได้... มันไม่ใช้สิ่งที่โกหกเหมือนอย่างที่ผ่านมา.... แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ฉายแววออกมาจากดวงตาคมกริบนั้น...
“พูดมันก็พูดได้ แต่การกระทำมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกอย่าง ผมก็รู้ว่าคุณมันพวกคนหลายใจ คุณก็อาจจะจีบผมแบบทิ้งๆขว้างๆก็ได้” เลย์ทำท่าพูดตัดพ้อ พร้อมทั้งคอยสังเกตท่าทีของเขา แค่อยากจะลองใจเขาดูอีกครั้ง
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ... ผมไม่เคยจีบใครมาก่อนเลย นอกจากคุณ มีแต่คนอื่นเข้ามาหาผมก่อนทั้งนั้น... แล้วที่สำคัญ... คุณรู้มั้ยว่าผมต้องรวบรวมความกล้าแค่ไหนที่ ต้องพูดคำนั้นออกไป”
“ผมไม่เชื่อหรอก”
“จริงๆนะครับ แล้วเรื่องที่ผมแลกเบอร์กับคุณวันนั้น มันก็เป็นความหน้าด้านครั้งแรกของผมเหมือนกัน"
คริสพยายามอธิบายให้เลย์เชื่อ... ร่างบางได้แต่ครุ่นคิดเพียงแค่อย่างเดียว เพราไม่รู้จะเชื่อดีหรือเปล่า ในเมื่อทุกๆคำพูดยังไม่การพิสูจน์ แต่เมื่อเก็บเอาเรื่องไปคิดทบทวนอีกครั้ง ก็เลยทำให้เลย์ยิ้มออกมาที่มุมปาก พร้อมกับต้องทนเก็บความรู้สึกดีใจจนออกนอกหน้ามากแค่ไหน
“จริงหรอ”
“จริงแท้แน่นอนครับ... เรื่องนี้ผมไม่โกหกคุณแน่”
“เอ่อ ถ้างั้น ก็” ไม่ทันที่เลย์จะพูดตกลงรับคำเขา ก็มีเสียงของใครบางคนพูดขัดจังหวะเสียก่อน
"เอ่อ ขออนุญาต เสิร์ฟอาหารนะครับ" เสียงเด็กเสิร์ฟเข้ามาแทรกการสนทนา ก่อนจะวางเมนูที่สั่งลงโต๊ะ เลยทำให้สองให้ความสนใจของที่อยู่ต่อหน้า
“ขอบคุณครับ” คริสหันหน้าไปพูด ก่อนจะผินหน้ากลับมาหาเลย์อย่างเดิม “เรามาทานกันเลยดีกว่านะครับ มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย”
“ครับ”
จากนั้นทั้งสองจึงลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย... เลย์แอบมองอีกเขาเป็นระยะๆ พลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เพราะฟังจากที่เขาพูดมาทั้งหมด เขาไม่ได้มีพิษภัยอะไร แถมยังเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งด้วยซ้ำ...
ถ้าใครไม่หนีบตัวเขาไว้ให้อยู่หมัด ก็เอาเขามาสวมที่หัวได้เลย
...............................................................................................................................
มาอีกโมเมนท์หนึ่งสำหรับคู่นี้ เลย์ก็แรงไม่เคยเปลี่ยน คริสก็คิดจะจีบเลย์แล้ว
เลย์ก็นะทำท่าเหมือนเล่นตัว ทั้งที่จริงอยากได้เขาจนตัวสั่นฮาๆๆ ต่อไปเป็นคู่ของ
ชานแบคแล้วนะ จะออกมากวนประสาท บยอนอีกตามเคย คือตอนนี้ไรท์กำลัง
คิดตัวละครอีกตัวหนึ่งขึ้นมา คือคู่ ฮุนฮาน จะเอา แทมินออกก่อน เพราะไม่เกี่ยว
กับวง คู่นี้จะออกแนวดราม่านิดๆ
ยังไงก็ หนึ่งคอมเมนท์คือหนึ่งกำลังใจ อ่านแล้วก็ติดแท็กตาม เฟส ตาม ทวีต
ตามอะไรต่อก็ได้นะ #ฟิควันพลัสวัน
ความคิดเห็น