ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] เมียแก่ เมียแรด เมียอาฆาต [chanbaek]

    ลำดับตอนที่ #13 : หลายเรื่องที่ชวนให้ปวดหัว

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 57











    หลายวันต่อมา

     

     

     

    เซฮุนยังคอยตามลู่หานอยู่ไม่เลิก จนในที่สุด ร่างเล็กยอมอ่อนใจกับการที่เขาคอยตื้อ ถึงขั้นไปรับไปส่งเกือบทุกวัน เมื่อแกรนด์นั้นเผลอ

     

     

    ถึงแม้เขาประกาศจะจีบลู่หานอย่างโจ่งแจ้ง แต่คนตัวเล็กนั้นรับยอมตกลงกับเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น เพราะบางทีการเล่นตัวนิดหนึ่ง มันอาจจะทำให้ตัวเองมีค่าในสายตาของคนร่างสูง...

     

     

    และถึงแม้ว่าทั้งสองจะแอบคบกันลับๆ แต่ยังไงก็คงไม่พ้นหูพ่นตาแกรนด์อยู่ดี เพราะตอนนี้เธอกำลังยืนดักรอลู่หานที่หน้าห้องเรียบร้อยแล้ว พอเห็นเป้าหมายกำลังเดินตรงออกมา แกรนด์ก็ก้าวขาเรียวเดินเข้าไปขวางทางไว้ในทันที

     

     

    ลู่บอกแกรนด์มาเดี๋ยวนี้เลยนะ ว่าลู่กำลังจะทำอะไรกันแน่” เสียงแหลมๆที่ลู่หานคุ้นเคยเอ่ยขึ้นเจือปนด้วยความไม่พอใจ... ร่างเล็กชะงักโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวอดีตคนเคยรัก กำลังจ้องมองรอคำตอบอย่างใจจดใจจอ

     

     

    แล้วทำอะไรที่ว่าของแกรนด์ มันหมายถึงอะไรล่ะ” ลู่หานตอบกลับไปอย่างเรียบๆ นานมากแล้วเหมือนกัน ที่ไม่มีโอกาสได้คุยกัน.... ลู่หานไม่อยากจะเชื่อเลยว่า แกรนด์จะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้... จากที่เคยเรียบร้อย น่ารัก พูดจาอ่อนหวาน แต่ ณ ตอนนี้ ทุกอย่างมันเลือนหายไปจนน่าใจหาย เพียงเพราะผู้ชายคนนั้นคนเดียว

     

     

    ก็หมายความว่าที่ลู่เข้ามาหาเซฮุนแฟนใหม่แกรนด์ไง

     

     

    แกรนด์เน้นย้ำคำสุดท้ายเป็นพิเศษเหมือนจะเป็นการประชดประชัน... แต่หากความรู้สึกของลู่หานกลับมีแต่ความนิ่งเฉย แปลกไปจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ในเมื่อเพียงคำพูดทำร้ายจิตใจแค่ไม่กี่คำของแกรนด์ ก็เกือบจะฆ่าลู่หานให้ตายได้อย่างช้าๆ แต่ทว่าตอนนี้ไม่เลย มันไม่ลงเหลือความรู้สึกแบบนั้นไว้แล้ว ลู่หานเองก็แทบจะไม่เข้าใจตัวเองเลยเหมือนกัน

     

     

    ลู่ว่าแกรนด์น่าจะเข้าใจจุดประสงค์ของลู่ดีนะ ว่าที่แท้แล้วลู่คิดจะทำอะไร” ลู่หานขยับปลายลิ้นเรียวพูดอย่างท้าทาย และแน่นอนแกรนด์ฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายของลู่หาน 

     


    ถ้าลู่คิดจะแก้แค้นพวกเรานะ แกรนด์ก็ไม่มีทางยอมเหมือนกัน!” เธอพูดอย่างคับแค้นใจ เพราะความรักที่เธอมีต่อเซฮุน มันมากมายจริงๆ มากเท่ากับชีวิตของเธอเลยด้วยซ้ำ

     

     

    งั้นก็คอยดูสิ ว่าใครมันจะพัง” ลู่หานฉีกยิ้มที่มุมปาก ไม่กลัวแววตาของหญิงสาวสักนิด ที่กำลังลุกวาวขึ้นจนน่ากลัว

     

     

    ลู่! ที่ลู่ทำไปทั้งหมด เพราะอยากจะประชดแกรนด์ใช่ไหม

     

     

    เธอตั้งคำถามด้วยความอยากรู้... ลู่หานกลับนิ่งเงียบก่อนจะเก็บคำพูดของแกรนด์กลับมาคิดทบทวนในชั่วขณะ....

     

     

    ประชดงั้นเหรอ มันมากกว่านั้นต่างหาก

     

     

    ".............."

     

     

    หึ ลู่ยังรักแกรนด์อยู่ไช่ไหม” แกรนด์เป็นฝ่ายฉีกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่าลู่หานเงียบไปสักพัก...

     

     

    แต่ความรู้สึกของร่างบางมันไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้วล่ะ ในเมื่อความเชื่อมั่นต่อความรัก มันตายไปตั้งนานแล้ว ตายไปพร้อมๆกับการหักหลังของคนที่อยู่ต่อหน้าอย่างเลือดเย็น

     

     

    ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลู่บอกได้แน่นอนว่าลู่รักแกรนด์มาก รักมากเท่าชีวิต แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่อีกแล้ว เพราะลู่ไม่มีวันกลับไปรักคนหลอกหลวงอย่างแกรนด์ได้อีก!

     

     

    ประโยคสุดท้ายลู่หานเน้นย้ำอย่างเจ็บแสบ ทำให้แกรนด์ถึงกับหน้าเสียไม่น้อย เพราะยังคงคิดว่าลู่หานยังอาลัยอาวอนในตัวเธออยู่

     

     

    "แล้วที่ลู่ทำไปทำทั้งหมด เพราะคิดจะแย่งเซฮุนไปจากแกรนด์ไช่ไหม!!"  เธอถลึงตากระชากเสียงถามดังๆ ราวจะเป็นการประกาศอย่างจงใจ พลอยทำให้ใครหลายคนผ่านไปมาได้ยิน ก่อนจะผินหน้ามามองด้วยความเอื่อมระอา

     

     

    ลู่ไม่จำเป็นต้องแย่งเซฮุนของแกรนด์หรอกนะ เพราะเขาเข้ามาหาลู่เองต่างหาก

     

     

    แกรนด์ไม่เชื่อ! เซฮุนเขาไม่มีทางนอกใจแกรนด์แน่นอน!

     

     

    แน่ใจเหรอ... แกรนด์ก็รู้นี่เมื่อวัยก่อนนายนั้นยังยืนกอดผู้หญิงสองคนที่ผับนั้น” น้ำเสียงที่เย้ยยันอย่างรุนแรง สาบานได้ว่าลู่หานไม่เคยทำกับใครมาก่อน โดยเฉพาะกับคนที่เคยรัก ซึ่งมันยังทำให้ขอบตาของแกรนด์ร้อนผ่าวขึ้นก่อนที่น้ำตาจะไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้างเนียนๆ... มือเล็กๆของเธอจึงยกขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะขยับปากพูดออกมาอย่างคับแค้นใจ

     

     

    ฮึก เซฮุนไม่มีทางนอกใจแกรนด์เด็ดขาด ในคลิปนั่นเป็นแค่เพื่อนเขาเท่านั้น

     

     

    ถ้าเชื่อแบบนั้นแล้วทำให้แกรนด์สบายใจก็เชื่อไปเหอะ แล้วถ้าลู่เป็นแกรนด์นะ ลู่ก็คงไม่โง่งมงายแบบนั้นหรอก ลู่ขอตัวก่อนนะ ออ แล้วที่สำคัญ อย่าลืมบอกเซฮุนด้วยนะ ว่าเดี๋ยวคืนนี้ ลู่จะโทรหาเขา

     

     

    สิ้นสุดคำว่าร้าย ลู่หานก็เดินเลี่ยงออกไปทันที ปล่อยให้แกรนด์ยืนร้องไห้คนเดียวเพียงลำพัง...พลางกำมือไว้แน่นๆจนน่ากลัว

     

     

    สรุปแล้ว เธอคงรักนายคนนั้นมากสินะ... ลู่หานไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี ที่ทิ้งเขาไปแล้วเลือกรักกับคนหลายใจพันนั้น

     

     






     

    ที่ร้านเบเกอรี่

     

     

                เมื่อเลิกเรียนเสร็จ ลู่หานก็เข้าไปทำงานตามปกติทุกวัน แต่ที่แปลกไปกว่านั้น ทำไมสายตาของลูกค้าผู้ชายกลับมาจับจ้องที่ลู่หานแทบจะทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา แต่ลู่หานก็ไม่สนใจอะไร อยากมองก็ปล่อยให้มองไป ในเมื่อต้องทำงานต่อหน้าผู้คนเยอะแยะแบนี้เป็นประจำ

     

     

                "ลู่ ฉันมีอะไรจะถามแก" จีซก เมื่อเห็นว่าลูกค้าเริ่มทยอยออกจากร้านไป เมื่อเลยเวลาสามทุ่มแล้ว  ก็รีบเข้ามาเอ่ยถามพนักงานรุ่นน้องทันที เพราะมีสิ่งที่ต้องการอยากรู้ให้ได้

     

     

                "อะไรหรอ"

     

     

    ตอนนี้แกกำลังคุยกับนายเซฮุนอยู่ใช่มั้ย” จีซกเข้าประเด็นหลัก เพราะตนพึ่งทราบเรื่องนี้มาจากเพื่อนในมหาวิทยาลัยมาอีกที

     

     

    "อืม" ลู่หานพยักหน้าตอบตามความจริง ในเมื่อไม่เห็นจำเป็นต้องปิดบังอยู่แล้ว

     

     

    งั้นก็แสดงว่า แกกำลังเริ่มวางแผนทำร้ายพวกนั้นอยู่ใช่ไหมยุริที่อยากรู้เรื่องด้วยก็เลยอดไม่ได้ที่จะปริปากถามต่อ

     

     

    ก็ ประมาณนั้นมั้ง

     

     

    ว่าแล้วเชียวแบคฮยอนที่สนใจด้วยคนก็โพลงขึ้นด้วยเสียงเหนื่อยๆ นี่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆนะ ลู่ก็เลิกแล้วต่อกันไปเหอะ พี่ไม่ค่อยเห็นดีด้วยเลยนะ เพราะเห็นใครต่อใครต่างก็พูดว่านายเซฮุนเป็นพวกเจ้าชู้ แถมยังชอบฟันแล้วทิ้ง ทำให้ผู้หญิงหลายคนร้องไห้กันทั่วมหาวิทยาลัย จนมีบางคนถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย... พี่กลัวว่าลู่จะตกเป็นเหยื่อของนายนั่นซะก่อน

     

     

    แบคฮยอนยกประโยคที่ตนนั้นพอรู้มาบ้างเอ่ยขึ้นเตือนสติ...  แบคฮยอนกลัวจริงๆ กลัวว่าลู่หานจะตกเป็นของเล่นของเซฮุนสักวัน... เพราะใครๆต่างก็รู้จักว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์หลายใจแค่ไหน ในวงการไฮโซ ใครเขาก็ล่ำลือเช่นนั้น

     

     

    ใช่” จีซกพูดต่อจากแบคฮยอนอย่างเห็นดี  “เรื่องนี้ชั้นเห็นด้วยนะ ถึงแม้ว่าแกอาจจะเปลี่ยนไป พยายามทำตัวเข้มแข็งขึ้น แต่ยังไงซะ แกก็รู้ไม่เท่าทันคนอย่างนายเซฮุนหรอก

     

     

    หลายความคิดถาโถมเข้ามาคราวเดียว... ใช่ ความจริงทั้งหมดเหมือนที่เพื่อนทั้งสองนั้นพูด เขาเป็นคนที่อันตรายจริงๆ โดยเฉพาะกับรอยยิ้มและสายตาคมกริบของคนร่างสูง ที่ยังวนเวียนในหัวของลู่หานเรื่อยๆ..  แต่ถึงยังไง เจ้าของร่างบางก็เตรียมตัวไว้อย่างรอบคอบ ลงทุนสืบประวัติของฝ่ายนั้นจนหมดเปลือก เพราะถ้าหากจะเล่นกับไฟ ก็คงต้องพกน้ำไว้รอดับมัน

     

     

    เหมือนอย่างที่ผมบอกพวกพี่มาตลอด ผมเดินมาไกลแล้ว ผมไม่หันหลังกลับไปหรอก

     

     

    โอ๊ย!! ไอ้ลู่ ที่ชั้นพูดกรอกหูแกมาตลอดเนี่ยมันไม่เข้าหูแกเลยใช่ไหม!!

     

     

    งั้นมั้ง พี่ยุริ” ลู่หานพูดออกไปด้วยสายตาที่แน่วแน่ “แล้วไม่มีใครคิดที่จะห้ามผมได้ด้วย

     

     

    เฮ้อ...เวรกรรมๆ... อย่างนี้แหละน่า ที่เขาเรียกว่า ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์ แล้วตอนนี้ ลู่ก็กำความทุกข์ไว้จนแน่นเต็มมือเลยแหละ เฮ้อ...แบคฮยอนถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะหมดหนทางจะฉุดรั้งน้องรักให้ถอยห่างกลับมา

     

     

    แต่เอาเถอะ... ยังไงแกก็ระวังตัวก็แล้วกันถ้ายังคิดจะแก้แค้นคนอย่างเขา... แล้วที่สำคัญอย่าไปลงภาพลวงตาที่เข้าสร้างขึ้นมาเด็ดขาด เพราะบางที มันอาจจะเป็นแกซะมากกว่าที่จะกลายเป็นคนเจ็บปวด” ยุริก็เริ่มปลงไปตามๆกัน เห็นสายตาที่ฉายแววอย่างชัดเจนขนาดนั้น ต่อให้มีช้างมาลากไว้ ลู่หานก็คงไม่มีทางถอยออกมาอย่างแน่นอน

     

     

    ไม่มีทางหรอก เพราะผมไม่ได้ชอบผู้ชายเอ่ยจบ ลู่หานก็แยกตัวไปทำงาน ปล่อยให้คนที่เหลือต่างก็ส่ายหัวเนือยๆ ก่อนจะกลับไปทำงานเช่นเดิม

     

     

    เมื่อเข็มนาฬิกาเดินเลยผ่านสี่ทุ่ม ก็ถึงเวลาเลิกงาน ทุกคนจึงช่วยกันปิดร้านแล้วแยกย้ายกันกลับ

     







     

    ผ่านไปอีกแล้วหนึ่งวัน ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป นอกจากลู่หาน ดวงตากลมโต ไม่มีท่าทีจะอ่อนโยนแม้แต่นิดเดียว

     

     

    จนทำให้แบคฮยอนเริ่มรู้สึกกลัวว่าลู่หานจะแพ้ภัยตัวเองเสียมากกว่า ถึงแม้จะเข้มแข็งแค่ไหน แต่ข้างในส่วนลึกกลับซุกซ่อนความอ่อนแอเอาไว้

     

     

    แบคฮยอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยในขณะที่ก็ข้ามทางมาอีกฟากเพื่อจะขับรถกลับบ้าน.... แต่เมื่อขับพ้นจากร้านไม่กี่นาที เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ร่างบางจึงหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับ ซึ่งปลายสายนก็เป็นเลย์ ที่อยากจะโทรชวนออกไปนั่งหาอะไรทานภายในร้านอาหารชื่อดังในย่านเมียงดง โดยที่มีดีโอกำลังรอคอยร่างบางอยู่ รวมทั้งมีธุระมากมายที่อยากจะพูด...

     

     

    พอวางสาย แบคฮยอนจึงเดินทางไปหาในทันที... หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึง... แล้วผลักประตูกระจกหน้าร้านเขาไปมองสำรวจเพื่อนทั้งสองที่กำลังนั่งรออยู่ตรงมุมไกลสุดของร้าน

     

     

    เฮ้ ไอ้แบคทางนี้ดีโอกวักมือเป็นเชิงการส่งสัญญาณ แบคฮยอนจึงก้าวเดินเข้าไปหาหลังจากนั้น

     

     

    "มีธุระอะไรด่วนหรือเปล่าถึงได้โทรชวนฉันออกมา" แบคฮยอนพูดขึ้นก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ด้านของเลย์ โดยที่โด้นั่งอยู่ตรงกันข้าม

     

     

    ก็มีนิดหน่อย

     

     

    อะไรล่ะ

     

     

    คือว่าคืนนี้ เพื่อนของคริสน่ะ เขาเปิดผับใหม่ แล้วอยากให้คนไปกันเยอะๆ เพื่อจะได้เป็นการโปรโมท แล้วงานนี้ก็เข้าฟรี เครื่องดืมก็ฟรีด้วย พวกแกจะไปด้วยเปล่า

     

     

    เลย์พูดเสนอ ดีโอถึงกับหูผึ่งตาเหลือกขึ้นทันที ในเมื่อมันเป็นคำเสนอที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

     

     

    แน่นอน ส่วนแกไอ้แบคแกต้องไปกับพวกชั้น...” ดีโอผินหน้าไปสั่งอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าแบคฮยอนจะตอบปฏิเสธไปเหมือนหลายๆครั้งก่อน

     

     

    ไม่เอาหรอก พรุ่งนี้มีงานให้ทำแต่เช้า

     

     

    นี่แก ไปเที่ยวแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกมั้ง... อีกอย่างเพื่อนของคริสก็อุตส่าห์ชวนพวกเราโดยเฉพาะเลยนะ เพราะเขาอยากให้พวกเราไปร่วมเป็นสีสันของงานน่ะ” ดีโอชักชวน อยากให้เพื่อนไปร่วมด้วยให้ได้

     

     

    "เรื่องนี้ฉันเห็นดีกับไอ้โด้มันด้วยนะ ถ้าแกไม่ไปแล้วพวกชั้นจะสนุกได้ไง อีกอย่างเพื่อนของคริสเขาก็ออกปากชวนแล้ว ถ้าไม่ไปก็เสียน้ำใจกันพอดี"

     

     

    หลายๆคำชวนพูดถาโถมขึ้นพร้อมๆกัน ถ้าหากแบคฮยอนคิดจะปฏิเสธก็เป็นเรื่องที่ป่วยการอย่างแน่นอน เพราะถึงยังไง เพื่อนทั้งสองก็คงจะลากตนไปร่วมด้วยอยู่ดี.. ก็เลยทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับตอบตกลงอย่างว่าง่าย

     

     

    "เออๆ ก็ได้ พวกแกนี่ ชอบชวนฉันทำบาปอยู่เรื่อยเลยแบคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย มีเพื่อนชอบดื่ม ชอบเที่ยวก็อย่างนี้ตลอด

     

     

    แกไม่ต้องห่วงหรอก ถึงเราจะไปกินเหล้านะ แต่พอตอนกลับมา ก็ทำบุญให้สัตว์มาตลอดเลย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ

     

     

    "ทำยังไง" แบคฮยอนถามเสียงห้วน

     

     

    อ๊วกให้หมากิน ฮาๆๆๆเลย์ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นดังๆ ดีโอก็พลอยหัวเราะรับมุขไปด้วย

     

     

    นี่ ตลกตายห่าล่ะ อีเพื่อนบ้า

     

     

    ไอ้แบค แกไม่ต้องห่วงหรอก เมื่อเช้าเพิ่งทำบุญมา เห็นขอทานนั่งขอทานอยู่ใต้สะพานลอย ฉันควักตั้งหมื่นวอนแน่ะ

     

     

    โหย นี่แกลงทุนควักเงินออกจากระเป๋าลงใส่ขันให้ขอทานเลยหรอดีโอถามอย่างไม่อยากเชื่อปกติเลย์จะชอบพกเงินสดซะที่ไหนเห็นแต่รูดบัตรเครดิดตลอด

     

     

    เปล่า ควักจากขันมาใส่กระเป๋าฉันต่างหากล่ะ ฮาๆๆๆเลย์ระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง แบคฮยอนยิ่งหน้าบูดเข้าไปใหญ่

     

     

    โอ๊ย อีเพื่อนเวร!!แบคฮยอนตวาดใส่อย่างเหลือทน

     

     

    ฉันล้อเล่น ควักจากกระเป๋ามาใส่ขันให้ขอทานเนี่ยแหละ ฉันว่าเรารีบๆไปกันเหอะ คริสคงรอพวกเราแล้ว

     

     

    ไปด้วยชุดนี้เลยหรอแบคฮยอนถามเมื่อตนยังอยู่ในสุดแบบทำงาน ไม่เหมือนกับเพื่อนๆ ที่ดูเหมือนว่าจะจัดเต็มอยู่ตลอดเวลา

     

     

    ไม่เป็นไรหรอก ใส่ชุดนี้ก็ดูดีออก ไปๆว่าแล้ว เลย์ก็จูงมือเพื่อนออกจากร้านไป

     

     

    ราตรีนี้ยังมีอีกยาวไกล ถ้าไม่โดนของยาวใหญ่ ก็ไม่มีวันกลับ อิๆๆ

     

     


    .............................................

     


    คิดอะไรออก ก็เอาลงตามนั้น พอดีว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพฟิคเรื่องนี้น่ะ

    แล้วตอนนี้ก็อัพลงอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่ตรวจดูคำผิดเลย เห็นก็แค็ป

    แล้วส่งมาทางทวิตได้นะ แท็กว่า #ฟิควันพลัสวัน

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×