คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : หลากหลายอารมณ์
ส่วนทางด้าน คริส เมื่อเห็นว่าน้องของตัวเองหายไปเกือบทั้งคืนก็รู้สึกกะวนกะวายเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทะเลาะกับผู้เป็นพ่ออย่างรุนแรง น้องชายก็ไม่กลับบ้านเข้าอีก... และเมื่อเลิกงานเสร็จร่างสูงก็พยายามกดโทรหาจนมือแทบจะหงิก แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับแล้วอยู่ๆก็ติดต่ออีกไม่ได้เลย....
ความจริงทั้งหมดเขาก็มีส่วนผิดร่วมด้วย เพราะเห็นดีเห็นงาม ปล่อยให้ชานยอลออกไปเล่นดนตรีจนดึกจนดื่น ทั้งๆที่ก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะซะด้วยซ้ำ...
เขาจึงจัดการโทรหา เซฮุน เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกับชานยอลแทน แต่สุดท้ายเขาก็พบแต่ความผิดหวัง เมื่อเซฮุนไม่รู้ด้วยเลย
พอเซฮุนได้ทราบข่าวว่าเพื่อนรุ่นน้องหายออกจากบ้านไปเขาก็รู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก เพราะรู้ดีว่า ชานยอลมักจะมีปัญหากับคนเป็นพ่ออยู่เสมอ....
ไม่รู้ ทำไม ช่วงนี้เซฮุนมีแต่เรื่องเครียดๆเข้ามารุมเร้าอยู่ตลอด เพื่อนก็หายตัวไป ส่วนแฟน ก็ทะเลาะเกือบจะทุกวัน
และด้วยความที่ร่างสูงนั้นมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนทำให้ไม่ทันเดินอย่างระวังในขณะที่ก้าวขาออกจากห้อง เลยทำให้เดินไปชนกับใครอีกคนหนึ่งเข้าอย่างไม่ตั้งใจ จนให้ทั้งสองเสียการทรงตัวเพียงเล็กน้อย
“เอ่อ ขอโทษครับ” เซฮุนกล่าวขอโทษโดยที่ยังไม่ทันหันหน้าไปมอง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ไม่ทันมองเหมือนกัน”
คนที่เขาชนก็เป็นลู่หานซึ่งกำลังพูดด้วยนอยยิ้มหวานๆ ความจริงร่างบางต่างหากที่เป็นคนตั้งใจเดินชนเขาเอง เพื่อหาเรื่องเข้าใกล้ชายหนุ่ม
“อ้าวคุณเองเหรอครับ”
“ครับผมเอง ทำไมคุณถึงได้เดินใจลอยละครับ แถมยังทำหน้าเครียดๆด้วย มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ลู่หานเอ่ยปากถาม พลางแสร้งว่าเป็นห่วงเขา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นอารมณ์ปกติไม่ค่อยอยู่กับตัว
“ก็มีเรื่องนิดหน่อยครับ คือรุ่นน้องสมัยมัธยมของผม เขาทะเลาะกับพ่อแล้วก็หนีออกจากบ้านครับ จนป่านนี้ยังไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน หลายคนโทรไปหาหลายครั้งแล้วแต่มันก็ไม่รับสาย” เซฮุนตีสีหน้าเหนื่อยๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“แล้วคุณโทรหาเพื่อนๆของน้องชายคุณแล้วหรือยังครับ” ลู่หานแนะนำ
“ยังครับ เพราะผมก็เพิ่งจะรู้ข่าวจากพี่ชายของเขา”
“อื่ม... คุณไม่ต้องกังวลหรอกนะครับ ผมคิดว่า เขาแค่จะหาที่พักใจสักพัก พอหายโกรธ เขาก็คงจะกลับบ้านเองแหละ” ลู่หานยิ้มให้บางๆ ก่อนจะส่งสายตาที่แสดงถึงความเป็นห่วงเพื่อเป็นการปลอบใจ
“ผมก็หวังว่าคงจะเป็นแบบนั้น
“เอ่อ.. เราไปหาอะไรทานกันดีกว่าไหมครับ พอหลังจากนั้นแล้วค่อยตามหาน้องชายคุณอีกที เดี๋ยวผมจะช่วยคุณอีกแรง”
“ครับ งั้นก็ไปกันเลย” เซฮุนยอมตกลงแบบง่ายๆ
ลู่หานยื่นมือไปจับมือสากๆของอีกฝ่ายนั้นไว้ก่อนจะเดินจูงมือไปพร้อมกัน
“จะรีบพากันไปไหน”
เป็นเสียงแหลมๆของคนมีมาใหม่เอ่ยถามขึ้นดังๆข้างหลัง ทำให้ทั้งสองหันหน้าไปทางต้นเสียงพร้อมๆกัน
“แกรนด์” ลู่หานเอ่ยชื่อเธออย่างเบื่อหน่าย เพราะเธอคงจะมาหาเรื่องเหมือนเดิม
“เซฮุนคะ แกรนด์โทรหาเซฮุนป็นร้อยๆสายแล้วนะ ทำไมไม่รับ แกรนด์ยังคุยเรื่องคืนนั้นยังไม่จบเลยนะ”
เธอกระชากใส่ดังๆอย่างจงใจ เลยทำให้ใครหลายคนหันมามองแล้วเก็บเอาเรื่องของทั้งสามคนเก็บไปนินทาจนสนุกปาก
“แต่ผมเคลียร์กับแกรนด์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ แล้วผมก็ขอให้มันจบๆไปเหอะ”
มันไม่มีทางจบง่ายๆหรอก ถ้าเซฮุนยังไม่มีทางเลิกติดต่อกับลู่หาน”
สายตาเกรี้ยวกราดของเธอหันทิศไปทางคนตัวเล็กอย่างคาดโทษ... แบคฮยอนพึ่งจะรู้ในวันนี้ว่าแกรนด์ก็ร้ายมากกว่าที่ตัวเองคิด “แล้วที่สำคัญทำไมเมื่อกี้ต้องจับมือกันด้วย”
“ที่ลู่จับมือผม เป็นเพราะว่าเขาแค่อยากให้กำลังใจผม ที่เพื่อนรุ่นน้องของผมตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน มันไม่มีอะไรเกินเลยหรอกนะ เพราะเราเป็นแค่เพื่อนกัน”
“แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหน หา!!”เสียงแหลมๆที่เธอกระชากออกมาคราวนี้ ยิ่งทำให้ใครหลายคนต่างก็ให้ความสนใจมากกว่าเดิม
ลู่หานจึงกระตุกยิ้มออกมาเหยียดๆ ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก ก็ปั่นหัวคนได้อย่าง่ายดาย ก่อนจะพูดอะไรออกไป
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของลู่เอง อย่าทะเลาะกันเพราะลู่เลยนะ .. ลู่ก็แค่เห็นเซฮุนเขาไม่สบายใจ แล้วก็จะปลอบใจให้เฉยๆ ถ้าจะโทษก็โทษที่ลู่เหอะ”
“แน่นอน ว่าลู่เป็นคนผิด... แกรนด์ขอสั่งไว้นะ ว่าห้ามเข้ามาวุ่นวายกับเซฮุนอีกเด็ดขาด”
“แกรนด์ผมว่าหยุดเถียงกันดีกว่า คนเขามองกันหมดแล้วเนี่ย... แล้วผมกับลู่หานก็เป็นเพื่อนกัน จะให้เลิกยุ่งกันได้ยังไง”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ.... เพราะแกรนด์เป็นแฟนของเซฮุน แล้วเซฮุนก็ต้องเชื่อคำที่แกรนด์พูด”
“ก็ได้แกรนด์ ถ้าแกรนด์เห็นว่าลู่จะเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเซฮุนกับแกรนด์ ลู่จะถอยออกมาก็ได้... แต่ให้เลิกยุ่งทีเดียวก็คงไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกนะ... ลู่ขอตัวก่อนละ ขืนอยู่ไปก็มีแต่ทะเลาะกันเปล่าๆ”
สิ้นคำพูด ลู่หานจึงเดินออกจากตรงบริเวณนั้นทันที... ก่อนจะฉีกยิ้มที่มุมปากอย่างสะใจ อย่างคนได้รับชัยชนะ
ที่ห้องรับแขกที่เก่า เวลาใหม่
เมื่อทานข้าวเสร็จแบคฮยอนโยนผ้าเช็ดสีขาวตัวให้กับชานยอล ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินเข้าไปห้องน้ำ..... เสียงน้ำจากฝักบัวดังกระทบลงพื้นห้องน้ำได้แค่ไม่นาน ร่างสูงก็เดินออกโดยที่มีผ้าขนหนูพันไว้แค่รอบเอว เผยให้เห็นเนื้อหนังขาวเนียนเรียบ หยดน้ำก็ค่อยๆไหลลงตามปลายเส้นผมกระทบลงแผงอกขาวๆเรื่อยๆจนถึงซิกแพคที่แข็งแรงนั่น แบคฮยอนมองดูอีกฝ่ายแทบจะไม่กะพริบตา เหมือนดั่งมีมนต์สะกดที่ทำให้แบคฮยอนหยุดมองอย่างนิ่งงัน
“มองผมแบบนี้ คิดจะทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับผมอยู่ใช่ไหม”
เสียงใหญ่ของชานยอลเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมุ่ยหน้า เลยทำให้สติที่หลุดลอยของคนที่ยืนนิ่งงันกลับเข้าสู่สภาวะปกติในทันที
“บะ บ้าแล้ว ใครเขาจะมองนาย” แบคฮยอนขยับปากพูดขึ้นแบบสั่นๆ ในเมื่อเขาพูดตรงจนเกินไป
“แล้วทำไมหน้าคุณถึงได้แดงขนาดนั้นล่ะ”
ร่างบางยกมือขึ้นแตะหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าหน้ามันร้อนผ่าวเหมือนที่เจ้าตัวพูดไว้หรือเปล่า
“เอ่อ... อาจเป็นเพราะอากาศร้อนมั้ง หน้าฉันเลยแดงไปหน่อย”
“จริงเหรอครับ" ชานยอลหลิ่วตาถามกวนๆ
“ก็เออนะสิ แล้วทำไมอาบน้ำไม่เช็ดตัวให้แห้งก่อน ดูสิ พื้นบ้านฉันเปียกหมดแล้วเนี่ย รีบๆไปเช็ดตัวเลยไป”
“ครับ เดี๋ยวผมจะเช็ดเดี๋ยวนี้แหละ ..”
หมับ
ชานยอลดึงร่างของแบคฮยอนเข้ากอดอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะใช้อกแข็งๆถูหลังของร่างบางไปมาจนเริ่มเปียกไปพร้อมๆกัน
“นายทำอะไรของนายเนี่ย!!” ร่างบางพูดพร้อมทั้งดิ้นอยู่อ้อมอกขาวๆ
“ก็เช็ดตัวอย่างที่คุณบอกไง” ชานยอลตอบทั้งที่ยังกอดร่างบางไว้
“ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ผ้าขนหนูก็มีทำไมไม่เช็ด จะกอดฉันไว้ทำไม ฉันอึดอัดนะโว้ย!!”
“ก็คุณบอกให้ผมเช็ดตัวผมก็เช็ดแล้วไง ผมก็เลยใช้วิธีนี้ หรือว่ามีปัญหา”
“เออ มี!!” สุดเสียง แบคฮยอนใช้เท้าเล็กๆเหยียบเท้าของร่างสูง จนต้องปล่อยร่างบางออกมาโดยทันที
“โอ๊ย เจ็บนะ!!” ชานยอลร้องครางพร้อมทั้งกระโดดเอามือกุมเท้าด้วยความเจ็บปวด แต่ในจังหวะเดียวกัน ผ้าขนหนูที่ร่างสูงสวมใส่ก็หลุดร่วงลงพื้น เผยให้เห็นของลับอย่างประจักตา เมื่อขณะที่แบคฮยอนผินหน้ามามอง
“เฮ้ย!! /เฮ้ย!!”
พอรู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรปกปิดของสำคัญไว้ ชานยอลก็รีบก้มลงหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบๆตัวไว้อย่างเดิม ส่วนคนที่กำลังมองอยู่ ยังคงยืนนิ่งค้างเป็นหุ่นขี้ผึ้งกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา
“นี่คุณจะยืนตาค้างแบบนั้นอีกนานไหม” ชานยอลพูดท้วง พลอยทำให้สติของแบคฮยอนหลุดออกจากภวังค์อย่างรวดเร็ว
“คะ ใคร ตาค้าง ฉันไม่ได้ยืนตาค้างสักหน่อย อีกอย่างของนายมันก็แค่ไม่จิ้มฟันเท่านั้นเอง”
แต่ความจริงตามสายตาของแบคฮยอนที่เห็น อาวุธของตัวเองต่างหากที่เป็นไม้จิ้มฟัน ส่วนของเด็กหนุ่มนั้น ระดับราชามังกร
“อะไรนะ ไม่จิ้มฟันอย่างงั้นเหรอ... มาดูใหม่เดี๋ยวนี้เลยนะ”
ชานยอลพูดพร้อมจะแก้ผ้าขนหนูออก แต่ร่างบางนั้นยกมือขึ้นห้ามไว้เสียก่อน
“หยุดๆ จะบ้าหรือไงไอ้เด็กบ้า เป็นโรคจิตเหรอ ถึงได้ชอบโชว์ของน่ะ”
“ก็ผมอยากให้คุณดูอีกทีไง ว่าความจริงน้องชายของผมไม่ใช่เล็กๆเลยนะ”
“นี่พอได้แล้ว ไอ้เด็กปัญญาอ่อนเอ๊ย แล้วก็รีบๆเช็ดตัวให้แห้งซะ เดี๋ยวฉันจะหาเสื้อผ้ามาให้ใส่ ฉันล่ะปวดหัวกับนายจริงๆเลย”
ความคิดเห็น