คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ไอ้เด็กปากหมา
เมื่อเห็นว่าเลย์หายตัวไปเข้าห้องน้ำเสียเนิ่นนาน เลยทำให้เพื่อนอย่างแบคฮยอน ต้องชะเง้อหน้ามองตามหาคนที่หายตัวไปทั่วทั้งบริเวณของร้าน.. แต่ก็ยังไม่พบเห็นแม้แต่เงา ไม่รู้ว่าหายไปนานแบบนั้นจะเกิดอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับเพื่อนตัวดีหรือเปล่า ยิ่งช่วงนี้สติของเลย์ก็ยิ่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ด้วย แบคฮยอนจึงอดไม่ได้ที่จะต้องอาสาออกไปตามหาเพื่อนด้วยตัวเอง
“นี่ไอ้ดีโอ เดี๋ยวฉันจะไปตามไอ้เลย์ก่อนนะ มันหายไปนานมากแล้ว"
“เออๆ แกรีบไปเหอะ ไม่รู้ว่ามันตกส้วมตายไปแล้วหรือเปล่า” โด้พยักหน้ารับอย่างเห็นดี ในใจก็เริ่มเป็นกังวลเหมือนกัน เพราะเมื่อเวลาที่เพื่อนดื่มหนักสติก็มักจะเลอะเลือนอยู่เสมอ
“งั้นเดี๋ยวชั้นมานะ”
พอพูดจบ แบคฮยอนก็รีบพาตัวเองออกจากโต๊ะไป ซึ่งที่แรกก็คงจะเป็นตรงบริเวณห้องน้ำ เพราะเห็นว่าหายเข้าไปตรงนั้น และด้วยความที่เดินไม่ระวังทาง เลยทำให้ร่างบางเผลอชนเข้ากับชายร่างสูงคนหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ จนเป็นผลทำให้ทั้งสองเสียการทรงตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เหวออ!!”
ในขณะที่แบคฮยอนกำลังจะล้มลงพื้น แต่เดชะบุญ ที่อีกฝ่ายก็รีบพาตัวเองมารับร่างเล็กไว้ทัน และเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เผยให้เห็นคนที่รับไว้อย่างถนัดตา ใบหน้าขาวเผือด จมูกโด่งๆ หน้าตาหลอเหล่ายิ่งกว่าเทพบุตร ซึ่งทำให้แบคฮยอนหยุดมองเขาไม่ได้ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะเจ้าของร่างสูงนั้นมีลักษณะท่าทางและการแต่งตัวคล้ายๆกับเด็กมอปลายที่หนีพ่อแม่ออกมาเที่ยว
“ขะ ขอโทษ” แบคฮยอนพูด ในขณะที่เด็กหนุ่มร่างสูงค่อยๆปล่อยร่างเล็กกว่าออกจากอ้อมกอด
“ไม่เป็นไรครับ แต่คราวหน้า ป้า ก็เดินให้มันดีๆหน่อยแล้วกัน”
ฉึก แบคฮยอนหยุดนิ่งไปโดยอัตโนมัติ ป้า อย่างงั้นเหรอ.
กรี๊ด!!... แบคฮยอนงอุตส่าห์พูดชมซะดิบดี แต่ตอนนี้อารมณ์ มันโมโหจนเลือดจะขึ้นหน้าอยู่แล้ว
“ป้าบ้านบิดาแกอ่ะดิ!! ไอ่เด็กปากหมา!!” แบคฮยอนถลึงตากระชากเสียงใส่ดังๆ แทนที่อีกฝ่ายจะโมโหที่ถูกด่า แต่กลับยิ้มออกมากวนๆแบบหน้าตาเฉย
“ก็มันจริงนี่น่า หน้าคุณก็ใกล้เคียงกับป้าของผมเลย” เด็กหนุ่มตอกย้ำจุดอ่อนของแบคฮยอนอย่างจงใจ
“กรี๊ดๆๆ ไอ้เด็กบ้า! ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นนะเว้ย!” ร่างเล็กเต้นเร้าๆ ราวกับถูกผีเข้า
“ไม่แก่ได้ไง ดูสี ตอนที่คุณโมโหเมื่อกี้เนี่ย หน้าก็มีแต่รอยตีนกาเต็มไปหมดเลย น่าขำซะมัด”
แบคฮยอนรีบยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของตัวเองทันที นี่หน้าของตนเหี่ยวขนาดนั้นเลยหรอ อุตส่าห์ใช้ครีมราคาแพงมาจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยนะ
“นี่ป้า ผมขอตัวก่อนนะครับ เสียเวลามามากพอแล้ว บาย”
แบคฮยอนไม่ทันที่จะอ้าปากด่าให้หายแค้น ทว่าเด็กหนุ่มดังกล่าวก็โบกมือแล้วหายตัวไปอย่างว่องไว ปล่อยให้ร่างร่างเล็กยืนกระทืบเท้าหลายครั้งยิ่งกว่าเจ้าเข้าทรง ราวกับเป็นการระบายความโมโห
“ไอ้เด็กบ้าเอ้ย! อยากให้เจออีกนะ แม่ง จะด่าให้มันลืมบรรพบุรุษเลยคอยดู ฮึย!” ปลายลิ้นเรียวขยับกรนด่าอย่างหัวเสีย ก่อนจะก้าวขาออกจากบริเวณนั้นไป เพราะยังคงต้องตามหาเลย์ต่อ
แต่เมื่อเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ฝาเท้าเล็กๆของแบคฮยอนก็ดันเหยียบเข้ากับของสิ่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นวัตถุสี่เหลี่ยม ด้วยความที่อยากรู้ แบคฮยอนจึงยกฝาเท้าออก เผยให้เห็นโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดในสภาพที่ยังดีอยู่
ร่างบางเลยก้มตัวลงเก็บมันขึ้นมา ซึ่งภาพพักหน้าจอปรากฏเป็นรูปไอ้เด็กหูกางเมื่อกี้นี้ สงสัยไอ้เด็กนั่นคงจะรีบมากไปหน่อย เลยไม่ทันสังเกตว่าทำของหล่น
แบคฮยอนกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย เมื่อรู้ว่าตัวเองมีข้อต่อรองไว้กวนประสาทเอาคืนไอ้ด็กปากหมานั้นได้แล้ว
เสร็จชั้นแน่ ไอ้เด็กเปรตไม่มีวัด (เขามีแต่เปรตวัดสุทัศน์!
เมื่อแบคฮยอนหันหน้าไปตรงทางเข้าห้องน้ำ ก็พบเห็นเลย์กำลังเดินออกมาอยู่พอดี ภายใต้ใบหน้าที่ฉาวแววอย่างมีความสุข เหมือนกำลังฟินอะไรสักอย่าง... แบคฮยอนจึงหันหลังเดินกลับไปจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเดิม
“ทำไมหายไปนานนักนะ จนฉันต้องออกไปตามแกอยู่เนี่ย” เมื่อเข้านั่งประจำที่ แบคฮยอนก็เริ่มเปิดฉากต่อว่าเพื่อนตัวดีทันที
“เอ่อ พอดีมีคนเข้ามาคุยกับฉันน่ะ ฉันก็เลย คุยกับเขานานไปหน่อย”
“ใคร” เป็นเสียงของดีโอ้ที่ต่อเสียงถามขึ้น
“เขาชื่อคริสน่ะ คนอะไรไม่รู้ โคตรหล่อเลย ฐานะทางบ้านก็ดี แถมยังเป็นไฮโซชื่อดังอีกต่างหาก... เขาบอกว่าเขาชอบฉันตั้งแต่แรกเห็น ฉันเองก็รู้สึกเริ่มจะชอบเขาแล้วเหมือนกัน
เลย์เล่าด้วยสีหน้าเพ้อๆ ราวกับเพิ่งได้เยื่อรายใหม่ ทำเอาคนที่เหลื่อต่างก็ส่ายหน้าเพราะความเอื่อมระอากับความใจง่ายของเพื่อน
“เดี๋ยวก่อนนะ.. ชื่อคริสอย่างงั้นหรอ”
“อืม ใช่ ทำไมหรอ ไอ้ดีโอ”
“ก็ไม่ทำไมหรอก บางทีเขาอาจจะใช่คนที่ฉันรู้จักก็ได้ เอ่อแล้วที่บ้านของเขาเนี่ย ทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเกาหลีใช่มั้ย” ดีโอต่อเสียงถามอีกเพราะความอยากรู้
“ใช่... แกรู้จักกับเขาหรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอก พอดี พ่อฉันกับพ่อเขาเป็นเพื่อนสนิทกันน่ะ ฉันเองก็เคยได้พูดคุยกับเขาสองสามครั้งตอนออกงาน”
“จริงหรอ” ดวงตากลมโตลุกวาวขึ้น เพราะความสนใจ
“เออ ท่าทางแกคงจะแอบชอบเขาจริงๆแล้วล่ะสิ ถึงได้คิดจะอ่อยเขาน่ะ”
“จะบ้าหรอ เขามาหาฉันเองต่างหาก แล้วฉันก็ไม่ใช่คนใจง่าย!”
“แต่ก็ได้ไม่ยาก!!” แบคฮยอนต่อท้ายให้ ก่อนจะพูดขึ้นต่อ “ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆเลย... คนก่อน แกก็บอกว่า เขาเป็นคนเดียวที่ฉันจะรัก พอมาถึงไอ้คนที่เพิ่งเลิกกับแก แกก็บอกว่า เขาเป็นรักสุดท้ายของฉัน แล้วพอมาคราวนี้ ฉันก็จะคงได้ยินแกพูดอีกว่า ฉันจะยอมตายแทนเขา อย่างนั้นแน่ๆเลย”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ ไอ้เลย์มันก็ชอบมโนอะไรแบบนี้ตลอด” โด้พูดเสริมอย่างเห็นดี
“นี่ ไม่ต้องมาว่าฉันเลยนะ พวกแกไม่รู้จักความรัก พวกแกไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนั้นหรอก แล้วคราวนี้นะ ฉันจะทำให้คริสรักฉันให้ได้เลยคอยดู แล้วฉันก็จะทำให้เขาไม่ทิ้งฉันไปไหนเหมือนไอ้พวกคนที่ผ่านมาอีกเด็ดขาด” เลย์พูดอย่างแน่วแน่
“แล้วถ้าทำไม่ได้ล่ะ” แบคฮยอนถาม และก็ไม่มีทางจะเชื่อง่ายๆ
“ฉันก็จะเลี้ยงเหล้าพวกแกหนึ่งอาทิตย์ แล้วฉันก็จะงดมีแฟนไปตลอดหนึ่งปีเลย ตกลงมั้ย” เลย์ออกคำท้า
“ตกลง/ตกลง” ทั้งสองรับคำพร้อมกันโดยไม่ต้องคิด ก็ในเมื่อเพื่อนเสนอคำท้าออกมาดีซะขนาดนี้ ไม่เล่นด้วยก็ไม่ได้แล้ว
“แต่ถ้าเขารักฉันขึ้นมาจริงๆ พวกแกต้องมาเลี้ยงเหล้าฉันแทน โอเคมั้ย”
“โอเค/โอเค” คราวนี้ พวกเขาก็เอออตามอีกครั้ง
ดวงตากลมหวานของเลย์กำลังฉายแววอย่างแน่วแน่ คราวนี้ เจ้าของร่างบางจะไม่ขอพลาดเหมือนครั้งก่อนอีกแล้วและถ้าหากได้ความรักจากเขามาด้วยจริงๆ มันก็จะดีไม่น้อย จะได้ไม่ต้องทนอยู่กับความรักจอมปลอมเหมือนอย่างที่ผ่านมา
พวกเขาทั้งสามดื่มกันได้เพียงสักพัก พูดคุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะแยกย้ายกันดินทางกลับ
เมื่อแบคฮยอนเดินทางกลับถึงบ้าน เจ้าของร่างบางก็รีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวเข้านอน ซึ่งภายในบ้านขนาดกลางสองชั้น ถูกตกแต่งได้อย่างสวยงามด้วยสไตล์แนวสมัยใหม่ แต่หากรอบๆตัวบ้านถูกปกคลุมด้วยความเงียบ เนื่องจากพ่อแม่ของแบคฮยอน ต้องเดินทางไปทำงานร่วมกันที่ญี่ปุ่น จะกลับมาอีกทีก็คงเป็นเดือนหน้า หรือไม่ก็อาจจะเป็นปีหน้า เพราะธุรกิจที่นั้นยังคงไม่ลงตัวเท่าไหร่นัก
ส่วนแม่บ้านทำความสะอาดที่เคยจ้าง ตอนนี้ลาป่วย อีกนานคงจะกลับมาทำงานได้ปกติ แบคฮยอนเลยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง แล้วก็ทำหน้าที่บริหารเบเกอรี่ของตัวเองที่พ่อแม่ลงทุนไว้ให้... ถึงแม้บางครั้งมันจะเหนื่อยก็ตามที แต่แบคฮยอนก็มีความสุขที่ได้ทำมัน เพราะจะได้ไม่ต้องแบมือขอเงินพ่อแม่เหมือนไอ้เพื่อนตัวดีสองคนนั้น
พอหงายตัวลงนอนได้ไม่นาน ระหว่างนั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่เก็บมาได้ก็ดังขึ้น ร่างบางใช้มือเรียวเล็กเลื่อนไปหยิบมันขึ้นมาดู ซึ่งไม่รู้ว่านั่นเป็นใคร แต่ก็กดรับสาย
“ฮัลโหล”
“ฮัลโหล สวัสดีครับ เอ่อขอโทษนะครับ คุณเป็นคนที่เก็บโทรศัพท์ของผมได้ใช่มั้ยครับ” ปลายสายเอ่ยถามขึ้นอย่างใจร้อน
ซึ่งแบคฮยอนก็ดีดตัวขึ้นจากที่นอนทันที รู้สึกคุ้นๆเสียงนั้นเหลือเกิน เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
แต่เมื่อแบคฮยอนลองคิดทบทวนดูดีๆ ร่างบางก็เบิกตากว้างขึ้น เมื่อรู้แล้วว่านั่นเป็นใคร อีกอย่างโทรศัพท์เครื่องนี้ก็เป็นของเด็กหนุ่มคนนั้น
“เออ ชั้นเนี่ยแหละที่เป็นคนเก็บมือถือของนายได้ ไอ้เด็กปากหมา!!” แบคฮยอนพูดกระแทกอย่างชัดถ้อยชัดคำ
และเมื่อปลายสายได้ยินคำด่าสุดท้าย ก็ทำให้รู้ทันทีว่าใครเป็นคนเก็บโทรศัพท์ของเขาได้
“เฮ้ย คุณคือยัยป้าที่ชนผมนี่ ป้าเอาโทรศัพท์ไปทำไม”
“จะบ้าหรอ! นายทำหล่นเองต่างหาก! ฉันไม่ได้เอาของนายไปสักหน่อย”
“แต่ป้ามาเดินชนผมก่อน มันก็เลยหล่น เพราะฉะนั้นป้าเป็นคนผิด”
“ไม่ต้องมาโทษชั้นเลยนะ! แล้วก็เลิกเรียกชั้นว่าป้าได้แล้ว เพราะหน้าชั้นไม่ได้หน้าแก่เหมือนแม่นายนะเว้ย”
“โอเคครับ ไม่พูดแล้วก็ได้ แล้วคุณจะส่งโทรศัพท์ให้ผมคืนวันไหน” เด็กหนุ่มผ่อนเสียงลง เพราะอีกฝ่ายถือใพ้เหนือกว่า ถ้าขืนยังกวนประสาทเขาต่อไป บางทีก็อาจจะไม่ของคืนก็ได้
“ฉันไม่ให้!” แบคฮยอนตอบปฏิเสธจนเต็มเสียง “แล้วโทรศัพท์เครื่องนี้ นายเป็นคนทำหล่นเอง ส่วนฉันเป็นคนเก็บได้ เพราะฉะนั้นมันก็ตกเป็นของชั้นโดยชอบทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“นี่ป้า พูดอย่างนี้มันก็เข้าข่ายพวกโจรชัดๆ” เด็กหนุ่มเป็นคนตะโกนร้องกลับบ้างอย่างเหลืออด ก็ในเมื่อปลายสายไม่ยอมทำตามคำของ่ายๆ
“เอ๊ะ นายนี่ ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่าป้าอีก!!” แบคฮยอนตะคอกออกไปดังๆ เจ็บใจเหลือเกินที่ตนถูกหาว่าแก่
“แล้วใครใช้ให้ป้ามากวนประสาทผมก่อนล่ะ แล้วถ้าไม่คิดจะส่งผมคืน ผมตามถึงที่แน่!! ป้าหนีไม่รอดผมหรอก” เด็กหนุ่มพูดขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เหอะ! อยากทำอะไรก็เชิญเลย ชั้นไม่สน แล้วชั้นก็ไม่กลัวด้วย"
“ก็ได้ แต่ป้าจำไว้นะว่าผม ชื่อ ปาร์ค ชานยอล แล้วใครคิดจะลองดีกับคนอย่างผม มันต้องเจอดีทุกคน หึ แล้วชื่อนี้เนี่ยแหละ จะคอยหลอกหลอนป้าไปจนตาย!” ปลายสายขู่เสียงเขียว แต่มีหรือว่าคนอย่างแบคฮยอนจะกลัว เพราะไอ้เด็กปากหมานั้นไม่ได้อยู่ใกล้กันสักหน่อย
“ไม่ต้องมาขู่ฉันเลย! แล้วฉันก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ฉัน ไม่ มี วัน ส่ง โทร ศัพท์ คืน ให้ นาย เด็ดขาด แค่นี้นะ! ติ๊ด"
พูดจบ แบคฮยอนก็หงายตัวลงนอน ส่วนอีกฝ่ายนั้นยังคงกดโทรออกมือแทบหงิก แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าร่างบางจะรับสาย จนในที่สุด แบคฮยอนก็เข้าสู่ห่วงนิทรา
................................
แบคกับหยอยพบกันแล้ว แบคก็แรง หยอยก็กวนสุดๆ
เหมาะสมกันดี มวยถูกคู่เลยยังก็เมนท์ด้วยนะ จะได้มีกำลังใจในการเขียน
ติดแท็กได้เลย #ฟิควันพลัสวัน
:)
Shalunla
ความคิดเห็น